หน้าแรก
เว็บบอร์ด
หลักสูตรออนไลน์
สินค้าสมาคม
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน
เข้าสู่ระบบ
เมนูลัด
แสดงกระทู้ที่ยังไม่มีการตอบ
แสดงกระทู้ที่เปิดดูแล้ว
ค้นหา
รายชื่อสมาชิก
ทีมงาน
FAQ
ไอเดียหุ้นเด้ง
โพสต์ยอดนิยม
หุ้นที่ติดตาม
ผู้เขียนที่ติดตาม
doodeemak
Inactive investor
Joined: อังคาร ม.ค. 09, 2007 11:48 am
411
โพสต์
|
กำลังติดตาม
|
ผู้ติดตาม
ส่งข้อความ
ดูประวัติส่วนตัว - doodeemak
กระทู้ที่ตั้ง
โพสต์ที่ตอบ
โพสต์ที่ตอบ
คอมเมนต์
ไลค์
Re: กระทู้ถามตอบวิเคราะห์เชิงบัญชี ผสมผสานการเงิน การลงทุน
รบกวนสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับกรณีเงินกู้บริษัทในเครือที่มีสกุลเงินต่างประเทศครับ หากบริษัทที่เราลงทุนทำการกู้เงินจากบริษัทแม่ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ต่างประเทศตอนกลางปี เป็นสกุลเงินดอลล่า และยังไม่ถึงกำหนดชำระในปีนั้นๆ เมื่อตอนบริษัททำรายงานงบกำไรขาดทุนสิ้นงวด 1) บริษัทจะต้องทำการแปลงค่าอัตราแลกเปลี่ยนตอนสิ้นปีหรือไม่ครับ สำหรับกรณีกู้จากบริษัทในเครือ 2) ถ้าต้องปรับ หากมีกำไรหรือขาดทุนจะบันทึกไว้ตรงส่วนใดครับ 3) บริษัทจะมีภาระทางภาษีจากกำไรขาดทุนส่วนนี้รึเปล่าครับ ขอบคุณครับ
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. เม.ย. 05, 2012 2:58 pm
0
0
Re: ยิ่งเติบโต ยิ่งมั่นคง
ความเห็นส่วนตัว ถ้าผมเป็นผู้ถือหุ้น ผมก็ชอบแบบที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มีความมั่นคงและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ เป็นข้อแรกที่ผมต้องดูก่อนเลย ถ้าไม่สวยก็ยอมเสียโอกาสมองข้ามไปครับ ถึงแม้กำไรจะดูดีก็ตาม จากนั้นต้องระวังกระแสเงินสดจากการลงทุนด้วยนะครับ เพราะถ้าเผลอ ไม่ได้ระวัง อาจไปเจอกับบริษัทที่ลงทุนแบบที่ไม่เป็นประโยชน์กับผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเรา ถ้าลงทุนไม่สวย ก็ยอมมองข้ามไปเหมือนกันครับ ส่วนกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินดูประกอบเฉยๆว่าบริษัทเราเอาเงินส่วนเหลือไปคืนเงินกู้หรือจ่ายเงินปันผลเหมาะสมรึเปล่า จากนั้นผมค่อยดู business model เทียบกับราคา (market cap) กับกระแสเงินสดอิสระครับ ว่ามีความน่าสนใจรึเปล่า เป็นความชอบส่วนตัวครับ ซึ่งอาจจะไม่ให้ผลตอบแทนที่สูง แต่ผมคิดว่าค่อนข้างปลอดภัยครับ :D
โดย
doodeemak
พุธ พ.ย. 16, 2011 6:52 pm
0
1
Re: ครั้งแรกกับบริษัทไอที: บัฟเฟตต์กว้านหุ้น IBM มูลค่ามากกว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20111115/419656/บัฟเฟ็ตต์-ทุ่มหมื่นล้านดอลล์ซื้อหุ้นไอบีเอ็ม.html วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประกาศลงทุน 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ ในไอบีเอ็ม แจงเหตุประทับใจโรดแมปความสามารถการดึงลูกค้านอกตลาดสหรัฐเข้าเป็นลูกค้า สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ มหาเศรษฐฐีนักลงทุน เผยว่า ได้เพิ่มเงินลงทุนกว่า 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของไอบีเอ็มโดยจำนวนเงินดังกล่าวส่งผลให้นายบัฟเฟ็ตต์มีหุ้นส่วนในบริษัท 5.4% โดยการซื้อขายเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมโดยบริษัทโฮลดิ้งของนายบัฟเฟตต์ เบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ เขากล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อหุ้นเพิ่มเกิดจากความประทับใจในโรดแมปของไอบีเอ็มที่มีความสามารถในการดึงบริษัทไอทีนอกตลาดสหรัฐเข้ามาเป็นลูกค้าได้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศใดในโลก หรืออยู่ในประเทศที่กำลังมีแผนการพัฒนาองค์กรด้านไอที เมื่อเป็นลูกค้าของไอบีเอ็มคุณจะรู้สึกไว้วางใจได้มากกว่ากับบริษัทอื่นๆ” พร้อมกับเผยว่า เริ่มตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มตั้งแต่ได้อ่านรายงานประจำปี 2553 ของไอบีเอ็ม และหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของบริษัทเกี่ยวกับที่เคยลงทุนไปแล้ว โดยเชื่อว่ายังมีความต่อเนื่องทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทได้อีกมาก “มันเปรียบเสมือนการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนผู้ตรวจสอบ กฏเกณฑ์บางอย่าง หรือแม้แต่การสนับสนุนทางด้านไอที” อย่างไรก็ดี กระทั่งปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าธนาคารแห่งสหรัฐสเตรท สตรีทคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ด้วยตัวเลขที่ประกาศให้ทราบทั่วกันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่ามีสัดส่วนอยู่ 5.5% ขณะที่การลงทุนกับบริษัทอื่นๆ เขายืนยันว่าไม่เคยคิดเข้าไปซื้อหุ้นของไมโครซอฟท์เหตุเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่กับผู้ก่อตั้งและประธานของบริษัทนายบิลล์ เกตส์ สำนักข่าวต่างประเทศกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักลงทุนรายอื่นๆ แต่ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้หุ้นของไอบีเอ็มทยานสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่มีการแถลงข่าวออกมา นายคอลลินส์ สตีวาร์ต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุยซ์ มิสซิโอเซีย ผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านการเงินมองว่า นายบัฟเฟตต์ มักมองหาธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงในตัวเลข 2 หลัก และมีเสถียรภาพไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในสภาวะที่ดีหรือว่าตกต่ำ อย่างไรก็ตามไอบีเอ็มปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในขณะนี้
โดย
doodeemak
พุธ พ.ย. 16, 2011 6:29 pm
0
0
Re: มหาอุทกภัย VS มุมมองการลงทุนเน้นคุณค่า
อาศัยว่ากระทู้นี้มีพอมีเรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอยู่บ้าง เลยอาศัยเนียนอยู่ในห้องนี้อัพเดท "ข้อเท็จจริง" ของน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในบ้านเรานะครับ...อิอิ http://www.gisthai.org/map-galery/Flood54/change%20of%20flooding%20area%20between%206%20and%2027%20oct%202554.jpg จากเว็บด้านบนแสดงถึงน้ำของวันที่ 6 ตุลาคม (สีชมพู) เทียบกับ 26 ตุลาคม (สีฟ้า) นะครับ จะเห็นว่าน้ำก้อนใหญ่นั้น ได้มาถึง กทม ฝั่งตะวันออกอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว และ กทม ก็ยังสามารถรับน้ำได้อยู่ (จะเห็นว่าสีฟ้าจะถูกหยุดอยู่บริเวณคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ) แต่ก็มีส่วนน้อยที่แอบล็อดเล็ดออกมาบริเวณที่เป็นข่าว กันอยู่ในถนนวิภาวดีและพหลโยธินในขณะนี้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมวลน้ำสีฟ้าทางด้านตะวันตกที่ ณ ขณะนี้ได้มาจัดเต็มรออยู่ที่คลองมหาสวัสดิ์และได้ล้นจนสร้าง ปัญหาในแนวเขตทวีวัฒนาอยู่ในขณะนี้ โดยจากที่ฟังอาจารย์สมบัติ ท่านคิดว่าเขตที่ควรระวังต่อไปคือเขตที่มีพื้นที่ต่ำและอยู่ใกล้บริเวณเขตทวีวัฒนา โดยเฉพาะบ้านเรือนที่ปลูกสร้างอยู่บริเวณใกล้ริมคลองฝั่งธนต่างๆ ที่น่าจะมีน้ำเอ่อล้นออกมา กลับมาที่มุมมองเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่ากันดีกว่านะครับ "ข้อเท็จจริง" ของการไหลของน้ำที่ "เปรียบเทียบ" ระหว่างวันที่ 6 ตุลาคมกับวันที่ 26 ตุลาคม ก็เปรียบได้กับการเปรียบเทียบสถานะของกิจการ หรือการวิเคราะห์ "งบการเงิน" ของกิจการที่เราลงทุนอยู่นั่นเอง ดังนั้น ความสามารถในการอ่าน "งบการเงิน" ให้เป็นนั้น เราจะต้องวิเคราะห์แบบเปรียบเทียบ โดยมีความสามารถในการทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปของ "ข้อเท็จจริง" ที่ปรากฎในงบการเงินให้ได้ว่า "ข้อเท็จจริง" ด้านรายได้ นั้นสูงขึ้นหรือต่ำลงจากอะไร "ข้อเท็จจริง" ต้นทุนขาย สูงขึ้นหรือต่ำลงเพราะอะไร เมื่อเราสามารถรู้ได้ถึง "ปัจจัย" ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขทางการเงินได้แล้ว ก็จะทำให้เรามีความสามารถ ในการที่จะพยากรณ์อนาคตของกิจการเพื่อที่จะประเมินมูลค่าของกิจการที่เราลงทุนได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น หวังว่าบทความเชิงเปรียบเทียบนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อมือใหม่ในการลงทุนแบบ VI ไม่มากก็น้อยนะครับ :D
โดย
doodeemak
อาทิตย์ ต.ค. 30, 2011 8:38 pm
0
0
Re: มารวบรวมของที่ระลึกการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 กันเถ
BAFS แจกกระติกน้ำพลาสติกหุ้มสแตนเลสกับของว่างครัวซอง
โดย
doodeemak
ศุกร์ เม.ย. 22, 2011 4:15 pm
0
0
Re: พี่ๆมีเทคนิคกันอย่างไรให้ port โต ครับ
ขออนุญาตแชร์ความเห็นนะครับ 1) ตั้งเป้าหมายในชีวิต 2) Link ไปที่เป้าหมายต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเป้าทางการเงิน ทำให้เป็นตัวเลขชัดๆ ในแต่ละปีว่าเป้าคือเท่าไหร่ 3) เพิ่มรายได้ที่เป็นเงินเดือนประจำ โดยการวางแผน carreer path และตั้งเป้าหมายในแต่ละปีว่าต้องการเรียนรู้และหาประสบการณ์อะไรบ้าง 4) เพิ่มรายได้จากการลงทุน โดยการเรียนรู้วิธีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อหาสไตล์ของตัวเอง เราจะรู้ว่าเราหาสไตล์ของเราพบเมื่อรู้ว่าจิตของเรามีความนิ่งและเป็นกลาง เวลาลงทุนแล้วไม่รู้สึกหวั่นไหว 5) ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย 6) มีวินัยในการออมเงินอย่างสม่ำเสมอครับ อาจใช้วิธีการตัดเงินออมอย่างสม่ำเสมอก่อนนำมาใช้จ่าย
โดย
doodeemak
อังคาร เม.ย. 05, 2011 8:52 pm
0
0
Re: ลอกการบ้าน ????
ผมขอเสริมนิดนึงนะครับ เห็นกระทู้นี้สนุกดี ข้อควรระวัง 1) ลอกการบ้านอย่าลืมอ่านโจทย์ 2) ถึงโจทย์จะถูก แต่ถ้าลอกผิดคน คำตอบก็ผิดอยู่ดี 3) บางที คนที่ให้เค้าให้เราลอก เค้าอาจจะเอามือปิดคำตอบ บางประโยคอยู่ 4) หลังจากลอกเสร็จแล้ว บางทีคนที่ให้เราลอกอาจคิดได้ว่าทำผิด แล้วกลับไปแก้ แต่ลืมบอกเรา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว 1) เราจึงไม่ควรลอกทั้งประโยคแบบทันทีทันใด 2) แต่ควรอ่านเฉลยในภาพรวมแล้ววิเคราะห์ด้วยตัวเองก่อนว่าทำไมเค้าถึงตอบแบบนั้น 3) เนื่องจากการตัดเกรดเค้าตัดจากการเปรียบเทียบกับผลสอบของนักเรียนทุกคน ดังนั้น ถ้านักเรียนส่วนใหญ่รู้คำตอบนี้แล้ว คำตอบนี้ก็แทบไม่มีประโยชน์อะไร จึงไม่ควรนำมาเป็นสาระ
โดย
doodeemak
อังคาร มี.ค. 22, 2011 11:47 pm
0
0
Re: พฤติกรรมผู้บริหาร / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ชอบกลุ่มสุดท้ายจังครับ กับดักของคนชอบของถูกๆ แต่แปลกที่ว่า ส่วนใหญ่ขึ้นต้นด้วยตัว T ทั้งนั้นเลยแฮะ
โดย
doodeemak
จันทร์ ธ.ค. 20, 2010 7:34 pm
0
0
IAS 19 employee benefit
คิดว่ามีเกือบทุกตัวแล้วนะครับในตลาด เพราะเค้าเตรียมพร้อมกันแต่เนิ่นๆ จึงคิดว่าผลกระทบคงไม่มากเพราะรับรู้เป็นปกติอยู่แล้ว หากในระหว่างปีหากไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดมาก เช่นการปิดกิจการตามที่บทความกล่าว ลองดูในงบดุลฝั่งหนี้สินดูนะครับชื่อว่า "ประมาณการผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงาน"
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2010 6:03 pm
0
0
อดีตหุ้นฮิตๆ ของเวบTVI มีอะไรกันบ้างหว่า
ลองกลับไปอ่านร้อยคนร้อยหุ้นทุกๆหน้าดูสิครับ บางตัวอย่าง drama เลย ผมว่าเป็นที่ที่เราไปสามารถสังเกตพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นได้ดีเหมือนกันนะครับ แนวๆจิตวิทยาการลงทุน ที่ผมไล่อ่านเจอก็มี TR, NTV, BROCK ได้เห็นรอยยิ้ม, เสียงหัวเราะ, ความเศร้าแลน้ำตา คละเคล้ากันดี
โดย
doodeemak
อังคาร ส.ค. 10, 2010 2:05 pm
0
0
ทดลองหากระแสเงินสด (ย้อนหลังนะครับ ไม่ได้ทำไปข้างหน้า)
1.การคิด Free cash flow ของผมถูกต้องไหม ผมคิดว่าถูกนะครับ แต่ change in WC ต้องไม่รวมเงินสดอย่างที่พี่ Aircraft บอก ชอบเว็บนี้ครับ เห็นย้อนหลัง 4 ปี http://investing.businessweek.com/businessweek/research/stocks/financials/financials.asp?ticker=bafs:TB&dataset=cashFlow&period=A¤cy=native มีพี่น้องใน Thai VI แบ่งปันมา เวลาจะเปลี่ยนดูหุ้นอื่น ก็เปลี่ยนสัญลักษณ์เอา ไม่ทราบว่าทำไมพี่ Amadeus ถึงอยากทำ FCF เองเหรอครับ เพราะทาง บริษํทเค้าก็จัดทำมาให้อยู่แล้วทุกไตรมาส แต่ถ้าเพื่อประมาณการในอนาคต ผมว่าใช้การดู trend และประมาณเอาก็พอ รึเปล่าครับ ผมทำอย่างที่พี่ Aircraft บอกเลยครับ คือดู Operating cash flow ย้อนหลัง ปรับด้วย CAPEX แต่ผมจะดูค่อนข้างละเอียดครับ ในส่วนของ CAPEX ว่าเป็นการเพิ่ม กำลังการผลิต หรือแค่ปรับปรุงใหญ่ทั่วไป ถ้าเป็นเพิ่มกำลังการผลิต ก็ไม่ควรเอารวมครับ เพราะเป็นแค่ครั้งคราว โดยถือว่าจะได้ Cash เพิ่มในอนาคต ถ้า NPV เป็นบวก (เชื่อใจ ผบห) ในส่วน CAPEX ค่อนข้างต้องลงไปดูรายละเอียดครับว่าทำไมปี 06-07 ถึงมีค่อนข้างสูงและปี 2009 ทำไมค่อนข้างต่ำ อันนี้คงต้องใช้วิจารณญาณ ว่าการลงุทนที่เหมาะสมของธุรกิจ BAFS ควรเป็นเท่าไหร่ สูงหรือต่ำกว่า ค่าเสื่อมราคา ผมว่าในบางธูรกิจ ค่าเสื่อมราคาเค้าก็ตัดกันเวอร์ไปน่ะครับ CAPEX เลยอาจจะแค่ 50% ของค่าเสื่อมก็น่าจะพอ ส่วน Operating cash flow ก็คงดูการเปลี่ยนแปลง working capital และ Net profit ครับว่าการเติบโตนั้น ทำให้ Working capital มีปัญหารึเปล่า 2.การใช้ FCF กับหุ้นลักษณะนี้เหมาะสมไหม ส่วนตัวผมคิดว่า FCF สามารถใช้ได้ทุกธุรกิจนะครับ แต่ธุรกิจที่เป็น Cyclicle จะทำยากกว่า แต่ก็ทำได้ครับ โดยการประมาณ FCF ให้ cover cycle ของธุรกิจเพื่อดูว่าคุ้มที่จะลงทุนมั๊ย ต้องอาศัย assumption มาก และไม่แน่นอนสูงครับ แต่ BAFS ดูจะใช้ได้ดีทีเดียว เพราะ CFO ค่อนข้างนิ่ง ถ้าดูแค่ cash flow ตาม link ข้างบน ผมคงประมาณเบื้องต้นเล่นๆว่า CFO = 950 M CAPEX = -200 M (ดูจากปี 2008 น่าจะเป็นปีปกติ) FCF = 750 M หนื้สินหักจากเงินสดน่าจะมีซัก 2,500 ล้าน Market cap ประมาณ 4,400 ล้าน รวมมูลค่าทั้งบริษัท 6,500 ล้าน เอา FCF มาจ่ายได้เวลาคืนทุนประมาณ 8 ปีครึ่ง คิดเป็นผลตอบแทน ประมาณ 11.5% ครับ แต่ถ้ากิจการสามารถสร้าง FCF ได้มากกว่า 750 ล้าน ต่อปี % ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้นครับ ปล. ถูกผิดหรือคิดเห็นยังไงรบกวนชี้แนะด้วยครับ
โดย
doodeemak
อังคาร ส.ค. 10, 2010 9:11 am
0
0
(รบกวนช่วยสอนทำ) งบกระแสเงินสด
สรุปคือตัวค่าเสื่อมนี้คงทำเองไม่ได้นะครับถ้าเกิดทีการขายสินทรัพย์ ออกไประหว่างงวด
โดย
doodeemak
อาทิตย์ ส.ค. 08, 2010 2:42 pm
0
0
(รบกวนช่วยสอนทำ) งบกระแสเงินสด
คิดว่าส่วนต่างน่าจะเป็นค่าเสื่อมของอาคารหรืออุปกรณ์ที่ถูกตัดเป็นค่าใช้จ่าย ในงบกำไรขาดทุนแต่ถูกขายออกไปนะครับ ค่าเสื่อมในงบกระแสเงินสดเป็นตัวที่ถูกต้องครับ (ผมว่านะ) ส่วนค่าเสื่อมในรายงานการเปลี่ยนแปลงที่ดินอาคารและอุปกรณ์ บรรทัดค่าเสื่อราคาสำหรับงวด เค้าไม่ได้เอาค่าเสื่อมของอาคารอุปกรณ์ ที่ขายมารวมน่ะครับ เพราะเค้าใช้มูลค่าสุทธิ ซึ่งมีค่าเสื่อมในปี 2010 ปนอยู่ มูลค่า สุทธิ ตามบัญชี ณ วันที่จำหน่าย (159,945) จริงๆต้องมีค่าเสื่อมในปีปนอยู่ (10,934)
โดย
doodeemak
อาทิตย์ ส.ค. 08, 2010 2:41 pm
0
0
จดหมายของบัฟเฟต ปีล่าสุด แปลไทย
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ
โดย
doodeemak
เสาร์ ส.ค. 07, 2010 10:45 pm
0
0
แจก work sheet excel สำหรับ คำนวณเครดิตภาษีปันผล
รบกวนด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ
โดย
doodeemak
ศุกร์ ส.ค. 06, 2010 9:14 am
0
0
รถไฟเหาะ
ถ้ามองว่า 1000 จุดปีนี้ เทียบกับ 10 ปีก่อน 1000 จุดก็ไม่ถือว่าสูงเกินไปรึเปล่าครับ น่าจะประมาณ 600 จุดของ 10 ปีก่อน (คิดลดที่อัตราประมาณ 5%) :? :? :? :? :? เข้าใจถูกอ๊ะเปล่าเนี่ย
โดย
doodeemak
ศุกร์ ส.ค. 06, 2010 8:42 am
0
0
มีเวบไหน ที่สามารถดูราคาหุ้นทั้งตลาดได้บ้่างครับ
ขอบคุณมากครับ
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. ส.ค. 05, 2010 1:17 pm
0
0
ทำบุญอย่างไรดีครับ
คิดว่าควรนำเงินไปใช้เกี่ยวกับการลงทุนตามอุดมการณ์ของเว็บครับ นั่นคือ จ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิกที่สมัครก่อนปี 2008 :ep: :ep: ล้อเล่นครับ เห็นด้วยกับไอเดียพี่เด็กใหม่ครับ ตามหลักการบริหารแล้ว ต้องใช้เงินให้ match กับวิสัยทัศน์ของเว็บคือการส่งเสริมความรู้ การลงทุนเน้นคุณค่า :cheers: :cheers:
โดย
doodeemak
อังคาร ส.ค. 03, 2010 6:06 pm
0
0
บัญญัติ 10 ประการของวอร์เรน บัฟเฟตต์
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ Link ของ ดร. ไสว บุญมา นี่ก็น่าอ่านน่าติดตามจริงๆครับ
โดย
doodeemak
อาทิตย์ ส.ค. 01, 2010 11:13 am
0
0
สรุปสัมมนาเรื่อง วางแผนการเงินและเส้นทางรวยคับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ :D
โดย
doodeemak
อังคาร ก.ค. 20, 2010 7:36 pm
0
0
กระทู้ข่าวด่วน!!! Updateสถานการณ์ปัจจุบันของตลาด และSETindex
:lol: :lol: :lol:
โดย
doodeemak
อังคาร มิ.ย. 29, 2010 7:02 pm
0
0
อาจารย์ของผม : ชาร์ลี มังเจอร์ (ฉบับภาษาไทย)
ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ :D
โดย
doodeemak
ศุกร์ มิ.ย. 25, 2010 1:50 pm
0
0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
ถ้าพี่ฉัตรพอมีเวลา รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ ว่ามุมมองที่ผมมองหุ้นที่มีการลงทุนในบริษัทในเครือมากๆ นี่ถูกต้องรึเปล่า http://doodeemak.blogspot.com/2010/06/tr.html ขอบคุณมากครับ :D
โดย
doodeemak
ศุกร์ มิ.ย. 18, 2010 8:27 am
0
0
ทำไม stock ที่มี earning growth 10% ถึงควรมี pe 10 เท่าครับ
แล้วถ้า growth 0% นี่ PE ต้องเป็น 0 ด้วยรึเปล่าอ่ะครับ :?
โดย
doodeemak
ศุกร์ มิ.ย. 18, 2010 8:22 am
0
0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
รบกวนพี่ฉัตรตรวจการบ้านให้ผมด้วยคนนะครับ :D
โดย
doodeemak
พุธ มิ.ย. 16, 2010 10:12 am
0
0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
ผมคิดว่าสำคัญนะครับในเรื่องสมมติฐาน เพราะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ว่าราคาที่บริษัทประเมินทำมานั้นมีความเหมาะสมหรือเปล่า อันนี้เป็น link ของ BATA ครับ http://www.set.or.th/dat/news/201004/10012418.pdf เค้าจะมีเอกสารแนบด้านแสดงยอดขายตามช่องทางในเอกสารแนบหน้า 1 (หน้า 48) ละเอียดทีเดียวครับ :D
โดย
doodeemak
อังคาร มิ.ย. 15, 2010 1:52 pm
0
0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
ขอร่วมแจมครับ เห็นด้วยกับคุณ iceberg ครับว่า terminal value นั้นสูงจริงๆ และเป็นเหตุผลที่ทำให้การประเมินมูลค่าสูงถึง 39 บาทต่อหุ้น ซึ่งน่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1) กำไรที่สูงมากในปี 2557 และ 2) เงินลงทุนในปี 2557 ที่ค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเสื่อมราคา ปัจจัยแรกมาจากที่พี่ฉัตร comment ว่าสมมติฐานการเติบโตไม่ค่อย มีเหตุผลมารองรับแบบชัดเจน ทำให้กำไรดูดีเกินจริง ปัจจัยที่สองซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายคือ การใช้งบเงินลงทุน ในปี 2557 มาคิด terminal value เพราะปี 2557 ตามสมมติฐานจะใช้เงินลงทุนค่อนข้างน้อย เพราะเครื่องจักร ยังใหม่อยู่จากเงินลงทุนจำนวนมากในปีก่อนหน้า แต่ถ้าลองปรับปรุงงบลงทุนให้พอๆกับค่าเสื่อมราคา โดยสมมติว่า ลงทุนรักษาสภาพเครื่องจักรเท่ากับค่าเสื่อมราคา มูลค่าที่ได้ก็จะหายไปราวกับเวทย์มนต์ การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงจากเงินลงทุนในปี 2557 (สมมติว่าตัวแปรที่เหลือทุกอย่างคงที่ตาม model) - ตามสมมติฐาน 604 ลบ. --> 39.0 บาทต่อหุ้น - ปรับปรุงงบลงทุนเป็น 704 ลบ. --> 36.6 บาทต่อหุ้น - ปรับปรุงงบลงทุนเป็น 804 ลบ. --> 34.2 บาทต่อหุ้น - ปรับปรุงงบลงทุนเป็น 942 ลบ. --> 30.9 บาทต่อหุ้น (เท่ากับค่าเสื่อมปี 2557) ปล. ค่าเสื่อม 942 ลบ. มาจากเอา FCFF - กำไรสุทธิ - ความต้องการเงินหมุนเวียน ของปี 2557 ดังนั้นถึงแม้ว่ามองโลกในแง่ดีมากอย่างที่บริษัทประเมินบอกไว้ในส่วนการเติบโต อย่างน้อยงบลงทุนก็น่าจะต้องสอดคล้องกับยอดขายที่สูงมากในปี 2557 พอลองคิด case นี้ดูแล้ว ทำให้นึกถึงวิชาประเมินมูลค่าหุ้นตอนเรียน MBA นิด้าเลยครับ จำได้ว่าตอนนั้นนั่งเล่นตัวเลขสมมติฐานตั้งนาน กว่าจะได้ออกมาเท่ากับ ราคาในใจที่อยาก present ให้อาจารย์ดู :lol: :lol: :lol:
โดย
doodeemak
จันทร์ มิ.ย. 14, 2010 6:25 pm
0
0
ดูข่าวแล้วคิดถึงหุ้น
เวียดนามนี่เงินเดือนเพิ่มเร็วมากครับ ปีละเกิน 10% เท่าที่รู้มานะครับ ไม่ทราบว่าถูกรึเปล่า
โดย
doodeemak
ศุกร์ มิ.ย. 11, 2010 5:52 pm
0
0
คำแนะนำสำหรับมือใหม่เอี่ยม จากประสบการณ์มือใหม่
ผมคิดว่าเป็นวิธีการเรียนแนวใหม่น่ะครับ คิดว่าทุกท่านที่เป็น VI มานานคงจะผ่านประสบการณ์แนวนี้มามาก เลยอยากแนะนำมือใหม่เอี่ยมให้ลองทำดู แต่แทนที่จะลองแต่หุ้นกลุ่ม 1 ร้อยเปอร์เซนต์ และใช้เงินออม ทั้ง 100% มาลงทุนหุ้น ก็ให้แบ่งเงินออมออกมาแค่ 20% น่ะครับ แล้วก็กระจายลงในหุ้นที่ VI ทั้งหลายเคยผ่านมาก่อนพร้อมๆกัน เพื่อประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูก ผมคิดว่ามือใหม่เอี่ยม หากจัดพอร์ตแบบนี้ ก็จะเจ็บตัวไม่มาก และได้เรียนรู้ค่อนข้างเร็ว แต่ที่สำคัญต้องคอยสังเกต การเคลื่อนไหวของจิตใจเรา กับหุ้นแบบต่างๆน่ะครับ :D
โดย
doodeemak
ศุกร์ มิ.ย. 11, 2010 9:23 am
0
0
หุ้นกลุ่มพยาบาลน่าสนใจไหมครับ
ซื้อหุ้นนางพยาบาล เดี๋ยวจะมีแถมวอเรนต์ด้วยอ่ะเปล่า ขอเป็นหุ้นนางสาวพยาบาลได้มั๊ยครับ :oops:
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. มิ.ย. 10, 2010 3:12 pm
0
0
สรุปงานจิบเบียร์ ที่ดิเอ็ม 4/6/10มาแร้วครับ
:bow: :bow: :bow: ขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อครับ
โดย
doodeemak
เสาร์ มิ.ย. 05, 2010 8:48 am
0
0
อาทิตย์ที่แล้ว เก็บอะไร กันบ้างครับ
อาทิตย์ที่แล้ว เก็บผัก มาเยอะเลยครับ ใน facebook อ่ะ เพิ่งเริ่มเล่นเอง :oops: เลเวล 8 เท่านั้น...อิอิ
โดย
doodeemak
อังคาร มิ.ย. 01, 2010 7:46 pm
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
Stanly เท่าที่ดูก็มีแบ่งไว้นะครับ โดยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลง working capital อยู่ที่ 2,016,787,687 บรรทัดที่ 31 น่ะครับ ส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินหลัง working capital อยู่ที่ 1,838,490,428 ครับ บรรทัดที่ 44 โดยสาเหตุที่ทำให้เงินสดจากการดำเนินงานหลัง working capital ลดลง ก็เพราะลูกหนี้การค้าที่สูงขึ้นมามากจากปีที่แล้ว ซึ่งรายละเอียดคงต้องไปตามต่อครับ ว่าเกิดจากอะไร โดยอาจจะดูย้อนหลัง หลายๆไตรมาสเพื่อดูว่าจริงๆแล้วผิดปกติหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วควรจะขึ้นๆลงๆครับ เพราะไม่มีทางที่บริษัทจะบริหารเงินทุนหมุนเวียนได้เท่ากันทุกๆ ไตรมาส แต่ถ้าดูแล้วกระแสเงินสดหลัง working capital ลดลงตลอดโดยเกิด จากลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเดียว ก็ต้องดูอีกทีครับว่า เพราะยอดขายเติบโตรึเปล่า แต่หากไม่ใช่ ก็อาจจะมีนัยว่าอำนาจต่อรองกับลูกค้าแย่ลงทำให้ต้องให้ credit term เพิ่ม หรือลูกค้าของบริษัทอาจจะมีปัญหาทางการเงินทำให้ไม่ สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้
โดย
doodeemak
อาทิตย์ พ.ค. 30, 2010 4:25 pm
0
0
ถามพี่ฉัตรชัยครับว่าอะไรสำคัญสุดในการดูงบการเงิน
ขออนุญาตพี่ฉัตรตอบกระทู้กับน้อง PLE นะครับกับคำถามที่ว่า "อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูงบการเงิน" ผมคิดว่าในกรณีน้อง PLE คือ "รายงานของผู้ตรวจสอบบัญชี" น่าจะเป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนควรอ่านครับ หลังจากอ่านดูรายงานผู้ตรวจสอบทั้ง 6 ข้อแบบผ่านๆของ PLE แล้ว บอกได้คำเดียวว่า....สุดยอดดด
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 6:13 pm
0
0
ในที่สุดน้อง PLE ก็หอบเงินกลับมาจากดูไบ ได้แล้ว
เป็นงบที่รายงานของ auditor ยาวดีจังครับ :lol: มีตั้ง 6 ข้อแน่ะ ตัวน่ารักๆก็มี ข้อ 3 กับข้อ 6 ครับ 3. ตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 3.5 บริษัทฯ ได้จัดทำงบการเงินรวม สำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ของบริษัทฯ โดยมิได้รวมงบการเงินของบริษัท เทคเนอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เนื่องจากกรรมการของบริษัทย่อยไม่ส่งมอบงบการเงินของบริษัทย่อยให้กับบริษัทฯ และไม่อนุญาตให้บริษัทฯ ส่งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เข้าไปรวบรวมข้อมูลทางบัญชีและการเงินจากสมุดบัญชี บัญชีทำการ เอกสารประกอบรายการบัญชี รวมถึงเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำงบการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าว งบการเงินรวมจึงไม่เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ทั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่สามารถระบุผลกระทบจากงบการเงินของบริษัทย่อยต่องบการเงินรวม สำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ได้ 6. นอกจากนี้ งบกำไรขาดทุนรวมและงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการ งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้นรวมและงบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะกิจการ และงบกระแสเงินสดรวมและ งบกระแสเงินสดเฉพาะกิจการ สำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ของบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และเฉพาะกิจการของบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ที่แสดงเปรียบเทียบได้ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีอื่นในสำนักงานเดียวกันตามรายงานลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ซึ่งรายงานไว้ว่าไม่พบสิ่งที่เป็นเหตุให้เชื่อว่างบการเงินดังกล่าวไม่ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป และให้สังเกตเกี่ยวกับ 1) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและสถาบันการเงินดังกล่าวได้คิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดชำระหนี้ ร้อยละ 15.0 ต่อปี ซึ่งสถาบันการเงินดังกล่าวมีสิทธิทวงถามเงินกู้ยืมดังกล่าวคืนได้ทั้งจำนวน 2) บริษัทย่อยแห่งหนึ่งซึ่งถูกฟ้องร้องให้จดทะเบียนสัญญาเช่าช่วงสิทธิและส่งมอบพื้นที่เช่าแก่โจทก์ และบริษัทย่อยดังกล่าวยื่นอุทธรณ์คดีแล้ว ปัจจุบันบริษัทย่อยได้ทำสัญญาเช่ากับโจทก์แล้ว และอยู่ระหว่างการจดทะเบียนการเช่าต่อกรมที่ดิน โดยโจทก์ได้ขอถอนอุทธรณ์แล้ว และ 3) บริษัทย่อยแห่งหนึ่ง มีการเพิ่มทุนตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2552 จำนวน 200,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100.0 บาท เป็นจำนวนเงิน 20.0 ล้านบาท และให้เรียกเก็บเงินค่าหุ้นที่ออกใหม่นี้เต็มมูลค่าหุ้นทั้งจำนวนในคราวเดียว ตามหนังสือเรียกชำระค่าหุ้น ลงวันที่ 5 เมษายน 2552 โดยบริษัทฯ เป็น ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งจำนวน บริษัทย่อยได้มีการจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2552 ในขณะนั้น บริษัทฯ ยังไม่มีการจ่ายชำระค่าหุ้นดังกล่าวทั้งจำนวน อ่านแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในตู้เย็นยังไงไม่รู้ :? :? :?
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. พ.ค. 27, 2010 6:08 pm
0
0
อยากได้คริปเสียงหรือvdo งานสัมมนาครับ
ขอบคุณมากครับ :D ขออนุญาตนำไปย่อเนื้อหาใน blog นะครับ
โดย
doodeemak
จันทร์ พ.ค. 24, 2010 3:12 pm
0
0
+++ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้วครับ +++ แถลงการณ์ฉบับที่ 1
เรียบร้อยครับ
โดย
doodeemak
อาทิตย์ พ.ค. 23, 2010 9:40 am
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ต้องรวมด้วยครับ เพราะเป็นเงินกู้ที่มีภาระต้องเสียดอกเบี้ย แต่ถ้าเป็นหนี้สินที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติของกิจการ เช่น เจ้าหนี้การค้า หรือ ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย หรือภาษีค้างจ่าย พวกนี้จะไม่ต้องนำมารวมครับ :D
โดย
doodeemak
เสาร์ พ.ค. 22, 2010 4:59 pm
0
0
แล้ว CPN จะลงไปขนาดไหน
น่าเสียดายนะครับ ที่ตลาดปิดทำการ ไม่งั้นเราอาจได้เก็บหุ้นดีๆราคาน่ารักน่าชัง :lol:
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 10:03 pm
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
Maket capitalization คือมูลค่าคลาดของหุ้นตัวนั้นตัวเดียวครับ เช่น หุ้นเทรดที่ราคาขณะนั้น 10 บาทต่อหุ้น และบริษัททั้งบริษัทมี 1,000,000 หุ้น จะได้ market cap = 10 ล้านบาทครับ ถ้าหากบริษัทนั้นมีกระแสเงินสดอิสระเท่ากับ 5 ล้านบาทต่อปี และมีหนี้สิน จากธนาคารอยู่ 5 ล้านบาท ก็สามารถคิดง่ายๆได้ว่า เราซื้อธุรกิจที่ราคา 10 ล้าน แต่จะได้เงินสดกลับมา ปีละ 5 ล้าน และมีหนี้ติดมา 5 ล้าน ปีแรกเราเอาไปจ่ายธนาคารก่อน 5 ล้าน ปีที่สองได้เงินกลับมา 5 ล้าน ปีที่สามได้เงินมาอีก 5 ล้าน รวมแล้ว 3 ปี ก็คืนทุนครับ เวลาเทียบเป็น ratio ง่ายก็เอา market cap + หนี้สินธนาคาร หารด้วยกระแสเงินสดอิสระ ได้เป็น (10 + 5)/5 = 3 เท่า หรือก็คือ 3 ปีคืนทุนครับ คิดเป็นผลตอบแทนก็กลับส่วนกัน สูตรก็คือผลตอบแทนหารเงินลงทุน (รวมหนี้สินด้วย เพราะเป็นเจ้าของเหมือนกัน) = 5/ (10+5) = 33% ครับ เวลากรอง ผมก็กรองตัวที่มี return สูงๆ เอามาดูก่อนครับ แล้วค่อยปรับ กระแสเงินสดเอา หลังจากอ่านข้อมูลเชิงคุณภาพอื่นๆประกอบ มีกระทู้ของพี่ฉัตรที่เข้าใจง่ายเหมือนกันครับ ในห้องคลังกระทู้คุณค่า http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=526
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 4:25 pm
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ต่อครับ... เงินสดจากการดำเนินจะแบ่งเป็น 2 ช่วงย่อยคือช่วงก่อนเปลี่ยนแปลง ในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานและช่วงหลัง ช่วงก่อนเปลี่ยนแปลง จะมีรายการสำคัญๆคือการปรับปรุงกำไรทางบัญชี ให้เป็นกำไรที่เป็นเงินสด โดยมีรายการหลักคือ - ค่าเสื่อมราคา - ค่าตั้งเผื่อด้อยค่า (เป็นการประมาณการทางบัญชี) - ดอกเบี้ยจ่ายหรือรับ ช่วงหลังการเปลี่ยนแปลง จะเป็นการแสดงถึงการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน หมุนเวียนจากการดำเนินงาน ว่าบริษัทใช้เงินสดเพื่อซื้อของมาตุนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือมีการให้ credit term ลูกหนี้ยาวขึ้นหรือไม่ ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์เพิ่ม เติมได้จากรายละเอียดประกอบงบที่แสดงคุณภาพของลูกหนี้และการแบ่ง ประเภทของสินค้าคงเหลือ หากกระแสเงินสดก่อนการเปลี่ยนแปลง มากกว่า หลังการเปลี่ยนแปลงมากๆ แสดงว่าบริษัทมีการบริหารเงินทุนหมุนเวียนที่แย่ลง (แต่หากยอดขายสูงขึ้น ต้องมีการวัดด้วย ratio เพื่อเทียบออกมาเป็นหน่วย "วัน" เพื่อสามารถเทียบได้) ในส่วนของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน โดยส่วนมากผมไม่ค่อยปรับปรุง เท่าไหร่ แค่ใช้การดูหลายๆปีย้อนหลัง ว่ามีการแกว่งขึ้นลงมากหรือไม่และ ที่สำคัญ เรารู้หรือไม่ว่าการแกว่งนั้นเกิดจากสาเหตุใด จะมีปรับปรุงบ้างก็ต่อเมื่อเราพบว่าอนาคตของกิจการมีโอกาสเติบโตหรือถดถอย โดยการประมาณการเพิ่มหรือลดลงเป็นสัดส่วนเทียบกันระหว่างกระแสเงินสด จากการดำเนินงานกับยอดขาย "เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน" ตัวนี้เป็นเงินสดที่กิจการใช้ในการลงทุนในส่วนของทรัพย์สินระยะยาว เพื่อให้เกิดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาให้กับกิจการ ดังนั้น การใช้จ่ายในส่วนนี้ ส่วนมากจะเป็นการลงทุนซื้อที่ดินหรือเครื่องจักร ค่าใช้จ่ายตัวนี้ เราสามารถนำไปเทียบกับค่าเสื่อมราคาได้ครับ โดยปกติแล้ว ค่าใช้จ่ายการลงทุนผมมักจะเทียบกับค่าเสื่อมราคาและดูย้อนหลังไปหลายๆปี หากว่าบริษัทมีการลงทุนสูงอย่างสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับค่าเสื่อมราคา ทั้งๆที่รายได้ก็ไม่ได้อะไรมากมาย หรือไม่ได้สร้างธุรกิจใหม่ๆอันนี้ก็ขอบายครับ แต่หากการลงทุนนั้น ทำไปเพื่อการสร้าง line ธุรกิจใหม่ๆ ไม่ใช่เป็นการซ่อม แซมเพื่อยืดอายุการใช้งาน ก็ต้องมีการปรับปรุงครับ เช่นหากกิจการทำการ ซ่อมแซมครั้งใหญ่มาก ซึ่งเราวิเคราะห์แล้วว่าไม่น่าจะเป็นการซ่อมที่เกิดเป็น ประจำ เช่น TR ที่เมื่อปีสองปีก่อนมีค่าใช้จ่ายตัวนี้มาก เพราะมีการเปลี่ยน line ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี อันนี้ผมก็จะปรับปรุงมันครับ โดยดูใช้ค่าใช้จ่ายเพื่อการ ลงทุนในอดีตปรับเพิ่มด้วยค่าใช้จ่ายการลงทุนพิเศษหาร 20 เพื่อทำเป็นค่าเฉลี่ย ในทางกลับกันสำหรับบางกิจการ เงินสดจากกิจกรรมลงทุนอาจจะติดลบ มากๆ เพราะเกิดจากการที่เค้ามีเงินสดอิสระเหลืออยู่มากครับไม่รู้จะเอาไปทำ อะไรจะปันผลก็กลัวผู้ถือหุ้นจะโดนหักภาษีเยอะ :lol: บางทีเค้าก็เอาไปลงทุน ในธนาคารกินดอกเล่นๆก็มี อันนี้ก็แสดงว่าเป็นการลงทุนที่ไม่เพิ่มมูลค่าครับ แต่หากกันไว้เพื่อลงทุนใน ปีถัดๆไป ก็ต้องดูว่ากันไว้ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่โดยดูประวัติการใช้เงิน ย้อนหลังก็จะช่วยให้เห็นภาพของเจตนาของผู้บริหารครับ ยกตัวอย่างเช่น TR ก็กันไว้ค่อนข้างมากในปีสองปีที่ผ่านมา เพราะต้องการ ปรับปรุง line การผลิตครั้งใหญ่ แต่หากปีนี้ยังกันไว้เยอะอยู่ล่ะก็...น่าคิดครับ เพราะบางครั้ง เค้าอาจจะเอาเงินตัวนี้ไปซื้อกิจการร่วมหรือไปลงทุนที่ไม่ คุ้มค่าหรืออาจจะไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการเติบโตของธุรกิจโดยตรง เงินสดจากการดำเนินงานหักออกด้วยเงินสดจากการลงุทนหลังจากปรับปรุง ก็จะได้เป็น กระแสเงินสดอิสระ ที่ผมจะนำมาเทียบกับมูลค่าตลาด "เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน" ตัวนี้เป็นแหล่งที่มาหรือใช้ไปของเงินสดที่มาจากผู้มีส่วนได้เสียของกิจการ ซึ่งรวมทั้งเงินกู้ธนาคารและส่วนเพิ่มทุนและเงินปันผลจ่ายของเจ้าของ โดยปกติแล้ว หากกิจการสามารถดำเนินงานได้อย่างไม่มีปัญหา ตัวนี้มักจะ มีเพียงรายการของเงินปันผลจ่ายครับ แต่หากเมื่อใดกิจการเกิดการขาด สภาพคล่องมากๆ ทำให้ต้องมีการกู้หนี้ยืมสิน ก็ต้องมาพิจารณาว่าเกิดจากอะไรซึ่งอาจจะเกิดจาก - กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบมากๆ - กระแสเงินสดจากการลงทุนติดลบมากๆ ถ้าเป็นกรณีแรก ก็ไม่ค่อยดีนะครับ ต้องมาดูว่าเกิดจากช่วงก่อนหรือหลัง การเปลี่ยนแปลงเงินทุนหมุนเวียน ถ้าเกิดขึ้นก่อน แสดงว่าอาการไม่ดีแล้วล่ะครับ เพราะแสดงว่าเส้นเลือดใหญ่กำลังรั่ว แต่หากเกิดหลังเงินทุนหมุนเวียน แสดงว่ากิจการกำลังสูญเสียเงินไปจมในลูกหนี้ หรือสินค้าคงเหลือมากเกินไป ให้ลองหาต่ออีกทีว่าเกิดจากปัจจัยใด ถ้าเป็นกรณีทีสอง ที่เกิดจากเงินลงทุนติดลบมากๆ ก็ต้องมาดูครับว่ากิจการ ลงทุนไปกับโครงการใด เกี่ยวข้องและส่งเสริมให้ตัวธุรกิจมีอนาคตมากขึ้น หรือไม่ โดยลองดูประวัติย้อนหลังว่าค่าใช้จ่ายการลงทุนครั้งใหญ่ในอดีตนั้น ได้ส่งผลต่อกำไรหรือยอดขายในปัจจุบันอย่างไร กล่าวโดยสรุปมันจะเป็นวงเวียนตามนี้ครับ จัดหาเงิน --> ใช้เงินเพื่อลงทุน --> ได้เงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน --> จัดหาเงิน (จ่ายปันผลและกันเงินสำรองไว้ลงทุนต่อ) --> ใช้เงินเพื่อลงทุน --> ได้เงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน วนไปเรื่อยๆครับ บริษัททีดีก็จะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เป็นบวกสม่ำเสมอและโตขึ้นๆ แล้วก็นำเงินที่เหลือไปจ่ายเงินปันผลหรือเอาไว้ลงทุนในโครงการที่ได้ผล ตอบแทนงามๆ มากขึ้นๆ ปล. เป็นการอธิบายโดยอ้างอิงจากงบของหุ้นที่เป็นการผลิตสินค้าเป็นหลักนะครับ ส่วนหุ้นประกันหรือธนาคารผมยังไม่สามารถครับ ต้องให้ผู้ช่วยชาญอธิบาย
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 1:49 pm
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ขอตอบแบบมือใหม่ตอบให้มือใหม่มากละกันนะครับ งบกระแสเงินสดจะแสดงการได้มากและใช้ไปของเงินสดของกิจการ บางท่านอาจจะคิดว่าเงินสดเป็นอะไรที่วัดได้ยากเพราะมีการไหลเข้าไหลออก ทำให้บางครั้งดูแล้เวียนหัว ไม่สามารถสะท้อนภาพของกิจการออกมาได้จริง แต่ในความจริงแล้ว ในงบรายไตรมาสหรืองบประจำปี ผมคิดว่าเพียงพอ และน่าเชื่อถือ เพราะไม่ใช่เป็น daily transaction แต่เป็น quaterly และ yearly ในส่วนของการดู แนะนำว่าให้มองหาบรรทัดสุดท้ายที่มีคำว่า "เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน" แล้วขีดเส้นใต้ไว้ครับ จากนั้นก็มองหาบรรทัด "เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน" แล้วขีดเส้นใต้ไว้ครับ จากนั้นก็มองหาบรรทัด "เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน" แล้วขีดเส้นใต้ไว้ครับ ทีนี้เราก็มาดูความหมายของแต่ละตัวนะครับ "เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน" ตัวนี้จัดได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการดำเนินธุรกิจเลยทีเดียว สำหรับมือใหม่ให้ดูว่า เป็นบวกต่อเนื่องหลายๆปีหรือไม่ ส่วนการปรับปรุงผมมักจะตัดรายได้หรือรายจ่าย พิเศษออก ... เดี๋ยวมาต่อครับ ไปกินข้าวก่อน
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 12:15 pm
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ขอบคุณพี่ newbie_12 สำหรับการแนะนำดีๆครับ ผมคิดว่าส่วนตัวอาจจะเป็นสไตล์เกรแฮมมากกว่าบัฟเฟต์ก็ได้มังครั้บ :lol: ที่ดูข้อมูลเชิงปริมาณซึ่งก็คือความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดเทียบกับ ราคาที่ขายว่าถูกหรือแพงก่อน ถ้าถูกใจแล้วจึงค่อยมองปัจจัยเชิงคุณภาพทีหลัง :roll: หลังจากบทความกรองหุ้น ต่อไปผมคงจะพยายามเขียนบทความวิเคราะห์หุ้น แบบมือใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 2 หลังจากที่ผ่านการกรองมาระดับหนึ่ง นะครับ ซึ่งคงต้องรวมเรื่องของความสามารถทางการแข่งขันอย่างที่พี่ newbie_12 แนะนำและธรรมาภิบาลที่พี่ j21 แนะนำด้วย แต่ผมคิดว่าถ้าเป็นเซียนๆในเว็บ ที่ไม่ใช่มือใหม่ กฎต่างๆเหล่านี้ แทบไม่ต้อง ใช้เลยมังครับ เพราะท่านเหล่านั้นมี watch list และเข้าใจตัวธุรกิจมากอยู่ แล้ว แค่ทำการติดตามข่าวสารข้อมูล, ราคาหุ้นว่าถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับ ราคาในใจและปัจจัยเชิงมหภาคที่อาจจะมีผลต่อระยะยาวของธุรกิจก็น่าจะพอ
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 10:11 am
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเราสามารถดูผู้ยริหารได้จากการใช้เงินสดนะครับ ว่าผู้บริหารมีการใช้กระแสเงินสดในการเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทรึเปล่า แล้วก็ดูรายการระหว่างบริษัทในเครือครับ ว่ามีรายการที่น่าสงสัยหรือไม่ งบกำไรขาดทุนก็ดูตรงค่าตอบแทนผู้บริหาร ว่าเหมาะสมกับ performance ของกิจการรึเปล่า แต่ไม่ได้ดูละเอียดถึงนามสกุลแบบกระทู้โพยลับของพี่นริศน่ะครับ :lol:
โดย
doodeemak
ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 5:58 am
0
0
กฎการกรองหุ้นแบบ doodeemak (เหมาะกับนักลงทุนหน้าใหม่นะครับ)
ผมว่าลงทุนระยะยาว (มาก) ครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คงเป็นปันผลจากธรรมชาติที่มาเติมเต็มให้ชีวิตได้เรียนรู้ อีกหนึ่งบทเรียนที่มีค่า :D ปล. แวะไป comment กันได้นะครับ กับบทความใหม่ (ที่ไม่กล้านำมาแป่ะ) เรื่อง "ทำไมตอนนั้นผมซื้อหุ้นทอผ้า" http://doodeemak.blogspot.com/2010/05/blog-post.html
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 10:33 pm
0
0
ตลาดโดนเผาไปแล้วจะซื้อยังไงครับ
ข่าวช่อง 9 มีตัววิ่งบอกว่าห้องสมุดมารวยเสียหายไม่มากครับ เพราะมีระบบ Springle ว่าแต่หนังสือก็อาจจะเปียกบ้างนะครับผมว่า
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 9:47 pm
0
0
*** แล้วมันก็จะผ่านไป ****
อย่าหาว่าลบหลู่เลยนะครับ หมอนิดนี่ ผมรอซื้อทองหลังจากที่แกบอกว่าทองจะต่ำกว่าหมื่นหลังตรุษจีน ปีที่แล้ว... จนบัดนี้ มันไม่เคยต่ำกว่าหมื่นเลยครับ :cry:
โดย
doodeemak
พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 8:16 pm
0
0
บริษัทที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่ยังไม่ได้เข้าตลาด
ทีวีพูลครับ
โดย
doodeemak
พุธ พ.ค. 19, 2010 8:29 pm
0
0
ขออนุญาติสรุปความรู้ที่ได้จากงาน จิบเบียร์เมื่อวันที่ 12 คับ
ขอบคุณครับ ว่าแต่เรื่อง tender offer ของ Peppsi นี่เหมือนรู้ล่วงหน้าเลยนะครับ แม่นจริงๆ
โดย
doodeemak
พุธ พ.ค. 19, 2010 8:29 am
0
0
ช่วยตั้งกระทู้ใน ร้อยคนร้อยหุ้นให้หน่อยครับ
น่าจะเหลือ KGI ตัวเดียวมังครับ ที่ยังไม่มี
โดย
doodeemak
เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:57 pm
0
0
146 โพสต์
of 3
ต่อไป
Verified User
ชื่อล็อกอิน:
doodeemak
กลุ่ม:
สมาชิก
ติดต่อสมาชิก
PM:
ส่งข้อความส่วนตัว
สถิติสมาชิก
ลงทะเบียนเมื่อ:
อังคาร ม.ค. 09, 2007 11:48 am
ใช้งานล่าสุด:
ศุกร์ มิ.ย. 16, 2023 6:17 pm
โพสต์ทั้งหมด:
411 |
ค้นหาเจ้าของโพสต์
(0.02% จากโพสทั้งหมด / 0.06 ข้อความต่อวัน)
ลายเซ็นต์
Inactive investor
ไปที่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
↳ ห้องร้อยคนร้อยหุ้นต่างประเทศ
↳ ไอเดียหุ้นเด้ง
↳ Value Investing
↳ คลังกระทู้คุณค่า
↳ หลักสูตรการลงทุนออนไลน์
↳ ThaiVI GO Series
↳ Oppday Transcript
↳ บทความ
↳ ความรู้งบการเงิน
↳ ร้อยคนร้อยเล่ม / Multimedia Forum
↳ mai Corner
↳ Alternative Investing
↳ หลักสูตรออนไลน์
เรื่องทั่วไป
↳ นั่งเล่น / กีฬา / สุขภาพ
↳ Asking Staff
↳ CSR
×
บันทึกไม่สำเร็จ
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
×
บันทึกสำเร็จแล้ว