ขอร่วมแสดงมุทิตาจิต แด่อาจารย์ ดร.นิเวศน์ ที่ได้อุทิตตนในการให้ความรู้ด้านการลงทุนและการใช้ชีวิตที่ถูกต้องต่อสังคม คอยเตือนสติในการลงทุนตลอดมา ขอให้ อาจารย์มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจ อายุยืนยาวตราบนานเท่านาน

ขอบคุณมากครับ รบกวนด้วยครับ
visutea@hotmail.com

เป็นกำลังใจให้พอร์ตโต ไวๆนะครับ
ขอขอบคุณบ้าน VI แห่งนี้ด้วยคนครับ

ขอร่วมแชร์ประสบการณ์นะครับ ผมมีอาชีพหลักคือทำงานประจำเหมือนกันครับ ทำมาได้เกือบสิบปีแล้ว ต้องการมีอิสระภาพทางการเงิน สนใจทำธุรกิจ ได้รับแรงบันดาลใจจาก ท่าน ดร.นิเวศน์ จึงลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงานประจำ การหาข้อมูลและติดตามการลงทุนจะทำหลังเลิกงานเป็นหลัก เวลางานไม่สนใจติดตามยกเว...

ขอบพระคุณผู้รู้ ผู้ให้ทุกท่านนะครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง

รวยอย่างพอเพียง

ความคาดหวังผลตอบแทน ตามที่ท่านอาจารย์นิเวศน์เคยให้ไว้ก็ประมาณ 10% ต่อปีครับ แบบคอนเซอร์เวทีฟหน่อย
แต่ถ้าเก่งมากก็อาจจะคาดหวังที่ 15-20% ครับ
แต่ส่วนตัว ขอทำให้ได้ปีละ 10% ก็พอใจแล้วครับ

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ก็จะได้ตามที่คำนวนนะครับ แต่ว่า ไม่มีอะไรรับรองได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อาจจะได้มากกว่าที่ คาดไว้มากๆ หรืออาจจะขาดทุนมากๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับหุ้นที่คุณเลือก และความรู้ของเราเอง พื้นฐานหุ้นเปลี่ยนไปได้เสมอ ลงทุนในความรู้เยอะๆ ก่อนนะครับ แล้วก็ปฏิบัติในการลงทุนอย่างระมัดระวังค...

ขอผ่าน ล้านแรกในชีวิตให้ได้ก่อนครับ

ผมไม่ค่อยชอบ วันจันทร์เท่าไร เพราะมนุษย์เงินเดือนมักจะไม่ชอบวันจันทร์ แต่ชอบวันศุกร์ ครับ :lol:
แต่ผมชอบที่จะได้อ่านบทความ อ.นิเวศน์ เหมือนคุณครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้อาจารย์ทุกท่าน มีความสุขตลอดปีใหม่ และ ปีต่อๆ ไปนะครับ
ขอให้รายการ Money talk อยู่คู่เมืองไทยให้ความรู้แก่ผู้สนใจอีกนานแสนนานนะครับ

ความเห็นของผม การลงทุนแนว VI เป็นแนวการลงทุนที่ต้องวิเคราะห์กิจการ เพื่อร่วมทำธุรกิจ ซึ่งการเรียน MBA ทำให้มีความรู้พื้นฐานในการบริหารกิจการครอบคลุมกลยุทธ์ที่กิจการต้องดำเนินการเช่น การตลาด การเงิน บัญชี บุคคล การผลิต การบริหารต้นทุน กลยุทธ์ จะทำให้ช่วยให้เราลดความเสี่ยงในการลงทุน และประสบความสำเร็จ...

ผมเคยโพสต์ข้อความข้างใต้นี้ไว้เมื่อตอนกระทิงคึกสุดขีดรอบที่แล้ว "ผมถือว่า ทุกคนที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นคือ นักเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนทั้งสิ้น จะต่างกันตรงที่ แนวทางนักลงทุนก็คือ การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงิน ที่หมุนเวียนอยู่ในบริษัทหรือผลประกอบการ ส่วนแนวทางเก็งกำไรก็คือ การซื้อหุ้นไปตามกระแสเงินที่ห...

ถ้าเช่นนั้นแล้ว มีโอกาศตั้งเป็น "กองทุน VI " เพื่อรวมทุนและลงทุนไปในแนวทางเดียวกันมั๊ยครับ ผมว่าอาจเป็นไปได้ยากครับ เพราะว่า พวกเราส่วนใหญ่จะชอบเชื่อตัวเราเองมากกว่า ถ้าตั้งเป็นกองทุนจะต้องมีผู้บริหารกองทุน มีคณะกรรมการ และต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ผู้ทำงาน สุดท้ายก็จะเหมือนการลงทุนในกองทุนรวม ...

โลกในมุมมองของ Value Investor 30 ตุลาคม 53 ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในเรื่องของการลงทุนหรือเล่นหุ้นนั้น มีเทคนิคหรือวิธีการหลายอย่างที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น ลงทุนแบบ Value หรือเน้นคุณค่า เล่นหุ้นแบบดูกราฟแนวรับแนวต้าน หรือเล่นหุ้นโดยวิธีการ ปั่นหุ้น เป็นต้น คำถามก็คือ เล่นหุ้นด้วยวิธีไหนดีท...

ผมคิดว่า จบสาขาไหนก็ได้เพราะว่าคนที่จบสาขาเดียวกันก็มีความคิดแตกต่างกัน แต่ผู้ที่จะประสบความสำเร็จ จะต้องมีหลักคิดที่มีตรรกะ เหตุผล และ สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองให้อยู่ในเหตุผลได้

ปัจจุบันผมคิดว่า การลงทุนแนว VI ได้รับการพิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จได้ ตอบโจทย์ชีวิตได้ เป็นความสำเร็จที่อาศัยความรู้และเหตุผลของเราเองเป็นหลัก ไม่ได้อาศัยโชค และมีตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ รวมถึงความรู้จากแหล่งต่างๆเราทำได้ง่ายขึ้น มีการถ่ายทอดความรู้กัน เผยแพร่กัน ทำให้เรารู้มากขึ้น และมีตัวอย่...

ในเว็บ มีวีไอเหมือนกัน ถือหุ้นเหมือนกัน ยังซื้อขาย ไม่เหมือนกันเลย
บางคนบอก ราคานี้ซื้อได้ บางคนบอกว่า ราคาถึง fair แล้วไรเงี้ยนานาจิตตัง

อันนี้เห็นด้วยครับ

ได้เงินจากบริษัทที่ได้ผลประโยชน์ อย่าลืมบริจาคให้พี่น้องผู้ประสบภัยด้วยนะครับ อานิสงค์จะได้มากขึ้นๆ

ผมคิดว่าราคาหุ้นแต่ละบริษัทน่าจะไม่มีถูกมาก แต่จะเป็นราคาที่เหมาะสม
ราคาจะเพิ่มหรือลดจะเป็นไปตามผลประกอบการของบริษัท

ขอบคุณครับ ที่พี่ได้เสียสละเวลามาทำงานตรงนี้ พอร์ตโตขึ้นเยอะๆ นะครับ

พอดีตัวผมเองมีคำถามกับตัวเองว่า ถ้าหากตลาดหุ้นมีแต่นักลงทุนแนว VI แล้วมันจะเป็นอย่างไร ผลตอบแทนมันจะเป็นอย่างไร  ส่วนตัวผมคิดว่าผลตอบแทนน่าจะน้อยลงในส่วนต่างราคา เพราะตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลตอบแทนหลักคงจะเป็นในรูปเงินปันผล
เพื่อนๆมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ

ผมว่าคนที่ถือหุ้นคนสุดท้าย แล้วบริษัทเจ้ง คนนั้นแหละครับ จะขาดทุน
แต่อาจจะไม่เท่ากับผู้ถือหุ้นคนแรก เพราะเราให้มูลค่าบริษัทตอนเริ่มต้น และตอนสุดท้ายไม่เท่ากัน มันจึงไม่เท่ากับ 0 sum game

ต้องคิดเรื่องการบริหารจัดการด้วยครับ ว่าจะเรียนกันอย่างไร
ที่ไหน มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ใครจะเป็นผู้จัด อะไรทำนองเนี้ยครับ

เห็นด้วยครับ

ขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกหุ้นเข้าพอร์ตทนทานต่อสภาวะตลาดหรือไม่ครับ
และสามารถกลับมาได้ไกลกว่าเดิม

ของผม ได้คุยกับ Mkt. เพียงตอนเปิดพอร์ต และหลังจากนั้นก็ตอนโอนเงินเท่านั้นเหมือนกันครับ ตอนเปิดพอร์ตใหม่ๆก็ทดลองขอคำแนะนำแต่คำตอบที่ได้มาเหมือนกับว่าไม่มีความรู้และไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์มา ตอบเลี่ยงๆไปอย่างนั้นเอง
ก็ผลประโยชน์ของเรากับเขาสวนทางกัน การปฏิบัติเลยสวนทางกันด้วย

ในความเห็นผม คิดว่า หุ้นกู้ หรือตราสารหนี้จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง
แต่ถ้าลงทุนในหุ้นยังหาหุ้นปันผลที่ดี สภาพคล่องพอใช้ได้ และราคายังพอลงทุนได้นะครับ

คิดว่าถ้าหาหุ้นดีราคาถูกไม่ได้ คงต้องเปลี่ยนเป็นหาหุ้นดีราคาเหมาะสม ผลตอบแทนลดลงนิดหน่อย ค่าเผื่อความปลอดภัยลดลง แต่ดีกว่าถือเงินสดที่ไม่ได้ผลตอบแทนเลย ไหมครับ

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับ