นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 31
ผมเริ่มจากเป็น เม่า > เทคนิคอล > วีไอสายเนฟฟ์ > วีไอสายลินซ์ > Reflexivity
ผ่านมาเกือบ 5ปีแล้ว ผมก็ถือว่าเจอแนวทางตัวเองในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าในอนาคตผมเจออะไรที่มัน"เหมาะ"กับผมกว่า ผมก็จะเปลี่ยนไปหาสิ่งนั้น ไม่คิดจะหยุด
เป้าหมายของแต่ละคนทำให้แนวทางเราของต่างกันไป แนวทางที่ดีที่สุดของอีกคนก็อาจไม่เหมาะกับอีกคน
อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
เรามีเวลาลงทุนทั้งชีวิต ไม่ต้องกำไรเยอะๆ ต่อให้ทำได้แค่ปีละ 15-20% ก็รวยแล้ว...ขออย่างเดียว อย่าตาย(จากการลงทุน)ไปก่อน
ผ่านมาเกือบ 5ปีแล้ว ผมก็ถือว่าเจอแนวทางตัวเองในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าในอนาคตผมเจออะไรที่มัน"เหมาะ"กับผมกว่า ผมก็จะเปลี่ยนไปหาสิ่งนั้น ไม่คิดจะหยุด
เป้าหมายของแต่ละคนทำให้แนวทางเราของต่างกันไป แนวทางที่ดีที่สุดของอีกคนก็อาจไม่เหมาะกับอีกคน
อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
เรามีเวลาลงทุนทั้งชีวิต ไม่ต้องกำไรเยอะๆ ต่อให้ทำได้แค่ปีละ 15-20% ก็รวยแล้ว...ขออย่างเดียว อย่าตาย(จากการลงทุน)ไปก่อน
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 32
ผมลงทุนมา1ปีเต็ม ยังไม่พบแนวทางของตัวเองเลยครับ แนวทางที่คิดว่าจะยึดไว้ได้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ช่วงแรกก็เน้นหุ้น ปันผลเยอะ เช่น csl (ตอนนี้แพงไปแล้วนะ) ผมก็แค่มองธุรกิจว่า csl เป็นผู้ให้บริการ อินเตอร์เนตองค์กร ซึ่งคู่แข่งผมนึกไม่ออก แต่คิดว่าถ้าเราใช้ internet ดีๆอยู่แล้ว การเปลี่ยนค่ายมันยุ่งยากมาก และไม่รู้ว่าจะดีกว่าหรือต้องการดีกว่านี้ไปทำไป องค์กร ทุกที่ต้องใช้ internet อยู่แล้วไม่มีทางเลิกใช้หรอก ถือเป็นหุ้นที่เก็บไว้กินปันผลยาวๆ ไม่ขายเลย
หุ้นเติบโตผมก็มีถือไว้บ้าง ถือไว้ พอมีข่าวแจกหุ้น แจกปันผล ราคาก็วิ่งสูงเกินไป ผมก็มอง pe สูงแบบนี้ไม่ไหวทุนเราก็สูงกว่าคนอื่น ก็เลยขายก่อน XD ไป
จากนั้นก็มีหันไปเล่นตามกราฟบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จมันซับซ้อนเกินไปกว่าที่ผมจะเข้าใจ แล้วผมเองก็ขี้เกียจด้วย ที่จะต้องดูกราฟ ทุกวัน ตอนตลาดปิด เล่นไปเล่นมา กำไรหายวีบเลย วิธีนี้ก็เลยจบไป
วิธีล่าสุดนี้ผมเน้นมองธุรกิจที่เข้าใจง่าย และ มองเห็นอนาคต อย่างที่ปู่บัฟ ทำอยู่แล้ว ผมก็แค่ผมตามแนวคิดของ พี่ วิบูล ว่า ถ้าอีก5ปี ธุรกิจนี้จะยังอยู่มั้ย แล้วมันมีโอกาสที่จะหายไปมั้ย ถ้ามีผมก็จะซื้อน้อยหน่อยหรืออาจจะไม่ซื้อเลย ดู PE ด้วยนะ ว่าถูกหรือแพง ถ้าอนาคตไม่มีทางหายไปแน่นอน ผมก็ซื้อเยอะหน่อย โดนคาดการไว้ว่ากำไรน่าจะโตขึ้นหรือเปล่า หรือ อย่างแย่ๆก็เท่าเดิม
หุ้นที่คาดการณ์ยากสำหรับผม และผมไม่คิดจะยุ่งเลย ก็พวกหุ้น น้ำมัน พลังงาน ถ่านหิน คอมมูตี้ ต่างๆนั่นแหละ รวมหรือ ฆ่าสัตว์ ไก่ กุ้ง เพื่อขาย อันนี้ผมก็ไม่ยุ่ง
อีกวิธีนึงที่ผมพึ่งใช้ล่าสุดโดยอ่านมาจาก เพจของพี่โยโย่ จริงๆผมก็เคยคิดไว้เหมือนกัน คือ หุ้นสองตัวถ้ามี up side 30% เท่ากัน เราก็ถือไว้อย่างละครึ่ง แต่พอตัวไหนลงหนักแบบ สาเหตุชั่วคราวผมก็จะทยอยขายอีกตัวไปซื้อ แทน แต่จะไม่ขายหมดเพราะกลัวเราคิดผิด ก็จะสลับไปสลับมาแบบนี้แหละครับ
วิธีที่ผมใช้ตอนนี้สรุปก็คือ วิธีทำงาน ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน ปัจจุบันก็มีอ่านหนังสืออยู่ตลอดครับ แต่วิธียากๆ ก็เรียนรู้ไว้แต่ไม่ได้นำมาใช้ครับ
ผลตอบแทนตอนนี้ก็พอๆกับตลาดหรือน้อยกว่านิดหน่อยครับ ผมคิดว่าเมื่อครบ 2ปี ผมจะมีผลตอบแทนมากกว่าตลาดให้ได้ครับ
ช่วงแรกก็เน้นหุ้น ปันผลเยอะ เช่น csl (ตอนนี้แพงไปแล้วนะ) ผมก็แค่มองธุรกิจว่า csl เป็นผู้ให้บริการ อินเตอร์เนตองค์กร ซึ่งคู่แข่งผมนึกไม่ออก แต่คิดว่าถ้าเราใช้ internet ดีๆอยู่แล้ว การเปลี่ยนค่ายมันยุ่งยากมาก และไม่รู้ว่าจะดีกว่าหรือต้องการดีกว่านี้ไปทำไป องค์กร ทุกที่ต้องใช้ internet อยู่แล้วไม่มีทางเลิกใช้หรอก ถือเป็นหุ้นที่เก็บไว้กินปันผลยาวๆ ไม่ขายเลย
หุ้นเติบโตผมก็มีถือไว้บ้าง ถือไว้ พอมีข่าวแจกหุ้น แจกปันผล ราคาก็วิ่งสูงเกินไป ผมก็มอง pe สูงแบบนี้ไม่ไหวทุนเราก็สูงกว่าคนอื่น ก็เลยขายก่อน XD ไป
จากนั้นก็มีหันไปเล่นตามกราฟบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จมันซับซ้อนเกินไปกว่าที่ผมจะเข้าใจ แล้วผมเองก็ขี้เกียจด้วย ที่จะต้องดูกราฟ ทุกวัน ตอนตลาดปิด เล่นไปเล่นมา กำไรหายวีบเลย วิธีนี้ก็เลยจบไป
วิธีล่าสุดนี้ผมเน้นมองธุรกิจที่เข้าใจง่าย และ มองเห็นอนาคต อย่างที่ปู่บัฟ ทำอยู่แล้ว ผมก็แค่ผมตามแนวคิดของ พี่ วิบูล ว่า ถ้าอีก5ปี ธุรกิจนี้จะยังอยู่มั้ย แล้วมันมีโอกาสที่จะหายไปมั้ย ถ้ามีผมก็จะซื้อน้อยหน่อยหรืออาจจะไม่ซื้อเลย ดู PE ด้วยนะ ว่าถูกหรือแพง ถ้าอนาคตไม่มีทางหายไปแน่นอน ผมก็ซื้อเยอะหน่อย โดนคาดการไว้ว่ากำไรน่าจะโตขึ้นหรือเปล่า หรือ อย่างแย่ๆก็เท่าเดิม
หุ้นที่คาดการณ์ยากสำหรับผม และผมไม่คิดจะยุ่งเลย ก็พวกหุ้น น้ำมัน พลังงาน ถ่านหิน คอมมูตี้ ต่างๆนั่นแหละ รวมหรือ ฆ่าสัตว์ ไก่ กุ้ง เพื่อขาย อันนี้ผมก็ไม่ยุ่ง
อีกวิธีนึงที่ผมพึ่งใช้ล่าสุดโดยอ่านมาจาก เพจของพี่โยโย่ จริงๆผมก็เคยคิดไว้เหมือนกัน คือ หุ้นสองตัวถ้ามี up side 30% เท่ากัน เราก็ถือไว้อย่างละครึ่ง แต่พอตัวไหนลงหนักแบบ สาเหตุชั่วคราวผมก็จะทยอยขายอีกตัวไปซื้อ แทน แต่จะไม่ขายหมดเพราะกลัวเราคิดผิด ก็จะสลับไปสลับมาแบบนี้แหละครับ
วิธีที่ผมใช้ตอนนี้สรุปก็คือ วิธีทำงาน ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน ปัจจุบันก็มีอ่านหนังสืออยู่ตลอดครับ แต่วิธียากๆ ก็เรียนรู้ไว้แต่ไม่ได้นำมาใช้ครับ
ผลตอบแทนตอนนี้ก็พอๆกับตลาดหรือน้อยกว่านิดหน่อยครับ ผมคิดว่าเมื่อครบ 2ปี ผมจะมีผลตอบแทนมากกว่าตลาดให้ได้ครับ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 33
อยู่อย่างจนมักรวย อยู่อย่างรวยมักจนซุนเซ็ก เขียน: อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
นักลงทุนหลายคนหลังผลกำไรสูงสุดกลับได้ผลกำไรต่ำสุด
นักลงทุนหลายท่าน(อย่างน้องซุน)หลังกำไรต่ำแต่ได้กำไรสูงสุด
เหมือนศาสตร์ในการเล่นโก๊ะเลย ยิ่งคิดจะฆ่าเขาจะยิ่งแพ้
แต่เล่นเรื่อยๆเน้นรักษาพื้นที่ตัวเองจะยิ่งชนะ
เม่าน้อยคลำทางหาแสงไฟ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 34
หมอเคอย่าทิ้ง canslim ของ อ.โอนีล ครับ ถ้ามาแนวนี้แล้วต่อยอดด้วยหลักการของ พ่อลูกฟิชเชอร์ และ อาจารย์ T. Lowe Price ไปเลย อย่าหยุดcrazyrisk เขียน: เลยหันไปศึกษา techno fundamental แนว canslim
ก้อ ดีขึ้น. แต่ก้อไม่มาก
สุดท้ายเลยกลับมาใช่ที่. Fundamental
เสียเวลาอ้อมโลกไป กี่รอบก้อไม่รู้. 55
จะว่าไป พอร์ตหมอไม่เคยแดงเลย แล้วผมจะแนะนำไปทำไมครับนี่
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- kabu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 35
น้องกิ๊กได้เปรียบอายุซุนเซ็ก เขียน:ผมเริ่มจากเป็น เม่า > เทคนิคอล > วีไอสายเนฟฟ์ > วีไอสายลินซ์ > Reflexivity
ผ่านมาเกือบ 5ปีแล้ว ผมก็ถือว่าเจอแนวทางตัวเองในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าในอนาคตผมเจออะไรที่มัน"เหมาะ"กับผมกว่า ผมก็จะเปลี่ยนไปหาสิ่งนั้น ไม่คิดจะหยุด
เป้าหมายของแต่ละคนทำให้แนวทางเราของต่างกันไป แนวทางที่ดีที่สุดของอีกคนก็อาจไม่เหมาะกับอีกคน
อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
เรามีเวลาลงทุนทั้งชีวิต ไม่ต้องกำไรเยอะๆ ต่อให้ทำได้แค่ปีละ 15-20% ก็รวยแล้ว...ขออย่างเดียว อย่าตาย(จากการลงทุน)ไปก่อน
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 36
ผมว่ามันเหมือนหา แนวทางของตัวเองLinzhi เขียน:...
การค้นหาแนวทางตัวเอง ต้องค้นหาด้วย "ตัวเอง" และเป็นตัวของตัวเอง
ทั้งเรื่องการเลือกหุ้น แนวคิด ความรู้สึก แนวทาง ความถนัด ฯลฯ
...
:
แม้เรารู้ว่า แนว ทาง ของ Buffet Lynch Fisher นั้นดี แต่เราไม่อาจเอามาใช้ได้
ต้องมีประยุกต์ให้เข้าตัวเรา จริตเรา
หลังจากประยุกต์แล้วเอามาใช้ ตรงนี้ล่ะครับที่ทุกคน จะแตกต่างกัน ตามนิสัย ความคิดพื้นฐาน
เมื่อแนวทางที่ประยุกต์เข้ากับตัวเราถูกใช้ลงทุน ถูกหรือผิดพลาด แล้วเรียนรู้ แล้วประยุกต์ใหม่จากประสบการณ์ที่มากขึ้น
(ประสบการณ์ เกิดจาก การอ่านแล้วเข้าใจ การลงมือทำแล้วเรียนรู้)
ในสภาะแวดล้อมปกติ เมื่อเรามั่นใจ เกือบทุกครั้ง ที่เราลงทุน โดยที่ ความเสี่ยงที่จะขาดทุนเหลือน้อย
ผมว่าเมื่อนั้นล่ะครับ ที่ผมว่าเราหาแนวทางของเราเจอแล้ว
สำหรับผม เมื่อไหร่ ก็ เมื่อนั้นครับ
ขอให้มีสติ และ ความสุข ระหว่างการเดินทางครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 37
สุดยอดคำเเนะนำจากพี่ๆน้องๆ ขอบคุณมากครับ ข้าน้อยยังอ่อนด้อยนักคงเป็น"เด็กวัด"ต่อไป เเต่ภูมิใจมากที่ได้เป็น"เด็กวัด"ในสำนักthaiviที่มีอาจารย์ดีๆ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1021
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 38
ผมว่าความยากของคนที่เริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ หลายคน อยู่ที่ช่วงแรกนี่แหละครับ ว่าจะเลือกไปแนวทางไหน ถ้าให้เปรียบก็เหมือนเ็ด็กที่เป็นผ้าขาว อยู่ที่ใครจะจูงไปทางไหน ถ้าเริ่มต้นในแนวทางที่ถูกต้องเร็วก็สำเร็จได้เร็ว แต่ถ้าเริ่มต้นไปผิดทางไปเล่นหุ้นปั่นแล้วพลาดมันก็จะเป็นความกลัวฝังใจจะเริ่มใหม่ก็ลำบาก
ส่วนตัวผมเริ่มลงทุนมา 10 ปี ช่วงแรกเล่นทุกแนวทั้งเก็งกำไร ดูกราฟ ข่าวลือ warrant พื้นฐาน แต่ไม่เคยเชื่อมั่นกับหลักการถือหุ้นยาวๆ มองการถือหุ้นตลอดเวลาเป็นความเสี่ยง แต่สิ่งที่ผมทำตลอดคือการทบทวนตัวเองในแต่ละครั้งที่พลาด ผมจะถือว่าพลาดครั้งแรกเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเสียใจ แต่ถ้าพลาดแบบเดิมซ้ำถือเป็นคนโง่ที่ไม่น่าให้อภัย ผมถือว่าช่วงแรกตอนที่มีเรื่องที่ไม่รู้เยอะๆ โอกาสพลาดก็สูง แต่ถ้าเราเรียนรู้แล้วไม่พลาดซ้ำเดิม เมื่อไม่มีความผิดพลาด โอกาสชนะก็สูงขึ้น จนตอนหลังมันก็มาตกผลึกเป็นแนวทางการลงทุนแบบ VI ด้วย concept ที่ว่าถ้าเราถือกิจการที่ดีกำไรโตต่อเนื่อง ไ่ม่มีเหตุผลอะไรที่หุ้นที่กำไรโตทุกไตรมาส จะมีมูลค่าที่ลดลง ต่างจาก ราคาในกระดานที่เคลื่อนไหวตามกระแสความกลัวและความโลภของคน แต่กว่าจะเรียนรู้มาถึงระดับนี้ได้ก็กินเวลาไปพอสมควร สิ่งที่ผมเสียดายที่สุดคือในปีแรกๆ ที่ผมเริ่มลงทุนไม่ได้อ่านหนังสือแนว VI ตั้งแต่แรก อาจจะเพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่เชื่อมั่นกับแนวทางนี้ จนต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเองก่อน ทำให้เสียเวลาอันมีค่า (สิ่งที่เงินซื้อกลับมาไม่ได้) ไปหลายปี นี่คือสิ่งที่ผมอิจฉา VI รุ่นใหม่ๆ ที่อายุยังน้อย เพราะพวกเขาเริ่มต้นในแนวทางที่ถูกต้องและมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้เร็ว ในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออีกมาก (เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มแก่แล้ว ) สุดท้ายการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนครับ
ส่วนตัวผมเริ่มลงทุนมา 10 ปี ช่วงแรกเล่นทุกแนวทั้งเก็งกำไร ดูกราฟ ข่าวลือ warrant พื้นฐาน แต่ไม่เคยเชื่อมั่นกับหลักการถือหุ้นยาวๆ มองการถือหุ้นตลอดเวลาเป็นความเสี่ยง แต่สิ่งที่ผมทำตลอดคือการทบทวนตัวเองในแต่ละครั้งที่พลาด ผมจะถือว่าพลาดครั้งแรกเป็นบทเรียน ไม่ต้องไปเสียใจ แต่ถ้าพลาดแบบเดิมซ้ำถือเป็นคนโง่ที่ไม่น่าให้อภัย ผมถือว่าช่วงแรกตอนที่มีเรื่องที่ไม่รู้เยอะๆ โอกาสพลาดก็สูง แต่ถ้าเราเรียนรู้แล้วไม่พลาดซ้ำเดิม เมื่อไม่มีความผิดพลาด โอกาสชนะก็สูงขึ้น จนตอนหลังมันก็มาตกผลึกเป็นแนวทางการลงทุนแบบ VI ด้วย concept ที่ว่าถ้าเราถือกิจการที่ดีกำไรโตต่อเนื่อง ไ่ม่มีเหตุผลอะไรที่หุ้นที่กำไรโตทุกไตรมาส จะมีมูลค่าที่ลดลง ต่างจาก ราคาในกระดานที่เคลื่อนไหวตามกระแสความกลัวและความโลภของคน แต่กว่าจะเรียนรู้มาถึงระดับนี้ได้ก็กินเวลาไปพอสมควร สิ่งที่ผมเสียดายที่สุดคือในปีแรกๆ ที่ผมเริ่มลงทุนไม่ได้อ่านหนังสือแนว VI ตั้งแต่แรก อาจจะเพราะว่าตอนนั้นผมยังไม่เชื่อมั่นกับแนวทางนี้ จนต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเองก่อน ทำให้เสียเวลาอันมีค่า (สิ่งที่เงินซื้อกลับมาไม่ได้) ไปหลายปี นี่คือสิ่งที่ผมอิจฉา VI รุ่นใหม่ๆ ที่อายุยังน้อย เพราะพวกเขาเริ่มต้นในแนวทางที่ถูกต้องและมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้เร็ว ในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออีกมาก (เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มแก่แล้ว ) สุดท้ายการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนครับ
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 39
เวลาที่มีคุณค่า คือ เวลาปัจจุบัน (ที่มีสติครับ)
เวลาในอดีต เป็นแค่ ความคิด (ความทรงจำ)
เวลาในอนาคต เป็นแค่ ความคิด (จินตนาการ)
คนอายุ 60 กับ คนอายุ 20
ใครจะรู้ครับ ว่าใครจะตายก่อนกัน
เอามาฝากครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... catid=0600
ไม่รู้จะเกี่ยวกับ กระทู้มั้ยเนี่ย
ขอให้มีสติ แล้วจะมี ความสุข ระหว่างการเดินทางครับ
เวลาในอดีต เป็นแค่ ความคิด (ความทรงจำ)
เวลาในอนาคต เป็นแค่ ความคิด (จินตนาการ)
คนอายุ 60 กับ คนอายุ 20
ใครจะรู้ครับ ว่าใครจะตายก่อนกัน
เอามาฝากครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... catid=0600
ไม่รู้จะเกี่ยวกับ กระทู้มั้ยเนี่ย
ขอให้มีสติ แล้วจะมี ความสุข ระหว่างการเดินทางครับ
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 41
ขอบคุณ Linzhi มากครับLinzhi เขียน: แนวทางที่ถูกต้อง ไม่ได้พิสูจน์ด้วยผลตอบแทนมหาศาลจากการเลือกหุ้นไม่กี่ตัว แต่พิสูจน์จำนวนการตัดสินใจที่ถูกต้องมากกว่า
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 42
กว่าจะเจอแนวทางของตัวเองใช้เวลานานจัง ขาดทุนไปก็มาก พอมาเจอแนวทางของตัวเองกว่าจะถึงเป้าหมายสงสัยจะใช้เวลาที่นานกว่า
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 43
แนวทางนี่ผมเริ่มสักพักก็เจอเลย เป็น vi เพราะ รู้สึกมันสอดคล้องกับแนวคิด การทำงาน การใช้ชีวิต ที่สะสมประสบการณ์มาก่อนลงทุน
แต่การที่จะเป็น vi ที่พอจะรู้เรื่องกับเค้า เริ่มลงทุนเป็นก็สัก 4-5 ปี
ส่วนการจะกลายเป็น vi ที่เก่งนี้ ชาตินี้คงไม่มีปัญญา เพราะ ขี้เกียจเหลือเกิน ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้แตะอะไรกับเกี่ยวกับการลงทุนเลย
เจอแนวทาง กับ การเข้าใจในแนวทาง กับ การลงทุนเป็นนี่ ผมว่ามันต่างกันเหมือนกันนะ
แต่การที่จะเป็น vi ที่พอจะรู้เรื่องกับเค้า เริ่มลงทุนเป็นก็สัก 4-5 ปี
ส่วนการจะกลายเป็น vi ที่เก่งนี้ ชาตินี้คงไม่มีปัญญา เพราะ ขี้เกียจเหลือเกิน ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้แตะอะไรกับเกี่ยวกับการลงทุนเลย
เจอแนวทาง กับ การเข้าใจในแนวทาง กับ การลงทุนเป็นนี่ ผมว่ามันต่างกันเหมือนกันนะ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 45
ลงทุนแนววีไอมาประมาณ5ปี ยังไม่มีแนวทางของตัวเองเลย
มีแต่แนวทางของคนอื่นๆ
ตอนเริ่มใหม่ชอบหุ้นlow p/e คิดว่ามันปลอดภัยดี
แต่ทําไมราคาวิ่งช้าจังเลย
ต่อมาก็ชอบหุ้นgrowth ขึ้นลงเร็วดีสะใจ
เอ๊ะหุ้นturnarondก็เข้าท่านะ
ต่อมาก็commodities คราวนี้ได้บทเรียนราคาแพงมาก
แทบถอดใจเลิกลงทุนไปเลย
ตอนหลังนี่ยิ่งมั่วใหญ่ลงทุนแทบทุกกลุ่ม
ที่คิดว่ามีโอกาสทํากําไรในความเสี่ยงที่รับได้
เชื่อว่าอีกสักพักก็คงเปลี่ยนแนวลงทุนอีก
เลยไม่เจอแนวทางของตัวเองสักที
เล่นมั่วๆบ้าๆบอๆอยู่คนเดียว
พูดคนเดียวคิดคนเดียว
ไม่เคยร่วมmeetingเลย
ไม่เคยประชุมผู้ถือหุ้นสักครั้ง
ไม่เคยอบรมอะไรทั้งนั้น
สวรรค์ยังเมตตา
ทุกข์บ้างสุขบ้าง
กําไรบ้างขาดทุนบ้าง
พอร์ทก็ยังโตต่อเนื่องปีละ20-40เปอร์เซนต์
บอกตามตรงว่าอิจฉาคนที่มีแนวทางลงทุนของตัวเองที่มั่นคงแล้ว
หวังว่าสักวันระบบความคิดของตัวเองจะเข้าที่เข้าทางเสียที
มีแต่แนวทางของคนอื่นๆ
ตอนเริ่มใหม่ชอบหุ้นlow p/e คิดว่ามันปลอดภัยดี
แต่ทําไมราคาวิ่งช้าจังเลย
ต่อมาก็ชอบหุ้นgrowth ขึ้นลงเร็วดีสะใจ
เอ๊ะหุ้นturnarondก็เข้าท่านะ
ต่อมาก็commodities คราวนี้ได้บทเรียนราคาแพงมาก
แทบถอดใจเลิกลงทุนไปเลย
ตอนหลังนี่ยิ่งมั่วใหญ่ลงทุนแทบทุกกลุ่ม
ที่คิดว่ามีโอกาสทํากําไรในความเสี่ยงที่รับได้
เชื่อว่าอีกสักพักก็คงเปลี่ยนแนวลงทุนอีก
เลยไม่เจอแนวทางของตัวเองสักที
เล่นมั่วๆบ้าๆบอๆอยู่คนเดียว
พูดคนเดียวคิดคนเดียว
ไม่เคยร่วมmeetingเลย
ไม่เคยประชุมผู้ถือหุ้นสักครั้ง
ไม่เคยอบรมอะไรทั้งนั้น
สวรรค์ยังเมตตา
ทุกข์บ้างสุขบ้าง
กําไรบ้างขาดทุนบ้าง
พอร์ทก็ยังโตต่อเนื่องปีละ20-40เปอร์เซนต์
บอกตามตรงว่าอิจฉาคนที่มีแนวทางลงทุนของตัวเองที่มั่นคงแล้ว
หวังว่าสักวันระบบความคิดของตัวเองจะเข้าที่เข้าทางเสียที
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 876
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 46
ผมลงทุนมา 8 ปี
ช่วงปีแรก มั่ว ไม่มีหลักการ ขาดทุนเยอะ แต่ยังดีที่ลงเงินน้อย
ปี 2-3 ศึกษาแนวทางเทคนิค ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่กำไรมาก ศึกษาแล้วพบว่าเป็นแนวทางที่ชอบ แต่เผอิญต้องกลับมารับช่วงต่อกิจการที่บ้าน ทำให้ไม่มีเวลาในการ trade และสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆก็คือ Financial Freedom ซึ่งการที่ต้องนั่ง trade ตลอดเวลามันไม่ตอบโจทย์
ปี 4-5 ได้เข้าศึกษาแนวทาง VI จุดเปลี่ยนคือ การได้ไปฟังสัมมนาเปิดตัวหนังสือ "The Intelligent Investor" ของพี่เว็บ วันนั้นวิทยากรมี พี่เว็บ พี่ฉัตร พี่วิบูลย์ โดยมี Woody เป็นพิธีกร (ถ้าจำผิดขออภัย) ได้รู้จักกับเพื่อนใน Thaivi คนแรกคือ คุณ Oatty ได้เข้ามาในเว็บนี้ อ่านหนังสือแนว VI อีกหลายเล่ม รวมทั้งเข้าอบรมกับพี่มน (เพือนร่วมคอร์สก็มี หมอนุ่น หมอเค หมอ poppo) ทำให้มั่นใจและกล้านำเงินมาลงทุนมากขึ้น
ปัจจุบันกล้าพูดว่าหาแนวทางของตัวเองเจอแล้ว เป็นแนวทางผสมผสาน แม้ไม่ได้กำไรอะไรมโหฬารเหมือนเซียนท่านอื่น( 3 ปีนี้ได้ ประมาณ 3 เด้งเอง-แต่ประเมิณว่าตัวเองโชคดีด้วยเพราะซับไพร์ม) แต่ลงทุนแล้วสบายใจ กินอิ่มนอนหลับ ไม่ตื่นเต้นไปตามนายตลาดไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจแต่ฉกฉวยจังหวะจากความผันผวนของตลาดได้ เท่านี้ก็มั่นใจว่าปิดประตูขาดทุนถาวรไปแล้ว ที่เหลือคือต้องทำให้คงเส้นคงวาเท่านั้น เป้าหมายคือ 15-20% ต่อปีครับผม
ช่วงปีแรก มั่ว ไม่มีหลักการ ขาดทุนเยอะ แต่ยังดีที่ลงเงินน้อย
ปี 2-3 ศึกษาแนวทางเทคนิค ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่กำไรมาก ศึกษาแล้วพบว่าเป็นแนวทางที่ชอบ แต่เผอิญต้องกลับมารับช่วงต่อกิจการที่บ้าน ทำให้ไม่มีเวลาในการ trade และสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆก็คือ Financial Freedom ซึ่งการที่ต้องนั่ง trade ตลอดเวลามันไม่ตอบโจทย์
ปี 4-5 ได้เข้าศึกษาแนวทาง VI จุดเปลี่ยนคือ การได้ไปฟังสัมมนาเปิดตัวหนังสือ "The Intelligent Investor" ของพี่เว็บ วันนั้นวิทยากรมี พี่เว็บ พี่ฉัตร พี่วิบูลย์ โดยมี Woody เป็นพิธีกร (ถ้าจำผิดขออภัย) ได้รู้จักกับเพื่อนใน Thaivi คนแรกคือ คุณ Oatty ได้เข้ามาในเว็บนี้ อ่านหนังสือแนว VI อีกหลายเล่ม รวมทั้งเข้าอบรมกับพี่มน (เพือนร่วมคอร์สก็มี หมอนุ่น หมอเค หมอ poppo) ทำให้มั่นใจและกล้านำเงินมาลงทุนมากขึ้น
ปัจจุบันกล้าพูดว่าหาแนวทางของตัวเองเจอแล้ว เป็นแนวทางผสมผสาน แม้ไม่ได้กำไรอะไรมโหฬารเหมือนเซียนท่านอื่น( 3 ปีนี้ได้ ประมาณ 3 เด้งเอง-แต่ประเมิณว่าตัวเองโชคดีด้วยเพราะซับไพร์ม) แต่ลงทุนแล้วสบายใจ กินอิ่มนอนหลับ ไม่ตื่นเต้นไปตามนายตลาดไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจแต่ฉกฉวยจังหวะจากความผันผวนของตลาดได้ เท่านี้ก็มั่นใจว่าปิดประตูขาดทุนถาวรไปแล้ว ที่เหลือคือต้องทำให้คงเส้นคงวาเท่านั้น เป้าหมายคือ 15-20% ต่อปีครับผม
Take care of your loss and profit will take care itself.
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 47
ช่วงเล่นขำๆอยู่ 1-2 ปีครับ ไม่เคยคิดว่าจะรวยจากตลาดหุ้น
แต่หลังจากจับพลัดจับผลู ได้อ่าน The new buffettology แปลโดยท่าน WEB ก็เริ่มลงทุนจริงจังมาตั้งแต่บัดนั้น และไม่เคยเปลี่ยนแนวการลงทุนอีกเลย
แต่หลังจากจับพลัดจับผลู ได้อ่าน The new buffettology แปลโดยท่าน WEB ก็เริ่มลงทุนจริงจังมาตั้งแต่บัดนั้น และไม่เคยเปลี่ยนแนวการลงทุนอีกเลย
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 49
ของผมก็โชคดีมากที่มาแนวพื้นฐานตั้งแต่แรกๆ สงสัยจะตรงจริต แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไปคือ ความละเอียดลดลง timeframe ยาวขึ้น เน้นปัจจัยเชิงคุณภาพมากกว่าเดิม กลัวเจ๊งมากกว่าเดิม รู้สึกว่าตัวเองเก่งน้อยกว่าเดิม ขี้เกียจมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สุดท้ายขี้เกียจแม้กระทั่งจะเล่นหุ้น
It's earnings that count
- The Kop 71
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 271
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 50
เส้นทางการลงทุนแม้มาทางเดียวกัน...แต่
ต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน ขนาดของเงินลงทุนที่ต่างกัน
แนวทาง หลักการไม่หนีกัน
อยู่ที่ จิต จริต และความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ มั่นใจและมั่นคงในแบบฉบับของตัวเอง
อดทน รอคอย ค่อยๆเดิน
ไม่มีคำว่าสาย ในเส้นทางสายนี้ Vi
Walk slowly, live simply
ต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน ขนาดของเงินลงทุนที่ต่างกัน
แนวทาง หลักการไม่หนีกัน
อยู่ที่ จิต จริต และความต่อเนื่อง สม่ำเสมอ มั่นใจและมั่นคงในแบบฉบับของตัวเอง
อดทน รอคอย ค่อยๆเดิน
ไม่มีคำว่าสาย ในเส้นทางสายนี้ Vi
Walk slowly, live simply
เพราะสังคม..ประเมินค่า..ที่จนรวย
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 51
ตรงเป๊ะกับผมทุกอย่างเลย ไม่ต้องพิมพ์ขอก๊อปทั้งยวงเลยนะครับ หนูBlueblood เขียน:ของผมก็โชคดีมากที่มาแนวพื้นฐานตั้งแต่แรกๆ สงสัยจะตรงจริต แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไปคือ ความละเอียดลดลง timeframe ยาวขึ้น เน้นปัจจัยเชิงคุณภาพมากกว่าเดิม กลัวเจ๊งมากกว่าเดิม รู้สึกว่าตัวเองเก่งน้อยกว่าเดิม ขี้เกียจมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สุดท้ายขี้เกียจแม้กระทั่งจะเล่นหุ้น
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 53
ผมแรก ๆ ก็เริ่ม จากห่านทองค่ำก่อน เน้นรับปันผล
แล้วก็มา VI แต่ ด้วยที่ตอนนั้นยังอายุไม่มาก ทนรอไม่ค่อยไหว
รู้สึก อึด ๆ เลยมาเป็น เทคนิค บน พื้นฐาน เล่นรอบบ้าง
ต่อมา Momentum Trade แต่ไม่ตรงกับจริตตัวเอง
แล้วก็มาคิดว่า VI นี่แหละเหมาะกับตัวเอง และสอดคล้องกับงานประจำที่สุดแล้ว
(กว่าจะคิดว่าเหมาะก็ร่วม ๆ 3 ปี)
แนวทางที่เหมาะสม ผมตัดสินจาก ลงทุนแบบไหนแล้วนอนหลับ ไม่คิดมากเรื่องหุ้นก่อนนอน
ไม่รีบที่จะเช็คราคาหุ้น ดูการเคลื่อนไหว ลุ้นดาวโจน ไม่เบียดเบียนงานประจำ
เมื่อก่อนอยากรวยเร็ว ๆ แต่ไม่เคยสำเร็จ เลยจะขอรวยช้าๆ อย่างปลอดภัย
เติบโตไปกับ บ. ที่ผมมั่นใจ
ผมว่าผมเจอแนวทางที่เหมาะกับตัวเองในวันนี้แล้ว
แต่อนาคตก็ตามสภาพจริตตัวเอง ณ ตอนนั้น
แล้วก็มา VI แต่ ด้วยที่ตอนนั้นยังอายุไม่มาก ทนรอไม่ค่อยไหว
รู้สึก อึด ๆ เลยมาเป็น เทคนิค บน พื้นฐาน เล่นรอบบ้าง
ต่อมา Momentum Trade แต่ไม่ตรงกับจริตตัวเอง
แล้วก็มาคิดว่า VI นี่แหละเหมาะกับตัวเอง และสอดคล้องกับงานประจำที่สุดแล้ว
(กว่าจะคิดว่าเหมาะก็ร่วม ๆ 3 ปี)
แนวทางที่เหมาะสม ผมตัดสินจาก ลงทุนแบบไหนแล้วนอนหลับ ไม่คิดมากเรื่องหุ้นก่อนนอน
ไม่รีบที่จะเช็คราคาหุ้น ดูการเคลื่อนไหว ลุ้นดาวโจน ไม่เบียดเบียนงานประจำ
เมื่อก่อนอยากรวยเร็ว ๆ แต่ไม่เคยสำเร็จ เลยจะขอรวยช้าๆ อย่างปลอดภัย
เติบโตไปกับ บ. ที่ผมมั่นใจ
ผมว่าผมเจอแนวทางที่เหมาะกับตัวเองในวันนี้แล้ว
แต่อนาคตก็ตามสภาพจริตตัวเอง ณ ตอนนั้น
มองหุ้นเป็นธุรกิจ คิดในภาพใหญ่
http://likestock.wordpress.com/
เปลี่ยนไปใช้ log in --> likestock แทนครับ
http://likestock.wordpress.com/
เปลี่ยนไปใช้ log in --> likestock แทนครับ
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 54
ลงทุน มาได้ 1 ปีกว่าๆ ตอนนี้คิดว่าพอปะติดปะต่อภาพการลงทุนพอได้แล้ว
หาความรู้จากการอ่านหนังสือยอดนิยมต่างๆ และที่สำคัญคือ แนวคิดการลงทุนที่ตกผลึกแล้ว จากพี่ๆ ทั้งหลายใน Webboard แห่งนี้
(รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกซัก 5 ปี น่าจะพอเห็นผล -> อยากมีชื่อเป็น ผถห.ใหญ่ กะเค้าบ้าง อิอิ)
สิ่งสำคัญ ที่ทำตอนนี้คือ พยายามหาความรู้ ให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะ Back to Basic ของการลงทุน คือ Business, Finance, และการควบคุมอารมณ์ ครับ
หาความรู้จากการอ่านหนังสือยอดนิยมต่างๆ และที่สำคัญคือ แนวคิดการลงทุนที่ตกผลึกแล้ว จากพี่ๆ ทั้งหลายใน Webboard แห่งนี้
(รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อีกซัก 5 ปี น่าจะพอเห็นผล -> อยากมีชื่อเป็น ผถห.ใหญ่ กะเค้าบ้าง อิอิ)
สิ่งสำคัญ ที่ทำตอนนี้คือ พยายามหาความรู้ ให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะ Back to Basic ของการลงทุน คือ Business, Finance, และการควบคุมอารมณ์ ครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 55
นานครับ วงสวิง หรือ สไตล์ ของเราจะหายากหน่อย
แต่พอต่อยคู่ต่อสู้ลงไป TKO ได้ ครั้งต่อไป ก้รู้เองครับ เราต้องต่อยแบบไหน
ผมแนะนำว่า
อย่าพยายามใช้วงสวิงของคนอื่นเพียวๆ100% เพราะถ้าคุณตีลูกตาม ไทเกอร์วูดส์
คุณก้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไทเกอร์
จงตี ให้เหนือ กว่าไทเกอร์ ด้วยวงสวิงที่เรียนรู้จากไทเกอร์ และนำมาปรับให้เข้ากับเรา
นั่นแหล่ะครับ คือ วงสวิงของคุณ
ถ้า บัฟเฟต ตามเกรแฮมทุกอย่าง ก้คงเป็นไ้ด้แค่ เกรแฮม2 สิ่งที่บัฟเฟตเหนือกว่า
เกรแฮม คือ มีสไตล์ของตัวเอง
แต่พอต่อยคู่ต่อสู้ลงไป TKO ได้ ครั้งต่อไป ก้รู้เองครับ เราต้องต่อยแบบไหน
ผมแนะนำว่า
อย่าพยายามใช้วงสวิงของคนอื่นเพียวๆ100% เพราะถ้าคุณตีลูกตาม ไทเกอร์วูดส์
คุณก้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไทเกอร์
จงตี ให้เหนือ กว่าไทเกอร์ ด้วยวงสวิงที่เรียนรู้จากไทเกอร์ และนำมาปรับให้เข้ากับเรา
นั่นแหล่ะครับ คือ วงสวิงของคุณ
ถ้า บัฟเฟต ตามเกรแฮมทุกอย่าง ก้คงเป็นไ้ด้แค่ เกรแฮม2 สิ่งที่บัฟเฟตเหนือกว่า
เกรแฮม คือ มีสไตล์ของตัวเอง
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 57
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณraynusผู้ตั้งกระทู้นี้ครับ ...หลังจากอ่าน สไตล์ของแต่ละท่านในกระทู้แล้ว ..ทำให้ผมมีแรงบรรดาลใจ ..กลับไปเรียบเรียง คำพูดอธิบายสไตล์ของตัวเองออกมาสำเร็จครับ (ผมพยายามจะเขียนเรื่องนี้ มาราวๆ2-3เดือนได้แล้ว...แต่เขียนแล้วรู้สึกยังไม่ใช่ที่ตัวเองเป็นในตอนนี้)
ผมใช้เวลาก่อนหน้านี้ 2เดือน ..และ หลังได้แรงบันดาลใจ ใช้เวลาเรียบเรียงความคิดอยู่เป็นอาทิตย์ ..หวังเหลือเกินว่า จะมีประโยชน์ กับผู้ลงทุนใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอย่างที่ผมเคยเป็น ..และจะพบแนวทางที่ทำให้ลงทุนได้อย่างมีความสุขในที่สุดครับ
**เพื่อไม่ให้เป็นการรกเนื้อที่ ผมขอตัดมาบางส่วนนะครับ ..หากเพื่อนๆนักลงทุนมือใหม่/เพื่อนที่สนใจผ่านเข้ามาอ่านแล้วสนใจ อ่านเต็มได้ตามlink นะครับ (แต่ผมเอาหลักๆมาโพสในนี้แล้ว) http://eakii.wordpress.com/%E0%B9%81%E0 ... c-is-good/
ผมใช้เวลาก่อนหน้านี้ 2เดือน ..และ หลังได้แรงบันดาลใจ ใช้เวลาเรียบเรียงความคิดอยู่เป็นอาทิตย์ ..หวังเหลือเกินว่า จะมีประโยชน์ กับผู้ลงทุนใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอย่างที่ผมเคยเป็น ..และจะพบแนวทางที่ทำให้ลงทุนได้อย่างมีความสุขในที่สุดครับ
**เพื่อไม่ให้เป็นการรกเนื้อที่ ผมขอตัดมาบางส่วนนะครับ ..หากเพื่อนๆนักลงทุนมือใหม่/เพื่อนที่สนใจผ่านเข้ามาอ่านแล้วสนใจ อ่านเต็มได้ตามlink นะครับ (แต่ผมเอาหลักๆมาโพสในนี้แล้ว) http://eakii.wordpress.com/%E0%B9%81%E0 ... c-is-good/
=เรียบง่ายแบบEnergy_eak=(เนืองจาก พฐ. ความรู้ในการลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นความ ยาก/ง่าย ของอต่ละคนไม่เหมือนกัน)
เชื่อไหมว่า“สารัตถะ ไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดได้ ” เหมือนเช่น หากเราอยากรู้ว่าการได้กำไรมากกว่า1ล้าน ทำอย่างไร เราต้องพยายาม(ทุกทาง)ไปให้ถึงก่อนครับ หลังจากนั้นเราจะเข้าใจเองว่าทำได้ไง..และสามารถทำซ้ำได้เอง ..ดังนั้นต่อให้ผมอธิบายมากกว่านี้ก็ไม่จบแน่ๆ เอาเป็นยกกรณีผมเป็นตัวอย่างเลยละกันครับ..
**ก่อนอ่าน ขอย้ำว่า..จากประสบการณ์ที่เห็นเพื่อนๆพี่ๆ..พบว่าทุกแนวทางประสบความสำเร็จได้ครับ..ผมเพียงพูดถึงสิ่งที่ผมเป็นเท่านั้น**
จุดสังเกตุที่1.ผมเคยบอกว่า ตอนแรกๆ ผมเคยเล่นตามข่าว..เชื่อไหมครับ..ผมเคยอ่านข่าววันละเกิน3-4ชั่วโมง เนื่องจาก อ่านแล้ว ต้องวิเคราะห์+สรุปทุกเช้า(เหนื่อยครับ^_^”) …แต่ปัจจุบันผมอ่านข่าวน้อยมากๆๆๆ..วันๆนึง อ่านไม่ถึง20นาที+บางวันไม่อ่านเลย. สาเหตุเพราะ ผมไม่ชอบอะไรที่ไล่ตามกระแส ผมชอบอะไรที่คาดการได้ก่อน(ราวๆนี้)
จุดสังเกตุที2.ถัดจากนั้น ผมเคยเล่าว่า ผมลองไปศึกษากราฟเทคนิค .. ตอนใช้กราฟ วันๆ ผมก็นั่งแต่เคาะกราฟไปเรื่อยอะครับ วันละเยอะเลย ..แต่มีจุดสังเกตุคือตอนใชักราฟ ผมยังเอาแค่MACD, RSI, ENV มากกว่านี้ผมรูู้สึกว่ามันรุงรัง และยุ่งยากเกินไป(จริงแววมันบอกแต่แรกแล้วว่าชอบอะไรง่ายๆ^^”)…สาเหตุสำคัญอย่างนึงที่ผมเลิกใช้กราฟ เพราะ ผมไม่ชอบดูอะไรเยอะๆ ทุกวันๆ เอาง่ายๆว่า”ขี้เกียจ”+กับเป็นคนไม่ชอบระเบียบวินัยมากนักอะครับ
จุดสังเกตุที่3.ระหว่านั้น..ผมหัดเล่น พฐ.บอกตรงๆว่าเสียเวลา ตัดกับดัก การประเมินเชิงตัวเลข(เชิงปริมาณ)อยู่นานเลย(ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ใช่แนวผมเลย..คือผมคิดว่า ถ้ากดเครื่องคิดเลขตามนี้แล้วกำไร คนกำไรกันทั้งโลกแล้วอะ..แต่ต้องรู้บ้างนะครับ).. เคยเกือบจะเลิกศึกษาอยู่แล้วเชียว…แต่โชคดีที่เจอหนังสือOne Up on Wall Street ของ ปีเตอร์ ลินซ์ (ขอบพระคุณทีมงานหนังสือทุกท่าน) ..ถึงรู้ว่า เขามีการประเมินอะไรแบบที่ ผมคิดไม่ถึง เช่น แม้แต่”การคุยโทรศัพท์กับบริษัท”..มารู้ทีหลังว่าเขาเรียกประเมินเชิง “คุณภาพ” ….หลังจากนั้นผมก็ ศึกษานวทางนี้มาตลอด ..เปลี่ยนจากดูข่าว..มาดูสภาพแวดล้อมของธุรกิจ, เปลี่ยนจากดูทิศทางราคา..มาดูทิศทางของธุรกิจ ..และประมวลทุกอย่างออกมาเป็น”ภาพในใจ” ว่าดีหรือไม่ …ถ้าดีและน่าสนใจ ค่อยไปดู เรื่องเชิง”ปริมาณ” เอาทีหลังครับ….หากถามว่าใช้เวลานานไหม..บอกได้เลยว่า ดูข้อมูลเยอะครับ(บางทีเกิน8ชั่วโมง) แต่ผมรู้สึกว่าผมมีความสุข, ดูแล้วไม่เหนื่อย, ผมสามารถทำได้สบายใจ และ รู้สึกถูกกับจริตของตนเองครับ..และผมเพียงแค่ทำแบบนี้ซ้ำๆครับ โดยไม่สนใจด้านอื่นมากนัก^_^ …”นี่แหละง่ายแบบของผม”
-
- Verified User
- โพสต์: 100
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 58
ช่วยอธิบายหลักของสาย Reflexivity หน่อยได้ไหมครับ หรือควรหาข้อมูลศึกษาที่ไหน รู้สึกสนใจอยากศึกษาครับซุนเซ็ก เขียน:ผมเริ่มจากเป็น เม่า > เทคนิคอล > วีไอสายเนฟฟ์ > วีไอสายลินซ์ > Reflexivity
ผ่านมาเกือบ 5ปีแล้ว ผมก็ถือว่าเจอแนวทางตัวเองในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าในอนาคตผมเจออะไรที่มัน"เหมาะ"กับผมกว่า ผมก็จะเปลี่ยนไปหาสิ่งนั้น ไม่คิดจะหยุด
เป้าหมายของแต่ละคนทำให้แนวทางเราของต่างกันไป แนวทางที่ดีที่สุดของอีกคนก็อาจไม่เหมาะกับอีกคน
อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
เรามีเวลาลงทุนทั้งชีวิต ไม่ต้องกำไรเยอะๆ ต่อให้ทำได้แค่ปีละ 15-20% ก็รวยแล้ว...ขออย่างเดียว อย่าตาย(จากการลงทุน)ไปก่อน
- raynus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 720
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 59
Reflexivityhatehate เขียน:ช่วยอธิบายหลักของสาย Reflexivity หน่อยได้ไหมครับ หรือควรหาข้อมูลศึกษาที่ไหน รู้สึกสนใจอยากศึกษาครับซุนเซ็ก เขียน:ผมเริ่มจากเป็น เม่า > เทคนิคอล > วีไอสายเนฟฟ์ > วีไอสายลินซ์ > Reflexivity
ผ่านมาเกือบ 5ปีแล้ว ผมก็ถือว่าเจอแนวทางตัวเองในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าในอนาคตผมเจออะไรที่มัน"เหมาะ"กับผมกว่า ผมก็จะเปลี่ยนไปหาสิ่งนั้น ไม่คิดจะหยุด
เป้าหมายของแต่ละคนทำให้แนวทางเราของต่างกันไป แนวทางที่ดีที่สุดของอีกคนก็อาจไม่เหมาะกับอีกคน
อย่างเป้าหมายผมไม่ได้ต้องการกำไรสูงสุด แต่ต้องการปิดประตูการขาดทุนให้มากที่สุด แนวทางปัจจุบันมันตอบผมได้
เรามีเวลาลงทุนทั้งชีวิต ไม่ต้องกำไรเยอะๆ ต่อให้ทำได้แค่ปีละ 15-20% ก็รวยแล้ว...ขออย่างเดียว อย่าตาย(จากการลงทุน)ไปก่อน
เป็นทฤษฏีที่มีแนวคิดว่า จุดสมดุล ไม่มีอยู่จริง เป็นแค่เพียงจุดอ้างอิงครับ
คิดซะว่า เป็น เส้น ค่าเฉลี่ย ที่ ราคาหุ้นมักจะวิ่งอยู่เหนือ หรือใต้เส้นนี้ (ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขนาดนั้น)
แต่จะไม่วิ่งลงมาอยู่ที่เส้นเป๊ะๆ
เพราะว่าเวลาทุกคนมองในแง่ดี ก็จะมีคนมองในแง่ดีขึ้นเรื่อยๆ (เป็น positive feed back) จน
ตูม ! กลายเป็นโกโก้ครั้นช์
ก็จะมีคนมองในแง่ร้าย และร้ายขึ้นเรื่อยๆ (เป็น negative feedback) จน
ตูม !
กลับไปกลับมา
อะไรประมาณนั้นครับ
http://value-visions.blogspot.com/2011/ ... enger.html
ถ้าหนังสือก็
http://www.se-ed.com/eshop/Products/Det ... eSupport=1
สายปันผลครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 25
- ผู้ติดตาม: 0
Re: นานมั๊ยครับ กว่าจะหาแนวทางของตัวเองเจอ ?
โพสต์ที่ 60
ผมชอบเเนว VI ธรรมะ เน้นลงทุนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทและใช้ธรรมะมาพิจารณาในชีวิตประจำวัน ทุกอย่างมันไม่เเน่นอน ไม่เที่ยง ทำให้เวลาหุ้นตกก็ไม่ทุกข์มาก เวลาหุ้นขึ้นก็ดีใจไม่มาก ทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นธรรมดา ธรรมชาติเเบบธรรมะ