คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 1
ที่ขอนแก่น มีแก๊งค์สปาต้า
วัยรุ่นชาย2คน ควงมีดออกวิ่งราวกระเป๋า
ตบ เอามือถือ จี้คนตามตู้โทรศัพท์เอาเงิน
เมื่อบ่ายช่วงธนาคารจะปิด
มีโจรปล้นแบ๊งก์กรุงไทย สาขาย่อยมหาลัยขอนแก่น
เกิดยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพราะประชาชนรากหญ้าจนลง
อยากหาเงินแบบง่ายๆหรือเปล่าครับ
วัยรุ่นชาย2คน ควงมีดออกวิ่งราวกระเป๋า
ตบ เอามือถือ จี้คนตามตู้โทรศัพท์เอาเงิน
เมื่อบ่ายช่วงธนาคารจะปิด
มีโจรปล้นแบ๊งก์กรุงไทย สาขาย่อยมหาลัยขอนแก่น
เกิดยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพราะประชาชนรากหญ้าจนลง
อยากหาเงินแบบง่ายๆหรือเปล่าครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 2
http://www.komchadluek.net/news/2005/08 ... 59841.html
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2548
ไอ้โม่งบุกเดี่ยวจี้แบงก์รุงไทยหน้าม.ขอนแก่นกวาด2.4แสน
คนร้ายสวมไอ้โม่ง บุกเดี่ยวปล้นแบงก์กรุงไทย สายขาย่อย ม.ขอนแก่น หอบเงินสด 2.4 แสนหนี พบถูกยิงเจ็บหลังดวลกับตำรวจ ขณะยืนกดเอทีเอ็มหน้าแบงก์ ไม่สิ้นฤทธิ์ซิ่ง จยย.หนีเข้าป่า ระดมกำลังนับร้อย พร้อมขอ ฮ.ไล่ล่าทั้งเมือง ตำรวจคาดเป็นคนในพื้นที่ ฉวยโอกาสลงมือช่วงเผลอใกล้ปิดทำการ
เหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นธนาคารครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 2 สิงหาคม ร.ต.อ.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์เงินสด ภายในธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ 118/20 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดเจริญศรีทาวเวอร์กับ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงประสาน พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย รอง ผกก.ป.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบและไล่ล่าคนร้ายกว่า 100 นาย หลังคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ขี่หลบหนี
ที่เกิดเหตุพบบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ที่ 3-4 ภายในธนาคาร ซึ่งเป็นลิ้นชัก พบเจ้าหน้าที่ธนาคารประมาณ 10 คนยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสภาพตื่นตกใจ
สอบถามนางธราทิพย์ พันธุ์ศิวรักษ์ พนักงานเคาน์เตอร์ธนาคาร ได้ความว่า ในช่วงที่เกิดเหตุมีชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ หมวกไหมพรมสีดำ-แดง ใส่กางเกงยีนสีดำ สะพายกระเป๋าสีเหลือง ถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิดบุกเข้ามาในธนาคาร ท่ามกลางลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 20 คน จากนั้นคนร้ายได้ตะโกนพร้อมกับยกปืนขึ้นและบอกให้พนักงานทุกคนไปรวมตัวกันที่ด้านข้าง
จากนั้นก็ได้เข้าไปกวาดธนบัตรที่อยู่ในลิ้นชักของเคาน์เตอร์ที่ 3 และ 4 รวมเป็นเงิน 240,837.51 บาทก่อนจะวิ่งออกไปทางด้านหน้าธนาคาร เพื่อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ระหว่างที่คนร้ายวิ่งออกมาขณะนั้นได้มี ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ศิริสำราญ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้ยืนรอกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มบริเวณด้านหน้าธนาคาร กระทั่งเห็นลูกค้าที่อยู่ภายในหนีกระเจิงมาอยู่ด้านนอก ก่อนที่คนร้ายวิ่งหนีออกมา จึงพยายามเข้าไประงับเหตุจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น โดย ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ยิงสวนออกไป 3 นัดถูกคนร้ายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะเอว ก่อนรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ด้านหน้าธนาคารหลบหนีไป ส่วน ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ปลอดภัย
หลังจากนั้น ตำรวจได้ประสานไปยังทุกโรงพยาบาล ทุกสถานีอนามัยตามตำบลต่างๆ เนื่องจากคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงบาดเจ็บ ทั้งยังได้ประสานไปยัง ตชด.ภาค 2 ขอนแก่น เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนทางอากาศ และสกัดจับไปทุกสี่มุมเมืองของ จ.ขอนแก่น ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากได้ก่อเหตุในระหว่างเวลาที่ใกล้จะปิดทำการของธนาคาร คือเวลา 16.30 น. ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการระมัดระวัง อีกทั้งระหว่างเกิดเหตุมีเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัย 1 คน ซึ่งขึ้นไปเก็บเอกสารอยู่บริเวณชั้น 2 จึงทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยรักษาการอยู่ด้านล่าง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ พบว่า มีรอยนิ้วมือติดอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปแยกลายนิ้วมือ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายต่อไป
มีรายงานว่า สำหรับธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเทปวงจรปิดทั้งหมด 4 ตัว โดยอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ 2 ตัวและด้านหลังอีก 2 ตัว ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุเทปวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ทุกอิริยาบถ แต่ไม่สามารถมองเห็นหน้าของคนร้ายได้ เนื่องจากใส่หมวกไหมพรมปิดหน้าเอาไว้
พ.ต.ท.อนุกูล เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทยในครั้งนี้เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี คาดว่าต้องเป็นคนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เนื่องจากเลือกลงมือก่อเหตุในระหว่างที่ธนาคารจะปิดทำการ ซึ่งขณะนี้ตำรวจสามารถสะกดรอยตามคนร้ายได้จากประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่เห็นชายมีพิรุธขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าเข้าไปในป่าสาธารณะ บ้านโนนแต้ หมู่ 10 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
พ.ต.ท.อนุกูล ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานกำลังทุกส่วน ทั้งชุดสายสืบ ตำรวจชุดป้องกัน ตำรวจทางหลวง ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อพปร.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดอาวุธเต็มที่ ซึ่งจะจับคู่กันทำงานด้วยความระมัดระวังและเงียบที่สุด เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน โดยเดินหน้ากระดานเข้าไปในป่า พร้อมจัดกำลังอีกส่วนหนึ่งดักสกัดตามถนนสายต่างๆ ที่อยู่รอบพื้นที่ป่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2548
ไอ้โม่งบุกเดี่ยวจี้แบงก์รุงไทยหน้าม.ขอนแก่นกวาด2.4แสน
คนร้ายสวมไอ้โม่ง บุกเดี่ยวปล้นแบงก์กรุงไทย สายขาย่อย ม.ขอนแก่น หอบเงินสด 2.4 แสนหนี พบถูกยิงเจ็บหลังดวลกับตำรวจ ขณะยืนกดเอทีเอ็มหน้าแบงก์ ไม่สิ้นฤทธิ์ซิ่ง จยย.หนีเข้าป่า ระดมกำลังนับร้อย พร้อมขอ ฮ.ไล่ล่าทั้งเมือง ตำรวจคาดเป็นคนในพื้นที่ ฉวยโอกาสลงมือช่วงเผลอใกล้ปิดทำการ
เหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นธนาคารครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 2 สิงหาคม ร.ต.อ.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์เงินสด ภายในธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ 118/20 ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดเจริญศรีทาวเวอร์กับ รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงประสาน พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.อนุกูล ดาวลอย รอง ผกก.ป.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบและไล่ล่าคนร้ายกว่า 100 นาย หลังคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ขี่หลบหนี
ที่เกิดเหตุพบบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ที่ 3-4 ภายในธนาคาร ซึ่งเป็นลิ้นชัก พบเจ้าหน้าที่ธนาคารประมาณ 10 คนยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในสภาพตื่นตกใจ
สอบถามนางธราทิพย์ พันธุ์ศิวรักษ์ พนักงานเคาน์เตอร์ธนาคาร ได้ความว่า ในช่วงที่เกิดเหตุมีชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ หมวกไหมพรมสีดำ-แดง ใส่กางเกงยีนสีดำ สะพายกระเป๋าสีเหลือง ถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิดบุกเข้ามาในธนาคาร ท่ามกลางลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการประมาณ 20 คน จากนั้นคนร้ายได้ตะโกนพร้อมกับยกปืนขึ้นและบอกให้พนักงานทุกคนไปรวมตัวกันที่ด้านข้าง
จากนั้นก็ได้เข้าไปกวาดธนบัตรที่อยู่ในลิ้นชักของเคาน์เตอร์ที่ 3 และ 4 รวมเป็นเงิน 240,837.51 บาทก่อนจะวิ่งออกไปทางด้านหน้าธนาคาร เพื่อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ แต่ระหว่างที่คนร้ายวิ่งออกมาขณะนั้นได้มี ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ศิริสำราญ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.เมืองขอนแก่น ได้ยืนรอกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มบริเวณด้านหน้าธนาคาร กระทั่งเห็นลูกค้าที่อยู่ภายในหนีกระเจิงมาอยู่ด้านนอก ก่อนที่คนร้ายวิ่งหนีออกมา จึงพยายามเข้าไประงับเหตุจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น โดย ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ยิงสวนออกไป 3 นัดถูกคนร้ายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะเอว ก่อนรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ด้านหน้าธนาคารหลบหนีไป ส่วน ส.ต.ท.กิตติพงษ์ ปลอดภัย
หลังจากนั้น ตำรวจได้ประสานไปยังทุกโรงพยาบาล ทุกสถานีอนามัยตามตำบลต่างๆ เนื่องจากคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงบาดเจ็บ ทั้งยังได้ประสานไปยัง ตชด.ภาค 2 ขอนแก่น เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์บินลาดตระเวนทางอากาศ และสกัดจับไปทุกสี่มุมเมืองของ จ.ขอนแก่น ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากได้ก่อเหตุในระหว่างเวลาที่ใกล้จะปิดทำการของธนาคาร คือเวลา 16.30 น. ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการระมัดระวัง อีกทั้งระหว่างเกิดเหตุมีเพียงพนักงานรักษาความปลอดภัย 1 คน ซึ่งขึ้นไปเก็บเอกสารอยู่บริเวณชั้น 2 จึงทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยรักษาการอยู่ด้านล่าง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ พบว่า มีรอยนิ้วมือติดอยู่ในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำไปแยกลายนิ้วมือ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายต่อไป
มีรายงานว่า สำหรับธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเทปวงจรปิดทั้งหมด 4 ตัว โดยอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ 2 ตัวและด้านหลังอีก 2 ตัว ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุเทปวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ทุกอิริยาบถ แต่ไม่สามารถมองเห็นหน้าของคนร้ายได้ เนื่องจากใส่หมวกไหมพรมปิดหน้าเอาไว้
พ.ต.ท.อนุกูล เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกรุงไทยในครั้งนี้เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี คาดว่าต้องเป็นคนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เนื่องจากเลือกลงมือก่อเหตุในระหว่างที่ธนาคารจะปิดทำการ ซึ่งขณะนี้ตำรวจสามารถสะกดรอยตามคนร้ายได้จากประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่เห็นชายมีพิรุธขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าเข้าไปในป่าสาธารณะ บ้านโนนแต้ หมู่ 10 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่
พ.ต.ท.อนุกูล ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานกำลังทุกส่วน ทั้งชุดสายสืบ ตำรวจชุดป้องกัน ตำรวจทางหลวง ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อพปร.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดอาวุธเต็มที่ ซึ่งจะจับคู่กันทำงานด้วยความระมัดระวังและเงียบที่สุด เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน โดยเดินหน้ากระดานเข้าไปในป่า พร้อมจัดกำลังอีกส่วนหนึ่งดักสกัดตามถนนสายต่างๆ ที่อยู่รอบพื้นที่ป่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 3
น่าเศร้าใจครับ กับสภาวะข้าวยากน้ำมันแพง ค่าแรงถูก ผมว่าชนชั้นกลางก็จนลงเหมือนกันน่ะ ข้าวกะเพรา ปลาหมึก+ไข่ดาว แถวบ้านผม ขาย 45 บาทอ่ะ กินข้าววันหนึ่ง 3 มื้อ หมดไปเกินร้อย กุ้งใจจิง ต.ตังไม่ค่อยมี ม.เมียก็ยังไม่มี
*****
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 5
ผมก็รู้สึกว่าคนระดับรากหญ้า เริ่มมีปัญหาด้านการเงินหรือเปล่า
ที่ผมเห็นได้ชัด ห้องเช่า ที่มัดจำต่ำจะเต็มตลอด แสดงให้เห็นว่า
ความสามารถการใช้จ่ายการเงินคนระดับนี้ต่ำลง
ซึ่งน่าเป็นห่วง ด้านปัญหาสังคม อันจะนำไปสู่ผลกระทบ
คนที่มีรายได้สูงกว่า จะถูกแย่งหรือแบ่งปันโดยไม่เต็มใจเท่าไรนัก
สิ่งที่น่าจะพอแก้ไขได้คงต้องแก้ไขที่ค่านิยม
อยู่แต่พอเพียง ลดความฟุ่ยเฟือยทางวัถตุให้มากขึ้น
แต่เห็นหน้าหนึ่งทุกวัน มีแต่ข่าวฆ่ากันทุกวัน
ที่ผมเห็นได้ชัด ห้องเช่า ที่มัดจำต่ำจะเต็มตลอด แสดงให้เห็นว่า
ความสามารถการใช้จ่ายการเงินคนระดับนี้ต่ำลง
ซึ่งน่าเป็นห่วง ด้านปัญหาสังคม อันจะนำไปสู่ผลกระทบ
คนที่มีรายได้สูงกว่า จะถูกแย่งหรือแบ่งปันโดยไม่เต็มใจเท่าไรนัก
สิ่งที่น่าจะพอแก้ไขได้คงต้องแก้ไขที่ค่านิยม
อยู่แต่พอเพียง ลดความฟุ่ยเฟือยทางวัถตุให้มากขึ้น
แต่เห็นหน้าหนึ่งทุกวัน มีแต่ข่าวฆ่ากันทุกวัน
- moo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 6
เห็นด้วยมากครับสิ่งที่น่าจะพอแก้ไขได้คงต้องแก้ไขที่ค่านิยม
อยู่แต่พอเพียง ลดความฟุ่ยเฟือยทางวัถตุให้มากขึ้น
ทางหนึ่ง ผู้คนต้องควบคุมความต้องการทางวัตถุ ความต้องการตามกระแส
ทางหนึ่ง ผู้บริหารประเทศต้องลงมามองทางสังคมมากขึ้น
ไม่ใช่แค่การตลาดอย่างเดียว
ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
-
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 7
ตอนนี้ผมพยายามประหยัดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
กินข้าวมื้อละจาน เวลาจะสั่งอาหารก็ ข้าวกะเพราก็ไม่ใส่ไข่ดาว
เดินทางก็เรือ รถเมล์ รถไฟฟ้า
เลี่ยงมอเตอร์ไซค์ กับแท็กซี่ ถ้าไม่จำเป็น หรือรีบจริงๆ
ส่วนตัวผมคิดว่า ค่าเดินทางกับค่าอาหารการกินนี่แหละ
ตัวเปลืองเลยครับ ต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก่อนเลย
เพราะสองอย่างนี้มันแพงขึ้นทุกวัน
กินข้าวมื้อละจาน เวลาจะสั่งอาหารก็ ข้าวกะเพราก็ไม่ใส่ไข่ดาว
เดินทางก็เรือ รถเมล์ รถไฟฟ้า
เลี่ยงมอเตอร์ไซค์ กับแท็กซี่ ถ้าไม่จำเป็น หรือรีบจริงๆ
ส่วนตัวผมคิดว่า ค่าเดินทางกับค่าอาหารการกินนี่แหละ
ตัวเปลืองเลยครับ ต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก่อนเลย
เพราะสองอย่างนี้มันแพงขึ้นทุกวัน
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 8
ผมว่าจนรวยอยู่ที่วินัยการใช้เงินครับ อย่ามาอ้างเหตุทำชั่วเลย ผมเห็นพวกที่ปล้นหรือขโมยนี่เพื่อนำเงินมาซื้อมือถือรุ่นใหม่ๆขี่มอไซค์อวดสาวทั้งนั้น ถ้าหิวข้าวไม่มีจะกินจริงๆทำไมไม่ไปปล้นร้านข้าวขาหมูเอามากินสักจานล่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 359
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 9
** คนจนนี่มันจนจ้นจน เป็นความเคยชินไปหมดแล้ว
แบบรากหญ้าจริงๆ ก็อดไป ทนไป เข้าวัด ใส่บาตรไปตามเท่าทีมี
แต่ประเภทจี้ปล้นนี่มันเป็นไปตามความอยาก..กิเลส..ที่คุมไม่ได้ของคนด้อยปัญญา
คิดหาทางลัด..ที่แค่ได้มาแล้วก้อ ใช้ไปแบบวูบ วาบ ในที่สุดก้อเข้าคุกทุกที..
ทำไมคิดได้แค่นี้หนอ......อยากมีตังค์ต้องทำงาน หนักเอา เบา สู้
ทำมาหากินแบบสุจริต แบบมีน้อยใช้น้อย ค่อยอดออมเอาสิพี่น้องเอ๋ย... .**
แบบรากหญ้าจริงๆ ก็อดไป ทนไป เข้าวัด ใส่บาตรไปตามเท่าทีมี
แต่ประเภทจี้ปล้นนี่มันเป็นไปตามความอยาก..กิเลส..ที่คุมไม่ได้ของคนด้อยปัญญา
คิดหาทางลัด..ที่แค่ได้มาแล้วก้อ ใช้ไปแบบวูบ วาบ ในที่สุดก้อเข้าคุกทุกที..
ทำไมคิดได้แค่นี้หนอ......อยากมีตังค์ต้องทำงาน หนักเอา เบา สู้
ทำมาหากินแบบสุจริต แบบมีน้อยใช้น้อย ค่อยอดออมเอาสิพี่น้องเอ๋ย... .**
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 11
ตอนเศรษฐกิจดี ก็มีโจรปล้น
แต่ข่าวไม่จินตนาการเชื่อมโยงไป
ถึงปัญหาเศรษฐกิจ
ข่าวที่ออก และที่คนคิดคงเป็นอีกแบบหนึ่ง
ปัญหาอยู่ที่สังคม การศึกษา
พ่อแม่ มีลูกแต่ไม่รับผิดชอบอบรมสั่งสอน (บางส่วน อิอิ)
คิดแค่ว่ามีข้าว มีเงินเลี้ยงดู คือรับผิดชอบแล้ว
ทำตัวอย่างไม่ดีแก่ลูก เช่นแซงคิว ด่าทอ กินเหล้าเมายา ฯลฯ
แต่ข่าวไม่จินตนาการเชื่อมโยงไป
ถึงปัญหาเศรษฐกิจ
ข่าวที่ออก และที่คนคิดคงเป็นอีกแบบหนึ่ง
ปัญหาอยู่ที่สังคม การศึกษา
พ่อแม่ มีลูกแต่ไม่รับผิดชอบอบรมสั่งสอน (บางส่วน อิอิ)
คิดแค่ว่ามีข้าว มีเงินเลี้ยงดู คือรับผิดชอบแล้ว
ทำตัวอย่างไม่ดีแก่ลูก เช่นแซงคิว ด่าทอ กินเหล้าเมายา ฯลฯ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 12
พูดถึงมารยาทสังคม
ขอใช้กระทู้นี้เล่าให้ฟัง
ว่านิสัยคนสมัยนี้มันเป็นอย่างนี้แล้ว
ไม่จำกัดว่ารากหญ้าหรือยอดหญ้า
ตอนงานสหพัฒน์แฟร์
ผมกับภรรยานั่งกินที่ศูนย์อาหารในศูนย์สิริกิต
ผมลุกไปซื้ออาหาร ภรรยาผมนั่งกินอยู่คนเดียว
พอกลับมาภรรยาผมเล่าว่า
เมื่อกี้ยายคุณนายสามคนที่โต๊ะถัดไป
มัน เอ๊ยเธอไม่ยอมรอคนเก็บกวาดโต๊ะให้สะอาด
จัดการยกพวกจานชามอาหาร ที่คนอื่นกินเสร็จแล้วทิ้งไว้
จากโต๊ะที่ตัวเองจะนั่ง
มาวางไว้ที่โต๊ะที่ภรรยาผมนั่ง
ตอนผมกลับมาที่โต๊ะ
ดีที่คนเก็บจานชาม มาเก็บไปจากโต๊ะแล้ว
ไม่งั้นอาจจะต้องมีเรื่อง
เพราะผมต้องยกกลับไปวางที่โต๊ะ
พวกคุณนายตีนแดงตะแคงตีนเดินแน่ๆ
ขอใช้กระทู้นี้เล่าให้ฟัง
ว่านิสัยคนสมัยนี้มันเป็นอย่างนี้แล้ว
ไม่จำกัดว่ารากหญ้าหรือยอดหญ้า
ตอนงานสหพัฒน์แฟร์
ผมกับภรรยานั่งกินที่ศูนย์อาหารในศูนย์สิริกิต
ผมลุกไปซื้ออาหาร ภรรยาผมนั่งกินอยู่คนเดียว
พอกลับมาภรรยาผมเล่าว่า
เมื่อกี้ยายคุณนายสามคนที่โต๊ะถัดไป
มัน เอ๊ยเธอไม่ยอมรอคนเก็บกวาดโต๊ะให้สะอาด
จัดการยกพวกจานชามอาหาร ที่คนอื่นกินเสร็จแล้วทิ้งไว้
จากโต๊ะที่ตัวเองจะนั่ง
มาวางไว้ที่โต๊ะที่ภรรยาผมนั่ง
ตอนผมกลับมาที่โต๊ะ
ดีที่คนเก็บจานชาม มาเก็บไปจากโต๊ะแล้ว
ไม่งั้นอาจจะต้องมีเรื่อง
เพราะผมต้องยกกลับไปวางที่โต๊ะ
พวกคุณนายตีนแดงตะแคงตีนเดินแน่ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 13
อยากรู้จังว่า คุณ Supra ค้นหาอิสรภาพ จากแห่งหนใดครับ
ตอบคุง think มันก็อยู่ที่ใจของแต่ละคนน่ะครับ ว่ายังไงหากเรายังแสวงหาความต้องการที่เกินพอดี มันก็จะไม่มีความพอดี ซึ่งความพอดีก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคนครับ ผมขอแค่มีเงินเลี้ยงชีวิตตัวเอง ดูแลพ่อและแม่ยามแก่เถ้า ให้ดีไม่ลำบาก มีเงินพอช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากตามอัตภาพของตนก็พอใจแว้ว โดยสุขภาพตนเองต้องดี จิตใจแจ่มใส
*****
-
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 15
ผมเห็นสิ่งที่ลงไปถึงรากหญ้ารากเหง้าจริงๆในรัฐบาลนี้มีแค่สองอย่าง คือ Personal Loan กับ SMS ครับ
คุณ Supra ครับถ้าสนใจค้นหาวิธีค้นพบความสุขและอิสรภาพด้วยการค้นพบและเข้าใจตัวเอง ลองทางนั่งสมาธิวิปัสสนาดูก็ช่วยตอบคำถามในใจที่ทางโลกตอบไม่ได้พอสมควรนะครับ ผมเคยไปปฏิบัติกับ International Course ที่ปราจีนบุรีมา เข้มหน่อยนะครับ 10 วัน ไม่มีค่าใช้จ่ายมีแต่ค่ารถ และก็แล้วแต่จะบริจาค ถ้าสนใจดูข้อมูลเอาเองนะครับที่ www.dhamma.org
บางทีชีวิตก็น่าเบื่อเหมือนกันกับการแก่งแช่งดี เอารัดเอาเปรียบกันเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกวันในสังคม
-
- Verified User
- โพสต์: 107
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 16
[qoute="Supra"] มันก็อยู่ที่ใจของแต่ละคนน่ะครับ [/qoute]
เห็นด้วยเลย...เพราะเหมือนกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้ศึกษากายยาววาหนาศอก...
ได้เป็นอิสระแล้ว มาช่วยๆกันบ้างน่ะ
รากหญ้าอาจจะไม่ได้จนลง แต่ใช้สิ่งที่ไม่จำเป็นมากขึ้น
หัวขโมยอาจจะไม่ได้อดอยาก แต่ต้องการสิ่งปรุงแต่งในชีวิตเพิ่มเติม
... ไม่เพียงพอ หรือ ไม่พอเพียง ...
เห็นด้วยเลย...เพราะเหมือนกับที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ให้ศึกษากายยาววาหนาศอก...
ได้เป็นอิสระแล้ว มาช่วยๆกันบ้างน่ะ
รากหญ้าอาจจะไม่ได้จนลง แต่ใช้สิ่งที่ไม่จำเป็นมากขึ้น
หัวขโมยอาจจะไม่ได้อดอยาก แต่ต้องการสิ่งปรุงแต่งในชีวิตเพิ่มเติม
... ไม่เพียงพอ หรือ ไม่พอเพียง ...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 17
ตลาดหลักทรัพย์มีส่วนให้เกิดความอยากมากขึ้นหรือไม่ครับ
บริษัทต่างๆที่จดทะเบียนในตลาดมักจะต้องมียอดขายและผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นทุกๆไตรมาส ถ้าลดลงหรือเท่าเดิม ก็จะไม่เป็ฯที่พอใจแก่นักลงทุน ผู้จัดการกองทุน
ดังนั้นผู้บริหารแต่ละบริษัทก็ต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะขยายฐานลูกค้า ขยายรายได้ และขยายกำไร
ถ้าบริษัทต่างๆเหล่านั้นไม่อยู่ในตลาด ไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุน อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องขยายลูกค้ามากขึ้นเท่าไร ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติบโตของรายได้และผลกำไร
บริษัทต่างๆที่จดทะเบียนในตลาดมักจะต้องมียอดขายและผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นทุกๆไตรมาส ถ้าลดลงหรือเท่าเดิม ก็จะไม่เป็ฯที่พอใจแก่นักลงทุน ผู้จัดการกองทุน
ดังนั้นผู้บริหารแต่ละบริษัทก็ต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะขยายฐานลูกค้า ขยายรายได้ และขยายกำไร
ถ้าบริษัทต่างๆเหล่านั้นไม่อยู่ในตลาด ไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุน อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องขยายลูกค้ามากขึ้นเท่าไร ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติบโตของรายได้และผลกำไร
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 18
พี่ฉัตรชัยพูดก็ถูกนะครับ แต่ก็ขัดความรู้สึกจัง(เพราะเราอยากให้เขาลงทุนแทนเรา)
แต่ที่ตั้งใจไว้ ผมก็จะไม่ลงทุนกับบริษัทที่เป็นอบายมุขหรือเอาเปรียบลูกค้ามากๆครับ
เช่น ช. เข้าตลาดถึงถูกผมก็ไม่เอา
แต่ที่ตั้งใจไว้ ผมก็จะไม่ลงทุนกับบริษัทที่เป็นอบายมุขหรือเอาเปรียบลูกค้ามากๆครับ
เช่น ช. เข้าตลาดถึงถูกผมก็ไม่เอา
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- CEO
- Verified User
- โพสต์: 1243
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 19
ผมว่า pressure จากผู้ถือหุ้นหรือบอร์ดนี่แหละสุดๆแล้วครับ
กระแสมันพาไป
คนจนก็ยังจนอยู่
จะให้เขารวยมาจากไหนละครับ
ก็รายจ่ายมันวิ่งแซงรายรับนี่ครับ
กระแสมันพาไป
คนจนก็ยังจนอยู่
จะให้เขารวยมาจากไหนละครับ
ก็รายจ่ายมันวิ่งแซงรายรับนี่ครับ
การซื้อกิจการอาจไม่ใช่การเทคโอเวอร์ และการเทคโอเวอร์ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าซื้อหุ้น..
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 20
ตลาดหลักทรัพย์มีส่วนให้เกิดความอยากมากขึ้นหรือไม่ครับ
บริษัทต่างๆที่จดทะเบียนในตลาดมักจะต้องมียอดขายและผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นทุกๆไตรมาส ถ้าลดลงหรือเท่าเดิม ก็จะไม่เป็ฯที่พอใจแก่นักลงทุน ผู้จัดการกองทุน
ดังนั้นผู้บริหารแต่ละบริษัทก็ต้องพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะขยายฐานลูกค้า ขยายรายได้ และขยายกำไร
ถ้าบริษัทต่างๆเหล่านั้นไม่อยู่ในตลาด ไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุน อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องขยายลูกค้ามากขึ้นเท่าไร ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติบโตของรายได้และผลกำไร
อืมมน่าคิดน่ะครับพี่ ฉัตรชัย แต่ความจริงมันขัดๆแย้ง ในตัวของมันเองอยู่เหมือนกันน่ะครับ ไม่อยากได้กำไร แล้วมาทำธุรกิจทำไม ทำก็เพราะอยากได้กำไร ก็ต้องเพิ่มความสามารถอีก เอ แล้วกำไรแค่ไหนถึงพอกับธุรกิจ อืมมมม ..........................
*****
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 21
ขอบคุงครับสำหรับคำแนะนำดีๆๆคุณ Supra ครับถ้าสนใจค้นหาวิธีค้นพบความสุขและอิสรภาพด้วยการค้นพบและเข้าใจตัวเอง ลองทางนั่งสมาธิวิปัสสนาดูก็ช่วยตอบคำถามในใจที่ทางโลกตอบไม่ได้พอสมควรนะครับ ผมเคยไปปฏิบัติกับ International Course ที่ปราจีนบุรีมา เข้มหน่อยนะครับ 10 วัน ไม่มีค่าใช้จ่ายมีแต่ค่ารถ และก็แล้วแต่จะบริจาค ถ้าสนใจดูข้อมูลเอาเองนะครับที่ www.dhamma.org
*****
-
- Verified User
- โพสต์: 314
- ผู้ติดตาม: 0
คนระดับล่างรากหญ้าจนลง
โพสต์ที่ 22
ได้อ่านหนังสือของ ดร ไสว บุญมา ได้แนวคิดที่ดีดังนี้ครับ ไทยกับญี่ปุ่น ถูกบังคับให้เปิดประเทศเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว เมื่อฝรั่งเข้ามาเป็นครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้ฝรั่งนำเอาวิทยาการที่เขาได้จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้เขาก้าวหน้าผิดกับเรามาก
ไทยและญี่ปุ่นต่างตระหนักถึงเรื่องนี้ดี แต่ประเทศเราเน้นการพัฒนาด้านการบริโภคให้ทัดเทียม ไม่เหมือนกับญี่ปุ่นที่พยายามพัฒนาด้านการผลิต แต่การบริโภคเขาก็ยังคงวัฒนธรรมเช่นเดิมไว้ ทำให้เงินออมเขาสูงมาก ทำให้ภาคการลงทุนไม่ต้องไปยืมต่างประเทศมา ผิดกับเราครับ อ้อ การบังคับให้ถูกเปิดประเทศนั้นเกิดพร้อมกันนะครับ แต่ดูการพัฒนาที่ต่างกันครับในปัจจุบัน :lol:
ไทยและญี่ปุ่นต่างตระหนักถึงเรื่องนี้ดี แต่ประเทศเราเน้นการพัฒนาด้านการบริโภคให้ทัดเทียม ไม่เหมือนกับญี่ปุ่นที่พยายามพัฒนาด้านการผลิต แต่การบริโภคเขาก็ยังคงวัฒนธรรมเช่นเดิมไว้ ทำให้เงินออมเขาสูงมาก ทำให้ภาคการลงทุนไม่ต้องไปยืมต่างประเทศมา ผิดกับเราครับ อ้อ การบังคับให้ถูกเปิดประเทศนั้นเกิดพร้อมกันนะครับ แต่ดูการพัฒนาที่ต่างกันครับในปัจจุบัน :lol: