คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
-
- Verified User
- โพสต์: 145
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 1
อเมริกา ประเทศประชาธิปไตย มีการพูดถึงการแบ่งแยกดินแดน อยากแบ่งเท็กซัส ออกมาจาก คอนโดลิซาสเตท รัฐบาล เขาก็ปล่อยให้พูดไป เพราะ ตราบใดที่พูดได้... เขาก็ไม่จับอาวุธ
แต่ละประเทศขบวนการ แบ่งแยกดินแดน มีเสมอ เหมือนน้ำในกระติกร้อน... เผาน้ำอยู่เรื่อย ถ้าฝาปิดแน่นเกินไป... กระติกก็ระเบิด
ต้องเผยอฝาออกบ้าง...ให้ไอน้ำออกมา ให้เขามีโอกาสระบาย
อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสร้างคณะกรรมการ อิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) บอก
ตราบใดที่เขาไม่ใช้อาวุธ ตราบใดที่เขาไม่ใช้ความรุนแรง ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดกฎหมาย...ก็ไม่เป็นไร
ถ้าไปอุ้มเขา ไปยิงเขา ไม่ยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรม จารีต...ใช้ความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์...จะเป็นผลประโยชน์จากนโยบายราชการหรือเปล่า หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้านธุรกิจ...ไม่ได้
อานันท์ บอกว่า ถ้าไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ทำเกินขอบเขตขบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม คนไทยต้องไม่ยอมรับและรับไม่ได้
รัฐบาลต้องแสดงออกมาด้วยความจริงใจ...ที่บอกว่า...ขณะนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว จากที่ใช้การปราบอย่างเดียว...มาเป็นสันติวิธี ไม่ใช่แต่พูด ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์
ไม่ใช่แต่พูดแต่ข้างบนอย่างเดียว ต้องแน่ใจด้วยว่าทั้งกระบวน การตั้งแต่หัวถึงหาง เดินไปในทิศทางสันติวิธี
สันติวิธีไม่ได้ละทิ้งการปราบ ไม่ใช่ยอมจำนนกับผู้ไม่หวังดี ผู้ก่อการร้าย แต่ต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ในกรอบของกฎหมาย กรอบสิทธิมนุษยชนในกรอบมนุษยธรรม
ทุกสังคม...ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจะเกิดความรู้สึกว่า เขายังเป็นประชาชนประเภทสอง ยังได้รับความดูถูกดูแคลน
ปัญหาสำคัญมากที่ต้องย้ำ เหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นจับคนผิดไม่ได้ เหตุผลหนึ่งมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือความเกรงกลัวทำให้ไม่มีใครพูด
คนมุสลิมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เมื่อไม่มีคนพูด พยานปากแทบจะไม่มี ความจำเป็นต้องใช้พยานด้านวิทยาศาสตร์...นิติวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีปัญหาเจ้าหน้าที่จะทำงาน ทหารก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ...ตำรวจก็ไม่ให้เข้าไปยุ่ง...ก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลใด
ประชาชนยิ่งสงสัย...แล้วอย่างนี้ทหารตำรวจมีอะไรที่จะปกปิด หรือทหารตำรวจมีความผูกโยง มีความข้องเกี่ยวกับคดี?
กอส.คุยกับท่านนายกฯแล้ว ตกลงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือใหญ่ ทำงานร่วมกับทหารตำรวจ แต่พอมีคำสั่งลงไปในระดับปฏิบัติก็มีคนทำคนเดียว
กอส.จะไปสั่งรัฐบาลก็ไม่ได้ อานันท์ ว่า
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำความจริงให้ชาวบ้านเข้าใจ ทุกเรื่องจะถึงตัวนายกฯ... หลายคนถูกอุ้มหาย คนในพื้นที่สงสัยมานานแล้ว คุณทักษิณสั่งหรือเปล่า?
ถ้าไม่ให้ความกระจ่าง...คนเหล่านี้หายไปไหน หายไปอย่างไร อยู่ที่ไหน ก็ถึงตัวคุณแน่
บางทีก็อาจไม่เป็นธรรมกับท่านนายกฯ แต่นายกฯมีอำนาจที่จะแก้ไข ให้ความกระจ่างแจ้งได้...รู้ว่าใครอุ้มก็บอกมา สร้างกระบวนการสอบสวนอย่างจริงจัง
คุยกับครอบครัวผู้เป็นเหยื่อ หลักศาสนาอิสลามไม่ได้สอนให้แก้แค้น... โกรธเคือง แต่ชาวบ้านเขาอยากรู้ความจริง
สังคมที่ไม่ขวนขวายหาความจริง ไม่สนใจเรื่องความจริง ผมว่าสังคมนั้นด้อยคุณภาพ
สังคมไหนที่มีแต่คนใจแคบ ยึดแต่ตัวเอง พวกพ้อง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง สังคมนั้นย่อมเจริญไปไม่ได้
สังคมไทย...คนจำนวนไม่น้อยใจแคบ เอาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว ไม่มองถึงความรู้สึก ความนึกคิด...สิทธิของคนอื่น หรือความหวัง ของคนอื่น
อานันท์ บอกอีกว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เมื่อเกิดความกลัวแล้วจะทำอะไรก็เป็นไปในลักษณะฟันต่อฟัน...ตาต่อตา ก็ไม่จบ
อิสราเอล ในดินแดนปาเลสไตน์อาหรับสู้กันมาเกือบ 50 ปีแล้ว...ในไอร์แลนด์ ก็สู้กันมาเกือบ 20 ปี...ตายเกือบ 7 หมื่นกว่าคน
แต่ในไอร์แลนด์มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มหัวรุนแรงที่เรียกว่าขบวนการไอริช รีพับลิกันอาร์มี่ เข้าไปนั่งในสภา...ภายใต้พรรคการเมืองได้
รัสเซียก็มีปัญหาในแคชเมียร์ รัฐหนึ่งในประเทศรัสเซีย คนส่วนใหญ่ เป็นคนมุสลิม และอีกหลายประเทศก็มีปัญหายืดเยื้อ...มักเริ่มจากการมีปัญหากับชนส่วนน้อย
สรุปแล้ว...เราต้องดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ดีกว่านี้ ด้านการปกครอง ด้านบริหาร เราควรให้การยอมรับและเคารพต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของคนทั้งสองฝ่าย
เราต้องเคารพความเป็นพุทธของคนไทยที่นั่นเหมือนกัน เขาเป็น คนส่วนน้อย เขาก็มีความกลัว...คนไทยพุทธก็ถูกฆ่าทุกวัน ขณะเดียวกัน คนไทยมลายู คนไทยมุสลิมก็ถูกฆ่าทุกวัน...ก็ไม่รู้ว่าใครฆ่ากันแน่ จับก็จับไม่ได้...เราก็ต้องเคารพ
อานันท์ย้ำว่า...คนในพื้นที่ต้องได้รับความยุติธรรมทุกกลุ่ม
ถ้ารัฐไม่สามารถให้ความสงบเกิดขึ้นได้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในระยะอันใกล้นี้...ผมถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบ
รัฐมีกลไกอยู่แล้ว มีข้าราชการด้านการปกครอง มีตำรวจ เดี๋ยวนี้ก็มีทหาร มีหน่วยงานทุกอย่าง...หน้าที่รักษาความสงบประจำวันเป็นหน้าที่ของรัฐ
ถ้ารักษาความสงบประจำวันไม่ได้ โอกาสสร้างความสงบ สันติสุข ในระยะยาว...ก็น้อยลงไป
สังคมไทยเป็นสังคมที่หลากหลาย อยู่รวมกันหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา และก็อยู่ด้วยความสุข ความสงบ เราต้องเข้าใจลึกซึ้ง ต้องเรียนประวัติศาสตร์
อย่าลืมว่าคนจีน พม่า มอญ ที่พลัดถิ่นมา...ต่างกับคนมลายูที่อยู่มานาน ก่อนเป็นรัฐปัตตานี...ซึ่งเฟื่องฟูมาก แล้วก็เป็นท่าเรือใหญ่ ยุคอาณาจักรมัชปาหิต อาณาจักรศรีวิชัย
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
วิธีแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ เราต้องรู้ประวัติศาสตร์ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็ปัญหาเดิม...สาเหตุก็สาเหตุเดิม... วิธีแก้ไขก็ใช้แบบเดิม
เหมือนคำพังเพยที่ว่า...คนเราถ้าไม่รู้จักประวัติศาสตร์ เราก็จะเป็นเหยื่อของประวัติศาสตร์ตลอดเวลา
ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ เรารู้ความผิดพลาด และรู้ความสำเร็จ เราก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เราจะไม่ทำซ้ำ...ถ้าไม่อ่าน ไม่สนใจประวัติศาสตร์...เราก็จะทำซ้ำ
การจะเอาเงินไปช่วยเหลือคนสามจังหวัดใต้ รัฐบาลใจดี...ตั้งงบประมาณ แต่เงินนี้ก็ไปไม่ค่อยถึง...เอาเงินจากสลากกินแบ่งมา คนมุสลิมรับเงินจากลอตเตอรี่ไม่ได้
นี่คือความไม่เข้าใจ คนไม่มีอำนาจไม่เข้าใจ...ไม่เป็นไร แต่ผู้ ที่มีอำนาจต้องเข้าใจมาก...การตัดสินในเรื่องนโยบายหรือมาตรการใดๆ โดยไม่มีพื้นฐานความรู้...ความจริง ย่อมตัดสินผิดทุกที
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักการบริหารแบบซีอีโอ...ไม่ได้เป็นของเสียหาย ปัญหาภาคใต้ไม่เรียนรู้ไม่ได้ ไม่เรียนรู้ไม่มีใครเก่ง อยู่ที่ว่าจะพร้อม...จะเรียน พร้อมที่จะรับความจริงมากแค่ไหน...
อย่าหลอกตัวเอง การหลอกตัวเองคือการฆ่าตัวเอง.
จากไทยรัฐ วันเสาร์ ที่ผ่านมา
สำหรับผมกับสิ่งที่เขาพูด
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
ผมไม่อาจหาคำบรรยายได้
แต่รู้อย่างเดียว สมัคร ฟิวขาด
แต่ละประเทศขบวนการ แบ่งแยกดินแดน มีเสมอ เหมือนน้ำในกระติกร้อน... เผาน้ำอยู่เรื่อย ถ้าฝาปิดแน่นเกินไป... กระติกก็ระเบิด
ต้องเผยอฝาออกบ้าง...ให้ไอน้ำออกมา ให้เขามีโอกาสระบาย
อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสร้างคณะกรรมการ อิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) บอก
ตราบใดที่เขาไม่ใช้อาวุธ ตราบใดที่เขาไม่ใช้ความรุนแรง ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดกฎหมาย...ก็ไม่เป็นไร
ถ้าไปอุ้มเขา ไปยิงเขา ไม่ยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรม จารีต...ใช้ความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์...จะเป็นผลประโยชน์จากนโยบายราชการหรือเปล่า หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้านธุรกิจ...ไม่ได้
อานันท์ บอกว่า ถ้าไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ทำเกินขอบเขตขบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม คนไทยต้องไม่ยอมรับและรับไม่ได้
รัฐบาลต้องแสดงออกมาด้วยความจริงใจ...ที่บอกว่า...ขณะนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว จากที่ใช้การปราบอย่างเดียว...มาเป็นสันติวิธี ไม่ใช่แต่พูด ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์
ไม่ใช่แต่พูดแต่ข้างบนอย่างเดียว ต้องแน่ใจด้วยว่าทั้งกระบวน การตั้งแต่หัวถึงหาง เดินไปในทิศทางสันติวิธี
สันติวิธีไม่ได้ละทิ้งการปราบ ไม่ใช่ยอมจำนนกับผู้ไม่หวังดี ผู้ก่อการร้าย แต่ต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ในกรอบของกฎหมาย กรอบสิทธิมนุษยชนในกรอบมนุษยธรรม
ทุกสังคม...ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจะเกิดความรู้สึกว่า เขายังเป็นประชาชนประเภทสอง ยังได้รับความดูถูกดูแคลน
ปัญหาสำคัญมากที่ต้องย้ำ เหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นจับคนผิดไม่ได้ เหตุผลหนึ่งมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือความเกรงกลัวทำให้ไม่มีใครพูด
คนมุสลิมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เมื่อไม่มีคนพูด พยานปากแทบจะไม่มี ความจำเป็นต้องใช้พยานด้านวิทยาศาสตร์...นิติวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีปัญหาเจ้าหน้าที่จะทำงาน ทหารก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ...ตำรวจก็ไม่ให้เข้าไปยุ่ง...ก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลใด
ประชาชนยิ่งสงสัย...แล้วอย่างนี้ทหารตำรวจมีอะไรที่จะปกปิด หรือทหารตำรวจมีความผูกโยง มีความข้องเกี่ยวกับคดี?
กอส.คุยกับท่านนายกฯแล้ว ตกลงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือใหญ่ ทำงานร่วมกับทหารตำรวจ แต่พอมีคำสั่งลงไปในระดับปฏิบัติก็มีคนทำคนเดียว
กอส.จะไปสั่งรัฐบาลก็ไม่ได้ อานันท์ ว่า
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำความจริงให้ชาวบ้านเข้าใจ ทุกเรื่องจะถึงตัวนายกฯ... หลายคนถูกอุ้มหาย คนในพื้นที่สงสัยมานานแล้ว คุณทักษิณสั่งหรือเปล่า?
ถ้าไม่ให้ความกระจ่าง...คนเหล่านี้หายไปไหน หายไปอย่างไร อยู่ที่ไหน ก็ถึงตัวคุณแน่
บางทีก็อาจไม่เป็นธรรมกับท่านนายกฯ แต่นายกฯมีอำนาจที่จะแก้ไข ให้ความกระจ่างแจ้งได้...รู้ว่าใครอุ้มก็บอกมา สร้างกระบวนการสอบสวนอย่างจริงจัง
คุยกับครอบครัวผู้เป็นเหยื่อ หลักศาสนาอิสลามไม่ได้สอนให้แก้แค้น... โกรธเคือง แต่ชาวบ้านเขาอยากรู้ความจริง
สังคมที่ไม่ขวนขวายหาความจริง ไม่สนใจเรื่องความจริง ผมว่าสังคมนั้นด้อยคุณภาพ
สังคมไหนที่มีแต่คนใจแคบ ยึดแต่ตัวเอง พวกพ้อง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง สังคมนั้นย่อมเจริญไปไม่ได้
สังคมไทย...คนจำนวนไม่น้อยใจแคบ เอาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว ไม่มองถึงความรู้สึก ความนึกคิด...สิทธิของคนอื่น หรือความหวัง ของคนอื่น
อานันท์ บอกอีกว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เมื่อเกิดความกลัวแล้วจะทำอะไรก็เป็นไปในลักษณะฟันต่อฟัน...ตาต่อตา ก็ไม่จบ
อิสราเอล ในดินแดนปาเลสไตน์อาหรับสู้กันมาเกือบ 50 ปีแล้ว...ในไอร์แลนด์ ก็สู้กันมาเกือบ 20 ปี...ตายเกือบ 7 หมื่นกว่าคน
แต่ในไอร์แลนด์มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มหัวรุนแรงที่เรียกว่าขบวนการไอริช รีพับลิกันอาร์มี่ เข้าไปนั่งในสภา...ภายใต้พรรคการเมืองได้
รัสเซียก็มีปัญหาในแคชเมียร์ รัฐหนึ่งในประเทศรัสเซีย คนส่วนใหญ่ เป็นคนมุสลิม และอีกหลายประเทศก็มีปัญหายืดเยื้อ...มักเริ่มจากการมีปัญหากับชนส่วนน้อย
สรุปแล้ว...เราต้องดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ดีกว่านี้ ด้านการปกครอง ด้านบริหาร เราควรให้การยอมรับและเคารพต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของคนทั้งสองฝ่าย
เราต้องเคารพความเป็นพุทธของคนไทยที่นั่นเหมือนกัน เขาเป็น คนส่วนน้อย เขาก็มีความกลัว...คนไทยพุทธก็ถูกฆ่าทุกวัน ขณะเดียวกัน คนไทยมลายู คนไทยมุสลิมก็ถูกฆ่าทุกวัน...ก็ไม่รู้ว่าใครฆ่ากันแน่ จับก็จับไม่ได้...เราก็ต้องเคารพ
อานันท์ย้ำว่า...คนในพื้นที่ต้องได้รับความยุติธรรมทุกกลุ่ม
ถ้ารัฐไม่สามารถให้ความสงบเกิดขึ้นได้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในระยะอันใกล้นี้...ผมถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบ
รัฐมีกลไกอยู่แล้ว มีข้าราชการด้านการปกครอง มีตำรวจ เดี๋ยวนี้ก็มีทหาร มีหน่วยงานทุกอย่าง...หน้าที่รักษาความสงบประจำวันเป็นหน้าที่ของรัฐ
ถ้ารักษาความสงบประจำวันไม่ได้ โอกาสสร้างความสงบ สันติสุข ในระยะยาว...ก็น้อยลงไป
สังคมไทยเป็นสังคมที่หลากหลาย อยู่รวมกันหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา และก็อยู่ด้วยความสุข ความสงบ เราต้องเข้าใจลึกซึ้ง ต้องเรียนประวัติศาสตร์
อย่าลืมว่าคนจีน พม่า มอญ ที่พลัดถิ่นมา...ต่างกับคนมลายูที่อยู่มานาน ก่อนเป็นรัฐปัตตานี...ซึ่งเฟื่องฟูมาก แล้วก็เป็นท่าเรือใหญ่ ยุคอาณาจักรมัชปาหิต อาณาจักรศรีวิชัย
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
วิธีแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ เราต้องรู้ประวัติศาสตร์ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็ปัญหาเดิม...สาเหตุก็สาเหตุเดิม... วิธีแก้ไขก็ใช้แบบเดิม
เหมือนคำพังเพยที่ว่า...คนเราถ้าไม่รู้จักประวัติศาสตร์ เราก็จะเป็นเหยื่อของประวัติศาสตร์ตลอดเวลา
ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ เรารู้ความผิดพลาด และรู้ความสำเร็จ เราก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เราจะไม่ทำซ้ำ...ถ้าไม่อ่าน ไม่สนใจประวัติศาสตร์...เราก็จะทำซ้ำ
การจะเอาเงินไปช่วยเหลือคนสามจังหวัดใต้ รัฐบาลใจดี...ตั้งงบประมาณ แต่เงินนี้ก็ไปไม่ค่อยถึง...เอาเงินจากสลากกินแบ่งมา คนมุสลิมรับเงินจากลอตเตอรี่ไม่ได้
นี่คือความไม่เข้าใจ คนไม่มีอำนาจไม่เข้าใจ...ไม่เป็นไร แต่ผู้ ที่มีอำนาจต้องเข้าใจมาก...การตัดสินในเรื่องนโยบายหรือมาตรการใดๆ โดยไม่มีพื้นฐานความรู้...ความจริง ย่อมตัดสินผิดทุกที
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักการบริหารแบบซีอีโอ...ไม่ได้เป็นของเสียหาย ปัญหาภาคใต้ไม่เรียนรู้ไม่ได้ ไม่เรียนรู้ไม่มีใครเก่ง อยู่ที่ว่าจะพร้อม...จะเรียน พร้อมที่จะรับความจริงมากแค่ไหน...
อย่าหลอกตัวเอง การหลอกตัวเองคือการฆ่าตัวเอง.
จากไทยรัฐ วันเสาร์ ที่ผ่านมา
สำหรับผมกับสิ่งที่เขาพูด
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
ผมไม่อาจหาคำบรรยายได้
แต่รู้อย่างเดียว สมัคร ฟิวขาด
-
- Verified User
- โพสต์: 127
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 2
ผมคิดว่าคนที่ตำหนิรัฐบาลควรจะลงไปอยู่ในพื้นที่พร้อมกับคนในครอบครัวรวมถึงพวกสิทธิมนุษยชนทุกคนด้วยครับ จะได้เข้าถึงจริงๆไม่ยังงั้นคงแก้ปัญหาลำบาก แต่พอชาวบ้านเรียกให้ท่านอาจารย์หลายๆคนลงไปอยู่อาศัยท่านกลับไม่ยอมไป ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
-
- Verified User
- โพสต์: 118
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 5
ไม่อาว ไม่พูด ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 426
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 6
ผมเห็นด้วยกับ พลเอก หาญ ที่ว่า ถ้าโจรไม่มีปีน ทุกอย่างก็จบ ท่านยัง แนะนำให้ปิดล้อมหมู่บ้านที่สงสัยแบบเปิดเผย แล้วค้นที่ละหมู่บ้าน เพื่อกวาดล้างอาธุรต่างๆ
เรามีทหาร ห้าหมื่น อยู่ที่นั้นแต่ทำอะไรโจรไม่ได้
เรามีทหาร ห้าหมื่น อยู่ที่นั้นแต่ทำอะไรโจรไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 870
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 7
อย่าเดา เลยครับ พวกพี่ๆไม่ค่อยรู้ข้อมูลเท่าไร แต่ที่ แน่ๆ เมืองอื่นที่เค้ารักชาติกัน ให้เค้าเกลียดกัน ตายแค่ไหน เวลา จะทำอะไร พูดอะไร เค้าจะระวังไม่ให้กระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ชาติเค้า ดูคนไทยแล้ว เหนื่อยใจ
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 8
เห็นด้วยครับผมคิดว่าคนที่ตำหนิรัฐบาลควรจะลงไปอยู่ในพื้นที่พร้อมกับคนในครอบครัว
แต่ถ้าจะให้ดีกว่าอีก ต้องให้คนที่ไม่ยอมให้ใครมาตำหนิรัฐบาล ลงไปอยู่ด้วยเหมือนกันนะ จะได้ยุติธรรมหน่อย
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อะไรเป็นอะไรขนาดไหนที่นั่น....เคยได้ยินว่าจุดเริ่มต้นมาจากเค้าถูกรังแกมาก่อนจากข้าราชการตำรวจ(เมื่อหลายสิบปีก่อนจนถึงปัจจุบัน)....ในที่สุดก็เกิดความอัดอั้น...เกิดเป็นการใช้กำลังแบบกองโจร เพราะไม่มีสิทธิจะไปต่อกรกับอำนาจล้นฟ้าเพื่อหาความยุติธรรมได้...แล้วก็พัฒนาขึ้นมาเป็นกองโจรจริงๆ...ในที่สุดรุ่นต่อๆมาก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์กรือเซะ และ ตากใบ
ผมไม่เห็นด้วยกับกองโจร เพราะมันโหดเหื้ยมเกินคนจริงๆ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธเข้าทำลายกันเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามสยบ....รังแต่จะทำให้กองโจรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ลองศึกษาดูสมัยที่นักศึกษาเข้าป่าไปสมทบกองกำลังคอมมิวนิส เกิดจากอะไรและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลัง6ตุลา.....มาทุเลาลงได้ในยุคท้ายๆของป๋าเปรม จนสิ้นพรรคคอมมิวนิสในที่สุด ป๋าเปรมทำได้อย่างไร
เรื่องนี้สมควรที่รัฐบาลจะได้นำไปศึกษาหาวิธีดึงใจคนกลับมาเข้าพวกด้วยความจริงใจ มากกว่าที่จะใช้กำลังและไม่เข้าไปดูแล....ค่อยๆดึงท้ายขบวนเค้ากลับมาดีกว่า ให้เค้ารู้สึกไม่อยากเป็นโจร น่าจะดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1260
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 9
ท่านนายกไม่เคยกลัวเลยครับ ลงใต้มาก็หลายหนแล้ว น่านับถือๆ
โจรใต้มันกระจอกครับ ใยจะต้องวิตกกังวล
เวลาไปทีก็มีคนคุ้มกันเต็มพิกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารทำหน้าที่ได้ดีกว่า 100% ด้วยซ้ำ
สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 555
โจรใต้มันกระจอกครับ ใยจะต้องวิตกกังวล
เวลาไปทีก็มีคนคุ้มกันเต็มพิกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารทำหน้าที่ได้ดีกว่า 100% ด้วยซ้ำ
สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง 555
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 10
เส้นเขตแดนแบ่งประเทศ
เส้นเขตแบ่งจังหวัดแบ่งพื้นที่ แบ่งทวีป ฯลฯ
ทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งสมมติที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้นเอง หากดูภาพถ่ายดาวเทียม คุณไม่มีวันเห็นเส้นเหล่านั้นได้ถ้าไม่เขียนเส้นลากเอา
ความเป็นรัฐชาติเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เองจากสนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย แต่หากย้อนไปสมัยหลายพันปีก่อน มนุษย์อยู่กันเป็นชนเผ่า แม้จะมีอารยธรรมอย่างกรีก อียิปต์ แต่อารยธรรมเหล่านี้ ไม่ได้มีเขตแดนที่แน่นอน ไม่มีใครกำหนดเส้นแบ่งกันไว้อย่างชัดเจนและแบ่งแยกกันเช่นทุกวันนี้
แต่เมื่อมีข้อกำหนดจากสนธิสัญญาว่าความเป็นรัฐชาติต้องมีเขตแดนแน่นอนเป็นของตนเอง จึงต้องเกิดการ ตีเส้น ที่ชัดเจนแน่นอนกันขึ้น
ผลที่ตามมาก็คือ กลุ่มคน เผ่า เชื้อชาติ ของคนแต่ละพื้นที่ มันไม่ได้แบ่งแยกกันชัดเจนเหมือน เส้นที่ตีไว้ นั่นทำให้ในบางรัฐชาตินั้น ผสมไปด้วยคนหลายเผ่า หลายเชื้อชาติ หลายศาสนา โดยที่คนเหล่านั้น ในช่วงแรกของการแบ่งเส้นพวกเขายังแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขาได้ถูกให้ค่าว่าเป็นคนของรัฐชาตินั้นรัฐชาตินี้ไปแล้ว
คำถามคือ เรามีรัฐชาติไปทำไม? เรามีรัฐชาติ มีรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง หากเราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีอิสรภาพ เขาควรที่จะเลือกได้หรือไม่ ว่าเขาควรจะอยู่รัฐชาตินี้หรือไม่ เปรียบไปก็เหมือนกับว่า ถ้าเขาคิดว่าการอยู่ร่วมกันไม่เกิดประโยชน์สำหรับเขา เขามีสิทธิหรือไม่ที่จะเลือกไปอยู่ในที่ไกลๆเพียงลำพังซึ่งเขามีความสุขมากกว่า
ในช่วงแรกของการตีเส้น ผู้คนที่มีชนชาติต่างกัน ศาสนาต่างกัน ก็ยินยอมมาอยู่ร่วมกัน เพราะความเป็นชาติและความเป็นรัฐได้พยายามสร้างกระแส ชาตินิยม และชักจูงให้เห็นประโยชน์ เห็นข้อดีของการรวมตัวกันเป็นชาตินั้นๆ ผู้คนหากรู้สึกว่า การกระทำใดที่จะมีประโยชน์แก่ตนเองได้ ก็จะเข้าร่วมไปด้วย
แต่พอนานวันเข้า เมื่อเขารู้สึกว่า ตัวเขาแปลกแยกออกจากคนอื่น และคิดว่า การเป็นชาติเดียวกัน ไม่เห็นมีอะไรดี ไม่แปลกที่จะเริ่มมีคนไม่พอใจและอยากจะแยกออกไป
ลองคิดเพียงง่ายๆว่า เมื่อเราเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนกลุ่มนึงในช่วงเราเข้า มหาลัยใหม่ๆ เพราะหวังว่าจะได้ช่วยเหลือเรื่องเรียน จะตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่นานไปคบไปซักเทอมนึง เพื่อนกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมเยอะมาก การเรียนแม้จะมีแต่ก็ไม่ได้เน้นหนักอย่างที่เราต้องการ
เรามี สิทธิเสรีภาพ หรือไม่ที่จะออกจากกลุ่มเพื่อนกลุ่มนั้นไปหากลุ่มใหม่ที่ตั้งใจเรียนกันในระดับที่เราต้องการ?
เพื่อนกลุ่มเดิมของเรา เหมาะสมหรือไม่มาที่จะมาดุด่าว่าเรา หาว่าเราเป็นคนแปลกแยกทรยศกลุ่ม เป็นเด็กเนิร์ด วันๆเอาแต่เรียนหรือเปล่า?
สิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งในภาคใต้กำลังทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ไม่ใช่ความคิดที่คิดจะแยกออกไปจากความเป็นชาติไทยที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว แต่เป็นการใช้กำลังและความรุนแรงเกินพอดีในการเรียกร้องความต้องการสุดโต่งของพวกเขาต่างหาก ซึ่งมันไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตของคนอื่นๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจทนได้ และไม่มีใครทนได้
หากเรายิ่งคิดจะไปกล่อมเขาเพื่อพยายามดึงเขากลับเข้ามาด้วย บัญญัติรัฐธรรมนูญที่ว่า ชาติไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ผู้ที่มีความคิดสุดโต่งเหล่านี้ย่อมไม่ฟัง มันก็เหมือนการข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้าดีๆนี่เอง
เมื่อเขาไม่ฟัง แทนที่เราจะรับฟังเขาดีๆกลับพยายามใช้ความรุนแรงเข้าไปแก้ไข ก็เหมือนเอาน้ำมันราดกองไฟ
ทีนี้ เมื่อไฟลุกลาม ก็เหมือนขี่หลังเสือทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครคิดจะยอมลงจากหลังเสือแล้ว เพราะมันเสียศักดิ์ศรี
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฝ่ายหนึ่งจะยอมลงจากหลังเสือเพื่อพูดคุยกันดีๆ และหยุดการนองเลือดเหล่านี้เสียที
หากถามว่าใครล่ะที่จะต้องดำเนินกระบวนการที่สร้างสรรค์เช่นนี้?
คุณคิดว่าใครล่ะ? ระหว่างมนุษย์เจ้าอารมณ์ที่กำลังเดือดเต็มที่ กับคณะบุคคลที่มีนักวิชาการที่มีความรู้และความคิดอ่านระดับดอกเตอร์อยู่เต็มอาคารที่ชื่อว่า รัฐสภา
เส้นเขตแบ่งจังหวัดแบ่งพื้นที่ แบ่งทวีป ฯลฯ
ทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งสมมติที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้นเอง หากดูภาพถ่ายดาวเทียม คุณไม่มีวันเห็นเส้นเหล่านั้นได้ถ้าไม่เขียนเส้นลากเอา
ความเป็นรัฐชาติเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เองจากสนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย แต่หากย้อนไปสมัยหลายพันปีก่อน มนุษย์อยู่กันเป็นชนเผ่า แม้จะมีอารยธรรมอย่างกรีก อียิปต์ แต่อารยธรรมเหล่านี้ ไม่ได้มีเขตแดนที่แน่นอน ไม่มีใครกำหนดเส้นแบ่งกันไว้อย่างชัดเจนและแบ่งแยกกันเช่นทุกวันนี้
แต่เมื่อมีข้อกำหนดจากสนธิสัญญาว่าความเป็นรัฐชาติต้องมีเขตแดนแน่นอนเป็นของตนเอง จึงต้องเกิดการ ตีเส้น ที่ชัดเจนแน่นอนกันขึ้น
ผลที่ตามมาก็คือ กลุ่มคน เผ่า เชื้อชาติ ของคนแต่ละพื้นที่ มันไม่ได้แบ่งแยกกันชัดเจนเหมือน เส้นที่ตีไว้ นั่นทำให้ในบางรัฐชาตินั้น ผสมไปด้วยคนหลายเผ่า หลายเชื้อชาติ หลายศาสนา โดยที่คนเหล่านั้น ในช่วงแรกของการแบ่งเส้นพวกเขายังแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขาได้ถูกให้ค่าว่าเป็นคนของรัฐชาตินั้นรัฐชาตินี้ไปแล้ว
คำถามคือ เรามีรัฐชาติไปทำไม? เรามีรัฐชาติ มีรัฐบาลเพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง หากเราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีอิสรภาพ เขาควรที่จะเลือกได้หรือไม่ ว่าเขาควรจะอยู่รัฐชาตินี้หรือไม่ เปรียบไปก็เหมือนกับว่า ถ้าเขาคิดว่าการอยู่ร่วมกันไม่เกิดประโยชน์สำหรับเขา เขามีสิทธิหรือไม่ที่จะเลือกไปอยู่ในที่ไกลๆเพียงลำพังซึ่งเขามีความสุขมากกว่า
ในช่วงแรกของการตีเส้น ผู้คนที่มีชนชาติต่างกัน ศาสนาต่างกัน ก็ยินยอมมาอยู่ร่วมกัน เพราะความเป็นชาติและความเป็นรัฐได้พยายามสร้างกระแส ชาตินิยม และชักจูงให้เห็นประโยชน์ เห็นข้อดีของการรวมตัวกันเป็นชาตินั้นๆ ผู้คนหากรู้สึกว่า การกระทำใดที่จะมีประโยชน์แก่ตนเองได้ ก็จะเข้าร่วมไปด้วย
แต่พอนานวันเข้า เมื่อเขารู้สึกว่า ตัวเขาแปลกแยกออกจากคนอื่น และคิดว่า การเป็นชาติเดียวกัน ไม่เห็นมีอะไรดี ไม่แปลกที่จะเริ่มมีคนไม่พอใจและอยากจะแยกออกไป
ลองคิดเพียงง่ายๆว่า เมื่อเราเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนกลุ่มนึงในช่วงเราเข้า มหาลัยใหม่ๆ เพราะหวังว่าจะได้ช่วยเหลือเรื่องเรียน จะตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่นานไปคบไปซักเทอมนึง เพื่อนกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมเยอะมาก การเรียนแม้จะมีแต่ก็ไม่ได้เน้นหนักอย่างที่เราต้องการ
เรามี สิทธิเสรีภาพ หรือไม่ที่จะออกจากกลุ่มเพื่อนกลุ่มนั้นไปหากลุ่มใหม่ที่ตั้งใจเรียนกันในระดับที่เราต้องการ?
เพื่อนกลุ่มเดิมของเรา เหมาะสมหรือไม่มาที่จะมาดุด่าว่าเรา หาว่าเราเป็นคนแปลกแยกทรยศกลุ่ม เป็นเด็กเนิร์ด วันๆเอาแต่เรียนหรือเปล่า?
สิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งในภาคใต้กำลังทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ไม่ใช่ความคิดที่คิดจะแยกออกไปจากความเป็นชาติไทยที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว แต่เป็นการใช้กำลังและความรุนแรงเกินพอดีในการเรียกร้องความต้องการสุดโต่งของพวกเขาต่างหาก ซึ่งมันไม่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตของคนอื่นๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจทนได้ และไม่มีใครทนได้
หากเรายิ่งคิดจะไปกล่อมเขาเพื่อพยายามดึงเขากลับเข้ามาด้วย บัญญัติรัฐธรรมนูญที่ว่า ชาติไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ผู้ที่มีความคิดสุดโต่งเหล่านี้ย่อมไม่ฟัง มันก็เหมือนการข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้าดีๆนี่เอง
เมื่อเขาไม่ฟัง แทนที่เราจะรับฟังเขาดีๆกลับพยายามใช้ความรุนแรงเข้าไปแก้ไข ก็เหมือนเอาน้ำมันราดกองไฟ
ทีนี้ เมื่อไฟลุกลาม ก็เหมือนขี่หลังเสือทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครคิดจะยอมลงจากหลังเสือแล้ว เพราะมันเสียศักดิ์ศรี
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฝ่ายหนึ่งจะยอมลงจากหลังเสือเพื่อพูดคุยกันดีๆ และหยุดการนองเลือดเหล่านี้เสียที
หากถามว่าใครล่ะที่จะต้องดำเนินกระบวนการที่สร้างสรรค์เช่นนี้?
คุณคิดว่าใครล่ะ? ระหว่างมนุษย์เจ้าอารมณ์ที่กำลังเดือดเต็มที่ กับคณะบุคคลที่มีนักวิชาการที่มีความรู้และความคิดอ่านระดับดอกเตอร์อยู่เต็มอาคารที่ชื่อว่า รัฐสภา
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์ที่ 11
โทษครับ พิมพ์ผิดไปตัวนึง ความหมายเปลี่ยนเป็นตรงข้ามเลย
สิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งในภาคใต้กำลังทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ไม่ใช่ความคิดที่คิดจะแยกออกไปจากความเป็นชาติไทยที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว แต่เป็นการใช้กำลังและความรุนแรงเกินพอดีในการเรียกร้องความต้องการสุดโต่งของพวกเขาต่างหาก ซึ่งมันไปกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตของคนอื่นๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจทนได้ และไม่มีใครทนได้
ครับผม
สิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งในภาคใต้กำลังทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ไม่ใช่ความคิดที่คิดจะแยกออกไปจากความเป็นชาติไทยที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว แต่เป็นการใช้กำลังและความรุนแรงเกินพอดีในการเรียกร้องความต้องการสุดโต่งของพวกเขาต่างหาก ซึ่งมันไปกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในชีวิตของคนอื่นๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจทนได้ และไม่มีใครทนได้
ครับผม