คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 1
จะมีกระแสเงิน ประมาณ 33-35 บาท ประมาณปีไหนครับ
คือช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาดูหุ้น ก็เลยตอบแกแบบกระท่อนกระแท่นไปหน่อย
จำได้ว่า คุณฉัตรบอกตอนสัมนาว่า
ราคาปัจจุบัน 33 อีก 3 ปี ก็จะมีเงินสดประมาณ 33 บาท
ลูกหนี้มากกว่าเจ้าหนี้
ไม่นับตึก และสินค้าคงเหลือ
ดูแค่เงินสดอย่างเดียว ก็มีมากขนาดนี้แล้ว
คุณฉัตรชัยช่วยเกลาตัวเลขให้ถูกต้องใกล้เคียงหน่อยครับ เพราะนั่นเป็นแค่ความจำ
คือช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาดูหุ้น ก็เลยตอบแกแบบกระท่อนกระแท่นไปหน่อย
จำได้ว่า คุณฉัตรบอกตอนสัมนาว่า
ราคาปัจจุบัน 33 อีก 3 ปี ก็จะมีเงินสดประมาณ 33 บาท
ลูกหนี้มากกว่าเจ้าหนี้
ไม่นับตึก และสินค้าคงเหลือ
ดูแค่เงินสดอย่างเดียว ก็มีมากขนาดนี้แล้ว
คุณฉัตรชัยช่วยเกลาตัวเลขให้ถูกต้องใกล้เคียงหน่อยครับ เพราะนั่นเป็นแค่ความจำ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 2
ประมาณคร่าวๆนะครับ
บริษัทมีเงินสดและเงินฝากรวม 174.38 ล้านบาท
เงินลงทุนระยะยาว (Property Fund) จำนวน 99.87 ล้านบาท
รวมก็ประมาณ 274.25 ล้านบาท
หนี้เงินกู้ไม่มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว
เงินสดเพิ่มสุทธิก่อนปันผล ประมาณปีละ 115 ล้านบาท
3 ปีก็จะประมาณ 345 ล้านบาท
รวมกับเงินสดเดิมจะเท่ากับ 619.25 ล้านบาท หรือหุ้นละ 34.69 บาทต่อหุ้น
บริษัทมีเงินสดและเงินฝากรวม 174.38 ล้านบาท
เงินลงทุนระยะยาว (Property Fund) จำนวน 99.87 ล้านบาท
รวมก็ประมาณ 274.25 ล้านบาท
หนี้เงินกู้ไม่มีทั้งระยะสั้นและระยะยาว
เงินสดเพิ่มสุทธิก่อนปันผล ประมาณปีละ 115 ล้านบาท
3 ปีก็จะประมาณ 345 ล้านบาท
รวมกับเงินสดเดิมจะเท่ากับ 619.25 ล้านบาท หรือหุ้นละ 34.69 บาทต่อหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ
พี่ฉัตรชัยครับ
ถ้าถามต่อว่า ในแง่กิจการ WG เค้ารักษาลูกค้าและหาลูกค้าใหม่ ได้ดีแค่ไหน และ เค้าเก่งกว่าคู่แข่งหรือไม่
เพื่อที่เราจะแน่ใจได้ว่า WG รายได้ในอนาคตจะยังเติบโตไม่ลดลงไป
หรือพี่ฉัตรชัย refer จาก ประวัติงบการเงินอย่างเดียวครับ
พี่ฉัตรชัยครับ
ถ้าถามต่อว่า ในแง่กิจการ WG เค้ารักษาลูกค้าและหาลูกค้าใหม่ ได้ดีแค่ไหน และ เค้าเก่งกว่าคู่แข่งหรือไม่
เพื่อที่เราจะแน่ใจได้ว่า WG รายได้ในอนาคตจะยังเติบโตไม่ลดลงไป
หรือพี่ฉัตรชัย refer จาก ประวัติงบการเงินอย่างเดียวครับ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 7
ระหว่างรอท่านฉัตรชัย ผมขอแจมไปพลางๆก่อนนะครับ
ตอนเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆเมื่อสามปีก่อน ตำราเล่มไหนๆก็บอกเหมือนกันว่า บริษัทที่ดีต้องมีหนี้น้อยๆ ตอนนั้นก็เลยจ๊ะเอ๋กับ WG นี่แหละ ราคาหุ้นตอนนั้นประมาณ 15 บาท สภาพคล่องน้อย บางวันไม่มีการซื้อขาย วันนี้ราคาขึ้นมา 35 บาทไปแล้ว
จุดเด่นบริษัทนอกจากฐานะการเงินที่เข้มแข็งไม่มีวันล้มละลายได้ง่ายๆ ตราบจนวันนี้..บริษัทฯ ยังคงสามารถครองความเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพอันเป็นที่ยอมรับในตลาด
แต่เมื่อผมอ่าน 56-1 บรรทัดต่อๆไป เขาบอกว่า
ในปี พ.ศ. 2547 อุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตทั้งด้านการผลิตและยอดขาย จึงส่งผลให้เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมในกลุ่มนี้เติบโตกว่าอุตสาหกรรมกลุ่มอื่น ๆ และผลจากการที่บริษัท ฯ มีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้ากับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทำให้ลูกค้าประทับใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ จึงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ อีกทั้งยังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายสูงกว่าที่คาดหมายไว้มาก แม้ว่าการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงก็ตาม
ตลาดเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมทั่วไป ในปี พ. ศ. 2547 มีการแข่งขันด้านราคารุนแรงมาก เนื่องจากเคมีภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีทั้งที่ผลิตในประเทศไทย และนำเข้าจากประเทศในแถบเอเซีย เช่น จีน อินเดีย และเกาหลี ลูกค้าในกลุ่มนี้ให้ความสำคัญในการลดต้นทุนการผลิตมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาก บริษัท ฯ จึงชะลอการขายสินค้าในอุตสาหกรรมกลุ่มนี้
ส่วนสินค้า อิมัลซิไฟเออร์ สแตบิไลเซอร์ ซึ่งเป็นสารป้องกันการหืนในน้ำมัน มีการแข่งขันด้านราคาสูง โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน และอินเดีย อย่างไรก็ตามบริษัท ฯ จะยังคงเน้นการขยายตลาดโดยมุ่งพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้ากลุ่มเดิมและลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยการให้ความรู้ทางด้านวิชาการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้า ในปี พ. ศ. 2548 คาดว่าตลาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการเพิ่มปริมาณการผลิตของลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ด้วยการพัฒนาออก สินค้าใหม่ ๆ เช่นปีที่ผ่านมา
เคมีวิเคราะห์และอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ แม้จะมีการแข่งขันด้านราคาที่สูง แต่ด้วยคุณภาพสินค้าที่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานโลก แนวโน้ม ปี พ.ศ. 2548 ตลาดจะขยายตัวมากขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลยังคงเน้นนโยบายเรื่อง มาตฐานความปลอดภัยของอาหารอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล อีกทั้ง อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ ก็มีการขยายการผลิตอย่างต่อเนื่อง
ภาวะอุตสาหกรรมพลาสติกปรับตัวดีขึ้นหลังจากประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2540 แต่การแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดเป็นผลให้ผู้ผลิตต่าง ๆ ใช้ราคาขายเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขัน ทำให้กำไรจากการดำเนินงานโดยรวมลดลง
บริษัทบอกว่ามีการแข่งขันด้านราคาสูง แต่ไม่บอกว่าคู่แข่งมีใครบ้างและส่วนแบ่งตลาดเป็นเท่าไหร่ แต่บริษัทเองก็สามารถครองความเป็นหนึ่ง ผมก็เลยสงสัยว่ามีการแข่งขันสูงจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่รู้จะตรวจสอบอย่างไร
ตอนเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆเมื่อสามปีก่อน ตำราเล่มไหนๆก็บอกเหมือนกันว่า บริษัทที่ดีต้องมีหนี้น้อยๆ ตอนนั้นก็เลยจ๊ะเอ๋กับ WG นี่แหละ ราคาหุ้นตอนนั้นประมาณ 15 บาท สภาพคล่องน้อย บางวันไม่มีการซื้อขาย วันนี้ราคาขึ้นมา 35 บาทไปแล้ว
จุดเด่นบริษัทนอกจากฐานะการเงินที่เข้มแข็งไม่มีวันล้มละลายได้ง่ายๆ ตราบจนวันนี้..บริษัทฯ ยังคงสามารถครองความเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพอันเป็นที่ยอมรับในตลาด
แต่เมื่อผมอ่าน 56-1 บรรทัดต่อๆไป เขาบอกว่า
ในปี พ.ศ. 2547 อุตสาหกรรมยานยนต์มีการเติบโตทั้งด้านการผลิตและยอดขาย จึงส่งผลให้เคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมในกลุ่มนี้เติบโตกว่าอุตสาหกรรมกลุ่มอื่น ๆ และผลจากการที่บริษัท ฯ มีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้ากับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทำให้ลูกค้าประทับใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ จึงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ อีกทั้งยังขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้อัตราการเติบโตของยอดขายสูงกว่าที่คาดหมายไว้มาก แม้ว่าการแข่งขันด้านราคาจะรุนแรงก็ตาม
ตลาดเคมีภัณฑ์อุตสาหกรรมทั่วไป ในปี พ. ศ. 2547 มีการแข่งขันด้านราคารุนแรงมาก เนื่องจากเคมีภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีทั้งที่ผลิตในประเทศไทย และนำเข้าจากประเทศในแถบเอเซีย เช่น จีน อินเดีย และเกาหลี ลูกค้าในกลุ่มนี้ให้ความสำคัญในการลดต้นทุนการผลิตมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาก บริษัท ฯ จึงชะลอการขายสินค้าในอุตสาหกรรมกลุ่มนี้
ส่วนสินค้า อิมัลซิไฟเออร์ สแตบิไลเซอร์ ซึ่งเป็นสารป้องกันการหืนในน้ำมัน มีการแข่งขันด้านราคาสูง โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน และอินเดีย อย่างไรก็ตามบริษัท ฯ จะยังคงเน้นการขยายตลาดโดยมุ่งพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้ากลุ่มเดิมและลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยการให้ความรู้ทางด้านวิชาการ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้า ในปี พ. ศ. 2548 คาดว่าตลาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการเพิ่มปริมาณการผลิตของลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ ด้วยการพัฒนาออก สินค้าใหม่ ๆ เช่นปีที่ผ่านมา
เคมีวิเคราะห์และอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ แม้จะมีการแข่งขันด้านราคาที่สูง แต่ด้วยคุณภาพสินค้าที่เป็นที่ยอมรับของมาตรฐานโลก แนวโน้ม ปี พ.ศ. 2548 ตลาดจะขยายตัวมากขึ้นอีก เนื่องจากรัฐบาลยังคงเน้นนโยบายเรื่อง มาตฐานความปลอดภัยของอาหารอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล อีกทั้ง อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิกส์ ก็มีการขยายการผลิตอย่างต่อเนื่อง
ภาวะอุตสาหกรรมพลาสติกปรับตัวดีขึ้นหลังจากประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจในปี 2540 แต่การแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดเป็นผลให้ผู้ผลิตต่าง ๆ ใช้ราคาขายเป็นกลยุทธ์หลักในการแข่งขัน ทำให้กำไรจากการดำเนินงานโดยรวมลดลง
บริษัทบอกว่ามีการแข่งขันด้านราคาสูง แต่ไม่บอกว่าคู่แข่งมีใครบ้างและส่วนแบ่งตลาดเป็นเท่าไหร่ แต่บริษัทเองก็สามารถครองความเป็นหนึ่ง ผมก็เลยสงสัยว่ามีการแข่งขันสูงจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่รู้จะตรวจสอบอย่างไร
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณคุณหมอที่มาช่วยตอบนะครับ
จริงๆแล้วเรื่องผลิตภัณฑ์จะดีหรือไม่ดียังไง เราก็คงจะพิสูจน์เองไม่ได้ (เป็นข้อเสียของบริษัทที่มีสินค้าประเภทอุตสาหกรรม)
เลยต้องสอบถามจากเพื่อนๆดูว่ามีใครรู้จักโรงงานที่ใช้สินค้า WG บ้าง ก็พอจะได้ข้อมูลอยู่มาก ถึงแม้จะไม่มากนัก
ลูกค้าบอกว่าถึงแม้ราคาของสินค้า WG จะแพงกว่ารายอื่นอยู่บ้าง ก็ไม่เปลี่ยนครับ เพราะสินค้า WG ดีกว่า ซึ่งก้ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าดีว่ายังไง
อาจจะเป็นเพราะทาง WG ไม่ได้ขายเคมีภัณฑ์ชนิดที่เป็น Comodity ประเภทซื้อมาแล้วใช้ได้เลย ซึ่งจะมีการแข่งขันทางด้านราคามาก เพราะสินค้าจากจีนมีราคาถูกแล้วมีรายย่อยนำเข้ามาขายมาก
สินค้าของ WG โดยมากแล้วจะต้องมีการผสมสูตรร่วมกับลูกค้านะครับ ดังนั้นลูกค้าได้พอใจที่ได้รับการบริการนี้ สินค้าของ WG จะมีราคาแพงกว่าประเภท Commodity มากพอควร แต่คุณภาพดีกว่า คือใช้ในปริมาณที่น้อยกว่ามากๆ
ไม่รู้พอจะมีประโยชน์บ้างไหม ยังไงช่วยกันโทรศัพท์ไปสอบถามทางบริษัทมากๆก็ดีครับ ทางบริษัทจะได้รู้ว่ามีนักลงทุนรายย่อยสนใจบริษัทมากๆ และเป็นนักลงทุนจริงๆไม่ใช่นักเล่นหุ้น
จริงๆแล้วเรื่องผลิตภัณฑ์จะดีหรือไม่ดียังไง เราก็คงจะพิสูจน์เองไม่ได้ (เป็นข้อเสียของบริษัทที่มีสินค้าประเภทอุตสาหกรรม)
เลยต้องสอบถามจากเพื่อนๆดูว่ามีใครรู้จักโรงงานที่ใช้สินค้า WG บ้าง ก็พอจะได้ข้อมูลอยู่มาก ถึงแม้จะไม่มากนัก
ลูกค้าบอกว่าถึงแม้ราคาของสินค้า WG จะแพงกว่ารายอื่นอยู่บ้าง ก็ไม่เปลี่ยนครับ เพราะสินค้า WG ดีกว่า ซึ่งก้ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าดีว่ายังไง
อาจจะเป็นเพราะทาง WG ไม่ได้ขายเคมีภัณฑ์ชนิดที่เป็น Comodity ประเภทซื้อมาแล้วใช้ได้เลย ซึ่งจะมีการแข่งขันทางด้านราคามาก เพราะสินค้าจากจีนมีราคาถูกแล้วมีรายย่อยนำเข้ามาขายมาก
สินค้าของ WG โดยมากแล้วจะต้องมีการผสมสูตรร่วมกับลูกค้านะครับ ดังนั้นลูกค้าได้พอใจที่ได้รับการบริการนี้ สินค้าของ WG จะมีราคาแพงกว่าประเภท Commodity มากพอควร แต่คุณภาพดีกว่า คือใช้ในปริมาณที่น้อยกว่ามากๆ
ไม่รู้พอจะมีประโยชน์บ้างไหม ยังไงช่วยกันโทรศัพท์ไปสอบถามทางบริษัทมากๆก็ดีครับ ทางบริษัทจะได้รู้ว่ามีนักลงทุนรายย่อยสนใจบริษัทมากๆ และเป็นนักลงทุนจริงๆไม่ใช่นักเล่นหุ้น
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
คุณฉัตรชัยครับ น้องฟอเรสถามว่า WG
โพสต์ที่ 10
ตัวนี้ผมทำเป็นรายงาน เทอมก่อน ครับ
มันส์มากครับ เพราะกลุ่มอื่น เอาแต่หุ้นดังๆมา advanc, cpf พวกนี้
กลุ่มผมเอา WG
ถ้าวิเคราะห์ด้วย 5 forces แล้ว จะเห็นว่า WG มีนโยบายกระจายลูกค้าครับ คือไม่มีลูกค้ารายไหนมีสัดส่วนเกิน 30 % เป็นนโยบายครับ ทำให้ป้องกันการพึ่งพาลูกค้าไม่กี่ราย และก็มี supplier อยู่หลายเจ้าครับ
อย่างที่พี่ฉัตรชัย บอกครับ ไม่ได้ขายเป็น commodity และผมก็คิดว่าต้นทุนพวกนี้มีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ raw mat ที่ลูกค้าต้องใช้ครับ
เรื่องอนาคตมั่นใจได้อย่างไรว่า ลูกค้าจะไม่ลดลง
เท่าที่ดู รายได้โตขึ้นเรื่อยๆครับ เฉลี่ย 5 ปีน่าจะอยู่ที่ ประมาณ 4 เปอร์เซนต์
เพื่อนเอาไปลิ้งค์ กับ GDP แล้วก็การเติบโตของสินค้าประเภทนี้ด้วยครับ
โดยสมมติว่า GDP เป็น worst case ก็ ประมาณ 3 เปอร์เซนต์ ส่วนการเติบโตของกลุ่มก็เอามาเฉลี่ยเอา แล้วก็ให้น้ำหนัก ก็ดูแล้วมันก็ยังไปได้ครับ
แต่ส่วนตัว ผมว่าอยู่ในตลาดมาเกิน 15 ปี ไม่เคยเพิ่มทุน กำไรสมเหตุสมผล ก็เป็นบทพิสูจน็ แล้วครับ
ตัวนี้ที่ดีที่สุดในความคิดผมคือ มันไม่มี cap ex ครับ
ใช้ DCF ประเมิณกันโดย assumption ค่อนข้าง consevative ได้ราคาสูงมากครับ
เลยต้องใช้วิธีอื่น กลัวมันเว่อร์ไป 55
เคยประเมิณ เงินสดเหลือ เห็นแล้วงงครับ เยอะจริงๆ ประมาณ 500 ใน 5 ปี
เรื่อง ROE ก็น่าสนครับ ROE น้อย เพราะ equity เยอะแต่เป็นเงินสดทั้งน้าน
สุดท้ายคุยกับเพื่อนในกลุ่ม (คนนี้เก็งกำไร มากกว่า ถือยาวๆ)
มันบอกว่า ดีแต่ซื้อตัวนี้ขอซื้อตัวอื่นดีกว่า ไม่ขึ้นเลย
ผมก็บอกว่า อ้าว ถ้าจะมองในแง่นี้ เวลาตัวอื่นลง มันก็ไม่ลงนะ
ดูดิ่ ราคานี้ ไม่มีคนติดหุ้นนา
หายไป 2 วัน มันกลับมาบอก ที่โบรกมัน มีคนติดที่ 37
ผมบอกเป็นไปไม่ได้มันไม่เคยถึงนี่ กลับมาเชคดู เออ มี จริงด้วย
เลยสรุปกันว่า เอ้า งั้นรอมันทะลุ hi เก่าด้วย volume support ก่อนแล้วค่อยซื้อ :lovl:
แต่ผมว่ารอประชุมผู้ถือหุ้นแล้วไปถามดีกว่า คิดไงกับเคส อากู๋
มันส์มากครับ เพราะกลุ่มอื่น เอาแต่หุ้นดังๆมา advanc, cpf พวกนี้
กลุ่มผมเอา WG
ถ้าวิเคราะห์ด้วย 5 forces แล้ว จะเห็นว่า WG มีนโยบายกระจายลูกค้าครับ คือไม่มีลูกค้ารายไหนมีสัดส่วนเกิน 30 % เป็นนโยบายครับ ทำให้ป้องกันการพึ่งพาลูกค้าไม่กี่ราย และก็มี supplier อยู่หลายเจ้าครับ
อย่างที่พี่ฉัตรชัย บอกครับ ไม่ได้ขายเป็น commodity และผมก็คิดว่าต้นทุนพวกนี้มีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับ raw mat ที่ลูกค้าต้องใช้ครับ
เรื่องอนาคตมั่นใจได้อย่างไรว่า ลูกค้าจะไม่ลดลง
เท่าที่ดู รายได้โตขึ้นเรื่อยๆครับ เฉลี่ย 5 ปีน่าจะอยู่ที่ ประมาณ 4 เปอร์เซนต์
เพื่อนเอาไปลิ้งค์ กับ GDP แล้วก็การเติบโตของสินค้าประเภทนี้ด้วยครับ
โดยสมมติว่า GDP เป็น worst case ก็ ประมาณ 3 เปอร์เซนต์ ส่วนการเติบโตของกลุ่มก็เอามาเฉลี่ยเอา แล้วก็ให้น้ำหนัก ก็ดูแล้วมันก็ยังไปได้ครับ
แต่ส่วนตัว ผมว่าอยู่ในตลาดมาเกิน 15 ปี ไม่เคยเพิ่มทุน กำไรสมเหตุสมผล ก็เป็นบทพิสูจน็ แล้วครับ
ตัวนี้ที่ดีที่สุดในความคิดผมคือ มันไม่มี cap ex ครับ
ใช้ DCF ประเมิณกันโดย assumption ค่อนข้าง consevative ได้ราคาสูงมากครับ
เลยต้องใช้วิธีอื่น กลัวมันเว่อร์ไป 55
เคยประเมิณ เงินสดเหลือ เห็นแล้วงงครับ เยอะจริงๆ ประมาณ 500 ใน 5 ปี
เรื่อง ROE ก็น่าสนครับ ROE น้อย เพราะ equity เยอะแต่เป็นเงินสดทั้งน้าน
สุดท้ายคุยกับเพื่อนในกลุ่ม (คนนี้เก็งกำไร มากกว่า ถือยาวๆ)
มันบอกว่า ดีแต่ซื้อตัวนี้ขอซื้อตัวอื่นดีกว่า ไม่ขึ้นเลย
ผมก็บอกว่า อ้าว ถ้าจะมองในแง่นี้ เวลาตัวอื่นลง มันก็ไม่ลงนะ
ดูดิ่ ราคานี้ ไม่มีคนติดหุ้นนา
หายไป 2 วัน มันกลับมาบอก ที่โบรกมัน มีคนติดที่ 37
ผมบอกเป็นไปไม่ได้มันไม่เคยถึงนี่ กลับมาเชคดู เออ มี จริงด้วย
เลยสรุปกันว่า เอ้า งั้นรอมันทะลุ hi เก่าด้วย volume support ก่อนแล้วค่อยซื้อ :lovl:
แต่ผมว่ารอประชุมผู้ถือหุ้นแล้วไปถามดีกว่า คิดไงกับเคส อากู๋