เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 1
ไรนะ
คือคุณฉัตรหลุดโพสมาว่า หุ้นที่มีหนี้น้อย ทั้งตลาดมีเยอะ อืม ผมก็อ่านอยู่และเห็นคุณฉัตรโพสมาถึง 42 ตัว
หุ้นเหล่านี้แหละ กว่าคุณฉัตรชัยจะสะสมจนกระทั้งรู้ว่ากลุ่มนี้นะ หนี้น้อย
เพื่อนๆคิดว่าคุณฉัตรชัยใช้เวลานานหรือไม่ ผมว่านานนะ กว่าจะหามาจาก 500 บริษัทในตลาด
ที่ผมแปลกใจคือไม่เห็นมีใครแตกประเด็นตรงนี้เลย
คือคุณฉัตรหลุดโพสมาว่า หุ้นที่มีหนี้น้อย ทั้งตลาดมีเยอะ อืม ผมก็อ่านอยู่และเห็นคุณฉัตรโพสมาถึง 42 ตัว
หุ้นเหล่านี้แหละ กว่าคุณฉัตรชัยจะสะสมจนกระทั้งรู้ว่ากลุ่มนี้นะ หนี้น้อย
เพื่อนๆคิดว่าคุณฉัตรชัยใช้เวลานานหรือไม่ ผมว่านานนะ กว่าจะหามาจาก 500 บริษัทในตลาด
ที่ผมแปลกใจคือไม่เห็นมีใครแตกประเด็นตรงนี้เลย
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 3
8) ผมว่าคนที่เล่นหุ้นแบบวีไอ
ก็คงพอรู้ โดยไม่ต้องสังเกตุก็ได้ครับ
แต่ที่รู้แน่ๆ เรื่องว่าคุณฉัตรชัยมีระดับเนี่ย
ยอมรับได้สนิทใจเลย
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นด้วยทุกเรื่อง...
ใช้ชื่อคุณฉัตรชัย search กระทู้หาเอาดีกว่า
ได้อ่านรายละเอียดกระทู้เก่าๆด้วยหนา....
ก็คงพอรู้ โดยไม่ต้องสังเกตุก็ได้ครับ
แต่ที่รู้แน่ๆ เรื่องว่าคุณฉัตรชัยมีระดับเนี่ย
ยอมรับได้สนิทใจเลย
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นด้วยทุกเรื่อง...
8) ผมว่าไม่มีบทความที่ว่าหรอกครับtopbuy เขียน:บทความอยู่ตรงไหนครับ ผมหาไม่เจอ ช่วยชี้แนะด้วย ขอบคุณครับ
ใช้ชื่อคุณฉัตรชัย search กระทู้หาเอาดีกว่า
ได้อ่านรายละเอียดกระทู้เก่าๆด้วยหนา....
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 4
แม้ผมไม่เคยกับคุณฉัตรชัยเป็นการส่วนตัว
แต่ผมรู้สึกทึ่งกับวิธีการเล่นหุ้นของเขาทีเดียวครับ
WG คืออะไรก่อนหน้านี้ผมยังไม่รู้เลย
แต่พี่เขากล้าถือเป็นตัวเดียวใน port
แหม... ทำไปได้....
แต่ผมรู้สึกทึ่งกับวิธีการเล่นหุ้นของเขาทีเดียวครับ
WG คืออะไรก่อนหน้านี้ผมยังไม่รู้เลย
แต่พี่เขากล้าถือเป็นตัวเดียวใน port
แหม... ทำไปได้....
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 5
บริษัทที่ไม่มีหนี้หรือมีน้อยๆ เช่น MANRIN CVD SHANG SAWANG LNH SPG TMD AHC FANCY JCT CSL NIPPON GYT PR IT TNL TOPP MAKRO CP7-11 UBC SAUCE SSC SE-ED APRINT OISHI S&P RHC ROH MATI FE P-FCB TR TPCORP TTL WACOAL SST BTC TSTE KWC SPSU TCB TPA มากมายไหมครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 8
ผมไม่มีระดับอะไรหรอกพี่เจ๋ง
แค่มีประสบการณ์ในการลงทุนมานานหน่อยเท่านั้นแหละครับ
ซึ่งผมก็อาจจะมีความเห็นที่ดี ความเห็นที่แย่ได้ครับ
อย่างที่พี่พอใจบอกว่า บางครั้งก็ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผม หรือหลายคนก็ไม่ได้ซื้อหุ้น WG ตามผม
ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่นักลงทุนควรคิดพิจารณาด้วยตนเองก่อนเสมอ และยึดหลักที่ตนเองคิดว่าดี
หลายคนที่เจ๊งมักจะซื้อหุ้นตามคนอื่นที่มีชื่อเสียง โดยไม่เข้าใจในตัวบริษัท และความต้องการของตัวเอง
ที่ผมลงทุนบริษัทเดียว ไม่ใช่ว่าเก่งหรืออะไรครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมมีความรู้น้อยก็ได้นะที่ศึกษาบริษัทในตลาดไม่เพียงพอในไม่สามารถลงทุนบริษัทอื่นได้
ผลตอบแทนใน WG ถึงแม้จะดีกว่าตลาด แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่ทำได้ดีกว่า
ส่วนคำว่าหนี้น้อยนั้นคิดจากอะไร บริษัทที่ผมบอกไว้ส่วนใหญ่จะไม่มีหนี้เงินกู้เลยนะครับ
แค่มีประสบการณ์ในการลงทุนมานานหน่อยเท่านั้นแหละครับ
ซึ่งผมก็อาจจะมีความเห็นที่ดี ความเห็นที่แย่ได้ครับ
อย่างที่พี่พอใจบอกว่า บางครั้งก็ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผม หรือหลายคนก็ไม่ได้ซื้อหุ้น WG ตามผม
ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่นักลงทุนควรคิดพิจารณาด้วยตนเองก่อนเสมอ และยึดหลักที่ตนเองคิดว่าดี
หลายคนที่เจ๊งมักจะซื้อหุ้นตามคนอื่นที่มีชื่อเสียง โดยไม่เข้าใจในตัวบริษัท และความต้องการของตัวเอง
ที่ผมลงทุนบริษัทเดียว ไม่ใช่ว่าเก่งหรืออะไรครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมมีความรู้น้อยก็ได้นะที่ศึกษาบริษัทในตลาดไม่เพียงพอในไม่สามารถลงทุนบริษัทอื่นได้
ผลตอบแทนใน WG ถึงแม้จะดีกว่าตลาด แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่ทำได้ดีกว่า
ส่วนคำว่าหนี้น้อยนั้นคิดจากอะไร บริษัทที่ผมบอกไว้ส่วนใหญ่จะไม่มีหนี้เงินกู้เลยนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 9
อืม บริษัท 42 บริษัทดังกล่าว ผมนำมาทำการเปรียบเทียบราคา
จากปี 2001 ถึงปี 2005
ดูว่า บริษัทไหนได้ส่วนต่างราคาสูงสุด
1. AHC จาก 14.7 เป็น 68 กำไร 362 %
2. TMD จาก 12.1 เป็น 53 กำไร 338 %
3. TR จาก 109 เป็น 382 กำไร 250 %
4. TCB จาก 6.4 เป็น 21.50 กำไร 235 %
5. JCT จาก 8.55 เป็น 26.50 กำไร 209 %
6. UBC จาก 7.45 เป็น 22.9 กำไร 207 %
7. CVD จาก 241.20 เป็น 680.4 กำไร 182 %
8. LNH 77.40 จาก 216 เป็น กำไร 182.08 %
9. TPCORP จาก 7.9 เป็น 20.4 กำไร 158 %
10. APRINT จาก 4.15 เป็น 9.9 กำไร 138 %
อืม
ถ้าเป็นวอเรนลงทุน จะได้กำไร 100 x 1.23 x 1.23 x 1.23 x 1.23 เท่ากับ
228 % ในระยะเวลา 4 ปี
ผมขอสรุป
1. หาหุ้นอย่างวอเรนยากจริงๆ ในเมืองไทย สมัยก่อนมีคนบอกว่า ตลาดหุ้นบ้านเรา หุ้นดีๆ ที่มีกำไรจะไม่เข้าตลาด หุ้นที่เข้าตลาด เข้ามาเพื่อหวังเงินทุนแก้ป้ญหา เมื่อแก้ได้ก็พยายามหาทางออกจากตลาดไป ยกตัวอย่าง เนสกาแฟไม่เข้า แต่ TFI เข้า เป็นต้น
2. นี่ขนาดซื้อในปี 2001 หรือในปี 2544 ซึ่งดัชนีตอนนี้นั้นต่ำมากนะครับ ถ้าซื้อจากนี้ไป ถือไปอีก 4 ปี จะมีหุ้นตัวไหนที่มี กำไร 228 % น่าจะยิ่งหายากขึ้นเข้าไปใหญ่
3. ผลตอบแทนที่วอเรนทำได้ 23 % ต่อปี ถือว่ามหาศาลมาก เพราะมีหุ้นน้อยมากที่ได้ผลตอบแทนขนาดนั้น ในระยะยาว
4. ถ้าย้อนเวลาได้เราจะซื้อหรือไม่ AHC TR TMD TCB
จากปี 2001 ถึงปี 2005
ดูว่า บริษัทไหนได้ส่วนต่างราคาสูงสุด
1. AHC จาก 14.7 เป็น 68 กำไร 362 %
2. TMD จาก 12.1 เป็น 53 กำไร 338 %
3. TR จาก 109 เป็น 382 กำไร 250 %
4. TCB จาก 6.4 เป็น 21.50 กำไร 235 %
5. JCT จาก 8.55 เป็น 26.50 กำไร 209 %
6. UBC จาก 7.45 เป็น 22.9 กำไร 207 %
7. CVD จาก 241.20 เป็น 680.4 กำไร 182 %
8. LNH 77.40 จาก 216 เป็น กำไร 182.08 %
9. TPCORP จาก 7.9 เป็น 20.4 กำไร 158 %
10. APRINT จาก 4.15 เป็น 9.9 กำไร 138 %
อืม
ถ้าเป็นวอเรนลงทุน จะได้กำไร 100 x 1.23 x 1.23 x 1.23 x 1.23 เท่ากับ
228 % ในระยะเวลา 4 ปี
ผมขอสรุป
1. หาหุ้นอย่างวอเรนยากจริงๆ ในเมืองไทย สมัยก่อนมีคนบอกว่า ตลาดหุ้นบ้านเรา หุ้นดีๆ ที่มีกำไรจะไม่เข้าตลาด หุ้นที่เข้าตลาด เข้ามาเพื่อหวังเงินทุนแก้ป้ญหา เมื่อแก้ได้ก็พยายามหาทางออกจากตลาดไป ยกตัวอย่าง เนสกาแฟไม่เข้า แต่ TFI เข้า เป็นต้น
2. นี่ขนาดซื้อในปี 2001 หรือในปี 2544 ซึ่งดัชนีตอนนี้นั้นต่ำมากนะครับ ถ้าซื้อจากนี้ไป ถือไปอีก 4 ปี จะมีหุ้นตัวไหนที่มี กำไร 228 % น่าจะยิ่งหายากขึ้นเข้าไปใหญ่
3. ผลตอบแทนที่วอเรนทำได้ 23 % ต่อปี ถือว่ามหาศาลมาก เพราะมีหุ้นน้อยมากที่ได้ผลตอบแทนขนาดนั้น ในระยะยาว
4. ถ้าย้อนเวลาได้เราจะซื้อหรือไม่ AHC TR TMD TCB
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 11
ผมเคยอ่านเจอ เจ้าของกาแฟเขาให้สัมภาษณ์
ประมาณว่า
"ภรรยาไม่ให้เอาเข้าตลาดฯ
เพราะเป็นธุรกิจครอบครัว ที่มีกำไรดี"
ฟังแล้วชอบกลแฮะ
แสดงว่า ที่เอาเข้าตลาดฯ
คือบริษัทที่มีกำไรน้อยๆหรือไงหว่า
:e :evil: :evil: :evil: :evil: :evil:
csr ก็เข้าข่ายหนี้สินน้อยนะ
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เท่ากับประมาณ ๑ ต่อ ๑๕๐
แค่เฉือนที่มาขายซักไร่ ก็ชำระหนี้ได้หมดแล้ว
:roll: :roll: :roll: :roll:
ประมาณว่า
"ภรรยาไม่ให้เอาเข้าตลาดฯ
เพราะเป็นธุรกิจครอบครัว ที่มีกำไรดี"
ฟังแล้วชอบกลแฮะ
แสดงว่า ที่เอาเข้าตลาดฯ
คือบริษัทที่มีกำไรน้อยๆหรือไงหว่า
:e :evil: :evil: :evil: :evil: :evil:
csr ก็เข้าข่ายหนี้สินน้อยนะ
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เท่ากับประมาณ ๑ ต่อ ๑๕๐
แค่เฉือนที่มาขายซักไร่ ก็ชำระหนี้ได้หมดแล้ว
:roll: :roll: :roll: :roll:
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 12
[quote="คลายเครียด"]
csr ก็เข้าข่ายหนี้สินน้อยนะ
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
csr ก็เข้าข่ายหนี้สินน้อยนะ
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 13
D/E คิดจากหนี้สินทั้งหมดครับ :DRaphin Phraiwal เขียน: ขอนอกเรื่องหน่อยครับพี่ๆ
เวลาเราคิด D/E เราดูจากหนี้สินทั้งหมดหรือดูจากเฉพาะหนี้สินระยะยาวครับ
แต่ในการพิจารณาหนี้สิน เราควรดูด้วยว่าเป็นหนี้แบบไหน
หากมีเจ้าหนี้การค้า หรือหนี้ที่ไม่มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ย
ก็เป็นส่วนดี ที่ได้เอาใช้มาดำเนินกิจการ
(ไม่ใช่ค้างเค้าแล้ว ไม่ค่อยมีจ่ายนะครับ เสียเครดิตหมด :lol: )
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 16
ขอโทษด้วยครับ ผมพึ่งหัดใช้ function ใน webBelffet เขียน:ขอติงนิดนึงว่า คุณ Saitthasak น่าจะอ้างอิงสักนิดนะครับ เพราะข้อความที่คุณ โพสต์มาเป็นข้อความของคุณ chatchai เขานี่ครับ
เดี๋ยวขอลองอีกทีนะ เพราะที่ไปcopy มาตอบคุณtopbuy มันอยู่คนละ subject toppic
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 18
vnt นี่น่าจะเข้าข่ายหนี้น้อยได้รึยังครับ
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 546ล้าน
รวมหนี้สินหมุนเวียน 2201ล้าน
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 8537ล้าน
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 4926ล้าน
(เงินสด 2043ล้าน)
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 546ล้าน
รวมหนี้สินหมุนเวียน 2201ล้าน
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 8537ล้าน
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 4926ล้าน
(เงินสด 2043ล้าน)
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 19
chatchai wrote:
บริษัทที่ไม่มีหนี้ในตลาดมีหลายบริษัทเหมือนกันครับ
แต่การที่บริษัทมีหนี้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ถ้าไม่มีมากเกินไป
บริษัทที่ไม่มีหนี้หรือมีน้อยๆ เช่น MANRIN CVD SHANG SAWANG LNH SPG TMD AHC FANCY JCT CSL NIPPON GYT PR IT TNL TOPP MAKRO CP7-11 UBC SAUCE SSC SE-ED APRINT OISHI S&P RHC ROH MATI FE P-FCB TR TPCORP TTL WACOAL SST BTC TSTE KWC SPSU TCB TPA มากมายไหมครับ
ส่วนเรื่อง WG นั้น
บริษัทเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเคมีภัณฑ์จากต่างประเทศครับ
ราคาที่เป็น Cycle กระทบต่อบริษัทบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทใช้วิธีเสนอราคาแบบ Cost Plus ครับ คือราคาขายคิดจากต้นทุนบวกกำไรครับ
........
ไม่สำเร็จ
บริษัทที่ไม่มีหนี้ในตลาดมีหลายบริษัทเหมือนกันครับ
แต่การที่บริษัทมีหนี้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ถ้าไม่มีมากเกินไป
บริษัทที่ไม่มีหนี้หรือมีน้อยๆ เช่น MANRIN CVD SHANG SAWANG LNH SPG TMD AHC FANCY JCT CSL NIPPON GYT PR IT TNL TOPP MAKRO CP7-11 UBC SAUCE SSC SE-ED APRINT OISHI S&P RHC ROH MATI FE P-FCB TR TPCORP TTL WACOAL SST BTC TSTE KWC SPSU TCB TPA มากมายไหมครับ
ส่วนเรื่อง WG นั้น
บริษัทเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายเคมีภัณฑ์จากต่างประเทศครับ
ราคาที่เป็น Cycle กระทบต่อบริษัทบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทใช้วิธีเสนอราคาแบบ Cost Plus ครับ คือราคาขายคิดจากต้นทุนบวกกำไรครับ
........
ไม่สำเร็จ
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 20
[quote="Belffet"]ดีครับที่ลอง
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณคร้าบ :BJeng เขียน:อะที่ผมตอบไปเรื่อง กำไรปรับลด ของ mcs จาก .37 เป็น .29 มะเห็นขอบคุณเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 23
ขอบคุณคร้าบRaphin Phraiwal เขียน:
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 25
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=13755Belffet เขียน:ยินดีด้วย คุณ Saitthasak (สอนผมมั่งดิ ... อายจัง)
อ่านของคุณ CK ครับ
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 27
ผมผ่านเข้ามาอ่านในTVIเป็นครั้งคราว และรู้สึกว่าแนวการลงทุนแบบVIเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับนิสัยของตัวเอง...รู้จักเวปนี้จากพี่ที่ทำงานคนหนึ่งซึ่งพูดยั่วประจำว่า"เข้ามาตอนนี้ตลาดกำลังฟลุบ เจ็บตัวไม่เยอะหรอก"---ราวปี-๒๕๔๔....แต่ก็ยังไม่เข้ามาซื้อหุ้นสักที
...สิ่งเดียวที่ผมไม่ค่อยมั่นใจคือเวลาที่ผมนั่งร่อนหุ้นโดยอาศัยหลักเกณฑ์ต่างๆที่อ่านเจอ ได้รายชื่อหุ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจจริงๆว่าเราร่อนหุ้นแล้วหุ้นมันดีจริงไหม....วันนี้ผมได้เห็นแล้วว่า รายชื่อหุ้นส่วนใหญ่ที่ผมร่อนแบบคร่าวๆนั้นเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่พี่Chatchaiเขียนว่ามีหนี้น้อย...รู้สึกใจชื้นขึ้นบ้าง เคยอ่านในหนังสือกุญแจห้าดอกว่า"หลังจากการวิเคราะห์แล้วนักลงทุนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเชื่อใจหรือมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง"...ผมเจอมาแล้วครับ...ยิ่งบางตัวเคยตั้งซื้อกับโบรก...ยังโดนถามว่า หุ้นอะไรไม่เคยได้ยิน แน่ใจหรือครับว่าดี ผมยิ่งใจคอไม่ดีไปใหญ่...ตอนนี้ได้ความมั่นใจมาในระดับหนึ่งแล้วครับ....
...พี่ๆลองดูสิครับว่า หุ้นบางตัวในรายชื่อ ราคาเกินMOSไปแล้ว ยอมรับครับว่า ตอนนี้ที่ต้องฝืนใจถือเงินสดเพราะราคาหุ้นบางตัวมีราคาเกินMOSที่ผมวางไว้
...สิ่งเดียวที่ผมไม่ค่อยมั่นใจคือเวลาที่ผมนั่งร่อนหุ้นโดยอาศัยหลักเกณฑ์ต่างๆที่อ่านเจอ ได้รายชื่อหุ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจจริงๆว่าเราร่อนหุ้นแล้วหุ้นมันดีจริงไหม....วันนี้ผมได้เห็นแล้วว่า รายชื่อหุ้นส่วนใหญ่ที่ผมร่อนแบบคร่าวๆนั้นเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่พี่Chatchaiเขียนว่ามีหนี้น้อย...รู้สึกใจชื้นขึ้นบ้าง เคยอ่านในหนังสือกุญแจห้าดอกว่า"หลังจากการวิเคราะห์แล้วนักลงทุนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเชื่อใจหรือมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง"...ผมเจอมาแล้วครับ...ยิ่งบางตัวเคยตั้งซื้อกับโบรก...ยังโดนถามว่า หุ้นอะไรไม่เคยได้ยิน แน่ใจหรือครับว่าดี ผมยิ่งใจคอไม่ดีไปใหญ่...ตอนนี้ได้ความมั่นใจมาในระดับหนึ่งแล้วครับ....
...พี่ๆลองดูสิครับว่า หุ้นบางตัวในรายชื่อ ราคาเกินMOSไปแล้ว ยอมรับครับว่า ตอนนี้ที่ต้องฝืนใจถือเงินสดเพราะราคาหุ้นบางตัวมีราคาเกินMOSที่ผมวางไว้
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 28
มั่นใจในตนเอง อย่าฟังคนอื่นทั้งหมด ครับ
ฟังคนอื่น และนำมาวิเคราะห์ด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
เราคงไม่ซื้อหุ้น เพียงแค่โบรกเกอร์บอกว่ามันกำลังจะขึ้น หรอกนะครับ
เพราะหากเราขาดทุน เขาคงไม่มาเฉลี่ยขาดทุนกับเรา
ความรู้มีค่าดังอาวุธ ครับ
ในเวบนี้อาวุธเพียบครับ ลองเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง
โชคดีครับ
ฟังคนอื่น และนำมาวิเคราะห์ด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
เราคงไม่ซื้อหุ้น เพียงแค่โบรกเกอร์บอกว่ามันกำลังจะขึ้น หรอกนะครับ
เพราะหากเราขาดทุน เขาคงไม่มาเฉลี่ยขาดทุนกับเรา
ความรู้มีค่าดังอาวุธ ครับ
ในเวบนี้อาวุธเพียบครับ ลองเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง
โชคดีครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 29
จุ๊ จุ๊
อย่าเข้าใจผิดว่าผมคัดเลือกบริษัทมาให้ลงทุนนะครับ
เพียงแต่พอดีมีเพื่อนคนหนึ่งสงสัยว่าบริษัทในตลาดที่มีหนี้น้อยๆมีหลายบริษัทไหม ผมเลยลองแนะนำให้ดู
การพิจารณาว่าบริษัทไหนเป็นบริษัทที่ดี คงมีทั้งด้านตัวเลขต่างๆ และด้านคุณภาพ
ด้านตัวเลขเองก็มีหลายตัวที่ต้องพิจารณาครับ
บางบริษัทไม่มีหนี้ แต่มีกำไรน้อย เราก็คงไม่สนใจซักเท่าไร
และที่สำคัญ ถึงแม้บริษัทที่ดีขนาดไหน แต่ถ้าราคาแพงเกินไป ก็คงไม่น่าซื้อ จริงไหมครับ
อย่าเข้าใจผิดว่าผมคัดเลือกบริษัทมาให้ลงทุนนะครับ
เพียงแต่พอดีมีเพื่อนคนหนึ่งสงสัยว่าบริษัทในตลาดที่มีหนี้น้อยๆมีหลายบริษัทไหม ผมเลยลองแนะนำให้ดู
การพิจารณาว่าบริษัทไหนเป็นบริษัทที่ดี คงมีทั้งด้านตัวเลขต่างๆ และด้านคุณภาพ
ด้านตัวเลขเองก็มีหลายตัวที่ต้องพิจารณาครับ
บางบริษัทไม่มีหนี้ แต่มีกำไรน้อย เราก็คงไม่สนใจซักเท่าไร
และที่สำคัญ ถึงแม้บริษัทที่ดีขนาดไหน แต่ถ้าราคาแพงเกินไป ก็คงไม่น่าซื้อ จริงไหมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 71
- ผู้ติดตาม: 0
เวลาคนระดับคุณฉัตรชัยพูด ผมคิดว่าเพื่อนคงไม่ค่อยสังเกตุเท่า
โพสต์ที่ 30
[quote="Simply"]
...สิ่งเดียวที่ผมไม่ค่อยมั่นใจคือเวลาที่ผมนั่งร่อนหุ้นโดยอาศัยหลักเกณฑ์ต่างๆที่อ่านเจอ ได้รายชื่อหุ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจจริงๆว่าเราร่อนหุ้นแล้วหุ้นมันดีจริงไหม....วันนี้ผมได้เห็นแล้วว่า รายชื่อหุ้นส่วนใหญ่ที่ผมร่อนแบบคร่าวๆนั้นเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่พี่Chatchaiเขียนว่ามีหนี้น้อย...รู้สึกใจชื้นขึ้นบ้าง เคยอ่านในหนังสือกุญแจห้าดอกว่า"หลังจากการวิเคราะห์แล้วนักลงทุนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเชื่อใจหรือมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง"...ผมเจอมาแล้วครับ...ยิ่งบางตัวเคยตั้งซื้อกับโบรก...ยังโดนถามว่า หุ้นอะไรไม่เคยได้ยิน แน่ใจหรือครับว่าดี
...สิ่งเดียวที่ผมไม่ค่อยมั่นใจคือเวลาที่ผมนั่งร่อนหุ้นโดยอาศัยหลักเกณฑ์ต่างๆที่อ่านเจอ ได้รายชื่อหุ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มั่นใจจริงๆว่าเราร่อนหุ้นแล้วหุ้นมันดีจริงไหม....วันนี้ผมได้เห็นแล้วว่า รายชื่อหุ้นส่วนใหญ่ที่ผมร่อนแบบคร่าวๆนั้นเป็นหุ้นส่วนใหญ่ที่พี่Chatchaiเขียนว่ามีหนี้น้อย...รู้สึกใจชื้นขึ้นบ้าง เคยอ่านในหนังสือกุญแจห้าดอกว่า"หลังจากการวิเคราะห์แล้วนักลงทุนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเชื่อใจหรือมั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง"...ผมเจอมาแล้วครับ...ยิ่งบางตัวเคยตั้งซื้อกับโบรก...ยังโดนถามว่า หุ้นอะไรไม่เคยได้ยิน แน่ใจหรือครับว่าดี