สร้างพอร์ตหวังปันผลประมาณ 5หมื่นต่อเดือน

โพสต์ พุธ พ.ย. 09, 2005 10:43 pm |

ถ้ารายได้เดือนละ 4-5หมื่น แล้วอยากสร้างพอร์ตขนาด 12ล้านภายในเวลา 20 ปีจะทำได้ไหมครับ

โพสต์ พุธ พ.ย. 09, 2005 11:05 pm |

ผมกำลังคิดจะเปลี่ยนกลยุทธ จากเดิมสะสมหุ้นไปเรื่อยๆเป็นเก็บเงินสดไว้มากๆแล้วเข้าซื้อแค่ปีละ 1-2 ครั้งที่เห็นว่าเป็นโอกาสดีจริงๆ แต่กลัวจะไม่สำเร็จเพราะถ้ามีเงินสดกับตัวมากมักจะมีอันต้องใช้เรื่อยเลย

โพสต์ พุธ พ.ย. 09, 2005 11:41 pm |

ดีครับ เข้าครั้งละหนัก ๆ เหมือนเฮียสองคอ ที่เคยเขียนว่า

ขนาดของพอร์ตบังคับให้เราต้องทำกำไรทีละมาก ๆ

(ถ้าอ้างมาผิดขออภัยครับ) หรือหมอยง หรือบัฟเฟตต์ ก็ชอบลงทีละหนัก ๆ เมื่อเป็นโอกาสจริง ๆ

โพสต์ พุธ พ.ย. 09, 2005 11:44 pm |

เก็บเงินสดไว้ก็มีต้นทุนครับ ต้นทุนก็คือดอกเบี้ยนั่นเอง หรือพูดทางเศรษฐศาสตร์(ให้งงเข้าไปอีก)ดอกเบี้ย ก็คือต้นทุนค่าเสียโอกาส
ผมว่าเมื่อโอกาสมาถึง ก็ซื้อไปเลยครับ อย่าไปตั้งกฏเกณฑ์มากๆเลย เป็นสร้างความกดดันให้ตนเองมากกว่า

โพสต์ พุธ พ.ย. 09, 2005 11:56 pm |

ลองใช้ทางสายกลางดูสิครับ
ซื้อครึ่งหนึ่ง
แล้วเก็บเงินอีกครึ่งหนึ่งไว้รอจังหวะ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 12:37 am

การหารายได้เดือนละห้า หมื่น ระหว่างทำการเล่นหุ้นให้เหลือเดือนละ ห้าหมื่อนกับการทำค้าให้เหลือเดือนละห้าหมื่น

แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคนก็จริง

เพราะบางคนอาจจะเล่นหุ้นเก่ง

บางคนอาจจะทำการค้าเก่ง

อืม

........................................................................

ผมคิดถึงความน่าจะเป็นมากกว่า

เอาเป็นว่า ถ้านึกถึงเพื่อนทั้งหมดที่เรารู้จักมา มีกี่คนที่ทำการค้า แล้วเหลือเดือนละ ห้าหมื่น คงน้อยเนอะ

แต่ถ้าถามว่า มีกี่คนที่เล่นหุ้น จนกระทั้ง เหลือปันผลเดือนละ ห้าหมื่น

อืม สำหรับบางคน คงไม่มีเลย อิอิ ใกล้ศูนย์เต็มที

....................................................................................................

ธุรกิจที่ยากสุดๆ ย่อมทำให้คนทีสำเร็จได้ผลตอบแทนเยอะสุด

ผมคิดว่า ถ้าการเล่นหุ้นเป็นธุรกิจอย่างนึง ธุรกิจนี้ โคตรยากเลยอะ เมื่อเทียบกับธุรกิจธรรมดา

เพราะฉะนั้นถ้าจะหาเงินแค่ห้าหมื่นต่อเดือน ด้วย ความพยายาม และเวลา ที่มี ผมคิดว่าเอาเวลาไปทำธุรกิจของตัวเอง ดีกว่า ถึงแม้จะยาก แต่ก็ง่ายกว่าเล่นหุ้นนะ

อืม ที่อยากจะพูดคือมันเหมือนมวยคนละรุ่น ถ้าบอกว่าจะหาเงินพันล้านนี่

ผมจะบอกว่า ไม่ศึกษาตลาดหุ้นไม่ได้ แค่ทำธุรกิจอย่างเดียวให้ได้พันล้าน มันยาก แต่ก็มีคนทำได้ แต่น้อยนะ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 1:38 am

ภายใน 20 ปี ผมมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าความรู้มีมากพอ และเงินเริ่มต้นมีมากพอ

ปันผลเดือนละ 5 หมื่น 1 ปีก็ 600,000 บาท

ถ้าปันผลพื้นๆที่ 3% เงินลงทุนก็จะเท่ากับ 20 ล้านบาท

ถ้าเงินเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท เงินลงทุนเติบโตปีละ 1 ล้านบาท โดยไม่นับเงินใหม่ที่เข้ามาเพิ่ม ก็อาจทำได้

แต่ถ้าเริ่มที่ 1 แสน หรือ 1 หมื่นบาท คงยากมาก ถ้าทำได้ก็คงใช้เวลามากกว่า

พี่วิบูลย์ หรือ คุณ web หรือท่านอื่นที่อ่านหนังสือเรื่องราวของปู่บัฟเฟตต์ ช่วยบอกหน่อยครับว่า ปู่แก ทำเงิน 1 แสนเหรียญ เป็น 20 ล้านเหรียญ ได้ในเวลากี่ปี หรือ ทำ 1 ล้านเหรียญให้เป็น 20 ล้านเหรียญ ได้ในเวลาเท่าไหร่ครับ

เราอาจทำได้โดยใช้เวลาเท่ากับปู่แก หรือเร็วกว่า หรือนานกว่าก็ได้

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 8:25 am

กระทู้นี้ทำให้ผมมองอีกรูปแบบนึงขึ้นมาได้นะครับ

ผมนึกถึงหนังสือ "กลยุทธ์หุ้นห่านทองคำ" ของคุณ เทพ รุ่งธนาภิรมย์ น่ะครับ

เงินปันผลก็คือ ไข่ทองคำ จากหุ้นที่เป็นห่านทองคำ ซึ่งเขามองว่าเป้นผลตอบแทนที่เป็นเงินสด และเป็นรูปธรรมกว่า Capital gain ของหุ้นแต่ละตัว

ถ้าเดือนนึงเราคิดว่าจะใช้เงินจำนวน 50000 บาทต่อเดือน เพื่ออยู่อย่างสบายใจ

เราก็สร้างพอร์ตที่มีหุ้นพื้นฐานดี ทำกำไรต่อเนื่อง ที่จะฟักไข่ทองคำให้เราปีละ 6 แสนอย่างที่พี่ Harry บอก เพื่อสร้าง อิสรภาพทางการเงิน

แต่ VI ไม่มองอย่างนี้นี่ครับ

พี่ๆคิดว่าถ้าเราจะนำกลยุทธ์ 2 กลยุทธ์นี้มาผสมผสานกัน คือเน้นหุ้นคุณค่า แต่มองผลตอบแทนในรูปเงินปันผลเป็นหลัก จะได้ผลดีหรือไม่ แล้วจะต้องระวังกับดักอะไรบ้าง

ส่วนตัวผมเองก็พยายามที่จะผสมผสานสองตัวนี้อยู่ เพราะผมมองว่าตัวเองให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากตลาดหุ้นที่เป็นเงินสดในรูปเงินปันผลมากกว่า Capital Gain Appreciation น่ะครับ

ช่วยให้คำแนะนำกับผมและเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ.... ขอบคุณมากครับ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 9:23 am

ผมว่าคำนวณแบบ realistic ก็ต้องมีสักประมาณ 900,000ตอนเริ่มน่ะครับ
ทบต้น สักปีละ 10% ใช้เวลา 20 ปีก็จะได้ 6 ล้าน ครับ จะได้ผลตอนแทน ปีละ 600,000 ครับ

อันนี้ไม่ใช่ปันผลนะครับ แต่เป็นผลตอบแทนต่อปี

แล้วที่สำคัญ ยังไม่ได้รวม เงินเฟ้อครับ เพราะว่าเงินเฟ้อเป็นตัวบอกว่า มูลค่าของเงินในแต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากันครับ
ดังนั้นถ้าคำนวณก็ต้องคำนวณเรื่องว่ามูลค่าเงิน ปัจจุบัน กับอีก 15/20 ปีที่เท่ากันเป็นเท่าไหร่ด้วยครับ

ดังนั้น ที่ผมเคยคิดคือ ต้องมีเงินต้นประมาณ 3 ล้านบาท
ทบต้นปีละ 10% เงินเฟ้อ 5% จะคำนวณได้ว่า ใช้เวลา ประมาณ 15 ปีครับ
ที่จะมีผลตอบแทนต่อปี ที่มีมูลค่าเท่ากับเงินปัจจุบันประมาณ 600,000 บาทต่อปีครับผม

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมากๆ 3 factors คือ
เงินต้น, % return, เงินเฟ้อ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 10:09 am

poppo เขียน:ถ้ารายได้เดือนละ 4-5หมื่น แล้วอยากสร้างพอร์ตขนาด 12ล้านภายในเวลา 20 ปีจะทำได้ไหมครับ

ถ้าถามผมว่าภายใน 20 ปีจะทำได้หรือไม่ ก็คงแล้วแต่คนละครับ บางคนก็อาจจะได้ บางคนก็ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็คงจะไม่ได้ เพราะคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ยังขาดทุนเลยครับ

ช่วงผมทำงานก่อนเกษียณ ผมยังมีเงินเดือนไม่ถึง 4-5 หมื่นเลยครับ

ถ้าคุณมีความรู้ ความเข้าใจ ความประสบการณ์ และมีโอกาส คุณก็สามารถทำได้

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 12:31 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ถ้ารายได้เดือนละ 4-5หมื่น แล้วอยากสร้างพอร์ตขนาด 12ล้านภายในเวลา 20 ปีจะทำได้ไหมครับ

1. ทำได้แน่นอนครับ คือ เก็บเงินให้ได้เดือนละ 2-2.5 หมื่น

2. ซื้อหุ้นอย่างเดียว ห้ามขาย ต่อให้พื้นฐานเปลี่ยนก็ห้ามขาย ( คือจริงๆเราเองแหละที่ดันไปคิดว่ามันเปลี่ยน )

3. ซื้อไปเรื่อยๆ 10 ปีเต็ม เงินต้นจะเป็น 2.4 - 3 ล้าน

หลังจากผ่านไป 10 ปี แล้วมาดูกันว่า ประสบการณ์ในการเลือกหุ้นแบบไม่ขายเลยนั้น เป็นอย่างไร ตัวไหนกำไร ตัวไหนขาดทุน

รวมแล้วพอร์ต เป็นเท่าไร

โดยส่วนตัวผมเดาว่า พอร์ตจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้าน

4. ซื้อต่อไปอีกเรื่อยๆ อีก 10 ปี แต่เน้นๆ เพราะมีประสบการณ์แล้ว เอาตัวเน้นๆ ซัก 1-3 ตัว โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเข้าไปแล้ว เงินเดือนตอนนั้นคงจะประมาณ 7-9 หมื่น ใช้เวลา 10 ปี ทำเงิน 5 ล้าน ให้เป็น 12 ล้าน

เป็นไปได้มากครับ เพราะเล่นมาตั้ง 20 ปี

แต่ก็เป็นไปได้ยาก ที่จะเก็บเงินมาลงทุนได้ทุกเดือนที่ 2-2.5 หมื่นบาท

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 12:53 pm

ผลลองคำนวนผลตอบแทนทบต้นเล่น ๆ ดูนะครับ
หากคิดว่าลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 12% ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป
และหากลงด้วยเงินจำนวนนี้ทุก ๆ เดือน เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปีจะกลายเป็นเงิน
7000 --- 6.92 ล้าน
10000 --- 9.89 ล้าน
12000 --- 11.87 ล้าน
และหากว่าเราสามารถทำได้ซัก 15% ดีกว่าตลาดเล็กน้อย
7000 --- 10.48 ล้าน
10000 --- 14.97 ล้าน
12000 --- 17.96 ล้าน
ซึ่งผมคิดว่าการที่จะทำผลตอบแทนในระยะยาวแล้วให้ได้สัก 12-15% นั้นไม่น่าที่จะยากเกินไป ซึ่งผลตอบแทนของตลาดบ้านเราแล้วระยะยาวก็คิดว่าก็น่าจะได้ประมาณนี้ 12-15 จึงไม่มากเกินไปเลย
และการที่จะออมเงินให้ได้สักเดือนละ 10000 ผมว่าสำหรับคนที่จะปริญญาตรีแล้ว เงินเดือนก็คงจะได้เกือบ ๆ 20000 แล้ว แรก ๆ ก็เก็บสัก 5000-7000 ต่อไปเงินเดือนขึ้นเก็บสัก 10000 หรือมากกว่าก็ไม่น่าจะยากอะไร

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 1:02 pm

poppo เขียน:ผมกำลังคิดจะเปลี่ยนกลยุทธ จากเดิมสะสมหุ้นไปเรื่อยๆเป็นเก็บเงินสดไว้มากๆแล้วเข้าซื้อแค่ปีละ 1-2 ครั้งที่เห็นว่าเป็นโอกาสดีจริงๆ แต่กลัวจะไม่สำเร็จเพราะถ้ามีเงินสดกับตัวมากมักจะมีอันต้องใช้เรื่อยเลย

ตรงนี้ผมติงนิดนึงว่าไม่เห็นด้วยครับ เพราะเงินในหุ้น ถ้าเป็นหุ้นถูกตัวมันจะโตขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ใส่เข้าไปก่อนดีกว่าครับ

ส่วนความเป็นไปได้ก็มีโอกาสครับ แต่ต้องอดทนครับ อย่าหวังผลมากเกินไปในตอนแรก ค่อย ๆ โต ทีและน้อยแต่ยั่งยืนครับ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 1:04 pm

อืม อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมากเลยนะ เก็บแค่เดือนละ 12000 เก็บไปเรื่อยๆ 20 ปี มี 12 ล้านแล้ว

ถ้าใครเป็นหมอ เก็บสักเดือนละ 120000 อีก 20 ปีก็มี 120 ล้านแล้วนะ

อิอิ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 2:29 pm

eak เขียน:ผลลองคำนวนผลตอบแทนทบต้นเล่น ๆ ดูนะครับ
หากคิดว่าลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 12% ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป

ถ้าไม่ยากแล้วทำไมคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ถึงยังไม่ได้ (จริงๆแล้วขาดทุนด้วยซ้ำ)

แซวเล่นนะครับ :lol: :lol: :lol:

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 2:32 pm

จากการคำนวณแล้ว เราจะพบว่า เราสามารถมีอิสระภาพทางการเงินได้ โดยที่เราไม่ต้องหวังผลตอบแทนที่สูงลิ่ว

แต่ผู้คนมักจะหวังกำไร 50% ต่อปีบ้าง เท่าตัวบ้าง ส่งผลให้แนวทางการลงทุนจริงไปเป็นแนวอื่นที่ไม่ใช่ VI

เมื่อเวลาผ่านไป ผลตอบแทนก็เท่าเดิมหรือไม่ก็ติดลบ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแนวทางเป็น VI ได้ ก็ยังคงติดแนวเดิม ทั้งๆที่ไม่ประสบความสำเร็จ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 2:35 pm

โค้ด: เลือกทั้งหมด

eak wrote: 
ผลลองคำนวนผลตอบแทนทบต้นเล่น ๆ ดูนะครับ 
หากคิดว่าลงทุนได้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 12% ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป 


ถ้าไม่ยากแล้วทำไมคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ถึงยังไม่ได้  (จริงๆแล้วขาดทุนด้วยซ้ำ) 

แซวเล่นนะครับ

อยากจะแซวเหมือนกันแต่เกรงใจ

ในเรื่องที่ว่า 12 % ต่อปีไม่ยากนั้น อืม

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 3:26 pm

ความสม่ำเสมอคือคำตอบของการลงทุนครับ

ลงทุนสม่ำเสมอ
หาความรู้สม่ำเสมอ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ดูแลตัวเองสม่ำเสมอ
วิเคราะห์บริษัทที่จะลงทุนสม่ำเสมอ

ฯลฯ

ใครมีอะไรเพิ่มเติม เชิญฮะ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 3:27 pm

โพส ถามตอบสม่ำเสมอ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 3:31 pm

ทำอยู่ครับ พี่ Jeng

อย่าเพิ่งเบื่อละกัน

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 3:34 pm

อ่านกระทู้ VI สม่ำเสมอ

ช่วยได้ครับ

ผมทำอยู่ อิอิ

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 3:54 pm

12 ล้าน ภายใน 20 ปี ไม่ยากนะ น้อยไปด้วยซ้ำ น่าจะตั้งเป้าซัก 20 ล้าน แต่ที่ยากกว่าคือทำไงถึงมีเงินมาซื้อหุ้นเดือนละ 4-5 หมื่นบาท

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 5:37 pm

ผมเคยลองคิดดูว่า ถ้าเก็บเงินทบไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน ๆ ละ 10,000 จน 20 ปี โดยได้ตอบแทนเฉลี่ยปีละ 15% พอครบปีที่ 20 จะมีเงินมหาศาลเลยครับ .....

แต่คิดอีกมุมหนึ่ง เมื่อถึงตอนนั้น ผมจะเสียดายหรือเปล่าที่ตอนนี้มีเงินมากมาย แต่เสียเวลาที่จะเอาเงินไปหาความสุข ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมานั้น???? หรืออาจจะแย่ขนาด มีเงินมาก แต่ไม่มีแรงพอจะใช้เนี่ยแหละครับ

หนึ่งในมุมมองคิดเพื่อตัวเองครับ (ครอบครัวคนรอบข้างก็คิดถึงนะ แต่เก็บไว้อีกเรื่องหนึ่ง)

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 8:01 pm

รู้สึกว่าชาวvi จะคิดคล้ายๆกันหมดนะครับ......แววดีครับ...อดทนและทนอด5555555

พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2005 8:27 pm

โดนแซวซะแล้ว

ตอนนี้ผมก็กำลังเก็บอยู่ครับ โดยส่วนตัวหวังไว้ประมาณ10-15% ต่อปี เก็บกับแฟนคนละหมื่นบาทต่อเดือนเริ่มลงทุนมาได้เกือบปีแล้ว
ผลงานโดยรวมในตอนนี้ก็ปริ่ม ๆ ครับ เจ็บหนักมาตัวนึงกับ vng แต่ก็ได้บทเรียนราคาแพงมากกับตัวนี้มา หมดไปเกือบ20% ซึ่งหากไม่ไปเจอตัวนี้เข้า พอร์ตตอนนี้ก็คงจะสวยหรูมากครับ

โดยส่วนตัว คิดว่าหากเราไม่หวังผลตอบแทนที่มากมายซะจนเกินไป 12% นี่จากปันผลสัก 4 ทำให้ได้อีกสัก 8 ต่อปี
อืมม ไม่น่ายากนะ

:D

โพสต์ ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 1:56 pm |

หากนับไป 20 ปี จากปัจจุบัน

ผมคงยังไม่แก่แน่ครับ อายุ 40 ต้นๆ เอง

ยังมีเวลาได้ใช้เงินอีกเยอะครับ

ถามว่าทำไมยังไม่แก่? คุณต้องดูแลตัวเองครับ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ ฯลฯ ตั้งแต่วันนี้ ครับ

ลองดูสิครับ คนที่เป็น VI คงดูแลตัวเองกันทุกคนนะครับ

ผมเห็น ดร. เค้าก้อยังไม่แก่เลยนิ จะ 60 แว้ว อิอิ

โพสต์ ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 2:01 pm |

แล้วถ้าเกิดช่วงเศรษฐกิจล้มล่ะครับ พี่ๆจะทนถือกันไหวมั๊ยครับ
ผมว่าช่วง 20ปี นี่น่าจะมีต้มยำกุ้งอีกซักครั้งสองครั้งนะครับ

โพสต์ ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 3:11 pm |

12% ไม่ยากแต่ปีที่แล้วก็ทำบ่ได้ -_-'

ผมว่าถ้าเอาแต่ลงทุนอย่าเดียว งานการทำทิ้งๆขว้างๆ โอกาสที่มีรายได้สูงจน "มีอิสรภาพ" คงยากนะครับ โอกาสที่รายได้จากงานประจำที่ 50000 บาทต่อเดือน ตอนอายุ 30 มีสูงกว่าลงทุนให้ได้เท่ากันที่อายุเท่ากันนะครับ

โพสต์ ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 3:19 pm |

ตอนนี้มีหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าพอสมควรครับ แม้จะไม่เกลื่อนตลาดเหมือนสมัยอาจารย์นิเวศน์เริ่มลงทุนใหม่ๆ แต่ยังพอมีอยู่ครับ ถ้าคุณซื้อไว้สัก5ตัว ผ่านไป 5ปี คงได้ผลตอบแทนสูงนะครับ ส่วนเป็นตัวไหนก็ลองอ่านบทความของอาจารย์นิเวศน์ดูแล้วค่อยๆเริ่มศึกษาจากตัวที่อาจารย์แนะนำดูนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาศึกษาหุ้นทั้งตลาดครับ

โพสต์ ศุกร์ พ.ย. 11, 2005 5:05 pm |

Viewtiful Investor เขียน:12% ไม่ยากแต่ปีที่แล้วก็ทำบ่ได้ -_-'

ผมว่าถ้าเอาแต่ลงทุนอย่าเดียว งานการทำทิ้งๆขว้างๆ โอกาสที่มีรายได้สูงจน "มีอิสรภาพ" คงยากนะครับ โอกาสที่รายได้จากงานประจำที่ 50000 บาทต่อเดือน ตอนอายุ 30 มีสูงกว่าลงทุนให้ได้เท่ากันที่อายุเท่ากันนะครับ

จริงครับ

สำคัญที่สุดคือทำรายได้ ประจำให้ได้มากๆ ตอนอายุน้อยๆ
แล้วพอมีเงินเก็บแล้วค่อยใช้เงินที่เก็บมา เป็นรายได้หลัก
ระหว่างที่รายได้ประจำยังไม่เยอะมาก เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเล่นหุ้นให้ได้เยอะที่สุดครับ

ตอนนี้กำลังทำอยู่ครับ คิดว่าไม่ยากถ้าตั้งใจจริง