ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 31
อืมม์ เพิ่งไปอ่านข่าวย้อนหลังตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วเกี่ยวกับคุณสนธิ โดยเฉพาะช่วงปี 01-04 เพิ่งรู้ว่าทำไมไม่มี สว. ไม่มีฝ่ายค้าน ไม่มีสื่ออื่น ๆ ออกมาสนับสนุนสนธิเลย
ถ้าใครอยากรู้ว่าทำไมลองไปหาอ่านหนังสือพิมพ์เก่า ๆ ดูนะครับ ความจำคนเรานี่มันสั้นจริง ๆ ที่จริงข่าวพวกนี้ผมก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านมาหมดแล้ว
ถ้าใครอยากรู้ว่าทำไมลองไปหาอ่านหนังสือพิมพ์เก่า ๆ ดูนะครับ ความจำคนเรานี่มันสั้นจริง ๆ ที่จริงข่าวพวกนี้ผมก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยอ่านมาหมดแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 857
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 34
จากหนังสือพิมพ์ฉบับเก่า ๆ ครับ เช่นกรุงเทพธุรกิจ ไทยรัฐ ฯลฯ
หรือใครมี Newscenter (สปอนเซอร์เวปนี้ที่มุมขวาบน :roll: ) ก็ Search เลยคับ
"สนธิ AND ลิ้มทองกุล"
จะเพิ่ม " AND คดี" ด้วยก็ได้จะได้ออกมาน้อยลง
อ่านจากหลังมาหน้า หรือเลือกช่วงปี 01-02 (ไม่ได้ตังค่าสปอนเซอร์นา)
อ่านข่าวเก่า ๆ รื้อฟื้นความทรงจำสำหรับคนเริ่มแก่ :twisted:
หรือใครมี Newscenter (สปอนเซอร์เวปนี้ที่มุมขวาบน :roll: ) ก็ Search เลยคับ
"สนธิ AND ลิ้มทองกุล"
จะเพิ่ม " AND คดี" ด้วยก็ได้จะได้ออกมาน้อยลง
อ่านจากหลังมาหน้า หรือเลือกช่วงปี 01-02 (ไม่ได้ตังค่าสปอนเซอร์นา)
อ่านข่าวเก่า ๆ รื้อฟื้นความทรงจำสำหรับคนเริ่มแก่ :twisted:
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 35
ไม่ได้เข้าข้างสนธินะครับ
ผมสนใจการกระทำท่านนายกปัจจุบันมากกว่า
เพราะมันส่งผลกับประเทศตอนนี้มากครับ
มีบางคนก็บอกว่าไม่โทษบุคคล
แต่โทษระบบ ที่ระบบตอนนี้มันไม่ดี
อยากให้ท่านยอมเสียสละ
เพื่อจัดระบบให้มันดีครับ
ผมอยู่ในระบบประชาธิปไตย
ผมชอบ ผมคิดว่าผมแสดงความคิดเห็นได้
แต่ถ้าวันนึงผมต้องอยุ่ในระบบเผด็จการ
ผมก็คงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ทั้งนั้น
ผมสนใจการกระทำท่านนายกปัจจุบันมากกว่า
เพราะมันส่งผลกับประเทศตอนนี้มากครับ
มีบางคนก็บอกว่าไม่โทษบุคคล
แต่โทษระบบ ที่ระบบตอนนี้มันไม่ดี
อยากให้ท่านยอมเสียสละ
เพื่อจัดระบบให้มันดีครับ
ผมอยู่ในระบบประชาธิปไตย
ผมชอบ ผมคิดว่าผมแสดงความคิดเห็นได้
แต่ถ้าวันนึงผมต้องอยุ่ในระบบเผด็จการ
ผมก็คงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ทั้งนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 37
เริ่มจากฝ่ายค้านก่อน
ตอนนี้ฝ่ายค้านเสียงไม่พออภิปรายนายกได้
องค์กรอิสระต่าง ๆ ที่จะเอามาค้านฝ่ายบริหาร
ตอนนี้เดี้ยงหมดครับ
เพราะสวที่เข้ามาห้ามหาเสียงได้แต่แนะนำตัว
ดังนั้นสว ส่วนมากจึงมาจากหัวคะแนนซึ่งส่วนมากก็จะเป็น
คนของรัฐบาลครับ
กรณีคุณหญิงถูกแตะถ่วงเป็นตัวอย่าง
ความผูกพันระหว่างสสกับประชาชนที่หายไปจากบางคนที่
เข้ามาเพราะระบบบัญชีรายชื่อ สสกลุ่มนี้ไม่มีความผูกพันกับประชาชน
การจำกัดที่ให้สสต้องสังกัดพรรคการเมือง
สสต้องทำตามมติพรรค ไม่ว่าตัวเองจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
และที่สำคัญตอนนี้ท่านนายกที่รอดมาจากคดีซุกหุ้น
ขึ้นศาล ตอนแรกท่านคล้ายจะร้องให้ขอโอกาสทำงานงานเพื่อส่วนรวม
เพื่อประเทศชาติ
ตอนนี้ถึงท่านไม่ถือหุ้น แต่ลูกเมียท่าน พี่น้องท่าน
ต่างก็เข้ามาถือหุ้นในบริษัทกัน
เราคงได้ยินข่าวลูกท่านนายกมาถือ tmb แต่ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว
ตอนนี้ฝ่ายค้านเสียงไม่พออภิปรายนายกได้
องค์กรอิสระต่าง ๆ ที่จะเอามาค้านฝ่ายบริหาร
ตอนนี้เดี้ยงหมดครับ
เพราะสวที่เข้ามาห้ามหาเสียงได้แต่แนะนำตัว
ดังนั้นสว ส่วนมากจึงมาจากหัวคะแนนซึ่งส่วนมากก็จะเป็น
คนของรัฐบาลครับ
กรณีคุณหญิงถูกแตะถ่วงเป็นตัวอย่าง
ความผูกพันระหว่างสสกับประชาชนที่หายไปจากบางคนที่
เข้ามาเพราะระบบบัญชีรายชื่อ สสกลุ่มนี้ไม่มีความผูกพันกับประชาชน
การจำกัดที่ให้สสต้องสังกัดพรรคการเมือง
สสต้องทำตามมติพรรค ไม่ว่าตัวเองจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
และที่สำคัญตอนนี้ท่านนายกที่รอดมาจากคดีซุกหุ้น
ขึ้นศาล ตอนแรกท่านคล้ายจะร้องให้ขอโอกาสทำงานงานเพื่อส่วนรวม
เพื่อประเทศชาติ
ตอนนี้ถึงท่านไม่ถือหุ้น แต่ลูกเมียท่าน พี่น้องท่าน
ต่างก็เข้ามาถือหุ้นในบริษัทกัน
เราคงได้ยินข่าวลูกท่านนายกมาถือ tmb แต่ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 39
วิธีแก้นะครับ
ผมอยากให้เราแก้ที่ระบบมากกว่า เพราะที่ตัวบุคคลมันก็พูดลำบากครับ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews. ... 7%b5%d1%b9
"พระเจ้าอยู่หัว นักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤศจิกายน 2548 15:02 น.
ประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ขณะร่วมอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง "พระราชอำนาจกับการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ 2"
ผ่าทางตันวิกฤตรธน.ในอุ้งมือทุนการเมืองผูกขาดเบ็ดเสร็จทุกองคาพยพ อมร นำทีมถอดเขี้ยวเล็บ ทักษิณ ตั้งสูตรแก้รธน. หันพึ่งบารมีในหลวงไม่ใช่ดึงฟ้าต่ำแต่เมื่อจะจมดินก็ต้องเกาะฟ้า ยกหลายประเทศในยุโรปพระมหากษัตริย์เคยช่วยประชาชนปฏิรูปการเมือง ประมวล ปลุกมวลชนล่าล้านชื่อถวายฎีกาแก้รธน.รื้อคุกทรท. ย้ำพระเจ้าอยู่หัวเป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้าน หมอนิรันดร์ จวกวงจรอุบาทว์อำนาจนิยมในระบอบทักษิณาธิปไตยเทียบเผด็จการทางทหาร หวั่นพฤติกรรมขู่กรรโชกสื่อของรัฐบาลจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายซ้ำรอยยุค 14 ตุลาฯ ด้าน สนธิ แฉไม่เลิก แม้ว เยือนจีนหมกเม็ดสัญญา 50 ปี
เวทีอภิปรายทางวิชาการเรื่อง พระราชอำนาจกับการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้ร่วมอภิปราย
คือ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ, นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สมาชิกวุฒิสภา, นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และนายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ต่างเห็นพ้องกันว่า การปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 1 ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาถึงทางตัน และทางออกในเวลานี้มีแต่ต้องถวายคืนพระราชอำนาจเพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นายสมยศ เชื้อไทย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ดำเนินการอภิปราย เปิดประเด็นโดยชี้ให้เห็นถึงสภาพการณ์ปัจจุบันของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 ว่า ตกอยู่ภายใต้ระบบรวบอำนาจของนักธุรกิจการเมืองโดยผ่านทางพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยการทุจริตและการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งที่รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปฏิรูปการเมืองให้การบริหารแผ่นดินมีประสิทธิภาพภายใต้รัฐบาลที่เข้มแข็งและต้องการให้ทุจริตคอร์รัปชั่นลดลง รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเป็น ฉบับปฎิรูปเทียม จำเป็นต้องผ่าตัดใหม่
**** ซัดสสร.ตั้งโต๊ะรอนักการเมืองเขมือบ
ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า สถานการณ์ในวันนี้ตนไม่ได้โทษรัฐบาล แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปรียบเสมือนการตั้งโต๊ะอาหารที่ใครจะกินกันได้สารพัด ไม่ว่าเป็นสนามบิน โทรศัพท์ กฟผ.ปตท. ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใครมีอำนาจเอาไปได้ ตนไม่เคยโทษคนกินแต่โทษคนที่ตั้งโต๊ะคือ คนที่เขียนรัฐธรรมนูญ ที่เขียนออกมาเพื่ออะไร ดังนั้นใครโทษนักการเมืองว่ากินมูมมาม กินสุภาพ เป็นหน้าที่คนอื่น ความผิดอยู่ที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 (สสร.) กับ สว.ที่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ตนวิจารณ์ได้ว่าคราวหน้าคงจะมีคนช่วยกันกิน
ศ.ดร.อมร กล่าวว่า ตนขอสรุปว่า ประการที่หนึ่ง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีข้อบกพร่อง และประการที่สองพื้นฐานความรู้ควรจะแก้อย่างไร เพราะเวลานี้นักกฎหมายลักษณะศรีธนชัยมีเต็มบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังเห็นว่ากฎหมายมหาชนเป็นกฎเกณฑ์ที่มนุษย์วางขึ้น เพื่อควบคุมพฤติกรรมคนที่เข้ามาใช้อำนาจ หากมีการทุจริตกฎหมายจะต้องศึกษาพฤติกรรมของคนเพื่อมาวางหลักเกณฑ์ และออกกฎหมาย เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้อำนาจเหล่านั้น
ดังนั้น กฎหมายมหาชนคือการสร้างระบบเพื่อควบคุม และปัจจุบันการใช้อำนาจเต็มไปด้วยทุจริต และตนเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่อีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศก็คงเหลือแต่กระดูก และข้อสังเกตอีกประการ คือ ต้องระวังการให้ข้อเท็จจริงครึ่งเดี่ยว เพราะอาจทำดี แต่นำเงินใส่กระเป๋าตัวเองก็ได้
รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ฉบับที่เรียกว่าของประชาชน ที่บอกว่ามีส่วนร่วมที่แท้เป็นส่วนร่วมของ ส.ส.ซื้อเสียงมาโหวตเท่านั้น ผมอยากบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งโต๊ะให้นักการเมืองมาคอร์รัปชั่น แต่ที่ไม่มีคนพูดเรื่องนี้เพราะพวกเขาได้ประโยชน์
ในประเทศเสรีประชาธิปไตยไม่มีที่ไหนเขาบังคับให้ส.ส.สังกัดพรรค ในสภาพปัจจุบันสังคมอ่อนแอ สังคมชนบทขึ้นอยู่กับอิทธิพลทางการเงิน การบังคับให้ส.ส.สังกัดพรรค กลับมีนักวิชาการบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้รัฐบาลเกิดเสถียรภาพแต่การเกิดเสถียรภาพไม่ได้มีวิธีเดียว และสสร. ระบุว่า สว.ต้องมีอิสระ แต่ความจริงหาก สว.ไม่มีหัวคะแนนมาช่วยก็ไม่มีทาง เพราะเมื่อลงสมัครก็ต้องใช้เงิน ทั้งนี้สภาพจริงๆ กับสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรมันลวงตา ศ.ดร.อมร กล่าว
*** ทำไมต้องพึ่งบารมีในหลวง
ศ.ดร. อมร กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าแปลกในรัฐบาลนี้ คือผู้ที่มีอำนาจสามารถเปลี่ยนรัฐมนตรีได้ตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปราย และคนมีอำนาจสูงสุดก็ไม่ต้องรับผิดชอบ นี่คือตัวอย่างที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้พิการมุ่งแต่จะเอาทรัพย์สินสาธารณะไป ดังนั้นหากถามว่าใครจะมาแก้รัฐธรรมนูญ ตนเห็นว่าคนที่มีอำนาจคงจะไม่มีทางแก้ ดังนั้นคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน
ทั้งนี้ การจะแก้รัฐธรรมนูญต้องคิดเป็นสองขั้น ขั้นแรกคือใครจะแก้ และถ้าแก้จะแก้ไปทางไหน ซึ่งการปฏิรูปการเมืองมี 2 ขั้น คือ การแก้ต้องมีผู้เสียสละ มีอำนาจชี้นำประชาชนได้ และให้ประชาชนออกเสียง อย่างกรณีรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 มีหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญให้ครบถ้วน
"สรุปคือ ต้องอาศัยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้พระองค์พระราชทานคำแนะนำผ่านองคมนตรี มีคณะกรรมการพิเศษ 7 คน แบ่งเป็นสองประเภท ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ซึ่ง 2 คนมาจากการเสนอชื่อโดยองคมนตรี อีก 1 คน มาจากการเสนอของส.ว. และอีก 2 มาจากสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน และอีก 2 คนมาจากอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ต้องมาจากคนที่เป็นกลาง ที่สารธารณะให้การยอมรับเป็นผู้ยกร่าง โดยมีประธานซึ่งคอยรับพระราชทานข้อสังเกตจากพระองค์ท่าน"
ศ.ดร. อมร กล่าวว่า สังคมไทยมีความรู้พื้นฐานอยู่ว่าทำไมเราต้องหันไปพึ่งพระบารมีของในหลวง หลายคนบอกว่าอย่าดึงท่านลงมาต่ำ จริงๆ แล้วไม่ได้ดึง แต่เมื่อเรากำลังจมดินต้องเกาะให้แน่น ฟ้าไม่มีทางลงมาต่ำ ถ้าเกาะไม่แน่นเรากับฟ้าจะแยกจากกัน ในประวัติศาสตร์โลกฟ้าเคยช่วย ประชาชนในการปฏิรูปการเมืองหลายประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 การเขียนรัฐธรรมนูญของไทยอ้างแต่ประเทศอังกฤษแต่ไม่เคยมองประเทศอื่นโดยเฉพาะในยุโรปที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำในการปฎิรูปการเมือง บางประเทศถึงกับเขียนกฎหมายให้พระมหากษัตริย์เป็นองค์ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เช่น เดนมาร์ก
ศ.ดร.อมร ยกตัวอย่างสมัยรัชกาลที่ 5 ว่า ตอนที่พระองค์มีพระชนมายุได้ 57 พรรษา ได้มีการพิจารณาว่าจะพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะตั้งสภาและให้รัฐธรรมนูญแก่ราษฎร และจะสละราชสมบัติให้กับลูกวชิราวุธ เมื่อพระองค์ครบ 60 พรรษา และให้ลูกวชิราวุธมอบของขวัญคือรัฐธรรมนูญให้แก่พลเมืองในทันที แต่น่าเสียดายหลังจากที่พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสต่อมาอีก 3 เดือน พระองค์เสร็จสวรรคต ดังนั้นเราจึงไม่มีใครมาพระราชทานรัฐธรรมนูญ เรารอจนมาถึงรัชกาลที่ 7 แต่สุดท้ายก็ถูกคณะราษฎร์ปฏิวัติเอาพระราชอำนาจนั้นไปจนหมดแล้ว
ดังนั้นเราไม่ได้ดึงฟ้าให้ลงมาที่ต่ำ ฟ้าก็คือฟ้าไม่มีทางลงมาต่ำแต่ว่าเราเกาะได้ ขณะนี้เราคิดว่าถ้าจะไปหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการถวายฎีกา แต่พระราชอำนาจของพระองค์ท่านถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญหมดแล้วไม่เหมือนสมัยรัชการที่ 5 ซึ่งมีพระราชอำนาจโดยสิทธิขาด ดังนั้นการจะไปถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานรัฐธรรมนูญมันเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องคืนพระราชอำนาจด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ศ.อมร กล่าว
*** ถึงเวลาปฏิรูปการเมืองใหม่
นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีทหารออกมาพูดว่าหากไม่หยุดถ้าทนไม่ไหวอะไรจะเกิดขึ้น ตนก็กลัวเหมือนกัน เมื่อวันที่ตนแถลงปิดคดีซุกหุ้น สถานการณ์ในวันนั้นตนเหมือนถูกคนทั้งประเทศรังเกียจหาว่ามาสกัดคนดีที่จะมากู้ชาติกู้แผ่นดิน ตนเองถูกพาดพิงเมื่อตนไปดูเมืองไทยสัญจรครั้งที่ 9 มีการเอ่ยชื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน นต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และตนเอง
ผมกลัวถูกหาว่าต้องการล้มล้างรัฐบาล หากพูดกับนายสนธิ ผมก็คงต้องบอกว่าถ้ารัฐบาลเลวก็ต้องล้ม แต่ผมไม่มีปัญญามาล้มล้างรัฐบาล แค่เอาชีวิตรอดมาถึงวันนี้นับว่าโชคดีมากแล้ว ผมก็กลัวตายมากกว่าคุณสนธิ แต่ถ้าผมจนตรอกขึ้นมาผมจะบ้ามากกว่าคุณสนธิอีกนายกล้าณรงค์ กล่าว และว่า การปฏิรูปการเมืองครั้งแรกเราต้องการให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และต้องการให้รัฐบาลมีความมั่นคง การอภิปรายต้องใช้เสียงในสภามากพอสมควร แต่สิ่งเหล่านั้นแปรเปลี่ยนไปจึงเกิดปัญหาขึ้นมา
นายกล้าณรงค์ ยกตัวอย่างเช่น การสรรหาองค์กรอิสระในการตรวจสอบอำนาจรัฐ จะประกอบด้วยคน 3 กลุ่มแรกคือประธานศาล กลุ่มที่สองคืออาจารย์มหาวิทยาลัย และกลุ่มสามนักการเมือง ทั้งสามกลุ่มมีหน้าที่สรรหาบุคลเข้าไปทำหน้าที่ แต่ในปัจจุบันการลงคะแนนเป็นลักษณะของการเอาเสียงข้างน้อยออกไปบล็อก สิ่งเหล่านี้เป็นข้อขัดข้องของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน หากเลือกกรรมการ ป.ป.ช.ที่มีคุณสมบัติไม่ชัดเจน
นายกล้าณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่กลับขอแก้เพียงแค่การสรรหากรรมการป.ป.ช. โดยอ้างว่าองค์กรอื่นยังไม่เกิดปัญหา แต่ในวันนี้ปัญหาต่างๆ เกิดแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงไม่สามารถจะแก้ไขได้ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามหากข้าราชการทุกคนที่ได้รับการโปรดเกล้าหรือต้องถวายสัตย์ปฎิญาณ ถ้ามีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจะไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้
คงต้องหาวิธีการอย่างใดขึ้นมา ตนมองว่าขณะนี้เราไม่มีทางไป ตนอยากถามว่าเราพร้อมที่จะขอพระราชทานจากพ่อเหนือหัวให้มีการปฏิรูปการเมือง ถึงเวลาแล้วหรือยังนายกล้าณรงค์ กล่าว
*** จวกวงจรอุบาทว์ทักษิณาธิปไตย
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สว.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ตนเห็นภาพที่ชัดเจนของวงจรอุบาทว์ของระบบทักษิณาธิปไตย หรืออำนาจนิยมเกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ต่างจากวงจรอุบาทว์ในสมัยเผด็จการทหารที่เกิดขึ้น เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ไม่ต่างไปจากยุค 14 ตุลาฯ สัญญาณเตือนบอกว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ทั้งการขู่กรรโชกสื่อ การปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พฤติกรรมที่ออกมาบอกว่าอย่าดึงฟ้าให้ต่ำ เป็นสัญญาณที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะจะนำไปสู่ความรุนแรง กลียุค ซึ่งประชาชน 64 ล้านคนไม่ต้องการ แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ตนไม่แน่ใจ
นพ.นิรันดร์ ยังสรุปวงจรอุบาทว์ 7 ประการที่เป็นอันตรายของระบอบทักษิณาธิปไตย ประกอบด้วย ประการแรก การ ผูกขาดอำนาจนเบ็ดเสร็จทั้งในรัฐบาล รัฐสภา และสื่อมวลชน ขณะนี้กำลังลุแก่อำนาจ 2. มีลักษณะผูกขาดระบบเศรษฐกิจเชื่อมโยงทุนนิยมข้ามชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย ซึ่งเป็นอันตราย
3. มีธุรกิจทางการเมืองมีลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อพวกพ้องและวงศาคณาญาติ 4. มีลักษณะผูกขาดนโยบายและกฎหมายมีการออกพระราชกำหนดที่ขัดรัฐธรรมนูญมากมาย สนองตัณหาและผลประโยชน์ผู้นำทั้งสิ้น
5. มีการทุจริตเชิงนโยบายหรือการผูกขาดอำนาจรัฐตนขอเรียกภาษาชาวบ้านว่า โคตรโกง 6. นโยบายประชานิยม ที่เป็นนโยบายทำลายความเป็นคนของคนในชนบท และ 7.ขบวนการการครอบงำสื่อมวลชน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรมสังคมไทยให้เป็นไปตามที่ผู้นำต้องการ
ส.ว.อุบลฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการปฏิรูปทางการเมืองรอบสองนั้น คือต้องปฎิรูปกระบวนการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองที่ไม่สุจริต ตั้งแต่การเลือกตั้งทั้งสองครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งการเลือกตั้งส.ว.ในเดือนมี.ค.ปีหน้าก็เชื่อว่าจะมีการทุจริตหนักขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม ที่เปลี่ยนรัฐปกติให้เป็นรัฐตลาด และเปลี่ยนประเทศไทย เป็น บริษัทประเทศไทย เช่น นโยบายเขตการค้าเสรี หรือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ให้ประโยชน์กลุ่มทุนเพียง 10 ตระกูล
สื่อเป็นสัญญาณสุดท้ายที่ผู้มีอำนาจต้องการครอบงำ และต้องละเมิดเพื่อให้กระแสสังคมอยู่ภายใต้รัฐตลาด ต้องสร้างภาพทำให้เกิดการยอมรับ การที่สื่อถูกครอบงำคือสัญญาณอันตรายต่อสังคมไทย การใช้ป.ป.ง.ตรวจสอบหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ การฟ้องสื่อทั่วประเทศ ไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน เป็นแสดงให้เห็นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม การทำอย่างนี้เป็นการทำลายสังคมไทยน.พ.นิรันดร์ กล่าว
น.พ.นิรันดร์ เตือนว่า การปฎิรูปการเมืองโดยการปฎิรูประบบโครงสร้างเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันต้องระวังเพราะมีศรีธนญชัยจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่าการปฎิรูปการเมืองต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคือการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เปิดพื้นที่สาธารณะให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ
***ปลุกมวลชนล่าล้านชื่อถวายฎีกา
นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจกับใครบางคนก่อนว่าที่พูดวันนี้ไม่ได้พูดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่พูดในฐานะประชาชนชาวไทย ตนเป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญ 2540 สมัครเข้าพรรคไทยรักไทยเพราะเลื่อมใสในตัวนายกรัฐมนตรีและนโยบายพรรค 2 ปีแรกยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เริ่มมีเค้าลางบางอย่าง ใน 2 ปีหลัง และยิ่งชัดเจนขึ้นในปีนี้
ระบบการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้พรรคแข็งแรงแต่ส.ส.อ่อนแอ เพราะต้องลงสมัครในนามพรรคการเมือง ต้องสังกัดพรรค 90 วัน การเสนอกฎหมายทุกฉบับต้องเป็นไปตามมติพรรค พรรคไทยรักไทยแข็งแกร่งเหมือนปราสาทหินอ่อน อุดมสมบูรณ์พร้อม แต่ส.ส.ห้ามคิดอะไร เราคิดไม่เป็นต้องให้พรรคทำให้ คิดให้ รอให้พรรคสั่ง มีหน้าที่ยกมือตามมติของวิป รัฐธรรมนูญได้ลบสิทธิของ สส.ทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าว
นายประมวล กล่าวต่อไปว่า ตนเป็นส.ส.มา 4 ปี กล้าบอกได้เลยว่าไม่มีกฎหมาย ฉบับใดที่เป็นของ สมาชิกนิติบัญญัติโดยตรง ทุกฉบับต้องผ่านการกลั่นกรองของรัฐบาลก่อน รัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนใหญ่ ในตอนต้นเราคาดหวังสูงว่าท่านนายกฯเป็นคนมีสตางค์ ท่านพูดเสมอว่าทรัพย์สินของผมแบ่งเป็นสามส่วน สองส่วนผมกับลูกเมีย และอีกส่วนหนึ่งใช้หนี้ให้แผ่นดิน
ผมอยากชี้ประเด็นเรื่องการเข้าสู่ ตำแหน่งของส.ส.ว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด หากอยากเป็น ส.ส.ต้องหาพรรคก่อน จะลงสมัครอิสระไม่ได้ เป็นส.ส.ต้องจบปริญญาตรี รัฐธรรมนูญฉบับนี้จำกัดสิทธิ มองว่าส.ส.เลวจะขายตัว แต่ลืมมองว่าเจ้าของมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และพรรคการเมืองปัจจุบันไม่ได้เป็นคนของมวลชน แต่เป็นของกลุ่มบุคคล มีคนบอกว่าผมพูดเช่นนี้ก็ออกจากพรรคไปสิ วันนี้ผมอยากออกจากพรรค แต่ออกไปก็เสียสิทธิเพราะรัฐธรรมนูญมีข้อจำกัด ถ้าแก้รัฐธรรมนูญผมลาออกทันที รัฐธรรมนูญนี้จึงมัดตราสังข์พวกผมให้เป็นพรรคการเมือง นายประมวล กล่าว
ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรรคไทยรักไทย กล่าวว่า พระมหากษัตริย์เป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เป็นนักการเมืองที่มีธรรมะ ไม่เคยโกงบ้านเมือง และแก้ไขปัญหาประเทศชาติมาโดยตลอด พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจทักท้วงหรือยับยั้งกฎหมาย ให้คำแนะนำนำพสกนิกรในวโรกาสสำคัญ ให้คำปรึกษา และแก้ทุกข์ให้ประชาชนโดยให้ทุกคนสามารถถวายฎีกาได้แม้แต่นักโทษประหาร
แต่วันนี้มีคนเก่งอยากจะยกท่านขึ้นไปไว้บนหิ้งให้เรากราบไหว้อย่างเดียว อย่างปัญหาผู้ว่าสตง. ถ้าผมเป็นประธานคตง.ผมจะเข้าเฝ้าขอพระราชทานคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรแต่วันนี้เหมือนยกพระองค์ไว้บนหิ้ง พอผมพูดเรื่องพระราชอำนาจ ก็บอกว่าผมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ วันนี้ลองดูมั้ยประชาชน 1 ล้านคนลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานให้แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญม.313 ลองไหม จะรอพรรคการเมืองทำ เขาไม่ทำ พระองค์ทรงมองเห็นความเป็นไปของบ้านเมือง ท่านผ่านเหตุการณ์สำคัญมามาก ทำไมจะผ่านเผด็จการรัฐสภาแค่นี้ไม่ได้นายประมวล กล่าว
**** สนธิ เดินหน้าแฉนายกฯ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวว่า เหตุที่มีผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้ตนพูด เพราะหากบังคับตนได้ ก็สามารถปิดหูคนไทยทั้งประเทศได้ เช่น เรื่องที่นายกฯเดินทางไปเยือนประเทศจีน และมีการเซ็นสัญญาไม่รู้กี่สัญญา แต่มีข้อตกลงร่วมกันว่าห้ามเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นเวลา 50 ปี ถ้าตนไม่พูดประชาชนจะรู้ได้อย่างไร และวันนี้จะรู้หรือไม่ว่า เครื่องบินซี 130 เป็นโนคอสแอร์ไลน์ไปแล้ว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พระเจ้าอยู่หัวกับประชาชน แยกจากกันไม่ได้ เพราะเรามี ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ทำไมประชาชน ต้องเดินขบวนไปขอความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือพฤษภาทมิฬ
นายสนธิ ยังตั้งคำถามต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและ ร.ศ.ธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและบอร์ด อสมท. ที่ชี้แจงผ่านโทรทัศน์กรณีการทำบุญประเทศในอุโบสถวัดพระแก้ว และจัดทำวีซีดีแจกจ่ายประชาชน โดยนายสนธิปฏิเสธที่จะตอบโต้ เพียงถามกลับสองข้อว่า เวลาส่งแฟกซ์ไปยังพระราชวังไกลกังวล ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอพระบรมราชานุญาต เป็นราชประเพณีประเทศแกมเบียหรืออย่างไร
และขอถามสั้นๆว่า รูปที่ปรากฎออกมาบังควรหรือไม่ คุณเธอทั้งสองช่วยตอบที ไม่ใช่ออกมานั่งจีบปากจีบคอชี้แจง และขอถามนายภูมิธรรม เวชชยชัย รมช.คมนาคม ในฐานะรองเลขาธิการพรคไทยรักไทย ว่าประเทศนี้พรรคไทยรักไทยงานการไม่ทำแล้วหรือ เอาแต่คนมั่งเฝ้าดูว่าสนธิทำอะไรบ้าง โดยตั้งวอร์รูมจ้างคนวันละ 450 บาทต่อกะ กะละ 50 คน มาโพสต์ความเห็นด่านายสนธิ แต่บังเอิญประชาชนที่มีความเป็นธรรม ก็โพสต์เข้ามาด่าจนมองไม่เห็น ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าว
นายสนธิ กล่าว่วา ปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญ คือเราใช้นักกฎหมายมากเกินไป รัฐธรรมนูญควรเป็นกรอบล้อมอำนาจของนักการเมือง ไม่ให้มีอำนาจล้นฟ้า สิทธิเสรีภาพของสื่อที่ว่าสำคัญก็ยังไม่เท่ากับสิทธิของประชาชนที่จะได้รับฟังสื่อทุกประเภท ในเมื่อรัฐบาลนี้ประกาศจะสร้างสังคมองค์ความรู้ แต่สิทธิในการรับฟังไม่มีความหลากหลายทางความคิดก็จะเป็นองค์ความรู้โง่ๆ เช่น องค์ความรู้ที่มาจากช่อง 5 ตอนเช้าๆ
นายสนธิ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ว่ายุคไหน ในฐานะประชาชนไว้ใจไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลมีอำนาจมากจะลุแก่อำนาจ ถ้าจะปฏิรูปการเมืองต้องไม่ให้ ปปง. สตช. และสรรพกรขึ้นตรงต่อรัฐบาล เพราะจะเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม การเมืองทุกวันนี้เป็นของนานทุน นายทุนเป็นเจ้าของพรรค ซื้อพรรคอื่นเข้ามาเมื่อเป็นเจ้าของ พรรคเป็นผู้บริหาร รัฐบาลก็ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ทั้งส่วนเกินและส่วนต่างนำเงินก้อนหมุนกลับมาและจะเป็นวงจรอย่างนี้ตลอดไป
ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค ไม่จำเป็นต้องจบปริญญา เรากำลังบอกว่าคนจบปริญญาตรีจะไม่โกง เพราะคนจบดอกเตอร์ยังโกงเลย ผมขอเสนอให้ สว.มาจากการแต่งตั้ง 70% และมาจากเลือกตั้ง 30% นายสนธิ กล่าว
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังเสนอว่า นักการเมืองที่เสนอหน้าเข้ามาเล่นการเมืองต้องพร้อมให้ประชาชนตรวจสอบได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา รัฐมนตรีที่รับตำแหน่งไม่ใช่เพียงแค่แถลงทรัพย์สินตัวเอง แต่ต้องแถลงทรัพย์สินพ่อ แม่ เมีย ให้และลูก เพราะวันนี้มีลูกนักการเองเพิ่งเรียนจบมีเงินหมื่นล้านซื้อบริษัท ถามว่ามีเงินขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่แม่โกงมาให้ลูก
ธรรมดาคนขี้โกงส่วนใหญ่จะไว้ใจเมีย เก็บเงินไว้ให้ลูกทำมาค้าขาย และกลัวคนจะรู้เอาไปฝากพ่อฝากแม่ ไม่ต้องห่วงพี่กับน้อง เรื่องเงินทะเลาะกันตลอด ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าว และย้ำเตือนให้คนไทยต่อสู้เพื่อสิทธิของทุกคนในการฟังข่าวต่างๆได้รอบด้าน ที่จะได้ยินได้ฟังดูเห็นโดยรัฐบาลไม่จำกัด
นายสนธิ กล่าวตอนท้ายว่า ในสังคมไทยมีความผิดปกติหลายอย่าง เรามีรัฐบาลขายหวยให้ประชาชน ยุยงให้กลับมาเล่นหวยใหม่และเอาเงินไปเล่นหวยใหม่ 4 ปี ที่ส่งลูกเรียนหนังสือใช้เงินล้านนึง แต่จบมารับเงินเดือนละ 8 พันบาท มันผิดปกติเพราะเขาต้องการกดค่าแรงให้ต่ำเพื่อกลุ่มข้างบนจะได้มากๆ สังคมอย่างนี้ชาตินี้ทั้งชาติลูกเราเป็นทาสตลอดชีวิต
ผมอยากให้เราแก้ที่ระบบมากกว่า เพราะที่ตัวบุคคลมันก็พูดลำบากครับ
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews. ... 7%b5%d1%b9
"พระเจ้าอยู่หัว นักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤศจิกายน 2548 15:02 น.
ประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ขณะร่วมอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง "พระราชอำนาจกับการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ 2"
ผ่าทางตันวิกฤตรธน.ในอุ้งมือทุนการเมืองผูกขาดเบ็ดเสร็จทุกองคาพยพ อมร นำทีมถอดเขี้ยวเล็บ ทักษิณ ตั้งสูตรแก้รธน. หันพึ่งบารมีในหลวงไม่ใช่ดึงฟ้าต่ำแต่เมื่อจะจมดินก็ต้องเกาะฟ้า ยกหลายประเทศในยุโรปพระมหากษัตริย์เคยช่วยประชาชนปฏิรูปการเมือง ประมวล ปลุกมวลชนล่าล้านชื่อถวายฎีกาแก้รธน.รื้อคุกทรท. ย้ำพระเจ้าอยู่หัวเป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้าน หมอนิรันดร์ จวกวงจรอุบาทว์อำนาจนิยมในระบอบทักษิณาธิปไตยเทียบเผด็จการทางทหาร หวั่นพฤติกรรมขู่กรรโชกสื่อของรัฐบาลจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายซ้ำรอยยุค 14 ตุลาฯ ด้าน สนธิ แฉไม่เลิก แม้ว เยือนจีนหมกเม็ดสัญญา 50 ปี
เวทีอภิปรายทางวิชาการเรื่อง พระราชอำนาจกับการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้ร่วมอภิปราย
คือ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ, นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สมาชิกวุฒิสภา, นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และนายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย ต่างเห็นพ้องกันว่า การปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 1 ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาถึงทางตัน และทางออกในเวลานี้มีแต่ต้องถวายคืนพระราชอำนาจเพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นายสมยศ เชื้อไทย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ดำเนินการอภิปราย เปิดประเด็นโดยชี้ให้เห็นถึงสภาพการณ์ปัจจุบันของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญ 2540 ว่า ตกอยู่ภายใต้ระบบรวบอำนาจของนักธุรกิจการเมืองโดยผ่านทางพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยการทุจริตและการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งที่รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปฏิรูปการเมืองให้การบริหารแผ่นดินมีประสิทธิภาพภายใต้รัฐบาลที่เข้มแข็งและต้องการให้ทุจริตคอร์รัปชั่นลดลง รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเป็น ฉบับปฎิรูปเทียม จำเป็นต้องผ่าตัดใหม่
**** ซัดสสร.ตั้งโต๊ะรอนักการเมืองเขมือบ
ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า สถานการณ์ในวันนี้ตนไม่ได้โทษรัฐบาล แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปรียบเสมือนการตั้งโต๊ะอาหารที่ใครจะกินกันได้สารพัด ไม่ว่าเป็นสนามบิน โทรศัพท์ กฟผ.ปตท. ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใครมีอำนาจเอาไปได้ ตนไม่เคยโทษคนกินแต่โทษคนที่ตั้งโต๊ะคือ คนที่เขียนรัฐธรรมนูญ ที่เขียนออกมาเพื่ออะไร ดังนั้นใครโทษนักการเมืองว่ากินมูมมาม กินสุภาพ เป็นหน้าที่คนอื่น ความผิดอยู่ที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 (สสร.) กับ สว.ที่ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญปี 40 ตนวิจารณ์ได้ว่าคราวหน้าคงจะมีคนช่วยกันกิน
ศ.ดร.อมร กล่าวว่า ตนขอสรุปว่า ประการที่หนึ่ง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีข้อบกพร่อง และประการที่สองพื้นฐานความรู้ควรจะแก้อย่างไร เพราะเวลานี้นักกฎหมายลักษณะศรีธนชัยมีเต็มบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังเห็นว่ากฎหมายมหาชนเป็นกฎเกณฑ์ที่มนุษย์วางขึ้น เพื่อควบคุมพฤติกรรมคนที่เข้ามาใช้อำนาจ หากมีการทุจริตกฎหมายจะต้องศึกษาพฤติกรรมของคนเพื่อมาวางหลักเกณฑ์ และออกกฎหมาย เพื่อควบคุมพฤติกรรมของผู้ใช้อำนาจเหล่านั้น
ดังนั้น กฎหมายมหาชนคือการสร้างระบบเพื่อควบคุม และปัจจุบันการใช้อำนาจเต็มไปด้วยทุจริต และตนเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่อีก 4 ปีข้างหน้า ประเทศก็คงเหลือแต่กระดูก และข้อสังเกตอีกประการ คือ ต้องระวังการให้ข้อเท็จจริงครึ่งเดี่ยว เพราะอาจทำดี แต่นำเงินใส่กระเป๋าตัวเองก็ได้
รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ฉบับที่เรียกว่าของประชาชน ที่บอกว่ามีส่วนร่วมที่แท้เป็นส่วนร่วมของ ส.ส.ซื้อเสียงมาโหวตเท่านั้น ผมอยากบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งโต๊ะให้นักการเมืองมาคอร์รัปชั่น แต่ที่ไม่มีคนพูดเรื่องนี้เพราะพวกเขาได้ประโยชน์
ในประเทศเสรีประชาธิปไตยไม่มีที่ไหนเขาบังคับให้ส.ส.สังกัดพรรค ในสภาพปัจจุบันสังคมอ่อนแอ สังคมชนบทขึ้นอยู่กับอิทธิพลทางการเงิน การบังคับให้ส.ส.สังกัดพรรค กลับมีนักวิชาการบอกว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้รัฐบาลเกิดเสถียรภาพแต่การเกิดเสถียรภาพไม่ได้มีวิธีเดียว และสสร. ระบุว่า สว.ต้องมีอิสระ แต่ความจริงหาก สว.ไม่มีหัวคะแนนมาช่วยก็ไม่มีทาง เพราะเมื่อลงสมัครก็ต้องใช้เงิน ทั้งนี้สภาพจริงๆ กับสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรมันลวงตา ศ.ดร.อมร กล่าว
*** ทำไมต้องพึ่งบารมีในหลวง
ศ.ดร. อมร กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าแปลกในรัฐบาลนี้ คือผู้ที่มีอำนาจสามารถเปลี่ยนรัฐมนตรีได้ตลอดเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการอภิปราย และคนมีอำนาจสูงสุดก็ไม่ต้องรับผิดชอบ นี่คือตัวอย่างที่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้พิการมุ่งแต่จะเอาทรัพย์สินสาธารณะไป ดังนั้นหากถามว่าใครจะมาแก้รัฐธรรมนูญ ตนเห็นว่าคนที่มีอำนาจคงจะไม่มีทางแก้ ดังนั้นคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน
ทั้งนี้ การจะแก้รัฐธรรมนูญต้องคิดเป็นสองขั้น ขั้นแรกคือใครจะแก้ และถ้าแก้จะแก้ไปทางไหน ซึ่งการปฏิรูปการเมืองมี 2 ขั้น คือ การแก้ต้องมีผู้เสียสละ มีอำนาจชี้นำประชาชนได้ และให้ประชาชนออกเสียง อย่างกรณีรัฐธรรมนูญ มาตรา 313 มีหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญให้ครบถ้วน
"สรุปคือ ต้องอาศัยพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ให้พระองค์พระราชทานคำแนะนำผ่านองคมนตรี มีคณะกรรมการพิเศษ 7 คน แบ่งเป็นสองประเภท ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ซึ่ง 2 คนมาจากการเสนอชื่อโดยองคมนตรี อีก 1 คน มาจากการเสนอของส.ว. และอีก 2 มาจากสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน และอีก 2 คนมาจากอดีตนายกรัฐมนตรี แต่ต้องมาจากคนที่เป็นกลาง ที่สารธารณะให้การยอมรับเป็นผู้ยกร่าง โดยมีประธานซึ่งคอยรับพระราชทานข้อสังเกตจากพระองค์ท่าน"
ศ.ดร. อมร กล่าวว่า สังคมไทยมีความรู้พื้นฐานอยู่ว่าทำไมเราต้องหันไปพึ่งพระบารมีของในหลวง หลายคนบอกว่าอย่าดึงท่านลงมาต่ำ จริงๆ แล้วไม่ได้ดึง แต่เมื่อเรากำลังจมดินต้องเกาะให้แน่น ฟ้าไม่มีทางลงมาต่ำ ถ้าเกาะไม่แน่นเรากับฟ้าจะแยกจากกัน ในประวัติศาสตร์โลกฟ้าเคยช่วย ประชาชนในการปฏิรูปการเมืองหลายประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 การเขียนรัฐธรรมนูญของไทยอ้างแต่ประเทศอังกฤษแต่ไม่เคยมองประเทศอื่นโดยเฉพาะในยุโรปที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำในการปฎิรูปการเมือง บางประเทศถึงกับเขียนกฎหมายให้พระมหากษัตริย์เป็นองค์ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เช่น เดนมาร์ก
ศ.ดร.อมร ยกตัวอย่างสมัยรัชกาลที่ 5 ว่า ตอนที่พระองค์มีพระชนมายุได้ 57 พรรษา ได้มีการพิจารณาว่าจะพระราชทานรัฐธรรมนูญ โดยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะตั้งสภาและให้รัฐธรรมนูญแก่ราษฎร และจะสละราชสมบัติให้กับลูกวชิราวุธ เมื่อพระองค์ครบ 60 พรรษา และให้ลูกวชิราวุธมอบของขวัญคือรัฐธรรมนูญให้แก่พลเมืองในทันที แต่น่าเสียดายหลังจากที่พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสต่อมาอีก 3 เดือน พระองค์เสร็จสวรรคต ดังนั้นเราจึงไม่มีใครมาพระราชทานรัฐธรรมนูญ เรารอจนมาถึงรัชกาลที่ 7 แต่สุดท้ายก็ถูกคณะราษฎร์ปฏิวัติเอาพระราชอำนาจนั้นไปจนหมดแล้ว
ดังนั้นเราไม่ได้ดึงฟ้าให้ลงมาที่ต่ำ ฟ้าก็คือฟ้าไม่มีทางลงมาต่ำแต่ว่าเราเกาะได้ ขณะนี้เราคิดว่าถ้าจะไปหาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการถวายฎีกา แต่พระราชอำนาจของพระองค์ท่านถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญหมดแล้วไม่เหมือนสมัยรัชการที่ 5 ซึ่งมีพระราชอำนาจโดยสิทธิขาด ดังนั้นการจะไปถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานรัฐธรรมนูญมันเป็นไปไม่ได้ แต่เราต้องคืนพระราชอำนาจด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ศ.อมร กล่าว
*** ถึงเวลาปฏิรูปการเมืองใหม่
นายกล้าณรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีทหารออกมาพูดว่าหากไม่หยุดถ้าทนไม่ไหวอะไรจะเกิดขึ้น ตนก็กลัวเหมือนกัน เมื่อวันที่ตนแถลงปิดคดีซุกหุ้น สถานการณ์ในวันนั้นตนเหมือนถูกคนทั้งประเทศรังเกียจหาว่ามาสกัดคนดีที่จะมากู้ชาติกู้แผ่นดิน ตนเองถูกพาดพิงเมื่อตนไปดูเมืองไทยสัญจรครั้งที่ 9 มีการเอ่ยชื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน นต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และตนเอง
ผมกลัวถูกหาว่าต้องการล้มล้างรัฐบาล หากพูดกับนายสนธิ ผมก็คงต้องบอกว่าถ้ารัฐบาลเลวก็ต้องล้ม แต่ผมไม่มีปัญญามาล้มล้างรัฐบาล แค่เอาชีวิตรอดมาถึงวันนี้นับว่าโชคดีมากแล้ว ผมก็กลัวตายมากกว่าคุณสนธิ แต่ถ้าผมจนตรอกขึ้นมาผมจะบ้ามากกว่าคุณสนธิอีกนายกล้าณรงค์ กล่าว และว่า การปฏิรูปการเมืองครั้งแรกเราต้องการให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ และต้องการให้รัฐบาลมีความมั่นคง การอภิปรายต้องใช้เสียงในสภามากพอสมควร แต่สิ่งเหล่านั้นแปรเปลี่ยนไปจึงเกิดปัญหาขึ้นมา
นายกล้าณรงค์ ยกตัวอย่างเช่น การสรรหาองค์กรอิสระในการตรวจสอบอำนาจรัฐ จะประกอบด้วยคน 3 กลุ่มแรกคือประธานศาล กลุ่มที่สองคืออาจารย์มหาวิทยาลัย และกลุ่มสามนักการเมือง ทั้งสามกลุ่มมีหน้าที่สรรหาบุคลเข้าไปทำหน้าที่ แต่ในปัจจุบันการลงคะแนนเป็นลักษณะของการเอาเสียงข้างน้อยออกไปบล็อก สิ่งเหล่านี้เป็นข้อขัดข้องของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน หากเลือกกรรมการ ป.ป.ช.ที่มีคุณสมบัติไม่ชัดเจน
นายกล้าณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่กลับขอแก้เพียงแค่การสรรหากรรมการป.ป.ช. โดยอ้างว่าองค์กรอื่นยังไม่เกิดปัญหา แต่ในวันนี้ปัญหาต่างๆ เกิดแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงไม่สามารถจะแก้ไขได้ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามหากข้าราชการทุกคนที่ได้รับการโปรดเกล้าหรือต้องถวายสัตย์ปฎิญาณ ถ้ามีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจะไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้
คงต้องหาวิธีการอย่างใดขึ้นมา ตนมองว่าขณะนี้เราไม่มีทางไป ตนอยากถามว่าเราพร้อมที่จะขอพระราชทานจากพ่อเหนือหัวให้มีการปฏิรูปการเมือง ถึงเวลาแล้วหรือยังนายกล้าณรงค์ กล่าว
*** จวกวงจรอุบาทว์ทักษิณาธิปไตย
นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ สว.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะนี้ตนเห็นภาพที่ชัดเจนของวงจรอุบาทว์ของระบบทักษิณาธิปไตย หรืออำนาจนิยมเกิดขึ้นในสังคมไทย ไม่ต่างจากวงจรอุบาทว์ในสมัยเผด็จการทหารที่เกิดขึ้น เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ไม่ต่างไปจากยุค 14 ตุลาฯ สัญญาณเตือนบอกว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ทั้งการขู่กรรโชกสื่อ การปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ พฤติกรรมที่ออกมาบอกว่าอย่าดึงฟ้าให้ต่ำ เป็นสัญญาณที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะจะนำไปสู่ความรุนแรง กลียุค ซึ่งประชาชน 64 ล้านคนไม่ต้องการ แต่สำหรับนายกรัฐมนตรี ตนไม่แน่ใจ
นพ.นิรันดร์ ยังสรุปวงจรอุบาทว์ 7 ประการที่เป็นอันตรายของระบอบทักษิณาธิปไตย ประกอบด้วย ประการแรก การ ผูกขาดอำนาจนเบ็ดเสร็จทั้งในรัฐบาล รัฐสภา และสื่อมวลชน ขณะนี้กำลังลุแก่อำนาจ 2. มีลักษณะผูกขาดระบบเศรษฐกิจเชื่อมโยงทุนนิยมข้ามชาติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคมไทย ซึ่งเป็นอันตราย
3. มีธุรกิจทางการเมืองมีลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อพวกพ้องและวงศาคณาญาติ 4. มีลักษณะผูกขาดนโยบายและกฎหมายมีการออกพระราชกำหนดที่ขัดรัฐธรรมนูญมากมาย สนองตัณหาและผลประโยชน์ผู้นำทั้งสิ้น
5. มีการทุจริตเชิงนโยบายหรือการผูกขาดอำนาจรัฐตนขอเรียกภาษาชาวบ้านว่า โคตรโกง 6. นโยบายประชานิยม ที่เป็นนโยบายทำลายความเป็นคนของคนในชนบท และ 7.ขบวนการการครอบงำสื่อมวลชน อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ต้องการเปลี่ยนวัฒนธรรมสังคมไทยให้เป็นไปตามที่ผู้นำต้องการ
ส.ว.อุบลฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการปฏิรูปทางการเมืองรอบสองนั้น คือต้องปฎิรูปกระบวนการเข้าสู่อำนาจของนักการเมืองที่ไม่สุจริต ตั้งแต่การเลือกตั้งทั้งสองครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งการเลือกตั้งส.ว.ในเดือนมี.ค.ปีหน้าก็เชื่อว่าจะมีการทุจริตหนักขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม ที่เปลี่ยนรัฐปกติให้เป็นรัฐตลาด และเปลี่ยนประเทศไทย เป็น บริษัทประเทศไทย เช่น นโยบายเขตการค้าเสรี หรือการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่ให้ประโยชน์กลุ่มทุนเพียง 10 ตระกูล
สื่อเป็นสัญญาณสุดท้ายที่ผู้มีอำนาจต้องการครอบงำ และต้องละเมิดเพื่อให้กระแสสังคมอยู่ภายใต้รัฐตลาด ต้องสร้างภาพทำให้เกิดการยอมรับ การที่สื่อถูกครอบงำคือสัญญาณอันตรายต่อสังคมไทย การใช้ป.ป.ง.ตรวจสอบหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ การฟ้องสื่อทั่วประเทศ ไม่มีประเทศไหนเขาทำกัน เป็นแสดงให้เห็นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม การทำอย่างนี้เป็นการทำลายสังคมไทยน.พ.นิรันดร์ กล่าว
น.พ.นิรันดร์ เตือนว่า การปฎิรูปการเมืองโดยการปฎิรูประบบโครงสร้างเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันต้องระวังเพราะมีศรีธนญชัยจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่าการปฎิรูปการเมืองต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนคือการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน เปิดพื้นที่สาธารณะให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ
***ปลุกมวลชนล่าล้านชื่อถวายฎีกา
นายประมวล รุจนเสรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจกับใครบางคนก่อนว่าที่พูดวันนี้ไม่ได้พูดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่พูดในฐานะประชาชนชาวไทย ตนเป็นผลผลิตของรัฐธรรมนูญ 2540 สมัครเข้าพรรคไทยรักไทยเพราะเลื่อมใสในตัวนายกรัฐมนตรีและนโยบายพรรค 2 ปีแรกยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เริ่มมีเค้าลางบางอย่าง ใน 2 ปีหลัง และยิ่งชัดเจนขึ้นในปีนี้
ระบบการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้พรรคแข็งแรงแต่ส.ส.อ่อนแอ เพราะต้องลงสมัครในนามพรรคการเมือง ต้องสังกัดพรรค 90 วัน การเสนอกฎหมายทุกฉบับต้องเป็นไปตามมติพรรค พรรคไทยรักไทยแข็งแกร่งเหมือนปราสาทหินอ่อน อุดมสมบูรณ์พร้อม แต่ส.ส.ห้ามคิดอะไร เราคิดไม่เป็นต้องให้พรรคทำให้ คิดให้ รอให้พรรคสั่ง มีหน้าที่ยกมือตามมติของวิป รัฐธรรมนูญได้ลบสิทธิของ สส.ทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย กล่าว
นายประมวล กล่าวต่อไปว่า ตนเป็นส.ส.มา 4 ปี กล้าบอกได้เลยว่าไม่มีกฎหมาย ฉบับใดที่เป็นของ สมาชิกนิติบัญญัติโดยตรง ทุกฉบับต้องผ่านการกลั่นกรองของรัฐบาลก่อน รัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนใหญ่ ในตอนต้นเราคาดหวังสูงว่าท่านนายกฯเป็นคนมีสตางค์ ท่านพูดเสมอว่าทรัพย์สินของผมแบ่งเป็นสามส่วน สองส่วนผมกับลูกเมีย และอีกส่วนหนึ่งใช้หนี้ให้แผ่นดิน
ผมอยากชี้ประเด็นเรื่องการเข้าสู่ ตำแหน่งของส.ส.ว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด หากอยากเป็น ส.ส.ต้องหาพรรคก่อน จะลงสมัครอิสระไม่ได้ เป็นส.ส.ต้องจบปริญญาตรี รัฐธรรมนูญฉบับนี้จำกัดสิทธิ มองว่าส.ส.เลวจะขายตัว แต่ลืมมองว่าเจ้าของมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และพรรคการเมืองปัจจุบันไม่ได้เป็นคนของมวลชน แต่เป็นของกลุ่มบุคคล มีคนบอกว่าผมพูดเช่นนี้ก็ออกจากพรรคไปสิ วันนี้ผมอยากออกจากพรรค แต่ออกไปก็เสียสิทธิเพราะรัฐธรรมนูญมีข้อจำกัด ถ้าแก้รัฐธรรมนูญผมลาออกทันที รัฐธรรมนูญนี้จึงมัดตราสังข์พวกผมให้เป็นพรรคการเมือง นายประมวล กล่าว
ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรรคไทยรักไทย กล่าวว่า พระมหากษัตริย์เป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เป็นนักการเมืองที่มีธรรมะ ไม่เคยโกงบ้านเมือง และแก้ไขปัญหาประเทศชาติมาโดยตลอด พระองค์ท่านมีพระราชอำนาจทักท้วงหรือยับยั้งกฎหมาย ให้คำแนะนำนำพสกนิกรในวโรกาสสำคัญ ให้คำปรึกษา และแก้ทุกข์ให้ประชาชนโดยให้ทุกคนสามารถถวายฎีกาได้แม้แต่นักโทษประหาร
แต่วันนี้มีคนเก่งอยากจะยกท่านขึ้นไปไว้บนหิ้งให้เรากราบไหว้อย่างเดียว อย่างปัญหาผู้ว่าสตง. ถ้าผมเป็นประธานคตง.ผมจะเข้าเฝ้าขอพระราชทานคำแนะนำว่าจะทำอย่างไรแต่วันนี้เหมือนยกพระองค์ไว้บนหิ้ง พอผมพูดเรื่องพระราชอำนาจ ก็บอกว่าผมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ วันนี้ลองดูมั้ยประชาชน 1 ล้านคนลงชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานให้แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญม.313 ลองไหม จะรอพรรคการเมืองทำ เขาไม่ทำ พระองค์ทรงมองเห็นความเป็นไปของบ้านเมือง ท่านผ่านเหตุการณ์สำคัญมามาก ทำไมจะผ่านเผด็จการรัฐสภาแค่นี้ไม่ได้นายประมวล กล่าว
**** สนธิ เดินหน้าแฉนายกฯ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวว่า เหตุที่มีผู้มีอำนาจไม่ต้องการให้ตนพูด เพราะหากบังคับตนได้ ก็สามารถปิดหูคนไทยทั้งประเทศได้ เช่น เรื่องที่นายกฯเดินทางไปเยือนประเทศจีน และมีการเซ็นสัญญาไม่รู้กี่สัญญา แต่มีข้อตกลงร่วมกันว่าห้ามเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นเวลา 50 ปี ถ้าตนไม่พูดประชาชนจะรู้ได้อย่างไร และวันนี้จะรู้หรือไม่ว่า เครื่องบินซี 130 เป็นโนคอสแอร์ไลน์ไปแล้ว ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า พระเจ้าอยู่หัวกับประชาชน แยกจากกันไม่ได้ เพราะเรามี ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ทำไมประชาชน ต้องเดินขบวนไปขอความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือพฤษภาทมิฬ
นายสนธิ ยังตั้งคำถามต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและ ร.ศ.ธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและบอร์ด อสมท. ที่ชี้แจงผ่านโทรทัศน์กรณีการทำบุญประเทศในอุโบสถวัดพระแก้ว และจัดทำวีซีดีแจกจ่ายประชาชน โดยนายสนธิปฏิเสธที่จะตอบโต้ เพียงถามกลับสองข้อว่า เวลาส่งแฟกซ์ไปยังพระราชวังไกลกังวล ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอพระบรมราชานุญาต เป็นราชประเพณีประเทศแกมเบียหรืออย่างไร
และขอถามสั้นๆว่า รูปที่ปรากฎออกมาบังควรหรือไม่ คุณเธอทั้งสองช่วยตอบที ไม่ใช่ออกมานั่งจีบปากจีบคอชี้แจง และขอถามนายภูมิธรรม เวชชยชัย รมช.คมนาคม ในฐานะรองเลขาธิการพรคไทยรักไทย ว่าประเทศนี้พรรคไทยรักไทยงานการไม่ทำแล้วหรือ เอาแต่คนมั่งเฝ้าดูว่าสนธิทำอะไรบ้าง โดยตั้งวอร์รูมจ้างคนวันละ 450 บาทต่อกะ กะละ 50 คน มาโพสต์ความเห็นด่านายสนธิ แต่บังเอิญประชาชนที่มีความเป็นธรรม ก็โพสต์เข้ามาด่าจนมองไม่เห็น ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าว
นายสนธิ กล่าว่วา ปัญหาการร่างรัฐธรรมนูญ คือเราใช้นักกฎหมายมากเกินไป รัฐธรรมนูญควรเป็นกรอบล้อมอำนาจของนักการเมือง ไม่ให้มีอำนาจล้นฟ้า สิทธิเสรีภาพของสื่อที่ว่าสำคัญก็ยังไม่เท่ากับสิทธิของประชาชนที่จะได้รับฟังสื่อทุกประเภท ในเมื่อรัฐบาลนี้ประกาศจะสร้างสังคมองค์ความรู้ แต่สิทธิในการรับฟังไม่มีความหลากหลายทางความคิดก็จะเป็นองค์ความรู้โง่ๆ เช่น องค์ความรู้ที่มาจากช่อง 5 ตอนเช้าๆ
นายสนธิ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ว่ายุคไหน ในฐานะประชาชนไว้ใจไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลมีอำนาจมากจะลุแก่อำนาจ ถ้าจะปฏิรูปการเมืองต้องไม่ให้ ปปง. สตช. และสรรพกรขึ้นตรงต่อรัฐบาล เพราะจะเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม การเมืองทุกวันนี้เป็นของนานทุน นายทุนเป็นเจ้าของพรรค ซื้อพรรคอื่นเข้ามาเมื่อเป็นเจ้าของ พรรคเป็นผู้บริหาร รัฐบาลก็ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ทั้งส่วนเกินและส่วนต่างนำเงินก้อนหมุนกลับมาและจะเป็นวงจรอย่างนี้ตลอดไป
ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค ไม่จำเป็นต้องจบปริญญา เรากำลังบอกว่าคนจบปริญญาตรีจะไม่โกง เพราะคนจบดอกเตอร์ยังโกงเลย ผมขอเสนอให้ สว.มาจากการแต่งตั้ง 70% และมาจากเลือกตั้ง 30% นายสนธิ กล่าว
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังเสนอว่า นักการเมืองที่เสนอหน้าเข้ามาเล่นการเมืองต้องพร้อมให้ประชาชนตรวจสอบได้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา รัฐมนตรีที่รับตำแหน่งไม่ใช่เพียงแค่แถลงทรัพย์สินตัวเอง แต่ต้องแถลงทรัพย์สินพ่อ แม่ เมีย ให้และลูก เพราะวันนี้มีลูกนักการเองเพิ่งเรียนจบมีเงินหมื่นล้านซื้อบริษัท ถามว่ามีเงินขนาดนั้นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่แม่โกงมาให้ลูก
ธรรมดาคนขี้โกงส่วนใหญ่จะไว้ใจเมีย เก็บเงินไว้ให้ลูกทำมาค้าขาย และกลัวคนจะรู้เอาไปฝากพ่อฝากแม่ ไม่ต้องห่วงพี่กับน้อง เรื่องเงินทะเลาะกันตลอด ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าว และย้ำเตือนให้คนไทยต่อสู้เพื่อสิทธิของทุกคนในการฟังข่าวต่างๆได้รอบด้าน ที่จะได้ยินได้ฟังดูเห็นโดยรัฐบาลไม่จำกัด
นายสนธิ กล่าวตอนท้ายว่า ในสังคมไทยมีความผิดปกติหลายอย่าง เรามีรัฐบาลขายหวยให้ประชาชน ยุยงให้กลับมาเล่นหวยใหม่และเอาเงินไปเล่นหวยใหม่ 4 ปี ที่ส่งลูกเรียนหนังสือใช้เงินล้านนึง แต่จบมารับเงินเดือนละ 8 พันบาท มันผิดปกติเพราะเขาต้องการกดค่าแรงให้ต่ำเพื่อกลุ่มข้างบนจะได้มากๆ สังคมอย่างนี้ชาตินี้ทั้งชาติลูกเราเป็นทาสตลอดชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 40
การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์
ผมจึงอยากให้เรามาแก้ไขระบบกัน
หวังพึ่งนักการเมืองคนไหน ๆ ก็ยากครับ
ผมจึงอยากให้เรามาแก้ไขระบบกัน
หวังพึ่งนักการเมืองคนไหน ๆ ก็ยากครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 41
ถึงแม้จะให้ สว. หาเสียงได้ สว.ต่างจังหวัดก็ยังคงต้องพึงหัวคะแนนและอิงพรรคการเมืองอยู่ดีละครับthaistock2005 เขียน:องค์กรอิสระต่าง ๆ ที่จะเอามาค้านฝ่ายบริหาร
ตอนนี้เดี้ยงหมดครับ
เพราะสวที่เข้ามาห้ามหาเสียงได้แต่แนะนำตัว
ดังนั้นสว ส่วนมากจึงมาจากหัวคะแนนซึ่งส่วนมากก็จะเป็น
คนของรัฐบาลครับ
กรณีคุณหญิงถูกแตะถ่วงเป็นตัวอย่าง
ส.ส.ระบบเขตก็ยังมีครบทุกเขตไม่ใช่หรือครับthaistock2005 เขียน:ความผูกพันระหว่างสสกับประชาชนที่หายไปจากบางคนที่
เข้ามาเพราะระบบบัญชีรายชื่อ สสกลุ่มนี้ไม่มีความผูกพันกับประชาชน
ถ้า ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรค เราก็จะมีพรรคเล็กพรรคน้อยมากมาย และถ้าส.ส.มีอิสระเต็มที่ที่จะลงมติ การซื้อตัว ส.ส. ก็คงจะมากมาย คงมีการประมูลเสียงกันตั้งแต่ตอนเลือกนายก รัฐบาลจะทำอะไรทีก็เสี่ยงที่เสียงจะไม่ผ่าน ส.ส. ก็คงชอบเพราะมีค่าตัวแพงขึ้น แต่การทำงานของรัฐบาลก็แย่และลำบากthaistock2005 เขียน:การจำกัดที่ให้สสต้องสังกัดพรรคการเมือง
สสต้องทำตามมติพรรค ไม่ว่าตัวเองจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ถ้าคนที่มาบริหารประเทศต้องเลิกการทำธุรกิจทั้งครอบครัว เลิกถือหุ้นในกิจการต่างๆ แล้วจะมีซักกี่คนที่จะเข้ามาทำงานการเมืองครับ นอกจากพวกที่มีอาชีพเป็นนักการเมืองตั้งแต่เรียนจบ แล้วจะบริหารประเทศไหวไหมหนอthaistock2005 เขียน:และที่สำคัญตอนนี้ท่านนายกที่รอดมาจากคดีซุกหุ้น
ขึ้นศาล ตอนแรกท่านคล้ายจะร้องให้ขอโอกาสทำงานงานเพื่อส่วนรวม
เพื่อประเทศชาติ
ตอนนี้ถึงท่านไม่ถือหุ้น แต่ลูกเมียท่าน พี่น้องท่าน
ต่างก็เข้ามาถือหุ้นในบริษัทกัน
เราคงได้ยินข่าวลูกท่านนายกมาถือ tmb แต่ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว
ถึงแม้รัฐธรรมนูญปัจจุบันอาจจะไม่ดีเลิศ แต่ก็ไม่แย่จนเกินไปหรอกครับ คนอยากให้แก้ ก็อ้างเหตุผลด้านดีอย่างเดียว
- ROGER
- Verified User
- โพสต์: 609
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 42
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเมื่อมีกติกาคุณต้องเล่นตามกติกา ไม่ใช่ไปเล่นนอกกติกา สนธิควรรอจนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า แล้วระดมพลหาเสียงให้ฝั่งตรงข้ามนายกสิครับ ไม่ใช่มาเล่นนอกกติกาอย่างงี้
เรื่องการเมืองนี้พูดยาก เนื่องจากความรู้ ประเพณี และวัฒนธรรมมันต่างกัน แต่หัวใจหลักๆๆคือนักการเมืองแหละครับ ระบบให้มันดีอย่างไรถ้านักการเมืองยังไม่มีพัฒนาการ มันก็อีหรอบเดิม คุณธรรมของนักการเมืองเป็นสิ่งสำคัญสุด มติพรรคนี่คือระบบกึ่งเผด็จการ นักการเมืองควรมีมติตามเสียงของประชาชนในถิ่นที่ตนเป็นตัวแทน โดยอาจจะแตกต่างจากมติพรรค การสังกัดพรรคหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญคือการรู้ผิดรู้ชอบ การมีคุณธรรมของนักการเมือง คิดถึงประโยชน์ของประชาชนของตน หรือผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นหลัก
นักการเมืองยุคนี้ผมว่ากว่าครึ่งขี้ขลาด ตาขาว ไร้ปัญญา ไร้คุณธรรม ซึ่งทางแก้น่าจะมีหลักสูตรนักการเมืองที่ดี ให้ขึ้นทะเบียนก่อนลงรับเลือกตั้ง ไม่รู้ว่าในทางปฏิบัติจะทำได้จริงหรือไม่
เรื่องการเมืองนี้พูดยาก เนื่องจากความรู้ ประเพณี และวัฒนธรรมมันต่างกัน แต่หัวใจหลักๆๆคือนักการเมืองแหละครับ ระบบให้มันดีอย่างไรถ้านักการเมืองยังไม่มีพัฒนาการ มันก็อีหรอบเดิม คุณธรรมของนักการเมืองเป็นสิ่งสำคัญสุด มติพรรคนี่คือระบบกึ่งเผด็จการ นักการเมืองควรมีมติตามเสียงของประชาชนในถิ่นที่ตนเป็นตัวแทน โดยอาจจะแตกต่างจากมติพรรค การสังกัดพรรคหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ ที่สำคัญคือการรู้ผิดรู้ชอบ การมีคุณธรรมของนักการเมือง คิดถึงประโยชน์ของประชาชนของตน หรือผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เป็นหลัก
นักการเมืองยุคนี้ผมว่ากว่าครึ่งขี้ขลาด ตาขาว ไร้ปัญญา ไร้คุณธรรม ซึ่งทางแก้น่าจะมีหลักสูตรนักการเมืองที่ดี ให้ขึ้นทะเบียนก่อนลงรับเลือกตั้ง ไม่รู้ว่าในทางปฏิบัติจะทำได้จริงหรือไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 43
ระบบที่ดีเป็นอย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนใจ
ROGER พูดว่า ระบบให้มันดีอย่างไรถ้าคนมันจะเลว ระบบจะทำอะไรได้
... พรรคไหนก็เหมือนกัน จริงๆ
ต้องรอไปเรื่อยๆ หรือ ...
ก็ต้องถามใจตัวเราเอง ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่วันเลือกตั้ง
นักการเมือง สอนเราอย่างนั้น มาตั้งแต่เกิด
แล้วเราก็เชื่ออย่างนั้น ... ฝังใจ
ประชาชน จึงไร้ความหมาย ในประชาธิปไตยอย่างไทยๆ
เราพึ่ง คนกลุ่มเดียว เราพึ่งคนๆเดียว ได้ละหรือ
เราโยนภาระต่างๆ ไปให้กลุ่มคนที่เราเลือก โดยไม่ช่วยคิดละหรือ
พรรคการเมือง เกิดขึ้นเพื่ออำนาจ และ ผลประโยชน์ ของตัวเอง
จะมีใครพูดว่าไม่จริง เพียงแค่มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
เรียกร้องหาคุณธรรมของนักการเมือง เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม
ในเมื่อเราปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ แล้วเฝ้ารอ
... อย่างมีความหวังกันอยู่ทุกยุคทุกสมัยอย่างที่เป็นมา
นักการเมืองเลว เป็นความผิดของเรา ไม่ใช่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว
สำนึกนี้ควรปลูกฝัง สำนึกนี้ควรตระหนัก
ไม่เช่นนั้น ปัญหาไม่มีทางแก้ แต่จะมีแค่แพะรับบาปที่โดนโยนความผิดให้ เพราะเราไม่รู้จักรับผิดชอบ ... ใช่ความผิดของเรา
ท่านผู้ถือหุ้น ลงทุนไม่ดูตาม้าตาเรือ
แล้วไปโทษผู้บริหาร โทษคนเชียร์ โทษดินฟ้าอากาศ
แต่ไม่คิดจะโทษตัวเอง ... ฟังดูคุ้นหูหรือไม่
ประชาธิปไตยของไทย มีเวลาเพียงไม่กี่นาทีตลอดสี่ปีจริงๆ
ไม่รู้ว่าเขาบรรจุไว้ในหลักสูตรไหนของการศึกษา
แต่นับว่าได้ผลในทุกระดับชั้นของการศึกษาไทย
ระบบที่ดีหรือ คือระบบที่มีคนเอาใจใส่มัน
ดังนั้นจึงต้องแก้ที่คน ... ท่านคิดว่าเราต้องแก้ที่ใคร?
ROGER พูดว่า ระบบให้มันดีอย่างไรถ้าคนมันจะเลว ระบบจะทำอะไรได้
... พรรคไหนก็เหมือนกัน จริงๆ
ต้องรอไปเรื่อยๆ หรือ ...
ก็ต้องถามใจตัวเราเอง ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่วันเลือกตั้ง
นักการเมือง สอนเราอย่างนั้น มาตั้งแต่เกิด
แล้วเราก็เชื่ออย่างนั้น ... ฝังใจ
ประชาชน จึงไร้ความหมาย ในประชาธิปไตยอย่างไทยๆ
เราพึ่ง คนกลุ่มเดียว เราพึ่งคนๆเดียว ได้ละหรือ
เราโยนภาระต่างๆ ไปให้กลุ่มคนที่เราเลือก โดยไม่ช่วยคิดละหรือ
พรรคการเมือง เกิดขึ้นเพื่ออำนาจ และ ผลประโยชน์ ของตัวเอง
จะมีใครพูดว่าไม่จริง เพียงแค่มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
เรียกร้องหาคุณธรรมของนักการเมือง เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม
ในเมื่อเราปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ แล้วเฝ้ารอ
... อย่างมีความหวังกันอยู่ทุกยุคทุกสมัยอย่างที่เป็นมา
นักการเมืองเลว เป็นความผิดของเรา ไม่ใช่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว
สำนึกนี้ควรปลูกฝัง สำนึกนี้ควรตระหนัก
ไม่เช่นนั้น ปัญหาไม่มีทางแก้ แต่จะมีแค่แพะรับบาปที่โดนโยนความผิดให้ เพราะเราไม่รู้จักรับผิดชอบ ... ใช่ความผิดของเรา
ท่านผู้ถือหุ้น ลงทุนไม่ดูตาม้าตาเรือ
แล้วไปโทษผู้บริหาร โทษคนเชียร์ โทษดินฟ้าอากาศ
แต่ไม่คิดจะโทษตัวเอง ... ฟังดูคุ้นหูหรือไม่
ประชาธิปไตยของไทย มีเวลาเพียงไม่กี่นาทีตลอดสี่ปีจริงๆ
ไม่รู้ว่าเขาบรรจุไว้ในหลักสูตรไหนของการศึกษา
แต่นับว่าได้ผลในทุกระดับชั้นของการศึกษาไทย
ระบบที่ดีหรือ คือระบบที่มีคนเอาใจใส่มัน
ดังนั้นจึงต้องแก้ที่คน ... ท่านคิดว่าเราต้องแก้ที่ใคร?
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 44
ถึงแม้จะให้ สว. หาเสียงได้chatchai เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 45
[quote="ROGER"]ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเมื่อมีกติกาคุณต้องเล่นตามกติกา ไม่ใช่ไปเล่นนอกกติกา
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 46
รู้สึกเหมือนโดนรุมแฮะWaveRider965 เขียน:ระบบที่ดีเป็นอย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนใจ
ROGER พูดว่า ระบบให้มันดีอย่างไรถ้าคนมันจะเลว ระบบจะทำอะไรได้
... พรรคไหนก็เหมือนกัน จริงๆ
ต้องรอไปเรื่อยๆ หรือ ...
ก็ต้องถามใจตัวเราเอง ประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่วันเลือกตั้ง
นักการเมือง สอนเราอย่างนั้น มาตั้งแต่เกิด
แล้วเราก็เชื่ออย่างนั้น ... ฝังใจ
ประชาชน จึงไร้ความหมาย ในประชาธิปไตยอย่างไทยๆ
เราพึ่ง คนกลุ่มเดียว เราพึ่งคนๆเดียว ได้ละหรือ
เราโยนภาระต่างๆ ไปให้กลุ่มคนที่เราเลือก โดยไม่ช่วยคิดละหรือ
พรรคการเมือง เกิดขึ้นเพื่ออำนาจ และ ผลประโยชน์ ของตัวเอง
จะมีใครพูดว่าไม่จริง เพียงแค่มากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง
เรียกร้องหาคุณธรรมของนักการเมือง เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม
ในเมื่อเราปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ แล้วเฝ้ารอ
... อย่างมีความหวังกันอยู่ทุกยุคทุกสมัยอย่างที่เป็นมา
นักการเมืองเลว เป็นความผิดของเรา ไม่ใช่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียว
สำนึกนี้ควรปลูกฝัง สำนึกนี้ควรตระหนัก
ไม่เช่นนั้น ปัญหาไม่มีทางแก้ แต่จะมีแค่แพะรับบาปที่โดนโยนความผิดให้ เพราะเราไม่รู้จักรับผิดชอบ ... ใช่ความผิดของเรา
ท่านผู้ถือหุ้น ลงทุนไม่ดูตาม้าตาเรือ
แล้วไปโทษผู้บริหาร โทษคนเชียร์ โทษดินฟ้าอากาศ
แต่ไม่คิดจะโทษตัวเอง ... ฟังดูคุ้นหูหรือไม่
ประชาธิปไตยของไทย มีเวลาเพียงไม่กี่นาทีตลอดสี่ปีจริงๆ
ไม่รู้ว่าเขาบรรจุไว้ในหลักสูตรไหนของการศึกษา
แต่นับว่าได้ผลในทุกระดับชั้นของการศึกษาไทย
ระบบที่ดีหรือ คือระบบที่มีคนเอาใจใส่มัน
ดังนั้นจึงต้องแก้ที่คน ... ท่านคิดว่าเราต้องแก้ที่ใคร?
ผมเป็นกลางนะฟังเหตุผลทุกคนครับ
เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่นักบุญครับ
แต่ต้องการความเป็นธรรมในสังคม
และอยากให้สังคมไทยได้รับความเป็นธรรม
เมื่อมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 47
แต่พี่ฉัตรละเอียดมากกว่าผมจริง ๆ
ผมความจำไม่ดีเน้นหลักการมากกว่า
เช่นผู้นำควรเป็นคนมีคุณธรรมและใช้คนเป็นอะไรพวกนี้
แต่ก็เป็นคนใจอ่อนเหมือนคนไทยทั่วไป
ผมความจำไม่ดีเน้นหลักการมากกว่า
เช่นผู้นำควรเป็นคนมีคุณธรรมและใช้คนเป็นอะไรพวกนี้
แต่ก็เป็นคนใจอ่อนเหมือนคนไทยทั่วไป
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 48
อย่างคุณสนธิสิ่งที่ผมเห็นวันนี้ข้อเสียอันนึงที่เห็นชัดคือ
เป็นคนอวดดีเหมือนกัน เพราะตามหลักแล้ว
คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคนที่อ่อนน้อมที่สุด
ก็ไม่ใช่ว่าผมให้เห็นดีไปด้วยหมด
เป็นคนอวดดีเหมือนกัน เพราะตามหลักแล้ว
คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือคนที่อ่อนน้อมที่สุด
ก็ไม่ใช่ว่าผมให้เห็นดีไปด้วยหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 375
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 49
โดยส่วนตัวก็ไม่ได้ชอบทั้งท่านนายกและก็คุณสนธิ แต่พอได้ฟังมากขึ้นเรื่อย ก็ยิ่งเคลือบแคลงสงสัยในหลายๆประเด็น ที่ไม่ยอมออกมาพูดตอบกลับในสิ่งที่คุณสนธิพูด บางประเด็นผมก้เฉยๆเพราะไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่โดยรวมแล้วคาใจครับ อีกทั้งประเด็นเรื่องสื่อที่ไม่มีการพูดหรือขุดคุ้ยรัฐบาล ในเรื่องการทุจริตเลย ซึ่งประเด็นนี้ผมเชื่อโดยสุจริตว่ามีแน่นอน มากด้วย
ทำไมไม่เห็นมาออกรายการถึงลูกถึงคนบ้างเลย
ทำไมไม่เห็นมาออกรายการถึงลูกถึงคนบ้างเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 558
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 50
ผมไม่เห็นด้วยที่สนธิจะเล่นนอกเกมส์แล้วที่จะปลุกม๊อบให้คนมาชุมนุมวันที่ 9 ธ.ค. ทักษินมาจากการเลือกตั้งนะครับจะไปเทียบกับ รสช. ไม่ได้ ถามผมและหลายคนที่เลือกทรท. มาก็ไม่ยอมที่สนธิทำแบบนี้ ถามคนไทยทั่วประเทศ ผมว่าส่วนใหญ่ก็ยังอยากให้ทักษินบริหารประเทศอยู่ แต่การออกมาวิจารณ์ในสิ่งที่เราไม่รู้ผมเห็นด้วยครับ พูดได้เต็มที่ถ้าคุณมีข้อมูลจริง ผมว่าให้ใครมาบริหารประเทศขอให้ทำประโยชน์มากกว่าทำชั่วก็โอเคแล้วจะให้คลีน 100 % ต้องใช้เวลาไปเรื่อยๆมันต้องดีขึ้นบ้าง ไม่ชอบอีกอย่างมากๆที่สนธิชอบดึงในหลวงมาเป็นข้ออ้าง รวมๆแล้วทักษินบริหารประเทศได้ดีกว่า ปชป.มากๆ 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 51
ที่ผ่านมาผมเลือกไทยรักไทยมาตลอดทั้งสองครั้ง
ไม่เคยกาพรรคอื่นเลย
มาถึงวันนี้ เลยเข้าใจ
เราไม่ควรคิดถึงความสมดุลย์
ไม่ควรไว้วางใจใครมากเกินไป จนเกินไป
ไม่เคยกาพรรคอื่นเลย
มาถึงวันนี้ เลยเข้าใจ
เราไม่ควรคิดถึงความสมดุลย์
ไม่ควรไว้วางใจใครมากเกินไป จนเกินไป
- Hero_man
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 52
ที่ผ่านมาผมก็กาพรรคตรงข้ามพรรคที่คุณเลือกตลอด (ไม่ใช่แค่สองครั้งด้วย) ยังไม่เคยคิดเสียใจที่เลือกเลยครับthaistock2005 เขียน:ที่ผ่านมาผมเลือกไทยรักไทยมาตลอดทั้งสองครั้ง
ไม่เคยกาพรรคอื่นเลย
มาถึงวันนี้ เลยเข้าใจ
เราไม่ควรคิดถึงความสมดุลย์
ไม่ควรไว้วางใจใครมากเกินไป จนเกินไป
เลือดสะตอเข้มข้นครับ
กระแสน้ำเปลี่ยนใจปลา..
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
ใครถือกลุ่ม Shin ขายเถอะ
โพสต์ที่ 53
ส่วนผมตอนนี้คิดได้แล้วครับHero_man เขียน: ที่ผ่านมาผมก็กาพรรคตรงข้ามพรรคที่คุณเลือกตลอด (ไม่ใช่แค่สองครั้งด้วย) ยังไม่เคยคิดเสียใจที่เลือกเลยครับ
เลือดสะตอเข้มข้นครับ
ต่อไปคงไม่เลือกพรรคไหนพรรคเดียว
ต้องการให้มีการทานอำนาจกันได้