How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 3
USD ไม่เกี่ยวครับCartoon เขียน:Can we use USD Futures (in TFEX) for this krub?
เดินเข้าไปปรึกษาที่ธนาคารเลย
อย่าลงเล่น forex เอง ผิดทางไปกันใหญ่ เอาตลาด forex ไว้ดูแนวโน้มเท่านั้น
และใช้บริการของสถาบันการเงินครับ
ตัวอย่าง:
http://www.kasikornbank.com/TH/SME/Prod ... rward.aspx
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 4
ขอตอบแบบบ้านๆนะครับ
วีธีป้องกันความเสี่ยงที่ง่ายและถูกที่สุดคือการทำ natural hedge
นั่นหมายถึงว่าถ้าเรามีรายได้เป็นเงินสกุลใด ก็ควรจะสร้างรายจ่ายให้เป็นเงินสกุลเดียวกันนั้น
ในกรณีของคุณ ผมดูไม่ออกว่ารายได้ที่เป็นสกุลเยนมากแค่ไหน
ก็เลยแนะนำไม่ได้ว่า ควรจะสร้างรายจ่ายเป็นเงินสกุลเยนอย่างไร
ถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีรายได้เยอะพอ การกู้เงินเป็นสกุลเยนก็เป็นทางออกนึง
ถ้ารายได้ที่เป็นสกุลเยนไม่ได้เยอะมาก ก็ไปเที่ยวใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นบ้างก็ดีนะครับ
วีธีป้องกันความเสี่ยงที่ง่ายและถูกที่สุดคือการทำ natural hedge
นั่นหมายถึงว่าถ้าเรามีรายได้เป็นเงินสกุลใด ก็ควรจะสร้างรายจ่ายให้เป็นเงินสกุลเดียวกันนั้น
ในกรณีของคุณ ผมดูไม่ออกว่ารายได้ที่เป็นสกุลเยนมากแค่ไหน
ก็เลยแนะนำไม่ได้ว่า ควรจะสร้างรายจ่ายเป็นเงินสกุลเยนอย่างไร
ถ้าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่มีรายได้เยอะพอ การกู้เงินเป็นสกุลเยนก็เป็นทางออกนึง
ถ้ารายได้ที่เป็นสกุลเยนไม่ได้เยอะมาก ก็ไปเที่ยวใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นบ้างก็ดีนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 5
Sorry krub I am in the office, there is no Thai keyboard.
Khun วรันศ์ บัฟเฟต, Please check your PM na krub. I sent a PM message to you.
Khun Power Investor, do you have any other advise แบบบ้านๆ ? I will try to think to move expense from Baht into Yen krub.
Khun วรันศ์ บัฟเฟต, Please check your PM na krub. I sent a PM message to you.
Khun Power Investor, do you have any other advise แบบบ้านๆ ? I will try to think to move expense from Baht into Yen krub.
Cartoon
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 6
I would need more info. Such as, what is your business and cost structure? How much is your JPY revenue per month?
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 7
ผมเพิ่งเห็นว่า PM มันไม่ไปครับ มันค้างที่ outbox ไม่รู้ทำไม
เล่าตรงนี้ละกัน
ผมได้เงินเดือนเป็น Yen แต่มีรายจ่ายส่วนมาก (80%) เป็นบาทครับ ปกติผมจะถือเยนกลับไทยทุกเดือนๆละราว 400,000 เยน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางบ้านและทยอยซื้อหุ้น
ผมแลกเงินเยนเป็นบาทที่ Super Rich ซึ่งที่ผ่านมาเงินบาทที่แลกได้ค่อนข้างผันผวน ถ้าบาทอ่อนก็ดีไป ถ้าบาทแข็งก็ซวย แล้วล่าสุดก็คือว่าที่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นก็ต้องการให้เยนอ่อนอีก ผมก็เลยอยากปิดความผันผวนนี้น่ะครับ
ช่วยแนะนำหน่อยนะครับว่าผมควรทำไง??
ขอบคุณครับ
เล่าตรงนี้ละกัน
ผมได้เงินเดือนเป็น Yen แต่มีรายจ่ายส่วนมาก (80%) เป็นบาทครับ ปกติผมจะถือเยนกลับไทยทุกเดือนๆละราว 400,000 เยน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทางบ้านและทยอยซื้อหุ้น
ผมแลกเงินเยนเป็นบาทที่ Super Rich ซึ่งที่ผ่านมาเงินบาทที่แลกได้ค่อนข้างผันผวน ถ้าบาทอ่อนก็ดีไป ถ้าบาทแข็งก็ซวย แล้วล่าสุดก็คือว่าที่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นก็ต้องการให้เยนอ่อนอีก ผมก็เลยอยากปิดความผันผวนนี้น่ะครับ
ช่วยแนะนำหน่อยนะครับว่าผมควรทำไง??
ขอบคุณครับ
Cartoon
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 9
ลองปรึกษาเกี่ยวกับ pull option กับทางธนาคารดูไหมครับ ยังไม่เคยเหมือนกัน แต่เท่าที่เคยอ่านจากในหนังสือ น่าจะเป็นตัวเลือกนึงครับ
ถ้าบาทแข็งค่าก็สามารถใช้สิทธิ์ซื้อได้ในเรทที่เราทำ option ไว้ และอย่างที่บอกว่ามันคือสิทธิ์ กรณีที่บาทอ่อนค่าลง ทำให้เรทปัจจุบันที่แลกจากเยนเป็นบาท ดีกว่าเรทที่ fix ไว้ จขกท.ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธ์นั้นก็ได้ครับ แต่จะเสียเปล่าค่า premium
ปล.ผมอ่านจากหนังสือนานมากแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะถูกอย่างที่ผมพูดรึเปล่า รอผู้รู้ตัวจริงมาฟันธงอีกทีละกันครับ ผมแค่อยากแนะนำว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วย ลองดูครับ
ถ้าบาทแข็งค่าก็สามารถใช้สิทธิ์ซื้อได้ในเรทที่เราทำ option ไว้ และอย่างที่บอกว่ามันคือสิทธิ์ กรณีที่บาทอ่อนค่าลง ทำให้เรทปัจจุบันที่แลกจากเยนเป็นบาท ดีกว่าเรทที่ fix ไว้ จขกท.ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธ์นั้นก็ได้ครับ แต่จะเสียเปล่าค่า premium
ปล.ผมอ่านจากหนังสือนานมากแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะถูกอย่างที่ผมพูดรึเปล่า รอผู้รู้ตัวจริงมาฟันธงอีกทีละกันครับ ผมแค่อยากแนะนำว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วย ลองดูครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 10
แก้คำว่า"ซื้อ"เป็น"ขาย"ครับเสือนอนกิน เขียน:ลองปรึกษาเกี่ยวกับ pull option กับทางธนาคารดูไหมครับ ยังไม่เคยเหมือนกัน แต่เท่าที่เคยอ่านจากในหนังสือ น่าจะเป็นตัวเลือกนึงครับ
ถ้าบาทแข็งค่าก็สามารถใช้สิทธิ์ซื้อได้ในเรทที่เราทำ option ไว้ และอย่างที่บอกว่ามันคือสิทธิ์ กรณีที่บาทอ่อนค่าลง ทำให้เรทปัจจุบันที่แลกจากเยนเป็นบาท ดีกว่าเรทที่ fix ไว้ จขกท.ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธ์นั้นก็ได้ครับ แต่จะเสียเปล่าค่า premium
ปล.ผมอ่านจากหนังสือนานมากแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะถูกอย่างที่ผมพูดรึเปล่า รอผู้รู้ตัวจริงมาฟันธงอีกทีละกันครับ ผมแค่อยากแนะนำว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วย ลองดูครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 75
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 12
ลองสมมติแบบนี้นะครับ
ถ้าผมตกลงว่าจะรับแลกเงินเยนของคุณในราคา40บาทต่อร้อยเยนทุกเดือน คุณพอใจไหมครับ
ถัาคุณพอใจเราเซ็นสัญญกันว่าจะแลกเงินกันทุกเดือนเป็นเวลา2ปีในเรทนี้ อย่านี้เราเรียกสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบforward ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจส่่วนใหญ่ก็ใช้กัน เช่น
KFC ทำforwardตกลงจะซื้อไก่กับcpโลละ80บาท
แบบนี้จะมีประโยชน์กันKFCมากเพราะKFC สามารถล็อกราคาขายแน่นอนที่37บาท/ชิ้น และมีต้นทุนที่แน่นอนที่ไก่โลละ80บาท คงเห็นได้ว่าจะมีประโยชน์ในการบริหารงานมากเรียกง่ายๆว่าhedgingครับ
คงรู้ต่อไปว่าKFC จะเสียประโยชน์ถ้าราคาไก่สดลดลงถูกไหมครับเพราะคุณต้องซื้อไก่โลละ80แต่ในตลาดโลละแค่75แต่KFCคงไม่สนใจแน่นอนเพราะต้องการfocusไปที่ยอดขายหรือการขยายงานมากกว่า
แต่ว่าการทำforwardต้องมีคู่สัญญา2ฝ่ายและมีความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะผิดสััญญา การทำforwardส่วนใหญ่จึงต้องมีขนาดที่ใหญ่และต้องอาศัยความน่าเชื่อถือของคู่สัญญา สัญญาforwardจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับประชาชนทั่วไป ดังนั้นตลาดการเงินจึงพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบfutureขึ้นเพื่อตอบสนองการป้องกันความเสี่ยงในลักษณเดียวกันแบบforwardแต่ในรายละเอียดจะแตกต่างซึ่งเราสามารถป้องกันความเสี่ยงได้จริงๆ
นี่คือจุดผิดพลาดที่หลายๆคนมองว่าfutureสร้างขึ้นมาเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่รากของมันจริงๆคือการป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาแบบเดียวกับที่forwardทำ แต่ไม่อาจเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายได้ชัดเจนแบบforwardนั่นเอง แต่ผมยังนอนยันว่ามันมีความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงอยู่จริง
ถ้าเกิด จขกท รับเงื่อนไขได้และต้องการล็อกกระแสเงินสดเป็นเงินบาท ไม่แน่ว่าท่านอาจเหมาะกับการป้องกันความเสี่ยงแบบนี้ก็เป็นได้
ถ้าผมตกลงว่าจะรับแลกเงินเยนของคุณในราคา40บาทต่อร้อยเยนทุกเดือน คุณพอใจไหมครับ
ถัาคุณพอใจเราเซ็นสัญญกันว่าจะแลกเงินกันทุกเดือนเป็นเวลา2ปีในเรทนี้ อย่านี้เราเรียกสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบforward ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจส่่วนใหญ่ก็ใช้กัน เช่น
KFC ทำforwardตกลงจะซื้อไก่กับcpโลละ80บาท
แบบนี้จะมีประโยชน์กันKFCมากเพราะKFC สามารถล็อกราคาขายแน่นอนที่37บาท/ชิ้น และมีต้นทุนที่แน่นอนที่ไก่โลละ80บาท คงเห็นได้ว่าจะมีประโยชน์ในการบริหารงานมากเรียกง่ายๆว่าhedgingครับ
คงรู้ต่อไปว่าKFC จะเสียประโยชน์ถ้าราคาไก่สดลดลงถูกไหมครับเพราะคุณต้องซื้อไก่โลละ80แต่ในตลาดโลละแค่75แต่KFCคงไม่สนใจแน่นอนเพราะต้องการfocusไปที่ยอดขายหรือการขยายงานมากกว่า
แต่ว่าการทำforwardต้องมีคู่สัญญา2ฝ่ายและมีความเสี่ยงที่คู่สัญญาจะผิดสััญญา การทำforwardส่วนใหญ่จึงต้องมีขนาดที่ใหญ่และต้องอาศัยความน่าเชื่อถือของคู่สัญญา สัญญาforwardจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับประชาชนทั่วไป ดังนั้นตลาดการเงินจึงพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบfutureขึ้นเพื่อตอบสนองการป้องกันความเสี่ยงในลักษณเดียวกันแบบforwardแต่ในรายละเอียดจะแตกต่างซึ่งเราสามารถป้องกันความเสี่ยงได้จริงๆ
นี่คือจุดผิดพลาดที่หลายๆคนมองว่าfutureสร้างขึ้นมาเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่รากของมันจริงๆคือการป้องกันความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาแบบเดียวกับที่forwardทำ แต่ไม่อาจเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายได้ชัดเจนแบบforwardนั่นเอง แต่ผมยังนอนยันว่ามันมีความสามารถในการป้องกันความเสี่ยงอยู่จริง
ถ้าเกิด จขกท รับเงื่อนไขได้และต้องการล็อกกระแสเงินสดเป็นเงินบาท ไม่แน่ว่าท่านอาจเหมาะกับการป้องกันความเสี่ยงแบบนี้ก็เป็นได้
-
- Verified User
- โพสต์: 75
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Hedge JPY THB การเฮดจ์ค่าเงินเยนต่อบาท
โพสต์ที่ 14
ถ้าไม่ทำforwardกับธนาคาร ก็สามารถใช้USD futureในการป้องกันความเสี่ยงได้ คือถ้าเกิด จขกท take long position ในเงินเยน ตามหลักก็ควรจะtake shot positionในเงินเยนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของกระแสเงินสด แต่ถ้าเราไม่มีjpy futureให้ short
แล้วเราไปtake shot positionในusdได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ต้องมีการปรับอัตราส่วนในการถือครอง เพราะเราทราบว่าค่าเงิน usdและ jpyนั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่่จะไม่เท่ากันจึงต้องหาอัตราส่วนในการถือครองusd futureเพื่อให้longกับshortหักลบเท่ากันพอดี
ซึ่งมันก็มีสูตรในการคำนวนหลักในการคำนวนก็ใช้ค่าสถิติเพื่อหาว่าเราควรจะมีshort positionในusdเท่าไหร ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่หลงเหลือก็คือความผันผวนของusdและjpyไม่เป็นไปตามที่คาด(จากค่าสถิติ)
ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อยมากเพราะราคาfutureของค่านั้นเคลื่อนไหวตามของค่าเงินตลาดfutureของค่าเงินไม่สามารถถูกปั่นได้โดยตรง(เพราะผู้ปั่นจะเสียหายหนักเพราะโดนarbitrageแน่นอน)ถ้าจะปั่นต้องปั่นจากต้นน้ำคือ ค่าเงิน ซึ่งคงไม่มีใครปั่นค่าเงินได้โดยง่าย มันไม่เหมือนราคาหุ้นราคาผู้ปั่นราคาหุ้นสามารถอ้างถึงปัจจัยต่างๆของกิจการ เพื่อให้มันรับกับราคาที่ถูกปั่นขึ้นไปได้
แน่นอนว่าใช้ค่าสถิติในภาวะปกติทั่วไปหรือโดยมากก็ใช้ได้ดีเยี่ยมและส่วนใหญ่ในตลาดก็ใช้กัน เพราะมีคนส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะมีโอกาสใช้futureในการป้องกันunder lying assetตัวเดียวกัน ถ้าหากตลาดพัฒนาเราก็เชื่อว่าจะมีการออกfutureของjpy เพื่อมาป้องกันความเสี่ยงให้คนแบบ จขกท โดยเฉพาะ แต่ ณ จุดนี้ ตลาดยังทำแค่ usdเพื่อให้คนมารวมกันซื้อขายที่จุดเดียวก่อน(เพราะถึงมี jpy futureก็มีคนใช้น้อยมากๆอยู่ดี)
นี่ก็เป็นข้อเสียของfutureที่ต่างกับforward (ข้อดีเข้าออกง่ายกว่า forward) หรืออาจจะเลือกoptionก็ได้(ถ้ายอมรับค่าpremiumไหว) โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหากการใช้ usd future นั้นหากนำไปปฎิบัติจริงก็น่าจะมีประสิทธิภาพพอสมควร
แต่ล่ะด้านดีเสียต่างกันอยู่ที่อันไหนเหมาะล่ะครับ
แล้วสรุปว่าทำไม จขกท ไม่อยากทำforwardกับธนาคารล่ะครับ
แล้วเราไปtake shot positionในusdได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ต้องมีการปรับอัตราส่วนในการถือครอง เพราะเราทราบว่าค่าเงิน usdและ jpyนั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่่จะไม่เท่ากันจึงต้องหาอัตราส่วนในการถือครองusd futureเพื่อให้longกับshortหักลบเท่ากันพอดี
ซึ่งมันก็มีสูตรในการคำนวนหลักในการคำนวนก็ใช้ค่าสถิติเพื่อหาว่าเราควรจะมีshort positionในusdเท่าไหร ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่หลงเหลือก็คือความผันผวนของusdและjpyไม่เป็นไปตามที่คาด(จากค่าสถิติ)
ซึ่งมีโอกาสเกิดได้น้อยมากเพราะราคาfutureของค่านั้นเคลื่อนไหวตามของค่าเงินตลาดfutureของค่าเงินไม่สามารถถูกปั่นได้โดยตรง(เพราะผู้ปั่นจะเสียหายหนักเพราะโดนarbitrageแน่นอน)ถ้าจะปั่นต้องปั่นจากต้นน้ำคือ ค่าเงิน ซึ่งคงไม่มีใครปั่นค่าเงินได้โดยง่าย มันไม่เหมือนราคาหุ้นราคาผู้ปั่นราคาหุ้นสามารถอ้างถึงปัจจัยต่างๆของกิจการ เพื่อให้มันรับกับราคาที่ถูกปั่นขึ้นไปได้
แน่นอนว่าใช้ค่าสถิติในภาวะปกติทั่วไปหรือโดยมากก็ใช้ได้ดีเยี่ยมและส่วนใหญ่ในตลาดก็ใช้กัน เพราะมีคนส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะมีโอกาสใช้futureในการป้องกันunder lying assetตัวเดียวกัน ถ้าหากตลาดพัฒนาเราก็เชื่อว่าจะมีการออกfutureของjpy เพื่อมาป้องกันความเสี่ยงให้คนแบบ จขกท โดยเฉพาะ แต่ ณ จุดนี้ ตลาดยังทำแค่ usdเพื่อให้คนมารวมกันซื้อขายที่จุดเดียวก่อน(เพราะถึงมี jpy futureก็มีคนใช้น้อยมากๆอยู่ดี)
นี่ก็เป็นข้อเสียของfutureที่ต่างกับforward (ข้อดีเข้าออกง่ายกว่า forward) หรืออาจจะเลือกoptionก็ได้(ถ้ายอมรับค่าpremiumไหว) โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหากการใช้ usd future นั้นหากนำไปปฎิบัติจริงก็น่าจะมีประสิทธิภาพพอสมควร
แต่ล่ะด้านดีเสียต่างกันอยู่ที่อันไหนเหมาะล่ะครับ
แล้วสรุปว่าทำไม จขกท ไม่อยากทำforwardกับธนาคารล่ะครับ