ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 1
ปัจจุบันผมเป็นสายเทคนิคอล แต่ก็ยังอยากหาความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของหุ้น แต่ผมมีความรู้น้อยมากในการประเมินหุ้นพื้นฐาน ทั้งๆ ที่จบสายบัญชีมาโดยตรง ผมเลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ Thaivi ด้วยครับ
คำถามที่ผมสงสัย และขอคำแนะนำ
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
2. การดูงบการเงิน สำหรับผม มันคือการดูข้อมูลปัจจุบัน เราจะต้องดูงบการเงินอย่างไร ถึงจะประเมินอนาคตได้ครับ เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ปัจจุบันงบอาจจะดีที่สุด จากที่เคยดีอยู่แล้วมาหลายปี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอนาคตมันจะดีขึ้น หรือแย่ลง ???
3. การดูค่า p/e ผมเคยมานั่งวิเคราะห์ มันคือค่าปัจจุบันทั้ง p และ e เราจะหา e ในอนาคตได้อย่างไรครับ เคยเห็นมีคนบอกว่าให้เอาตัว g (growth) มาคำนวณด้วย แต่ผมก็สงสัยว่าตัว g นี่มันมาได้อย่างไร ถ้ามันเป็นการตั้งสมมติฐาน มันก็แค่การประเมิน ซึ่งอาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้ ???
นี่คือคำถามที่ผมสงสัย และยังคิดไม่ออก อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าใจการตีงบการเงินก็ได้ เลยเข้ามาขอคำแนะนำครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
คำถามที่ผมสงสัย และขอคำแนะนำ
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
2. การดูงบการเงิน สำหรับผม มันคือการดูข้อมูลปัจจุบัน เราจะต้องดูงบการเงินอย่างไร ถึงจะประเมินอนาคตได้ครับ เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ปัจจุบันงบอาจจะดีที่สุด จากที่เคยดีอยู่แล้วมาหลายปี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอนาคตมันจะดีขึ้น หรือแย่ลง ???
3. การดูค่า p/e ผมเคยมานั่งวิเคราะห์ มันคือค่าปัจจุบันทั้ง p และ e เราจะหา e ในอนาคตได้อย่างไรครับ เคยเห็นมีคนบอกว่าให้เอาตัว g (growth) มาคำนวณด้วย แต่ผมก็สงสัยว่าตัว g นี่มันมาได้อย่างไร ถ้ามันเป็นการตั้งสมมติฐาน มันก็แค่การประเมิน ซึ่งอาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้ ???
นี่คือคำถามที่ผมสงสัย และยังคิดไม่ออก อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าใจการตีงบการเงินก็ได้ เลยเข้ามาขอคำแนะนำครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 2
สำหรับผมดูคร่าวๆ 2 ข้อครับ
1 ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
2 % ของ Net profit เพื่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้ง 2 ข้อนี้จะทำให้ earning per share เพิ่มขึ้น
จากนั้นค่อยมาดูว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นต่อไหม
และราคาหุ้นตอนนี้แพงไปหรือเปล่า
1 ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
2 % ของ Net profit เพื่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้ง 2 ข้อนี้จะทำให้ earning per share เพิ่มขึ้น
จากนั้นค่อยมาดูว่าในอนาคตจะเพิ่มขึ้นต่อไหม
และราคาหุ้นตอนนี้แพงไปหรือเปล่า
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 3
ถ้าว่ากันถึงการลงทุนแนวพื้นฐาน มันก็คือการซื้อหุ้นก็เหมือนกับซื้อธุรกิจ การดูงบการเงิน ดูอัตราส่วนทางการเงินเช่น PE, DE, ROE, ROA, etc ปันเป็นส่วนหนึ่งครับ แต่อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือดูภาพรวมของธุรกิจที่เราสนใจจะลงทุน
ทีนี้ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจที่ว่า มันจะเติบโตได้ในระดับไหน เราต้องมองธุรกิจให้ออกก่อน ว่าเป็นธุรกิจเทพ หรือธุรกิจกาก
ธุรกิจเทพในที่นี้ผมหมายถึงธุรกิจที่มี DCA (Durable Competitive Advantage) หนังสือภาษาไทยเค้าแปลว่า ความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน ธุรกิจพวกนี้คือธุรกิจที่ยิ่งทำไป ยิ่งชนะ ทิ้งห่างคู่แข่งไปได้เรื่อยๆ ยากที่จะมีคนไหนมาทำสู้ได้ อาจจะเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น
- มี brand ที่ทรงพลัง ลูกค้าใช้บริการแล้วติด
- มีต้นทุนที่ถูกกว่าคู่แข่งมากโดยวิธีอะไรก็แล้วแต่
- etc
ส่วนธุรกิจกาก ก็คือธุรกิจที่แข่งขันกันแต่เรื่องราคา เป็นธุรกิจที่ใครๆก็เข้ามาแข่งได้ ทำให้ยิ่งทำคู่แข่งก็ยิ่งมาก margin ก็น้อยลง
ลองอ่านธุรกิจที่มี DCA และไม่มี จากหนังสือแปลที่เกี่ยวกับปู่บัฟเฟต์ จะได้เนื้อหาที่เยอะกว่านี้ครับ
หรือเราอาจจะลองดูว่าธุรกิจที่เราสนใจจะลงทุน มันอยู่กลุ่มไหนใน 6 กลุ่มของลินซ์ ซึ่งก็มีในหนังสืออยู่ครับ ว่าเค้าจัดหุ้นทั้งหมดเป็น 6 กลุ่ม แล้วลองพิจารณาดูว่า ของเรามันเข้าไปอยู่ในหมวดไหน
พอเรารู้ภาพรวมของธุรกิจแล้ว มันจะพอมองออกครับ ว่าศักยภาพของมัน มันจะไปได้ขนาดไหน
ชักยาว รอท่านอื่นมาต่อครับ
ทีนี้ถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจที่ว่า มันจะเติบโตได้ในระดับไหน เราต้องมองธุรกิจให้ออกก่อน ว่าเป็นธุรกิจเทพ หรือธุรกิจกาก
ธุรกิจเทพในที่นี้ผมหมายถึงธุรกิจที่มี DCA (Durable Competitive Advantage) หนังสือภาษาไทยเค้าแปลว่า ความสามารถทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน ธุรกิจพวกนี้คือธุรกิจที่ยิ่งทำไป ยิ่งชนะ ทิ้งห่างคู่แข่งไปได้เรื่อยๆ ยากที่จะมีคนไหนมาทำสู้ได้ อาจจะเกิดจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น
- มี brand ที่ทรงพลัง ลูกค้าใช้บริการแล้วติด
- มีต้นทุนที่ถูกกว่าคู่แข่งมากโดยวิธีอะไรก็แล้วแต่
- etc
ส่วนธุรกิจกาก ก็คือธุรกิจที่แข่งขันกันแต่เรื่องราคา เป็นธุรกิจที่ใครๆก็เข้ามาแข่งได้ ทำให้ยิ่งทำคู่แข่งก็ยิ่งมาก margin ก็น้อยลง
ลองอ่านธุรกิจที่มี DCA และไม่มี จากหนังสือแปลที่เกี่ยวกับปู่บัฟเฟต์ จะได้เนื้อหาที่เยอะกว่านี้ครับ
หรือเราอาจจะลองดูว่าธุรกิจที่เราสนใจจะลงทุน มันอยู่กลุ่มไหนใน 6 กลุ่มของลินซ์ ซึ่งก็มีในหนังสืออยู่ครับ ว่าเค้าจัดหุ้นทั้งหมดเป็น 6 กลุ่ม แล้วลองพิจารณาดูว่า ของเรามันเข้าไปอยู่ในหมวดไหน
พอเรารู้ภาพรวมของธุรกิจแล้ว มันจะพอมองออกครับ ว่าศักยภาพของมัน มันจะไปได้ขนาดไหน
ชักยาว รอท่านอื่นมาต่อครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 4
ผมขอตอบข้อ 2 ครับ... ^^)
หากเราคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ว่าทำไมงบการเงินในอนาคตมันควรจะดีขึ้น
ไม่ควรแย่ลง ในฐานะที่คุณเรียนบัญชี คุณจะรู้ว่าผู้ที่นำงบการเงินไปใช้นั้น
มีหลายส่วน หลายบุคคล และ1ในนั้น ก็คือผู้บริหาร ซึ่งจะต้องนำงบการเงิน
ไปประเมินผลงานต่างๆที่ผ่านมาของบริษัทว่ามีจุดไหนดีขึ้น จุดไหนแย่ลง
แล้วจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร หรือใช้เป็นการตั้งเป้าหมายว่าปีที่แล้ว
ทำได้เท่านี้ ปีหน้าต้องทำให้ได้มากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมงบการเงิน
ในอนาคตควรจะดีขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงเป้าหมาย ส่วนการดำเนินงานจริงจะ
ได้ตามเป้าหรือปล่าว อันนี้ก็ต้องพิจารณากันเองหละครับ...^^)
ปล. ผมขอเห็นต่างนะครับที่ว่างบเป็นข้อมูลปัจจุบัน ผมมองว่างบการเงิน
เป็นข้อมูลจากอดีตที่สรุปมาให้เราครับ...^^)
หากเราคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ว่าทำไมงบการเงินในอนาคตมันควรจะดีขึ้น
ไม่ควรแย่ลง ในฐานะที่คุณเรียนบัญชี คุณจะรู้ว่าผู้ที่นำงบการเงินไปใช้นั้น
มีหลายส่วน หลายบุคคล และ1ในนั้น ก็คือผู้บริหาร ซึ่งจะต้องนำงบการเงิน
ไปประเมินผลงานต่างๆที่ผ่านมาของบริษัทว่ามีจุดไหนดีขึ้น จุดไหนแย่ลง
แล้วจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร หรือใช้เป็นการตั้งเป้าหมายว่าปีที่แล้ว
ทำได้เท่านี้ ปีหน้าต้องทำให้ได้มากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมงบการเงิน
ในอนาคตควรจะดีขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงเป้าหมาย ส่วนการดำเนินงานจริงจะ
ได้ตามเป้าหรือปล่าว อันนี้ก็ต้องพิจารณากันเองหละครับ...^^)
ปล. ผมขอเห็นต่างนะครับที่ว่างบเป็นข้อมูลปัจจุบัน ผมมองว่างบการเงิน
เป็นข้อมูลจากอดีตที่สรุปมาให้เราครับ...^^)
- Pordamo
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 5
ผมขอตอบข้อ 1 ก่อนนะครับ ตามความเข้าใจของผม
1. ให้สังเกตค่า ROE ว่าจะเริ่มมีแนวโน้มกลับมาเป็นบวก หลังจากติดลบมานานครับ โดยมีสาเหตุจากการมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่มาจากการขายทรัพย์สิน หรือกู้เงินจนเป็นหนี้เพิ่มนะครับ
2. เคยขายสินค้าแบบหนึ่งแต่ไม่ได้รับความนิยม เลยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถพลิกพิ้นฐานของบริษัทได้ เช่นหุ้นตัวหนึ่งในตลาดในปัจจุบันที่ทำการเปลี่ยนธุรกิจของตนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทำให้ยอดขายและผลกำไรของบริษัทดีขึ้น จนทำให้ล้างหนี้สินได้จนหมด และสามารถจ่ายปันผลได้ ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไม่หยุดในปัจจุบัน
1. ให้สังเกตค่า ROE ว่าจะเริ่มมีแนวโน้มกลับมาเป็นบวก หลังจากติดลบมานานครับ โดยมีสาเหตุจากการมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่มาจากการขายทรัพย์สิน หรือกู้เงินจนเป็นหนี้เพิ่มนะครับ
2. เคยขายสินค้าแบบหนึ่งแต่ไม่ได้รับความนิยม เลยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถพลิกพิ้นฐานของบริษัทได้ เช่นหุ้นตัวหนึ่งในตลาดในปัจจุบันที่ทำการเปลี่ยนธุรกิจของตนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทำให้ยอดขายและผลกำไรของบริษัทดีขึ้น จนทำให้ล้างหนี้สินได้จนหมด และสามารถจ่ายปันผลได้ ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไม่หยุดในปัจจุบัน
Stay Calm, Stay Invest.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 962
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 6
ขอลองตอบนะครับbigzaa เขียน:ปัจจุบันผมเป็นสายเทคนิคอล แต่ก็ยังอยากหาความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของหุ้น แต่ผมมีความรู้น้อยมากในการประเมินหุ้นพื้นฐาน ทั้งๆ ที่จบสายบัญชีมาโดยตรง ผมเลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ Thaivi ด้วยครับ
คำถามที่ผมสงสัย และขอคำแนะนำ
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
2. การดูงบการเงิน สำหรับผม มันคือการดูข้อมูลปัจจุบัน เราจะต้องดูงบการเงินอย่างไร ถึงจะประเมินอนาคตได้ครับ เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ปัจจุบันงบอาจจะดีที่สุด จากที่เคยดีอยู่แล้วมาหลายปี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอนาคตมันจะดีขึ้น หรือแย่ลง ???
3. การดูค่า p/e ผมเคยมานั่งวิเคราะห์ มันคือค่าปัจจุบันทั้ง p และ e เราจะหา e ในอนาคตได้อย่างไรครับ เคยเห็นมีคนบอกว่าให้เอาตัว g (growth) มาคำนวณด้วย แต่ผมก็สงสัยว่าตัว g นี่มันมาได้อย่างไร ถ้ามันเป็นการตั้งสมมติฐาน มันก็แค่การประเมิน ซึ่งอาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้ ???
นี่คือคำถามที่ผมสงสัย และยังคิดไม่ออก อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าใจการตีงบการเงินก็ได้ เลยเข้ามาขอคำแนะนำครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
อย่างแรกที่ผมอยากจะบอกก็คือ คำตอบของคำถามทั้งหมดเนี่ย มันไม่ใช่ได้มาง่ายๆหรอกครับ มันเกิดจากการติดตามข่าวสาร และนำมาวิเคราะห์ครับ ไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะถ้าต้องการคำตอบชัวร์ๆมันก็ต้องผ่านไปแล้ว และเราคงลงทุนไม่ทันแล้วเพราะคนอื่นก็จะทราบได้เหมือนกับเราครับ
1. คำถามนี้ตอบได้กว้างมาก เพราะเราต้องรู้ก่อนว่าที่ว่าพื้นฐานไม่ดีนั้น คือจุดไหน เช่นหนี้สูง ก็ต้องดูว่าบริษัทจะมีการบริหารหนี้อย่างไร จะมีการใช้หนี้คืนไหม เพราะการใช้หนี้คืน ก็ทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง มีผลกับกำไรเลยทีเดียว หรือจุดอ่อนอยู่ที่ cash flow ก็ต้องดูว่าบริษัทมีนโยบายอะไรต่อไปในการทำให้ cash flow ดีขึ้นครับ
2. สืบเนื่องมาจากข้อ 1 การดูงบเป็นอดีต แต่การจะบอกว่างบจะดีขึ้นหรือไม่ต้องดูนโยบายของบริษัทในอนาคตและในปัจจุบัน บางครั้งงบในอดีตก็อาจจะบอกได้เช่นกัน เช่น ย้อนหลังไปพบว่ามีการใช้หนี้คืนอย่างต่อเนื่อง เราก็จะคาดได้ว่าหนี้จะหมดเมื่อไร หรือมี % margin ดีขึ้นเรื่อยๆ จำนวน inventory turnover ดีขึ้นเป็นลำดับ การเก็บเงินใช้เวลาน้อยลงๆ
3. การจะบอกว่า growth จะเป็นเท่าไร อันนี้ต้องศึกษาตัวบริษัทเยอะครับ เพราะต้องทราบแผนงานที่ค่อนข้างชัดเจนว่าบริษัทกำลังจะทำอะไร แล้วถึงจะมาประเมินว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นได้มั้ยจากแผนงานนั้นๆครับ
จะเห็นว่าไม่ว่าจะตอบข้อไหนก็ย้อนกลับไปที่ว่า เรามีข้อมูลแค่ไหนในการประเมินบริษัทในอนาคตครับ ต้องทำการบ้านครับ
แต่ส่วนตัวผมก็ลอกการบ้านเยอะอยู่เหมือนกัน แหะแหะ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 7
ขอมาตอบข้อ 3 เพิ่มครับ.... ^^)
ตามปกติที่เวลาคำนวน E ในอนาคต จะต้องนำ G มาใช้ในการคำนวนด้วย
ซึ่งก็จะมีความเสี่ยงจากการผิดพลาดของการที่เรามอง G สูงหรือต่ำเกินไป
(มองต่ำไปก็ถือเป็นความเสี่ยงนะครับ...^^) ดังนั้นชาว vi จึงต้องมี mos
(margin of safety) เพื่อมาช่วยลดความเสี่ยงจากการที่เรามองผิดพลาดไป
ครับ...^^)
ปล. ส่วนตัวของผม ผมเห็นด้วยกับคุณ "bigzaa" ครับว่า G เป็นค่าที่เราประเมิน
ขึ้นมาซึ่งอาจจะเป็นจริงดังที่เราประเมินหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นผมจะไม่ใช้ G ในการ
ประเมินกำไร แต่จะใช้ข้อมูลในอดีตย้อนหลังหลายๆปี และมองอนาคตของบริษัท
ยังสามารถทำได้แบบที่เคยทำมาหรือเพิ่มมากกว่าที่เคยทำมาได้หรือไม่ครับ...^^)
ตามปกติที่เวลาคำนวน E ในอนาคต จะต้องนำ G มาใช้ในการคำนวนด้วย
ซึ่งก็จะมีความเสี่ยงจากการผิดพลาดของการที่เรามอง G สูงหรือต่ำเกินไป
(มองต่ำไปก็ถือเป็นความเสี่ยงนะครับ...^^) ดังนั้นชาว vi จึงต้องมี mos
(margin of safety) เพื่อมาช่วยลดความเสี่ยงจากการที่เรามองผิดพลาดไป
ครับ...^^)
ปล. ส่วนตัวของผม ผมเห็นด้วยกับคุณ "bigzaa" ครับว่า G เป็นค่าที่เราประเมิน
ขึ้นมาซึ่งอาจจะเป็นจริงดังที่เราประเมินหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นผมจะไม่ใช้ G ในการ
ประเมินกำไร แต่จะใช้ข้อมูลในอดีตย้อนหลังหลายๆปี และมองอนาคตของบริษัท
ยังสามารถทำได้แบบที่เคยทำมาหรือเพิ่มมากกว่าที่เคยทำมาได้หรือไม่ครับ...^^)
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 8
การดูข้อมูลปัจจุบัน ...... ประเมินอนาคต
บางส่วน ใช้ความรู้ ที่เราเรียนรู้มา และเรียนรู้เพิ่มนอกตำรา
จึงมีอีกบางส่วนของประสบการณ์ ในการลองดู ลองผิดลองถูก
ดูบ่อยๆ เคยดูผิดมากๆ จะถูกมากขึ้น (หมายถึงจำนวนกิจการ ที่เราดู เรา "อ่าน")
มันก็เหมือนเราเรียนรู้เพื่อน หรือแฟน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานรอบข้าง
กว่าเราจะรู้จัก บางคนเราก็เข้าใจง่าย บางคนเราก็เข้าใจยาก ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการเรียนรู้
ยิ่งใครที่เราสนิทด้วย รู้จักสังเกต หาข้อมูลจากรอบข้างเท่าที่จะหาได้ (ทั้งข่าว ทั้งข้อมูล อายุ อารมณ์ สุขภาพ ฯลฯ) เราก็จะรู้จักมากขึ้น และเข้าใจนิสัยใจคอมากขึ้น จนบางทีเรารู้เลย ว่าที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนั้น เพราะกำลังคิดอะไรอยู่
ถ้าถามว่าเราดูอนาคตอย่างไร
ไม่ใช่ไสยศาสตร์หรือพยากรณ์แบบหมอเดาโลกแตกแน่นอน
แต่มีเหตุมีผลรองรับ
เป็นพฤติกรรมซ้ำๆ ของเพื่อนที่เราคบ ของสาวๆ ที่เราสนใจ หรือของกิจการที่เราสนใจติดตามหาข้อมูล
พฤติกรรมในอดีต ต่อเนื่องมาปัจจุบัน จะเป็นการทำให้เราพยากรณ์อนาคตได้
ประกอบกับสิ่งแวดล้อม ที่อาจมีผลต่อความเป็นอยู่ สุขภาพกาย สุขภาพจิค สุขภาพการเงิน การเรียนรู้ พัฒนาการ ความมั่นคงในชีวิต
แม้เราไม่สามารถพยากรณ์ได้ถูกต้องทุกกรณี แต่เราก็ลดความเสี่ยง ด้วยการเลือกที่จะเรียนรู้ และ "คบ" หลายคนพร้อมกันได้
บางคนที่เราไว้ใจมากๆ เราก็เทใจ และทุ่มเทเวลาในการติดตามเอาใจใส่ความเป็นอยู่มากกว่า
มากกว่าคนที่เราคิดว่าไม่น่าไว้ใจ ชอบมีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ หรือทำให้เราเสียความรู้สึก หลอกแล้วหลอกอีก เราคิดว่าเราอาจถอยห่าง และอาจเลิกคบในอนาคต
(แต่ก็ขึ้นกับเรา บางคนอาจเจ้าเล่ห์ดูเทาๆ บ้าง เพราะสิ่งแวดล้อมพาไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายให้เราเจ็บ เราก็ยังอาจเลือกคบอยู่)
บางส่วน ใช้ความรู้ ที่เราเรียนรู้มา และเรียนรู้เพิ่มนอกตำรา
จึงมีอีกบางส่วนของประสบการณ์ ในการลองดู ลองผิดลองถูก
ดูบ่อยๆ เคยดูผิดมากๆ จะถูกมากขึ้น (หมายถึงจำนวนกิจการ ที่เราดู เรา "อ่าน")
มันก็เหมือนเราเรียนรู้เพื่อน หรือแฟน หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานรอบข้าง
กว่าเราจะรู้จัก บางคนเราก็เข้าใจง่าย บางคนเราก็เข้าใจยาก ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ในการเรียนรู้
ยิ่งใครที่เราสนิทด้วย รู้จักสังเกต หาข้อมูลจากรอบข้างเท่าที่จะหาได้ (ทั้งข่าว ทั้งข้อมูล อายุ อารมณ์ สุขภาพ ฯลฯ) เราก็จะรู้จักมากขึ้น และเข้าใจนิสัยใจคอมากขึ้น จนบางทีเรารู้เลย ว่าที่กำลังมีพฤติกรรมแบบนั้น เพราะกำลังคิดอะไรอยู่
ถ้าถามว่าเราดูอนาคตอย่างไร
ไม่ใช่ไสยศาสตร์หรือพยากรณ์แบบหมอเดาโลกแตกแน่นอน
แต่มีเหตุมีผลรองรับ
เป็นพฤติกรรมซ้ำๆ ของเพื่อนที่เราคบ ของสาวๆ ที่เราสนใจ หรือของกิจการที่เราสนใจติดตามหาข้อมูล
พฤติกรรมในอดีต ต่อเนื่องมาปัจจุบัน จะเป็นการทำให้เราพยากรณ์อนาคตได้
ประกอบกับสิ่งแวดล้อม ที่อาจมีผลต่อความเป็นอยู่ สุขภาพกาย สุขภาพจิค สุขภาพการเงิน การเรียนรู้ พัฒนาการ ความมั่นคงในชีวิต
แม้เราไม่สามารถพยากรณ์ได้ถูกต้องทุกกรณี แต่เราก็ลดความเสี่ยง ด้วยการเลือกที่จะเรียนรู้ และ "คบ" หลายคนพร้อมกันได้
บางคนที่เราไว้ใจมากๆ เราก็เทใจ และทุ่มเทเวลาในการติดตามเอาใจใส่ความเป็นอยู่มากกว่า
มากกว่าคนที่เราคิดว่าไม่น่าไว้ใจ ชอบมีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ หรือทำให้เราเสียความรู้สึก หลอกแล้วหลอกอีก เราคิดว่าเราอาจถอยห่าง และอาจเลิกคบในอนาคต
(แต่ก็ขึ้นกับเรา บางคนอาจเจ้าเล่ห์ดูเทาๆ บ้าง เพราะสิ่งแวดล้อมพาไป แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายให้เราเจ็บ เราก็ยังอาจเลือกคบอยู่)
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 9
ยังมีอีกหน่อย
บางคนเราอาจเลิกคบมาแล้ว เพราะนิสัยแย่ๆ
แต่ตอนหลังเมื่อพบว่า พฤติกกรมเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น เพราะเรารับฟังข่าวทุกระยะ เลยรับข้อมูล ประเมินแล้วเราคิดว่ากลับตัวกลับใจ เปลี่ยนนิสัยแล้วจริง
เราก็กลับมาคบอีกได้
บางคนเราอาจเลิกคบมาแล้ว เพราะนิสัยแย่ๆ
แต่ตอนหลังเมื่อพบว่า พฤติกกรมเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น เพราะเรารับฟังข่าวทุกระยะ เลยรับข้อมูล ประเมินแล้วเราคิดว่ากลับตัวกลับใจ เปลี่ยนนิสัยแล้วจริง
เราก็กลับมาคบอีกได้
-
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 12
ผมก็มือใหม่นะครับ แต่ว่าตอนที่ผมเริ่มลงทุนมีรุ่นพี่คนหนึ่งบอกผมว่า ให้ดูที่ Megatrend เป็นหลักครับ
เพราะงบการเงินที่เราดูกันมันเป็นแค่การดูความสามารถของบริษัทในอดีตครับ ไม่ได้รับประกันอนาคต 100%
แต่ถ้าเราตาม Trend ไปได้ถึงแม้เราไปเลือกบริษัทที่เป็น เบอร์ 2 เราก็ยังสามารถเห็นการเติบโตของบริษัทได้ครับ
เพราะงบการเงินที่เราดูกันมันเป็นแค่การดูความสามารถของบริษัทในอดีตครับ ไม่ได้รับประกันอนาคต 100%
แต่ถ้าเราตาม Trend ไปได้ถึงแม้เราไปเลือกบริษัทที่เป็น เบอร์ 2 เราก็ยังสามารถเห็นการเติบโตของบริษัทได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 13
ขอลองตอบดูบ้างนะครับ ออกตัวก่อนนะครับ ยังมือใหม่ อาจจะเขียนแล้วงงๆ
ข้อ 1 กับ ข้อ 2 ขอตอบรวมเลยนะครับ ในการที่เราจะประเมินพื้นฐานของธุรกิจว่าพื้นฐานเปลี่ยนจากดีมาไม่ดี หรือว่าไม่ดีมาดี หลักๆ แล้วเราต้องทำความเข้าใจกับ Business Model ของตัวธุรกิจก่อนครับ เราต้องรู้ว่า Customer Segment คือใคร, คู่แข่งมีใครบ้าง เราอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ของอุตสาหกรรม ซึ่งถ้าเรามองตรงนี้ออกก็จะสามารถต่อยอดไปได้ว่าด้วยโมเดลนี้บริษัทเราแข็งแกร่งแค่ไหน เสร็จแล้วเราก็ลองสร้างสมมุติฐานต่างๆ ขึ้นมาครับ เช่น ถ้าอุตสาหกรรมของเราโต xx% แล้วกำไรของบริษัทเราจะเป็นเท่าไหร่ มันจะดีขึ้นหรือแย่ลง แล้วก็ติดตามจากงบการเงินที่ออกมาในแต่ละไตรมาส ตามสมมุติฐานที่เราสร้างขึ้น
ข้อ 3. เรื่องของการประเมิน Growth ผมมองว่าวิเคราะห์ได้จากหลายทางนะครับ เช่น โตตามอุตสาหกรรม หรือว่าโตด้วยตัวของมันเอง ถ้าเรื่องของการโตตามอุตสาหกรรมเราอาจจะต้องมอง trend มันให้ออก แล้วประเมินว่าถ้าอุตสาหกรรมเราโตไป xx% ขอเพียงเรารักษา Market Share ไว้ได้ ก็สามารถโตไปได้. ส่วนเรื่องของการที่โตด้วยตัวมันเองก็เป็นเรื่องที่สามารถเพิ่ม Market Share ได้ เช่น ถ้าปีนี้ ผบห บอกว่า capacity ในการผลิตอยู่ที่ 60% แต่ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 80% แบบนี้เราก็จะพอมองเห็นแล้วว่า Growth เป็นเท่าไหร่
หลักๆ เลย คือต้องมอง business model มันให้ออกก่อนอ่ะครับ แล้วก็มองหา Key Point มันให้เจอก่อนว่าอะไรจะเป็นตัว Growth มัน ถึงจะสามารถตั้งสมมุติฐานมันขึ้นมาได้ ถ้าเรายังหาไม่เจอ แล้วไปตั้งลอยๆ ว่าปีหน้าโต 20% แบบนี้เลย ผมว่ามันจะทำให้การลงทุนเราเครียดนะครับ
ข้อ 1 กับ ข้อ 2 ขอตอบรวมเลยนะครับ ในการที่เราจะประเมินพื้นฐานของธุรกิจว่าพื้นฐานเปลี่ยนจากดีมาไม่ดี หรือว่าไม่ดีมาดี หลักๆ แล้วเราต้องทำความเข้าใจกับ Business Model ของตัวธุรกิจก่อนครับ เราต้องรู้ว่า Customer Segment คือใคร, คู่แข่งมีใครบ้าง เราอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ของอุตสาหกรรม ซึ่งถ้าเรามองตรงนี้ออกก็จะสามารถต่อยอดไปได้ว่าด้วยโมเดลนี้บริษัทเราแข็งแกร่งแค่ไหน เสร็จแล้วเราก็ลองสร้างสมมุติฐานต่างๆ ขึ้นมาครับ เช่น ถ้าอุตสาหกรรมของเราโต xx% แล้วกำไรของบริษัทเราจะเป็นเท่าไหร่ มันจะดีขึ้นหรือแย่ลง แล้วก็ติดตามจากงบการเงินที่ออกมาในแต่ละไตรมาส ตามสมมุติฐานที่เราสร้างขึ้น
ข้อ 3. เรื่องของการประเมิน Growth ผมมองว่าวิเคราะห์ได้จากหลายทางนะครับ เช่น โตตามอุตสาหกรรม หรือว่าโตด้วยตัวของมันเอง ถ้าเรื่องของการโตตามอุตสาหกรรมเราอาจจะต้องมอง trend มันให้ออก แล้วประเมินว่าถ้าอุตสาหกรรมเราโตไป xx% ขอเพียงเรารักษา Market Share ไว้ได้ ก็สามารถโตไปได้. ส่วนเรื่องของการที่โตด้วยตัวมันเองก็เป็นเรื่องที่สามารถเพิ่ม Market Share ได้ เช่น ถ้าปีนี้ ผบห บอกว่า capacity ในการผลิตอยู่ที่ 60% แต่ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 80% แบบนี้เราก็จะพอมองเห็นแล้วว่า Growth เป็นเท่าไหร่
หลักๆ เลย คือต้องมอง business model มันให้ออกก่อนอ่ะครับ แล้วก็มองหา Key Point มันให้เจอก่อนว่าอะไรจะเป็นตัว Growth มัน ถึงจะสามารถตั้งสมมุติฐานมันขึ้นมาได้ ถ้าเรายังหาไม่เจอ แล้วไปตั้งลอยๆ ว่าปีหน้าโต 20% แบบนี้เลย ผมว่ามันจะทำให้การลงทุนเราเครียดนะครับ
Life is Beautiful ...
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 14
ทั้ง 3 ข้อ ตารางเดียวก้ตอบได้หมดและครับ ว่าจะหาหุ้น Growth stockbigzaa เขียน:ปัจจุบันผมเป็นสายเทคนิคอล แต่ก็ยังอยากหาความรู้เกี่ยวกับพื้นฐานของหุ้น แต่ผมมีความรู้น้อยมากในการประเมินหุ้นพื้นฐาน ทั้งๆ ที่จบสายบัญชีมาโดยตรง ผมเลยอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ Thaivi ด้วยครับ
คำถามที่ผมสงสัย และขอคำแนะนำ
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
2. การดูงบการเงิน สำหรับผม มันคือการดูข้อมูลปัจจุบัน เราจะต้องดูงบการเงินอย่างไร ถึงจะประเมินอนาคตได้ครับ เพราะว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่า ปัจจุบันงบอาจจะดีที่สุด จากที่เคยดีอยู่แล้วมาหลายปี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอนาคตมันจะดีขึ้น หรือแย่ลง ???
3. การดูค่า p/e ผมเคยมานั่งวิเคราะห์ มันคือค่าปัจจุบันทั้ง p และ e เราจะหา e ในอนาคตได้อย่างไรครับ เคยเห็นมีคนบอกว่าให้เอาตัว g (growth) มาคำนวณด้วย แต่ผมก็สงสัยว่าตัว g นี่มันมาได้อย่างไร ถ้ามันเป็นการตั้งสมมติฐาน มันก็แค่การประเมิน ซึ่งอาจจะไม่ถูกเสมอไปก็ได้ ???
นี่คือคำถามที่ผมสงสัย และยังคิดไม่ออก อาจจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าใจการตีงบการเงินก็ได้ เลยเข้ามาขอคำแนะนำครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
หาหุ้นที่มีลักษณะ star ครับ
แล้วจะเจอ Growth stock แต่ถ้าหาด้วยวิธีลูบๆคลำๆ ไป อาจจะเจอ Ghost stock ครับ
แนบไฟล์
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 15
คำถามที่ผมสงสัย และขอคำแนะนำ
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
ต้องเรียกว่า หา หุ้น Turn around ครับ
กรณีหาหุ้น Turn around หาอ่านของพี่ pak ดูครับ
สำหรับผมคือ มองหาคนดีๆในเวลาที่ฟ้าอาจจะมีฝนพรำบ้าง แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน
หุ้นดีๆก้เหมือนคนดีๆ อาจจะมีบางทีที่ฟ้าเปลี่ยนสี แต่สุดท้าย ความแข็งแกร่งและความดี
จะชนะทุกอย่างครับ ถ้าหุ้นมันแกร่งก้จะผ่านได้ทุกอย่าง
ถ้ากิจการนั้นเปิดมา 50ปี ผมเชื่อว่า ถ้าเค้ายังครองเบอร์1 ได้ แสดงว่าอีก50ปี
เค้าก้อาจจะยังครองเบอร์1 การถือหางเบอร์ 4 เบอร์5 จึงเป็นเรื่องที่ โง่เขลาเบาปัญญา
เพราะ ความแข็งแกร่งของกิจการไม่ได้สร้างได้ในวันสองวัน ปีสองปี
1. เราจะประเมินหุ้นที่พื้นฐานเปลี่ยนแปลง จากไม่ดี เปลี่ยนมาเป็นดี เราต้องดูอะไรบ้างครับ ???
ต้องเรียกว่า หา หุ้น Turn around ครับ
กรณีหาหุ้น Turn around หาอ่านของพี่ pak ดูครับ
สำหรับผมคือ มองหาคนดีๆในเวลาที่ฟ้าอาจจะมีฝนพรำบ้าง แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน
หุ้นดีๆก้เหมือนคนดีๆ อาจจะมีบางทีที่ฟ้าเปลี่ยนสี แต่สุดท้าย ความแข็งแกร่งและความดี
จะชนะทุกอย่างครับ ถ้าหุ้นมันแกร่งก้จะผ่านได้ทุกอย่าง
ถ้ากิจการนั้นเปิดมา 50ปี ผมเชื่อว่า ถ้าเค้ายังครองเบอร์1 ได้ แสดงว่าอีก50ปี
เค้าก้อาจจะยังครองเบอร์1 การถือหางเบอร์ 4 เบอร์5 จึงเป็นเรื่องที่ โง่เขลาเบาปัญญา
เพราะ ความแข็งแกร่งของกิจการไม่ได้สร้างได้ในวันสองวัน ปีสองปี
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 39
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความรู้ในการดูพื้นฐาน และการดูหุ้นเติบโต
โพสต์ที่ 16
ผมเคยเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นเติบโตเอาไว้ คุณ bigzaa หรือผู้ที่สนใจเรื่องนี้ลองอ่านดูนะครับ
http://pongsakorne.blogspot.com/2012/08 ... stock.html
ขอบคุณครับ
http://pongsakorne.blogspot.com/2012/08 ... stock.html
ขอบคุณครับ