vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 1
vi กับ หุ้นปันผล By YOYO -Thai VI
หลายคนที่เพิ่งเข้ามาศึกษาการลงทุนแบบ VI ได้ไม่นานอาจจะคิดว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือนักลงทุนระยะยาวจริงๆแล้วคือการซื้อหุ้นที่มีปันผลดี ... ความคิดนี้ผมว่าก็มีส่วนถูกอยู่ไม่น้อย เพราะหุ้นที่ VI ส่วนใหญ่เล่นก็มักจะเป็นหุ้นที่มีปันผลจริงๆ มากบ้างน้อยบ้างคละกันไป แต่ถ้าถามว่าการซื้อหุ้นปันผลดีคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่ารึเปล่าผมก็คงต้องตอบว่าไม่ใช่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่าใจความสำคัญคือ "การซื้อหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง" ส่วนวิธีในการหามูลค่านั้นก็มีมากมายหลายวิธี และก็ไม่มีวิธีไหนที่ถูกต้อง 100% ด้วย ถ้าให้ยกตัวอย่างการวิธีวิเคราะห์ความถูกแพงของหุ้นแบบง่ายๆก็มีหลักอยู่ 3 ตัว
คือ 1. P/E 2. P/BV และ 3.Dividend Yield ถ้าวิเคราะห์แบบยากหน่อยก็คือวิธี DCF (Discount Cashflow) ซึ่งจะเห็นได้ว่าจาก 4 วิธีที่กล่าวมามีการประเมินมูลค่าที่เอาเงินปันผลเข้าไปเกี่ยวด้วยอยู่ 2 วิธีคือ P/BV และ DCF ที่ใช้ Dividend discount ดังนั้นก็ไม่แปลกที่หลายๆครั้งหุ้นที่มีปันผลดีมักจะเป็นหุ้นที่ราคาถูกไปด้วย
บางครั้ง หุ้นที่มีปันผลดีอาจจะไม่ใช่หุ้นที่มีราคาถูก
ในขณะเดียวกัน หุ้นที่มีราคาถูกก็อาจจะมีปันผลต่ำหรือไม่มีปันผลเลยด้วยซ้ำไป
หุ้นที่ปันผลดีแต่ไม่ได้เป็นหุ้นราคาถูกก็อาจจะยกตัวอย่างเช่นหุ้นที่มีกำไรพิเศษ เพียงชั่วครั้งชั่วคราวที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ หุ้นพวกนี้บางครั้งจะจ่ายเงินปันผลออกมาก้อนใหญ่ทำให้อัตราส่วนปันผลต่อราคานั้นสูงจนดึงดูดนักลงทุนได้ แต่จริงๆแล้วตัวธุรกิจอาจจะไม่ได้ดีอะไรมาก ราคาหุ้นก็ไม่ได้ถูก
ตัวอย่างที่เห็นได้ก็คือหุ้น CHUO บริษัทมีการขายบริษัทร่วมออกไปบางส่วนทำให้ได้เงินก้อนใหญ่มา บริษัทจึงจ่ายเงินปันผลออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ Yield ของหุ้นนั้นสูงจนดูเหมือนว่าเป็นหุ้นราคาถูก
หรือบริษัทอีกประเภทก็อาจจะได้แก่บริษัทที่มีบริษัทแม่ที่ถือหุ้นอยู่กำลังลำบาก ทำให้บริษัทนั้นๆ ต้องจ่ายเงินปันผลออกมาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ บางครั้งมีการจ่ายปันผลเกินกว่ากำไรที่ทำได้ซะอีก การทำเช่นนี้ก็จะทำให้ Yield นั้นเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน แต่ถามว่าหุ้นนั้นมีราคาถูกรึเปล่า ผมว่าคนจะเรื่องกัน การที่จะดูว่าหุ้นนั้นมีราคาถูกหรือแพงก็ควรจะดูว่าเงินปันผลที่จ่ายนั้นสูงแค่ไหน (Yiled สูงแค่ไหน) และพิจารณาเพิ่มไปอีกข้อว่า แล้วบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลสูงในระดับดังกล่าวได้นานแค่ไหน เป็นการจ่ายปันผลเยอะๆเพียงครั้งเดียวหรือว่าเป็นการจ่ายปันผลที่เกิดจากการดำเนินงานหลักของบริษัทแบบระยะยาวจริงๆ
ส่วนหุ้นที่มีราคาถูกจะแต่มีปันผลอยู่ในระดับที่ต่ำหรือไม่มีปันผลเลย ที่เห็นได้ชัดเจนก็อาจจะหมายถึงหุ้นที่มีการเจริญเติบโตดีทำให้ต้องการเก็บเงินสดไว้ในการขายธุรกิจของบริษัท อัตราการจ่ายปันผลของบริษัทพวกนี้เท่าที่เห็นมักจะอยู่ในระดับ 30% ของกำไร หุ้น Stanly ในอดีตประมาณ 3-5 ปีที่แล้ว ก็ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มนี้ คือบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ค่อนข้างสูง บริษัทจึงมองว่าการที่บริษัทเก็บเงินสดไว้มากขึ้นจะทำให้มูลค่าของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าการจ่ายเงินปันผลออกมา การพิจารณาหุ้นประเภทนี้จะเห็นว่าเป็นหุ้นที่มีคุณภาพดี การเติบโตสูง ถึงแม้ว่า Yield อาจจะไม่สูง แต่อาจจะเป็นหุ้นที่มีราคาถูกมากๆก็ได้เมื่อนักลงทุนยอมแลกเงินปันผลที่จะได้ในวันนี้กับการเติบโตของกำไรในอนาคต
ปกติเวลาผมตัดสินใจซื้อหุ้นซักตัวนึง ปันผลนั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจความถูกความแพงของหุ้นเลย ผมแค่ต้องการรู้ว่าธุรกิจของบริษัทนั้นจะเติบโตสูงในระดับไหน ราคาที่ผมซื้อนั้นเทียบกับผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นเป็นอย่างไร ปันผลที่ได้มานั้นถือว่าเป็นของแถมครับ ...
ปล. การลงทุนในหุ้นที่มีเงินปันผลมีข้อดีอยู่ประการหนึ่งก็คือ หุ้นประเภทนี้เวลาหุ้นลงจะลงไม่มากนัก เพราะมักจะมีนักลงทุนส่วนหนึ่งเมื่อเห็นว่า Yield นั้นเพิ่มสูงขึ้นก็จะเข้ามาซื้อพวกนี้เก็บเอาไว้รับปันผล สำหรับคนที่ลงทุนใหม่ๆยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ดีการเลือกหุ้นที่มีปันผลจะทำให้ความเสี่ยงขาลงลดลงได้บ้าง แต่ถ้าธุรกิจของหุ้นที่ซื้อมากำลังแย่ หุ้นเริ่มลง อย่าใช้เหตุผลในการไม่ยอมขายหุ้นทิ้งโดยบอกว่า "ขายไปตอนนี้ก็ขาดทุน คิดซะว่าถือไว้รับปันผล" เพราะหุ้นที่ธุรกิจขาลงนั้น ต่อให้มีปันผลยังไง ราคาหุ้นมันมักจะลงแรงกว่าปันผลที่จะได้มาเสมอ เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นหุ้นปันผลเอง ถ้าเห็นว่าธุรกิจไม่ดี ยังไงก็ต้องขาด เป็นคำตอบสุดท้าย
ส่งท้ายปีเก่า กับบทความข้อเขียนดีดี จากน้องyoyo
เป็นที่มา Sunday, February 04, 2007
http://thai-value-investor.blogspot.com/2007/02/vi.html
หลายคนที่เพิ่งเข้ามาศึกษาการลงทุนแบบ VI ได้ไม่นานอาจจะคิดว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือนักลงทุนระยะยาวจริงๆแล้วคือการซื้อหุ้นที่มีปันผลดี ... ความคิดนี้ผมว่าก็มีส่วนถูกอยู่ไม่น้อย เพราะหุ้นที่ VI ส่วนใหญ่เล่นก็มักจะเป็นหุ้นที่มีปันผลจริงๆ มากบ้างน้อยบ้างคละกันไป แต่ถ้าถามว่าการซื้อหุ้นปันผลดีคือการลงทุนแบบเน้นคุณค่ารึเปล่าผมก็คงต้องตอบว่าไม่ใช่
การลงทุนแบบเน้นคุณค่าใจความสำคัญคือ "การซื้อหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง" ส่วนวิธีในการหามูลค่านั้นก็มีมากมายหลายวิธี และก็ไม่มีวิธีไหนที่ถูกต้อง 100% ด้วย ถ้าให้ยกตัวอย่างการวิธีวิเคราะห์ความถูกแพงของหุ้นแบบง่ายๆก็มีหลักอยู่ 3 ตัว
คือ 1. P/E 2. P/BV และ 3.Dividend Yield ถ้าวิเคราะห์แบบยากหน่อยก็คือวิธี DCF (Discount Cashflow) ซึ่งจะเห็นได้ว่าจาก 4 วิธีที่กล่าวมามีการประเมินมูลค่าที่เอาเงินปันผลเข้าไปเกี่ยวด้วยอยู่ 2 วิธีคือ P/BV และ DCF ที่ใช้ Dividend discount ดังนั้นก็ไม่แปลกที่หลายๆครั้งหุ้นที่มีปันผลดีมักจะเป็นหุ้นที่ราคาถูกไปด้วย
บางครั้ง หุ้นที่มีปันผลดีอาจจะไม่ใช่หุ้นที่มีราคาถูก
ในขณะเดียวกัน หุ้นที่มีราคาถูกก็อาจจะมีปันผลต่ำหรือไม่มีปันผลเลยด้วยซ้ำไป
หุ้นที่ปันผลดีแต่ไม่ได้เป็นหุ้นราคาถูกก็อาจจะยกตัวอย่างเช่นหุ้นที่มีกำไรพิเศษ เพียงชั่วครั้งชั่วคราวที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ หุ้นพวกนี้บางครั้งจะจ่ายเงินปันผลออกมาก้อนใหญ่ทำให้อัตราส่วนปันผลต่อราคานั้นสูงจนดึงดูดนักลงทุนได้ แต่จริงๆแล้วตัวธุรกิจอาจจะไม่ได้ดีอะไรมาก ราคาหุ้นก็ไม่ได้ถูก
ตัวอย่างที่เห็นได้ก็คือหุ้น CHUO บริษัทมีการขายบริษัทร่วมออกไปบางส่วนทำให้ได้เงินก้อนใหญ่มา บริษัทจึงจ่ายเงินปันผลออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ Yield ของหุ้นนั้นสูงจนดูเหมือนว่าเป็นหุ้นราคาถูก
หรือบริษัทอีกประเภทก็อาจจะได้แก่บริษัทที่มีบริษัทแม่ที่ถือหุ้นอยู่กำลังลำบาก ทำให้บริษัทนั้นๆ ต้องจ่ายเงินปันผลออกมาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ บางครั้งมีการจ่ายปันผลเกินกว่ากำไรที่ทำได้ซะอีก การทำเช่นนี้ก็จะทำให้ Yield นั้นเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน แต่ถามว่าหุ้นนั้นมีราคาถูกรึเปล่า ผมว่าคนจะเรื่องกัน การที่จะดูว่าหุ้นนั้นมีราคาถูกหรือแพงก็ควรจะดูว่าเงินปันผลที่จ่ายนั้นสูงแค่ไหน (Yiled สูงแค่ไหน) และพิจารณาเพิ่มไปอีกข้อว่า แล้วบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลสูงในระดับดังกล่าวได้นานแค่ไหน เป็นการจ่ายปันผลเยอะๆเพียงครั้งเดียวหรือว่าเป็นการจ่ายปันผลที่เกิดจากการดำเนินงานหลักของบริษัทแบบระยะยาวจริงๆ
ส่วนหุ้นที่มีราคาถูกจะแต่มีปันผลอยู่ในระดับที่ต่ำหรือไม่มีปันผลเลย ที่เห็นได้ชัดเจนก็อาจจะหมายถึงหุ้นที่มีการเจริญเติบโตดีทำให้ต้องการเก็บเงินสดไว้ในการขายธุรกิจของบริษัท อัตราการจ่ายปันผลของบริษัทพวกนี้เท่าที่เห็นมักจะอยู่ในระดับ 30% ของกำไร หุ้น Stanly ในอดีตประมาณ 3-5 ปีที่แล้ว ก็ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มนี้ คือบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ค่อนข้างสูง บริษัทจึงมองว่าการที่บริษัทเก็บเงินสดไว้มากขึ้นจะทำให้มูลค่าของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าการจ่ายเงินปันผลออกมา การพิจารณาหุ้นประเภทนี้จะเห็นว่าเป็นหุ้นที่มีคุณภาพดี การเติบโตสูง ถึงแม้ว่า Yield อาจจะไม่สูง แต่อาจจะเป็นหุ้นที่มีราคาถูกมากๆก็ได้เมื่อนักลงทุนยอมแลกเงินปันผลที่จะได้ในวันนี้กับการเติบโตของกำไรในอนาคต
ปกติเวลาผมตัดสินใจซื้อหุ้นซักตัวนึง ปันผลนั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจความถูกความแพงของหุ้นเลย ผมแค่ต้องการรู้ว่าธุรกิจของบริษัทนั้นจะเติบโตสูงในระดับไหน ราคาที่ผมซื้อนั้นเทียบกับผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นเป็นอย่างไร ปันผลที่ได้มานั้นถือว่าเป็นของแถมครับ ...
ปล. การลงทุนในหุ้นที่มีเงินปันผลมีข้อดีอยู่ประการหนึ่งก็คือ หุ้นประเภทนี้เวลาหุ้นลงจะลงไม่มากนัก เพราะมักจะมีนักลงทุนส่วนหนึ่งเมื่อเห็นว่า Yield นั้นเพิ่มสูงขึ้นก็จะเข้ามาซื้อพวกนี้เก็บเอาไว้รับปันผล สำหรับคนที่ลงทุนใหม่ๆยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ดีการเลือกหุ้นที่มีปันผลจะทำให้ความเสี่ยงขาลงลดลงได้บ้าง แต่ถ้าธุรกิจของหุ้นที่ซื้อมากำลังแย่ หุ้นเริ่มลง อย่าใช้เหตุผลในการไม่ยอมขายหุ้นทิ้งโดยบอกว่า "ขายไปตอนนี้ก็ขาดทุน คิดซะว่าถือไว้รับปันผล" เพราะหุ้นที่ธุรกิจขาลงนั้น ต่อให้มีปันผลยังไง ราคาหุ้นมันมักจะลงแรงกว่าปันผลที่จะได้มาเสมอ เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นหุ้นปันผลเอง ถ้าเห็นว่าธุรกิจไม่ดี ยังไงก็ต้องขาด เป็นคำตอบสุดท้าย
ส่งท้ายปีเก่า กับบทความข้อเขียนดีดี จากน้องyoyo
เป็นที่มา Sunday, February 04, 2007
http://thai-value-investor.blogspot.com/2007/02/vi.html
- บูรพาไม่แพ้
- Verified User
- โพสต์: 2533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 2
ขอขอบคุณมากครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 4
เป็นที่มา Sunday, February 04, 2007
http://thai-value-investor.blogspot.com/2007/02/vi.html
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
http://thai-value-investor.blogspot.com/2007/02/vi.html
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 6
พี่โยโย่ นี่ไอดอล ผมเลยนะครับ ขอบคุณเฮียปรัชญาที่นำบทความาลงครับปรัชญา เขียน:ใช่ครับ ของเก่า มาแป่ะส่งท้ายปี2554ครับpicatos เขียน:อันนี้บทความเมื่อปี 2007 รึเปล่าครับพี่ ปรัชญา?
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 7
ยินดีด้วยครับ มีตัวอย่างข้อคิดแนวทางที่ดีในการลงทุนchukieat30 เขียน: พี่โยโย่ นี่ไอดอล ผมเลยนะครับ ขอบคุณเฮียปรัชญาที่นำบทความาลงครับ
เพื่อสู่เป้าหมายของความสำเร็จ
บทความที่เขียนโดยประสพการณ์จริงในตลาดหุ้นและการลงทุน
มีเหตุผลพิสูจน์ได้เสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 9
ชอบครับผม
http://www.ClubVI.com
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 10
เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกชมรมนี้ได้ไม่นาน จะรบกวนขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ
ถ้ามีเงินลงทุนอยู่ 1 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ต้องการผลตอบแทนที่ 5% แต่เป็นคนกลัวความเสี่ยงและต้องการรักษาเงินต้น คิดว่าควรจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี ถ้ามีหุ้นผสมในพอร์ต ควรมีสัดส่วนเท่าไหร่ ควรจะเน้นลงทุนในหุ้นปันผลหรือไม่ แล้วมีหุ้นตัวไหนที่มีแนวโน้มจะจ่ายปันผลสูงกว่า 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า (เคยมีการจ่ายปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่องมาอย่างน้อย 3-5 ปี) ในขณะที่ราคาไม่ค่อยตกบ้างหรือไม่คะ
ขอบคุณมากคะ
ถ้ามีเงินลงทุนอยู่ 1 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ต้องการผลตอบแทนที่ 5% แต่เป็นคนกลัวความเสี่ยงและต้องการรักษาเงินต้น คิดว่าควรจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี ถ้ามีหุ้นผสมในพอร์ต ควรมีสัดส่วนเท่าไหร่ ควรจะเน้นลงทุนในหุ้นปันผลหรือไม่ แล้วมีหุ้นตัวไหนที่มีแนวโน้มจะจ่ายปันผลสูงกว่า 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า (เคยมีการจ่ายปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่องมาอย่างน้อย 3-5 ปี) ในขณะที่ราคาไม่ค่อยตกบ้างหรือไม่คะ
ขอบคุณมากคะ
- The Kop 71
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 271
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 11
ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นน่าจะเรียกว่าเก็งกำไรมากกว่าครับDetermination เขียน:เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกชมรมนี้ได้ไม่นาน จะรบกวนขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ
ถ้ามีเงินลงทุนอยู่ 1 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ต้องการผลตอบแทนที่ 5% แต่เป็นคนกลัวความเสี่ยงและต้องการรักษาเงินต้น คิดว่าควรจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี
เท่าที่ถามมาผมว่าเริ่มจากการลงทุนเวลา download ebook ของคุณ Yoyo มาอ่านก่อน
ซื้อหนังสือแนวทางการลงทุน Value Investing มาศึกษา ทบทวน (คำแนะนำหนังสือที่ดีก็ตามที่ผู้เข้าอบรมคอร์สที่เต็มเร็วที่สุดในโลกต้องอ่านก่อนอบรม)
เข้าไปไล่อ่านคลังกระทู้คุณค่าให้ได้มากที่สุด
ภายในระยะเวลา 6 เดือนน่าจะมีคำตอบให้กับคำถามข้างต้นครับ
ไม่ต้องรีบขึ้นรถ มีรถออกทุกวัน (คำคมจาก โจ ลูกอีสาน)
เพราะสังคม..ประเมินค่า..ที่จนรวย
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
คนจึงสร้าง..เปลือกสวย..ไว้สวมใส่
หากสังคม..วัดค่า..ที่ภายใน
คนจะสร้าง..แต่จิตใจ..ที่ใฝ่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 12
ผมกดบวกทำไม่มันลบเนี้ย ขอโทษด้วยครับ
หลักการของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นไม่ว่าหุ้นนั้นจะเป็นหุ้นประเภทใดก็ตามควรจะได้รับการพิจารณาเหมือนๆกันในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่นักลงทุนจะจ่าย ...เครดิต อ.โจ ลูกอีสาน
-
- Verified User
- โพสต์: 2236
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 13
อ่านจากที่ถามมา แนะนำให้หาหนังสือการลงทุนมาอ่านหาความรู้เลยครับ ลองคนดูในห้องร้อยเล่มก็ได้ว่่าควรอ่านเล่มไหน ช่วงนี้ราคาหุ้นหลายตัวแพงพอสมควร เป็นเวลาที่ดีที่จะหาความรู้ครับ ผมรับรองว่ามีความรู้้ว่าพี่สาวท่านนี้จะได้ผลตอบแทนมากกว่าที่พี่หวังไว้แน่นอนครับDetermination เขียน:เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกชมรมนี้ได้ไม่นาน จะรบกวนขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ
ถ้ามีเงินลงทุนอยู่ 1 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 6 เดือน ต้องการผลตอบแทนที่ 5% แต่เป็นคนกลัวความเสี่ยงและต้องการรักษาเงินต้น คิดว่าควรจะจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี ถ้ามีหุ้นผสมในพอร์ต ควรมีสัดส่วนเท่าไหร่ ควรจะเน้นลงทุนในหุ้นปันผลหรือไม่ แล้วมีหุ้นตัวไหนที่มีแนวโน้มจะจ่ายปันผลสูงกว่า 5% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า (เคยมีการจ่ายปันผลที่ดีอย่างต่อเนื่องมาอย่างน้อย 3-5 ปี) ในขณะที่ราคาไม่ค่อยตกบ้างหรือไม่คะ
ขอบคุณมากคะ
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
- Verified User
- โพสต์: 5011
- ผู้ติดตาม: 0
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณครับ
------------------------
นิยามใหม่ทางการเงิน
http://www.thorfun.com/story/view/UNOuE67rWYRCAAcJ
------------------------
นิยามใหม่ทางการเงิน
http://www.thorfun.com/story/view/UNOuE67rWYRCAAcJ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 16
ตอนโยโย่เขียนบทความนี้ ผมเป็นแค่เมล็ดผัก
พึ่งจะถูกหย่อนลงดิน กำลังหาปลุ๋ย ให้น้ำอยู่
เมล็ดยังแห้งยังไม่มีท่าทีที่จะแตกหน่อเลย
อ่านบทความทุกบทที่โยโย่เขียน
ให้ความรู้สึกถึงเจ้าของบทความ เหมือนความยิ่งใหญ่ของต้นไม้ที่เติบโตเต็มที่
กิ่งก้านสาขามากมายดอกผลแบ่งบานสะพรั่ง ร่มเงาเย็นฉ่ำ
เอื้อเฟื้อให้ นักเดินทางที่ผ่านมาได้เก็บเกี่ยว
เอาความรู้ ผลพลอยได้ ที่ต้นไม้ต้นนี้
คอยแบ่งปันออกมา ทางปลายปากกา
ขอบคุณสำหรับความรู้ มันเป็นน้ำ สำหรับปุ๋ย ตั้งแต่วันนั้น
ให้เมล็ดผักแห้งๆอย่างผม ได้งอกเงยเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆต้นหนึงได้ในวันนี้
พึ่งจะถูกหย่อนลงดิน กำลังหาปลุ๋ย ให้น้ำอยู่
เมล็ดยังแห้งยังไม่มีท่าทีที่จะแตกหน่อเลย
อ่านบทความทุกบทที่โยโย่เขียน
ให้ความรู้สึกถึงเจ้าของบทความ เหมือนความยิ่งใหญ่ของต้นไม้ที่เติบโตเต็มที่
กิ่งก้านสาขามากมายดอกผลแบ่งบานสะพรั่ง ร่มเงาเย็นฉ่ำ
เอื้อเฟื้อให้ นักเดินทางที่ผ่านมาได้เก็บเกี่ยว
เอาความรู้ ผลพลอยได้ ที่ต้นไม้ต้นนี้
คอยแบ่งปันออกมา ทางปลายปากกา
ขอบคุณสำหรับความรู้ มันเป็นน้ำ สำหรับปุ๋ย ตั้งแต่วันนั้น
ให้เมล็ดผักแห้งๆอย่างผม ได้งอกเงยเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆต้นหนึงได้ในวันนี้
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 162
- ผู้ติดตาม: 1
Re: vi กับ หุ้นปันผล By YOYO
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ
ได้รับโจทย์นี้มาให้ลองทำ ลองมาคิดดูแล้วเห็นว่าระยะเวลาในการลงทุนนั้นสั้นแค่ 6 เดือน แต่ต้องการผลตอบแทน 5% และรับความเสี่ยงได้น้อย เลยคิดว่าค่อนข้างลำบากที่จะทำได้ค่ะ
ได้รับโจทย์นี้มาให้ลองทำ ลองมาคิดดูแล้วเห็นว่าระยะเวลาในการลงทุนนั้นสั้นแค่ 6 เดือน แต่ต้องการผลตอบแทน 5% และรับความเสี่ยงได้น้อย เลยคิดว่าค่อนข้างลำบากที่จะทำได้ค่ะ