2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)

Monday, December 24, 2012 06:56


ผ่าบทสรุป "เก็งกำไรทองคำ" ของ "โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง" ผอ.ช่อง 8 ณ อาร์เอส และ "เจ๊จง-จงใจ กิจแสวง" เจ้าของร้านหมูทอด หลังโลตัส พระราม 4 ทั้งปี 2555 เกี่ยว "กำไร" แค่ "จุ๋มจิ๋ม"
"ราคาทองคำ" ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2551-2555) จากบาทละ 12,000 บาท มาทะลุบาทละ 26,000 บาท แถมยัง มีแนวโน้มไต่ไปยืนระดับบาทละ 28,000 ในปี 2556 กลายเป็น "จุดกำเนิด" ของ "นักลงทุนหน้าใหม่" ที่นิยม "การเก็งกำไร" เป็นชีวิตจิตใจ "โด่ง-องอาจ สิงห์ลำพอง" ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและการตลาดฝ่ายภาพยนตร์และสถานีช่อง 8 บมจ.อาร์เอส (RS) และ "เจ๊จง-จงใจ กิจแสวง" เจ้าของร้านหมูทอด หลัง "เทสโก้โลตัส" สาขาพระราม 4 เป็น 2 คน ที่ "หลงใหล" สีทองสุกใสของทองคำยิ่งนัก
"โด่ง-องอาจ" ในวัย 41 ปี เริ่มรักการออมเงิน มาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 เขาเคยรับจ้างคัดรายชื่อคนใช้โทรศัพท์ ทั่วประเทศไทยด้วยลายมือ ได้เงินมาหลักหมื่นบาท ก็นำไปให้แม่ปล่อยเงินกู้แม่ค้าในตลาด ปล่อยเงินกู้นาน 4-5 ปี ก็มีเงินเก็บหลายแสนบาท เขา ต่อยอดเงินด้วยการนำไปซื้อที่ดิน 1 ไร่ ติดถนนจังหวัดนครนายก ราคาแสนกว่าบาท จากนั้นก็ซื้อที่ดินเพิ่มเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาลงทุนคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า ก่อนจะหันมา "เก็งกำไรทองคำ"
เมื่อปลายปี 2554 เขาใช้เงิน 2.5 ล้านบาท ซื้อทองคำ 100 บาท ราคาบาทละ 23,650 บาท และขายบางส่วนตอนบาทละ 25,000 บาท ได้กำไรมาประมาณ 5% กลยุทธ์การลงทุนเน้นเล่นเป็นช็อตๆ ทุกครั้งที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นบาทละ 50-100 บาท เขาจะขายออก เล่นแบบนั้นได้กำไรวันละ 10,000 บาท
"โด่ง" สายตรงเล่าให้ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek แบบ "เซ็งๆ" ว่า ผลตอบแทนจาก การลงทุนทองคำในปี 2555 ไม่เข้าเป้าหมายเลย (ถอนหายใจเฮือกใหญ่) ตอนแรกๆ ผม "ปักธง" อยากได้ผลตอบแทนประมาณ 40-50% แต่สุดท้ายทำได้เพียง 10% เท่านั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ (หัวเราะ)
เมื่อช่วงต้นปี 2555 ได้ "ยกพอร์ตทองคำ" ให้คุณแม่ช่วยดูแลชั่วคราว เพราะกำลังยุ่งกับการบริหารงานในช่อง 8 ซึ่งวิธีการตัดสินใจซื้อ-ขาย ของคุณแม่ผิดพลาดมาก ท่านมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ผมมองเป็นการทำธุรกิจ ฉะนั้น คุณแม่ย่อมอยากได้กำไรมากๆ แต่ผมขอแค่ ได้กำไรนิดหน่อย ก็พร้อมจะปล่อยของออกแล้ว
ต้นปี 2555 มี "ทองคำ" ประมาณ 400 บาท ช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา บอกคุณแม่ให้ขายทองคำออกทั้งหมด ถ้าขายตอนนั้นได้กำไรเข้ากระเป๋าเหนาะๆ 40-50% แต่ท่านขายเพียง 200 บาท ทำให้ได้กำไรเพียง 10% คุณแม่ "กั๊ก" ทองคำไว้อีก 200 บาท กะจะขายทำกำไรวันหลัง เพราะคิดว่าราคา จะขึ้นอีก สุดท้ายราคาปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ช่วงนั้น พูดไม่ออกเลย เพราะกว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นมาต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน ผมตั้งใจจะขายทั้งหมดในช่วงวันตรุษจีน (เดือน ก.พ.2556) ได้กำไร 20% ก็เอาแล้ว (หัวเราะ)
ถามถึงกลยุทธ์การลงทุนในปี 2556 "โด่ง" บอกว่า ปีหน้าผมจะดึงพอร์ตลงทุนทั้งหมดกลับมาดูแลเองเหมือนเดิม และจะลดตำแหน่งคุณแม่จากคนบริหารทองคำมาเป็นโบรกเกอร์ (หัวเราะ) เรียกง่ายๆ ว่า มีหน้าที่ไปซื้อขายทองคำเท่านั้น ส่วนตัวมองว่าปี 2556 ราคาทองคงปรับตัวขึ้นไม่มาก แต่คงไม่เหมือนต้นปีที่ผ่านมาที่แทบไม่มีที่ให้ขาเกี่ยว กว่าจะได้กำไร "เหนื่อยแทบตาย"เขาเงียบคิด ก่อนพูดต่อว่า หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 5% จะขายทำกำไรทันที และ ถ้าราคาปรับตัวลดลง 20% ก็จะซื้อทันทีเช่นกัน ถามว่าทำไมตัวเลขซื้อ และขายไม่สมดุลกัน ทุกครั้ง ที่ขายเราจะขาดทุนบาทละ100 ฉะนั้นต้องทำให้ช่องว่างการขายห่างๆ แบบนี้ถูกต้องแล้ว
"วิธีการลงทุนอย่างหนึ่งที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ทุกครั้งที่ลงทุนเราต้องใช้ "เงินเย็น" เท่านั้น ห้ามกู้เงินมาซื้อเด็ดขาด ถ้าคุณทำแบบนั้นไม่มีทาง "กำไร" แน่นอน ผมเห็นจากคนใกล้ตัวแล้ว เพราะคุณต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ย วันหนึ่งหันกลับมาดูอีกทีกำไรฉันไหนเนี่ย (หัวเราะ)"
"เซียนเก็งกำไร" ยังเล่าถึงกลยุทธ์การลงทุนที่ดินให้ฟังว่า ในปี 2556 ตั้งใจจะขายที่ดินย่านคลอง 16 และ 33 รังสิต-นครนายก ที่มีอยู่ประมาณ 10 ไร่ ผมซื้อมาเมื่อ 10 ปีแล้ว ตอนนั้นราคาไร่ละ 5 ล้านบาท หากขายช่วงนี้คงได้ไร่ละประมาณ 8 ล้านบาท ตั้งใจจะนำเงินสดไปซื้อเก็งกำไรคอนโดมิเนียม ย่านรัชดา ประมาณ 3 ยูนิต แถวนั้นความต้องการสูงมาก คาดว่าจะได้กำไรจากการลงทุนประมาณ 20%
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2556 ยังมีแผนจะขายที่ดินประมาณ 10 ไร่ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะขายได้ไร่ละประมาณ 8 ล้านบาท จากราคาต้นทุน 5 ล้านบาท ล่าสุดไปซื้อที่ดิน 20 ตารางวา เพื่อทำเป็นทางออก ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ที่ดินผืนนั้น ตอนนี้ก็มีคนมีติดต่อของซื้อหลายเจ้าแล้ว
เมื่อก่อนตอนอายุน้อยๆเคยคิดว่าซื้อคอนโดมิเนียมมาปล่อยดีที่สุด เพราะมีเงินเข้ามาทุกเดือน แต่เมื่อโตขึ้นทำให้รู้ว่าการมีเงินสดอยู่ในมือถือเป็นเรื่องดีที่สุด เราคิดจะลงทุนอะไรก็สามารถทำได้เลย
ทุกวันนี้ผมมีคอนโดมิเนียมให้เช่าเหลือเพียง 1 แห่ง คือ "แฮปปี้ คอนโดมิเนียม" แถวรัชดา 18 จำนวน 6 ยูนิต ราคาเช่าเฉลี่ย 8,000 บาทต่อเดือน ซื้อมาราคา 1 ล้านบาทต่อยูนิต ถามว่าจะซื้อคอนโดมิเนียมปล่อยเช่าอีกหรือไม่ คงไม่ซื้อแล้วขอเปลี่ยนเป็นซื้อมาแล้วขาย "เก็งกำไร" ดีกว่า ได้กำไรมากกว่าหลายเท่าตัว
"การลงทุนทองคำ และที่ดินมีข้อดีแตกต่าง กันไป "จุดเด่น" ของการลงทุนทองคำ คือ เราสามารถผันเป็นเงินสดได้ทันทีหากต้องการใช้เงินเร่งด่วน ส่วนข้อดีของการลงทุนที่ดิน คือ สามารถกำหนดราคาขายได้เอง แต่ทองคำต้องขายตามราคาตลาดโลกเท่านั้น"
ด้าน "เจ๊จง-จงใจ กิจแสวง" เจ้าของฉายา "หมูทอดเศรษฐี" เจ้าของร้านหมูทอดขายดี ตั้งอยู่หลัง "เทสโก้โลตัส" สาขาพระราม 4 ที่เพิ่งหันมา "เก็งกำไรทอง" เมื่อ 3-4 ปีก่อน เธอเคยซื้อทองคำมากที่สุด 80 บาท และยังเคยได้กำไรมากสุด 500 บาท ต่อทองคำ 1 บาทมาแล้ว
"ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2555 ราคาทองคำดูท่าทางจะไม่ขึ้น ทำให้ตัดสินใจขายออกไปก่อน ถ้าจำไม่ผิดได้กำไรนิดหน่อย จากนั้นก็ไม่ได้ซื้ออีก เพราะมีเหตุต้องนำเงินไปใช้เรื่องอื่น แต่ก็จะ คอยบอกเพื่อนๆ หรือคนรู้จักเกี่ยวกับสถานการณ์ทองคำ" เจ๊จง เล่าให้ "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" ฟัง
ตอนแรกเจ๊ตัดสินใจจะขายทองคำ แล้ว ค่อยกลับไปซื้อใหม่ แต่บังเอิญมีเรื่องส่วนตัว ที่ต้องจัดการ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาไปนั่งดูกราฟทองคำเหมือนเคย อีกเหตุผลที่เจ๊ยังไม่อยาก ลงทุน มีช่วงหนึ่งกรมสรรพากรโทรศัพท์มาเรียกเก็บ ภาษีย้อนหลังกับเจ๊ เขาถือหนังสือพิมพ์มา ยืนยันเลย (หัวเราะ) เจ๊ก็จ่ายย้อนหลังไปหลายหมื่นบาท แต่ไม่เป็นไรหรอก เสียเงินแล้วเดี๋ยวดวงจะ "เฮง"
"เจ๊จง" ทิ้งท้ายว่า แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้ซื้อทองคำแท่งเก็บไว้ แต่ก็ได้ทยอยซื้อทองรูปพรรณตอนราคาบาทละ 24,000 บาท เผื่อขายทำกำไร ได้ในอนาคต เจ๊ตั้งใจว่าปี 2556 จะกลับมาลงทุนในทองคำอีกครั้ง หากมีเงินก้อน เจ๊ "ชอบสนุกดี" แถมได้ความรู้อีกต่างหาก
ส่วนเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น อย่างที่ เคยบอก "ตัน ภาสกรนที" เจ้าของ "อิชิตัน กรุ๊ป" แกห้ามไว้ กลัวเจ๊จะขาดทุนหนักไม่อยากมา นั่งปลอบ (หัวเราะ)

บรรยายใต้ภาพ
องอาจ สิงห์ลาพอง
เจ๊จง-จงใจ กิจแสวง--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
วรันศ์ บัฟเฟต
Verified User
โพสต์: 1679
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อะไรครับ โทษแม่ตัวเอง ไหวไหมเนี่ย
value trap
รูปภาพ
harikung
Verified User
โพสต์: 2236
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

แค่หวังตอบแทนจากทองคำ40-50%ก็ไม่ใช่แล้วมั้งเฮีย นี่โทษบุพการีอีก ได้10%ก็บุญแล้วความคิดแบบนี้
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
harikung
Verified User
โพสต์: 2236
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ว่าไปทำไมกรุงเทพธุรกิจไม่ไปสัมภาษณ์คนที่เค้าลงทุนมืออาชีพกว่านี้ เท่าที่อ่านนี่มันมือสมัครเล่นชัดๆ คนอ่านได้ความรู้อะไรนอกจากรู้ว่าคนขายหมูทอดยังเล่นทอง
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
kasam
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 313
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้า US ฟื้น..ทองจะไม่ไปต่อครับมันจะลง
ทองจะขึ้นเมื่อสินทรัพย์อื่นไม่ปลอดภัย
tigerroad197
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 6

โพสต์

harikung เขียน:ว่าไปทำไมกรุงเทพธุรกิจไม่ไปสัมภาษณ์คนที่เค้าลงทุนมืออาชีพกว่านี้ เท่าที่อ่านนี่มันมือสมัครเล่นชัดๆ คนอ่านได้ความรู้อะไรนอกจากรู้ว่าคนขายหมูทอดยังเล่นทอง
เห็นด้วยกับ คุณ harikung ครับ ว่า กรุงเทพธุรกิจ ไปสัมภาษณ์มาลงทำไม เหมือนกับว่า ไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว

การซื้อทองคำแท่งนั้น ( ไม่ใช่ Gold Future นะครับ ) น่าจะมองว่าเป็นการออมระยะยาวมากกว่าครับ

ส่วนการซื้อ Gold Future นั้น จะว่าไปก็คล้ายกับ การพนัน แทงสูง แทงต่ำ ซะมากกว่าครับ เพราะไม่มีปัจจัยพื้นฐาน มาช่วยในการตัดสินใจว่า อนาคตทองจะขึ้น หรือทองจะลงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 7

โพสต์

...
"วิธีการลงทุนอย่างหนึ่งที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ทุกครั้งที่ลงทุนเราต้องใช้ "เงินเย็น" เท่านั้น ห้ามกู้เงินมาซื้อเด็ดขาด ถ้าคุณทำแบบนั้นไม่มีทาง "กำไร" แน่นอน ผมเห็นจากคนใกล้ตัวแล้ว เพราะคุณต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ย วันหนึ่งหันกลับมาดูอีกทีกำไรฉันไหนเนี่ย (หัวเราะ)"
...
เงินแม่ = เงินเย็น ? :?
Vi IMrovised
AleAle
Verified User
โพสต์: 2141
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 8

โพสต์

pakapong_u เขียน: กลยุทธ์การลงทุนเน้นเล่นเป็นช็อตๆ ทุกครั้งที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นบาทละ 50-100 บาท เขาจะขายออก เล่นแบบนั้นได้กำไรวันละ 10,000 บาท
เมื่อช่วงต้นปี 2555 ได้ "ยกพอร์ตทองคำ" ให้คุณแม่ช่วยดูแลชั่วคราว เพราะกำลังยุ่งกับการบริหารงานในช่อง 8 ซึ่งวิธีการตัดสินใจซื้อ-ขาย ของคุณแม่ผิดพลาดมาก ท่านมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ผมมองเป็นการทำธุรกิจ ฉะนั้น คุณแม่ย่อมอยากได้กำไรมากๆ แต่ผมขอแค่ ได้กำไรนิดหน่อย ก็พร้อมจะปล่อยของออกแล้ว
อ่านแล้วงง ว่าตกลงผมเก็งกำไรระยะสั้น หรือผมมองเป็นการทำธุรกิจ
แล้วตกลงผมกับคุณแม่เนี่ย ใครเก็งกำไรระยะสั้นกว่ากันครับเนี่ย :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
simplelife
Verified User
โพสต์: 756
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 9

โพสต์

AleAle เขียน:
pakapong_u เขียน: กลยุทธ์การลงทุนเน้นเล่นเป็นช็อตๆ ทุกครั้งที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นบาทละ 50-100 บาท เขาจะขายออก เล่นแบบนั้นได้กำไรวันละ 10,000 บาท
เมื่อช่วงต้นปี 2555 ได้ "ยกพอร์ตทองคำ" ให้คุณแม่ช่วยดูแลชั่วคราว เพราะกำลังยุ่งกับการบริหารงานในช่อง 8 ซึ่งวิธีการตัดสินใจซื้อ-ขาย ของคุณแม่ผิดพลาดมาก ท่านมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ผมมองเป็นการทำธุรกิจ ฉะนั้น คุณแม่ย่อมอยากได้กำไรมากๆ แต่ผมขอแค่ ได้กำไรนิดหน่อย ก็พร้อมจะปล่อยของออกแล้ว
อ่านแล้วงง ว่าตกลงผมเก็งกำไรระยะสั้น หรือผมมองเป็นการทำธุรกิจ
แล้วตกลงผมกับคุณแม่เนี่ย ใครเก็งกำไรระยะสั้นกว่ากันครับเนี่ย :roll:
ผมไม่เข้าใจมากกว่า ว่า"ลงทุนทอง" มันคำนวณยังไงให้เป็น"การทำธุรกิจ"ได้

ทองมันไม่มีตัวเลข ผลประกอบการอะไรให้คำนวณได้ซักอย่าง การซื้อ/ขายทองสำหรับผมแทบจะเป็น classic case ของการ speculation เลยครับ ซื้อเพราะลงมาแล้วเราคิดว่าจะขึ้น ขายเพราะราคาขึ้นมาแล้วเราคิดว่าจะลง

ไม่ได้ต่างอะไรกับ sixth-sense investor ของพวกซื้อ/ขายหุ้นเลย
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 10

โพสต์

simplelife เขียน: ผมไม่เข้าใจมากกว่า ว่า"ลงทุนทอง" มันคำนวณยังไงให้เป็น"การทำธุรกิจ"ได้

ทองมันไม่มีตัวเลข ผลประกอบการอะไรให้คำนวณได้ซักอย่าง การซื้อ/ขายทองสำหรับผมแทบจะเป็น classic case ของการ speculation เลยครับ ซื้อเพราะลงมาแล้วเราคิดว่าจะขึ้น ขายเพราะราคาขึ้นมาแล้วเราคิดว่าจะลง

ไม่ได้ต่างอะไรกับ sixth-sense investor ของพวกซื้อ/ขายหุ้นเลย
การลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองนั้น หลายๆกรณีก็ไม่ใช่การเก็งกำไรครับ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการลงทุนที่สร้างกำไร วิธีการวิเคราะห์พื้นฐานพวกนี้จะไม่เหมือนวิเคราะห์บริษัท เพราะทองไม่ใช่ธุรกิจ เวลาพิจารณาการลงทุนเรามักจะพิจารณาเรื่องค่าเงิน และกระแสเงินของโลก

เช่น การที่แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินเยน ค่าเงินยูโร กำลังจะด้อยค่าลง ส่งที่นักลงทุนประเทศเหล่านั้นสามารถทำเพื่อไม่ให้ทุนของตัวเองด้วยค่าลงได้ ก็คือการนำเงินไปลงทุนในทองคำ ดังนั้นราคาทองคำก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลนั้นๆ

แต่การลงทุนระดับนี้ ผมเห็นว่านักลงทุนรายย่อยเสียเปรียบนักลงทุนรายใหญ่มาก เมื่อลงทุนในหุ้นนักลงทุนรายย่อยจะได้เปรียบในการซื้อขายหุ้นที่มูลค่าตลาดหรือฟรีโฟลทต่ำ แต่ทองคำนั้นไม่มีข้อจำกัดตรงนี้
Vi IMrovised
ภาพประจำตัวสมาชิก
airazoc
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 904
ผู้ติดตาม: 1

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ซื้อทองแล้วขายได้กำไร เสียภาษีด้วยเหรอเนี่ย
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
Radio
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1339
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เสียภาษีครับ ถ้าซื้อขายทองแท่งบ่อยๆจนสรรพกรจับผิดสังเกตุได้
แต่ทองรูปพรรณไม่เสียภาษี
kasam
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 313
ผู้ติดตาม: 0

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 13

โพสต์

กำไรแล้วไม่ควรออกรายการ TV สรรพากรท่านตามเก็บเรียบครับ
ร้านหมูทอดก็น่าจะโดนประเมินภาษีใหม่ด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
airazoc
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 904
ผู้ติดตาม: 1

Re: 2 นักเก็งกำไรทองคำ'เซ็ง!'ผลตอบแทนวืด

โพสต์ที่ 14

โพสต์

Radio เขียน:เสียภาษีครับ ถ้าซื้อขายทองแท่งบ่อยๆจนสรรพกรจับผิดสังเกตุได้
แต่ทองรูปพรรณไม่เสียภาษี
อ๋า ... ความรู้ใหม่จริงๆ เพิ่งทราบว่า เก็งกำไรทองคำแท่ง เสียภาษี ขอบคุณมากครับ
จะลองไปศึกษาเพิ่มเติมดูว่าอะไรเสียเท่าไหร่ยังไงบ้างครับ :oops:
"In life and business, there are two cardinal sins ... The first is to act precipitously without thought, and the second is to not act at all.” – Carl Icahn
โพสต์โพสต์