TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 1
:idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea:
ขอเปิดประเด็นโต้วาทีแสดงความคิดเห็น
ในหัวข้อ
"TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศสำหรับการลงทุนแนว VI"
เสนอความคิดเห็นกันได้เต็มที่นะครับ
ถือเป็นการระดมสมอง เพื่อให้เกิดการต่อยอดความคิด
ใครเห็นด้วยกับหัวข้อกระทู้ หรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
ว่ากันได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจใคร
:idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea:
ขอเปิดประเด็นโต้วาทีแสดงความคิดเห็น
ในหัวข้อ
"TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศสำหรับการลงทุนแนว VI"
เสนอความคิดเห็นกันได้เต็มที่นะครับ
ถือเป็นการระดมสมอง เพื่อให้เกิดการต่อยอดความคิด
ใครเห็นด้วยกับหัวข้อกระทู้ หรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
ว่ากันได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจใคร
:idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea:
- ROGER
- Verified User
- โพสต์: 609
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 2
อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน รู้แต่ว่านักลงทุนในตลาดนี้ ต้องผ่านการอบรมก่อนจึงจะสามารถเปิดพอร์ตซื้อขายได้ ผมได้โอกาสจะโบรกเกอร์ส่งชื่อเข้าร่วมอบรมในอีก 2อาทิตย์หน้าครับ ใครอยากเปิดพอร์ตลองไถที่นั่งจะโบรกเกอร์ของท่านที่ใช้บริการอยู่
- ROGER
- Verified User
- โพสต์: 609
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 4
ได้เรื่องไงมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
ในเมืองไทยที่ผมเห็นการเทรดฟิวเจอร์จะมีของเครือ ซีพี ที่เทรดพวกคอมมอดิตี้ โดยส่งคำสั่งให้เอเจนต์ที่สิงคโปร์ ส่งคำสั่งไปที่ COBT แต่เป็นการเทรดเพื่อ headging จริงๆๆ
รายย่อยอย่างเราๆๆค่อนข้างเสียเปรียบมากในตลาดฟิวเจอร์นะ ผมว่า
ในเมืองไทยที่ผมเห็นการเทรดฟิวเจอร์จะมีของเครือ ซีพี ที่เทรดพวกคอมมอดิตี้ โดยส่งคำสั่งให้เอเจนต์ที่สิงคโปร์ ส่งคำสั่งไปที่ COBT แต่เป็นการเทรดเพื่อ headging จริงๆๆ
รายย่อยอย่างเราๆๆค่อนข้างเสียเปรียบมากในตลาดฟิวเจอร์นะ ผมว่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 5
สำหรับชาว VI ที่หุ้นที่ถือมักเคลื่อนไหวเป็นอิสระจาก SET นั้น ผมว่าการจะใช้ Futures ลดความเสี่ยงคงจะยากพอสมควรครับ เพราะไม่รู้ว่าจะเล่นป้องกัน SET ขึ้นหรือลงดี แต่ถ้าเป็นหุ้นที่เคลื่อนไหวตามตลาดหรือสวนตลาดชัดเจนคงจะสามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงได้บ้างครับ
It's earnings that count
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 7
สำหรับนักลงทุนแบบ VI ผมยังคิดประโยชน์ไม่ออก แต่สำหรับ arbitraguer มีครับ
ปกติเวลาคุณซื้อ LTF คุณจะได้ภาษีคืน แต่ข้อเสียก็คือเงินกองทุนของคุณต้องรับความผันผวนของตลาดหุ้นเอาไว้ด้วย
ดังนั้นถ้าคุณต้องการจะได้ภาษีคืนอย่างเดียวโดยไม่ต้องรับความผันผวนของตลาดหุ้นเลย คุณก็ซื้อ LTF ที่เป็น SET50 Index และ short SET 50 futures พร้อมกัน
นั่นเท่ากับว่า คุณได้ภาษีคืนมาเฉยๆ โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงใดๆ เลย เพราะผลตอบแทนของกองทุน SET50 LTF ของคุณจะหักล้างกับผลตอบแทนของ SET50 futures พอดี :D
(แต่ในความเป็นจริงต้องดูเหมือนกันว่า transaction cost กับ risk free rate ของเงินต้น จะคุ้มกับภาษีคืนที่ได้มาหรือไม่ด้วย)
ปกติเวลาคุณซื้อ LTF คุณจะได้ภาษีคืน แต่ข้อเสียก็คือเงินกองทุนของคุณต้องรับความผันผวนของตลาดหุ้นเอาไว้ด้วย
ดังนั้นถ้าคุณต้องการจะได้ภาษีคืนอย่างเดียวโดยไม่ต้องรับความผันผวนของตลาดหุ้นเลย คุณก็ซื้อ LTF ที่เป็น SET50 Index และ short SET 50 futures พร้อมกัน
นั่นเท่ากับว่า คุณได้ภาษีคืนมาเฉยๆ โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงใดๆ เลย เพราะผลตอบแทนของกองทุน SET50 LTF ของคุณจะหักล้างกับผลตอบแทนของ SET50 futures พอดี :D
(แต่ในความเป็นจริงต้องดูเหมือนกันว่า transaction cost กับ risk free rate ของเงินต้น จะคุ้มกับภาษีคืนที่ได้มาหรือไม่ด้วย)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 8
ถ้านับเฉพาะ product ตัวแรกของ TFEX นั่นก็คือ SET50 Future นะครับ
ไม่เห็นด้วยครับ
เหตุผล
หากการเลือกหุ้นของ VI ประกอบไปด้วย
1. การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)
- การวิเคราะห์งบการเงิน
- การดูค่า Ratio ต่างๆ เช่น P/E, P/BV, Dividend Yield
- etc.
เพื่อหาบริษัทที่ถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง
2. การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis)
- โปร่งใส ผู้บริหารดี
- Five Forces ของ Potter
(Potential Entrants, Suppliers, Industry Competitors, Substitute Products/Services, Buyer)
- SWOT (Strenght, Weakness, Opportunity, Threat)
- etc.
เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันในอนาคต และการเติบโตที่ต่อเนื่อง
หรือสรุปว่า VI มักจะมองหาของถูกแต่ดี หรือของดีมากๆ แต่ราคาปานกลางๆ ไม่แพงนัก (ขึ้นอยู่กับ margin of safety ของนักลงทุนแต่ละท่าน)
ทีนี้ลองมาดู SET50 Future มั่ง
- การที่จะวิเคราะห์กลุ่มบริษัทที่ประกอบกันเป็น SET50 ว่าถูกหรือแพง ทำได้ยากมาก
- การที่บริษัทใน SET50 จะมีข้อมูลเชิงคุณภาพที่ดีทั้งหมดก็เป็นไปได้ยากมาก
หมายความว่าหากเราซื้อ SET50 เราต้องซื้อทั้งบริษัทที่ทั้งถูกและแพง ทั้งดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป ซึ่งถ้าเรารู้ว่าบริษัทแพงหรือไม่ดี ไม่เข้าคุณสมบัติ Value Stock เราจะไปซื้อทำไม?
มองในแง่ การถัวความเสี่ยง VI ก็คิดแล้วคิดอีกหลายตลบกว่าจะซื้อหุ้น นั่นหมายความว่า VI เชื่อว่าหุ้นที่เขาซื้อนั้น ไม่เสี่ยง หรือ เสี่ยงน้อยมาก หากถือลงทุนระยะยาว (ถือแล้วสบายใจ)
ดังนั้นประเด็นการซื้อ SET50 ในการ Hedging ก็ไม่จำเป็น
ในมุมมองผม ตลาดอนุพันธ์ไม่ใช่ตลาดของชาว VI พันธุ์แท้ ครับ ย้ำว่า พันธุ์แท้นะครับ
ไม่เห็นด้วยครับ
เหตุผล
หากการเลือกหุ้นของ VI ประกอบไปด้วย
1. การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)
- การวิเคราะห์งบการเงิน
- การดูค่า Ratio ต่างๆ เช่น P/E, P/BV, Dividend Yield
- etc.
เพื่อหาบริษัทที่ถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง
2. การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (Qualitative Analysis)
- โปร่งใส ผู้บริหารดี
- Five Forces ของ Potter
(Potential Entrants, Suppliers, Industry Competitors, Substitute Products/Services, Buyer)
- SWOT (Strenght, Weakness, Opportunity, Threat)
- etc.
เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันในอนาคต และการเติบโตที่ต่อเนื่อง
หรือสรุปว่า VI มักจะมองหาของถูกแต่ดี หรือของดีมากๆ แต่ราคาปานกลางๆ ไม่แพงนัก (ขึ้นอยู่กับ margin of safety ของนักลงทุนแต่ละท่าน)
ทีนี้ลองมาดู SET50 Future มั่ง
- การที่จะวิเคราะห์กลุ่มบริษัทที่ประกอบกันเป็น SET50 ว่าถูกหรือแพง ทำได้ยากมาก
- การที่บริษัทใน SET50 จะมีข้อมูลเชิงคุณภาพที่ดีทั้งหมดก็เป็นไปได้ยากมาก
หมายความว่าหากเราซื้อ SET50 เราต้องซื้อทั้งบริษัทที่ทั้งถูกและแพง ทั้งดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป ซึ่งถ้าเรารู้ว่าบริษัทแพงหรือไม่ดี ไม่เข้าคุณสมบัติ Value Stock เราจะไปซื้อทำไม?
มองในแง่ การถัวความเสี่ยง VI ก็คิดแล้วคิดอีกหลายตลบกว่าจะซื้อหุ้น นั่นหมายความว่า VI เชื่อว่าหุ้นที่เขาซื้อนั้น ไม่เสี่ยง หรือ เสี่ยงน้อยมาก หากถือลงทุนระยะยาว (ถือแล้วสบายใจ)
ดังนั้นประเด็นการซื้อ SET50 ในการ Hedging ก็ไม่จำเป็น
ในมุมมองผม ตลาดอนุพันธ์ไม่ใช่ตลาดของชาว VI พันธุ์แท้ ครับ ย้ำว่า พันธุ์แท้นะครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 9
ผมฟังอจ.นิเวศน์ให้สัมภาษณ์
ว่าviใช้tfexก็ใช้ในแง่ทำให้ถือหุ้นได้นานขึ้น
ไม่ต้องไปคอยดูตลาดเรื่อยๆ
เช่น
ถือหุ้นไว้ตัวนึง
พอมีข่าวไม่ดี บางคนอาจขายหุ้นที่ถือทิ้ง
แต่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้น
ก็กลับมาซื้อราคาเดิมไม่ได้แล้ว
ถ้าใช้tfexก็ถือหุ้นไว้เหมือนเดิม
แล้วขายในตลาดtfexแทน
ถ้าใช้แง่อื่นก็เก็งกำไรกันระเบิด
ว่าviใช้tfexก็ใช้ในแง่ทำให้ถือหุ้นได้นานขึ้น
ไม่ต้องไปคอยดูตลาดเรื่อยๆ
เช่น
ถือหุ้นไว้ตัวนึง
พอมีข่าวไม่ดี บางคนอาจขายหุ้นที่ถือทิ้ง
แต่ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้น
ก็กลับมาซื้อราคาเดิมไม่ได้แล้ว
ถ้าใช้tfexก็ถือหุ้นไว้เหมือนเดิม
แล้วขายในตลาดtfexแทน
ถ้าใช้แง่อื่นก็เก็งกำไรกันระเบิด
หนักแน่นในแนวทางviพันธ์แท้
- เด็กเลี้ยงห่าน
- Verified User
- โพสต์: 74
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 10
ผมไม่เห็นด้วยครับ
เพราะมันดูยุ่งยากอะครับ เพราะทุกวันนี้กว่าจะวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นได้ตัวนึงนี่เล่นเอาเหงื่อตกไปหลายปี๊บครับ :oops: อาศัยครูพักลักจำจากเวปนี้อยู่บ่อยๆครับ
ถ้าจะต้องมานั่งดูว่าแนวโน้ม SET จะรุ่งหรือจะร่วงนี่คงไม่ต้องวิเคราะห์พื้นฐานแล้วอะครับ
กล. (กระทู้ลงท้าย)
ผมไม่มีดวงด้านปั่นแปะอีกตะหาก เลยไม่อยากเสี่ยงกับพอร์ตที่มีอยู่น้อยนิดอะ
เพราะมันดูยุ่งยากอะครับ เพราะทุกวันนี้กว่าจะวิเคราะห์พื้นฐานหุ้นได้ตัวนึงนี่เล่นเอาเหงื่อตกไปหลายปี๊บครับ :oops: อาศัยครูพักลักจำจากเวปนี้อยู่บ่อยๆครับ
ถ้าจะต้องมานั่งดูว่าแนวโน้ม SET จะรุ่งหรือจะร่วงนี่คงไม่ต้องวิเคราะห์พื้นฐานแล้วอะครับ
กล. (กระทู้ลงท้าย)
ผมไม่มีดวงด้านปั่นแปะอีกตะหาก เลยไม่อยากเสี่ยงกับพอร์ตที่มีอยู่น้อยนิดอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 12
ถ้าเรามองเฉพาะเป้าหมายซึ่งอยู่ที่การทำกำไรจากการเอาเงินมาซื้อหุ้นไม่ว่าจะใช้คำว่า ลงทุนหรือเก็งกำไร แล้วทั้งวิธีการพิจารณาจากงบการเงินและการพิจารณาจากค่าทางสถิติผ่านทางกราฟหรือตัวแปรทางสถิติต่าง ๆ ต่างก็มีเหตุผล เปรียบได้เหมือนกับ classical physics กับ modern physics ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
Re: TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศในการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 13
ลองอ่านบทความที่คุณคัดท้ายนำมาโพสต์:CK เขียน:...............................................................................
...................................................................................................
"TFEX คือเครื่องมือชั้นเลิศสำหรับการลงทุนแนว VI"
เสนอความคิดเห็นกันได้เต็มที่นะครับ
ถือเป็นการระดมสมอง เพื่อให้เกิดการต่อยอดความคิด
ใครเห็นด้วยกับหัวข้อกระทู้ หรือไม่เห็นด้วยอย่างไร
ว่ากันได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจใคร
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=16026
ผมเห็นว่าเรื่องพวกนี้เป็นตัวการทำให้เกิด friction cost อย่างที่ท่าน Buffett พูดไว้นั่นแหละ สุดท้ายผู้ลงทุนต้องเสียค่าเบี้ยใบ้รายทางเยอะแยะไปหมด เท่ากับเป็นตัวการทำให้ขาดทุนกำไร(Cut gains) เห็นท่าน Buffett ประเมินออกมาแล้วแทนที่จะได้ gain 100% กลับต้องไปเสีย 20% เหลือเข้ากระเป๋า 80% เพราะบรรดา ผจก โบรกเกอร์ ที่ปรึกษา ฯลฯ เก็บส่วนแบ่งดังกล่าวไป ฉิบ
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain