ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4254
ผู้ติดตาม: 1

ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

โพสต์ที่ 1

โพสต์

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ
วันที่ 29 มกราคม 2556 03:30
เงินวอนอ่อนในรอบ16เดือน ผวาสงครามค่าเงิน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เงินวอนอ่อนค่าสุดในรอบ 16 เดือน ต่างชาติถล่มขายหุ้น นักวิเคราะห์ผวาสงครามค่าเงิน

วานนี้ (28 ม.ค.) เงินวอน เกาหลีใต้ ร่วงลง 1.7% มาอยู่ที่ 1,092.63 วอนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และถือเป็นการอ่อนค่ารายวันครั้งใหญ่สุด นับแต่วันที่ 26 กันยายน 2544 เป็นต้นมา หลังมีรายงานว่า นักลงทุนต่างชาติพากันเทขายหุ้นที่ถืออยู่ในดัชนีคอสปี ของเกาหลีใต้ครั้งใหญ่สุดในรอบ 16 เดือน

ขณะที่นักวิเคราะห์ค่าเงิน แสดงความเห็นว่า การอ่อนค่าอย่างหนักของสกุลเงินเอเชีย เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการเทขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ การแข็งค่าขึ้นของเงินยูโรเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และความวิตกมในเรื่องที่ว่า ค่าเงินเอเชียจะแข็งค่าขึ้นเกินไปเมื่อเทียบกับเงินเยนที่อ่อนค่าลง

แม้ปัจจัยเหล่านี้จะไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจของเอเชีย ในฐานะตลาดที่มีการเติบโต และให้ผลตอบแทนสูงลดลงไป แต่ก็มีความเสี่ยงตรงที่ว่า การไหลออกของเงินทุนต่างชาติ อาจทำให้ค่าเงินของแต่ละประเทศอ่อนค่าลงไปตามกัน โดยได้แรงสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ของแต่ละประเทศ ที่กำลังกังวลถึงการสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน เมื่อเทียบกับเงินเยน ของญี่ปุ่นที่ผ่านมา ค่าเงินเอเชียมักตกเป็นเป้าหมายการเก็งกำไรของบรรดานักลงทุน ที่มองหาผลตอบแทนในระดับที่สูงขึ้น ในช่วงเวลาที่ค่าเงินของชาติพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ อ่อนค่าลงเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ

หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น ตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิม ก็ยิ่งฉุดให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยในการซื้อขายวานนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงไปถึง 91.25 เยนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดนับแต่เดือนมิถุนายน 2553 เป็นต้นมา

การอ่อนค่าของเงินเยน ตรงข้ามกับค่าเงินเอเชียสกุลอื่นๆ ที่ต่างแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทั้งในเกาหลีใต้ และจีน ต่างกังวลว่าจะสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจถึงเรื่องสงครามค่าเงิน ที่กำลังส่อเค้าขึ้นมาอย่างลางเลือน และพากันเข้าซื้อดอลลาร์มาเก็บไว้ จากการเก็งกันว่าเงินเอเชียจะพากันอ่อนค่าลงมา เพื่อให้แข่งขันกับเงินเยนได้

http://bit.ly/WKr3fD
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
naijan
Verified User
โพสต์: 5011
ผู้ติดตาม: 0

Re: ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง จงตั้งอยู่บนความไม่ประมาทครับ
เอาใจช่วยผู้ส่งออก-นำเข้าครับ
------------------------------------------------------
เป้าหมายชีวิต ภารกิจครอบครัว

http://www.thorfun.com/story/view/UP9sI67rWUsDAAj_
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1252
ผู้ติดตาม: 0

Re: ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ใกล้ได้เวลาที่กระทิงจะลงมาพักดื่มน้ำบ้างแล้ว :8)
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง

http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html



http://goo.gl/VjQ4cG
syj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4254
ผู้ติดตาม: 1

Re: ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

โพสต์ที่ 4

โพสต์

'ซัมซุง-ฮุนได-แอลจี'โวยลั่น'กำไร'ดิ่ง หลังเงิน'วอน'แข็งโป๊ก-เยน'อ่อนยวบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กุมภาพันธ์ 2556 18:20 น.

เอเอฟพี – บริษัทส่งออกยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น ซัมซุง, แอลจี, หรือ ฮุนได เวลานี้ต่างกำลังประสบความลำบาก เพราะหลังจากอุตส่าห์แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งชาวญี่ปุ่นมาครองได้หลายปี มาถึงวันนี้เงินเยนแดนอาทิตย์อุทัยกำลังอ่อนตัวขณะที่เงินวอนแดนกิมจิกลับสวนทางแข็งโป๊กขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ผลกำไรของบริษัทเหล่านี้อย่างหนักหน่วง

ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ขณะนี้แข็งขึ้นถึง 27% แล้วเมื่อเทียบเงินเยนญี่ปุ่น หากคำนวณเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 2012 สืบเนื่องจากคำมั่นสัญญาของ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแดนอาทิตย์อุทัย ที่จะเร่งผ่อนคลายนโยบายการเงิน จึงทำให้มูลค่าของเงินเยนอ่อนยวบลง

ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เงินวอนก็แข็งขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทำสถิติสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 1,054.49 วอนแลกได้ 1 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 มกราคม สวนทางกับเยนที่รูดลงทำสถิติต่ำสุดเมื่อเทียบเงินตราสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

แวดวงธุรกิจเกาหลีใต้กำลังจับตาแนวโน้มนี้ด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากยอดขายนอกประเทศคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของมูลค่าเศรษฐกิจของแดนโสมขาว

ทศวรรษที่ผ่านมา เกาหลีใต้สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดส่งออกของญี่ปุ่นมาได้เป็นกอบเป็นกำ โดยสองประเทศห้ำหั่นกันตัวต่อตัวทั้งในภาคอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ การขนส่งสินค้าทางเรือ และการผลิตเหล็กกล้า

ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งเกาหลีของแดนโสมขาวระบุว่า ขณะที่ในปี 2000 ผลิตภัณฑ์ส่งออกสำคัญที่สุด 50 ตัวแรกของสองประเทศนี้มีที่ทับซ้อนกันเพียง 20% แต่ถึงวันนี้ตัวเลขกลับเพิ่มเป็นกว่า 50%

ชิน ฮุนซู จาก สถาบันเพื่อเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและการค้าแห่งเกาหลี แจกแจงว่า การอ่อนตัวของเงินเยนแม้มีผลกระทบเพียงจำกัดต่อพวกอุตสาหกรรมไอที อย่างเช่น สมาร์ทโฟนที่เกาหลีใต้นำห่างหลายขุม ทว่าสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเหล็กกล้าแล้ว กลับมีความอ่อนไหวต่อการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม ดังนั้นจากนี้ไปอุตสาหกรรมเหล่านี้จึงต้องเผชิญปัญหาใหญ่

อันที่จริง ผู้ผลิตอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง บริษัทเทคโนโลยีใหญ่สุดของโลก และฮุนได ค่ายรถเบอร์ 1 ของเกาหลีใต้ รับรู้ถึงผลกระทบแล้วด้วยซ้ำ โดยสะท้อนออกให้เห็นในรายงานผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายปี 2012

ฮุนได มอเตอร์ ซึ่งมีฐานะเป็นบริษัทรถอันดับ 5 ของโลกด้วย รายงานว่า กำไรจากการดำเนินงานไตรมาสที่ผ่านมาร่วงลงเกือบ 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แม้มียอดขายเพิ่มขึ้น 11% ก็ตาม

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของฮุนไดออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า คู่แข่งจากญี่ปุ่น เช่น โตโยต้าและฮอนด้า เร่งฉกฉวยความได้เปรียบจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยรุกใหญ่ในตลาดที่มีการแข่งขันดุเดือดอย่างออสเตรเลียและรัสเซีย

ด้านเกีย ซึ่งปัจจุบันเป็นกิจการหนึ่งในเครือของฮุนได สำทับว่า การแข็งค่าของวอนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่แล้วดิ่งฮวบถึง 51% จากช่วงเดียวกันปี 2011 และปัก ฮันวู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทแถลงว่า กำลังพิจารณาขึ้นราคารถส่งออกหากวอนยังแข็งค่าต่อเนื่อง

แม้แต่ผู้เล่นชั้นนำอย่างซัมซุง ก็ใช่ว่าจะมีภูมิต้านทานกับภาวการณ์ในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ทั่วด้าน

ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ชิปหน่วยความจำ และทีวีจอแบนแถวหน้าของโลกแห่งนี้รายงานว่า มีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดทำสถิติ 8.84 ล้านล้านวอนในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว แต่สำทับว่า การแข็งค่าของวอนทำให้ผลกำไรหายไปถึง 360,000 ล้านวอน

ซัมซุงยังเตือนว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งขึ้นอาจทำให้กำไรจากการดำเนินงานในปี 2013 นี้ หดหายไปถึง 3 ล้านล้านวอน และคำเตือนนี้ฉุดราคาหุ้นของบริษัทดิ่งทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 เดือนทันตาเห็น

ทั้งนี้แม้ซัมซุงนำหน้าคู่แข่งญี่ปุ่นอย่างโซนี่และชาร์ปแทบไม่เห็นฝุ่นในตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือธุรกิจชิปหน่วยความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเงินเยนยังอ่อนตัวลงเมื่อเทียบดอลลาร์ในระยะยาว

แอลจี คู่แข่งของซัมซุง รายงานว่า ขาดทุนสุทธิ 467,800 ล้านเยนในไตรมาสที่ผ่านมา หรือ 4 เท่าของยอดขาดทุนในปี 2011 และคาดว่า ยอดขายที่ตกลง 2.3% อยู่ที่ 13.5 ล้านล้านวอนนั้น จะยังคงดิ่งลงต่อ

จุง โดฮุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแอลจี แถลงเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วว่า ปกติไตรมาสแรกของปีเป็นช่วงที่ยอดขายทีวีตกต่ำอยู่แล้ว มิหนำซ้ำบริษัทจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินวอนด้วย

http://manager.co.th/lite/ViewNews.aspx ... 0000014080
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
marble
Verified User
โพสต์: 430
ผู้ติดตาม: 0

Re: ฦ สงครามค่าเงินครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว???

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เด๋ว รออีกแป๊บนึง ขอptt ถึง 370 ก่อนนะ ค่อยระเบิด
คำว่า listen นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent
โพสต์โพสต์