หลักแรกของผม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หลักแรกของผม

มีกระทู้ 7 หลัก 8 หลัก และ 9 หลัก ไปแล้ว
วันนี้ ผม ขอเสนอ มุมมอง หลัก ในความคิดผม ที่ผม เพิ่งจะพิชิตได้ สดๆร้อนๆ

ขอเกริ่นที่มาที่ไป ก่อนนะครับ
ผม เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เริ่มงานเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ด้วย เงินเดือน ประมาณ 8000 บาท
หน่วยงาน มี โบนัส เล็กๆ น้อยๆ แต่ มีมา ตลอด ช่วง 6-7 ปีนี้ เรียกได้ ว่า พออยู่ได้ แบบวันๆ
โดยเฉพาะช่วงแรกที่เริ่มงาน กับ เงินเดือน 8000 (มัน ช่าง สะเด่าใจอะไรเยี่ยงนี้)

แต่ นั่น ก็ ยัง ไม่ ใช่ ความมันส์ที่แท้จริง เพราะ ผม นั้นคิดว่าตัวเองใหญ่กว่าโลก เลย เป็นพวกขวาง โลก
เป็น คนเจน วาย จัดๆ ใน ที่ทำงาน ที่อำนาจอยู่ในมือ เบบี้บูม
นั่น ทำให้ ผม เป็น เดอะ สตอ ของหน่วยงานเลยทีเดียว(ไม่ใช่เดอะ สตาร์ นะครับ)
เรียกได้ว่า ทั้งรุ่นที่เข้ามา ผม กากสุด และ กับสิ่งที่ได้รับ( และ รุ่น หลังก็ ได้ เริ่ม ทยอย ข้าม ศีรษะ ไป ทีละคน)
แรกๆ ก็ คง เซ็ง พยายามทุ่ม เท พลัง หวังวัดใจ แต่ ตอนจบก็ ไม่ได้เป็นอย่าง ละครเท่าไร
ก็ ไม่เป็นไร ผม ก็ ทำงาน 5 วัน ต่อสัปดาห์ วัน ละ 7 ชม อู้บ้าง ไร บ้าง ตามรอบ

ผมรู้ตัว ว่าเข้า โครงการเดอะสตอ ในช่วงปีที่ 2-3 (แบบ ได้ วินเนอร์ แน่นอน)
ก็เลย มองทางอื่นไว้ เลยตัดสินใจเปิดพอร์ท(ก่อนหน้านี้ กำลังรวบรวม ทุน และความรู้)
ด้วยเงิน 40,000 บาท เปิดมา ลุย ลงสนามจริงให้เข้าใจไม่ทันไร
มะกัน แจก แฮมเบอร์เกอร์ ก้อน โตมาให้ ชิม ซะ ละ 55555
ก็ มาเรื่อยๆ ครับ
ผมประสบความสำเร็จ พอร์ทใหญ่โตที่บ้านให้ เงินลงทุนเพิ่ม รึ---- ไม่ใช่ เลย
ผม ถูกหวย ขายที่ได้ อัด เงิน ลงอีด รึ ก็ -----ไม่ใช่ อีก อะละ
มาเรื่อยๆ ครับ และ มีขาด ไปบ้าง เพรา อยากเรียนโท (เพื่อ หางานอื่น)

ผมใช้เวลา 1-2 ชม ในการอ่าน ข่าว เวป ลงทุน ทุกวัน ขำๆ หาก ช่วงไหน มี หุ้นที่สนใจ จะใช้ เวลา
เข้มขึ้นประมาณ 4-5 ชม ต่อวัน ประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งส่วนใหญ่หมดไป กับ ตัวเอง
(ไม่ใช้ ค้นหา อะไรเพิ่ม หรอก นะ) ต้อง มานั่ง ตัดสินใจ กลัว อนาคต กลัว ล้มเหลว ถึงได้ สั่ง ลุย

ดังนั้นแล้ว นี่ คือ ปีที่ 8 ของการทำงาน และ ปีที่ 5-6 ของการลงทุน
เงินเดือนขึ้นมา ตลอด ครับ แม้ จะ ขึ้นมาแบบกากๆ ก็ ตาม
เหมือน กับที่ปันผล ก็ เพิ่มมาตลอด

และปีนี้ เป็นปีที่ ปันผล ผมมาก ว่า โบนัส ที่ทำงาน ( ทุกบริษัท ประกาศ ปันผล แล้ว)
(พอกรอก เสียภาษี พบว่า มากกว่าตั้งแต่ ปีที่แล้ว 55 แต่ เอาเหอะ ผม เอาปีนี้ แล้วกัน)

ก่อนหน้านี้ ผมเห็น แสงดาว รู้ว่ามี จริง แต่ ก็ รู้ว่าคงไปไม่ถึง :shock: :shock:
ซักพัก เห็นแสง จันทร์ ครับ บาน มาเลยทีเดียว( ผม นึกถึงหน้า ดร.นิเวศน์ได้งัยเนี่ย 55)
มันชัดมาก ขึ้น และ แสงนี้ แต่ก็คงไป ไม่ถึง อยู่ดี
วันนี้ ผม เห็น แสงไฟ บนยอดเขา
ไป ถึง แน่ แต่ ต้องพยายามหน่อย

ร่วมเป็นกำลังใจ ให้ พงศพัส เป็นผู้ว่า กทม. ไม่ใช่ สิ จบไปแล้วนี่
เอาเป็นมาร่วมลุ้น กับ ผม สำหรับ หลักถัดไป ของผมเอง
-----ปันผล มากกว่า เงินเดือนทั้งปี----- :wall: :wall: :wall:

สรุป ทั้งหมดที่จะมีประโยชน์ สำหรับผู้อ่านคือ ย่อหน้าสุดท้าย
ผม มาถึงได้งัย ระหว่างทางเป็นยังงัย
ผม ละอายใจ ที่จะ ชิง เล่าเรื่อง ทั้งหมด ก่อน เพราะ ผมเองก็ ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น
ถ้า ถึง หลัก ถัดไป ของผมเอง ผม มา แจงอย่างละเอียด แน่นอน :wink: :wink: :wink:

และ นี่คือ ย่อหน้าสุดท้ายที่จะ มีประโยชน์ กับท่าน
สำหรับผม การลงทุนแนว VI(G) เท่านั้น ที่จะทำให้ มาถึงจุดนี้ได้
อิสระ ซ่อนอยู่ใน เวปนี้ทั้งหมดแล้ว ไม่ต้องไปที่ไหน เพิ่มเลย
ทุก คำ ทุกประโยค ในกระทู้--คลังกระทู้คุณค่า---
มี่ค่า 0.01 บาท
หาก เซเลป เม้น ให้ 0.10 บาท
ตามอ่านให้หมด อ่านให้ ครบ อยากได้ เท่าไร อ่านเอาเลย
กระทู้ อื่น ให้ ประโยค ละ 0.009 บาทละกัน
หาก สุดท้ายไม่ได้ จริง สัมนาครั้งหน้า พก ระเบิดพลีชีพ ลุยได้เลย55( ยังงัย บอกผม ล่วงหน้า ก่อนละกัน) :P :P :P :P :P
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
champ412
Verified User
โพสต์: 949
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ให้กำลังใจและขอบคุณครับ

ผมจำคำๆหนึ่งเอาไว้เสมอครับ จาก อัลเบริต์ ไอส์ไตน์

"Compound interest is the greatest mathematical discovery of all time"

"ดอกเบี้ยทบต้นนั้นเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในด้านคณิตศาสตร์"
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2912
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อ่านได้ 3 บรรทัด มีความรู้สึกว่า ทำไมต้องวรรค มันอ่านยากดีแท้

:wall: :wall: :wall:
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

น่าสนใจมากครับ ปันผลมากกว่าเงินเดือนทั้งปี ว้าว ถ้าได้แบบนั้นบ้างผมจะดีใจแค่ไหนนะ

ยินดีด้วยครับ

น้อง canu ช่วยแชร์วิธีการแบบ VI(G) เป็นวิทยาทานได้มั๊ยครับ อยากฟังครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

กระทู้อ่านมันส์ดี. ติดตรงไม่บอกเงินเดือนเท่าไร. บอกได้มั้ยครับ จะได้ลุ้นด้วย
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
charat_k
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 52
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

น่าจะปันผลมากกว่า bonus ทั้งปีนะครับ อิๆๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

๑champ412
ขอบคุณครับ

๑newbie_12
เข้าใจว่าไม่น่าใช่ คำถาม
แต่ ท่านได้ สิทธิ์ นั้น เดียวนี้ ก๊อป ไป แปะที่ notepad แล้ว จัด หน้าตามใจชอบครับผม
ไม่มีลิขสิทธ์ :B :B

๑Nevercry.boy
Vi (G) คือ แนวgrowth นั่นเองครับ
คือ ผม เริ่ม ที่ 40000 ในช่วง 2-3 ปี แรก ก็ได้ เฉลี่ย ปี ละ 10-20 % ตามแนววีไอละครับ
แต่ มันก็ แค่ หลัก พัน เห็นแล้ว ก็ เศร้าใจ
ถ้าVI แบบเกรแฮม ผมว่า ก็ น่าจะ ได้ประมาณนี้
แต่ ที่จะได้ผล จริง คือ VI สายฟิชเชอร์ หรือไม่ก็ ปีเตอร์ลินช์ ครับ
สายลินช์นี่ ก็ ได้ หลัง เด้งเลยทีเดียว
ยิ่ง ฟิชเชอร์ นี่ พอ ถึึง เวลาระเบิด ฟอร์ม ก็ ใจสั่นกันไป
ผมอ่านหนังสือ ของฟิชเชอร์ที่ ดร. แปล ก็ งงๆ (เฉลยเหตุผล อยู่ที่เล่ม 2)
แต่ หนังสือ เกรมแฮม ที่แปลมา เล่มหนาๆ นี่ไม่ได้ อ่านเลย
เพราะ มาเจอ ผู้นำ สายฟิชเชอร์ที่เมืองไทย ซะ ก่อน
คือ แม่ทัพ สุมาอี้ นั่นเอง ครับ เลย กลับไป ซ๊ำฟิชเชอร์ อีก รอบ ก็ งงอีกรอบ 555
(อีกเวปที่แนะนำ ก็ ของ คุณ สุมาอี้ นี่ละครับ ++เม้นแม่ทัพ ให้ 10บาท
++พี่ โจลูกอีสานด้วย 10บาทเหมือนกัน ผม มองพี่โจ เป็น ผู้นำสาย ลินซ์ นะ)

ไม่ใช่ ไม่อยาก แชร์ นะ ครับ สิ่งที่ผ่านมา เยอะมากกกก จำ ช่วงเบอร์เกอร์ ได้ว่า
ดร.นิเวศ เขียน บทความ ประมาท ว่า ตัวใครตัวมันนะโยม 555 ซวยละ ลูก พี่ ยังโกย

เลยอยาก ให้ มัน แน่นๆ แบบ เป็น จริงๆ เป็นจัง ใช้ ได้ ทุกคน โดย เฉพาะ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
หลายๆ ทริก ที่ผม เจอ เอา มาแชร์ แน่นอน

๑superboy
เป็น เจตนาที่จะไม่บอกอยู่แล้วครับ หาก บอ ค่า เป็นแบบ สมบูรณ์ หลายคน อาจท้อใจ ว่า ไกล จัง
ในขณะที่หลายคน อาจ บอกว่า ง่าย จุงเบย
เลย หา หลัก ในมุมมอง อื่น มาเสนอ

๑charat_k
ปันผล ได้ มากกว่า โบนัส ทั้งหมดที่ได้ ในปี นั้นครับ เทียบกัน ปี ต่อ ปี และ พอดี ผม ปัน ครั้ง เดียว ครับ
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 8

โพสต์

อาห์ขอบคุณครับ ไม่ธรรมดาเบย
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 9

โพสต์

canuseeme เขียน: Vi (G) คือ แนวgrowth นั่นเองครับ
คือ ผม เริ่ม ที่ 40000 ในช่วง 2-3 ปี แรก ก็ได้ เฉลี่ย ปี ละ 10-20 % ตามแนววีไอละครับ
แต่ มันก็ แค่ หลัก พัน เห็นแล้ว ก็ เศร้าใจ
ถ้าVI แบบเกรแฮม ผมว่า ก็ น่าจะ ได้ประมาณนี้
แต่ ที่จะได้ผล จริง คือ VI สายฟิชเชอร์ หรือไม่ก็ ปีเตอร์ลินช์ ครับ
สายลินช์นี่ ก็ ได้ หลัง เด้งเลยทีเดียว
ยิ่ง ฟิชเชอร์ นี่ พอ ถึึง เวลาระเบิด ฟอร์ม ก็ ใจสั่นกันไป
ผมอ่านหนังสือ ของฟิชเชอร์ที่ ดร. แปล ก็ งงๆ (เฉลยเหตุผล อยู่ที่เล่ม 2)
แต่ หนังสือ เกรมแฮม ที่แปลมา เล่มหนาๆ นี่ไม่ได้ อ่านเลย
เพราะ มาเจอ ผู้นำ สายฟิชเชอร์ที่เมืองไทย ซะ ก่อน
คือ แม่ทัพ สุมาอี้ นั่นเอง ครับ เลย กลับไป ซ๊ำฟิชเชอร์ อีก รอบ ก็ งงอีกรอบ 555
(อีกเวปที่แนะนำ ก็ ของ คุณ สุมาอี้ นี่ละครับ ++เม้นแม่ทัพ ให้ 10บาท
++พี่ โจลูกอีสานด้วย 10บาทเหมือนกัน ผม มองพี่โจ เป็น ผู้นำสาย ลินซ์ นะ)

ไม่ใช่ ไม่อยาก แชร์ นะ ครับ สิ่งที่ผ่านมา เยอะมากกกก จำ ช่วงเบอร์เกอร์ ได้ว่า
ดร.นิเวศ เขียน บทความ ประมาท ว่า ตัวใครตัวมันนะโยม 555 ซวยละ ลูก พี่ ยังโกย

เลยอยาก ให้ มัน แน่นๆ แบบ เป็น จริงๆ เป็นจัง ใช้ ได้ ทุกคน โดย เฉพาะ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
หลายๆ ทริก ที่ผม เจอ เอา มาแชร์ แน่นอน
ผมว่าน่าจะใช้หลาย ๆ วิธีนะครับ ยกเว้นว่าคุณถนัดการมองแบบฟิชเชอร์จริง ๆ หรือเคยลองแบบอื่นแล้วไม่ประสบความสำเร็จ สำหรับผมเองไม่มีสูตรหรือวิธีที่ตายตัวเลยครับ ศึกษาหลาย ๆ วิธี แล้วก็ใช้หลาย ๆ วิธี ผมเชื่อว่าถ้าเรารู้กว้างเราจะหาโอกาสทางการลงทุนได้ง่ายกว่าครับ ผมจะเปรียบเทียบการบริหารพอร์ตคล้าย ๆ กับการที่เราเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลครับ หน้าที่ของผู้จัดการทีมคือต้องรู้ว่าทีมเรามีศักยภาพแค่ไหน เปรียบเสมือนรู้ฝีมือการลงทุนตัวเอง มีเงินซื้อนักเตะแค่ไหน ซึ่งก็เหมือนรู้ว่าเราต้องบริหารจัดการเงินของเราอย่างไร ผู้จัดการทีมฟุตบอลต้องเจอคู่แข่งหลากหลายทั้งเก่งกว่าทั้งอ่อนกว่า เช่น ถ้าเราเจอคู่แข่งที่อ่อนกว่าเรามาก การที่เราจะไปสั่งให้ลูกทีมตั้งรับในแดนตัวเองมันก็คงแปลกประหลาด หรือเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่ามากแต่ยังเปิดเกมรุกเต็มที่ การบริหารพอร์ตการลงทุนในหลาย ๆ แบบมันก็คล้าย ๆ กันครับ หุ้นแต่ละตัวมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ตลาดแต่ละช่วงเสี่ยงมากน้อยไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าเน้นหุ้นปันผล แนวห่านทองคำมันก็คงจะคล้าย ๆ กับแผนการเล่นตั้งรับ อาจจะเหมาะในกรณีที่ตลาดไม่ค่อยน่าไว้วางใจหรือเราเองไม่มั่นใจ บางทีถ้าผมเจอหุ้นที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงมากแต่เหมือนตลาดจะมองข้ามไป ผมก็ซื้อครับแล้วก็รอให้ตลาดมาเห็นคุณค่า บางทีผลตอบแทนก็ดีมากเพราะหุ้นสามารถปันผลได้มากกว่าที่เราคิดไว้

ถามเรื่องหนึ่งครับ รูปใน Avatar นี่ตัวจริงเลยหรือเปล่าครับ :D
"Become a risk taker, not a risk maker"
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1523
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ถามเรื่องหนึ่งครับ รูปใน Avatar นี่ตัวจริงเลยหรือเปล่าครับ

น่าจะมาจาก MV ของบอยพีซเมคเกอร์ เพลง ยังไม่พ้นขีดอันตรายครับ
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 11

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:น่าสนใจมากครับ ปันผลมากกว่าเงินเดือนทั้งปี ว้าว ถ้าได้แบบนั้นบ้างผมจะดีใจแค่ไหนนะ

ยินดีด้วยครับ

น้อง canu ช่วยแชร์วิธีการแบบ VI(G) เป็นวิทยาทานได้มั๊ยครับ อยากฟังครับ

ของพี่น่าจะเกินแล้วนะคับ
ไม่ก็พี่ ncb คงเงินเดือนหลักล้านอะคับ
show me money.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3750
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ส่วนตัวผมไม่ได้ยึดแนวทางของใคร
และใช้เวลาลงทุนไปเดินเตร่
อยู่ในห้างสรรสินค้าที่รูจักในนามว่า ตลท.

บางครั้งผมจะหยิบสินค้าสักชิ้นขึ้นมาดูเอง
และบางครั้งผมก็หยิบตามคนอื่นบ้าง

แต่ในทุกๆ ครั้งผมจะใช้มือคลำ ตาดู
แล้วพยายามถอดความในสลากบนตัวสินค้าง
ให้เข้าใจ ว่า...

สินค้าชิ้นนี้เป็นอะไร เช่น growth stock
ในแบบของ Lynch หรือหุ้นคุณค่าในแบบ
ของฟิชเชอร์

หลายครั้งสินค้าชิ้นเดียว ผมก็พลิกดูหลายมุม
อาจจะถูกแบบดันโดด้วยก็ได้

หรือบางทีก็สนใจเพราะเหตุผลง่ายๆ ก็ได้เหมือนกัน

ไปจนถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวสินค้านั้นเลยก็ได้

ถ้ามั่นใจ ก็หยิบใส่ไปในตะกร้า แต่ถ้าไม่...
ก็แค่วางสินค้ากลับที่เดิม

ปล.
ผมก็เริ่มจากเงินน้อยๆ เหมือนกัน
พยายามประหยัด เอาเงินมาลงทุน
และ reinvest ไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ไม่ได้ใส่เงินเพิ่มแล้ว
ใช้เงินเดือนซื้อความสะดวกสบายบ้าง
ส่วนเงินปันผลยัง reinvest อยู่ครับ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1523
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 13

โพสต์

แต่ในทุกๆ ครั้งผมจะใช้มือคลำ ตาดู
แล้วพยายามถอดความในสลากบนตัวสินค้าง
ให้เข้าใจ ว่า...

พูดเห็นภาพเลยครับ ถ้าสินค้าบางชนิดให้ชิมได้ ผมว่าพี่สองสลึงก้แวะชิมด้วย

ผมเองก้ยอมรับว่า หลายๆครั้งก้ใช้วิธี ลูบๆ คลำ และก้อ่านคำเตือน ข้างฉลากก่อนครับ

ก่อนลงมือหาหุ้น ถ้ามันยังดี ไม่หมดอายุ ยังไงก้ต้องอร่อยครับ

:cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขออภัยที่ตอบช้า ครับ

เรื่องรูป นั่น มี คนเฉลยแล้ว ตามนั้นครับ

กลับมาที่ ท่าน leky และ ท่าน ส.สลึง นะครับ

เรื่อง แนวทาง นั้น โดยส่วนใหญ่ผม คุย กับ คนอื่นก็ จะตอบประมาณทั้ง 2 ท่านละครับ
คือ 1. ตอบ กลางๆ 2. ดี ทุกคน เอามาประยุกต์ ใช้ 3. เลือกที่เหมาะ กับเรา 4. เอาแต่ข้อดี มารวมกัน บลา บลา ๆ
คำตอบจะ ประมาณนี้ แม้ นักลงทุน มีชื่อ ปัจจุบัน ก็ ตอบ ลักษณะ นั้น
แอนโทนี่ โบลตัน --เลือกหุ้น แนว วีไอ แต่ ซื้อด้วย เทคนิค--

จะได้ ไม่ต้องขัดแย้ง กับใคร ตอบกลางๆดีกว่า
แต่ กระทู้นี้ ผม อยาก ตอบ แบบ ฟันธง ไปเลย ครับ
ใช้ จริงตาม ที่ผม พบเจอ
เพราะ เรา ไป ถึง เป้าหมายได้หลายวิธี เดิน วิ่ง นั่งมอไซต์ฯฯฯ
ไปได้ หลายเวลา อาจถึงเร็วกว่า ช้ากว่า
แม้ ขับมอไซต์ ก็ อาจถึงช้า กว่า ถ้า เกิดอุบัติเหตุ

ที่ท่าน เสนอมา จึงถูกต้อง

การลงทุน เปรียบกัน หลายแบบ
ที่เห็นบ่อย ก็ จัดทัพ ออกรบ
มี แนว ฟุตบอลด้วย ก็ หลากหลายดี ครับ
ใน มุมมอง แผนตั้งรับ ต่อ ภาวะตลาดนั้น
ตะก่อน ผม ก็ คิดแนวนี้ครับ
แต่ แนวคิด ที่ผม แปลมาจาก ฟิชเชอร์ คือ ไม่มี เรื่องนี้เลย
หุ้นห่าน ทองคำเอย หุ้นตั้งรับเอย
ผมคงต้องกลับไปอ่านฟิชเชอร์ใหม่ อีกที ว่า แกคิดกับเรื่องนี้ยังงัย

(เรื่อง ปันผล หรือ กล ห่านทองคำ คุณสุมาอี้ อธิบายได้ดีกว่าครับ
ลอง หาอ่านดู อันนี้สำคัญมาก มือใหม่ อาจโดน กล นี้)


สำหรับผม นั้น ยิ่งนานวัน ยิ่งพบว่า แนวของพิชเชอร์นั่น ใช่

หัวใจหลักๆ ของ เกรแฮม.. ลิชซ์...ฟิชเชอร์ ที่ผม จะ ย่อได้คลละบรรทัด นั้น ต่างกันมาก
แม้ จะเป็น สายวีไอเหมือนกันก็ตาม เผลอๆ มีขัดแย้งกันอีกต่างหาก

ผมเข้าใจว่า ในใจทุกท่าน วีไอ ต้อง เกรแฮม
แต่ อาจเป็นเพราะเกรแฮม ได้ สอน บัพเฟต์ (ตำนานที่มีชีวิต)
เลย ทำให้ เกรมแฮม ดู เก่ง เกิน จริง ไป รึป่าว

ลินซ์ ละ ผลงาน ชัดเจน และ ยังมี ชีวิต อยู่

แต่ ฟิชเชอร์ ..... ไปซะ แล้ว
ลูกศิษย์ คนดัง บัฟเฟต(ก็ โดน นิยามไปแล้ว ว่า ศิษย์ เกรแฮม)
จะเป็น ชาลี ก็เด่นไม่เท่า บัฟเฟต

โดยส่วนตัวผม ฟิชเชอร์นี่ละครับ สุดยอดแล้ว
ผมกำลังทดลองโดย วัดที่หลัก ถัดไปของผม ว่า จะได้จริงรึป่าว
เพราะ ยิ่ง ลงทุน นานวัน ผมยิ่ง ปรับแนวคิดมา ทางฟิชเชอร์ มาก ขึ้นเรื่อยๆ
จาก เกรแฮม------ลินช์-----มาสู่ ฟิชเชอร์ (แนวคิด ฟิชเชอร์ นั่น ลึกซึ๊งมากมาย ยิ่ง)
หนังสือ ฟิชเชอร์ นั้น เห็นแปลไทย 2 เล่ม
อ่านที ไร มุมมองเปลี่ยนไปทุกที เทพมากหนังสือ นี้ (งง ทุกครั้ง นั่นเอง 555)
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลักแรกของผม

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมว่าจริง ๆ บัฟเฟตถ้าเป็นบัฟเฟตในยุคแรกคงเป็นแนวเกรแฮมครับ เนื่องเพราะในตอนนั้นหุ้นแบบเกรแฮมก็หาได้ไม่ยากต่างจากในยุคหลัง แต่ถ้าเป็นบัฟเฟตในยุคหลังผมว่าจะมาทางฟิชเชอร์นะครับ

จะว่าไปหลัง ๆ เวลาอ่านหนังสือ ผมเองก็ไม่ค่อยเน้นการมองตัวเลขครับ แต่จะเน้นมุมมองของบรรดาเซียนทั้งหลาย ซึ่งเค้าจะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน อีกคนหนึ่งที่คนไม่ค่อยพูดถึงแต่ผมว่าเป็นสุดยอดไม่แพ้กัน คือ Sir John Templeton ครับ หรือแม้แต่ John Neff เอง ผมว่าถ้าลองอ่านแล้วตีความ บางครั้งถ้าตลาดขึ้นร้อนแรงมาก ๆ เค้าก็มีแนวโน้มที่จะขายหุ้นเพื่อถือเงินสด เพียงแต่บางครั้งผมเข้าใจว่าด้วยลักษณะงานที่เค้าทำอยู่คือการบริหารกองทุน บางครั้งมันก็มีข้อจำกัดเรื่องการถือเงิดสดมาก ๆ ในขณะที่ถ้าเป็นแนวคิดบัฟเฟตเองแทบจะไม่พูดถึงเรื่องการขึ้นลงของตลาดเลย

ส่วนแนวหุ้นห่านทองคำผมว่าแล้วแต่คนจะมองนะครับ บางคนก็มองหุ้นประเภทนี้ว่าไม่โตได้แค่เงินปันผล แต่ในความเป็นจริง หุ้นบางตัว ปันผลสูงแล้วมันก็โตด้วย ซึ่งเงินปันผลก็จะโตตาม แต่ด้วยความที่ผลตอบแทนของเงินปันผลมันยังสูงทั้ง ๆ ที่ก็อาจจะเป็นหุ้นที่ดี เท่าที่ผมเจอมันมักจะเป็นหุ้นที่ "คนมองข้าม" ครับ เลยทำให้มันอยู่อย่างนั้นในช่วงเวลาหนึ่ง หรือพอมีปัจจัยใหม่ ๆ ที่เป็นตัวเร่งอย่างแรงเกิดขึ้น มันก็พร้อมจะวิ่งเช่นกันครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
โพสต์โพสต์