ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

VI Wannabe เขียน:ตอบ ข้อ ก ครับ
ส่วนตัวไม่ชอบหุ้นถูกเลยครับ
ชอบหุ้นเติบโตที่มีปัญหา(ที่เราคิดว่าชั่วคราว)

อย่างไรก็ตามตอนนี้เพลงยังดังอยู่เราก็เต้นตามไปก่อนครับ (ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ถึงจุดที่เรียกว่ามันส์ที่สุดของคืน)
แต่ต้องมีสติครับว่าเมื่อเพลงหยุดแล้วเราต้องกล้าปรับพอร์ท เน้นซื้อแต่หุ้นคุณภาพในข้อ ก เท่านั้นครับ
ขอถามไอเดียพี่ VI Wannabe เพิ่มหน่อยครับ กรณีเมื่อเพลงหยุดนี่ พอจะสังเกตจากอะไรได้บ้างครับ

ส่วนการขายหุ้นเติบโตนี่ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ผมเองก็มีปัญหาเหมือนกันนะครับ คือคิดว่ามันแพงแล้วเลยเลือกที่จะขายหมด
ก็กลายเป็นขายหมูไปหลายตัวเหมือนกัน จนอดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่า วิธีการขายของเรามีปัญหาอะไรหรือป่าว
ภาพประจำตัวสมาชิก
VI Wannabe
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1014
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

Saran เขียน:
VI Wannabe เขียน:ตอบ ข้อ ก ครับ
ส่วนตัวไม่ชอบหุ้นถูกเลยครับ
ชอบหุ้นเติบโตที่มีปัญหา(ที่เราคิดว่าชั่วคราว)

อย่างไรก็ตามตอนนี้เพลงยังดังอยู่เราก็เต้นตามไปก่อนครับ (ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ถึงจุดที่เรียกว่ามันส์ที่สุดของคืน)
แต่ต้องมีสติครับว่าเมื่อเพลงหยุดแล้วเราต้องกล้าปรับพอร์ท เน้นซื้อแต่หุ้นคุณภาพในข้อ ก เท่านั้นครับ
ขอถามไอเดียพี่ VI Wannabe เพิ่มหน่อยครับ กรณีเมื่อเพลงหยุดนี่ พอจะสังเกตจากอะไรได้บ้างครับ

ส่วนการขายหุ้นเติบโตนี่ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ผมเองก็มีปัญหาเหมือนกันนะครับ คือคิดว่ามันแพงแล้วเลยเลือกที่จะขายหมด
ก็กลายเป็นขายหมูไปหลายตัวเหมือนกัน จนอดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่า วิธีการขายของเรามีปัญหาอะไรหรือป่าว

เรื่องเพลงหยุดนี่ผมหมายถึงตลาดภาพรวมนะครับ คือถ้าตลาด stable ขึ้นๆลงๆ +/-10% ตามข่าวนี่น่าจะเรียกว่าภาวะตลาดปกติ เราก็ถือหุ้นเติบโตของเราต่อไปลงมามี MOS ก็ซื้อสะสมบ้าง

ผมเองกลัวแต่ crash แบบ 1997/2000(US)/2008 เท่านั้น ซึ่งหลายคนอาจจะดูจากอารมณ์นักลงทุนรอบตัวหรือ indicator เศรษฐกิจต่างๆ แต่ผมเองตั้งเป็นกฎ absolute ไว้เลยว่าถ้าตลาดลงต่ำกว่าค่าๆหนึ่งซึ่งเป็นทาง technical ผมจะลด port โดยเฉพาะพวกไม่แกร่งจริงจะโยนทิ้งไปก่อนเลย (ถ้าตลาดกลับมายอมซื้อใหม่แพงกว่าเดิมเลยถือว่าเป็นการจ่ายค่าประกันตลาด crash)

ส่วนการขายหุ้นเติบโตในภาวะตลาดปกตินั้น ผมเองก็ขาย CPALL ไปตอนมันจ่าย stock dividend แล้วราคาบ้าๆบอๆไปเหมือนกัน แล้วตอนนี้มันก็กลับมาแพงกว่านั้นอีก แล้วทำให้ได้บทเรียนเลยว่าหุ้นเติบโตมัน value ยากจริงๆ ยิ่ง valuation ยิ่งธาตุไฟแตกซ่าน valuation มัน valid เฉพาะสิ่งที่เราคาดได้เท่านั้นแต่หุ้นกำลังโตพวกนี้มี surprise ตลอดเวลา (ถึงว่าเซียนๆเค้าดู market cap กัน ว่า potential ของ หุ้นหนึ่งๆจะไปได้เท่าไหร่ซึ่งผมเองยังดูไม่เป็น ใครดูเป็นรบกวน share ด้วยครับ)

ส่วนตัวตอนนี้เลยหลับตาหนึ่งข้างทำเป็นไม่เห็นราคาขายจาก valuation ไปแล้ว (valuation เพื่อหา MOS ตอนซื้อเท่านั้น) ตอนนี้คิดว่าในภาวะตลาดปกติควรจะขายเมื่อ top line หยุดโต/ชะลอตัว โดยไม่มีเหตุสมควรเท่านั้น (เลยทำให้ตอนนี้ยังใจแข็งถือ GLOBAL,CPN,MINT,BGH อยู่ได้ถึงแม้ PE จะทะลุทุกความคาดหมายไปหมดแล้วก็ตาม) ซึ่งวิธีนี้ไม่ได้ขายใกล้จุดสูงสุดแน่นอนเพราะกว่า top line จะหยุดโต/ชะลอหุ้นคงลงมาระดับหนึ่งแล้ว

ตอนนี้คิดได้แค่นี้ครับ ท่าน Saran หรือท่านอื่นๆ มีอะไรแนะนำเพิ่มเติมเชิญได้เลยครับ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"

"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
amornd
Verified User
โพสต์: 385
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

โดยส่วนตัว ภายใน 15 ปีข้างหน้า ผมกลับอยากให้เกิดวิกฤติอีกแฮะ :roll:
ผมคงไม่ได้ขาย เพราะกว่าจะรู้ว่ามีวิกฤติก็คงขายไม่ได้ราคา
หรือ วิกฤติอาจจบเร็วกว่าปี 2008 ก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ เงินไหลเร็ว ทำ correction เร็ว

ผมยังมีเงินเดือนจากงานประจำไว้ซื้อเพิ่ม จะได้เก็บหุ้นที่ผมสนใจให้ถึงจำนวนที่ต้องการ
เมื่อธุรกิจมีฐานแกร่งแล้ว และยังสามารถโตได้ ผมเชื่อว่าราคาจะกลับมา :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

มาอัพเดตกระทู้หน่อยครับ

ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมามูลค่าพอร์ทหดหายไปพอควรเลย จากจุดสูงสุดที่เคยขึ้นไปตอนนี้หายไป 10%

ไม่รู้จะเรียกตอนนี้ว่า เพลงหยุดกันหรือยัง ^^

หลังจากที่ได้ถามความเห็นในนี้ไป ก็ทำการปรับพอร์ทบ้างเล็กน้อย ทยอยขายตัวที่คิดว่าแพงสุดไปสลับเข้าตัวที่คิดว่าถูกกว่าแทน

ที่ผ่านมาตัวที่ขายก็ขายได้ราคาดี (นึกแล้วโชคดีที่ขาย) แต่ตัวที่เข้าใหม่แม้จะแพงไปนิด ยิ่งซื้อยิ่งตกครับ 555

แต่ก็เป็นราคาที่เราซื้อเพราะว่ามี MOS พอสมควร ตัวเลข PE, PBV ก็ดูสมเหตุสมผลกว่า ถือแล้วค่อนข้างสบายใจ

อีก 3 เดือนไว้จะลองมาอัพเดตใหม่ ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
armaty
Verified User
โพสต์: 200
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ผมว่าคนที่แนะนำก่อนหน้านี้ถ้ามาเจอเหตุการณ์ตอนนี้อาจเปลี่ยนแปลงคำแนะนำก็ได
ไม่มีอะไรแน่นอนในตลาดหุ้นจริงๆเลยครับ
เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า ราคาตอนที่คุณเข้าซื้อ คุณไม่ได้จ่ายเงินซื้อมาในราคาที่แพงเกินไป แค่นี้ก็เพียงพอกับการที่จะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
คนหลังเขา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ขอแชร์บ้างครับ

โดยส่วนตัวก็ไม่ได้ทำอะไรสลัับซับซ้อน ทำงานไปลงทุนไป
แค่คิดว่าเงินทองที่เราหามาจากน้ำพักน้ำแรง เอามาลงทุนในกิจการต่างๆที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
เพียงแต่เน้นที่ว่ามูลค่า ณ ตอนเข้าซื้อกับอนาคต3-6ปี จะต้องเติบโตขึ้นตามยอดขายและกำไร
ซึ่งผมจะมองup sideเผื่อไว้สูงสักหน่อย เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่เราซื้อแพงเกินไป แล้วราคาร่วง
อย่างน้อยก็ยังมีup sideมหาศาลรอเราอยู่
ดังนั้นหลังจากจบเฟสลงทุน ก็จะไม่ค่อยไปแตะหุ้น เว้นแต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
ถ้าหากช่วงไหนไม่เจอหุ้นก็ชิวๆไปครับ เก็บเงินสดที่ทำมาหาได้เอาไว้ รอลงทุนเฟสต่อไป
ถ้าเจอหุ้นแล้ว ศึกษาแล้วดีจริง ค่อยขยับ ผมไม่นิยมเปลี่ยนม้าขี่ เหยียบยอดคลื่น
เคยลองแล้ว รู้ศึกขัดกับจริตอย่างแรง

ผมอยากจะฝากถึงนักลงทุนท่านอื่นๆ การลงทุนนี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตลาดหุ้นอย่างเดียว
เราสามารถลงทุนสร้างธุรกิจดีๆได้ด้วยตนเอง. หรือปรับใช้หลักการลงทุนในหุ้นเข้ามาใช้
ในธุรกิจ ซึ่งข้อดีของการทำธุรกิจเองก็คือเรื่องนโยบาย กลยุทธ์ การสร้างทีม เราเป็นผู้กำหนด
เกิดอะไรดีไม่ดีเราก็รู้ก่อนใคร มันเป็นเกมของเราเอง กระแสเงินสดเข้ากระเป๋าเราเต็มๆ
ซึ่งตรงนี้สามารถนำไปต่อยอดในตลาดหุ้น ใช้เป็นฐานส่งให้เราเติบโตขึ้นไปอีก หรือในอีกแง่
ในยามตลาดร่วงหนัก ตรงนี้ก็จะเป็นเบาะรองรับกันกระแทกได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นแต้มต่อด้วยครับ
ทุกวันนี้ผมเอง นอกจากทำธุกิจเดิมอยู่ โดยเน้นนโยบายgrowth business ก็ยังมองหาธุรกิจ
อื่นมาต่อยอดธุรกิจเดิม ทั้งนี้ต้องเ็นไปด้วยความรอบคอบ ละเอียด เสี่ยงต่ำ
ขอเพียงเราสลัดคำว่าขี้เกียจออกไปจากตัว. ก็ไม่ใช่เรื่องยากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ พี่คนหลังเขา ผมเหมือนพี่อย่างหนึ่งตรงที่ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนม้าขี่
ลงทุนศึกษามานานก็ต้องมั่นใจในตัวธุรกิจและปล่อยให้มันทำงานแทนเราบ้าง ใช่ไหมครับ

ตอนนี้เงินลงทุนส่วนใหญ่ของผมอยู่ในหุ้นเกือบหมด (เป็นเงินเย็นและไม่มีหนี้เงินกู้ใดๆ)
ส่วนเงินที่จะมาทยอยซื้อเพิ่มเติมก็มีจำนวนน้อยมากแล้วเมื่อเทียบกับขนาดพอร์ท เพราะต้องกันเอามาใช้จ่าย และเตรียมเก็บไว้แต่งงาน ^^

ที่ตั้งกระทู้ในตอนแรกเหตุผลคือช่วงนี้ตลาดหุ้นขึ้นมาเยอะ ดูแล้วค่อนข้างแพง และไม่ต้องการที่จะจับจังหวะตลาด
เลยมีความคิดว่าควรจะทำอย่างไรที่จะรักษาเงินต้นไว้ให้มากที่สุดในจังหวะที่ตลาดร่วง แบบช่วงนี้นะครับ

หลังจากคิดอยู่นาน ก็ทำแบบเฮียคลายเครียดแนะนำ ใช้คลายเครียดเรโช ถ้าคิดว่ามันแพงแล้วก็แบ่งขายไปบ้างเถอะ จะได้ไม่ต้องมากลุ้มใจ

ปัญหาคือ ไอ้ตัวที่ขายมันลงน้อยกว่าตัวที่ซื้อใหม่นี่สิ 555 สงสัยตอนซื้อมองโลกในแง่ดีเกินไป เห็นแล้วอยากขายตัวที่ลงมาเยอะไปซื้อตัวเดิมที่ลงมาน้อยแทนนะครับ ><
schwartz_IR
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 676
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

เหมือนผมเลย
ตัวที่ขาย ไม่ลง กับลงน้อย
ไอ้ที่ไม่ขาย ลงซะ

จริงๆ แล้ว การกะจะ short against port
ก็อาจจะไม่ได้เนื้อได้หนัง เพราะ ขาย ก็ไม่ได้ high ซื้อกลับก็ไม่ได้ low
เสียค่า com สองขาอีก
รวมๆ ก็ได้ไม่กี่สตางค์
(คือผมคงจับจังหวะ ไม่เปนน่ะ)

cyprus เที่ยวนี้ ตลาด ตปท เขาก็ไม่ได้ panic เหมือนตอน greece -exit
ด้วยซํ้า แต่ตลาดบ้านเรา มันขึ้นอย่าง sharp มาเยอะ ก็เลยเปนอย่างที่เหน

แล้วก็ต้อง ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ (อีกแล้ว) ครั้งแล้ว ครั้งเล่า :p
growth mindset
คนหลังเขา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าครับคุณsaran
แอบนิยมผลงานของคุณsaranบ่อยๆ ละเอียดดีจริงๆครับ

ผมเห็นด้วยกับที่ว่าหุ้นค่อนข้างแพง แต่ผมขอขยายสักนิดได้ไหมครับ
หุ้นหลายๆตัวบ้านเราที่ว่าแพงนั้น
"ถึงจะแพง แต่ก็แพงอย่างมีคุณภาพครับ"
ขณะที่ตัวที่ถูก ค่าพีอีต่ำ ก็ถูกด้วยเหตุผลที่ว่าคุณภาพไม่ถึง
ไม่ว่าจะเป็นpotential ,power, position ทางธุรกิจ
ล้วนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนมั่นใจในการเติบโตของกำไรในระยะยาวได้

เรา(vi)ชอบวัดการเติบโตของพอร์ตลงทุน โดยที่ตัวที่ใช้อ้างอิงแรกสุดเลยก็คือset index
ถ้าโตน้อยกว่าsetถือว่าน่าผิดหวัง ตัวต่อไปก็จะวัดกับเพื่อนๆกลุ่มเดียวกัน ขึ้นไปอีกก็อาจจะไปเทียบกับviดังๆ
มันกลายเป็นค่านิยมไปแล้วมั้งครับ และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงของการเปลี่ยนม้าขี่บ่อยๆมั้งครับ

ผมเองชอบเปรียบเทียบการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ กับการลงทุนทำธุรกิจเอง(ซึ่งอาจจะจ้างพนง.ทำ)
โดยทั่วไปการลงทุนทำธุรกิจนั้น กว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวกำไรก้อนแรกได้ ก็ต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง
บางครั้งอาจจะเป็นปีๆ การลงทุนในหุ้นผมก็ใช้หลักการเดียวกัน หมดจากเฟสลงทุน เฟสต่อไปก็คือเฟสแห่งการรอ
หลังจากนั้นจึงเป็นเฟสเก็บเกี่ยว ห็นไหมครับ มันคล้ายๆกับการทำนาเลย
ผมจะมีความสุขมากถ้าเงินลงทุนมันผลิดอกออกผล และจะสุขที่สุดถ้าเงินปันผลสะสม coverเงินลงทุนก้อนนั้น
ผมคิดว่าผมคล้ายๆคุณsaranในการถือลงทุนยาว ดังนั้นจุดที่สำคัญที่สุดในการลงทุนคือการเลือกธุรกิจ
ปีๆหนึ่งผมจะหาหุ้นที่จะลงทุนได้อย่างมาก1หรือ2ตัวเท่านั้น บางทีก็ไม่เจอไปหลายๆเดือน
ส่วนหนึ่งมให้เวลากับธุรกิจตัวเองมากกว่า เพราะมันเป็นเครื่องผลิตเงินสดที่ไม่มีวันเจ๊ง ให้เรานำมาต่อยอดในตลาดหุ้น

ผมอยากจะเถียงคุณsaranสักเรื่องจะได้ไหมครับ ที่บอกว่า "เงินที่นำมาทยอยซื้อเพิ่มเติมมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดพอร์ต" ไอ้ขนาดพอร์ตที่คุณsaranว่าใหญ่เนี่ย ผมเชื่อเหลือเกินครับว่ามันโตมาจากเงินก้อนน้อยๆของคุณsaranเมื่อในอดีต และก็โตมาด้วยฝีไม้ลายมือของคุณsaranล้วนๆ ฉันใดก็ฉันเพล ครับ
เงินน้อยๆในปัจจุบันก็ย่อมเติบโตเป็นก้อนใหญ่ได้ในอนาคต อย่าได้ดูแคลนครับ และอย่าขี้เกียจสิครับ > <
ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

1-2 ปี เอาอันนี้ไปเลย

หุ้นที่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญกับประเทศ ยิ่งขนาดเศรษฐกิจใหญ่ก็จะเติบโตไปด้วย

ไอ้คำว่าหุ้นแข็งแกร่งในหนังสือฝรั่งกับหุ้นแข็งแกร่งที่เห็นในบ้่นเรามันต่างกัน

เพราะ ไทยแลนด์แดนสไมล์ นั้น เมื่อก่อน ด้อยพัฒนา มาเป็น กำลังพัฒนา มา กำลังพัฒน้าพัฒนา และจะกลายเป็นปั้ดตะนาแล้ว

ถึงคุณ saran ถือสองปีแล้วแต่ยังต้องกางเต้นอยู่บนดอย ก็ถือต่อไปได้เพราะมันจะกลับมา หรือถ้ามันไม่มาฝากให้ลูกถือต่อ เด่วมันก็มา

ถึงหุ้นตกทั่วแดนก็ขอให้ไทยแลนด์เจริญ ไชโย :'O
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ขอบคุณมากครับ พี่คนหลังเขา พี่Suysak

สิ้นเดือน พ.ค. ก็ครบ 8 ปีการลงทุนของผมแล้วครับ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้พอประมาณ จากดัชนี 670 มาถึงปัจจุบันที่ 1,500 จุด ผลตอบแทนทบต้นของพอร์ทเฉลี่ยอยู่ที่ปีล่ะ 20% เองครับ น้อยกว่าคนอื่นๆเค้าเยอะ :oops:

ผมเองหลังจากผ่าน Subprime มาทำให้ใจหนึ่งขึ้นและกลับมาโฟกัสที่หลักการลงทุนมากขึ้นครับ ตอนนั้น set ลง 48% แต่ผมเก่งกว่าลงเกือบ 60% 555 บทเรียนคราวนั้นสอนอะไรได้หลายอย่างเลยครับ อย่างหลักการถือยาวในธุรกิจที่ดี อันนี้สามารถถือได้ครับถ้าเข้าใจตัวธุรกิจดีจริงๆ พร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่หลอกตัวเองว่าอนาคตมันน่าจะดี ไปซื้อแพงและทนถือไปรอคอยว่ามันจะกลับมา

ขอออกตัวก่อนว่าขนาดพอร์ท มันไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากหรอกครับ 8 หลักต้นๆ แต่เงินที่เหลือจากงานประจำที่จะเอามาลงทุนต่อมันเหลือ
ไม่กี่พันบาทต่อเดือน แน่นอนว่ายังเอามาทยอยลงทุนต่อเนื่องอยู่ครับ ขอบคุณสำหรับคำสอนครับ

ส่วนคำแนะนำของพี่ Suysak
ผมได้ทดลองทำกับพอร์ทใหม่อันหนึ่งอยู่ครับ แบ่งทยอยสะสมในหุ้นที่คิดว่าดี DCA ไปเรื่อยๆไม่ต้องคิดมาก ลงทุนซื้อทุกๆ 2 เดือน (ที่ต้อง 2 เดือนครั้ง เพราะจำนวนเงินมันน้อยครับ เดือนหนึ่งซื้อทีตังค์ไม่พอ 555)
พอร์ทนี้เพิ่งเริ่มต้นตอนเดือน มิ.ย. 55 ครับ ตัวที่เลือกมีได้แก่ BGH, BLA, CPF, DCC, MINT
ไว้รอครบ 3 ปี แล้วค่อยมาดูกันอีกที
คนหลังเขา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

@พี่Suysukอารมณ์ดีจังเลยนะครับ ^^ อยากบอกว่าแนวคิดผมคล้ายกับพี่มาก
@คุณSaran อยากทราบเหตุผลที่เลือกหุ้น5ตัวนี้ครับ
BGH, BLA, CPF, DCC, MINT
คุณSaranเลือกหุ้น5ตัวนี้ เป็นตัวแทนหุ้นที่มีdcaสูงๆ เพราะอะไร?
แล้วทำไมถึงไม่เลือหหุ้นอย่างcpn cpall scblif etc.ล่ะครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

คนหลังเขา เขียน:@พี่Suysukอารมณ์ดีจังเลยนะครับ ^^ อยากบอกว่าแนวคิดผมคล้ายกับพี่มาก
@คุณSaran อยากทราบเหตุผลที่เลือกหุ้น5ตัวนี้ครับ
BGH, BLA, CPF, DCC, MINT
คุณSaranเลือกหุ้น5ตัวนี้ เป็นตัวแทนหุ้นที่มีdcaสูงๆ เพราะอะไร?
แล้วทำไมถึงไม่เลือหหุ้นอย่างcpn cpall scblif etc.ล่ะครับ?
อ่า dca ของผมคือ dollar cost average ครับ อาจจะเข้าใจผิดกัน ขออภัย

ส่วนที่เลือก 5 ตัวนี้ ก็สุ่มถามเอาจากคนรอบข้างนะครับ ไม่ใช้หลักการอะไรเลย เอาแค่ทุกคนเข้าใจและเชื่อแค่ว่าธุรกิจของบริษัทนั้นดีจริงๆ

พอร์ทนี้ผมตั้งใจจะเอาไว้ให้คนที่ไม่สนใจลงทุนในหุ้นดูว่า
แม้ว่าเราไม่มีความรู้ในหุ้นใช้แต่ระยะเวลากับวินัยในการลงทุนที่นานพอก็ (น่าจะ) สร้างผลตอบแทนที่ดีพอสมควรได้ระดับหนึ่ง โดยไม่ต้องเสียเวลากับการวิเคราะห์ธุรกิจมากนักครับ
คนหลังเขา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

คุณSaran แนวคิดยอดเยี่ยมมากครับ :bow:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

Re: ขอคำแนะนำสำหรับคนที่ถือหุ้นอยู่ตลอดเวลาหน่อยครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

มา update กระทู้ตัวเองที่เคยตั้งคำถามไว้ ปีนี้ท่าทางจะโดนนายตลาดสอนมวยไปอีกหลายดอกครับ
ตอนนี้ผมยังใช้วิธีถือหุ้นไปตลอดเวลาเหมือนเดิม แน่นอนตลาดตกพอร์ตเราก็ลดลงด้วยเป็นเรื่องธรรมดา

ณ ตอนนี้ SET ปิดภาคเช้าอยู่ที่ 1,394.35 จุด กลับมาอยู่ที่ระดับเดียวกับตอนสิ้นเดือนธ.ค. 2012 แล้วครับที่ 1,391.93 จุด
เทียบแล้ว ตลาดผลตอบแทนไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย แต่พอร์ตผมยัง +3.5% ครับ ชนะตลาดอยู่ 555
แต่ถ้าเทียบกับ SET TRI แล้วแพ้ครับ ผลตอนแทนน่าจะอยู่ราวๆ +5% ต้องรอตลาดอัพเดตดัชนีพรุ่งนี้อีกที

ที่ผ่านมาหุ้นดีๆแต่ราคามันดูแพงๆหลายตัวที่มีอยู่นั้น ผมได้ค่อยๆทยอยขายลดพอร์ต ปรับไปซื้อเก็บหุ้นที่มีราคาถูกกว่าแทน ไม่สิ
เรียกได้ว่าไปซื้อหุ้นที่คิดว่ามันมีความคุ้มค่าที่จะถือมากกว่าแทนครับ

ที่ผ่านมาตอบความคิดตัวเองได้มากขึ้น การถือหุ้นดีๆราคาแพงๆบางคนทนได้ แต่ผมทำไม่ได้แหะ แม้ว่าหุ้นดีๆมันจะมีก้น พอตกมาถึง
จุดๆหนึ่งมันก็พร้อมที่จะขึ้นไปใหม่ได้ แต่การจะไปซื้อหุ้นที่มี Forward PE 20 แล้วตกมาเหลือ 15 เทียบกับหุ้นที่มี Forward 10
ลงมาเหลือ 8 ผมก็ยังสบายใจในการซื้อหุ้นที่มี Forward PE 8 มากกว่า 15 อยู่ดี แม้ว่าบริษัทอาจดีสู้บริษัทที่มี PE 15 ไม่ได้
แต่กลับกันก็ยังได้เงินปันผลในระดับที่ดีกว่าแทน

อีกอย่างการถือหุ้นที่แพงไปแล้วและไม่ได้เปลี่ยนตัว มันทำให้เราไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างหนึ่งของการเป็นนักลงทุนรายย่อยในเรื่อง
ความคล่องตัวที่จะสลับตัวได้ง่ายกว่าพวกรายใหญ่หรือกองทุนด้วย ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าพอร์ตผมเริ่มกลับมาเป็นพอร์ตที่มี PE เฉลี่ย
ต่ำกว่าตลาดไปแล้ว

อ้อ อีกอย่างผมยังคอยลงทุนในส่วนของพอร์ต DCA ที่กล่าวไปข้างต้นนั้นอยู่ด้วย เพิ่งครบปีแรกไปเดือนนี้เอง ผลตอบแทนอยู่ที่ 7.7% ครับ

ไว้สิ้นปีค่อยมาอัพเดตต่ออีกที เพื่อไว้เป็นไดอารี่ เก็บไว้ย้อนอ่านดูอารมณ์ ความคิดและวิธีการลงทุนของตัวเองที่ได้ทำไปดูครับ