ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 1
ประเดิมกระทู้แรกครับ ผมเป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลอำเภอหลายปีแล้ว ไม่ได้ไปเรียนต่อไม่ได้เปิดร้าน
ตอนแรกตั้งใจจะทำแต่ราชการ ที่ผ่านมาถือว่าพออยู่ได้.
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่าตอบแทนแพทย์ หลักๆเลยคือตัดหรือลดเงินเหมาจ่ายที่เคยได้เปลี่ยนเป็นp4p
ในหลักการน่าจะดีนะครับทำมากได้มาก แต่ประเด็นคือทำมากก็อาจได้เต็มที่แค่เท่าเดิม บวก ลบ
รวมถึงนโยบายของภาครัฐและแพทยสภา ที่ดูเหมือนไม่สนับสนุนให้แพทย์อยู่ในชุมชน เน้นผลิตให้มากท่าเดียว
คำถามครับ ผมไม่อยากลาออกตอนนี้มีพอร์ตLTF/RMFเกือบล้าน หุ้นยังไม่เคยซื้อแต่อ่านหนังสือมาเป็นปี
ซื้อหุ้น รพ เอกชน เพื่อhedgeตัวเองไว้ทำงานที่ชอบ เป็นอย่างไรบ้างครับ
ตอนแรกตั้งใจจะทำแต่ราชการ ที่ผ่านมาถือว่าพออยู่ได้.
วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่าตอบแทนแพทย์ หลักๆเลยคือตัดหรือลดเงินเหมาจ่ายที่เคยได้เปลี่ยนเป็นp4p
ในหลักการน่าจะดีนะครับทำมากได้มาก แต่ประเด็นคือทำมากก็อาจได้เต็มที่แค่เท่าเดิม บวก ลบ
รวมถึงนโยบายของภาครัฐและแพทยสภา ที่ดูเหมือนไม่สนับสนุนให้แพทย์อยู่ในชุมชน เน้นผลิตให้มากท่าเดียว
คำถามครับ ผมไม่อยากลาออกตอนนี้มีพอร์ตLTF/RMFเกือบล้าน หุ้นยังไม่เคยซื้อแต่อ่านหนังสือมาเป็นปี
ซื้อหุ้น รพ เอกชน เพื่อhedgeตัวเองไว้ทำงานที่ชอบ เป็นอย่างไรบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 3
คือถือรพ.ที่เลือกไว้ค่อยๆสะสมแทนที่ต้องไปทำเอกชน คิดเล่นๆว่าเราได้ค่าแรงเท่าไรเทียบกับถ้าต้องลาออก
แล้วต้องสะสมไปอีกเท่าไร คงมีเวลาอีกสักพักก่อนที่จะอยู่ต่อไม่ไหว เพราะนโยบายบ้านเราระบบเอื้อให้เอกชนมากจริงๆ ทำเมดิคอลฮับ ผลิตแพทย์มากๆ กดค่าแรง นำเข้าแพทย์ต่างชาติ แข่งตรงๆยังสู้ไม่ได้นี่ต่อให้อีกช่องว่างของรัฐ-เอกชนห่างขึ้นทุกที
พอดีได้ไอเดียจากที่มีคนพูดว่าอสังหาท้องถิ่น ซื้อหุ้นอสังหาที่มาบุกพื้นที่
ผมคงฟุ้งซ่านไป จริงๆก็ตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว ยินดีล่วงหน้ากับท่าที่ถือหุ้น รพ ไว้เลยครับ
แล้วต้องสะสมไปอีกเท่าไร คงมีเวลาอีกสักพักก่อนที่จะอยู่ต่อไม่ไหว เพราะนโยบายบ้านเราระบบเอื้อให้เอกชนมากจริงๆ ทำเมดิคอลฮับ ผลิตแพทย์มากๆ กดค่าแรง นำเข้าแพทย์ต่างชาติ แข่งตรงๆยังสู้ไม่ได้นี่ต่อให้อีกช่องว่างของรัฐ-เอกชนห่างขึ้นทุกที
พอดีได้ไอเดียจากที่มีคนพูดว่าอสังหาท้องถิ่น ซื้อหุ้นอสังหาที่มาบุกพื้นที่
ผมคงฟุ้งซ่านไป จริงๆก็ตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว ยินดีล่วงหน้ากับท่าที่ถือหุ้น รพ ไว้เลยครับ
- peacedev
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 4
ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากเลยครับ
แต่หุ้นที่ไปลงทุนไว้ควรเป็นหุ้น under value ครับ
ซึ่งในกลุ่ม รพ ค่อนข้างหายาก ส่วนใหญ่ตลาดให้ premium สูงมากครับ
หุ้นที่ลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็น รพ เพียงอย่างเดียวครับ
อะไรที่ให้ผลตอบแทนสูง ๆ เสี่ยงต่ำ ได้หมด
แต่หุ้นที่ไปลงทุนไว้ควรเป็นหุ้น under value ครับ
ซึ่งในกลุ่ม รพ ค่อนข้างหายาก ส่วนใหญ่ตลาดให้ premium สูงมากครับ
หุ้นที่ลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็น รพ เพียงอย่างเดียวครับ
อะไรที่ให้ผลตอบแทนสูง ๆ เสี่ยงต่ำ ได้หมด
http://peacedev.wordpress.com
"The Quant"
"The Quant"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 5
ยิ่งรพ.เอกชนรุ่งเรือง ระบบสาธารณสุขโดยรวมที่เป็นระบบรัฐสวัสดิการอาจจะกำลังถอยหลัง เราคิดว่าเรามาถูกทางไหม ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยังขาดโอกาส แต่เรากลับอาสาจะไปดูแลคนต่างชาติที่มีโอกาสเหลือล้น ที่สำคัญคนที่วางแนวทางไม่ใช่คนที่ด้อยโอกาสGitz เขียน:คือถือรพ.ที่เลือกไว้ค่อยๆสะสมแทนที่ต้องไปทำเอกชน คิดเล่นๆว่าเราได้ค่าแรงเท่าไรเทียบกับถ้าต้องลาออก
แล้วต้องสะสมไปอีกเท่าไร คงมีเวลาอีกสักพักก่อนที่จะอยู่ต่อไม่ไหว เพราะนโยบายบ้านเราระบบเอื้อให้เอกชนมากจริงๆ ทำเมดิคอลฮับ ผลิตแพทย์มากๆ กดค่าแรง นำเข้าแพทย์ต่างชาติ แข่งตรงๆยังสู้ไม่ได้นี่ต่อให้อีกช่องว่างของรัฐ-เอกชนห่างขึ้นทุกที
พอดีได้ไอเดียจากที่มีคนพูดว่าอสังหาท้องถิ่น ซื้อหุ้นอสังหาที่มาบุกพื้นที่
ผมคงฟุ้งซ่านไป จริงๆก็ตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว ยินดีล่วงหน้ากับท่าที่ถือหุ้น รพ ไว้เลยครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 135
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 6
ลองไปถามที่กระทู้นี้ครับ แพทย์เยอะ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=14&t=38993
แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณ E man ครับ
ประเด็นคือผมมองธุรกิจอื่นๆนอกจากรพ. ไม่ขาดครับ พอดีทำงานกึ่งบริหารและอาศัยคุยกับเพื่อนที่อยู่เอกชน
เลยโฟกัสที่กลุ่มนี้เป็นหลัก. แต่บางตัวผมว่าก็ไม่แพงนะครับเทียบกับตลาด
ประเด็นคือผมมองธุรกิจอื่นๆนอกจากรพ. ไม่ขาดครับ พอดีทำงานกึ่งบริหารและอาศัยคุยกับเพื่อนที่อยู่เอกชน
เลยโฟกัสที่กลุ่มนี้เป็นหลัก. แต่บางตัวผมว่าก็ไม่แพงนะครับเทียบกับตลาด
- KentaII
- Verified User
- โพสต์: 383
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 8
หุ่นโรงพยาบาล เป็นหุุ้นที่ดีครับ ดีทั้งอุตสาหกรรมเลย...แต่....ผมว่าราคามันไม่ถูกครับ เหมือนซื้อรถเบนซ์ เพื่อเอามาขับ มันดีกว่าโตโยต้าแน่ๆ....แต่...ราคาที่เราต้องจ่ายให้มัน กับ Value ที่มันให้เราคุ้มค่าหรือไม่ ตรงนี้แล้วแต่บุคคลครับ เพราะ value ของเงินเราไม่เท่ากัน...
ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "แมงเม่า" เขาผู้นั้นมักไม่ใช่แมงเม่า...แต่ผู้ใดบอกว่าตัวเองเป็น "เซียน" เขาผู้นั้น จะกลายเป็น แมงเม่าในไม่ช้า เพราะเขา "หยุดพัฒนาตนเอง"
-
- Verified User
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นในการลงทุนหุ้นโรงพยาบาลเพื่อทำHedgeตัวเอง
โพสต์ที่ 10
เข้าใจว่าคุณ Gitz พูดถึง Hedge ป้องกันความเสี่ยงจากรายได้ที่อาจจะลดในอนาคต ก็เลยลองมองเรื่องการลงทุนในหุ้น แล้วก็มองเลือกหุ้นโรงพยาบาลเป็นหลักเพราะทำงานในโรงพยาบาลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณได้เปรียบเยอะอยู่แล้วครับ นักลงทุน 99% เขาไม่มีข้อมูลที่คุณมี แต่อย่าลืมทำการบ้านเรื่องการเงินของโรงพยาบาล และคำนวณผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นให้ดี เป็นเรื่องสำคัญกว่าธุรกิจประจำวันที่คุณได้เห็นทั่วไป กำไรหรือขาดทุนอยู่ที่คุณซื้อรพ. ที่ดี และราคาเหมาะสม และก็เตรียมใจด้วย ว่าถ้าหุ้นลงจาก 1500 ไปเหลือ 800 คุณจะไม่ตกใจขายโรงพยาบาลดีๆ ของคุณออกไป
สำหรับผม ตัวอย่างการ Hedge ที่ผมใช้ คือ
1. บางช่วง ผมมีรายได้เป็นเงินดอลลาร์อเมริกา ผมซื้อหุ้นไทยในช่วงนั้น มันก็เป็นการลดความเสี่ยงรายได้ที่จะลดลงจากค่าเงินบาทแข็งเมื่อเทียบกับดอลลาร์
2. มีหุ้นสองบริษัทเป็นธุรกิจเดียวกัน เป็นคู่แข่งกัน ได้รับสัมปทานจากรัฐทั้งคู่ บริษัทหนึ่งสัมปทานหมดปีนี้ อีกบริษัทสัมปทานหมดปีหน้า ผมซื้อทั้งสองบริษัท เพื่อลดความเสี่ยงรายได้ลดจากการไม่ได้ต่อสัมปทาน (ของบริษัทแรกในปีนี้) และอาจมีการปรับสัดส่วนการถือทั้งสองบริษัทในระหว่างช่วงปีนี้ (เพราะนักลงทุนรับรู้การได้หรือไม่ได้ต่อสัมปทานของทั้งสองบริษัท ไม่พร้อมกัน)
เมื่อมีความไม่แน่นอน คนที่ hedge อย่างถูกต้องจะไม่มีปัญหาครับ
สำหรับผม ตัวอย่างการ Hedge ที่ผมใช้ คือ
1. บางช่วง ผมมีรายได้เป็นเงินดอลลาร์อเมริกา ผมซื้อหุ้นไทยในช่วงนั้น มันก็เป็นการลดความเสี่ยงรายได้ที่จะลดลงจากค่าเงินบาทแข็งเมื่อเทียบกับดอลลาร์
2. มีหุ้นสองบริษัทเป็นธุรกิจเดียวกัน เป็นคู่แข่งกัน ได้รับสัมปทานจากรัฐทั้งคู่ บริษัทหนึ่งสัมปทานหมดปีนี้ อีกบริษัทสัมปทานหมดปีหน้า ผมซื้อทั้งสองบริษัท เพื่อลดความเสี่ยงรายได้ลดจากการไม่ได้ต่อสัมปทาน (ของบริษัทแรกในปีนี้) และอาจมีการปรับสัดส่วนการถือทั้งสองบริษัทในระหว่างช่วงปีนี้ (เพราะนักลงทุนรับรู้การได้หรือไม่ได้ต่อสัมปทานของทั้งสองบริษัท ไม่พร้อมกัน)
เมื่อมีความไม่แน่นอน คนที่ hedge อย่างถูกต้องจะไม่มีปัญหาครับ