ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
โพสต์ที่ 1
สิ่งที่อ่านคือสิ่งที่เป็นการแสดงความเห็นส่วนบุุคคล
ตอนนี้หลายๆบริษัทออกข่าวเรื่องการตั้งกองอสังหาริมทรัพย์
แค่ข่าวนี้ ราคาหลักทรัพย์ที่ดำเนินการก็ออกอาการกระดี้ดระด้า เหมือนปลาได้น้ำใหม่
ทำไมเป็นเช่นนั้น อะไรที่ทำให้บริษัทถึงสร้างพิมพ์นิยมนี้ละ มาตามดูกัน
สิ่งที่บริษัททำคือขายสินทรัพย์ที่ดินแลอาคาร ให้แก่กองทุนอสังริมทรัพย์ โดยที่มีเงื่อนไขว่า เจ้าของสินทรัพย์เป็นผู้ถือลงทุนในกองทุนที่จัดตั้งด้วย สิ่งแรกที่บริษัทได้คือเงินสด ที่เป็นหัวใจในการทำธุรกิจ เข้าในงบกระแสเงิน ในกิจกรรมการลงทุน ต่อมาที่ได้คือ กำไรจากการขายสินทรัพย์ คือที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เข้าในส่วนของงบกำไรขาดทุนท่อนบน (เข้ากำไรสุทธิ) ประการต่อมาที่ได้คือ ค่าเสื่อมที่บริษัทรับรู้นั้น หายไปจากการขาย ที่ดิน (ไม่มีค่าเสื่อม) อาคารและอุปกรณ์ (มีค่าเสื่อม) ส่วนผมทำให้บริษัทจดทะเบียนแสดงกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นต้องการ และ เป็นสิ่งที่บริษัทต้องการ ต่อมาก็เช่าที่ดิน อาคารและสำนักงานมาใช้ดำเนินงาน (อันนี้แหละที่ทำให้ปวดหัว ว่าเจ้าข่าย operation lease หรือเปล่า ถ้าเข้าก็ต้องเห็น แต่อาจจะเถียงผู้ตรวจสอบว่า บริษัทและกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นคนเดียวกัน แต่จริงๆมันเป็นการซ่อน operation lease ตรงๆเลย) สิ่งที่บริษัทเสียคือเงินสดที่เป็นค่าเช่า แถมค่าเช่าไม่ขึ้น 3 ปี (ประมาณ 3 ปีปรับค่าเช่าครั้งหนึ่งจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์) เงินสดที่เสียไปเป็นค่าเช่า ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทนั้น สามารถลดภาษีที่บริษัทจ่ายลง
ส่วนประเด็นการซ่อมอาคาร และอุปกรณ์ เป็นหน้าที่ของผู้เช่า และเป็นสมบัติของกองทุนหรือบริษัทต้องอ่านในเอกสารชี้ชวนของกองทุน
ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาได้อะไรคืนมา
สิ่งที่ได้คือ เงินปันผล (บางกองจะเอาเงินต้นคืนให้พร้อมปันผล)
รายได้ของนักลงทุนที่ลงทุนกองทุนอสังหาคือปันผลนั้นเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10% และ ไม่สามารถขอคืนภาษีได้อีกต่างหาก
รายได้ของกองทุนคือให้เช่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ได้เป็นค่าเช่าปรับเพิ่ม ทุก 3-5 ปี
ดังนั้น สิ่งที่บริษัททำคือ เอาสินทรัพย์ออกให้บริษัท เพิ่มรายได้ชั่วคราว มีรายจ่ายคงที่ไป 3 ปี และปรับเพิ่มทุก 3 ปี กำไรเพิ่มขึ้น (ลดภาษี และค่าใช้จ่ายลง) ในระยะยาว แต่ระยะสั้นรับรู้รายได้จากการขาย
นักลงทุนได้แต่เศษจากค่าเช่า แต่เพิ่มความเสี่ยงหาก บริษัทไม่เช่าต่อก็หาผู้เช่าต่อได้ยากพอควร
ดังนั้นกองทุนอสังหา มันเหมือนการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน บริษัทจดทะเบียนที่มีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์มากๆ ถึงได้ทำกองทุนอสังออกมาขาย
ตอนนี้หลายๆบริษัทออกข่าวเรื่องการตั้งกองอสังหาริมทรัพย์
แค่ข่าวนี้ ราคาหลักทรัพย์ที่ดำเนินการก็ออกอาการกระดี้ดระด้า เหมือนปลาได้น้ำใหม่
ทำไมเป็นเช่นนั้น อะไรที่ทำให้บริษัทถึงสร้างพิมพ์นิยมนี้ละ มาตามดูกัน
สิ่งที่บริษัททำคือขายสินทรัพย์ที่ดินแลอาคาร ให้แก่กองทุนอสังริมทรัพย์ โดยที่มีเงื่อนไขว่า เจ้าของสินทรัพย์เป็นผู้ถือลงทุนในกองทุนที่จัดตั้งด้วย สิ่งแรกที่บริษัทได้คือเงินสด ที่เป็นหัวใจในการทำธุรกิจ เข้าในงบกระแสเงิน ในกิจกรรมการลงทุน ต่อมาที่ได้คือ กำไรจากการขายสินทรัพย์ คือที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เข้าในส่วนของงบกำไรขาดทุนท่อนบน (เข้ากำไรสุทธิ) ประการต่อมาที่ได้คือ ค่าเสื่อมที่บริษัทรับรู้นั้น หายไปจากการขาย ที่ดิน (ไม่มีค่าเสื่อม) อาคารและอุปกรณ์ (มีค่าเสื่อม) ส่วนผมทำให้บริษัทจดทะเบียนแสดงกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นต้องการ และ เป็นสิ่งที่บริษัทต้องการ ต่อมาก็เช่าที่ดิน อาคารและสำนักงานมาใช้ดำเนินงาน (อันนี้แหละที่ทำให้ปวดหัว ว่าเจ้าข่าย operation lease หรือเปล่า ถ้าเข้าก็ต้องเห็น แต่อาจจะเถียงผู้ตรวจสอบว่า บริษัทและกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นคนเดียวกัน แต่จริงๆมันเป็นการซ่อน operation lease ตรงๆเลย) สิ่งที่บริษัทเสียคือเงินสดที่เป็นค่าเช่า แถมค่าเช่าไม่ขึ้น 3 ปี (ประมาณ 3 ปีปรับค่าเช่าครั้งหนึ่งจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์) เงินสดที่เสียไปเป็นค่าเช่า ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทนั้น สามารถลดภาษีที่บริษัทจ่ายลง
ส่วนประเด็นการซ่อมอาคาร และอุปกรณ์ เป็นหน้าที่ของผู้เช่า และเป็นสมบัติของกองทุนหรือบริษัทต้องอ่านในเอกสารชี้ชวนของกองทุน
ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาได้อะไรคืนมา
สิ่งที่ได้คือ เงินปันผล (บางกองจะเอาเงินต้นคืนให้พร้อมปันผล)
รายได้ของนักลงทุนที่ลงทุนกองทุนอสังหาคือปันผลนั้นเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10% และ ไม่สามารถขอคืนภาษีได้อีกต่างหาก
รายได้ของกองทุนคือให้เช่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ได้เป็นค่าเช่าปรับเพิ่ม ทุก 3-5 ปี
ดังนั้น สิ่งที่บริษัททำคือ เอาสินทรัพย์ออกให้บริษัท เพิ่มรายได้ชั่วคราว มีรายจ่ายคงที่ไป 3 ปี และปรับเพิ่มทุก 3 ปี กำไรเพิ่มขึ้น (ลดภาษี และค่าใช้จ่ายลง) ในระยะยาว แต่ระยะสั้นรับรู้รายได้จากการขาย
นักลงทุนได้แต่เศษจากค่าเช่า แต่เพิ่มความเสี่ยงหาก บริษัทไม่เช่าต่อก็หาผู้เช่าต่อได้ยากพอควร
ดังนั้นกองทุนอสังหา มันเหมือนการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน บริษัทจดทะเบียนที่มีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์มากๆ ถึงได้ทำกองทุนอสังออกมาขาย
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
โพสต์ที่ 3
ความเสี่ยงคือตั้งกองแล้วขายมิได้
การวิเคราะห์บริษัทยุ่งยากมากขึ้น จากเดิมตรงไปตรงมากลายเป็นการเช่าแทน
งบการเงินของบริษัทไม่มีความสม่ำเสมอของรายได้ ถ้าปีไหนมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน
ทำให้รายได้โตผิดปกติ
การวิเคราะห์บริษัทยุ่งยากมากขึ้น จากเดิมตรงไปตรงมากลายเป็นการเช่าแทน
งบการเงินของบริษัทไม่มีความสม่ำเสมอของรายได้ ถ้าปีไหนมีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน
ทำให้รายได้โตผิดปกติ
- RookieVI
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 162
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
โพสต์ที่ 4
อันนี้จริงเหรอครับ เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เองmiracle เขียน: ...
ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาได้อะไรคืนมา
สิ่งที่ได้คือ เงินปันผล (บางกองจะเอาเงินต้นคืนให้พร้อมปันผล)
รายได้ของนักลงทุนที่ลงทุนกองทุนอสังหาคือปันผลนั้นเสียภาษี ณ ที่จ่าย 10% และ ไม่สามารถขอคืนภาษีได้อีกต่างหาก
รายได้ของกองทุนคือให้เช่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ได้เป็นค่าเช่าปรับเพิ่ม ทุก 3-5 ปี
...
แล้วเหตุผลที่ไม่สามารถขอคืนภาษีได้นี่เพราะอะไรเหรอครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
โพสต์ที่ 5
เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้ากู้ bank มาทำอสังหาให้เช่ากว่าจะเก็บค่าเช่าใช้หนี้ bank หมดก็เป็น 10 ปี สู้เอาเข้ากองทุนดีกว่าได้เงินก้อนวันนี้เลย ไม่ต้องผ่อนแบงค์หัวตัวด้วย
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมบริษัทถึงชอบออกกองทุนอสังหาและ reits
โพสต์ที่ 6
ขอคืนได้ครับ ถ้าอัตราภาษีเงินได้เราต่ำกว่า 10%
ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ยากส์หน่อย แต่ว่าในทางกลับกัน
เงินปันผลจากกองทุนอสังหาฯ 40(8) นี้ก็ไม่จำเป็น
ต้องนำมารวมกับรายได้อื่นๆ ในการคำนวณภาษี
ถ้ารายได้เราอยู่ในอัตราภาษีที่เกิน 10% ก็น่าจะเป็น
ประโยชน์เช่นกัน
ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ยากส์หน่อย แต่ว่าในทางกลับกัน
เงินปันผลจากกองทุนอสังหาฯ 40(8) นี้ก็ไม่จำเป็น
ต้องนำมารวมกับรายได้อื่นๆ ในการคำนวณภาษี
ถ้ารายได้เราอยู่ในอัตราภาษีที่เกิน 10% ก็น่าจะเป็น
ประโยชน์เช่นกัน
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.