ยกเลิกพรฏ.แปรรูปกฟผ.

[redvdox]

ขอออกความเห็นบ้างนะคับ

ที่ท่านนายกบอกว่า 'แค่ผิดพลาดทางเทคนิค' ก็แสดงว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะ 'ทำให้ถูกต้องทางเทคนิค' แล้วนำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ในเวลาที่คนเริ่มลืม

เพราะดูจากข้อตัดสินแล้ว

1. มีการส่งคนของตัวเองที่มี่สวนได้ส่วยเสียไปเป็นคณะกรรมการ จัดเตรียมการตั้งบริษัท /คงจะแก้โดยการส่งตัวแทนนอมินีเข้าไปเป็นกรรมการ

2. การทำประชาพิจารณ์ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนด /คงจะแก้โดยการทำให้ถูกต้องตามข้อกำหนด (ออกทีวี,ลงหนังสือพิมพ์,รับฟังความเห็นจากคนจำนวนมากขึ้น)

มีความเป็นไปได้สูงที่เค้าจะกลับมาใหม่

แต่ก็จะปฏิเสธซะทีเดียวไม่ได้ว่า 'ทักษิณไม่ได้ส่งคนของตัวเองเข้าไปเป็นตัวแทน' น่าเกลียดมากๆ เจตนาบ่งบอกว่า 'เค้าต้องการ'

[CK]

รอบหน้าไม่ส่งคนของตัวเองเข้าไปแล้วแน่นอนครับ
เพราะขาย SHIN ไปแล้ว

ตอนนี้ drive ที่จะแปรรูปฯ ก็ไม่มีแล้ว นอกจากเพิ่ม market cap.

[miracle]

อ่านคำแถลงการณ์ของตุลาการจบแล้วความยาว 43 หน้า
(อ่านรอบเดียว) มีที่เห็นผิดชัดเจนดังนี้
1. กรรมการแปรรูป ไม่ชอบด้วยกฏหมาย (ข้อสาม)
2. ที่ดินที่ อ.บางประกง ได้มาซึ่ง พรบ การเวนคืนที่ดิน ของ กฟผ และเรื่องระบบส่งไฟฟ้า(เสาไฟฟ้า เสาส่ง ที่ดินที่ตั้งเสา การบำรุงรักษา ตลาดจนการเข้าพื้นที่โดยที่ไม่ต้องบอกเจ้าของ) จุดนี้คือ ไม่ใช่แปรรูป เพราะใช้อำนาจของรัฐ (ตอนสรุป)
3. การพิจารณาการเพิกถอน พระราชกฤษฏีการทั้งสองฉบับนั้น ศาลปกครองสามารถทำได้ (ข้อที่1)
4.การประชาวิจารณ์การแปรรูปนั้นได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วยชอบด้วยกฏหมาย (ทำถูกแล้วแต่ผิดที่กรรมการที่ทำประชาวิจารณ์ที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเมือง)(ข้อสามจุดหนึ่ง)

อ่านแล้วปวดหัวเพราะยาวมากๆๆ แต่ประเด็นมันแตกมากเกินไป อ่านแล้ว มีแต่คำถาม หรือเราเราอ่านคำแถลงการณ์ไม่แจ้งเอง

ปล ส่วนคำพิพากษาคำตัดสินคดีนี้ ยาว 57 หน้านั้น
อ่านแล้วปวดหัวสุดๆๆๆ เล่นไม่ยกมาเป็นข้อๆ ทำให้อ่านยาก ไม่เหมือนอ่านหนังสือเลย ไปหาพาราเซตามอน ซักเม็ดก่อนล่ะ

เราว่าหาหุ้นง่ายกว่า

[ด๊กดิงด่าง]

เวลามีการเปลี่ยนแปลงอะไรโดยมนุษย์เราในภาวะที่จิตใจปกติ(มีสติทบทวน)มักจะเกิดจากการที่เราเห็นปัญหาที่ดำรงอยู่ว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือการเสียโอกาสในอนาคต  แล้วเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่คิดแล้วว่าดีกว่า(ไม่งั้นจะเปลี่ยนไปทำไม)ยกเว้นมีประโยชน์อื่นแอบแฝง(คอรัปชั่นเชิงนโยบาย ฯลฯ)ถ้าเปลี่ยนแล้วแย่ลงก็ต้องเปลี่ยนอีก  ปัญหาอยู่ที่จะประเมินส่วนได้เสียอย่างไรใครเป็นคนประเมิน(ปัญหาเรื่องลำเอียง)ว่าที่ดีกว่าดีอย่างไร  ที่แย่กว่าแย่อย่างไร  อันไหนดีกว่าก็เลือกอันนั้น  คนที่มีอำนาจในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง(ประสพการณ์ส่วนตัวผม)มักจะทำอะไรละเมิดกติกาบ้างนิดๆหน่อยๆเสมอ(คลอดผิดท่า)เพราะอะไรที่ดำรงอยู่ในกรอบกติกาเก่ามันเป็นปัญหาอยู่  แต่จะแก้กติกาก่อนที่ไม่ค่อยทำมักเป็นเรื่องที่จะกระทบในเรื่องอื่นๆที่อยู่ภายใต้กติกาเดียวกันที่อาจเกิดผลเสียมากกว่าการละเมิดกติกาเฉพาะเรื่อง แบบว่าหลิวตาข้างหนึ่งแล้วชดเชยด้วยสิ่งที่ดีกว่าในอนาคต  ส่วนเรื่องแอบแฝงคงตามน้ำแบบใช้ข้อมูลภายใน  ทั้งหมดนี่หมายถึงกติกาที่อ่อนๆไม่คอขาดบาดตายและเป็นการทำแบบเปิดเผยเป็นขั้นเป็นตอนไม่ไช่แบบฟ้าผ่านะครับ

[miracle]

ถ้าเรื่องนี้ปิดตาข้างเดียวคนที่เสียผลประโยชน์คือรัฐและประชาชน ที่ใช้ไฟฟ้า
เนื่องจากประเทศไทยเริ่มเปิดเสรีในการผลิตไฟฟ้า ใครใคร่จะผลิตก็ลงทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ตึกสำนักงานขนาดใหญ่ หรือว่าที่ไหน
ดังนั้น ถ้ายกตัวอย่างประเทศมาเลเซีย ตึกใหญ่ของเขามีโรงไฟฟ้าขนาดย่อม ทำให้เวลาที่ไฟฟ้าไม่ได้ใช้งานก็ปล่อยออกมาส่งระบบไฟฟ้าหลัก
ถ้ามองภาพออก สายส่งและเสาไฟฟ้า ที่ต้นใหญ่ๆๆ พาดกรุงเทพทางด้านตอนเหนือ คือ ลาดพร้าว แถว ธรรมศาสตร์ ใต้ถนนวิภาวดี-รังสิต
ทางด้านใต้คือพระรามสาม
ใต้ดินแถว ชิดลม (มีการไฟฟ้านครหลวงอยู่)
พวกนี้ ถ้ามีคนประมูลในเรื่องการส่งสายไฟฟ้า คนที่ประมูลราคาได้ จึงจะส่งกระแสไฟฟ้าให้แก่คนได้

และถ้ามีคณะกรรมการที่มีประสิทธิภาพค่อยดูแลเรื่องอัตราค่าไฟฟ้าอีก งานนี้ผู้บริโภคก็จะดีที่สุด

แต่ว่าสัมปาทานที่ว่านั้น ต้องมีอายุน้อยๆๆคือ 3-5 ปีประมูลที่หนึ่ง และต้องโปร่งใส ถึงขนาดโปร่งแสงด้วย
เน้นว่า โปร่งใสและโปร่งแสงด้วย
มิฉะนั้น จะทำให้ ระบบนี้เป็นไปไม่ได้

เอาล่ะภาพปัจจุบัน โรงไฟฟ้านั้นขายให้กฟผ และกฟผ ขายไฟฟ้าหรือผลิตไฟฟ้าอีกส่วนหนึ่งให้แก่ กฟน และ กฟภ นั้นคือทำตัวเหมือนระบบที่ว่าแล้วอ่ะ
ดูกันดีๆๆ ว่า ระบบไหนดีกว่าควรเอามาปรับใช้บนระบบเดิมได้ก็ปรับ แต่ทว่า เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดคนมันก็ไม่ยอมอยู่แล้ว
เพราะคนเรามันยึดติดที่ตั้งของตนเป็นสาระณะอยู่แล้ว
ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทดีที่สุด