Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนปลายข
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนปลายข
โพสต์ที่ 1
Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลก และ จากต้นจนปลายของการลงทุนวีไอ
ช่วงที่ 1 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลก
แขกรับเชิญ
- คุณทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD
- คุณวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ประธานคณะกรรมการ KAMART
- คุณอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน JUBILE
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ. ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช
กระแสหลักโลกมีอะไรได้บ้าง?
• หมอเค : 1) สังคมผู้สูงอายุ อายุยืนขึ้น 2) การเติบโต อินเตอร์เนท สามารถซื้อของจากที่บ้านได้ หรือใช้โทรศัพท์ซื้อขาย 3) การรักสวยงามของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 4) ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกต่างๆ เกริ่น
ถาม TVD จอร์จ-ซาร่า มีตัวจริงไหม?
• คุณทรงพล เอามาจากการแสดง Oh god George it’s so amazing โอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก คุยไปคุยมาในองค์กรคำมันติดปากก็เลยใช้เป็นคำที่ใช้โฆษณา
ถาม Jubile แหวนเพชร 7 กะรัตในข่าวมูลค่าเท่าไร?
• คุณอัญ : ตอบเหมือนในข่าว ว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว(ฮา) …การดูเพชรนอกจากเรื่องกะรัต แล้วยังมีอีก 3 ประเด็น คือ
o 1) สี : ต้อง ขาว ใส สีที่ดีที่สุดคือ D color ไร้สี ใสเหมือนน้ำเปล่า ภาษาพูดคือเพชรขาวที่สุด ถ้าเป็นสีเหลืองจะถูกกว่า
o 2) คุณภาพความสะอาด : คือไม่มีตำหนิ ถ้าอยู่ผิวนอกไม่นับเป็นตำหนิ ต้องส่องดูว่ามีจุดดำหรือขนแมว(รอยเส้น)ภายในเพชรหรือเปล่า มองยากไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
o 3) ลักษณะการเจียรนัย : ดูว่ามีความปิ๊ง มีประกายหรือเปล่า
o เพชรหน้ากลม มาตรฐานอยู่ที่ 58 เหลี่ยม การเจียรนัย สัดส่วน,ความเรียบร้อยในการเจียรนัย,ความสมมาตรของเพชร ด้านบน crown บริเวณกลาง Girdle ด้านล่าง Pavilion ทุกเหลี่ยมมุมต้องได้สัดส่วน จะทำให้เพชรมีประกาย
TVD มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?
• คุณทรงพล : ขายสินค้าผ่านสื่อ เป็นการตลาดแบบตรง เราเป็น multi-channel คนส่วนใหญ่จะรู้จัก Direct marketing คือ ทีวี, home-shopping นอกจากนี้ยังมีขายตรงช่องทางอื่น ได้แก่ ขายของทางโทรศัพท์ เช่น ผ่านไปรษณีย์(mail order), Direct mail เฉพาะคนเลย อย่างเครื่องสำอางค์จะใช้ Direct marketing เยอะ
• สินค้าที่จำหน่ายมีครอบคลุม 36 Categories สมัยแรกเรามีสัดส่วนเครื่องออกกำลังกาย 80-90% แต่ปัจจุบันเหลือเพียง10% ของยอดขาย(ลำดับที่ 6) สัดส่วนรายได้สินค้าอื่นที่มีมาก เช่น cosmetic 12.75%(เป็นลำดับที่ 1) , สินค้ากลุ่ม Health และสินค้าเครื่องครัว
• ช่องทางขายที่มีสัดส่วนมากสุด TV 48% เคยถดถอยช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมีการเติบโตของ satellite TV เข้ามาทำให้สัดส่วน TV ดูเหมือนโตมากกว่าปกติ โดยใน Free TV เรามีทุกช่อง Satellite TV เรามีครบ 12 platform จากปัจจุบัน 275 ช่อง เราซื้อ air time 75 ช่อง ซึ่งบางช่องขายสินค้าบางอย่างได้ดีกว่า มีลักษณะเฉพาะ ตัว ข้อดีของ Satellite TV ราคาไม่แพงมาก และไม่แย่งชิงเวลามากเหมือน Free TV
• รูปแบบการโฆษณาTV มี 3 แบบ ซื้อทั้งช่อง, เช่าช่วงเวลา, ซื้อเป็น spot โฆษณา ในช่วง 3-4 ปีหลัง มักจะทำเป็น Scoop 3-4 นาที
• สินค้าที่เราจำหน่ายบางครั้งก็เหมือนที่มีอยู่ในตลาดในห้าง แต่ด้วยช่องทางและวิธีการนำเสนอ ที่ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าของเรา
• เคยขายเพชรครั้งสุดท้ายเมื่อ 15 ปีก่อน ชุดละ 1 แสนกว่าบาท เป็นเพชรเบลเยี่ยมคัท 64 เหลี่ยม สีชมพู แต่มีประเด็นลำบากเรื่องของการส่งของ
• เราเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า แต่อยู่ในอากาศ
เพชรของจูบิลี่ มีกี่ประเภท มีกี่แบบ เพชรเบลเยี่ยมคัทแท้ต่างจากอย่างอื่นอย่างไร?
• คุณอัญ : ตัวธุรกิจ Retail management นำเข้าวัตถุดิบจากเบลเยี่ยม Create Design เอง เน้นที่คุณภาพการผลิตเครื่องประดับ และรูปแบบ design
• ที่ต้องเป็นเบลเยี่ยม เพราะเมือง Antwerp เป็น 1 ใน 5 ของเมืองที่เจียรนัยเพชรได้ดีที่สุดในโลก และ supplier ก็ส่งของให้จูบีลี่เพียงรายเดียวในประเทศไทย
• หัวใจสำคัญคือคุณภาพเพชร และคุณภาพการผลิตตัวเรือน
• เมกะเทรนด์คนเราสนใจอะไรที่เป็น image ทำให้ตัวเองดูดี เราจึงนำสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาสู่อุตสาหกรรมนี้ อย่างในปีนี้มีการ launch สินค้าใหม่ the excellence ในแหวน 1 วง มีส่วนประกอบ 10 ส่วนในครื่องประดับหนึ่งชิ้น ซึ่งกระบวนการผลิตต้องใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยทำให้สัดส่วนในตัวเรือนเห็นได้คมชัด
• การ Design ต้องสร้าง product entity ให้สอดคล้องกลุ่มลูกค้า เช่น young graduate, แหวนหมั้นแต่งงาน, อัญมณีสำหรับลงทุน ซึ่งจะมีการทำงานทั้งแบบ inside out และ outside in คือ Designer ต้องไปศึกษารูปแบบอัญมณีในโลกมาเพื่อออกแบบ ฝ่ายการตลาดก็ต้องทำ market research แล้วมาแชร์กับทีม designer เพื่อออกแบบให้สอดคล้องกับลูกค้า
• การผลิต ใช้ outsource มีโรงงานที่ผลิตให้ Jubile 10 โรงงาน โดยไม่ทำให้คนอื่น สาเหตุที่เราไม่ทำเอง เพราะแต่ละโรงงานมีความเชี่ยวชาญในการทำเครื่องประดับไม่เหมือนกัน เราจึงได้ความเชี่ยวชาญตรงนั้นเข้ามาในสินค้าของ jubilee
• ช่องทางจัดจำหน่ายมี 3 ส่วน 1) เคาท์เตอร์ 95 ร้าน 2) shop 5 ร้าน 3) ขายผ่าน catalog และผ่านทางธนาคารกรุงไทย ลีซซิ่ง
• เรื่องการรักษาความปลอดภัย ปกติขายในห้างก็จะมี security อยู่แล้ว และตู้เราเองก็จะมีสัญญาณเตือนภัย รวมทั้งมีทำประกันภัยรองรับอยู่ด้วย
Kamart ตอนนี้ขายอย่างไร มีกี่สาขา?
• คุณวิวัฒน์ : มีช่องทางขาย 4 ช่องทาง
1) official trade 7-11, lotus, bigc เรามีเกือบทุกที่ ล่าสุด family mart จะมีงานเปิดตัว 22/8 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ท่านใดสนใจก็ไปดูได้ จะมี 30 บริษัทใหญ่ที่มาเปิดตัวพร้อมกัน เช่น unilever, p&g, ช้าง เป็นต้น
2) traditional trade : kamart shop
3) online
4) ต่างประเทศ : อย่างเวียดนามหรือกัมพูชาก็เข้ามานั่งรถบัสเข้ามาซื้อ หรือซื้อผ่านชายแดนเยอะ รวมทั้งมีการขอเป็นแทนจัดจำหน่ายโดยตรง ซึ่งต้องขายเฉพาะสินค้าของ kamart เท่านั้น
• กลุ่มสินค้ามี skin care ดูแลหน้า, body care พวกครีมอาบน้ำ สัดส่วน skincare จะมียอดขายสูงกว่า เพราะมีราคาขายสูงกว่า
• สินค้าเราปลอดภัยเป็นทางการ เพราะจะมีอีกพวกสินค้าผลิตเองไม่ official ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการขออนุญาตหรือ ระบบภาษีไม่ชำระ
• สินค้า 70% นำเข้าจากเกาหลี มีแบรนด์ของเรา 10 แบรนด์และมีแบรนด์คนอื่นจำหน่ายด้วย ที่ขายดีที่สุดคือแบรนด์ Cathy doll เป็นยี่ห้อของเราเอง ไปเวียดนามสินค้าเราขายดีมาก ลองเข้าไปดูในเวบไซต์ของเวียดนามที่ลงท้าย .vn แล้วไป search ดู หรือในเวบไซต์ของสิงคโปร์ หรือเต้าเหมาเวบขายสินค้าออนไลน์ในจีนก็มีขายสินค้าเครื่องสำอางค์ปลอมจากแบรนด์ kamart
• การป้องกันสินค้าปลอมคือเราต้องสร้างกลุ่มลูกค้า คนที่ใช้สินค้าประจำแล้วติด เป็นแฟนคลับ จะกลัวแพ้ ต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา
ผลการดำเนินงาน TVD ?
• ปี2555 รายได้ 2250 ล้าน กำไร 50 ล้านบาท Q156 รายได้ 571 ล้าน กำไร 18 ล้านบาท
• คุณทรงพล : ในอดีตสิ่งที่เรามุ่งเน้นตลอดคือ ยอดขาย ถ้าดูก่อนเข้าตลาดจะเห็นว่าเราโต 30-40% มาตลอด จนเข้าตลาดมีผู้ใหญ่มาบอกว่าอย่าสนใจบรรทัดบนมา สนใจบรรทัดล่างมากๆหน่อย ซึ่งนักลงทุนจะสนใจ EPS กับปันผล
• เรามีนโยบายปันผลอยู่ที่ 55% จ่ายจริงราว 70% จัดเป็นลำดับที่ 25 ของตลาดด้าน dividend payout
• พอเริ่มเข้าใจประเด็นของนักลงทุน เราก็มาปรับแผนใหม่ ถอยไปข้างหน้า ใน 2 Q ที่ผ่านมาก็เลยเติบโตน้อยลงไปครึ่งหนึ่งของที่วางไว้ แต่กำไรได้ตามเป้า
• การที่เราเติบโตมากๆ ปัญหาคือ middle management โตไม่ทัน อย่างเช่น supervisor, team leader
• ทุกวันนี้มี call center 600 กว่าคน เราเคยพยายามใช้เครื่องอัตโนมัติรับ แต่ 65% เป็นของลูกค้าเราเป็นคนต่างจังหวัด ลูกค้าจะชอบให้มีคนรับสายถามตอบได้มากกว่า
• มีคู่แข่งเข้ามาจะมีการแย่งชิงการซื้อเวลา ซึ่งเราก็ยังมี connection เดิมอยู่ แต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น
• เรามีการเพิ่มทุน Right Offering ไปรองรับ digital TV ระดุมทุน 400 กว่าล้าน เพื่อลุยปีหน้า home shopping
• คู่แข่งอย่างเช่น O shopping ของ Grammy, True select ของ True อย่างไรก็ตามเรามีการหารือตกลงร่วมกันกับรายอื่นๆ เกี่ยวกับตลาดนี้ ต่อไปจะเห็น Trust mark ออกมา เป็นการการันตีสินค้าที่ขายผ่านทีวี มีการรับประกันสินค้า, privacy law
• สินค้านำของเข้าเอง 50-60%, local supplier 30-40% ต่อไปทำ home shopping จะมีสัดส่วน local supplier มากขึ้น
• สัดส่วนกำไรสุทธิ 2-5% กำไรขั้นต้น 40-50% สินค้าเราถ้าขายในห้องสรรพสินค้าก็จะโดนหักไปราว 40% ซึ่งถ้าเราจำหน่ายเอง ก็จะมี bargaining มากขึ้น
• ฐานลูกค้าเรามี 2 ล้านกว่าคน เราเคยขาย บรา ที่เป็นไนล่อน ใช้เครื่องซานิโต้ ทำให้ใส่สบาย ซึ่งใช้ telesales ขายกับลูกค้าเดิม ได้ 2 แสนกว่าชิ้น ซึ่งกระบวนการที่จะทำแบบนั้นได้คือต้องมี relationship กันก่อน บางครั้งก็มีการส่งให้ไปลองก่อน โดยมีการคำนวณสัดส่วนไว้แล้วว่าที่แจกไปจะขายได้แค่ไหน เราจึงได้กำไร
• ออกสินค้าใหม่ 6-10 รายการต่อเดือน ซึ่งต้องจัดการสินค้าตัวเก่าด้วย โดยต้องบริหารจัดการให้ tier 2 ไปค้าปลีก tier 3 เลหลัง tier 4 ขายผ่านเวบโละไปเลย เป็นต้น
• ที่ผ่านมาลูกหนี้การค้าลดไปเยอะ, Stock turnover 3.5 เดือน เพราะเรานำเข้าส่วนใหญ่กระบวนการสั่งซื้อ แล้วเขาจึงผลิตและส่ง 60 วัน ดังนั้นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า 3 เดือน อีก 0.5 เดือนเป็นการจัดการ เวลาสั่งจะ test ก่อนแล้วค่อยสั่ง lot ใหญ่
• ในต่างประเทศ มีลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย
• TV direct ร่วมกับ JML ถือหุ้น 51:49 จะเป็นการคุยกับ chain store ต่างๆ โดยใช้วิธีขายแบบ screen to screen ซึ่งจะโฆษณาในช่วง fringe time แล้วให้ลูกค้าไปซื้อผ่าน chain store โดยที่จะมีการติดตั้งจอทีวี ณ จุดขายเพื่อให้รายละเอียดสินค้า เรามีกระบวนการคำนวณตั้งแต่ rating point จน space management ในห้าง ราคาสินค้า JML จะอยุ่ที่ 400-500 บาทต่อครั้ง มารอดูว่าผ้ารองรีดที่ขายดีในต่างประเทศจะขายดีในไทยได้หรือไม่
ผลการดำเนินงาน jubilee ?
• ปี 2555 รายได้ 1231 ล้าน กำไร 166 ล้านบาท Q156 รายได้ 343 ล้าน กำไร 54 ล้านบาท
• คุณอัญ : ผลดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นผลจากการปรับปรุงโครงสร้างภายใน การบริหาร product mix จะเห็นตั้งแต่ Q355 มาถึงปีนี้ เราบริหารจัดการยอดขายและกำไรควบคู่กัน
• Q156 GPM 46% เป็นการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี และเรามี Bargaining power กับ supplier อีกส่วนคือค่าเงินบาทค่อนข้างแข็ง สิ่งที่สำคัญคือจัดการเรื่อง product mix แต่ละอย่างมีกำไรแตกต่างกันไป สำหรับในไตรมาส 2 น่าจะ on track
• เรามีฐานสมาชิก 1.2 แสนรายมากที่สุดในธุรกิจค้าปลีกเพชร 80% เป็นผู้หญิง
• มีเปิดตัว sparking club สำหรับลูกค้าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีสิทธิพิเศษเช่น ดูแล lifetime service, ของขวัญวันเกิด, มินิคอนเสิร์ตกับคุณเจ เจตรินที่โรงแรมโอเร็นตัล หรือทำ workshop การใช้เครื่องสำอางค์ร่วมกับคุณโมเม ที่เชียงใหม่ เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับ life style
• ในปีนี้ฐานลูกค้าใหม่เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ น่าจะ contribute 15% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ดูจาก average spending ต่อคนต่อบิล ตอนนี้อยู่ที่ราว 4 หมื่นปลายๆ เติบโตจากปีก่อน ราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท
• รายได้เติบโต 38% Same store sales เติบโตขึ้น 30% อีก 8% เติบโตจากสาขาใหม่ โดยการเติบโตสาขาเดิมเป็นสิ่งที่ดี ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม แต่มีเพิ่ม inventory และ variety ของสินค้า
• มีคำถามว่าเสน่ห์ jubilee หลัง cfo แต่งงานแล้วจะเป็นอย่างไร? คุณอัญตอบหลังแต่งงานแล้วเสน่ห์ของ jubilee น่าจะคูณสอง เพราะได้รับ professional service ด้านการตลาดมาแบบ free of charge
• การไปต่างประเทศเป็นแผนที่ดูอยู่ แต่โอกาสในประเทศก็ยังมีอีกมหาศาล 100 สาขาในกทม 41 สาขาต่างจังหวัด เรื่องของ urbanization เป็นโอกาสขยายสาขายังมีมากกว่านี้ เชียงใหม่ปีก่อน 3 สาขา ปีนี้จะมี 7 สาขา สงขลาปีก่อน 3 ปีนี้จะมี 7 สาขาเหมือนกัน ซึ่งเราสังเกตว่าถึงจะเพิ่มสาขาแต่ก็ไม่ได้แย่งรายได้กันเพราะจะได้ฐานลูกค้าใหม่ด้วย ทุกปีเราก็ตั้งเป้า sales growth อยู่ที่ 20% เหมือนเดิม
• อีกจุดที่สำคัญคือ branding คนซื้อด้วยความ trust ใน brand เราสรรหานวัตกรรมใหม่ๆ, คุณภาพของเพชร, การผลิต, โปรแกรม royalty sparking club
• ได้ทำการ research หาแบรนด์ที่เป็น top of mind ของร้านค้าเพชรซึ่งคือ jubiliee เอง
• นอกจากแบรนด์มีเรื่อง channel ที่กำลังศึกษา channel ซึ่งไม่ได้เป็นร้านค้า
ผลดำเนินงาน kamart ?
• ปี 2555 รายได้ 709 ล้าน กำไร 198 ล้านบาท Q156 รายได้ 200 ล้าน กำไร 41 ล้านบาท
• คุณวิวัฒน์ : กำไรที่ดีปีที่แล้วเราได้ tax shield เพราะมีขาดทุนสะสมมาหลายปี วิธีการบันทึกบัญชี เพิ่งเปลี่ยนตอนต้นปีงบกำไรขาดทุนจะต้องเสียภาษี แต่ไม่ต้องจ่ายออกไปจริง จะบันทึกอยู่ใน equity
• พวก inventory ที่ตกค้าง NGV, ถังแก๊ส ต้องมาทยอย cut loss ออกไป ในไตรมาส 2 เราตัดออกไป 16 ล้าน จะทำให้กระแสเงินสดเหลือเยอะ ยังเหลือที่ต้องตัดออกไปอีก 100 กว่าล้านบาท
• ในไตรมาส 1,2 ค่าเงินบาทอ่อนลง น่าจะกระทบ ราวๆ 5 ล้านบาท
• ยอดขายปี 2013 คาด 800-900 ล้าน ปี, 2014 1300 ล้านบาท
ช่วงที่ 2 จากต้นจนปลายของการลงทุนวีไอ
แขกรับเชิญ
- คุณฉัตรชัย วงแก้วเจริญ อุปนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
จากต้นจนปลายคืออะไร?
• อ.เสน่ห์ จากต้นจนปลาย เป็นการก่อกำเนิดที่มาของนักลงทุนคุณค่า ที่พูดกัน VI ของจริง ของแท้เป็นอย่างไร VI แท้ต้องไม่แพ้แรงกระตุ้น VI ถึงจะหัวหมุนถึงจะกระตุ้นยังไงก็ไม่ยอมแพ้
คำว่า VI คืออะไร?
• ดร.นิเวศน์ เป็นหลักการลงทุนแบบหนึ่งที่อิงกับหลักวิชาการ ก่อนปี 1929 ที่อเมริกาก็ไม่ได้อิงกับหลักวิชาการเหมือนกัน คนเล่นหุ้นคือซื้อมาขายไป (ในไทยก่อนปี 2540 ก็ เล่นตามข่าว) จนกระทั่งเกิดวิกฤติGreat depression หุ้นตกลงมา 3 ปีราว 90% ซึ่ง จึงมีคนคิดขึ้นมาว่าการลงทุนน่าจะมีวิธีการลงทุนที่ปลอดภัยถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นมา ชื่อ Benjamin Graham คิดหาวิธีที่จะรู้มูลค่าที่แท้จริงของกิจการโดยไม่เกี่ยวกับราคาในกระดาน
• ที่จริงการหามูลค่าที่แท้จริงมีคนคิดขึ้นมาก่อนคือ John Burr Williams แต่ไม่ค่อยดัง โดยหากระแสเงินสดกิจการที่ได้รับ คือจ่ายปันผลให้เราไปได้เรื่อย ถ้าเอามาคิดส่วนลดให้เป็นมูลค่าปัจจุบันควรจะเป็นเท่าไร ทำให้มีวิธีการคิดที่เป็นคณิตศาสตร์
• ถ้ามูลค่าหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงมาก หากซื้อเอาไว้ไม่ช้าก็เร็วราคาหุ้นจะต้องวิ่งไปสะท้อนมูลค่าแท้จริง ถ้าซื้อไว้หลายๆตัวต้องมีบางตัวที่วิ่งไปถึง แล้วก็ขายทิ้ง ทำแบบนี้แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดทุน ถ้ากิจการยังดีไม่ต้องขาย
• ในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริงไม่ง่าย จึงต้องมี margin of safety ถ้าคำนวณมูลค่าแท้จริงได้ 100 แต่ก็อาจผิดได้จึงต้องซื้อราคาที่ต่ำกว่านั้นมากๆหน่อย เช่น 70 ลงไป
• การคำนวณหามูลค่าแท้จริงมีหลายแบบ ดูรายได้ กำไร ปันผล บางบริษัทดูทรัพย์สินที่มีแล้วต่ำกว่า book value มากๆ ก็เป็นมูลค่าแท้จริงอีกแบบ บางบริษัทมีเงินสด 10 บาทต่อหุ้น หนี้ไม่มี ราคาหุ้น 7 บาท ก็ซื้อได้บริษัทเจ๊งก็ยังกำไรเป็นอีกวิธี
• ปี 2540 ดัชนีหุ้นไทยเหลือ 200 กว่าจุด หุ้นเกือบทุกตัวเป็นหุ้น vi ซื้อได้เกือบหมด จนมาถึงปี 2556 ตอนนี้หุ้นขึ้นมาแพง หาหุ้นซื้อถูกได้ยากมาก
คำว่า VI คืออะไร?
• คุณฉัตรชัย อยากเสริมในประเด็นว่าปี 2540 ที่ราคาหุ้นต่ำเพราะนักลงทุนยังไม่ค่อยมีความรู้ แต่ปัจจุบันอ.นิเวศน์กับอ.ไพบูลย์ทำให้เหตุการณ์แบบปี 40 อาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
• VI คือ ซื้อหุ้นที่เราอยากเป็นเจ้าของกิจการ โดยคาดหวังผลตอบแทนจากกิจการมาสู่เรา ไม่ได้คาดหวังจะขายให้คนอื่นแพงๆ ซื้อบริษัทที่ดีซึ่งเราพิจารณาจากผลตอบแทน ไม่ใช่เสน่หา
• บริษัทที่ดีก็ไม่ใช่จะซื้อได้ทุกบริษัท เปรียบเหมือน Camry เป็นรถที่ดี แต่ถ้ามีคนมาขาย 3 ล้านบาท การลงทุนที่ดีคือเลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม
ตอนที่หุ้น IPO เข้ามาในตลาด สะท้อนมูลค่าไหม?
• คุณฉัตรชัย ผมไม่ค่อยลงทุนหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด เพราะข้อมูลประวัติ งบการเงินค่อนข้างน้อย บางทีงบการเงินก่อนและหลังเข้าตลาดอาจจะแตกต่างกัน ก่อนเข้าตลาดก็อาจมีบัญชีหลายเล่ม
• จะรู้ว่าบริษัทดี ต้องเข้าใจตัวอุตสาหกรรมก่อน จุดอ่อน จุดแข็ง การตัดสินแพ้ชนะของธุรกิจ แล้วบริษัทที่เราจะลงทุนมีจุดแข็งตรงนั้นไหม
เป็น VI ตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือเปล่า?
• คุณฉัตรชัย ไม่ใช่ เริ่มต้นปี 2533 อยากลงทุนเพราะอ่านหนังสือ peter lynch เกี่ยวกับการลงทุน รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เนื่องจากจบวิศวะความรู้การวิเคราะห์ค่อนข้างน้อย เมื่อก่อนไม่มีอินเทอร์เนท,ข้อมูลน้อย ทำให้ความตั้งใจดีก็เอนเอียงกลายเป็นเก็งกำไรไปหมด
จะเริ่มต้นเป็น VI ได้อย่างไร?
• คุณฉัตรชัย VI เป็นอะไรที่ยาก คนเป็น VI จริงๆน้อย เพราะวัตถุประสงค์คนที่เล่นหุ้นอยากรวยเร็ว แต่การลงทุน VI จะค่อนข้างช้า สม่ำเสมอ ใช้เวลา ใช้ความอดทน ต้องศึกษามาก ซึ่งขัดกับคนที่เข้ามาลงทุน ซึ่งไม่สามารถทนศึกษาได้ ก็แปรเปลี่ยนเป็นนักเก็งกำไรหมด
• คนชอบเข้าใจผิดว่า VI ต้องถือหุ้นยาว แต่เพราะราคาหุ้นยังไม่ขึ้นไปถึงราคาที่เราคาดคำนวณไว้
• VI การซื้อหุ้นเหมือนจะไปซื้อบ้านต้องไปสำรวจทำเลก่อน
ตอนที่เห็นต่างประเทศแล้วมาแปลงเป็นวิธีของดร.นิเวศน์อย่างไร?
• ดร.นิเวศน์ อย่างที่คุณฉัตรชัยบอกว่า ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องถือยาว แต่ด้วย concept ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง ซึ่งมันจะค่อยๆเปลี่ยน ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นเร็ว แต่ราคาหุ้นแกว่งขึ้นลงรวดเร็ว ทำให้มี VI จำนวนมากซื้อๆขายๆตลอดเวลา ไปเน้นเรื่องราคาเยอะ กิจการรู้ว่าพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน เรามองเห็นอยู่ หลายคนบอกว่าหุ้นทุกตัวเป็น VI ได้หมด ขอให้ราคาต่ำลงมากว่าพื้นฐาน ซึ่งผมเห็นว่ามันยาก เราไม่ได้เข้าใจพื้นฐานมันอย่างแท้จริง ใช้วิธีคำนวณพื้นฐานง่ายๆ PE ปีนี้ ปีหน้า ใส่ PE ที่เหมาะสม ก็ได้มูลค่าพื้นฐาน
• ถ้าเป็น VI ต่างประเทศ ส่วนใหญ่บอกว่า VI คือชอบบริษัทเน่าๆห่วยๆไม่โตคนไม่สนใจ แต่ราคาถูก PE ต่ำ
• สำหรับ VI บางคนเช่น วอรเรน บัฟเฟตต์ เอาหุ้นที่ราคาถูกหรือราคายุติธรรม แต่กิจการต้องดีสุดยอด ทำให้ถือไปเรื่อยถ้ากิจการยังดีขึ้น มูลค่าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
VI ทมิฬ คืออะไร ?
• ดร.นิเวศน์ เป็นคำที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมามี VI กลุ่มหนึ่ง ที่ซื้อหุ้นไว้แล้วคนก็มาซื้อตามกันหุ้นก็ขึ้นมาก ทำให้คนเห็นว่าหุ้นมันดีสุดยอด พอราคาขึ้นไปมากๆก็เกินพื้นฐาน VI ที่เห็นว่าเกินพื้นฐานก็ขาย พวกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแห่ซื้อตามไปก็ติดดอยกันหมด พวกที่ขาดทุนก็บอกว่าพวกนี้เป็น VI ใจทมิฬ
• หลักการ VI เป็นหลักการสากล อย่างพระที่เป็นผู้ทรงศีล แต่ถ้ามีพระที่ไปทำผิด จะบอกว่าศาสนาพุทธเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่
• ดร.ไพบูลย์ การเก็งกำไรแบบมีหลักการเป็นสิ่งที่ยากกว่าการลงทุนแบบ VI เยอะ ต้องใช้ model คณิตศาสตร์ ต้องมี IQ สูง
• ดร.นิเวศน์ คนส่วนใหญ่ไม่สำเร็จเพราะเราหาอะไรยากๆทำ ไปเก็งว่าตัวนั้นจะขึ้นตัวนี้จะลง มันยากในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจมันมีงานที่ยากๆได้เงินน้อยๆ ทั้งๆที่มันมีงานง่ายๆได้เงินมากๆ สมมติถ้าคุณไม่ฉลาด แต่คุยสวย sexy ก็สามารถหาเงินได้ ได้มากกว่าและง่ายกว่าด้วย
• ดร.นิเวศน์ บางทีถ้าเราไม่เก่งคิดไม่ออก ต้องหาสิ่งชดเชย เช่น ซื้อธุรกิจที่ดีอย่างเดียวเลย ไม่ต้องซื้ออย่างอื่น เป็นธุรกิจที่เราเข้าใจมันอย่างดี เราคำนวณไม่เป็น ก็ซื้อมันในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งมันก็ง่ายๆใช้จิตวิทยาเข้าไปในช่วงที่ตลาดมันเหงาๆ ราคาตกมาเยอะๆ ราคามันก็ไม่เกินหรอก ซื้อแล้วก็ถือไว้เฉยๆ ถ้าพวกฉลาดเกินไปคำนวณได้พอเกินราคา 30 สตางค์ก็ขาย
คนที่จะเป็น VI จำเป็นไหมต้องเรียนหนังสือเยอะ มีความรู้เยอะ ต้องเฉลียวฉลาด?
• คุณฉัตรชัย ไม่จำเป็น สมัยนี้สัมนนาดีๆ หนังสือดีๆ เวบไซต์ดีๆ มีเพื่อนนักลงทุนบางคนจบป. 4 อาชีพวินมอเตอร์ไซค์ก็ประสบความสำเร็จได้ หรือไปเรียน MBA ที่นิด้าด้วยก็ช่วยได้
• ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นใหม่ๆ ดัชนี 300-400 ขึ้นมาเร็ว เราซื้อหุ้น VI กลับไม่ขึ้นเร็ว ทำให้เรารู้สึกลังเลใจว่า เราควรจะขายไปซื้อหุ้นตรงนั้นก่อน แล้วค่อยกลับมาซื้อหุ้น VI ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง ความลังเลใจ ซึ่งถ้าเราลงทุนมาครบ cycle ก็จะเข้าใจว่าพอฟองสบู่แตก ก็จะเห็นว่าบริษัทเราลงมาน้อยกว่า เติบโตไปตามผลดำเนินงานที่ดีขึ้น
ในการเป็นนักลงทุนแบบ VI อะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?
• คุณฉัตรชัย อย่ายึดมั่นถือมั่น 1) ต้นทุนที่ซื้อมา ได้ยินบ่อย นักวิเคราะห์ชอบตอบคำถามว่า ต้นทุนเท่าไร แล้วก็ให้คำแนะนำขึ้นอยู่กับต้นทุน ซึ่งราคามันขึ้นกับพื้นฐานกิจการในอนาคต ซื้อหุ้นควรลืมต้นทุนไปเลย ถ้าจะคิดก็ mark to market เป็นมูลค่าปัจจุบัน 2) อย่าไปยึดติดการวิเคราะห์ของเรา ถ้าวิเคราห์พลาด ขาดทุนก็ต้องขาย cut loss ออกมา อาจจะเป็นตั้งโรงงานใหม่ แล้วยอดขายจริงไม่ได้ หรือมีการฟ้องร้องเข้ามาเสียหายมากกับบริษัท หรือยุคสมัยเปลี่ยน สินค้าที่ผลิตล้าสมัย ก็ถือว่าพื้นฐานเปลี่ยน
• ถ้าเราซื้อโดยเข้าใจพื้นฐานกิจการดีเข้าใจมูลค่าหุ้นตกเราก็กล้าถือ แต่ถ้าซื้อตามคนอื่นเวลาหุ้นตกใจจะแกว่ง
ปลายทางของการเป็น VI จะจบอย่างไร?
• ดร.นิเวศน์ ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน อาจจะขายหมดแล้วไปทำอย่างอื่น หรือก็อาจทำเรื่อยๆจนตายแล้วยกให้ลูกให้หลาน
• คุณฉัตรชัย คงเป็น VI ไปตลอด ระหว่างนี้ก็ปลูกฝังลูกให้มีความเป็น VI อย่างน้อยวิเคราะห์ไม่เป็นรับมรดกก็เข้าใจดูแลมันได้ ทุกวันนี้หุ้นตกภรรยาก็ถามว่าทำไมไม่ขาย ลูกก็บอกว่าขายทำไม บริษัทยังดี ผู้บริหารเก่ง
• อ.ไพบูลย์ ถ้าเราเป็น VI เริ่มต้นเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น เวลาผ่านไปการเป็น VI จะนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน คือไม่ต้องพึ่งพา เงินจากเงินเดือน จะมีชีวิตที่ง่ายขึ้น สุขสบาย คนที่เป็น VI จะลงไปที่เบื้องลึกของนิสัย จะเป็นคนพอเพียง ปลายทางคือไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง
• อ.ไพบูลย์ มี comment ใน Facebook ดีมาก บอกว่าเราควรใช้ชีวิตแบบน้ำล้นตุ่ม มีเยอะก็ใช้ออกไปบ้าง ใช้กับคนอื่นที่ไม่มีโอกาสเหมือนเรา และก็เหลือให้กับลูกหลาน
• อ.เสน่ห์ อย่าง ดร.นิเวศน์ ดร.ไพบูลย์ คุณฉัตรชัย ก็เป็นตัวอย่างที่ทำประโยชน์ให้ความรู้กับสังคม ผมเคยมีคนมาไหว้ขอบคุณที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความสุข เพราะเฝ้ารอดูรายการของอาจารย์ ถ้าคนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จแล้วเงียบๆ เหมือนปลาวางไข่แต่ไม่รู้มีกี่ฟอง แต่แบบดร.นิเวศน์ เป็นไก่ วางไข่แล้วมีลูกไก่ร้องกระต๊อบๆ คือต้องชี้ทางให้กับคนอื่นด้วย
• อ.เสน่ห์ VI ที่ผมชื่นชมที่สุดคือแม่ของเรา แม่เวลาลงทุนกับลูก รักแบบ VI รักจริง สนับสนุนลูก รู้จักลูกตัวเองเป็นอย่างดี ลูกจะขึ้นจะลงก็อยู่กับลูกตลอด บางช่วงลูกก็มีปันผลให้แม่ก็สุขใจ ดังนั้นอย่าลืมปันผลให้แม่บ้าง
Money talk ครั้งถัดไป อาทิตย์ที่ 1 กันยายน 56
รับจองทาง Facebook เสาร์ที่ 24 สิงหาคม (ผู้อาวุโส จองศุกร์ที่ 23)
2 หัวข้อ
1) (ทางตลาดหลักทรัพย์จะเชิญบริษัทมา 3-4 บริษัท)
2) เส้นทางเศรษฐีคุณค่า : คุณวีรณัฐ โรจนประภา, คุณใหม่ บ้านอารีย์, ดร.นิเวศน์ และแขกรับเชิญอีกท่านกำลังติดต่อ
ขอขอบคุณอ.ไพบูลย์, ผู้ดำเนินรายการ, แขกรับเชิญและทีมงาน money talk ทุกท่านที่เอื้อเฟื้อและช่วยกันจัดงานครับ
สุขสันต์วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมทุกท่านด้วยครับ
ช่วงที่ 1 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลก
แขกรับเชิญ
- คุณทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVD
- คุณวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ประธานคณะกรรมการ KAMART
- คุณอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน JUBILE
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ. ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช
กระแสหลักโลกมีอะไรได้บ้าง?
• หมอเค : 1) สังคมผู้สูงอายุ อายุยืนขึ้น 2) การเติบโต อินเตอร์เนท สามารถซื้อของจากที่บ้านได้ หรือใช้โทรศัพท์ซื้อขาย 3) การรักสวยงามของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 4) ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกต่างๆ เกริ่น
ถาม TVD จอร์จ-ซาร่า มีตัวจริงไหม?
• คุณทรงพล เอามาจากการแสดง Oh god George it’s so amazing โอ้วพระเจ้าจอร์จมันยอดมาก คุยไปคุยมาในองค์กรคำมันติดปากก็เลยใช้เป็นคำที่ใช้โฆษณา
ถาม Jubile แหวนเพชร 7 กะรัตในข่าวมูลค่าเท่าไร?
• คุณอัญ : ตอบเหมือนในข่าว ว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว(ฮา) …การดูเพชรนอกจากเรื่องกะรัต แล้วยังมีอีก 3 ประเด็น คือ
o 1) สี : ต้อง ขาว ใส สีที่ดีที่สุดคือ D color ไร้สี ใสเหมือนน้ำเปล่า ภาษาพูดคือเพชรขาวที่สุด ถ้าเป็นสีเหลืองจะถูกกว่า
o 2) คุณภาพความสะอาด : คือไม่มีตำหนิ ถ้าอยู่ผิวนอกไม่นับเป็นตำหนิ ต้องส่องดูว่ามีจุดดำหรือขนแมว(รอยเส้น)ภายในเพชรหรือเปล่า มองยากไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
o 3) ลักษณะการเจียรนัย : ดูว่ามีความปิ๊ง มีประกายหรือเปล่า
o เพชรหน้ากลม มาตรฐานอยู่ที่ 58 เหลี่ยม การเจียรนัย สัดส่วน,ความเรียบร้อยในการเจียรนัย,ความสมมาตรของเพชร ด้านบน crown บริเวณกลาง Girdle ด้านล่าง Pavilion ทุกเหลี่ยมมุมต้องได้สัดส่วน จะทำให้เพชรมีประกาย
TVD มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?
• คุณทรงพล : ขายสินค้าผ่านสื่อ เป็นการตลาดแบบตรง เราเป็น multi-channel คนส่วนใหญ่จะรู้จัก Direct marketing คือ ทีวี, home-shopping นอกจากนี้ยังมีขายตรงช่องทางอื่น ได้แก่ ขายของทางโทรศัพท์ เช่น ผ่านไปรษณีย์(mail order), Direct mail เฉพาะคนเลย อย่างเครื่องสำอางค์จะใช้ Direct marketing เยอะ
• สินค้าที่จำหน่ายมีครอบคลุม 36 Categories สมัยแรกเรามีสัดส่วนเครื่องออกกำลังกาย 80-90% แต่ปัจจุบันเหลือเพียง10% ของยอดขาย(ลำดับที่ 6) สัดส่วนรายได้สินค้าอื่นที่มีมาก เช่น cosmetic 12.75%(เป็นลำดับที่ 1) , สินค้ากลุ่ม Health และสินค้าเครื่องครัว
• ช่องทางขายที่มีสัดส่วนมากสุด TV 48% เคยถดถอยช่วงหนึ่ง จนกระทั่งมีการเติบโตของ satellite TV เข้ามาทำให้สัดส่วน TV ดูเหมือนโตมากกว่าปกติ โดยใน Free TV เรามีทุกช่อง Satellite TV เรามีครบ 12 platform จากปัจจุบัน 275 ช่อง เราซื้อ air time 75 ช่อง ซึ่งบางช่องขายสินค้าบางอย่างได้ดีกว่า มีลักษณะเฉพาะ ตัว ข้อดีของ Satellite TV ราคาไม่แพงมาก และไม่แย่งชิงเวลามากเหมือน Free TV
• รูปแบบการโฆษณาTV มี 3 แบบ ซื้อทั้งช่อง, เช่าช่วงเวลา, ซื้อเป็น spot โฆษณา ในช่วง 3-4 ปีหลัง มักจะทำเป็น Scoop 3-4 นาที
• สินค้าที่เราจำหน่ายบางครั้งก็เหมือนที่มีอยู่ในตลาดในห้าง แต่ด้วยช่องทางและวิธีการนำเสนอ ที่ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าของเรา
• เคยขายเพชรครั้งสุดท้ายเมื่อ 15 ปีก่อน ชุดละ 1 แสนกว่าบาท เป็นเพชรเบลเยี่ยมคัท 64 เหลี่ยม สีชมพู แต่มีประเด็นลำบากเรื่องของการส่งของ
• เราเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า แต่อยู่ในอากาศ
เพชรของจูบิลี่ มีกี่ประเภท มีกี่แบบ เพชรเบลเยี่ยมคัทแท้ต่างจากอย่างอื่นอย่างไร?
• คุณอัญ : ตัวธุรกิจ Retail management นำเข้าวัตถุดิบจากเบลเยี่ยม Create Design เอง เน้นที่คุณภาพการผลิตเครื่องประดับ และรูปแบบ design
• ที่ต้องเป็นเบลเยี่ยม เพราะเมือง Antwerp เป็น 1 ใน 5 ของเมืองที่เจียรนัยเพชรได้ดีที่สุดในโลก และ supplier ก็ส่งของให้จูบีลี่เพียงรายเดียวในประเทศไทย
• หัวใจสำคัญคือคุณภาพเพชร และคุณภาพการผลิตตัวเรือน
• เมกะเทรนด์คนเราสนใจอะไรที่เป็น image ทำให้ตัวเองดูดี เราจึงนำสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาสู่อุตสาหกรรมนี้ อย่างในปีนี้มีการ launch สินค้าใหม่ the excellence ในแหวน 1 วง มีส่วนประกอบ 10 ส่วนในครื่องประดับหนึ่งชิ้น ซึ่งกระบวนการผลิตต้องใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยทำให้สัดส่วนในตัวเรือนเห็นได้คมชัด
• การ Design ต้องสร้าง product entity ให้สอดคล้องกลุ่มลูกค้า เช่น young graduate, แหวนหมั้นแต่งงาน, อัญมณีสำหรับลงทุน ซึ่งจะมีการทำงานทั้งแบบ inside out และ outside in คือ Designer ต้องไปศึกษารูปแบบอัญมณีในโลกมาเพื่อออกแบบ ฝ่ายการตลาดก็ต้องทำ market research แล้วมาแชร์กับทีม designer เพื่อออกแบบให้สอดคล้องกับลูกค้า
• การผลิต ใช้ outsource มีโรงงานที่ผลิตให้ Jubile 10 โรงงาน โดยไม่ทำให้คนอื่น สาเหตุที่เราไม่ทำเอง เพราะแต่ละโรงงานมีความเชี่ยวชาญในการทำเครื่องประดับไม่เหมือนกัน เราจึงได้ความเชี่ยวชาญตรงนั้นเข้ามาในสินค้าของ jubilee
• ช่องทางจัดจำหน่ายมี 3 ส่วน 1) เคาท์เตอร์ 95 ร้าน 2) shop 5 ร้าน 3) ขายผ่าน catalog และผ่านทางธนาคารกรุงไทย ลีซซิ่ง
• เรื่องการรักษาความปลอดภัย ปกติขายในห้างก็จะมี security อยู่แล้ว และตู้เราเองก็จะมีสัญญาณเตือนภัย รวมทั้งมีทำประกันภัยรองรับอยู่ด้วย
Kamart ตอนนี้ขายอย่างไร มีกี่สาขา?
• คุณวิวัฒน์ : มีช่องทางขาย 4 ช่องทาง
1) official trade 7-11, lotus, bigc เรามีเกือบทุกที่ ล่าสุด family mart จะมีงานเปิดตัว 22/8 ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ท่านใดสนใจก็ไปดูได้ จะมี 30 บริษัทใหญ่ที่มาเปิดตัวพร้อมกัน เช่น unilever, p&g, ช้าง เป็นต้น
2) traditional trade : kamart shop
3) online
4) ต่างประเทศ : อย่างเวียดนามหรือกัมพูชาก็เข้ามานั่งรถบัสเข้ามาซื้อ หรือซื้อผ่านชายแดนเยอะ รวมทั้งมีการขอเป็นแทนจัดจำหน่ายโดยตรง ซึ่งต้องขายเฉพาะสินค้าของ kamart เท่านั้น
• กลุ่มสินค้ามี skin care ดูแลหน้า, body care พวกครีมอาบน้ำ สัดส่วน skincare จะมียอดขายสูงกว่า เพราะมีราคาขายสูงกว่า
• สินค้าเราปลอดภัยเป็นทางการ เพราะจะมีอีกพวกสินค้าผลิตเองไม่ official ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการขออนุญาตหรือ ระบบภาษีไม่ชำระ
• สินค้า 70% นำเข้าจากเกาหลี มีแบรนด์ของเรา 10 แบรนด์และมีแบรนด์คนอื่นจำหน่ายด้วย ที่ขายดีที่สุดคือแบรนด์ Cathy doll เป็นยี่ห้อของเราเอง ไปเวียดนามสินค้าเราขายดีมาก ลองเข้าไปดูในเวบไซต์ของเวียดนามที่ลงท้าย .vn แล้วไป search ดู หรือในเวบไซต์ของสิงคโปร์ หรือเต้าเหมาเวบขายสินค้าออนไลน์ในจีนก็มีขายสินค้าเครื่องสำอางค์ปลอมจากแบรนด์ kamart
• การป้องกันสินค้าปลอมคือเราต้องสร้างกลุ่มลูกค้า คนที่ใช้สินค้าประจำแล้วติด เป็นแฟนคลับ จะกลัวแพ้ ต้องสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา
ผลการดำเนินงาน TVD ?
• ปี2555 รายได้ 2250 ล้าน กำไร 50 ล้านบาท Q156 รายได้ 571 ล้าน กำไร 18 ล้านบาท
• คุณทรงพล : ในอดีตสิ่งที่เรามุ่งเน้นตลอดคือ ยอดขาย ถ้าดูก่อนเข้าตลาดจะเห็นว่าเราโต 30-40% มาตลอด จนเข้าตลาดมีผู้ใหญ่มาบอกว่าอย่าสนใจบรรทัดบนมา สนใจบรรทัดล่างมากๆหน่อย ซึ่งนักลงทุนจะสนใจ EPS กับปันผล
• เรามีนโยบายปันผลอยู่ที่ 55% จ่ายจริงราว 70% จัดเป็นลำดับที่ 25 ของตลาดด้าน dividend payout
• พอเริ่มเข้าใจประเด็นของนักลงทุน เราก็มาปรับแผนใหม่ ถอยไปข้างหน้า ใน 2 Q ที่ผ่านมาก็เลยเติบโตน้อยลงไปครึ่งหนึ่งของที่วางไว้ แต่กำไรได้ตามเป้า
• การที่เราเติบโตมากๆ ปัญหาคือ middle management โตไม่ทัน อย่างเช่น supervisor, team leader
• ทุกวันนี้มี call center 600 กว่าคน เราเคยพยายามใช้เครื่องอัตโนมัติรับ แต่ 65% เป็นของลูกค้าเราเป็นคนต่างจังหวัด ลูกค้าจะชอบให้มีคนรับสายถามตอบได้มากกว่า
• มีคู่แข่งเข้ามาจะมีการแย่งชิงการซื้อเวลา ซึ่งเราก็ยังมี connection เดิมอยู่ แต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น
• เรามีการเพิ่มทุน Right Offering ไปรองรับ digital TV ระดุมทุน 400 กว่าล้าน เพื่อลุยปีหน้า home shopping
• คู่แข่งอย่างเช่น O shopping ของ Grammy, True select ของ True อย่างไรก็ตามเรามีการหารือตกลงร่วมกันกับรายอื่นๆ เกี่ยวกับตลาดนี้ ต่อไปจะเห็น Trust mark ออกมา เป็นการการันตีสินค้าที่ขายผ่านทีวี มีการรับประกันสินค้า, privacy law
• สินค้านำของเข้าเอง 50-60%, local supplier 30-40% ต่อไปทำ home shopping จะมีสัดส่วน local supplier มากขึ้น
• สัดส่วนกำไรสุทธิ 2-5% กำไรขั้นต้น 40-50% สินค้าเราถ้าขายในห้องสรรพสินค้าก็จะโดนหักไปราว 40% ซึ่งถ้าเราจำหน่ายเอง ก็จะมี bargaining มากขึ้น
• ฐานลูกค้าเรามี 2 ล้านกว่าคน เราเคยขาย บรา ที่เป็นไนล่อน ใช้เครื่องซานิโต้ ทำให้ใส่สบาย ซึ่งใช้ telesales ขายกับลูกค้าเดิม ได้ 2 แสนกว่าชิ้น ซึ่งกระบวนการที่จะทำแบบนั้นได้คือต้องมี relationship กันก่อน บางครั้งก็มีการส่งให้ไปลองก่อน โดยมีการคำนวณสัดส่วนไว้แล้วว่าที่แจกไปจะขายได้แค่ไหน เราจึงได้กำไร
• ออกสินค้าใหม่ 6-10 รายการต่อเดือน ซึ่งต้องจัดการสินค้าตัวเก่าด้วย โดยต้องบริหารจัดการให้ tier 2 ไปค้าปลีก tier 3 เลหลัง tier 4 ขายผ่านเวบโละไปเลย เป็นต้น
• ที่ผ่านมาลูกหนี้การค้าลดไปเยอะ, Stock turnover 3.5 เดือน เพราะเรานำเข้าส่วนใหญ่กระบวนการสั่งซื้อ แล้วเขาจึงผลิตและส่ง 60 วัน ดังนั้นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า 3 เดือน อีก 0.5 เดือนเป็นการจัดการ เวลาสั่งจะ test ก่อนแล้วค่อยสั่ง lot ใหญ่
• ในต่างประเทศ มีลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย
• TV direct ร่วมกับ JML ถือหุ้น 51:49 จะเป็นการคุยกับ chain store ต่างๆ โดยใช้วิธีขายแบบ screen to screen ซึ่งจะโฆษณาในช่วง fringe time แล้วให้ลูกค้าไปซื้อผ่าน chain store โดยที่จะมีการติดตั้งจอทีวี ณ จุดขายเพื่อให้รายละเอียดสินค้า เรามีกระบวนการคำนวณตั้งแต่ rating point จน space management ในห้าง ราคาสินค้า JML จะอยุ่ที่ 400-500 บาทต่อครั้ง มารอดูว่าผ้ารองรีดที่ขายดีในต่างประเทศจะขายดีในไทยได้หรือไม่
ผลการดำเนินงาน jubilee ?
• ปี 2555 รายได้ 1231 ล้าน กำไร 166 ล้านบาท Q156 รายได้ 343 ล้าน กำไร 54 ล้านบาท
• คุณอัญ : ผลดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นผลจากการปรับปรุงโครงสร้างภายใน การบริหาร product mix จะเห็นตั้งแต่ Q355 มาถึงปีนี้ เราบริหารจัดการยอดขายและกำไรควบคู่กัน
• Q156 GPM 46% เป็นการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี และเรามี Bargaining power กับ supplier อีกส่วนคือค่าเงินบาทค่อนข้างแข็ง สิ่งที่สำคัญคือจัดการเรื่อง product mix แต่ละอย่างมีกำไรแตกต่างกันไป สำหรับในไตรมาส 2 น่าจะ on track
• เรามีฐานสมาชิก 1.2 แสนรายมากที่สุดในธุรกิจค้าปลีกเพชร 80% เป็นผู้หญิง
• มีเปิดตัว sparking club สำหรับลูกค้าได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีสิทธิพิเศษเช่น ดูแล lifetime service, ของขวัญวันเกิด, มินิคอนเสิร์ตกับคุณเจ เจตรินที่โรงแรมโอเร็นตัล หรือทำ workshop การใช้เครื่องสำอางค์ร่วมกับคุณโมเม ที่เชียงใหม่ เป็นกิจกรรมที่เหมาะสมกับ life style
• ในปีนี้ฐานลูกค้าใหม่เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ น่าจะ contribute 15% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ดูจาก average spending ต่อคนต่อบิล ตอนนี้อยู่ที่ราว 4 หมื่นปลายๆ เติบโตจากปีก่อน ราวๆ 3 หมื่นกว่าบาท
• รายได้เติบโต 38% Same store sales เติบโตขึ้น 30% อีก 8% เติบโตจากสาขาใหม่ โดยการเติบโตสาขาเดิมเป็นสิ่งที่ดี ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม แต่มีเพิ่ม inventory และ variety ของสินค้า
• มีคำถามว่าเสน่ห์ jubilee หลัง cfo แต่งงานแล้วจะเป็นอย่างไร? คุณอัญตอบหลังแต่งงานแล้วเสน่ห์ของ jubilee น่าจะคูณสอง เพราะได้รับ professional service ด้านการตลาดมาแบบ free of charge
• การไปต่างประเทศเป็นแผนที่ดูอยู่ แต่โอกาสในประเทศก็ยังมีอีกมหาศาล 100 สาขาในกทม 41 สาขาต่างจังหวัด เรื่องของ urbanization เป็นโอกาสขยายสาขายังมีมากกว่านี้ เชียงใหม่ปีก่อน 3 สาขา ปีนี้จะมี 7 สาขา สงขลาปีก่อน 3 ปีนี้จะมี 7 สาขาเหมือนกัน ซึ่งเราสังเกตว่าถึงจะเพิ่มสาขาแต่ก็ไม่ได้แย่งรายได้กันเพราะจะได้ฐานลูกค้าใหม่ด้วย ทุกปีเราก็ตั้งเป้า sales growth อยู่ที่ 20% เหมือนเดิม
• อีกจุดที่สำคัญคือ branding คนซื้อด้วยความ trust ใน brand เราสรรหานวัตกรรมใหม่ๆ, คุณภาพของเพชร, การผลิต, โปรแกรม royalty sparking club
• ได้ทำการ research หาแบรนด์ที่เป็น top of mind ของร้านค้าเพชรซึ่งคือ jubiliee เอง
• นอกจากแบรนด์มีเรื่อง channel ที่กำลังศึกษา channel ซึ่งไม่ได้เป็นร้านค้า
ผลดำเนินงาน kamart ?
• ปี 2555 รายได้ 709 ล้าน กำไร 198 ล้านบาท Q156 รายได้ 200 ล้าน กำไร 41 ล้านบาท
• คุณวิวัฒน์ : กำไรที่ดีปีที่แล้วเราได้ tax shield เพราะมีขาดทุนสะสมมาหลายปี วิธีการบันทึกบัญชี เพิ่งเปลี่ยนตอนต้นปีงบกำไรขาดทุนจะต้องเสียภาษี แต่ไม่ต้องจ่ายออกไปจริง จะบันทึกอยู่ใน equity
• พวก inventory ที่ตกค้าง NGV, ถังแก๊ส ต้องมาทยอย cut loss ออกไป ในไตรมาส 2 เราตัดออกไป 16 ล้าน จะทำให้กระแสเงินสดเหลือเยอะ ยังเหลือที่ต้องตัดออกไปอีก 100 กว่าล้านบาท
• ในไตรมาส 1,2 ค่าเงินบาทอ่อนลง น่าจะกระทบ ราวๆ 5 ล้านบาท
• ยอดขายปี 2013 คาด 800-900 ล้าน ปี, 2014 1300 ล้านบาท
ช่วงที่ 2 จากต้นจนปลายของการลงทุนวีไอ
แขกรับเชิญ
- คุณฉัตรชัย วงแก้วเจริญ อุปนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ผู้ดำเนินรายการ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ
จากต้นจนปลายคืออะไร?
• อ.เสน่ห์ จากต้นจนปลาย เป็นการก่อกำเนิดที่มาของนักลงทุนคุณค่า ที่พูดกัน VI ของจริง ของแท้เป็นอย่างไร VI แท้ต้องไม่แพ้แรงกระตุ้น VI ถึงจะหัวหมุนถึงจะกระตุ้นยังไงก็ไม่ยอมแพ้
คำว่า VI คืออะไร?
• ดร.นิเวศน์ เป็นหลักการลงทุนแบบหนึ่งที่อิงกับหลักวิชาการ ก่อนปี 1929 ที่อเมริกาก็ไม่ได้อิงกับหลักวิชาการเหมือนกัน คนเล่นหุ้นคือซื้อมาขายไป (ในไทยก่อนปี 2540 ก็ เล่นตามข่าว) จนกระทั่งเกิดวิกฤติGreat depression หุ้นตกลงมา 3 ปีราว 90% ซึ่ง จึงมีคนคิดขึ้นมาว่าการลงทุนน่าจะมีวิธีการลงทุนที่ปลอดภัยถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้นมา ชื่อ Benjamin Graham คิดหาวิธีที่จะรู้มูลค่าที่แท้จริงของกิจการโดยไม่เกี่ยวกับราคาในกระดาน
• ที่จริงการหามูลค่าที่แท้จริงมีคนคิดขึ้นมาก่อนคือ John Burr Williams แต่ไม่ค่อยดัง โดยหากระแสเงินสดกิจการที่ได้รับ คือจ่ายปันผลให้เราไปได้เรื่อย ถ้าเอามาคิดส่วนลดให้เป็นมูลค่าปัจจุบันควรจะเป็นเท่าไร ทำให้มีวิธีการคิดที่เป็นคณิตศาสตร์
• ถ้ามูลค่าหุ้นในตลาดต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงมาก หากซื้อเอาไว้ไม่ช้าก็เร็วราคาหุ้นจะต้องวิ่งไปสะท้อนมูลค่าแท้จริง ถ้าซื้อไว้หลายๆตัวต้องมีบางตัวที่วิ่งไปถึง แล้วก็ขายทิ้ง ทำแบบนี้แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะขาดทุน ถ้ากิจการยังดีไม่ต้องขาย
• ในการคำนวณมูลค่าที่แท้จริงไม่ง่าย จึงต้องมี margin of safety ถ้าคำนวณมูลค่าแท้จริงได้ 100 แต่ก็อาจผิดได้จึงต้องซื้อราคาที่ต่ำกว่านั้นมากๆหน่อย เช่น 70 ลงไป
• การคำนวณหามูลค่าแท้จริงมีหลายแบบ ดูรายได้ กำไร ปันผล บางบริษัทดูทรัพย์สินที่มีแล้วต่ำกว่า book value มากๆ ก็เป็นมูลค่าแท้จริงอีกแบบ บางบริษัทมีเงินสด 10 บาทต่อหุ้น หนี้ไม่มี ราคาหุ้น 7 บาท ก็ซื้อได้บริษัทเจ๊งก็ยังกำไรเป็นอีกวิธี
• ปี 2540 ดัชนีหุ้นไทยเหลือ 200 กว่าจุด หุ้นเกือบทุกตัวเป็นหุ้น vi ซื้อได้เกือบหมด จนมาถึงปี 2556 ตอนนี้หุ้นขึ้นมาแพง หาหุ้นซื้อถูกได้ยากมาก
คำว่า VI คืออะไร?
• คุณฉัตรชัย อยากเสริมในประเด็นว่าปี 2540 ที่ราคาหุ้นต่ำเพราะนักลงทุนยังไม่ค่อยมีความรู้ แต่ปัจจุบันอ.นิเวศน์กับอ.ไพบูลย์ทำให้เหตุการณ์แบบปี 40 อาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
• VI คือ ซื้อหุ้นที่เราอยากเป็นเจ้าของกิจการ โดยคาดหวังผลตอบแทนจากกิจการมาสู่เรา ไม่ได้คาดหวังจะขายให้คนอื่นแพงๆ ซื้อบริษัทที่ดีซึ่งเราพิจารณาจากผลตอบแทน ไม่ใช่เสน่หา
• บริษัทที่ดีก็ไม่ใช่จะซื้อได้ทุกบริษัท เปรียบเหมือน Camry เป็นรถที่ดี แต่ถ้ามีคนมาขาย 3 ล้านบาท การลงทุนที่ดีคือเลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม
ตอนที่หุ้น IPO เข้ามาในตลาด สะท้อนมูลค่าไหม?
• คุณฉัตรชัย ผมไม่ค่อยลงทุนหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด เพราะข้อมูลประวัติ งบการเงินค่อนข้างน้อย บางทีงบการเงินก่อนและหลังเข้าตลาดอาจจะแตกต่างกัน ก่อนเข้าตลาดก็อาจมีบัญชีหลายเล่ม
• จะรู้ว่าบริษัทดี ต้องเข้าใจตัวอุตสาหกรรมก่อน จุดอ่อน จุดแข็ง การตัดสินแพ้ชนะของธุรกิจ แล้วบริษัทที่เราจะลงทุนมีจุดแข็งตรงนั้นไหม
เป็น VI ตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรือเปล่า?
• คุณฉัตรชัย ไม่ใช่ เริ่มต้นปี 2533 อยากลงทุนเพราะอ่านหนังสือ peter lynch เกี่ยวกับการลงทุน รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เนื่องจากจบวิศวะความรู้การวิเคราะห์ค่อนข้างน้อย เมื่อก่อนไม่มีอินเทอร์เนท,ข้อมูลน้อย ทำให้ความตั้งใจดีก็เอนเอียงกลายเป็นเก็งกำไรไปหมด
จะเริ่มต้นเป็น VI ได้อย่างไร?
• คุณฉัตรชัย VI เป็นอะไรที่ยาก คนเป็น VI จริงๆน้อย เพราะวัตถุประสงค์คนที่เล่นหุ้นอยากรวยเร็ว แต่การลงทุน VI จะค่อนข้างช้า สม่ำเสมอ ใช้เวลา ใช้ความอดทน ต้องศึกษามาก ซึ่งขัดกับคนที่เข้ามาลงทุน ซึ่งไม่สามารถทนศึกษาได้ ก็แปรเปลี่ยนเป็นนักเก็งกำไรหมด
• คนชอบเข้าใจผิดว่า VI ต้องถือหุ้นยาว แต่เพราะราคาหุ้นยังไม่ขึ้นไปถึงราคาที่เราคาดคำนวณไว้
• VI การซื้อหุ้นเหมือนจะไปซื้อบ้านต้องไปสำรวจทำเลก่อน
ตอนที่เห็นต่างประเทศแล้วมาแปลงเป็นวิธีของดร.นิเวศน์อย่างไร?
• ดร.นิเวศน์ อย่างที่คุณฉัตรชัยบอกว่า ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องถือยาว แต่ด้วย concept ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง ซึ่งมันจะค่อยๆเปลี่ยน ซึ่งไม่เพิ่มขึ้นเร็ว แต่ราคาหุ้นแกว่งขึ้นลงรวดเร็ว ทำให้มี VI จำนวนมากซื้อๆขายๆตลอดเวลา ไปเน้นเรื่องราคาเยอะ กิจการรู้ว่าพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน เรามองเห็นอยู่ หลายคนบอกว่าหุ้นทุกตัวเป็น VI ได้หมด ขอให้ราคาต่ำลงมากว่าพื้นฐาน ซึ่งผมเห็นว่ามันยาก เราไม่ได้เข้าใจพื้นฐานมันอย่างแท้จริง ใช้วิธีคำนวณพื้นฐานง่ายๆ PE ปีนี้ ปีหน้า ใส่ PE ที่เหมาะสม ก็ได้มูลค่าพื้นฐาน
• ถ้าเป็น VI ต่างประเทศ ส่วนใหญ่บอกว่า VI คือชอบบริษัทเน่าๆห่วยๆไม่โตคนไม่สนใจ แต่ราคาถูก PE ต่ำ
• สำหรับ VI บางคนเช่น วอรเรน บัฟเฟตต์ เอาหุ้นที่ราคาถูกหรือราคายุติธรรม แต่กิจการต้องดีสุดยอด ทำให้ถือไปเรื่อยถ้ากิจการยังดีขึ้น มูลค่าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
VI ทมิฬ คืออะไร ?
• ดร.นิเวศน์ เป็นคำที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมามี VI กลุ่มหนึ่ง ที่ซื้อหุ้นไว้แล้วคนก็มาซื้อตามกันหุ้นก็ขึ้นมาก ทำให้คนเห็นว่าหุ้นมันดีสุดยอด พอราคาขึ้นไปมากๆก็เกินพื้นฐาน VI ที่เห็นว่าเกินพื้นฐานก็ขาย พวกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแห่ซื้อตามไปก็ติดดอยกันหมด พวกที่ขาดทุนก็บอกว่าพวกนี้เป็น VI ใจทมิฬ
• หลักการ VI เป็นหลักการสากล อย่างพระที่เป็นผู้ทรงศีล แต่ถ้ามีพระที่ไปทำผิด จะบอกว่าศาสนาพุทธเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่
• ดร.ไพบูลย์ การเก็งกำไรแบบมีหลักการเป็นสิ่งที่ยากกว่าการลงทุนแบบ VI เยอะ ต้องใช้ model คณิตศาสตร์ ต้องมี IQ สูง
• ดร.นิเวศน์ คนส่วนใหญ่ไม่สำเร็จเพราะเราหาอะไรยากๆทำ ไปเก็งว่าตัวนั้นจะขึ้นตัวนี้จะลง มันยากในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจมันมีงานที่ยากๆได้เงินน้อยๆ ทั้งๆที่มันมีงานง่ายๆได้เงินมากๆ สมมติถ้าคุณไม่ฉลาด แต่คุยสวย sexy ก็สามารถหาเงินได้ ได้มากกว่าและง่ายกว่าด้วย
• ดร.นิเวศน์ บางทีถ้าเราไม่เก่งคิดไม่ออก ต้องหาสิ่งชดเชย เช่น ซื้อธุรกิจที่ดีอย่างเดียวเลย ไม่ต้องซื้ออย่างอื่น เป็นธุรกิจที่เราเข้าใจมันอย่างดี เราคำนวณไม่เป็น ก็ซื้อมันในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งมันก็ง่ายๆใช้จิตวิทยาเข้าไปในช่วงที่ตลาดมันเหงาๆ ราคาตกมาเยอะๆ ราคามันก็ไม่เกินหรอก ซื้อแล้วก็ถือไว้เฉยๆ ถ้าพวกฉลาดเกินไปคำนวณได้พอเกินราคา 30 สตางค์ก็ขาย
คนที่จะเป็น VI จำเป็นไหมต้องเรียนหนังสือเยอะ มีความรู้เยอะ ต้องเฉลียวฉลาด?
• คุณฉัตรชัย ไม่จำเป็น สมัยนี้สัมนนาดีๆ หนังสือดีๆ เวบไซต์ดีๆ มีเพื่อนนักลงทุนบางคนจบป. 4 อาชีพวินมอเตอร์ไซค์ก็ประสบความสำเร็จได้ หรือไปเรียน MBA ที่นิด้าด้วยก็ช่วยได้
• ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นใหม่ๆ ดัชนี 300-400 ขึ้นมาเร็ว เราซื้อหุ้น VI กลับไม่ขึ้นเร็ว ทำให้เรารู้สึกลังเลใจว่า เราควรจะขายไปซื้อหุ้นตรงนั้นก่อน แล้วค่อยกลับมาซื้อหุ้น VI ต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง ความลังเลใจ ซึ่งถ้าเราลงทุนมาครบ cycle ก็จะเข้าใจว่าพอฟองสบู่แตก ก็จะเห็นว่าบริษัทเราลงมาน้อยกว่า เติบโตไปตามผลดำเนินงานที่ดีขึ้น
ในการเป็นนักลงทุนแบบ VI อะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?
• คุณฉัตรชัย อย่ายึดมั่นถือมั่น 1) ต้นทุนที่ซื้อมา ได้ยินบ่อย นักวิเคราะห์ชอบตอบคำถามว่า ต้นทุนเท่าไร แล้วก็ให้คำแนะนำขึ้นอยู่กับต้นทุน ซึ่งราคามันขึ้นกับพื้นฐานกิจการในอนาคต ซื้อหุ้นควรลืมต้นทุนไปเลย ถ้าจะคิดก็ mark to market เป็นมูลค่าปัจจุบัน 2) อย่าไปยึดติดการวิเคราะห์ของเรา ถ้าวิเคราห์พลาด ขาดทุนก็ต้องขาย cut loss ออกมา อาจจะเป็นตั้งโรงงานใหม่ แล้วยอดขายจริงไม่ได้ หรือมีการฟ้องร้องเข้ามาเสียหายมากกับบริษัท หรือยุคสมัยเปลี่ยน สินค้าที่ผลิตล้าสมัย ก็ถือว่าพื้นฐานเปลี่ยน
• ถ้าเราซื้อโดยเข้าใจพื้นฐานกิจการดีเข้าใจมูลค่าหุ้นตกเราก็กล้าถือ แต่ถ้าซื้อตามคนอื่นเวลาหุ้นตกใจจะแกว่ง
ปลายทางของการเป็น VI จะจบอย่างไร?
• ดร.นิเวศน์ ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน อาจจะขายหมดแล้วไปทำอย่างอื่น หรือก็อาจทำเรื่อยๆจนตายแล้วยกให้ลูกให้หลาน
• คุณฉัตรชัย คงเป็น VI ไปตลอด ระหว่างนี้ก็ปลูกฝังลูกให้มีความเป็น VI อย่างน้อยวิเคราะห์ไม่เป็นรับมรดกก็เข้าใจดูแลมันได้ ทุกวันนี้หุ้นตกภรรยาก็ถามว่าทำไมไม่ขาย ลูกก็บอกว่าขายทำไม บริษัทยังดี ผู้บริหารเก่ง
• อ.ไพบูลย์ ถ้าเราเป็น VI เริ่มต้นเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น เวลาผ่านไปการเป็น VI จะนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน คือไม่ต้องพึ่งพา เงินจากเงินเดือน จะมีชีวิตที่ง่ายขึ้น สุขสบาย คนที่เป็น VI จะลงไปที่เบื้องลึกของนิสัย จะเป็นคนพอเพียง ปลายทางคือไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง
• อ.ไพบูลย์ มี comment ใน Facebook ดีมาก บอกว่าเราควรใช้ชีวิตแบบน้ำล้นตุ่ม มีเยอะก็ใช้ออกไปบ้าง ใช้กับคนอื่นที่ไม่มีโอกาสเหมือนเรา และก็เหลือให้กับลูกหลาน
• อ.เสน่ห์ อย่าง ดร.นิเวศน์ ดร.ไพบูลย์ คุณฉัตรชัย ก็เป็นตัวอย่างที่ทำประโยชน์ให้ความรู้กับสังคม ผมเคยมีคนมาไหว้ขอบคุณที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความสุข เพราะเฝ้ารอดูรายการของอาจารย์ ถ้าคนที่ลงทุนแล้วประสบความสำเร็จแล้วเงียบๆ เหมือนปลาวางไข่แต่ไม่รู้มีกี่ฟอง แต่แบบดร.นิเวศน์ เป็นไก่ วางไข่แล้วมีลูกไก่ร้องกระต๊อบๆ คือต้องชี้ทางให้กับคนอื่นด้วย
• อ.เสน่ห์ VI ที่ผมชื่นชมที่สุดคือแม่ของเรา แม่เวลาลงทุนกับลูก รักแบบ VI รักจริง สนับสนุนลูก รู้จักลูกตัวเองเป็นอย่างดี ลูกจะขึ้นจะลงก็อยู่กับลูกตลอด บางช่วงลูกก็มีปันผลให้แม่ก็สุขใจ ดังนั้นอย่าลืมปันผลให้แม่บ้าง
Money talk ครั้งถัดไป อาทิตย์ที่ 1 กันยายน 56
รับจองทาง Facebook เสาร์ที่ 24 สิงหาคม (ผู้อาวุโส จองศุกร์ที่ 23)
2 หัวข้อ
1) (ทางตลาดหลักทรัพย์จะเชิญบริษัทมา 3-4 บริษัท)
2) เส้นทางเศรษฐีคุณค่า : คุณวีรณัฐ โรจนประภา, คุณใหม่ บ้านอารีย์, ดร.นิเวศน์ และแขกรับเชิญอีกท่านกำลังติดต่อ
ขอขอบคุณอ.ไพบูลย์, ผู้ดำเนินรายการ, แขกรับเชิญและทีมงาน money talk ทุกท่านที่เอื้อเฟื้อและช่วยกันจัดงานครับ
สุขสันต์วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมทุกท่านด้วยครับ
Go against and stay alive.
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนป
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนป
โพสต์ที่ 5
คุณ i salmon จดได้ละเอียดมากครับ ยอดมากๆเลยครับ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนป
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณมากครับ
ละเอียดมากๆเลย เหมือนไปนั่งฟังด้วยตัวเอง
ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ
ละเอียดมากๆเลย เหมือนไปนั่งฟังด้วยตัวเอง
ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนป
โพสต์ที่ 19
ขอบคุณมากครับ ไม่มีโอกาสได้ไป เหมือนได้ไปนั่งฟังด้วยตัวเองเลยทีเดียวครับ
Let's profit run, But don't let profit down
- sorawut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2494
- ผู้ติดตาม: 2
Re: Money talk@SET10Aug13 หุ้นเด่นในกระแสหลักโลกและจากต้นจนป
โพสต์ที่ 24
คลิปสัมมนาครับ
[youtube]VvJ5QaVaTqU[/youtube]
[youtube]VvJ5QaVaTqU[/youtube]
ตัดสินใจว่า ธุรกิจไหนที่คุณต้องการจะเป็นเจ้าของ
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น
และซื้อเมื่อราคาสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ในอัตราที่เข้าท่าสำหรับการร่วมทำธุรกิจเท่านั้น