แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
- Ryotaro
- Verified User
- โพสต์: 319
- ผู้ติดตาม: 0
แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 1
"แมคโดนัลด์" ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ "ไฮนซ์"
"แมคโดนัลด์" ประกาศยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดำเนินมานานกว่า 40 ปีกับ "ไฮนซ์" ผู้ผลิตซอสมะเขือเทศรายใหญ่ ท่ามกลางการคาดเดาว่า อาจเป็นเพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไฮนซ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "เบอร์เกอร์ คิง" คู่แข่งของตัวเอง
วันเสาร์ 26 ตุลาคม 2556 เวลา 09:33 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่า "แมคโดนัลด์" เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประกาศยกเลิกการใช้ซอสมะเขือเทศยี่ห้อ "ไฮนซ์" โดยให้เหตุผลเพียงว่า เนื่องจากไฮนซ์มีการเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กร
อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์ยืนยันจะยังคงทำงานร่วมกับไฮนซ์ จนกว่ากระบวนการจัดหาผู้ผลิตซอสรายใหม่ให้แก่บริษัทจะเสร็จสิ้นด้วยความราบรื่นที่สุด ซึ่งแมคโดนัลด์เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลกอย่างแน่นอน
แต่กระนั้นนักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่แท้จริงของการยุติความสัมพันธ์กับไฮนซ์ที่ยืนยาวมานานกว่า 4 ทศวรรษ อาจเริ่มต้นมาจากการที่บริษัท "เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์" ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกัน และบริษัท "ทรีจี แคปปิตอล" จากบราซิล ร่วมกันซื้อกิจการของไฮนซ์เมื่อเดือนก.พ. แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ทรีจี แคปปิตอล คือผู้ซื้อกิจการของ "เบอร์เกอร์ คิง" ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของแมคโดนัลด์นั่นเอง
จะส่งผลให้พื้นฐานกิจการของซอสไฮนซ์เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
แล้วปู่บัฟต์จะทำยังไงกับหุ้นไฮนซ์ที่มีอยู่ น่าติดตามครับ
"แมคโดนัลด์" ประกาศยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดำเนินมานานกว่า 40 ปีกับ "ไฮนซ์" ผู้ผลิตซอสมะเขือเทศรายใหญ่ ท่ามกลางการคาดเดาว่า อาจเป็นเพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไฮนซ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "เบอร์เกอร์ คิง" คู่แข่งของตัวเอง
วันเสาร์ 26 ตุลาคม 2556 เวลา 09:33 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่า "แมคโดนัลด์" เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประกาศยกเลิกการใช้ซอสมะเขือเทศยี่ห้อ "ไฮนซ์" โดยให้เหตุผลเพียงว่า เนื่องจากไฮนซ์มีการเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์กร
อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์ยืนยันจะยังคงทำงานร่วมกับไฮนซ์ จนกว่ากระบวนการจัดหาผู้ผลิตซอสรายใหม่ให้แก่บริษัทจะเสร็จสิ้นด้วยความราบรื่นที่สุด ซึ่งแมคโดนัลด์เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลกอย่างแน่นอน
แต่กระนั้นนักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่แท้จริงของการยุติความสัมพันธ์กับไฮนซ์ที่ยืนยาวมานานกว่า 4 ทศวรรษ อาจเริ่มต้นมาจากการที่บริษัท "เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์" ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกัน และบริษัท "ทรีจี แคปปิตอล" จากบราซิล ร่วมกันซื้อกิจการของไฮนซ์เมื่อเดือนก.พ. แต่ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ทรีจี แคปปิตอล คือผู้ซื้อกิจการของ "เบอร์เกอร์ คิง" ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของแมคโดนัลด์นั่นเอง
จะส่งผลให้พื้นฐานกิจการของซอสไฮนซ์เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
แล้วปู่บัฟต์จะทำยังไงกับหุ้นไฮนซ์ที่มีอยู่ น่าติดตามครับ
Believe in Yourself & Do Your Best.
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ สำหรับข่าว
ทางออกเพื่อให้ แมค ฯ ยังคงใช้ ซอส ไฮนซ์ ง่ายนิดเดียวครับ
ก็ให้ ปู่บัฟเฟตต์ ซื้อกิจการ แมค ฯ ไงครับ
ทางออกเพื่อให้ แมค ฯ ยังคงใช้ ซอส ไฮนซ์ ง่ายนิดเดียวครับ
ก็ให้ ปู่บัฟเฟตต์ ซื้อกิจการ แมค ฯ ไงครับ
- Ryotaro
- Verified User
- โพสต์: 319
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 5
พอลองหาข้อมูล เจอ link ข้อคิดจากการซื้อกิจการไฮนซ์ เหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
อนึ่ง แม้ไฮนซ์จะประสบผลสำเร็จมากเพียงใดก็ตาม โดยภัตตาคารฟาส์ทฟู้ดระดับอินเตอร์ เช่น เบอร์เกอร์คิง เวนดี้ ฯลฯ ต่างนิยมใช้ซอสมะเขือเทศไฮนซ์ แต่ฟาส์ทฟู้ดยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก คือ แมคโดนัลด์ ใช้ซอสมะเขือเทศไฮนซ์น้อยมาก เนื่องจากความแค้นฝังใจตั้งแต่ในอดีต นับเป็นกรณีศึกษาสำคัญ
ในอดีตแมคโดนัลด์ใช้ซอสมะเขือเทศไฮนซ์ แต่เมื่อเกิดการขาดแคลนมะเขือเทศเมื่อปี 2516 หรือ 40 ปีมาแล้ว บริษัทไฮนซ์ขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต จึงเน้นผลิตเพื่อขายแก่ลูกค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นหลัก ทำให้ไม่สามารถส่งซอสมะเขือเทศให้แมคโดนัลด์เป็นปริมาณเพียงพอกับความต้องการ นับเป็นพฤติกรรมที่ให้อภัยไม่ได้ จึงยกเลิกการใช้ซอสมะเขือเทศไฮนซ์นับตั้งแต่นั้นมา โดยจ้างบริษัทอื่นผลิตซอสมะเขือเทศในแบรนด์แมคโดนัลด์แทน
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ บริษัทไฮนซ์ได้กำหนดให้รองผู้อำนวยการคนหนึ่งทำการศึกษาแมคโดนัลด์เป็นการเฉพาะในเชิงลึก มีการศึกษาว่าการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง อะไรที่ไฮนซ์จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือให้การดำเนินธุรกิจของแมคโดนัลด์ดีขึ้น การนำเสนอข้อมูลรวมถึงนำผู้บริหารของแมคโดนัลด์ไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตของไฮนซ์ การวิจัยและพัฒนาพันธุ์มะเขือเทศของไฮนซ์ที่ทำให้ซอสมะเขือเทศอร่อยยิ่งขึ้น การปลูกมะเขือเทศว่าเป็นไปอย่างถูกสุขอนามัย รวมถึงการพัฒนาระบบตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยแบบย้อนกลับที่ไฮนซ์อ้างว่ายอดเยี่ยมกว่าบริษัทคู่แข่ง เพื่อให้ใจอ่อนกลับมาใช้ซอสมะเขือเทศไฮนซ์อีกครั้งหนึ่ง
จากคติพจน์ที่ว่า “ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก” ทำให้ไฮนซ์ประสบผลสำเร็จบ้าง โดยในระยะหลังแมคโดนัลด์ตัดสินใจใช้ไฮนซ์บ้างในบางสาขาและในบางประเทศ เช่น คานาดา สหราชอาณาจักร รัสเซีย ฯลฯ แต่ก็นับว่ายังค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งมีปริมาณสาขามากที่สุด เกือบทั้งหมดยกเว้นสาขาในนครพิตสเบิร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทไฮนส์ ยังใช้ยี่ห้ออื่น รวมถึงแมคโดนัลด์ในไทยด้วย ซึ่งได้จ้างบริษัท กิ่วไป้(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างเครือสหพัฒนพิบูล กับบริษัท QP Corporation ของญี่ปุ่น เป็นผู้ผลิตให้
สุดท้ายนี้ ความสัมพันธ์ที่เริ่มหวานชื่นระหว่างไฮนส์และแมคโดนัลด์อาจจะสดุดลง เนื่องจากมหาเศรษฐีบราซิลที่ร่วมซื้อกิจการไฮนส์นั้น เป็นเจ้าของกิจการฟาส์ทฟู้ดเบอร์เกอร์คิง คู่แข่งสำคัญของแมคโดนัลด์ ดังนั้น แมคโดนัลด์อาจจะยกเลิกการซื้อซอสมะเขือเทศไฮนส์อีกครั้งหนึ่ง
Believe in Yourself & Do Your Best.
- py106
- Verified User
- โพสต์: 296
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณสำหรับข่าวสารและกรณีศึกษาที่ดีมากๆ ครับ
แวะไปเยี่ยมเยียนกันได้ครับ ^^
http://py106travel.blogspot.com
http://py106travel.blogspot.com
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 582
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 9
สัดส่วนรายได้ จาก Heize ใน US 40% , Europe 29%, ASIA 22% -
product ก็มีหลายหลายครับ
Ketchup & Sauces (Classico, Heinz Ketchup, and Lea & Perrins)
Meals and Snacks (Bagel Bites, Delimex, TGI Fridays)
Infant/Nutrition (Nurture, Plasmon, Wattie)
หาไม่เจอครับ ว่า Heinz Ketchup มีสัดส่วนเท่าไหร่ จาก product ทั้งหมด ที่ขายใน US, เท่าที่ดู มีถึง 23 Products ที่ขายใน US
คิดว่าผลกระทบ น่าจะไม่มากครับ
product ก็มีหลายหลายครับ
Ketchup & Sauces (Classico, Heinz Ketchup, and Lea & Perrins)
Meals and Snacks (Bagel Bites, Delimex, TGI Fridays)
Infant/Nutrition (Nurture, Plasmon, Wattie)
หาไม่เจอครับ ว่า Heinz Ketchup มีสัดส่วนเท่าไหร่ จาก product ทั้งหมด ที่ขายใน US, เท่าที่ดู มีถึง 23 Products ที่ขายใน US
คิดว่าผลกระทบ น่าจะไม่มากครับ
แนบไฟล์
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แมคโดนัลด์ ประกาศเลิกใช้ซอสมะเขือเทศ"ไฮนซ์"
โพสต์ที่ 10
การยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจเป็นผลดีกับไฮนซ์มากกว่าแมคนะครับ เพราะ
1.บ.ขนาดใหญ่อย่างไฮนซ์ได้ใช้ประโยชน์จากeosทั้งในแง่การจัดซื้อ
หรือการใช้กำลังการผลิตจนเต็มประสิทธิภาพแล้ว
การเพิ่มกำลังการผลิตหรือลดกำลังการผลิตเพียงเล็กน้อยไม่ได้มีผลกระทบกับกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
2.ลองดูงบย้อนหลังครับ ไฮนซ์เป็นบ.ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเอากำลังการผลิตจากการยุติความสัมพันธ์กับแมค มาผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นเยอะว่า
ส่งผลดีกับบ.มากกว่าในแง่ประสิทธิภาพการใช้เงินทุน
ไม่แน่การยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจเป็นใบสั่งจากปู่บัฟก็ได้
1.บ.ขนาดใหญ่อย่างไฮนซ์ได้ใช้ประโยชน์จากeosทั้งในแง่การจัดซื้อ
หรือการใช้กำลังการผลิตจนเต็มประสิทธิภาพแล้ว
การเพิ่มกำลังการผลิตหรือลดกำลังการผลิตเพียงเล็กน้อยไม่ได้มีผลกระทบกับกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
2.ลองดูงบย้อนหลังครับ ไฮนซ์เป็นบ.ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การเอากำลังการผลิตจากการยุติความสัมพันธ์กับแมค มาผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นเยอะว่า
ส่งผลดีกับบ.มากกว่าในแง่ประสิทธิภาพการใช้เงินทุน
ไม่แน่การยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้อาจเป็นใบสั่งจากปู่บัฟก็ได้
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ