สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 1
ผมสงสัยการดูสินค้าคงเหลือครับ ว่าเราจะรู้ได้ยังไงหากบริษัท มีสินค้าคงเหลือ
เพิ่มขึ้นทุกๆปี ว่าเพิ่มขึ้นเพราะการสต็อกสินค้ามากขึ้นตามการขายที่เติบโต
หรือเพิ่มขึ้นเพราะสินค้าขายไม่ดี สต็อกบวมอะครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ...^^)
เพิ่มขึ้นทุกๆปี ว่าเพิ่มขึ้นเพราะการสต็อกสินค้ามากขึ้นตามการขายที่เติบโต
หรือเพิ่มขึ้นเพราะสินค้าขายไม่ดี สต็อกบวมอะครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 2
ดูเป็น time series หลายๆปีครับ และดูเป็นการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี ดู year beginning inventory ดู cogs ระหว่างปี ดู year end inventory
จะช่วยได้มากขึ้นอีกถ้าเข้าใจ stocking policy หรือ นโยบายจัดซื้อของบริษัท
และสำคัญกว่าอีกคือก่อนดูตัวเลขจากงบมันขึ้นอยู่กับกิจการด้วยต้องดูว่า inven อันไหนบริษัทบันทึกอย่างไรเป็น raw mat, WIP, FG และอะไรสะท้อน inventory ที่สอดคล้องกับการขาย (ที่รับรู้เป็น revenue) อะไรสอดคล้องกับการผลิตเพื่อขาย ถ้าดูแต่ตัวเลขพวกค้าปลีกก็จะดูง่ายกว่าพวก oem ต้อง map ตัวเลขให้ถูกต้องครับ คิดออกแค่นี้ตอนนี้
จะช่วยได้มากขึ้นอีกถ้าเข้าใจ stocking policy หรือ นโยบายจัดซื้อของบริษัท
และสำคัญกว่าอีกคือก่อนดูตัวเลขจากงบมันขึ้นอยู่กับกิจการด้วยต้องดูว่า inven อันไหนบริษัทบันทึกอย่างไรเป็น raw mat, WIP, FG และอะไรสะท้อน inventory ที่สอดคล้องกับการขาย (ที่รับรู้เป็น revenue) อะไรสอดคล้องกับการผลิตเพื่อขาย ถ้าดูแต่ตัวเลขพวกค้าปลีกก็จะดูง่ายกว่าพวก oem ต้อง map ตัวเลขให้ถูกต้องครับ คิดออกแค่นี้ตอนนี้
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณมากครับ คุณ "วรันศ์ บัฟเฟต" แค่ที่ว่ามานี่ ผมก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพียบ
แล้วหละครับ 555+...^^)
ปล.แล้วถ้าเน้นไปเลยเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าส่งขายใน ห้างModern Trade
7-11 หละครับ มีจุดไหนที่ต้องดูเป็นพิเศษไหมครับ...^^)
แล้วหละครับ 555+...^^)
ปล.แล้วถ้าเน้นไปเลยเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าส่งขายใน ห้างModern Trade
7-11 หละครับ มีจุดไหนที่ต้องดูเป็นพิเศษไหมครับ...^^)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 4
ลองคำนวณ inventory days ดูครับ (สูตรหาเอาจาก google ได้) มันจะบอกว่าโดยเฉลี่ยบริษัทใช้เวลากี่วันถึงจะขายสินค้าได้ ถ้ายอด inventory เพิ่ม แต่เลขนี้ลดก็สบายใจได้ครับ แปลว่า inventory เพิ่มเพราะขายดี อีกส่วนที่ต้องดูก็อายุของ inventory (ดูได้จากหมายเหตุประกอบงบ) ถ้า inventory ค้างนานๆแต่ยังไม่ได้มีการตั้งสำรองก็ต้องระวังครับ
all i need is Zero
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 5
มีวิธีหนึ่งที่ผมชอบใช้คือดู
inventory turnover ครับ จากสูตร
ต้นทุนขาย / สินค้าคงคลังเฉลี่ย
สินค้าคงคลังเฉลี่ย = (สินค้าคงคลังต้นปี + สินค้าคงคลังปลายปี )/2
**สินค้าคงคลังต้นปีเท่ากับสินค้าคงคลังของปีก่อนหน้า
แล้วเราดูตัวเลข inventory turnover ของอุตสาหกรรมเป็นค่าเฉลี่ย เปรียบกับบริษัทฯ ที่เราต้องการจะดูครับ
ว่าบริษัทฯ เราทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรมไหม ถ้าตัวเลข inventory turnover ต่ำกว่าอุตสาหกรรมมากๆ ก็ค่อยไป
หาสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นครับ
เช่นจากตาราง เราเห็นค่าเฉลี่ยของ อุตสาหกรรมร้านอาหาร มี inventory turns เท่ากับ 14.78
แต่เปรียบเทียบกับ hotpot ซึ่งมีอัตราหมุนที่ 20 และ mk suki ที่ 22 ก็แสดงว่าทั้ง hotpot กับ m
ก็ทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรม แต่ S&P ทำได้แค่ 11
ลองๆดูหลายๆอุตสาหกรรมนะครับ น่าจะพอเห็นภาพ
อัตราหมุนสินค้าคงคลัง
beauty = 2
kamart =2
cpall = 24
big c =11
bgh = 32
bh =33
inventory turnover ครับ จากสูตร
ต้นทุนขาย / สินค้าคงคลังเฉลี่ย
สินค้าคงคลังเฉลี่ย = (สินค้าคงคลังต้นปี + สินค้าคงคลังปลายปี )/2
**สินค้าคงคลังต้นปีเท่ากับสินค้าคงคลังของปีก่อนหน้า
แล้วเราดูตัวเลข inventory turnover ของอุตสาหกรรมเป็นค่าเฉลี่ย เปรียบกับบริษัทฯ ที่เราต้องการจะดูครับ
ว่าบริษัทฯ เราทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรมไหม ถ้าตัวเลข inventory turnover ต่ำกว่าอุตสาหกรรมมากๆ ก็ค่อยไป
หาสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นครับ
เช่นจากตาราง เราเห็นค่าเฉลี่ยของ อุตสาหกรรมร้านอาหาร มี inventory turns เท่ากับ 14.78
แต่เปรียบเทียบกับ hotpot ซึ่งมีอัตราหมุนที่ 20 และ mk suki ที่ 22 ก็แสดงว่าทั้ง hotpot กับ m
ก็ทำได้ดีกว่าอุตสาหกรรม แต่ S&P ทำได้แค่ 11
ลองๆดูหลายๆอุตสาหกรรมนะครับ น่าจะพอเห็นภาพ
อัตราหมุนสินค้าคงคลัง
beauty = 2
kamart =2
cpall = 24
big c =11
bgh = 32
bh =33
“Laughter is timeless. Imagination has no age. And dreams are forever.” ― Walt Disney Company
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 8
ผมเข้าไปหาสูตรของ Inventory turnover กับ Inventory day
ใน google แล้วเจอเวปน่าสนใจ เอามาฝากไว้ครับ(อ่านยาวหน่อยนะ)
http://www.thailandindustry.com/guru/vi ... ;section=9..
...^^)
ใน google แล้วเจอเวปน่าสนใจ เอามาฝากไว้ครับ(อ่านยาวหน่อยนะ)
http://www.thailandindustry.com/guru/vi ... ;section=9..
...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 9
สินค้าคงเหลือมาก
ต้องไปดูว่า Build เพื่อ ซ่อนเรื่องค่าเสื่อมราคาไปที่ต้นทุนการขายหรือเปล่า
(ถ้าหากคิดแบบค่าเสื่อมตามจำนวนที่ผลิต)
อีกประเด็นจำไม่ได้เดี๋ยวต้องไปเปิดดูก่อนว่า
สินค้าคงเหลือมีมาก ทำส่งผลที่อะไรต่อไปครับ
ต้องไปดูว่า Build เพื่อ ซ่อนเรื่องค่าเสื่อมราคาไปที่ต้นทุนการขายหรือเปล่า
(ถ้าหากคิดแบบค่าเสื่อมตามจำนวนที่ผลิต)
อีกประเด็นจำไม่ได้เดี๋ยวต้องไปเปิดดูก่อนว่า
สินค้าคงเหลือมีมาก ทำส่งผลที่อะไรต่อไปครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 10
เท่าที่ผมรู้ การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง แต่ในงบกระแสเงินสดmiracle เขียน:สินค้าคงเหลือมาก
ต้องไปดูว่า Build เพื่อ ซ่อนเรื่องค่าเสื่อมราคาไปที่ต้นทุนการขายหรือเปล่า
(ถ้าหากคิดแบบค่าเสื่อมตามจำนวนที่ผลิต)
อีกประเด็นจำไม่ได้เดี๋ยวต้องไปเปิดดูก่อนว่า
สินค้าคงเหลือมีมาก ทำส่งผลที่อะไรต่อไปครับ
จะถูกหักออกในกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครับ เรื่องซ่อนค่าเสื่อมราคาไป
ที่ต้นทุนการขายผมไม่เข้าใจว่าซ่อนยังไงหนะครับ รบกวน คุณ "miracel"
ชี้แนะให้ผมด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 11
@ K.Plant
ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out)
อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้
อีกข้อ ค้าส่ง ค้าปลีก สำคัญดูรายสินค้าครับ อันนี้มองในงบไม่เจอ ต้องขุดเอาเองหาสินค้า fast - slow - non moving item พวกนี้ ฝ่ายบริหาร inven จัดซื้อ บริษัทน่าจะมีครับ แต่คุยกะ ir จะประสานให้จริงจังรึป่าวไม่รู้นะครับ อันนี้ความสามารถส่วนบุคคลในการวิ่งหาข้อมูล
นึกออกจะมาเพิ่มครับ
ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out)
อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้
อีกข้อ ค้าส่ง ค้าปลีก สำคัญดูรายสินค้าครับ อันนี้มองในงบไม่เจอ ต้องขุดเอาเองหาสินค้า fast - slow - non moving item พวกนี้ ฝ่ายบริหาร inven จัดซื้อ บริษัทน่าจะมีครับ แต่คุยกะ ir จะประสานให้จริงจังรึป่าวไม่รู้นะครับ อันนี้ความสามารถส่วนบุคคลในการวิ่งหาข้อมูล
นึกออกจะมาเพิ่มครับ
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 12
แหม กดตอบเสร็จนึกได้พอดี เวลาหาค่าควรดูรายปีอย่างเดียวเพราะอาจจะมี seasonal effect ทำให้การดูไม่เต็มปีแล้ว extrapolate ผลออกมาไม่ตรงความเป็นจริง
value trap
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 167
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 13
รบกวนคุณ Plant หรือท่านอื่นๆ ที่เข้าใจว่า การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง มันส่งผลอย่างไรครับ ผมยังไม่ค่อย getPlant เขียน:เท่าที่ผมรู้ การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง แต่ในงบกระแสเงินสดmiracle เขียน:สินค้าคงเหลือมาก
ต้องไปดูว่า Build เพื่อ ซ่อนเรื่องค่าเสื่อมราคาไปที่ต้นทุนการขายหรือเปล่า
(ถ้าหากคิดแบบค่าเสื่อมตามจำนวนที่ผลิต)
อีกประเด็นจำไม่ได้เดี๋ยวต้องไปเปิดดูก่อนว่า
สินค้าคงเหลือมีมาก ทำส่งผลที่อะไรต่อไปครับ
จะถูกหักออกในกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครับ เรื่องซ่อนค่าเสื่อมราคาไป
ที่ต้นทุนการขายผมไม่เข้าใจว่าซ่อนยังไงหนะครับ รบกวน คุณ "miracel"
ชี้แนะให้ผมด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ...^^)
ขอบคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1244
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 14
กรณีที่คุณ plant ว่าตามความเข้าใจผมไม่น่าจะทำให้กำไรดูสูงครับ กำไรสุทธิส่วน P&L ก็ของมันตาม transaction การขายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชี ถูกแล้ว น่าจะเป็นเรื่องเงินสดรับ-จ่ายจากการดำเนินงานซะมากกว่า ที่อาจจะต่ำหรือสูงกว่ากำไรสุทธิ เพราะต้องปรับปรุงหาเงินสดสุทธิด้วยตัวเลขสินค้าคงเหลือ (สินค้าคงเหลือเป็นแค่ส่วนเดียว)NAIVE เขียน:รบกวน k.Plant หรือท่านอื่นๆ ที่เข้าใจว่า การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง มันส่งผลอย่างไรครับ ผมยังไม่ค่อย getPlant เขียน:เท่าที่ผมรู้ การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง แต่ในงบกระแสเงินสดmiracle เขียน:สินค้าคงเหลือมาก
ต้องไปดูว่า Build เพื่อ ซ่อนเรื่องค่าเสื่อมราคาไปที่ต้นทุนการขายหรือเปล่า
(ถ้าหากคิดแบบค่าเสื่อมตามจำนวนที่ผลิต)
อีกประเด็นจำไม่ได้เดี๋ยวต้องไปเปิดดูก่อนว่า
สินค้าคงเหลือมีมาก ทำส่งผลที่อะไรต่อไปครับ
จะถูกหักออกในกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครับ เรื่องซ่อนค่าเสื่อมราคาไป
ที่ต้นทุนการขายผมไม่เข้าใจว่าซ่อนยังไงหนะครับ รบกวน คุณ "miracel"
ชี้แนะให้ผมด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ...^^)
ขอบคุณมากครับ
ส่วนของ k.miracle น่าจะพูดถึงการนโยบายการบันทึกทางบัญชีส่วนต้นทุนการขายครับ
การเดินทางสำคัญกว่าจุดหมาย
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 15
ขอบคุณ คุณ "วรันศ์ บัฟเฟต" ครับ ผมสงสัยแบบที่คุณวรันศ์ บอกเลยครับว่าวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:@ K.Plant
ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out)
อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้
โดยปกติ "ต้นทุนสินค้าขาย" มันจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมอยู่ด้วยไม่ได้มีเพียงค่าใช้จ่าย
สินค้าที่ขายออกไป แล้วผมมั่นใจว่าบริษัทแต่ละบริษัทมีวิธีการกำหนดต้นทุนสินค้าขาย
ไม่เหมือนกัน(เพราะบริษัทผมบางปีหัวข้อนี้เป็นต้นทุนผลิต พออีกปีนึงคนทำบัญชีโยกไป
เป็นค่าใช้จ่ายบริหารซะงั้น!!) แต่ผมลองมาคิดดูแล้ว ถ้าเราใช้เทียบหลายๆปี โดยใช้เกณฑ์
เดียวกันในการคำนวนคิดว่าน่าจะเห็นภาพเป็นแนวโน้มได้หนะครับ อย่างตอนนี้ผมคำนวน
ย้อนหลังเปรียบเทียบไป 5 ปี ได้ turnover อยู่ 12 รอบ หรือ day 30 วัน
แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากเมื่อก่อนนะครับ อันนี้ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือว่าจะเป็น
"garbage in garbage out" แบบที่คุณ "วรันศ์" บอกนะครับนี่...^^)
ครับ สงสัยผมต้องโทรไปถาม ir บ้างแล้วหละครับคราวนี้...^^)Plant เขียน:อีกข้อ ค้าส่ง ค้าปลีก สำคัญดูรายสินค้าครับ อันนี้มองในงบไม่เจอ ต้องขุดเอาเองหาสินค้า fast - slow - non moving item พวกนี้ ฝ่ายบริหาร inven จัดซื้อ บริษัทน่าจะมีครับ แต่คุยกะ ir จะประสานให้จริงจังรึป่าวไม่รู้นะครับ อันนี้ความสามารถส่วนบุคคลในการวิ่งหาข้อมูล
นึกออกจะมาเพิ่มครับ
ปล.ยังไม่เคยหาข้อมูลกับ ir ที่ไหนมาก่อนเลย ตื่นเต้นๆ!!...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 16
ถ้ามีหนังสือ "ร้านไหนกำไรมากกว่า?" อยู่ในมือสามารถหาอ่านได้จากในหนังสือครับNAIVE เขียน:รบกวนคุณ Plant หรือท่านอื่นๆ ที่เข้าใจว่า การมีสินค้าคงเหลือมากจะทำให้กำไรดูสูง มันส่งผลอย่างไรครับ ผมยังไม่ค่อย get
ขอบคุณมากครับ
เดี๋ยวผมต้องกลับไปดูก่อนว่าอยู่บทไหน ถ้าไม่มีเดี๋ยวไว้ผมจะมาอธิบายอีกทีครับ
ตอนนี้ต้องขอตัวไปทำงานก่อน(งานเร่งด้วย...T-T) ....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 18
ระวังการเทียบระหว่างบริษัทหรือตัวเลข industry benchmarkPlant เขียน:ขอบคุณ คุณ "วรันศ์ บัฟเฟต" ครับ ผมสงสัยแบบที่คุณวรันศ์ บอกเลยครับว่าวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:@ K.Plant
ที่สำคัญน่าจะเป็นวิธีการบันทึกบัญชีครับว่ารายการไหนลงบัญชีแบบไหน ส่วน inven turnover นั้นคือตัวตั้งของ inven days (จำนวนวัน / turnover) ที่สำคัญก่อนจะเทียบต้องมั่นใจว่าการลงบัญชี apple to apple (ถ้าตัว input ไม่แม่น ก็ garbage in garbage out)
อีกอย่างนะต้องเช็คให้แต่ใจว่า cost basis ที่ใช้คิดมูลค่า inven กับ cogs ต้องวิธีเดียวกันนะครับถึงจะหารกันได้ และตัว cogs ก็ต้องไปดูด้วยว่าบันทึกมามีรายการอะไรบ้างนอกจากสินค้า อาจจะมีค่าเสื่อม labor หรือ non-material charges อื่นๆ ว่าง่ายๆตัวตั้งตัวหารต้องคิดวิธีเดียวกันเป๊ะ ผมคิดว่าตรงนี้ยากหน่อยจึงไม่แนะนำให้ดู inven turnover เพราะจะ mislead ได้
โดยปกติ "ต้นทุนสินค้าขาย" มันจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆรวมอยู่ด้วยไม่ได้มีเพียงค่าใช้จ่าย
สินค้าที่ขายออกไป แล้วผมมั่นใจว่าบริษัทแต่ละบริษัทมีวิธีการกำหนดต้นทุนสินค้าขาย
ไม่เหมือนกัน(เพราะบริษัทผมบางปีหัวข้อนี้เป็นต้นทุนผลิต พออีกปีนึงคนทำบัญชีโยกไป
เป็นค่าใช้จ่ายบริหารซะงั้น!!) แต่ผมลองมาคิดดูแล้ว ถ้าเราใช้เทียบหลายๆปี โดยใช้เกณฑ์
เดียวกันในการคำนวนคิดว่าน่าจะเห็นภาพเป็นแนวโน้มได้หนะครับ อย่างตอนนี้ผมคำนวน
ย้อนหลังเปรียบเทียบไป 5 ปี ได้ turnover อยู่ 12 รอบ หรือ day 30 วัน
แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากเมื่อก่อนนะครับ อันนี้ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือว่าจะเป็น
"garbage in garbage out" แบบที่คุณ "วรันศ์" บอกนะครับนี่...^^)
และระวังการเปลี่ยนวิธีการลงบัญชีของบริษัทระหว่างปีครับ ขอให้บรรทัดฐานเดียวกันก็พอได้
value trap
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 19
มาอธิบายเรื่องมีสินค้าคงเหลือเพิ่มสูงขึ้นแล้วจะทำให้กำไรสูงขึ้นแล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่มา
อธิบายช้า รู้สึกความรู้จะเริ่มขึ้นสนิมแล้วครับ เลยต้องกลับบ้านมาเปิดตำราทบทวนก่อนครับ
....แหะๆ... ใครมีหนังสือสามารถอ่านได้ในบท 7 เรื่อง ขอให้ระวังสาวสวยจากการศัลยกรรมนะครับ
เข้าเรื่องเลย ผมขออธิบายตามหนังสือเลยนะครับ งบดุล คือ "สินทรัพย์ = หนี้สิน+ทุน" ตัวเลขผลรวม
ของทั้ง 2 ฝั่ง ซ้ายกับขวาต้องเท่ากัน มันถึงจะดุลกัน แต่ถ้ามีตัวเลขฝั่งไหนเพิ่มขึ้นอีกฝั่งก็ต้องเพิ่มตาม
ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีการตบแต่งงบเพื่อให้กำไรดูดีก็จะมีเรื่องนึงคือการเพิ่มตัวเลข "สินค้าคงเหลือ"
ให้สูงขึ้น ซึ่งก็คือฝั่งซ้าย(สินทรัพย์)สูงขึ้น เมื่อซ้ายเพิ่มขวาก็ต้องเพิ่มตาม จึงเป็นเหตุให้ "กำไรสะสม"
ในส่วนทุนที่อยู่ฝั่งขวาเพิ่มขึ้น แล้วกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้นก็มาจาก "กำไรสุทธิ" ในงบกำไรขาดทุนเพิ่มขึ้น
นั่นเอง...^^)
วิธีการเพิ่มสินค้าคงเหลือในหนังสือ ยกตัวอย่างไว้ว่า บริษัทมักจะใช้ 2 วิธีร่วมกันคือ การเปลี่ยนตัวเลข
สินค้าคงเหลือให้เพิ่มขึ้นโดยไม่มีสินค้าอยู่จริง กับ เพิ่มราคาต่อหน่วยของสินค้าคงเหลือให้มากขึ้นครับ
และการแต่งงบด้วยสินค้าคงเหลือต้องแต่งเพิ่มขึ้นทุกๆปีเพื่อให้กำไรดูดีไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าเหมือน
ยาเสพติดครับ
ในหนังสือยังบอกวิธีดูอีกว่าบริษัทไหนแต่งงบ หรือไม่แต่งงบ เพราะการที่สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นไม่ได้บ่ง
บอกว่าบริษัทนั้นตกแต่งงบนะครับ แต่เขาให้เปรียบเทียบย้อนหลังประมาณ 3 ปีทั้ง งบดุล และ งบกำไร
ขาดทุนครับ ถ้ามีรายการที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมากให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนครับ และให้เน้นพวก
"สินค้าคงเหลือ ยอดขายค้างรับ(ลูกหนี้) เงินสำรองจ่าย ทรัพย์สินยกยอด" พวกนี้ในหนังสือบอกว่า
ใช้ตกแต่งบัญชีได้ง่ายครับ ประมาณนี้ครับ...^^)
เอ..หรือว่าเรื่องตกแต่งงบจะเข้ากับเคสหุ้นที่ผมกำลังสงสัยอยู่หว่า ต้องกลับไปดูให้ละเอียด
อีกรอบซะแล้ว...^^)
อธิบายช้า รู้สึกความรู้จะเริ่มขึ้นสนิมแล้วครับ เลยต้องกลับบ้านมาเปิดตำราทบทวนก่อนครับ
....แหะๆ... ใครมีหนังสือสามารถอ่านได้ในบท 7 เรื่อง ขอให้ระวังสาวสวยจากการศัลยกรรมนะครับ
เข้าเรื่องเลย ผมขออธิบายตามหนังสือเลยนะครับ งบดุล คือ "สินทรัพย์ = หนี้สิน+ทุน" ตัวเลขผลรวม
ของทั้ง 2 ฝั่ง ซ้ายกับขวาต้องเท่ากัน มันถึงจะดุลกัน แต่ถ้ามีตัวเลขฝั่งไหนเพิ่มขึ้นอีกฝั่งก็ต้องเพิ่มตาม
ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมีการตบแต่งงบเพื่อให้กำไรดูดีก็จะมีเรื่องนึงคือการเพิ่มตัวเลข "สินค้าคงเหลือ"
ให้สูงขึ้น ซึ่งก็คือฝั่งซ้าย(สินทรัพย์)สูงขึ้น เมื่อซ้ายเพิ่มขวาก็ต้องเพิ่มตาม จึงเป็นเหตุให้ "กำไรสะสม"
ในส่วนทุนที่อยู่ฝั่งขวาเพิ่มขึ้น แล้วกำไรสะสมที่เพิ่มขึ้นก็มาจาก "กำไรสุทธิ" ในงบกำไรขาดทุนเพิ่มขึ้น
นั่นเอง...^^)
วิธีการเพิ่มสินค้าคงเหลือในหนังสือ ยกตัวอย่างไว้ว่า บริษัทมักจะใช้ 2 วิธีร่วมกันคือ การเปลี่ยนตัวเลข
สินค้าคงเหลือให้เพิ่มขึ้นโดยไม่มีสินค้าอยู่จริง กับ เพิ่มราคาต่อหน่วยของสินค้าคงเหลือให้มากขึ้นครับ
และการแต่งงบด้วยสินค้าคงเหลือต้องแต่งเพิ่มขึ้นทุกๆปีเพื่อให้กำไรดูดีไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าเหมือน
ยาเสพติดครับ
ในหนังสือยังบอกวิธีดูอีกว่าบริษัทไหนแต่งงบ หรือไม่แต่งงบ เพราะการที่สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นไม่ได้บ่ง
บอกว่าบริษัทนั้นตกแต่งงบนะครับ แต่เขาให้เปรียบเทียบย้อนหลังประมาณ 3 ปีทั้ง งบดุล และ งบกำไร
ขาดทุนครับ ถ้ามีรายการที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างมากให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนครับ และให้เน้นพวก
"สินค้าคงเหลือ ยอดขายค้างรับ(ลูกหนี้) เงินสำรองจ่าย ทรัพย์สินยกยอด" พวกนี้ในหนังสือบอกว่า
ใช้ตกแต่งบัญชีได้ง่ายครับ ประมาณนี้ครับ...^^)
เอ..หรือว่าเรื่องตกแต่งงบจะเข้ากับเคสหุ้นที่ผมกำลังสงสัยอยู่หว่า ต้องกลับไปดูให้ละเอียด
อีกรอบซะแล้ว...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 20
ขอบคุณครับ ผมจะระวังตรงจุดนี้ด้วยครับ...^^)วรันศ์ บัฟเฟต เขียน: ระวังการเทียบระหว่างบริษัทหรือตัวเลข industry benchmark
และระวังการเปลี่ยนวิธีการลงบัญชีของบริษัทระหว่างปีครับ ขอให้บรรทัดฐานเดียวกันก็พอได้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 676
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 21
Inventory day = รอบระยะเวลาปกติ (365 วัน หรือ 360 วัน) / Inventory Turnover อธิบายง่ายๆ ว่า เช่น ในรอบปีปกติ 1 ปี สินค้าคงเหลือมีการหมุนกี่รอบ ซึ่งแต่ละรอบจะใช้เวลาถัวเฉลี่ยเท่าไร มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันครับ
ส่วนคำแนะนำของของพี่ Miracle นั้น มาช่วยขยายความครับ
ถ้าเป็นสินค้าที่มีกระบวนการผลิต ต้อง Focus ที่ต้นทุนผลิตและค่าใช้จ่ายผลิตครับ ซึ่งการโอนต้นทุนผลิตออก มี 2 ทาง คือ
1. โอนไปยังต้นทุนสินค้าที่ขาย เข้างบกำไรขาดทุนทันที หรือ
2. โอนไปยังสินค้าคงเหลือ ซึ่งมูลค่าสินค้าคงเหลือจะสูงขึ้น ซึ่งแสดงอยู่ในงบแสดงฐานะทางการเงิน(งบดุล)
ดังนั้น การที่สินค้าคงเหลือมีมูลค่าสูงนั้น ก็อาจจะหมายความว่า แทนที่โอนต้นทุนการผลิตเข้าสู่ต้นทุนขาย กลับมาซ่อนหรือเพิ่มไว้ที่สินค้าคงเหลือ ทำให้มูลค่าสินค้าคงเหลือสูงขึ้น และคาบเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุน ที่ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นครับ
แต่ถ้าเป็นสินค้าซื้อมาขายไปก็ดูที่ Inventory Day หรือ Inventory Turnover ก็เพียงพอแล้วครับ
ส่วนคำแนะนำของของพี่ Miracle นั้น มาช่วยขยายความครับ
ถ้าเป็นสินค้าที่มีกระบวนการผลิต ต้อง Focus ที่ต้นทุนผลิตและค่าใช้จ่ายผลิตครับ ซึ่งการโอนต้นทุนผลิตออก มี 2 ทาง คือ
1. โอนไปยังต้นทุนสินค้าที่ขาย เข้างบกำไรขาดทุนทันที หรือ
2. โอนไปยังสินค้าคงเหลือ ซึ่งมูลค่าสินค้าคงเหลือจะสูงขึ้น ซึ่งแสดงอยู่ในงบแสดงฐานะทางการเงิน(งบดุล)
ดังนั้น การที่สินค้าคงเหลือมีมูลค่าสูงนั้น ก็อาจจะหมายความว่า แทนที่โอนต้นทุนการผลิตเข้าสู่ต้นทุนขาย กลับมาซ่อนหรือเพิ่มไว้ที่สินค้าคงเหลือ ทำให้มูลค่าสินค้าคงเหลือสูงขึ้น และคาบเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุน ที่ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นครับ
แต่ถ้าเป็นสินค้าซื้อมาขายไปก็ดูที่ Inventory Day หรือ Inventory Turnover ก็เพียงพอแล้วครับ
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
กาย เวทนา จิต ธรรม
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 22
ธรรมดาดูinventory day/inventory turn overก็เพียงพอครับ แต่ต้องปรับไปตามชนิดสินค้าที่ผลิต
บางอย่างดูราคาสุทธิเลยก็ได้ ถ้าสินค้านั้นไม่มีความผันผวนของราคามาก
บางอย่างต้องดูหน่วยผลิต ถ้าสินค้านั้นมีความผันผวนของราคาสูง เช่น เหล็ก ถ่านหิน
การจะโอนรายการบางอย่างจากข้ามไปมาระหว่างcogsและsg&a
สำหรับบ.ในตลท.นั้นทำไม่ง่ายตามใจผบห. ต้องได้รับความเห็นชอบจากบ.สอบบัญชีก่อน
ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็ขึ้นรายงานตั้งแต่ มีข้อสังเกตุ มีเงื่อนไข จนถึง งบการเงินไม่ถูกต้อง
ที่ต้องระวังคือการตั้งสำรองการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ หรือตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
ซึ่งทำได้ง่ายกว่ามากๆ เพราะการตั้งสำรองเหล่านี้ขึ้นกับผบห.ล้วนๆ บ.สอบบัญชีมักไม่มีข้อโต้แย้ง
อยากให้กำไรดีก็สำรองน้อย อยากซ่อนกำไรตั้งสำรองสูงๆ
เช่นตอนซับพราม แบงค์ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญมหาศาล ปีต่อมากลับสำรอง กำไรถล่มถลาย
บางอย่างดูราคาสุทธิเลยก็ได้ ถ้าสินค้านั้นไม่มีความผันผวนของราคามาก
บางอย่างต้องดูหน่วยผลิต ถ้าสินค้านั้นมีความผันผวนของราคาสูง เช่น เหล็ก ถ่านหิน
การจะโอนรายการบางอย่างจากข้ามไปมาระหว่างcogsและsg&a
สำหรับบ.ในตลท.นั้นทำไม่ง่ายตามใจผบห. ต้องได้รับความเห็นชอบจากบ.สอบบัญชีก่อน
ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็ขึ้นรายงานตั้งแต่ มีข้อสังเกตุ มีเงื่อนไข จนถึง งบการเงินไม่ถูกต้อง
ที่ต้องระวังคือการตั้งสำรองการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ หรือตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
ซึ่งทำได้ง่ายกว่ามากๆ เพราะการตั้งสำรองเหล่านี้ขึ้นกับผบห.ล้วนๆ บ.สอบบัญชีมักไม่มีข้อโต้แย้ง
อยากให้กำไรดีก็สำรองน้อย อยากซ่อนกำไรตั้งสำรองสูงๆ
เช่นตอนซับพราม แบงค์ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญมหาศาล ปีต่อมากลับสำรอง กำไรถล่มถลาย
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 23
เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นเลยครับ ขอบคุณ คุณ "Pekko" มากๆเลยครับPekko เขียน:ส่วนคำแนะนำของของพี่ Miracle นั้น มาช่วยขยายความครับ
ถ้าเป็นสินค้าที่มีกระบวนการผลิต ต้อง Focus ที่ต้นทุนผลิตและค่าใช้จ่ายผลิตครับ ซึ่งการโอนต้นทุนผลิตออก มี 2 ทาง คือ
1. โอนไปยังต้นทุนสินค้าที่ขาย เข้างบกำไรขาดทุนทันที หรือ
2. โอนไปยังสินค้าคงเหลือ ซึ่งมูลค่าสินค้าคงเหลือจะสูงขึ้น ซึ่งแสดงอยู่ในงบแสดงฐานะทางการเงิน(งบดุล)
ดังนั้น การที่สินค้าคงเหลือมีมูลค่าสูงนั้น ก็อาจจะหมายความว่า แทนที่โอนต้นทุนการผลิตเข้าสู่ต้นทุนขาย กลับมาซ่อนหรือเพิ่มไว้ที่สินค้าคงเหลือ ทำให้มูลค่าสินค้าคงเหลือสูงขึ้น และคาบเกี่ยวกับงบกำไรขาดทุน ที่ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นครับ
ผมสงสัยเพิ่มเติมครับว่า ในเรื่องของ "โอนต้นทุนผลิตออกมี 2 ทาง" ตรงนี้มีรายการ
อะไรบ้างที่สามารถโยกไปต้นทุนสินค้าขาย หรือ สามารถไปไว้ในสินค้าคงเหลือก็ได้
หนะครับ ขอบคุณครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 24
ผมจะระวังตรงจุดนี้ด้วยครับ ขอบคุณ คุณ "anubist" มากๆครับ...^^)anubist เขียน:ที่ต้องระวังคือการตั้งสำรองการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ หรือตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ
ซึ่งทำได้ง่ายกว่ามากๆ เพราะการตั้งสำรองเหล่านี้ขึ้นกับผบห.ล้วนๆ บ.สอบบัญชีมักไม่มีข้อโต้แย้ง
อยากให้กำไรดีก็สำรองน้อย อยากซ่อนกำไรตั้งสำรองสูงๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 676
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 25
ต้องดูมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่2 (ปรับปรุง 2552) ครับ ต้องใช้หลักจับคู่รายได้กับต้นทุนขายในรอบบัญชีเดียวกันครับ พร้อมพิจารณาในเรื่องกำลังการผลิต capacity ปกติ และของเสีย defect จากการผลิตด้วยครับ แต่อยากให้ focus ที่ต้นทุนผลิตมากกว่าครับ เพราะมันเป็นต้นทางที่จะโอนไป 2 ส่วนดังข้างต้นครับPlant เขียน: ผมสงสัยเพิ่มเติมครับว่า ในเรื่องของ "โอนต้นทุนผลิตออกมี 2 ทาง" ตรงนี้มีรายการ
อะไรบ้างที่สามารถโยกไปต้นทุนสินค้าขาย หรือ สามารถไปไว้ในสินค้าคงเหลือก็ได้
หนะครับ ขอบคุณครับ...^^)
ต้นทุนผลิต = วัตถุดิบ Raw material + ต้นทุนแปรสภาพ Conversion cost
ต้นทุนแปรสภาพ = แรงงานทางตรง direct labor + ค่าใช้จ่าย(โสหุ้ย)การผลิต Overhead
ค่าใช้จ่าย(โสหุ้ย)การผลิต แล้วแต่จะแบ่งประเภทตามเงื่อนไขครับ อาทิเช่น ทางตรง ทางอ้อม หรือคงที่ ผันแปร ซึ่งจะประกอบด้วย เงินเดือนผู้บริหารโรงงาน ค่าสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร ค่าเสื่อมราคาอาคารส่วนโรงงาน เป็นต้นครับ
โดยผู้บริหารเป็นผู้กำหนดนโยบายและต้องสอดคล้องกับหลักบัญชีครับ และไม่ควรเปลี่ยนประเภทค่าใช้จ่ายบ่อยๆ เพราะจะทำให้ต้นทุนผลิต ซึ่งเกี่ยวพันต้นทุนขายและสินค้าคงเหลือโดยปริยายนั้นผิดเพี้ยนไป ทำให้ผู้ใช้งบการเงินสับสนเปรียบเทียบปีต่อปีไม่ได้ครับ ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ซึ่งจะต้องอ่านรายงานผู้สอบบัญชี พร้อมดูหมายเหตุประกอบงบการเงินครับ
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
กาย เวทนา จิต ธรรม
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 676
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สอบถามเรื่อง "สินค้าคงเหลือ" ครับ
โพสต์ที่ 26
จะเห็นภาพขัดเจนขึ้น ถ้าบริษัทฯ มีการใช้ต้นทุนมาตรฐานครับ
ณ วันสิ้นงวด(ส่วนใหญ่เป็น 31 ธ.ค.) บริษัทฯ จะต้องมีการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือในงบดุลครับ ถ้าสินค้าคงเหลือมีอายุเกิน 1 ปี จะต้องตั้งด้อยค่า หรือมาพิจารณาว่ามันเป็นทรัพย์สินถาวรหรือไม่ ถ้าใช่ให้เปลี่ยนประเภทครับ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเรื่องการเสื่อมสภาพสินค้า กรณีสินค้านั้นมีอายุ เช่น กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ยา และหากวัตถุดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบราคาในตลาดโลกได้ก็ต้องปรับมูลค่าเหมือนที่คุณ anubist โพสท์ไว้ครับ โดยจะต้องใช้ราคาสุทธิที่คาดว่าจะได้รับ หรือราคาตลาด หรือราคาทุน โดยเลือกตัวที่ต่ำที่สุดครับ
ซึ่งปกติการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือปกติเป็นเรื่องใหญ่ และยุ่งยาก จึงมักไม่ค่อยทำกัน คงทำเพียงการตั้งด้อยค่าเรื่องอายุสินค้าครับ เช่น สินค้าไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน non-movement และสินค้าเสื่อมสภาพหรือล้าสมัยเท่านั้นครับ
ณ วันสิ้นงวด(ส่วนใหญ่เป็น 31 ธ.ค.) บริษัทฯ จะต้องมีการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือในงบดุลครับ ถ้าสินค้าคงเหลือมีอายุเกิน 1 ปี จะต้องตั้งด้อยค่า หรือมาพิจารณาว่ามันเป็นทรัพย์สินถาวรหรือไม่ ถ้าใช่ให้เปลี่ยนประเภทครับ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเรื่องการเสื่อมสภาพสินค้า กรณีสินค้านั้นมีอายุ เช่น กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ยา และหากวัตถุดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบราคาในตลาดโลกได้ก็ต้องปรับมูลค่าเหมือนที่คุณ anubist โพสท์ไว้ครับ โดยจะต้องใช้ราคาสุทธิที่คาดว่าจะได้รับ หรือราคาตลาด หรือราคาทุน โดยเลือกตัวที่ต่ำที่สุดครับ
ซึ่งปกติการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือปกติเป็นเรื่องใหญ่ และยุ่งยาก จึงมักไม่ค่อยทำกัน คงทำเพียงการตั้งด้อยค่าเรื่องอายุสินค้าครับ เช่น สินค้าไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน non-movement และสินค้าเสื่อมสภาพหรือล้าสมัยเท่านั้นครับ
สติปัฎฐาน 4
กาย เวทนา จิต ธรรม
กาย เวทนา จิต ธรรม