พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
- poonpoon7
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 347
- ผู้ติดตาม: 0
พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 1
หลังๆมานี้ผมพบว่าบริษัทหลายๆบริษัท ได้ขายกิจการเก่าทิ้ง เพื่อที่จะนำเงินมาซื้อ/ สร้าง โรงไฟฟ้า ทั้ง solar ลม biomass และอื่นๆ มากผิดปกติ ราคาหุ้นของกิจการเหล่านี้ก็วิ่งแบบผิดปกติเช่นกัน
แต่พอไปฟัง ผบห ของกิจการเหล่านี้นำเสนอข้อมูล รวมทั้งข้อมูลของ คสช ที่ว่าตอนนี้มี demand ไฟฟ้าอยู่ 14k mw แต่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตแค่ประมาณ 3k mw ผมก็เลยคิดว่า มันอาจจะเป็น mega trend จริงๆ ก็เป็นไปได้
ใครมีความเห็นเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ
แต่พอไปฟัง ผบห ของกิจการเหล่านี้นำเสนอข้อมูล รวมทั้งข้อมูลของ คสช ที่ว่าตอนนี้มี demand ไฟฟ้าอยู่ 14k mw แต่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตแค่ประมาณ 3k mw ผมก็เลยคิดว่า มันอาจจะเป็น mega trend จริงๆ ก็เป็นไปได้
ใครมีความเห็นเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก ช่วยแชร์กันหน่อยนะครับ
"Value has a value only if its value is valued"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 70
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 2
ตามความคิดผมพลังงานทางเลือกก็น่าจะเป็น megatrend ในช่วงนี้และอนาคตครับ แต่กำลังสงสัยว่า พลังงานทางเลือกแต่ละอย่างผลิตมาแล้วไม่รู้ว่า จะคุ้มค่าการลงทุนไหม ถ้าไม่มีการอุดหนุนจากภาครัฐบาล เพราะที่เห็นใกล้ๆ ตัวอย่าง gasohol ถ้าไม่มีกองทุนน้ำมันราคาแพงกว่าเบนซินธรรมดาอีกครับ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 3
ยังไงก็ไม่พอใช้หรอกครับ และไม่ได้ต้นทุนถูกลงอะไมากมายนัก เป็นแค่เหมือนกับไม่ให้แสดงแดดปล่อยผ่านเลยไป แต่เพราะได้รับเงิน adder มากกว่า break even เลยเร็วกว่าเมื่อก่อน
ผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือกแต่ละอย่าง สนับสนุนไม่เท่ากันครับ
จากเดิม กพช. เคยออกนโยบายมา แล้วนักลงทุนเมิน 2552-2553 เลยออกมาใหม่ โซล่าร์สนับสนุน 10 ปี ให้ค่า adder สูงสุด 8 บาท และพิเศษ อีก 1.5 บาท ถ้าอยู่พื้นที่ผลิตไฟฟ้าด้วยโรง diesel
ดังนั่น ทุกคนมุมงมาทางโซล่าร์มากที่สุด
แล้วที่เขาแย้งกัน อ่านในหว้ากอ pantip ที่จริงมีต้นทุนแฝงที่ไม่ได้รักษ์โลกอย่างที่คิด กระบวนการได้ไฟฟ้ามานอกจากการผลิตเซลล์ไฟฟ้าแล้ว ยังต้องมีแบตเตอรี่ตัวร้ายที่เป็นศัตรูกับมลพิษ ทั้งการผลิต และการเอาไปทำลายหลังที่มันพังชาร์จไฟไม่ได้แล้ว
เซลล์แสงอาทิตย์ บอกว่าประสิทธิภาพการผลิตไฟเทียบกับกำลังติดตั้งเฉลี่ยอยู่ 14%-17% เฉลี่ยได้ไฟฟ้ามาวันละ 4 ชม. เท่านั้น เพราะแต่ละเวลาความเข้มของแสงแดดไม่เท่ากัน และหน้าฝน ฟ้าปิดก็ไฟแทบไม่ออกเลย
ผมเชื่อข้อมูลนี้ เพราะมีประสบการณ์คุม operations ของระบบมือถือ มีพื้นที่รับผิดชอบประเทศเพื่อนบ้านด้วย ตั้งแต่ยุคแรกของบางประเทศที่พื้นที่ไม่มีไฟ หน้าฝนต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปั่นด้วยดีเซลตลอดเวลา
และซึ่งแบตฯ ไม่ได้อายุยืนอย่างตัวแผง ที่ผมเคยอยู่กับมันราว 20 กว่าปี ประมาณอายุว่ามันต้องเปลี่ยนทุก 7-8 ปี เหตุเพราะมัน charge-discharge ทุกวัน ใครที่รู้จักการทำงานของแบตเตอรี่ จะรู้ว่าอายุมันนอกจากขึ้นกับการควบคุมการชาร์จและการใช้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าดึงกระแสรุนแรงหรือไม่แล้ว มันมีอายุที่เรียกว่า "(charge) cycle" ด้วย หรือพูดภาษาง่ายๆ ก็รอบการชาร์จไฟ คือนับจำนวน charge-discharge ถ้าบ่อยมากก็พังเร็วขึ้น
รัฐไม่ได้ subsidize ด้วยการเอาภาษีจากใครนะครับ
แต่อย่าเพิ่งดีใจ... เพราะที่จริง ก็มาเฉลี่ยลงใน "Ft" ประมาณการว่าต้องเพิ่มเข้าไป ไป 8 สตางค์ ในระยะเวลาไปถึง 10 ปีที่อุดหนุน ก็คือเฉลี่ยลงบนใบเสร็จทุกคนที่ใช้ไฟ ที่เราเห็นในใบแจ้งหนี้จะมีคำว่า "ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)" แทรกอยู่ อยู่ในนั้นเราไม่รู้ตัว
(แปลว่า ถึงแม้จะดูเหมือนจ่ายเงินให้เอกชนที่ขายไฟราคาสูงลิ่ว หน่วยละ 6.5-8 บาท แต่เพราะปริมาณเทียบกับจากอย่างอื่นจำนวนมันน้อยมาก เฉลี่ยทำให้ต้นทุนเพิ่มอีกหน่วยละแค่ 8 สตางค์)
ค่า Ft คืออะไร
http://www.dede.go.th/dede/images/stori ... timeFT.pdf
นอกเรื่องนิด
ผมขอทำนาย แบบไม่ใช่ไสยศาสตร์หรือหมอเดาว่า
ไม่นาน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คงมีประเทศเพื่อนบ้านเรา พม่า หรือไม่ก็กัมพูชา อาจไม่ใช่ลาวอีกแล้ว
ไทยคงซื้อไฟฟ้าจากหนึ่งใน 2 ประเทศนี้ หรือไม่ก็ทั้งสองประเทศ เพราะลากสายมาคนละด้าน
ไม่ใช่ผมพิสมัยโรงไฟฟ้านิวเคลี่ยร์นะครับ... แต่ปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือ คนอยากใช้ไฟ แล้วระบบอื่นเริ่มจ่ายไม่พอความต้องการแล้ว
แต่ก็ไม่มีใครอยากให้ตั้งใกล้บ้านตัวเอง
และเหตุผลที่คงไม่ใช่ลาวเพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการระบายความร้อนเตาปฎิกรณ์ด้วย และการขนส่งอุปกรณ์ไปติดตั้งก็ทำง่ายด้วย ส่วนใหญ่ที่เราเห็นถ้าเป็นไปได้ จะสร้างใกล้ทะเลก่อน
ล่าสุดโรงไฟฟ้าธรรมดาที่เราร่วมมือ สถานที่ตั้งที่ใกล้ชายแดนไทยที่สุดคือเกาะกง กัมพูชาซึ่งอยู่ด้านอ่าวไทย
ตอนนี้ เสี่ยเขมรที่ร่วมทุนกับโรงไฟฟ้าราชบุรี ชื่อลี ยง พัด หรือชื่อไทย นายพัด สุภาภา เพราะถือสองสัญชาติ เลยมีชื่อในสองประเทศ ที่มาร่วมทุนได้ เพราะ connection ในประเทศปึ๊ก เป็นเจ้าของกาสิโน สวนสนุกแบบสวนน้ำ โรงงานน้ำตาล กิจการนำเข้าส่งออก ฯลฯ เป็นวุฒิสมาชิกอีกด้วย เพิ่งร่วมทุนกับ RATCH ได้ไม่นาน
สุดท้าย ก็เหมือนแค่ย้ายที่ตั้ง จากไทยไปอยู่ในเขมร ผมน่าเป็นห่วงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยมากกว่านะผมว่า แล้วถ้าตูมขึ้นมาจริงๆ ฝั่งตะวันออก ที่ย่านเศรษฐกิจสำคัญของไทย ต้องอพยพกันจ้าละหวั่น!
ตอนระเบิดเชอร์โนบิล แม้ว่าสุดท้ายรัศมีต้องห้ามใครเข้าใกล้ อยู่ที่ 30 กิโลเมตร (รังสีมันไม่สนใจถนน จึงมองเป็นรอบพื้นที่เป็นเส้นตรงในอากาศ) แต่ขณะเกิดเหตุ บอกว่ามันฟุ้งกระจายมากบ้าง น้อยบ้างไปเป็นพื้นที่ 150,000-200,000 ตารางกม. คำนวณรัศมีที่เฝ้าระวังกัมมันตรังสีกระจายราว 250 กม. มาน้อยมามากเป็นบางด้าน แล้วแต่บังเอิญว่าลมพาไปด้านไหนมากกว่ากัน
เกาะกง ซึ่งติดกับชายแดนอ.หาดเล็กจังหวัดตราดรัศมีห่างจาก .....
ตัวเมืองตราด 90 กม.
เกาะช้าง 80 กม.
เกาะกูด 45 กม.
จันท์ 150 กม.
ระยอง 220 กม.
พัทยา 270 กม.
แหลมฉบัง 280 กม.
กทม. 350 กม.
เฮ้อ.... แหลมฉบัง พัทยา หวุดหวิด กทม. รอดไป
เอกสารประกอบ เรื่องการสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
ผลิตไฟฟ้าพลังงานทางเลือกแต่ละอย่าง สนับสนุนไม่เท่ากันครับ
จากเดิม กพช. เคยออกนโยบายมา แล้วนักลงทุนเมิน 2552-2553 เลยออกมาใหม่ โซล่าร์สนับสนุน 10 ปี ให้ค่า adder สูงสุด 8 บาท และพิเศษ อีก 1.5 บาท ถ้าอยู่พื้นที่ผลิตไฟฟ้าด้วยโรง diesel
ดังนั่น ทุกคนมุมงมาทางโซล่าร์มากที่สุด
แล้วที่เขาแย้งกัน อ่านในหว้ากอ pantip ที่จริงมีต้นทุนแฝงที่ไม่ได้รักษ์โลกอย่างที่คิด กระบวนการได้ไฟฟ้ามานอกจากการผลิตเซลล์ไฟฟ้าแล้ว ยังต้องมีแบตเตอรี่ตัวร้ายที่เป็นศัตรูกับมลพิษ ทั้งการผลิต และการเอาไปทำลายหลังที่มันพังชาร์จไฟไม่ได้แล้ว
เซลล์แสงอาทิตย์ บอกว่าประสิทธิภาพการผลิตไฟเทียบกับกำลังติดตั้งเฉลี่ยอยู่ 14%-17% เฉลี่ยได้ไฟฟ้ามาวันละ 4 ชม. เท่านั้น เพราะแต่ละเวลาความเข้มของแสงแดดไม่เท่ากัน และหน้าฝน ฟ้าปิดก็ไฟแทบไม่ออกเลย
ผมเชื่อข้อมูลนี้ เพราะมีประสบการณ์คุม operations ของระบบมือถือ มีพื้นที่รับผิดชอบประเทศเพื่อนบ้านด้วย ตั้งแต่ยุคแรกของบางประเทศที่พื้นที่ไม่มีไฟ หน้าฝนต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปั่นด้วยดีเซลตลอดเวลา
และซึ่งแบตฯ ไม่ได้อายุยืนอย่างตัวแผง ที่ผมเคยอยู่กับมันราว 20 กว่าปี ประมาณอายุว่ามันต้องเปลี่ยนทุก 7-8 ปี เหตุเพราะมัน charge-discharge ทุกวัน ใครที่รู้จักการทำงานของแบตเตอรี่ จะรู้ว่าอายุมันนอกจากขึ้นกับการควบคุมการชาร์จและการใช้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าดึงกระแสรุนแรงหรือไม่แล้ว มันมีอายุที่เรียกว่า "(charge) cycle" ด้วย หรือพูดภาษาง่ายๆ ก็รอบการชาร์จไฟ คือนับจำนวน charge-discharge ถ้าบ่อยมากก็พังเร็วขึ้น
รัฐไม่ได้ subsidize ด้วยการเอาภาษีจากใครนะครับ
แต่อย่าเพิ่งดีใจ... เพราะที่จริง ก็มาเฉลี่ยลงใน "Ft" ประมาณการว่าต้องเพิ่มเข้าไป ไป 8 สตางค์ ในระยะเวลาไปถึง 10 ปีที่อุดหนุน ก็คือเฉลี่ยลงบนใบเสร็จทุกคนที่ใช้ไฟ ที่เราเห็นในใบแจ้งหนี้จะมีคำว่า "ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft)" แทรกอยู่ อยู่ในนั้นเราไม่รู้ตัว
(แปลว่า ถึงแม้จะดูเหมือนจ่ายเงินให้เอกชนที่ขายไฟราคาสูงลิ่ว หน่วยละ 6.5-8 บาท แต่เพราะปริมาณเทียบกับจากอย่างอื่นจำนวนมันน้อยมาก เฉลี่ยทำให้ต้นทุนเพิ่มอีกหน่วยละแค่ 8 สตางค์)
ค่า Ft คืออะไร
http://www.dede.go.th/dede/images/stori ... timeFT.pdf
นอกเรื่องนิด
ผมขอทำนาย แบบไม่ใช่ไสยศาสตร์หรือหมอเดาว่า
ไม่นาน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ คงมีประเทศเพื่อนบ้านเรา พม่า หรือไม่ก็กัมพูชา อาจไม่ใช่ลาวอีกแล้ว
ไทยคงซื้อไฟฟ้าจากหนึ่งใน 2 ประเทศนี้ หรือไม่ก็ทั้งสองประเทศ เพราะลากสายมาคนละด้าน
ไม่ใช่ผมพิสมัยโรงไฟฟ้านิวเคลี่ยร์นะครับ... แต่ปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือ คนอยากใช้ไฟ แล้วระบบอื่นเริ่มจ่ายไม่พอความต้องการแล้ว
แต่ก็ไม่มีใครอยากให้ตั้งใกล้บ้านตัวเอง
และเหตุผลที่คงไม่ใช่ลาวเพราะโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องการระบายความร้อนเตาปฎิกรณ์ด้วย และการขนส่งอุปกรณ์ไปติดตั้งก็ทำง่ายด้วย ส่วนใหญ่ที่เราเห็นถ้าเป็นไปได้ จะสร้างใกล้ทะเลก่อน
ล่าสุดโรงไฟฟ้าธรรมดาที่เราร่วมมือ สถานที่ตั้งที่ใกล้ชายแดนไทยที่สุดคือเกาะกง กัมพูชาซึ่งอยู่ด้านอ่าวไทย
ตอนนี้ เสี่ยเขมรที่ร่วมทุนกับโรงไฟฟ้าราชบุรี ชื่อลี ยง พัด หรือชื่อไทย นายพัด สุภาภา เพราะถือสองสัญชาติ เลยมีชื่อในสองประเทศ ที่มาร่วมทุนได้ เพราะ connection ในประเทศปึ๊ก เป็นเจ้าของกาสิโน สวนสนุกแบบสวนน้ำ โรงงานน้ำตาล กิจการนำเข้าส่งออก ฯลฯ เป็นวุฒิสมาชิกอีกด้วย เพิ่งร่วมทุนกับ RATCH ได้ไม่นาน
สุดท้าย ก็เหมือนแค่ย้ายที่ตั้ง จากไทยไปอยู่ในเขมร ผมน่าเป็นห่วงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยมากกว่านะผมว่า แล้วถ้าตูมขึ้นมาจริงๆ ฝั่งตะวันออก ที่ย่านเศรษฐกิจสำคัญของไทย ต้องอพยพกันจ้าละหวั่น!
ตอนระเบิดเชอร์โนบิล แม้ว่าสุดท้ายรัศมีต้องห้ามใครเข้าใกล้ อยู่ที่ 30 กิโลเมตร (รังสีมันไม่สนใจถนน จึงมองเป็นรอบพื้นที่เป็นเส้นตรงในอากาศ) แต่ขณะเกิดเหตุ บอกว่ามันฟุ้งกระจายมากบ้าง น้อยบ้างไปเป็นพื้นที่ 150,000-200,000 ตารางกม. คำนวณรัศมีที่เฝ้าระวังกัมมันตรังสีกระจายราว 250 กม. มาน้อยมามากเป็นบางด้าน แล้วแต่บังเอิญว่าลมพาไปด้านไหนมากกว่ากัน
เกาะกง ซึ่งติดกับชายแดนอ.หาดเล็กจังหวัดตราดรัศมีห่างจาก .....
ตัวเมืองตราด 90 กม.
เกาะช้าง 80 กม.
เกาะกูด 45 กม.
จันท์ 150 กม.
ระยอง 220 กม.
พัทยา 270 กม.
แหลมฉบัง 280 กม.
กทม. 350 กม.
เฮ้อ.... แหลมฉบัง พัทยา หวุดหวิด กทม. รอดไป
เอกสารประกอบ เรื่องการสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
แนบไฟล์
- การรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน มติกพช..rar
- (95.38 KiB) ดาวน์โหลด 311 ครั้ง
- มติกพช. 21 กค. 2553.rar
- (179.26 KiB) ดาวน์โหลด 142 ครั้ง
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 4
เห็นด้วยครับpatto_kung เขียน:ตามความคิดผมพลังงานทางเลือกก็น่าจะเป็น megatrend ในช่วงนี้และอนาคตครับ แต่กำลังสงสัยว่า พลังงานทางเลือกแต่ละอย่างผลิตมาแล้วไม่รู้ว่า จะคุ้มค่าการลงทุนไหม ถ้าไม่มีการอุดหนุนจากภาครัฐบาล เพราะที่เห็นใกล้ๆ ตัวอย่าง gasohol ถ้าไม่มีกองทุนน้ำมันราคาแพงกว่าเบนซินธรรมดาอีกครับ
พลังงานทางเลือกที่จะโตอย่างยั่งยืน จะต้องเป็นพลังงานที่สามารถแข่งขันได้ในอนาคตอย่างยั่งยืน
การชดเชยราคาจะทำได้เพียงช่วงเวลาหนึ่งระยะสั้น ๆ
หากเมื่อใดขาดเงินอุดหนุนแล้ว และเปิดให้ใช้กลไกตลาดเสรีในระยะยาว เพราะคงอุดหนุนไปตลอดคงไม่ได้ จะบิดเบือนโครงสร้างการใช้พลังงานทั้งหมดได้ ทำให้การใช้พลังงานขาดประสิทธิภาพ
พลังงานที่จะถูกเลือกใช้จึงต้องเป็นพลังงานทางเลือกที่จะต้องปรับตัวให้แข่งขันได้ด้วย
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 1217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 6
พลังงานทางเลือกที่เหมาะกับประเทศเรามิใช่โซลาเซลครับ แต่กลับกลายเป็นชีวมวลที่ต้นทุนถูกกว่าและมีอย่างมากมายในประเทศ แต่ที่รัฐสนับสนุนโซล่าเซลเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย ทำให้บางกลุ่มได้ประโยชน์ทั้งทางตรงทางอ้อม ทั้งจากราคาหุ้นและจากผู้ขายโซล่าเซล เสมือนเช่นที่เรามีดินเป็นวัตถุดิบที่ดีและฟรี แต่เรากับนําเข้าสารเคมีเพื่อมาผลิต เห็นแล้วก็เศร้าใจครับ
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 7
ขอตอบในส่วนพลังงานsolar cellที่พอรู้ก่อนนะครับ
แผนแม่บท ก็เห็นว่า ปี 256x จะให้มีพลังงานทางเลือก25% (รวมจากชีวมวล ไฟฟ้า ลม และอื่นๆนะครับ)
คือยังไงๆมันก็ต้องทำ เพราะพลังงานสายหลักมันไม่พอ เพียงแต่จะเป็นตัวใหนที่คุ้มค่าที่สุด นั่นก็อีกเรื่องครับ
ทีนี้กลับมาที่solar farm ที่บ.ในตลาดหุ้นหลายเจ้าปลุก(ปั่น)โครงการนี้
1.เพราะรายได้มันมาคงที่(รัฐรับซื้อ แต่ต้องดูว่ารับซื้อกี่บาท)
2.ไม่ต้องลงทุนเอง กู้เอา จะกู้50-100%ก็ว่ากันไป
3.ธุรกิจอื่นของตัวเอง ไม่เวิร์กแล้ว เลยมาอันนี้ดีกว่า
ส่วนข้อเสียที่พึ่งมาเกิดในช่วงนี้
1.เพราะต้นทุนสินค้า ลดลงมากจากช่วงแรกๆ
2.ใบอนุญาต ตอนนี้ถูกปั่นราคา จากต้นทุนหลักแสน เป็นหลัก10-25ล้าน ขึ้นอยู่ว่า ราคารับซื้อดีขนาดใหน และอยู่ในมือนายทุนซะเยอะ
ส่วนตัวนะครับ กลับไปมองที่ประเทศอื่น เช่นอเมริกา, เยอรมัน, ญี่ปุ่น
1.ธุรกิจหลักคือเขารับจ้างติดตั้งระบบจะเป็นsolar farm, solar roof ให้บ้านคน, เอกชน, หน่วยงานรัฐบาลทั่วไป...โดยใช้ระบบ on grid (ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่)ซะส่วนใหญ่ เจ้าดังๆก็solarcity
2.รัฐบาลของเขามีแผนรองรับไฟฟ้าที่ผลิตเกินออกมาแล้ว
ถ้าบ.ใหน ในตลาดหุ้นทำแบบเจ้าอื่นในประเทศที่เจริญแล้ว ผมว่าก็คงโตได้ในระยะยาว
แต่ถ้าจะโตด้วยโครงการsolar farmนิดๆหน่อยๆ, ผมว่าเป็นกระแสซะมากกว่า
เห็นด้วยบางอย่างกับพี่Ii'8N เรื่องรัฐเอาเงินภาษีเราจากการขึ้นค่า FT มาจ่ายค่าadder
แต่เห็นค้านกับพี่ในเรื่องระบบsolar ที่เดี๋ยวนี้มันไม่เน้นแบตแล้วครับ
แผนแม่บท ก็เห็นว่า ปี 256x จะให้มีพลังงานทางเลือก25% (รวมจากชีวมวล ไฟฟ้า ลม และอื่นๆนะครับ)
คือยังไงๆมันก็ต้องทำ เพราะพลังงานสายหลักมันไม่พอ เพียงแต่จะเป็นตัวใหนที่คุ้มค่าที่สุด นั่นก็อีกเรื่องครับ
ทีนี้กลับมาที่solar farm ที่บ.ในตลาดหุ้นหลายเจ้าปลุก(ปั่น)โครงการนี้
1.เพราะรายได้มันมาคงที่(รัฐรับซื้อ แต่ต้องดูว่ารับซื้อกี่บาท)
2.ไม่ต้องลงทุนเอง กู้เอา จะกู้50-100%ก็ว่ากันไป
3.ธุรกิจอื่นของตัวเอง ไม่เวิร์กแล้ว เลยมาอันนี้ดีกว่า
ส่วนข้อเสียที่พึ่งมาเกิดในช่วงนี้
1.เพราะต้นทุนสินค้า ลดลงมากจากช่วงแรกๆ
2.ใบอนุญาต ตอนนี้ถูกปั่นราคา จากต้นทุนหลักแสน เป็นหลัก10-25ล้าน ขึ้นอยู่ว่า ราคารับซื้อดีขนาดใหน และอยู่ในมือนายทุนซะเยอะ
ส่วนตัวนะครับ กลับไปมองที่ประเทศอื่น เช่นอเมริกา, เยอรมัน, ญี่ปุ่น
1.ธุรกิจหลักคือเขารับจ้างติดตั้งระบบจะเป็นsolar farm, solar roof ให้บ้านคน, เอกชน, หน่วยงานรัฐบาลทั่วไป...โดยใช้ระบบ on grid (ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่)ซะส่วนใหญ่ เจ้าดังๆก็solarcity
2.รัฐบาลของเขามีแผนรองรับไฟฟ้าที่ผลิตเกินออกมาแล้ว
ถ้าบ.ใหน ในตลาดหุ้นทำแบบเจ้าอื่นในประเทศที่เจริญแล้ว ผมว่าก็คงโตได้ในระยะยาว
แต่ถ้าจะโตด้วยโครงการsolar farmนิดๆหน่อยๆ, ผมว่าเป็นกระแสซะมากกว่า
เห็นด้วยบางอย่างกับพี่Ii'8N เรื่องรัฐเอาเงินภาษีเราจากการขึ้นค่า FT มาจ่ายค่าadder
แต่เห็นค้านกับพี่ในเรื่องระบบsolar ที่เดี๋ยวนี้มันไม่เน้นแบตแล้วครับ
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 8
มันเป็น Mega Trend แน่นอนครับ เพียงแต่เมืองไทยอะไรคือพลังงานทางเลือกที่เหมาะที่สุด
Solar คิดแบบเร็วๆเพราะเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่รู้มั้ยครับว่าความเข้มของแสงแดดเฉลี่ยทั้งปี (หน่วยเป็น Kilo-langley) ประเทศไทยมากกว่ายุโรปนิดหน่อย ต่ำกว่าพวกตะวันออกกลาง หรือ ทะเลทรายที่สำคัญๆเช่น Arizona (160-180 Kilo-langley/year)
Wind ไม่น่าจะใช่อีกเพราะเราเป็นประเทศที่ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำมาก แม้กระทั้งเทคโนโลยี่ Wind Turbine ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ ก็ยังไม่น่าจะนำมาใช้ได้
คลื่นทะเลก็ไม่ใช่อีกเพราะเราแทบไม่ได้อยู่ในเขตกระแสน้ำเย็นหรืออุ่นใดๆเลย
ผมเห็นด้วยกับคุณลูกหินครับ Biomass น่าจะเหมาะที่สุดเพราะเรามีแสงแดดกับน้ำฝนที่มีปริมาณมาก
Biomass ไม่ว่าจะอยู่ในรูปการเอามาเผาโดยตรงเช่น กระพี้ไม้ยางที่ตอนนี้นำเอามาเป็นเชื้อเพลิงของ boiler ในโรงงานขนาดกลางๆในเมืองไทย ถูกกว่าน้ำมันเตาหรือแกสมาก โดยการดัดแปลงอุปกรณ์จาก Boiler ใช้ถ่านหินในประเทศจีน หรือ การเอามาหมักเพื่อให้เกิดเป็นแกส มีเทน เช่น มูลสัตว์ หรือ ผลผลิตจากกากน้ำตาล หรือ ปาล์มน้ำมัน
มันอยู่ที่ว่าจะเติบโตได้เร็วแค่ใหน และ ใครจะสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมในเมืองไทย
ส่วน Mega Trend นี้จะไปได้เร็วแค่ใหนขึ้นกับว่า พลังงานนิวเคลียร์จะพัฒนาเทคโนโลยี่ให้เรารู้สึกปลอดภัยกว่านี้ได้อย่างไร ถ้าทำได้ พลังงานทดแทนจะไปช้าลง แต่ถ้าทำไม่ได้เราจะได้เห็นในช่วงอายุของพวกเรานี่แหละครับ (พัฒนาเตาปฏิกรณ์ จนเล็กมากที่เรียกว่า Micro Nuclear Reactor ซี่งแผ่นดินไหวจะไม่สร้างความเสียหายต่อชิ้นส่วนอุปกรณ์) เท่าที่เทคโนโลยี่ไปได้วันนี้ขนาดเล็กลงมาเหลือเท่าๆตู้ 20 ft Container ซี่งผู้พัฒนาคุยว่ามี Order แล้วเป็นร้อยชุด
หลังๆได้แต่อ่านข้อคิดต่างๆจากห้องนี้แต่แทบไม่มีเวลาแสดงความคิดเห็นอะไรไว้เลย ตอนนี้งานประจำมันเหลือหลายจริงๆ ครับ
Solar คิดแบบเร็วๆเพราะเราอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่รู้มั้ยครับว่าความเข้มของแสงแดดเฉลี่ยทั้งปี (หน่วยเป็น Kilo-langley) ประเทศไทยมากกว่ายุโรปนิดหน่อย ต่ำกว่าพวกตะวันออกกลาง หรือ ทะเลทรายที่สำคัญๆเช่น Arizona (160-180 Kilo-langley/year)
Wind ไม่น่าจะใช่อีกเพราะเราเป็นประเทศที่ความเร็วลมเฉลี่ยต่ำมาก แม้กระทั้งเทคโนโลยี่ Wind Turbine ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ ก็ยังไม่น่าจะนำมาใช้ได้
คลื่นทะเลก็ไม่ใช่อีกเพราะเราแทบไม่ได้อยู่ในเขตกระแสน้ำเย็นหรืออุ่นใดๆเลย
ผมเห็นด้วยกับคุณลูกหินครับ Biomass น่าจะเหมาะที่สุดเพราะเรามีแสงแดดกับน้ำฝนที่มีปริมาณมาก
Biomass ไม่ว่าจะอยู่ในรูปการเอามาเผาโดยตรงเช่น กระพี้ไม้ยางที่ตอนนี้นำเอามาเป็นเชื้อเพลิงของ boiler ในโรงงานขนาดกลางๆในเมืองไทย ถูกกว่าน้ำมันเตาหรือแกสมาก โดยการดัดแปลงอุปกรณ์จาก Boiler ใช้ถ่านหินในประเทศจีน หรือ การเอามาหมักเพื่อให้เกิดเป็นแกส มีเทน เช่น มูลสัตว์ หรือ ผลผลิตจากกากน้ำตาล หรือ ปาล์มน้ำมัน
มันอยู่ที่ว่าจะเติบโตได้เร็วแค่ใหน และ ใครจะสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรมในเมืองไทย
ส่วน Mega Trend นี้จะไปได้เร็วแค่ใหนขึ้นกับว่า พลังงานนิวเคลียร์จะพัฒนาเทคโนโลยี่ให้เรารู้สึกปลอดภัยกว่านี้ได้อย่างไร ถ้าทำได้ พลังงานทดแทนจะไปช้าลง แต่ถ้าทำไม่ได้เราจะได้เห็นในช่วงอายุของพวกเรานี่แหละครับ (พัฒนาเตาปฏิกรณ์ จนเล็กมากที่เรียกว่า Micro Nuclear Reactor ซี่งแผ่นดินไหวจะไม่สร้างความเสียหายต่อชิ้นส่วนอุปกรณ์) เท่าที่เทคโนโลยี่ไปได้วันนี้ขนาดเล็กลงมาเหลือเท่าๆตู้ 20 ft Container ซี่งผู้พัฒนาคุยว่ามี Order แล้วเป็นร้อยชุด
หลังๆได้แต่อ่านข้อคิดต่างๆจากห้องนี้แต่แทบไม่มีเวลาแสดงความคิดเห็นอะไรไว้เลย ตอนนี้งานประจำมันเหลือหลายจริงๆ ครับ
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 10
พลังงานทางเลือกในบ้านเรา ประเภทSolarและWind Farm เป็นธุรกิจมาเฟียล้วนๆ ซึ่งมีไว้ให้นักการเมืองทั้งระดับประเทศถึงระดับท้องถิ่น ตักตวงผลประโยชน์จากนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุน โดยนักธุรกิจเหล่านี้ก็ไปตักตวงผลประโยชน์เอาอีกที จากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่เชื่อว่าธุรกิจพลังงานทางเลือกนี้เป็นMega Trend 555
ก็คอยดูกันต่อไป ว่ารัฐจะโง่ไปอีกนานแค่ไหน ที่ยังจะสนับสนุนธุรกิจที่คนสุจริตไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไป
วิธีพิสูจน์ง่ายมาก แค่ลองให้EGATคำนวนดูว่าทำเองได้ถูกกว่าหรือเปล่า ก็รู้แล้วว่าทุกวันนี้จ่ายแพงเกินจริงมากแค่ไหน
ก็คอยดูกันต่อไป ว่ารัฐจะโง่ไปอีกนานแค่ไหน ที่ยังจะสนับสนุนธุรกิจที่คนสุจริตไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไป
วิธีพิสูจน์ง่ายมาก แค่ลองให้EGATคำนวนดูว่าทำเองได้ถูกกว่าหรือเปล่า ก็รู้แล้วว่าทุกวันนี้จ่ายแพงเกินจริงมากแค่ไหน
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 11
Power Investor เขียน:พลังงานทางเลือกในบ้านเรา ประเภทSolarและWind Farm เป็นธุรกิจมาเฟียล้วนๆ ซึ่งมีไว้ให้นักการเมืองทั้งระดับประเทศถึงระดับท้องถิ่น ตักตวงผลประโยชน์จากนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุน โดยนักธุรกิจเหล่านี้ก็ไปตักตวงผลประโยชน์เอาอีกที จากนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ที่เชื่อว่าธุรกิจพลังงานทางเลือกนี้เป็นMega Trend 555
ก็คอยดูกันต่อไป ว่ารัฐจะโง่ไปอีกนานแค่ไหน ที่ยังจะสนับสนุนธุรกิจที่คนสุจริตไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไป
วิธีพิสูจน์ง่ายมาก แค่ลองให้EGATคำนวนดูว่าทำเองได้ถูกกว่าหรือเปล่า ก็รู้แล้วว่าทุกวันนี้จ่ายแพงเกินจริงมากแค่ไหน
และคิดง่ายๆ ว่า
ถ้ามองว่าการใช้พลังงานจากธรรมชาติพวกนี้ ทำให้ต้นทุนถูกลง
เมื่อถูกลง ก็ต้อง "ลด" ค่าไฟสิ หรือไม่ก็อย่างน้อยลดค่า "Ft" ที่เป็นผลต่อเนื่องว่าใช้พลังงานหมุนเวียน
แต่นี่... ดันเป็นเรื่องตรงข้าม
บอกว่าใช้พลังงานในการผลิตจากธรรมชาติ ของฟรีไม่มีต้นทุนเชิ้อเพลิง
และบอกว่า supplier เขาช่วยทำต้นทุนได้ถูกลง เพราะแผงโซล่าร์ถูกลง กังหันลมถูกลง
อ้าว... ถูกลง...ก็ดีสิ งั้นส่งเสริมเยอะๆ...
แต่พอมาดูที่มาของค่าไฟ... อั๊ยย่ะ!... ตรงไหนว่าถูกลง แล้วไหงเอ็งทาลึ่งบังคับประชาชนทุกคน จ่าย Ft เพิ่ม? ตลกฮาแตก-แหกตากันนี่หว่าเว๊ยเฮ้ย...
สรุปคือ แปลว่า เอาเงินเพิ่มจากคนใช้ไฟ ไปจ่ายให้บริษัทโซล่าร์ บริษัทกังหันลม ให้รวยกันเร็วๆ ซะ ใครรับจ้างทำรับประกอบแผงโซล่าร์ก็จะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าด้วย น้ำขึ้นให้รีบตัก รีบๆ ทำให้คุ้มทุนช่วงอุดหนุน 10 ปีนี้
ใครจะล้างแค้นเพราะถูกบังคับให้ใช้ไฟแพงขึ้น จากการมีนโยบายนี้ ด้วยการไปลงทุนบริษัทเหล่านี้ ก็ไม่ว่ากัน... แล้วแต่ละกัน ไม่ก้าวก่าย เพราะไม่ได้ผิดกฎหมาย พูดแต่ที่มาเฉยๆ เพราะการพูดสั้นๆ แค่นี้ ไม่ได้ทำอะไรให้เปลี่ยนแปลงได้ อย่างน้อยก็พูดให้เข้าใจกันซะหน่อย ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ยังไม่เคยเห็นใครพูดถึง ว่าถูกนักการเมืองสมคบกันออกนโยบายล้วงกระเป๋าประชาชน (ที่รวมถึงตัวเราเองด้วย) หน่วยละ 8 สตางค์...
-
- Verified User
- โพสต์: 17
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 12
ขอมองอีกแง่มุมนะครับ
เรื่องความมั่นคงพลังงานของไทยครับ (ไม่รวมเรื่องการเมือง มาเฟีย ฯลฯ ในระบบพลังงานของชาติ)
ตอนนี้เราใช้ก๊าซธรรมชาติจากพม่า มาเลย์ มาปั่นไฟกว่า 70% แล้วครับ พอมาเลย์ปิดซ่อมที โรงงานภาคกลางตามนิคมเราต้องผลัดกันหยุดทำงาน ไม่งั้นไฟไม่พอ พอมาเลย์ปิดซ่อมท่อก๊าซที โรงไฟฟ้าหยุดทำงาน ไฟหายไป 700 MW ภาคใต้ปั่นป่วน ถ้ามีปัญหาทะเลาะกับพม่า เค้าไม่ส่งก๊าซให้ เดี้ยงกันทั้งประเทศเลย
ถึงพลังงานทางเลือกจะแพงกว่า ก็ยังต้องส่งเสริมให้ใช้ครับ
เรื่องความมั่นคงพลังงานของไทยครับ (ไม่รวมเรื่องการเมือง มาเฟีย ฯลฯ ในระบบพลังงานของชาติ)
ตอนนี้เราใช้ก๊าซธรรมชาติจากพม่า มาเลย์ มาปั่นไฟกว่า 70% แล้วครับ พอมาเลย์ปิดซ่อมที โรงงานภาคกลางตามนิคมเราต้องผลัดกันหยุดทำงาน ไม่งั้นไฟไม่พอ พอมาเลย์ปิดซ่อมท่อก๊าซที โรงไฟฟ้าหยุดทำงาน ไฟหายไป 700 MW ภาคใต้ปั่นป่วน ถ้ามีปัญหาทะเลาะกับพม่า เค้าไม่ส่งก๊าซให้ เดี้ยงกันทั้งประเทศเลย
ถึงพลังงานทางเลือกจะแพงกว่า ก็ยังต้องส่งเสริมให้ใช้ครับ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 13
ผมก็เห็นด้วยเรื่องว่าควรส่งเสริมให้ใช้ ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ที่ชี้ให้เห็นคือกระบวนการส่งเสริมทำโดยใช้วิธีผลักภาระไปให้คนใช้ไฟเต็มที่อย่างเดียวเลย แต่ธุรกิจขายไฟรวยกันเต็มที่
เรื่องสร้างความมั่นคง ถึงจะช่วยให้ได้ไฟเพิ่ม ไม่ได้มากเพียงพออย่างที่เห็นขนาดใหญ่โตของฟาร์มนะครับ ปริมาณที่ผลิตได้มันน้อยเหลือเกิน เปรียบเหมือนแค่ได้กินอาหารเสริมแค่นั้น ไม่ทำให้ท้องอิ่มได้จริงๆ นะครับ แค่อย่างที่บอกว่า "ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย"
PDP (Power Development Plan) บอกว่าพลังงานทางเลือก จะส่งเสริมให้ผลิตได้ในประเทศใช้ 9.5GW ภายในปี 2030 คิดแล้วเป็นแค่ราว 13% ของความต้องการไฟฟ้าเท่านั้น (ต้องการ capacity ราว 71GW)
ตัวเลข 14.5GW ผมยังเกรงว่า จะได้เป็นแค่ตัวเลข Installed capacity ได้แค่นั้น ไม่ใช่หมายถึง supply จริงที่วัดหน่วยเป็น kWhr
อย่างปัจจุบัน ขนาดเขื่อนไฟฟ้าทั่วประเทศที่เราเห็นใหญ่โตรวมกับนำเข้าจากลาว ยัง "ผลิต" ไฟฟ้าได้ไม่ถึง 20% ของภาพรวมเลย
ส่วนในแผน ที่เหลือจะมีการนำเข้าไฟฟ้าพลังงานทางเลือกราว 7%
(อาจหมายถึงไปตั้ง power plant ในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กรณีที่ทำอยู่ตอนนี้ ที่ RTACH ไปทำ หรืออาจทำสัญญาซื้อขายกันเลย อย่างที่ผมเคยเห็นแผนมา กลุ่ม SAMART เคยเสนอ โรงไฟฟ้า Biomass ที่เมืองพระสีหณุกัมพูชา ห่างจากชายแดนตราดราว 80กม. แต่ล่าสุดได้ข่าวว่ามาเลย์เพิ่งชนะไปทำเป็น Thermal Plant)
ผมยังรอดูตัวเลขของรายงานประจำปีของ EGAT อยู่ ว่า 2013 จะได้ไฟจากพลังงานทางเลือกจริงเท่าใด (ที่หมายถึง supply/ไม่ใช่ installed capacity) แต่ในปี 2012 ที่เป็นรายงานที่โชว์อยู่ ยังเป็นแค่ 0.1% เท่านั้น แต่ปีนี่น่าจะเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะ COD (วันที่เริ่ม commercial) เริ่มในปี 2013 มีมากขึ้น
ยังไง เราก็เป็นผู้นำเข้าพลังงานจากประเทศอื่นอยู่ดี เพราะมันก็เป็นไปตามธรรมชาติ ว่าเรามีทรัพยากรพลังงานอยู่แค่นี้ (ก็เหมือนสิงคโปร์ ธรรมชาติเขาก็ต้องนำเข้าน้ำจืดอะไรแบบนั้น)... สุดท้าย ถึงเวลาจริงไม่พอใช้ คงมีการดิ้นรนอย่างที่ผมว่าข้างบน
ที่ชี้ให้เห็นคือกระบวนการส่งเสริมทำโดยใช้วิธีผลักภาระไปให้คนใช้ไฟเต็มที่อย่างเดียวเลย แต่ธุรกิจขายไฟรวยกันเต็มที่
เรื่องสร้างความมั่นคง ถึงจะช่วยให้ได้ไฟเพิ่ม ไม่ได้มากเพียงพออย่างที่เห็นขนาดใหญ่โตของฟาร์มนะครับ ปริมาณที่ผลิตได้มันน้อยเหลือเกิน เปรียบเหมือนแค่ได้กินอาหารเสริมแค่นั้น ไม่ทำให้ท้องอิ่มได้จริงๆ นะครับ แค่อย่างที่บอกว่า "ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย"
PDP (Power Development Plan) บอกว่าพลังงานทางเลือก จะส่งเสริมให้ผลิตได้ในประเทศใช้ 9.5GW ภายในปี 2030 คิดแล้วเป็นแค่ราว 13% ของความต้องการไฟฟ้าเท่านั้น (ต้องการ capacity ราว 71GW)
ตัวเลข 14.5GW ผมยังเกรงว่า จะได้เป็นแค่ตัวเลข Installed capacity ได้แค่นั้น ไม่ใช่หมายถึง supply จริงที่วัดหน่วยเป็น kWhr
อย่างปัจจุบัน ขนาดเขื่อนไฟฟ้าทั่วประเทศที่เราเห็นใหญ่โตรวมกับนำเข้าจากลาว ยัง "ผลิต" ไฟฟ้าได้ไม่ถึง 20% ของภาพรวมเลย
ส่วนในแผน ที่เหลือจะมีการนำเข้าไฟฟ้าพลังงานทางเลือกราว 7%
(อาจหมายถึงไปตั้ง power plant ในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กรณีที่ทำอยู่ตอนนี้ ที่ RTACH ไปทำ หรืออาจทำสัญญาซื้อขายกันเลย อย่างที่ผมเคยเห็นแผนมา กลุ่ม SAMART เคยเสนอ โรงไฟฟ้า Biomass ที่เมืองพระสีหณุกัมพูชา ห่างจากชายแดนตราดราว 80กม. แต่ล่าสุดได้ข่าวว่ามาเลย์เพิ่งชนะไปทำเป็น Thermal Plant)
ผมยังรอดูตัวเลขของรายงานประจำปีของ EGAT อยู่ ว่า 2013 จะได้ไฟจากพลังงานทางเลือกจริงเท่าใด (ที่หมายถึง supply/ไม่ใช่ installed capacity) แต่ในปี 2012 ที่เป็นรายงานที่โชว์อยู่ ยังเป็นแค่ 0.1% เท่านั้น แต่ปีนี่น่าจะเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะ COD (วันที่เริ่ม commercial) เริ่มในปี 2013 มีมากขึ้น
ยังไง เราก็เป็นผู้นำเข้าพลังงานจากประเทศอื่นอยู่ดี เพราะมันก็เป็นไปตามธรรมชาติ ว่าเรามีทรัพยากรพลังงานอยู่แค่นี้ (ก็เหมือนสิงคโปร์ ธรรมชาติเขาก็ต้องนำเข้าน้ำจืดอะไรแบบนั้น)... สุดท้าย ถึงเวลาจริงไม่พอใช้ คงมีการดิ้นรนอย่างที่ผมว่าข้างบน
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 14
ไหนๆ ก็พูดถึง PDP แล้ว
เอาเป็นว่า ผมดึงหน้า ที่เป็นพลังงาน Renewable Energy มาให้ดู เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการลงทุน
เป็น version สุดท้ายคือ revision 3 ทำเมื่อปี 2010 .... วางแผนไปถึง 2030
ข้างบนที่ผมพูดถึง "เขื่อน" ด้วย เพราะนิยามใน PDP ให้เขื่อนเป็น renewable energy อย่างหนึ่งด้วย หมายถึงพลังงานที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงให้เกิดการกระจายของมลพิษ (ไม่ได้มองในแง่นักอนุรักษ์ว่าตัองตัดป่าทำเขื่อนนะครับ)
ตัวเลขที่ผมบอกข้างบน จะเอาไปตีว่าเป็นพลังงาน solar ทั้งหมดไม่ได้นะครับ เพราะรวมเขื่อนด้วย และประเภทอื่นด้วย เพียงแต่เอา solar นำหน้าเป็นพระเอกในการอุดหนุน แต่ในโลกความเป็นจริง เขื่อนก็ยังได้ไฟมากกว่าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นอยู่ดี
และอย่างที่บอกว่าเป็น installed capacity
แล้วตัวเลข มีความหมายยังไง?
อย่างโรงไฟฟ้าขยะนี่ ถึงได้รับเงินอุดหนุน adder ต่ำอย่างที่ว่าไว้ตารางบนๆ โน่น
แต่จริงๆ แล้วสามารถมีชั่วโมงผลิตไฟได้มากกว่า ได้ supplied energy เต็มที่ ถ้าไปตั้งเมืองที่มีขยะมาก จะไม่ได้ก็วันหยุดซ่อมโรงงานเท่านั้น
ขณะที่แสงอาทิตย์อย่างที่บอกข้างบน เคยทีคนประเมินไว้ ว่าผลิตไฟเฉลี่ยทั้งปี ได้แค่ราวไม่ถึง 20% ของ capacity เท่านั้น
ในแผนเขาแยกประเภทให้ดู ว่าจะส่งเสริมอะไรเท่าไหร่... ดูไม่ยากนะครับ
เป็นตัวเลขที่จะส่งเสริม วางแผนให้เพิ่มในแต่ละปี
hydro คือพลังน้ำ หรือเขื่อนนั่นเอง
Biomass ที่เราเรียก มวลชีวภาพหรือชีวมวล จากเศษวัสดุการเกษตร เช่น แกลบ เยื่ออ้อย เศษไม้ แกนข้าวโพด กาบ+กะลามะพร้าว ฯลฯ
Biogas ก๊าซชีวภาพ ที่ได้จากการหมัก
MSW หมายถึง Municipality Solid Waste ก็โรงไฟฟ้าขยะจากเทศบาลที่ว่า
เอาเป็นว่า ผมดึงหน้า ที่เป็นพลังงาน Renewable Energy มาให้ดู เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการลงทุน
เป็น version สุดท้ายคือ revision 3 ทำเมื่อปี 2010 .... วางแผนไปถึง 2030
ข้างบนที่ผมพูดถึง "เขื่อน" ด้วย เพราะนิยามใน PDP ให้เขื่อนเป็น renewable energy อย่างหนึ่งด้วย หมายถึงพลังงานที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงให้เกิดการกระจายของมลพิษ (ไม่ได้มองในแง่นักอนุรักษ์ว่าตัองตัดป่าทำเขื่อนนะครับ)
ตัวเลขที่ผมบอกข้างบน จะเอาไปตีว่าเป็นพลังงาน solar ทั้งหมดไม่ได้นะครับ เพราะรวมเขื่อนด้วย และประเภทอื่นด้วย เพียงแต่เอา solar นำหน้าเป็นพระเอกในการอุดหนุน แต่ในโลกความเป็นจริง เขื่อนก็ยังได้ไฟมากกว่าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นอยู่ดี
และอย่างที่บอกว่าเป็น installed capacity
แล้วตัวเลข มีความหมายยังไง?
อย่างโรงไฟฟ้าขยะนี่ ถึงได้รับเงินอุดหนุน adder ต่ำอย่างที่ว่าไว้ตารางบนๆ โน่น
แต่จริงๆ แล้วสามารถมีชั่วโมงผลิตไฟได้มากกว่า ได้ supplied energy เต็มที่ ถ้าไปตั้งเมืองที่มีขยะมาก จะไม่ได้ก็วันหยุดซ่อมโรงงานเท่านั้น
ขณะที่แสงอาทิตย์อย่างที่บอกข้างบน เคยทีคนประเมินไว้ ว่าผลิตไฟเฉลี่ยทั้งปี ได้แค่ราวไม่ถึง 20% ของ capacity เท่านั้น
ในแผนเขาแยกประเภทให้ดู ว่าจะส่งเสริมอะไรเท่าไหร่... ดูไม่ยากนะครับ
เป็นตัวเลขที่จะส่งเสริม วางแผนให้เพิ่มในแต่ละปี
hydro คือพลังน้ำ หรือเขื่อนนั่นเอง
Biomass ที่เราเรียก มวลชีวภาพหรือชีวมวล จากเศษวัสดุการเกษตร เช่น แกลบ เยื่ออ้อย เศษไม้ แกนข้าวโพด กาบ+กะลามะพร้าว ฯลฯ
Biogas ก๊าซชีวภาพ ที่ได้จากการหมัก
MSW หมายถึง Municipality Solid Waste ก็โรงไฟฟ้าขยะจากเทศบาลที่ว่า
แนบไฟล์
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 15
อ้อ... เพิ่มนิดว่า hydro ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เขื่อนใหญ่ๆ ที่ถูกคัดค้านแน่ๆ
จะรวมเครื่องปั่นไฟพลังน้ำขนาดเล็กได้ด้วย เอกชนก็ทำขายรัฐบาลได้
แต่ก็อย่างที่ว่าไว้ วางแผนว่าจะมีการซื้อราว 7% จากประเทศเพื่อนบ้าน
จะรวมเครื่องปั่นไฟพลังน้ำขนาดเล็กได้ด้วย เอกชนก็ทำขายรัฐบาลได้
แต่ก็อย่างที่ว่าไว้ วางแผนว่าจะมีการซื้อราว 7% จากประเทศเพื่อนบ้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 16
นี่เป็นความเข้าใจผิดที่เห็นกันบ่อยมากครับขอมองอีกแง่มุมนะครับ
เรื่องความมั่นคงพลังงานของไทยครับ (ไม่รวมเรื่องการเมือง มาเฟีย ฯลฯ ในระบบพลังงานของชาติ)
ตอนนี้เราใช้ก๊าซธรรมชาติจากพม่า มาเลย์ มาปั่นไฟกว่า 70% แล้วครับ พอมาเลย์ปิดซ่อมที โรงงานภาคกลางตามนิคมเราต้องผลัดกันหยุดทำงาน ไม่งั้นไฟไม่พอ พอมาเลย์ปิดซ่อมท่อก๊าซที โรงไฟฟ้าหยุดทำงาน ไฟหายไป 700 MW ภาคใต้ปั่นป่วน ถ้ามีปัญหาทะเลาะกับพม่า เค้าไม่ส่งก๊าซให้ เดี้ยงกันทั้งประเทศเลย
ถึงพลังงานทางเลือกจะแพงกว่า ก็ยังต้องส่งเสริมให้ใช้ครับ
พลังงานทางเลือกไม่ได้ช่วยเสริมให้มีความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าเพ่ิมขึ้นเลยนะครับ
ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าถดถอยลงด้วยซ้ำไป
เพราะพลังงานทางเลือกไม่มีเสถียรภาพเลย ต้องขึ้นกับดินฟ้าอากาสที่ไม่แน่นอน
กำลังการผลิตที่ได้ในแต่ละวันไม่สม่ำเสมอ
ในทางปฏิบัติในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทุกๆ1MWที่สร้างจากพลังงานทางเลือก จะต้องมีสร้างอีก1MWที่มาจากพลังงานfossil fuel ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพ ดังนั้นต้นทุนที่แท้จริงของพลังงานทางเลือกจึงสูงมาก
แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ เลือกใช้พลังงานทางเลือกเพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าไม่เติบโตแล้ว
ดังนั้นพลังงานทางเลือกจึงมีไว้เพื่อชดเชยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เริ่มหมดอายุลง ตัวอย่างล่าสุดคือที่ญี่ปุ่น ที่มีการเปิดให้ทำsolar farm
บ้านเราตรงกันข้าม ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกๆปี อย่างน้องก็ตามการเติบโตของGDP ยังไงเสียใช้พลังงานทางเลือกมาชดเชยอย่างไรก็ไม่มีวันเพียงพอ ต้องสร้างโรงไฟฟ้าfossil fuel มาเป็นแหล่งพลังงานหลักควบคู่ไปด้วยแน่นอน
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 17
กระทู้นี้เยี่ยม ได้ความรู้มากๆเลยครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1487
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 19
เยอรมันกำลังคิดระบบสนับสนุนเงินให้โรงไฟฟ้าก๊าซกับถ่านหินที่ต้อง standby ตลอดเวลา
http://in.reuters.com/article/2014/05/2 ... TC20140520
http://in.reuters.com/article/2014/05/2 ... TC20140520
-
- Verified User
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 20
ขออนุญาติแปะลิงค์ของคุณ energy EAK ครับ
http://www.youtube.com/watch?v=7maCh8Ru ... e=youtu.be
รายการ VI สายดำ
22/12/56 : เทป 65 ลงทุนกลุ่มพลังงานทดแทน / เอกศักดิ์ ซื่อสกุลไพศาล energy_EAK
http://www.youtube.com/watch?v=7maCh8Ru ... e=youtu.be
รายการ VI สายดำ
22/12/56 : เทป 65 ลงทุนกลุ่มพลังงานทดแทน / เอกศักดิ์ ซื่อสกุลไพศาล energy_EAK
"โชคได้มาจากการออกแบบ" (แบรนซ์ ริคกี้)
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 22
ได้มีโอกาสดูแล้วครับ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่มุมมองของนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่มั่นใจและเชื่อว่าธุรกิจที่เขาลงทุน เป็นธุรกิจที่ดีและมีอนาคตขออนุญาติแปะลิงค์ของคุณ energy EAK ครับ
ซึ่งความจริงอาจไม่ต่างจากคนที่เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น
จะต่างกันก็ตรงแค่ นักลงทุนชิงขายหุ้นได้ก่อนแค่นั้นเอง 555
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 23
พี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับPower Investor เขียน:ได้มีโอกาสดูแล้วครับ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่มุมมองของนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่มั่นใจและเชื่อว่าธุรกิจที่เขาลงทุน เป็นธุรกิจที่ดีและมีอนาคตขออนุญาติแปะลิงค์ของคุณ energy EAK ครับ
ซึ่งความจริงอาจไม่ต่างจากคนที่เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น
จะต่างกันก็ตรงแค่ นักลงทุนชิงขายหุ้นได้ก่อนแค่นั้นเอง 555
ขอบพระคุณครับ
value trap
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 131
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 24
ขอความรู้ด้านพลังงานทางเลือกจากชีวมวลหน่อยนะครับเพราะพลังงานทางเลือกไม่มีเสถียรภาพเลย ต้องขึ้นกับดินฟ้าอากาสที่ไม่แน่นอน
กำลังการผลิตที่ได้ในแต่ละวันไม่สม่ำเสมอ
เท่าที่ผมศึกษาจากการอ่าน.. โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลสามารถจ่ายไฟได้ 24 ชม
เงินอุดหนุนจากรัฐก็ 0.30 วัตถุดิบจากของเหลือทางการเกษตรก็มีเยอะ
นอกเหนือจาก solar และ wind แล้ว ขอฟังความเห็นข้อดีข้อเสียของ biomass
ความมีเสถียรภาพด้านการ supply ไฟได้จริง
ด้านปริมาณวัตถุดิบ และประสิทธืภาพในการให้ความร้อน
ด้านความคุ้มค่าของการลงทุน
เป็นอย่างไรบ้างครับ?
Great businesses selling at a discount to their intrinsic value may also define as "Value Investment"
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 25
ก่อนอื่น..ขอขอบคุณ คุณPower Investorก่อนเลยครับ..จริงๆกระทู้นี้ผมตามอ่านอยู่..แต่เนื่องจากในหลายๆความเห็นอาจจะไม่ตรงกับเพื่อนๆกลัวจะยาว..ก็เลยเลือกที่จะไม่มาคอมเม้นอะไร แต่คุณPower Investorสมกับที่ผมเองติดตามผลงานมาตลอดจริงๆ..ฝีมือไม่ตกไปเลยครับ คอมเม้นโดนใจครับ อย่างไรเมื่อโดนพาดพิงมาแล้ว(จริงๆต้องบอกว่าชง..มาตรงที่อยากพูดมากๆพอดีครับ)..จึงขอเสนอความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆครับ^__^Power Investor เขียน:ได้มีโอกาสดูแล้วครับ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่มุมมองของนักลงทุนท่านหนึ่ง ที่มั่นใจและเชื่อว่าธุรกิจที่เขาลงทุน เป็นธุรกิจที่ดีและมีอนาคตขออนุญาติแปะลิงค์ของคุณ energy EAK ครับ
ซึ่งความจริงอาจไม่ต่างจากคนที่เชื่อว่าโครงการจำนำข้าวเป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น
จะต่างกันก็ตรงแค่ นักลงทุนชิงขายหุ้นได้ก่อนแค่นั้นเอง 555
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน..อันดับแรก Alternative Energy และ Renewable Energy ล้วนเป็นพลังงานทดแทน..ผมขอใช้คำว่า"พลังงานทดแทน"นะครับ
ว่ากันไปตามเรื่องที่ถูกใจเลยนะครับ...
1.จากกระทู้ ของคุณpoonpoon7 ผมคิดว่าเป็นข้อสังเกตุที่ดีมากๆเลยครับผม...เวลาที่คุยๆแล้วมีเพื่อนนลท. ถามว่าทำไมถึงเลือกลงทุนใน พลังงานทดแทน ผมเองก็ย้ำอยู่เสมอว่า ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ว่าธุรกิจนี้จะดีหรือไม่ แต่ให้ดูผบห.ของบริษัทต่างๆที่ผ่านร้อนผ่านหนาวเชิงธุรกิจมามากมายกว่าผม ซึ่งเราจะสังเกตุได้ง่ายๆเลยว่ามีหลายบริษัทให้นลท.เลือกศึกษาเลยครับ
2.(ข้อนี้เป็นประเด็นที่ผมไม่อยากคอมเม้นตอนแรก)คือ พลังงานทดแทน ที่เราพูดถึงส่วนใหญ่คือ Renewable Energy ซึ่งโดย"ปกติๆ"แล้ว Renewable Energy เป็นคล้ายๆของหวาน จะกินแล้วไม่อิ่ม.. เหมือนทางหลักๆที่ใช้ผลิตไฟฟ้า(ในนี้เราคุยไฟฟ้ากันเนอะ)..ซึ่งตรงจุดนี้คุณPower Investorได้อธิบายได้ถูกใจ ..แต่อย่างไรผมขอขยายเพิ่มเติมนะครับ..หากเราพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆร่วมด้วย(ลองพักว่าอะไรถูกอะไรแพงสักแป๊บนะครับ) ลองดูตามภาพในไฟล์http://www.eppo.go.th/power/power2554.pdf (ขออภัยเก่าไปนิดแต่ ดึกแล้วของ่ายๆนิดนึงครับ^^)ดูหน้า23 สังกตุสัดส่วน จากนั้นตามด้วยหน้า19ครับและดูต้นทุน..ซึ่งอาจบอกได้ว่าปัจจุบันสถานะการณ์ประเทศเรา"ไม่ปกติ"อยู่เหมือนกันครับ..หากมีต้นทุนไฟฟ้ากังหันแก๊สบางประเภทในต้นทุนราว13บาท หากจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่สนับสนุนภายในประเทศคงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้แก๊สแม้จะต้องจ่ายที่13เท่ากัน ..ส่งผลให้ในบ้านเรา บางที การกินอาหารหลัก+ของหวาน ในสัดส่วนทีเหมาะสม กลับเป็นทางออกที่ดีสำหรับบ้านเรา(ในมุมมองของผมนะ และอาจจะรวมถึงภาครัฐบางส่วน)..จึงมีการสนับสนุนเกิดขึ้นมากและมีทิศทางมากขึ้น(ตามแผนงาน)
3.(อันนี้เป็นเหตุให้ผมคอมเม้นนี้เลยครับ)..เนื่องจากคำว่า"มุมมองนักลงทุน"นี่แหละโดนใจมากๆ...จริงๆผมอ่านๆกระทู้นี้มาแทบจะออกไปทางDiscussทางด้านพลังงานกันอยู่แล้ว ทั้งที่ควรมีมุมมองนักลงทุนให้มากๆไว้..ยิ่งใน หมวด Value Investing เป็นเหมือนส่วนที่บุคคลทั่วไป สามารถมาหาอ่านข้อมูลได้..ผมขอถือโอกาสนี่เล่าสิ่งผิดพลาดของผม ไว้เผื่อเป็นวิทยาทานนะ..เผื่อเพื่อนๆที่สนใจลงทุนแนวคุณค่าได้เป็นข้อมูลศึกษาเปรียบเทียบจากความผิดพลาดนะครับ
...พฐ.เดิมของผมเป็นอาจารย์..ผมทำงานวิจัยเกี่ยวกับประยุกต์ใช้แสงอาทิตย์มาหลายงานวิจัยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ..ผมเองจะคิดเสมอว่าตัวเอง"เป็นผู้รู้"ในเรื่องๆนี้พอสมควร..แต่มาวันนี้ครับที่ทำให้ความคิดนี้ผมเปลี่ยนไปครับ..เพราะ มีวันนึงผมได้ไปศึกษาหุ้นพลังงานทดแทน และเจอบริษัทน่าสนใจบริษัทนึงที่ไปลงทุนเกี่ยวกับแสงอาทิตย์ แต่ด้วยความที่ผมมีความเชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป มองข้อเสียของแสงอาทิตย์ที่ผมพอจะทราบมากเกินไป ทำให้ผมเกิด ความลำเอียง เป็น "โมหาคติ"...ตัดสินใจไม่ลงทุน..จึงเกิดความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นดังคำกล่าวที่ว่า "หากเราเพ่งใบไม้แล้ว เราจะไม่เห็นต้นไม้ทั้งต้น เพ่งต้นไม้แค่ต้นเดียวจะไม่เห็นผืนป่า" ..ที่บอกว่าผมผิดพลาด..เพราะ หุ้นบริษัทดังกล่าว กำไรเพิ่มขึ้นจากตอนที่ผมดูเป็น10เท่า(ด้านราคาไม่ต้องพูดถึง)..ถ้าผมไม่เกิดความลำเอียงในจิตใจ..คิดแค่มุมมองพฐ.ของนักลงทุนคุณค่าอย่างเราๆคือ.."ต่ำกว่ามูลค่า"ไหม?..ถ้าคิดแค่นี้..ตอนนั้นผมคงมีหุ้นหลายเด้งติดไม้ติดมือเป็นแน่แท้ครับ
จากประสบการณ์เล็กๆของผม..ผมอยากจะแชร์"มือใหม่"ที่เข้ามาศึกษาแนวทางนี้ว่า.. หากเราคิดว่าเราคือนักลงทุน เราควรจะเน้นมุมมองนักลงทุนให้มากไว้ โดยผ่านกระบวนการตรึกตรองอย่างเจ้าของบริษัท แต่ควรอย่าลืมข้อได้เปรียบของนักลงทุนให้มากๆไว้(เจ้าของบริษัทเขาก็มีข้อได้เปรียบของเรา)..เช่นข้อได้เปรียบของนักลงทุนอย่างที่คุณPower Investorได้แนะนำไว้ว่า..หาก"สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ ว่าไม่เป็นเช่นนั้น..เราได้เปรียบตรงที่..เราขายได้" และพึงละรึกไว้ว่าขนาดนักลงทุนระดับโลกยังเคยผิดมาเยอะแยะมากมายครับ
สรุปในมุมมองผมตามกระทู้..พลังงานทดแทนจะเป็น mega trend หรือเปล่า...อันนี้น่าจะบอกว่ามีมูลครับ แต่น่าจะต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ..แถมเผื่อเป็นมุมมองสำหรับเพื่อนๆมือใหม่ไว้พิจารณา..สำหรับพลังงานทดแทนเราดูเทรน(ทิศทาง)คิดง่ายๆว่ากันขนาดนี้คือทิศทางมันน่าจะเป็นบวกแน่ๆเพียงแต่จะถึงระดับmega trend ไหมอีกเรื่องนึง.. ดังนั้นควรดูแต่เพียงระดับนึงไว้ก่อน..เพราะต้องพิจารณาในส่วนบริษัทประกอบเป็นหลักด้วย(ย้ำว่าต้องมากๆ)..เพราะโมเดลธุรกิจนั้นสำคัญมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันในหลายๆบริษัทที่ทำพลังงานทดแทนก็รับรู้มูลค่าไปพอสมควรเลย..จึงต้องดูกันดีๆครับ
สุดท้ายนี้..ส่วนตัวผมให้นำหนักกับ..ชีวมวลเป็นพิเศษ วันที่ไปออกรายการอยากจะพูดเน้นด้านนี้มากๆ(ยังไม่หายอคติ..อิอิ)..แต่ด้วยเวลาและตรีมพลังงานทดแทน ทำให้มีความรู้สึกเหมือนมีของดีแต่ไม่ได้เล่าเลย(ได้แต่พูดรวมๆ)..อย่างไรหากว่างๆฝากเพื่อนๆที่สนใจลองพิจารณาศึกษาชีวมวลดูเล่นๆนะครับ(ไม่ต้องเรื่องหุ้นก็ได้)..เผื่อชอบเหมือนๆกันได้Inboxมาคุยกันบ้างครับ^^
ท้ายที่สุดก่อนจากกัน..ขอออกตัวว่า ขออนุญาติไม่Discussเรื่องพลังงานนะครับ..ผมแนะนำหาอ่านได้ตามบอร์ดทั่วไปเลยครับ..คุยกันทียาวเป็นกิโลๆถกกันไม่จบ..แถมละเอียดมากๆ^^"..ในระดับประเทศ..ขนาดในกลุ่มที่เห็นด้วย ว่าต้องปฎิรูปพลังงานยังต้องแตกออกมาเป็น2แนวทาง..แบบเราๆไม่ต้องพูดถึง^^".
ปล. โมหาคติ ความละเอียงเพราะความไม่รู้ หรือ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หมายถึง การทำให้เสียความรู้สึกธรรมเพราะความสะเพร่า ความไม่ละเอียดถี่ถ้วน รีบตัดสินใจก่อนพิจารณาให้ดี
กะว่าจะพิมพ์สั้นๆ..แต่ยาวเลย^^"
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 26
พลังงาน biogas biomass นี้มันเป็นพลังงานที่ทำให้โลกร้อนรึเปล่าครับ
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 27
ธุรกิจพลังงานเป็น ธุรกิจที่ลงทุนสูงคืนทุนนาน หนี้เยอะ จำต้องมาระดมทุนในตลาดครับผม
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 28
ถ้าถามผมเรื่องตัวธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท ผมจะตอบตามข้อเท็จจริงที่พอรู้ แต่ถ้าถามผมถึงตัวหุ้นEA ผมจะตอบตามประสบการณ์และความรู้สึกล้วนๆนะครับพี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับ
ขอบพระคุณครับ
เมื่อ4-5ปีก่อนหน้านี้ มีคนมีกระตังคนหนึ่ง มาบอกผมว่ามีคนชวนเค้าให้ร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ที่กำลังจะทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คนที่ชวนเค้าบอกว่าธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง30-40%
เค้าถามความคิดเห็นจากผม
ผมก็บอกเค้าตามข้อเท็จจริงที่ว่า ธุรกิจนี้ถ้าทำแบบตรงไปตรงมา ไม่มีทางทำผลตอบแทนได้สูงเช่นนั้น ที่ผมเคยทำเองยังได้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ถึง15%เลย ดังนั้น30-40%จึงไม่น่าเป็นไปได้
เค้าหัวเราะไม่เชื่อผม เค้าบอกคนชวนเค้ามั้นใจมากว่าทำได้ ผมก็บอกเค้าให้ระวังอย่าโลภมากนัก ยิ่งเจ้าของที่มาชวนก็ชื่อเสียงไม่ดีมาก่อน ยังไงถ้าได้กำไร2-300%ก็น่าพอใจได้แล้ว
ตอนนั้นทราบมาว่าเค้าลงเงินไปหลายสิบล้านบาทอยู่เหมีอนกัน ที่ต้นทุนหุันละ50สตางค์
จากนั้นมาสามปี บริษัทนั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดในชื่อEA ที่ราคาIPOที่5.50บาทต่อหุ้น
เจอคนนั้นอีกที โคตรดีใจมากที่เค้าไม่ได้เชื่อผม
ต่อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ทานข้าวกับผู้ใหญ่กรมสรรพากรท่านหนึ่งที่ชอบเล่นหุ้น
ท่านบอกท่านเล่นEAอยู่ ตอนนั้นราคาประมาณ8บาท มีคนบอกท่านว่าจะทำไปถึง20บาท ท่านถามความเห็นผม ผมเลยรีบบอกว่าอย่าเชื่อผมเลยครับ เพราะ5.50บาทผมยังว่าแพงเกินไปแล้วเลย แล้วก็เล่าเรื่องข้างบนให้ท่านฟัง
มาวันนี้EAก็กำลังจะถึง20บาทแล้ว มาด้วยอะไรก็ไม่ทราบ แต่มั่นใจมากว่าไม่ใช่ด้วยพื้นฐานความเป็นจริงของธุกิจ
แต่ต้องยอมรับว่า เจ้าของคุมความโลภของผู้ร่วมลงทุนได้ดีมากจริงๆ ไม่มีใครแตกแถวเลย แม้แต่ในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดี ก็ไม่มีใครทิ้ง จำนวนหุ้นfree floatน้อย เลยเลี้ยงราคาง่าย
ตอนนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้วว่าเราคงไม่มีวันรวยแบบคนอื่นได้แน่ๆ ไม่ใช่เพราะมีโมหาคติแบบคุณEnergy_Eakนะครับ แต่เป็นเพราะเรารู้ความจริงมากเกินไป เลยทำให้ไม่กล้าลงทุน เพราะดันไปเชื่อว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามพื้นฐานที่แท้จริงของตัวธุรกิจ
แต่สุดท้ายความจริงก็คือว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อของคน
มีคนเชื่อว่าราคาIPO5.50บาทนั้นถูกแสนถูก
มีคนเชื่อว่าธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะเป็นMega Trend
มีคนเชื่อว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด ราคาห้นจะขึ้นไปถึง20บาท
สุดท้ายถ้ามีคนเชื่อมากกว่าคนไม่เชื่อ ราคาหุ้นมันก็ขึ้นตามครับ ไม่ต้องไป สนใจเรื่องพื้นฐานหรอก
ผู้รู้ทั้งหลายเช่นผมก็เป็นแค่พวกหมาเห่าทวนลมทั้งนั้น สู้พวกตดใส่ไม้ขีดไฟไม่ได้หรอกครับ 555
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 29
ดูกันยาวๆครับ หนังยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบลุกจากที่นั่งครับ อาจพลาดตอนสำคัญ เพราะไคลแม็กซ์มักจะมาตอนที่คาดไม่ถึงบ่อยๆPower Investor เขียน:แต่สุดท้ายความจริงก็คือว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อของคน
มีคนเชื่อว่าราคาIPO5.50บาทนั้นถูกแสนถูก
มีคนเชื่อว่าธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะเป็นMega Trend
มีคนเชื่อว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด ราคาห้นจะขึ้นไปถึง20บาท
สุดท้ายถ้ามีคนเชื่อมากกว่าคนไม่เชื่อ ราคาหุ้นมันก็ขึ้นตามครับ ไม่ต้องไป สนใจเรื่องพื้นฐานหรอก
ผู้รู้ทั้งหลายเช่นผมก็เป็นแค่พวกหมาเห่าทวนลมทั้งนั้น สู้พวกตดใส่ไม้ขีดไฟไม่ได้หรอกครับ 555
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2770
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พลังงานทางเลือก mega trend หรือ กระแสเพียงข้ามคืน?
โพสต์ที่ 30
ขอเข้ามาเช็คอิน ตามอ่านครับ
เรื่องพลังงานเป็นอะไรที่ซับซ้อนจนพูดกันไม่จบ บางทีราคาที่ตลาดให้ก็ไม่สมเหตุผล บางทีบริษัทก็มาในทิศทางที่ไม่สมเหตุผล บางทีสื่อและสังคมก็ไม่ค่อยมีเหตุผล คิดมากไปก็ปวดหัวครับ
นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ลงทุนตามที่แต่ละคนมั่นใจ และตามที่ตัวเองสบายใจจะดีกว่า ถึงปวดหัวได้กำไรมา จ่ายค่าหมอก็ไม่คุ้มแล้วครับ
เรื่องพลังงานเป็นอะไรที่ซับซ้อนจนพูดกันไม่จบ บางทีราคาที่ตลาดให้ก็ไม่สมเหตุผล บางทีบริษัทก็มาในทิศทางที่ไม่สมเหตุผล บางทีสื่อและสังคมก็ไม่ค่อยมีเหตุผล คิดมากไปก็ปวดหัวครับ
นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ลงทุนตามที่แต่ละคนมั่นใจ และตามที่ตัวเองสบายใจจะดีกว่า ถึงปวดหัวได้กำไรมา จ่ายค่าหมอก็ไม่คุ้มแล้วครับ
Vi IMrovised