หนังเรื่องเดียวกัน คนหนึ่งดูแต่ช่วงactionบอกว่าสนุกดูกันยาวๆครับ หนังยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบลุกจากที่นั่งครับ อาจพลาดตอนสำคัญ เพราะไคลแม็กซ์มักจะมาตอนที่คาดไม่ถึงบ่อยๆ
อีกคนดูตั้งแต่้ต้นจนจบอาจบอกว่าไม่านุกก็ได้นะครับ
หนังเรื่องเดียวกัน คนหนึ่งดูแต่ช่วงactionบอกว่าสนุกดูกันยาวๆครับ หนังยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบลุกจากที่นั่งครับ อาจพลาดตอนสำคัญ เพราะไคลแม็กซ์มักจะมาตอนที่คาดไม่ถึงบ่อยๆ
Power Investor เขียน:ถ้าถามผมเรื่องตัวธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท ผมจะตอบตามข้อเท็จจริงที่พอรู้ แต่ถ้าถามผมถึงตัวหุ้นEA ผมจะตอบตามประสบการณ์และความรู้สึกล้วนๆนะครับพี่ Power มอง EA กับมาร์เก็ตแค็ป 7 หมื่นล้านเช่นไรครับ
ขอบพระคุณครับ
เมื่อ4-5ปีก่อนหน้านี้ มีคนมีกระตังคนหนึ่ง มาบอกผมว่ามีคนชวนเค้าให้ร่วมลงทุนในบริษัทใหม่แห่งหนึ่ง ที่กำลังจะทำโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คนที่ชวนเค้าบอกว่าธุรกิจนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง30-40%
เค้าถามความคิดเห็นจากผม
ผมก็บอกเค้าตามข้อเท็จจริงที่ว่า ธุรกิจนี้ถ้าทำแบบตรงไปตรงมา ไม่มีทางทำผลตอบแทนได้สูงเช่นนั้น ที่ผมเคยทำเองยังได้ผลตอบแทนการลงทุนไม่ถึง15%เลย ดังนั้น30-40%จึงไม่น่าเป็นไปได้
เค้าหัวเราะไม่เชื่อผม เค้าบอกคนชวนเค้ามั้นใจมากว่าทำได้ ผมก็บอกเค้าให้ระวังอย่าโลภมากนัก ยิ่งเจ้าของที่มาชวนก็ชื่อเสียงไม่ดีมาก่อน ยังไงถ้าได้กำไร2-300%ก็น่าพอใจได้แล้ว
ตอนนั้นทราบมาว่าเค้าลงเงินไปหลายสิบล้านบาทอยู่เหมีอนกัน ที่ต้นทุนหุันละ50สตางค์
จากนั้นมาสามปี บริษัทนั้นได้เข้าจดทะเบียนในตลาดในชื่อEA ที่ราคาIPOที่5.50บาทต่อหุ้น
เจอคนนั้นอีกที โคตรดีใจมากที่เค้าไม่ได้เชื่อผม
ต่อมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ทานข้าวกับผู้ใหญ่กรมสรรพากรท่านหนึ่งที่ชอบเล่นหุ้น
ท่านบอกท่านเล่นEAอยู่ ตอนนั้นราคาประมาณ8บาท มีคนบอกท่านว่าจะทำไปถึง20บาท ท่านถามความเห็นผม ผมเลยรีบบอกว่าอย่าเชื่อผมเลยครับ เพราะ5.50บาทผมยังว่าแพงเกินไปแล้วเลย แล้วก็เล่าเรื่องข้างบนให้ท่านฟัง
มาวันนี้EAก็กำลังจะถึง20บาทแล้ว มาด้วยอะไรก็ไม่ทราบ แต่มั่นใจมากว่าไม่ใช่ด้วยพื้นฐานความเป็นจริงของธุกิจ
แต่ต้องยอมรับว่า เจ้าของคุมความโลภของผู้ร่วมลงทุนได้ดีมากจริงๆ ไม่มีใครแตกแถวเลย แม้แต่ในช่วงภาวะตลาดที่ไม่ดี ก็ไม่มีใครทิ้ง จำนวนหุ้นfree floatน้อย เลยเลี้ยงราคาง่าย
ตอนนี้ก็เลยยอมรับความจริงแล้วว่าเราคงไม่มีวันรวยแบบคนอื่นได้แน่ๆ ไม่ใช่เพราะมีโมหาคติแบบคุณEnergy_Eakนะครับ แต่เป็นเพราะเรารู้ความจริงมากเกินไป เลยทำให้ไม่กล้าลงทุน เพราะดันไปเชื่อว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามพื้นฐานที่แท้จริงของตัวธุรกิจ
แต่สุดท้ายความจริงก็คือว่าราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามความเชื่อของคน
มีคนเชื่อว่าราคาIPO5.50บาทนั้นถูกแสนถูก
มีคนเชื่อว่าธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะเป็นMega Trend
มีคนเชื่อว่าไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด ราคาห้นจะขึ้นไปถึง20บาท
สุดท้ายถ้ามีคนเชื่อมากกว่าคนไม่เชื่อ ราคาหุ้นมันก็ขึ้นตามครับ ไม่ต้องไป สนใจเรื่องพื้นฐานหรอก
ผู้รู้ทั้งหลายเช่นผมก็เป็นแค่พวกหมาเห่าทวนลมทั้งนั้น สู้พวกตดใส่ไม้ขีดไฟไม่ได้หรอกครับ 555
โรงไฟฟ้าทุกประเภททื่กระบวนการผลิตมีการเผาไหม้ การเผาไหม้นื้จะทำให้เกิดแก๊สคาบอนหรือCO2 ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนพลังงาน biogas biomass นี้มันเป็นพลังงานที่ทำให้โลกร้อนรึเปล่าครับ
เรื่องนี้ผมก็งงครับ หรือเดี๋ยวนี้ Know How เราสูงกว่าแล้วPower Investor เขียน:มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญาทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเขาเอง ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
อาจเป็นเพราะพลังงานทางเลือกของ ญี่ปุ่นใช้พลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและมีประสิทธิภาพสูง ต้นทุนถูกกว่าพลังงานแสงอาทิตย์มากครับPower Investor เขียน:มีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญาทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเขาเอง ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
apan Wants To Put A Giant Solar Farm In Space
May 19, 2014 | by Justine Alford
[youtube]D56vRfv71OA[/youtube]
Picture this: a giant solar power plant floating in space, gathering the sun’s energy with virtually no constraints from the weather, seasons or time of day, delivering a constant supply of green energy to Earth. Sound a little too Sci-Fi? Well, thanks to JAXA, the Japan Aerospace Exploration Agency, we could actually witness this incredible technology in just over a decade.
The idea of a space power plant has actually been around for a while. Back in 1968, American aerospace engineer Dr. Peter Glaser pioneered the space solar power concept and proposed the deployment of giant solar panels in space in order to generate microwaves that could be transmitted back to Earth to produce electricity. The concept sparked a lot of interest, even from NASA, but it came to a halt in the ‘80s because of the high costs involved. Japan, however, pursued the idea and is currently the world leader of the Space Solar Power Systems (SSPS) project.
This colossal satellite, hovering around 22,000 miles (36,000 kilometers) above Earth, would be several miles long and weigh a whopping 10,000 metric tons. These floating solar panels would actually be tethered to a station on the ground in order to keep the satellite at a fixed point in geostationary orbit. The proposed model also includes a set of mirrors that reflect the sun’s light onto the panels so that when the satellite is not facing the sun it can still receive sunlight.
And now for the really tricky part: getting all of that solar energy back to Earth so that we can use it. There are two possible ways that this could be achieved which involve converting the solar energy into either laser beams or microwaves, or perhaps even a combination of both, which would then be transmitted to a receiving facility (called a “rectenna” [rectifying antenna]) situated on Earth. Ground-based experiments are currently underway to discern which option would be most efficient.
These space based solar panels would be around 5-10 times more efficient than ground-based solar conversion systems. Furthermore, CO2 emissions will be low and will only come from the receiving facility. It’s predicted that SSPS will be able to process around 1 gigawatt of power, which is a similar amount to nuclear power stations.
Although Japan are the leading country with regards to making SSPS happen, in reality the costs will be so astronomical that it is likely contributions from other countries will be required before we see this behemoth space power station start to take shape. This concept may seem a little far-fetched, but JAXA believe they are getting tantalizingly close to turning this vision into a reality.
Read more at http://www.iflscience.com/technology/ja ... eKCt6mU.99
หนัมีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญาทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเขาเอง ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
บริษัทญี่ปุ่นเขาทำเองได้ครับ แต่บริษัทไทยไปประมูลราคาได้ถูกกว่า ซึ่งถ้าได้ราคานี้บริษัทญี่ปุ่นเขาคงไม่เอา ดูเหมือนว่าที่บริษัทไทยไปแข่งราคาประมูลต่ำๆ เพราะแค่ต้องการชื่อว่ารับโปรเจคในญี่ปุ่นมาได้ครับ แต่จะกำไรหรือไม่นั้นเรื่องนี้คงพูดกันยาวPower Investor เขียน:หนัมีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญาทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเขาเอง ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
ยังไม่มีใครตอบตรงคำถามเลย ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่มีปัญญาทำเอง ต้องให้คนไทยมาทำให้ครับ
ต้องตอบว่าทำให้โลกร้อนน้อยมากcyber-shot เขียน:พลังงาน biogas biomass นี้มันเป็นพลังงานที่ทำให้โลกร้อนรึเปล่าครับ
อ่านแล้วยังไม่เข้าใจว่าบ่นอะไรเรื่อง rmf ltf ค่าลดหย่อนประกัน ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยผ่อนบ้าน
ผมคิดแบบตรงไปตรงมานโยบายแบบนี้ มันไม่ยุติธรรม
บิดเบือน ใน demand การลงทุน การซื้อประกันชีวิต การซื้อบ้าน
วันก่อน ผมดู รายการช่อง 3 เค้าอธิบายเห็นภาพชัดมาก มีชาย 3 คน
A. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ยากจน ดังนั้น ภาระเยอะ จึงใช้เงิน 3 หมื่นหมดทุกเดือน
ไม่มีปัญญา ซื้อ LTF RMF ไม่มีประกันชีวิต ไม่ผ่อนบ้าน เสียภาษี ปีละ 6,000 บาท
B. รายได้ 3 หมื่น พ่อแม่ร่ำรวย ดังนั้น ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท
C. รายได้เดือนละ 1 แสนบาท ใช้ประโยชน์ จาก LTF RMF ค่าลดหย่อนต่างๆ
เสียภาษีปีละ 0 บาท (แทนที่จะเสียภาษี 12,000บาท)
แสดง ว่า RMF LTF ค่าลดหย่อนต่างๆ ที่พวก นักการเงินช่วยกันคิด ทำให้คนรวยไม่ต้องเสียภาษี
คนจนเสียภาษีเต็มที่
RMF LTF ค่าลดหย่อนประกันชีวิต ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน เอื้อประโยชน์ ให้ บริษัทหลักทรัพย์
ธนาคาร บริษัทประกัน ซึ่งพวกนี้ทั้งกลุ่มเป็นคนกลุ่มเดียวกัน นายธนาคารเป็นเจ้าของ
บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันด้วย
ผมจะเฉลยให้นะครับ เพราะถามคนไทยไม่เคยได้คำตอบ แม้แต่ตัวเจ้าที่จะไปลงทุนเองก็ตาม หรือว่าเค้ารู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่แน่ใจมีใครรู้บ้างมั้ยครับว่าทำไมญี่ปุ่นเขาถึงไม่มีปัญญาทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ของเขาเอง ถึงต้องมาเปิดให้คนไทยแห่กันไปทำ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เป็นเกาะ มีพื้นที่จำกัดและประชากรหนาแน่น ส่งผลให้ราคาที่ดินสูงมาก ในตัวเมืองราคาพื้นที่จอดรถแพงกว่าตัวรถซะอีก ซึ่งการลงทุน solar farm ในญี่ปุ่น ต้นทุนเรื่องราคาที่ดินที่สูง และ พื้นที่กว้างมีแสงแดดตลอดปีก็มีน้อย มีผลทำให้ solar farm ในญี่ปุ่นมีต้นทุนสูงมากกว่า การทำธุรกิจทุกอย่างมีต้นทุนเสียโอกาสหมด ถ้าการทำเกษตรในพื้นที่กว้างและมีแสงแดด มีมูลค่ามากกว่าทำ solar farm ก็ควรเลือกทำเกษตรมากกว่าตามหลักเศรษฐศาสตร์Power Investor เขียน:เริ่มนอกประเด็นกันแล้วนะครับ
ทำไมคนญื่ปุ่นถึงไม่ทำ solar farm เอง ปล่อยให้คนไทยเข้าไปทำ ทั้งๆที่เขาก็มีเงินมี know how เหนือเรา
มีคนตอบแล้วว่าเป็นเพราะผลตอบแทนไม่ดี แต่คนไทยไปทำเพราะอยากได้ชื่อเสียง
มีเหตุผลอื่นบ้างไหมครับ
ผมสงสัยครับผมจะเฉลยให้นะครับ เพราะถามคนไทยไม่เคยได้คำตอบ แม้แต่ตัวเจ้าที่จะไปลงทุนเองก็ตาม หรือว่าเค้ารู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่แน่ใจ
แต่เอาเป็นว่า ถ้าถามคนญื่ปุ่นจะได้คำตอบชัดเจนทันทีว่าที่เค้าไม่ลงทุนทำ solar farm เองทั้งๆที่มีตังและทำได้ง่ายมาก ก็เพราะว่าเค้าไม่เชื่อใจรัฐบาลของเขาเองเค้ากลัวโดนรัฐบาลเบี้ยวจ่ายค่าไฟฟ้า
5555 เขียน:เท่าที่อ่านดูยังไม่มีใครมองยาวๆ ไปจนเลยระยะเวลา adder เลยนะครับ ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น บ.ที่ทำพวกนี้จะเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายใครได้ประโยชน์ ผมว่ารัฐก็ไม่ได้เสียประโยชน์นะครับถ้าระยะยาวจริงๆ พอหมด adder รัฐก็สามารถซื้อไฟในราคาปกติ (คงไม่มีการต่ออายุ adder มั่งครับ) เหมือนยืมมือเอกชลลงทุน โดยยิบยื่นผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อให้ แต่หลังหมด adder ในส่วน บ. นี้ไม่รู้ครับว่ากำไรที่เคยได้มาเยอะๆ จะหายไปขนาดไหน (ไม่มีความรู้จริงๆ ครับ และไม่เคยคิดจะลงทุนในหุ้นพวกนี้ด้วยครับ เพราะเราไม่มีความรู้ด้านนี้ แค่อ่านกระทู้นี้แล้วไปกระตุกต่อมคิดว่า จริงๆแล้วมันน่าสนใจลงทุนรึเปล่านะครับ)
พวกใหญ่ๆที่ cod ไปแล้วหรือแน่ๆก็ adder basis หมดปะครับjonny11 เขียน:อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้
มั่นใจได้ไงว่าบ.ที่ขายแผงจะยังอยู่เมื่อเราต้องการเคลมสินค้าjonny11 เขียน:อย่ามองสั้นนักสิครับ พลังแสงอาทิตย์แพงสุดแต่แผงก็อยู่ได้นานสุดๆเช่นกัน มีรับประกัน 25ปีด้วย สิบปีแรกที่ได้แอดเดอร์ดูเหมือนว่ารัฐต้องซื้อไฟแพง แต่ถ้าเอาราคารับซื้อหลัง10ปีมาถัวก็น่าจะพอทนนะครับ รัฐพลาดที่ไปกำหนดแบบแอดเดอร์ทำให้ภาระไปอยู่ในค่า ft เค้าจึงกำลังเปลี่ยนราคาและวิธีการรับซื้ออยู่ ให้ราคาต่ำลงแต่ระยะเวลานานขึ้นผมว่าทุกฝ่ายคงจะรับได้