มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
-
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
โพสต์ที่ 1
ในหนังสือที่ใช้วิธีการหาผลตอบแทนที่จะได้รับในอนาคตว่าเข้าท่าที่เราจะร่วมลงทุนด้วยมั้ย
ที่เค้าใช้วิธีดูประวัติการเติบโตของกำไรและ คำนวนหาGrowth rate ที่เคยทำได้ในอดีตแบบทบต้น10ปี
และใช้อัตรานี้มาคำนวนหากำไรต่อหุ้นไปในอนาคตข้างหน้า5ถึง10ปี คิดว่าการใช้วิธีนี้จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำหรือไม่ครับ?
เพราะผมลองสุ่ม back test กับหุ้นไทย ผมพบว่าไม่มีหุ้นตัวไหนที่ใช้อัตราgrowth rateที่เค้าทำได้ในอดีต มาประเมินกำไรต่อหุ้นในอนาคตได้ใกล้เคียงเลย บางตัวก็มากไป บางตัวก็น้อยไป(เลือกเฉพาะหุ้นที่กำไรไม่ลดลงในอนาคต)
เลยเป็นที่มาของความสงสัยที่ว่า วิธีที่เค้าบอกว่าBuffettใช้ในหนังสือเล่มนี้ ใช้ได้ผลจริงหรือ?
ที่เค้าใช้วิธีดูประวัติการเติบโตของกำไรและ คำนวนหาGrowth rate ที่เคยทำได้ในอดีตแบบทบต้น10ปี
และใช้อัตรานี้มาคำนวนหากำไรต่อหุ้นไปในอนาคตข้างหน้า5ถึง10ปี คิดว่าการใช้วิธีนี้จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำหรือไม่ครับ?
เพราะผมลองสุ่ม back test กับหุ้นไทย ผมพบว่าไม่มีหุ้นตัวไหนที่ใช้อัตราgrowth rateที่เค้าทำได้ในอดีต มาประเมินกำไรต่อหุ้นในอนาคตได้ใกล้เคียงเลย บางตัวก็มากไป บางตัวก็น้อยไป(เลือกเฉพาะหุ้นที่กำไรไม่ลดลงในอนาคต)
เลยเป็นที่มาของความสงสัยที่ว่า วิธีที่เค้าบอกว่าBuffettใช้ในหนังสือเล่มนี้ ใช้ได้ผลจริงหรือ?
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
โพสต์ที่ 2
ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการใช้ "สมมุติฐาน" น่ะครับ
เป็นวิธีการ "สมมุติฐาน" หนึ่งในหลายๆวิธีในการประเมินมูลค่าหุ้นน่ะครับ
แต่ในโลกความเป็นจริง การลงทุนต้องใช้มากกว่านั้น และก็ขึ้นกับเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง
ก็เหมือนที่หลายๆท่านบอก การลงทุนใช้ทั้ง "ศาสตร์และศิลป์"
ส่วนที่จะใช้วิธีไหนได้ผลนั้น "คำตอบ" ก็คงต้องดูจากผลตอบแทนของเราเองในระยะยาวสิบปีขึ้นไปครับ
เป็นวิธีการ "สมมุติฐาน" หนึ่งในหลายๆวิธีในการประเมินมูลค่าหุ้นน่ะครับ
แต่ในโลกความเป็นจริง การลงทุนต้องใช้มากกว่านั้น และก็ขึ้นกับเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง
ก็เหมือนที่หลายๆท่านบอก การลงทุนใช้ทั้ง "ศาสตร์และศิลป์"
ส่วนที่จะใช้วิธีไหนได้ผลนั้น "คำตอบ" ก็คงต้องดูจากผลตอบแทนของเราเองในระยะยาวสิบปีขึ้นไปครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
โพสต์ที่ 3
การใช้ค่าเฉลี่ยการเติบโตของกำไรที่เคยทำได้ในอดีต
แล้วนำค่าเฉลี่ยนั้นมาประมาณกำไรต่อหุ้นในอนาคต
คงต้องคำนึงถึงช่วงการเติบโตของบริษัทในระยะยาวและระยะสั้น รวมถึง
ภาวะอุตสาหกรรม ภาวะเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของกิจการในช่วงเวลานั้นด้วย
เช่น การแข่งขันในอุตสาหกรรม ต้นทุน ยอดขาย ผลิตภัณฑ์หรือการบริการใหม่ๆ ฯลฯ
และถึงเราจะสามารถหาค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาดังกล่าวในอดีตได้
แต่ก็คงไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างชัดเจนนัก เพราะว่า การเติบโตในช่วงต่อไปของบริษัท
นั้นอาจจะมีเหตุและปัจจัยต่างๆมากระทบ ซึ่งทำให้ผลกำไรไม่เป็นไปตามค่าเฉลี่ยในอดีตก็ได้
ฉะนั้น ถ้าเรานำค่าเฉลี่ยในอดีตมาใช้ เราควรต้องระวัง
อย่าให้มันเป็นบรรทัดฐานว่าค่าเฉลี่ยในอดีต จะต้องดำเนินไปเหมือนเดิมในอนาคตเสมอ
แต่เราควรใช้เป็นข้อเปรียบเทียบกับปัจจุบันและในอนาคต ภายใต้สมมุติฐานที่เหมาะสม
เราควรตรวจสอบเสมอๆถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั่นเป็นเหตุผลว่า นักลงทุนควรจะเปิดหูเปิดตาให้กว้างเข้าไว้ครับ
แล้วนำค่าเฉลี่ยนั้นมาประมาณกำไรต่อหุ้นในอนาคต
คงต้องคำนึงถึงช่วงการเติบโตของบริษัทในระยะยาวและระยะสั้น รวมถึง
ภาวะอุตสาหกรรม ภาวะเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของกิจการในช่วงเวลานั้นด้วย
เช่น การแข่งขันในอุตสาหกรรม ต้นทุน ยอดขาย ผลิตภัณฑ์หรือการบริการใหม่ๆ ฯลฯ
และถึงเราจะสามารถหาค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาดังกล่าวในอดีตได้
แต่ก็คงไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างชัดเจนนัก เพราะว่า การเติบโตในช่วงต่อไปของบริษัท
นั้นอาจจะมีเหตุและปัจจัยต่างๆมากระทบ ซึ่งทำให้ผลกำไรไม่เป็นไปตามค่าเฉลี่ยในอดีตก็ได้
ฉะนั้น ถ้าเรานำค่าเฉลี่ยในอดีตมาใช้ เราควรต้องระวัง
อย่าให้มันเป็นบรรทัดฐานว่าค่าเฉลี่ยในอดีต จะต้องดำเนินไปเหมือนเดิมในอนาคตเสมอ
แต่เราควรใช้เป็นข้อเปรียบเทียบกับปัจจุบันและในอนาคต ภายใต้สมมุติฐานที่เหมาะสม
เราควรตรวจสอบเสมอๆถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั่นเป็นเหตุผลว่า นักลงทุนควรจะเปิดหูเปิดตาให้กว้างเข้าไว้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
โพสต์ที่ 4
ผมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้นะครับ แต่เคยได้เล่าเรียน(จากการไปสมัครคอร์สเรียน
ตามที่ต่างๆ) เกี่ยวกับวิธีนี้มาบ้าง ในความเห็นของผม ตอบคำถามก่อน
ตามความคิด ความเข้าใจของผม การที่เราต้องใช้ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี เพราะเป็นการ
เผื่อช่วงของธุรกิจที่จะมีทั้งช่วงขึ้นและลง หากใช้น้อยไปอาจจะไปอยู่ในช่วงไหน
ช่วงหนึ่ง จึงใช้ย้อนหลังอย่างน้อย 10 ปี เพื่อดูว่าวิกฤตที่ผ่านมาบริษัทปรับตัวได้แค่ไหน
สร้างผลกำไรได้มากน้อยต่างกับช่วงที่เศรษฐกิจดีๆ แล้วมาหาค่าเฉลี่ยประมาณไปในอนาคต
เผื่อเจอวิกฤตอีก
แต่สำหรับผมมันมีจุดสงสัยอยู่ว่า แล้ววิกฤตที่บริษัทผ่านมาได้แล้วมาใช้ประเมิน
มันเป็นวิกฤตที่กระทบกับบริษัทมากน้อยแค่ไหน หากไม่มากแล้วเอากำไรตอนนั้นมา
ประเมินในอนาคตแล้วเกิดบริษัทไปเจอวิกฤตร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรง
ตัวเลขที่เราเคยประเมินมันจะไม่มากไปหรือ???
ดังนั้น ผมจึงให้น้ำหนักความสำคัญในเรื่องของตัวผู้บริหาร และรูปแบบธุรกิจเป็นสำคัญ
มากขึ้นในการประเมินกำไรครับ โดยลดความสำคัญของตัวเลขผลการดำเนินงานย้อน
หลังลง จาก 10 ปี เหลือเพียง 3-5 ปีครับ
(จริงๆคือขี้เกียจคำนวนเยอะ แต่ไม่ใช่ไม่สนใจนะครับ555+)
....^^)
ตามที่ต่างๆ) เกี่ยวกับวิธีนี้มาบ้าง ในความเห็นของผม ตอบคำถามก่อน
มันแน่นอนอยู่แล้วครับว่าไม่มีวิธีไหนที่ใช้ได้แม่นยำ ถูกต้อง 100% ครับBoatAttasit เขียน:คิดว่าการใช้วิธีนี้จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยำหรือไม่ครับ?
ตามความคิด ความเข้าใจของผม การที่เราต้องใช้ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี เพราะเป็นการ
เผื่อช่วงของธุรกิจที่จะมีทั้งช่วงขึ้นและลง หากใช้น้อยไปอาจจะไปอยู่ในช่วงไหน
ช่วงหนึ่ง จึงใช้ย้อนหลังอย่างน้อย 10 ปี เพื่อดูว่าวิกฤตที่ผ่านมาบริษัทปรับตัวได้แค่ไหน
สร้างผลกำไรได้มากน้อยต่างกับช่วงที่เศรษฐกิจดีๆ แล้วมาหาค่าเฉลี่ยประมาณไปในอนาคต
เผื่อเจอวิกฤตอีก
แต่สำหรับผมมันมีจุดสงสัยอยู่ว่า แล้ววิกฤตที่บริษัทผ่านมาได้แล้วมาใช้ประเมิน
มันเป็นวิกฤตที่กระทบกับบริษัทมากน้อยแค่ไหน หากไม่มากแล้วเอากำไรตอนนั้นมา
ประเมินในอนาคตแล้วเกิดบริษัทไปเจอวิกฤตร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับบริษัทโดยตรง
ตัวเลขที่เราเคยประเมินมันจะไม่มากไปหรือ???
ดังนั้น ผมจึงให้น้ำหนักความสำคัญในเรื่องของตัวผู้บริหาร และรูปแบบธุรกิจเป็นสำคัญ
มากขึ้นในการประเมินกำไรครับ โดยลดความสำคัญของตัวเลขผลการดำเนินงานย้อน
หลังลง จาก 10 ปี เหลือเพียง 3-5 ปีครับ
(จริงๆคือขี้เกียจคำนวนเยอะ แต่ไม่ใช่ไม่สนใจนะครับ555+)
....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
Re: มีใครเคยอ่านหนังสือ Buffettology บ้างครับผมมีเรื่องสงสัย
โพสต์ที่ 5
เพราะเราไม่สามารถคาดการอนาคตไม่อย่างแม่นยำ ดังนั้น Margin of Safety จึงมีความสำคัญ
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"
"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"