อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้างครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายมานะ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1167
ผู้ติดตาม: 1

อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้างครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

นึกออกแค่หุ้นกลุ่มประกันชีวิตน่ะครับ มีกลุ่มไหนที่น่าจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น หรืออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นบ้างครับ
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1523
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แบงค์ครับ
PLUSLOVE
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1523
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เสียประโยชน์ บริษัทที่กู้ในประเทศ ลิซซิ่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
chaitorn
Verified User
โพสต์: 2547
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

anubist เขียน:ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
อาจต้องดูคู่กับ liability อีกด้านประกอบด้วย

หาก duration gap เป็น positive ดอกเบี้ยขาขึ้น อาจได้ประโยชน์ เพราะ roll over ใหม่ ดอกเบี้ยสูงขึ้น
แต่หาก เป็น nagative gap แบบนี้เสียประโยชน์ เพราะ roll over ดอกเบี้ยสูงไม่ได้

ถ้าหากดอกเบี้ยขาขึ้นจริง ประกันอาจต้องปรับ port พันธบัตรให้เป็นระยะสั้นมากขึ้น เพื่อประโยชน์ roll over อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่สูงขึ้นครับ

ธนาคารก็เช่นกัน ต้องดู alco ว่า เป็น positive หรือ nagative gap กับอัตราดอกเบี้ย เช่น ปล่อยกู้ floating rate แต่ fixed rate เงินฝากไว้ หรือออก bond อัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้ระยะยาว ถ้าดอกเบี้ยตลาดขึ้น 2 ขาเท่ากัน แบบนี้ธนาคารได้ประโยชน์ครับ ข้อมูลนี้ต้องถามธนาคารจึงทราบ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
chaitorn
Verified User
โพสต์: 2547
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

chaitorn เขียน:
anubist เขียน:ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
อาจต้องดูคู่กับ liability อีกด้านประกอบด้วย

หาก duration gap เป็น positive ดอกเบี้ยขาขึ้น อาจได้ประโยชน์ เพราะ roll over ใหม่ ดอกเบี้ยสูงขึ้น
แต่หาก เป็น nagative gap แบบนี้เสียประโยชน์ เพราะ roll over ดอกเบี้ยสูงไม่ได้

ถ้าหากดอกเบี้ยขาขึ้นจริง ประกันอาจต้องปรับ port พันธบัตรให้เป็นระยะสั้นมากขึ้น เพื่อประโยชน์ roll over อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่สูงขึ้นครับ

ธนาคารก็เช่นกัน ต้องดู alco ว่า เป็น positive หรือ nagative gap กับอัตราดอกเบี้ย เช่น ปล่อยกู้ floating rate แต่ fixed rate เงินฝากไว้ หรือออก bond อัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้ระยะยาว ถ้าดอกเบี้ยตลาดขึ้น 2 ขาเท่ากัน แบบนี้ธนาคารได้ประโยชน์ครับ ข้อมูลนี้ต้องถามธนาคารจึงทราบ
ศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ

http://thaiactuary.blogspot.com/2014/02 ... nt-11.html
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
nu
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 433
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

anubist เขียน:ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
ไม่เชิงนะครับ

อยู่ที่ว่า บ.ประกันลงบัญชีอย่างไร ถ้าลงบัญชีเป็น Hold to mat. ก็ไม่ต้อง mark to market
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

chaitorn เขียน:
chaitorn เขียน:
anubist เขียน:ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
อาจต้องดูคู่กับ liability อีกด้านประกอบด้วย

หาก duration gap เป็น positive ดอกเบี้ยขาขึ้น อาจได้ประโยชน์ เพราะ roll over ใหม่ ดอกเบี้ยสูงขึ้น
แต่หาก เป็น nagative gap แบบนี้เสียประโยชน์ เพราะ roll over ดอกเบี้ยสูงไม่ได้

ถ้าหากดอกเบี้ยขาขึ้นจริง ประกันอาจต้องปรับ port พันธบัตรให้เป็นระยะสั้นมากขึ้น เพื่อประโยชน์ roll over อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่สูงขึ้นครับ

ธนาคารก็เช่นกัน ต้องดู alco ว่า เป็น positive หรือ nagative gap กับอัตราดอกเบี้ย เช่น ปล่อยกู้ floating rate แต่ fixed rate เงินฝากไว้ หรือออก bond อัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้ระยะยาว ถ้าดอกเบี้ยตลาดขึ้น 2 ขาเท่ากัน แบบนี้ธนาคารได้ประโยชน์ครับ ข้อมูลนี้ต้องถามธนาคารจึงทราบ
ศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ

http://thaiactuary.blogspot.com/2014/02 ... nt-11.html
มันจะทำให้เกิด Miss match ของ funding ซิพี่ Chaitorn หรือเปล่าครับ
ถ้าหากในช่วงดอกเบี้ยขาลงแบบนี้ ใจของประกันจริงๆต้องการให้ถือพันธบัตรเป็นแบบ เผื่อการค้า แต่เมื่อตลาดดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ใจของประกันต้องการเป็นเผื่อขาย
แต่ทว่า ผู้ควบคุมกฏเอง ก็ไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เพื่อถ้าหากแก้ไขเผื่อค้าเป็นเผื่อขาย ไม่ให้นำกลับมาตามระยะเวลา (ถ้าจำไม่ผิด 3 ปี)
แล้ว ยังมีตัวพันธบัตรที่นำไปวางไว้เป็นหลักประกันที่ คปภ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทเพิ่มเติมกว่าแต่ก่อนด้วย

อีกอย่างถ้าดอกเบี้ยขาขึ้น ประชาชนส่วนใจซื้อประกันน้อยลง
เพราะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าประกัน
ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยอีกประเด็นหนึ่ง

แต่จริงๆๆ ประกัน ก็ปรับ Port อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เนื่องจาก มีเงินไหลเข้าและออก
ตามช่วงระยะเวลา อยู่แล้ว จึงไม่น่ามีกังวลมากมายอะไร
ถ้าใครผ่านช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมา ถึงวิกฤติ แฮมเบอร์เกอร์ ก็จะรู้ว่า ช่วงนั้นบริษัทประกันชีวิตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็มีกำไรให้เห็น ทั้งทีดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

อีกอย่างตอนนี้มีเครื่องมือในการทำ เฮดจิ้ง แล้วด้วย ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า ทำ เฮดจิ้งจริงๆ ไม่ใช่เกร็งกำไร ก็ช่วยได้มากโข และ ที่สำคัญสามารถเอาเงินลงทุนไปลงทุนที่ต่างประเทศได้อีกต่างหาก
:)
:)
chaitorn
Verified User
โพสต์: 2547
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

miracle เขียน:
chaitorn เขียน:
chaitorn เขียน:
anubist เขียน:ประกันก็เสียประโยชน์นะครับ
ต้องmark to market ราคาพันธบัตรที่ปรับตัวลดลงจากยิลด์เดิมต่ำกว่าท้องตลาด
อาจต้องดูคู่กับ liability อีกด้านประกอบด้วย

หาก duration gap เป็น positive ดอกเบี้ยขาขึ้น อาจได้ประโยชน์ เพราะ roll over ใหม่ ดอกเบี้ยสูงขึ้น
แต่หาก เป็น nagative gap แบบนี้เสียประโยชน์ เพราะ roll over ดอกเบี้ยสูงไม่ได้

ถ้าหากดอกเบี้ยขาขึ้นจริง ประกันอาจต้องปรับ port พันธบัตรให้เป็นระยะสั้นมากขึ้น เพื่อประโยชน์ roll over อัตราดอกเบี้ยใหม่ที่สูงขึ้นครับ

ธนาคารก็เช่นกัน ต้องดู alco ว่า เป็น positive หรือ nagative gap กับอัตราดอกเบี้ย เช่น ปล่อยกู้ floating rate แต่ fixed rate เงินฝากไว้ หรือออก bond อัตราดอกเบี้ยคงที่ไว้ระยะยาว ถ้าดอกเบี้ยตลาดขึ้น 2 ขาเท่ากัน แบบนี้ธนาคารได้ประโยชน์ครับ ข้อมูลนี้ต้องถามธนาคารจึงทราบ
ศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ

http://thaiactuary.blogspot.com/2014/02 ... nt-11.html
มันจะทำให้เกิด Miss match ของ funding ซิพี่ Chaitorn หรือเปล่าครับ
ถ้าหากในช่วงดอกเบี้ยขาลงแบบนี้ ใจของประกันจริงๆต้องการให้ถือพันธบัตรเป็นแบบ เผื่อการค้า แต่เมื่อตลาดดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ใจของประกันต้องการเป็นเผื่อขาย
แต่ทว่า ผู้ควบคุมกฏเอง ก็ไม่ยอมให้ทำแบบนั้น เพื่อถ้าหากแก้ไขเผื่อค้าเป็นเผื่อขาย ไม่ให้นำกลับมาตามระยะเวลา (ถ้าจำไม่ผิด 3 ปี)
แล้ว ยังมีตัวพันธบัตรที่นำไปวางไว้เป็นหลักประกันที่ คปภ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทเพิ่มเติมกว่าแต่ก่อนด้วย

อีกอย่างถ้าดอกเบี้ยขาขึ้น ประชาชนส่วนใจซื้อประกันน้อยลง
เพราะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าประกัน
ในช่วงเวลานั้นๆ ด้วยอีกประเด็นหนึ่ง

แต่จริงๆๆ ประกัน ก็ปรับ Port อยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เนื่องจาก มีเงินไหลเข้าและออก
ตามช่วงระยะเวลา อยู่แล้ว จึงไม่น่ามีกังวลมากมายอะไร
ถ้าใครผ่านช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมา ถึงวิกฤติ แฮมเบอร์เกอร์ ก็จะรู้ว่า ช่วงนั้นบริษัทประกันชีวิตที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็มีกำไรให้เห็น ทั้งทีดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น

อีกอย่างตอนนี้มีเครื่องมือในการทำ เฮดจิ้ง แล้วด้วย ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า ทำ เฮดจิ้งจริงๆ ไม่ใช่เกร็งกำไร ก็ช่วยได้มากโข และ ที่สำคัญสามารถเอาเงินลงทุนไปลงทุนที่ต่างประเทศได้อีกต่างหาก
:)
Mismatch เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ ปกติ ธนาคารและ ประกันชีวิตเกือบทุกแห่ง Mismatch อยู่แล้วครับ

แต่เรากำลังวิเคราะห์สถานการณ์เฉพาะการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยที่จะกระทบอย่างไร

ในสถานการณ์นี้จึงเป็นการวิเคราะห์ความเสี่ยงของเรื่องอัตราดอกเบี้ยขึ้นลง จะส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานอย่างไร และเรามีวิธีการบริหารอย่างไรครับ

เอาตัวอย่างมาเลยก็แล้วกันครับ
วัตถุประสงค์หลักของ ALM คือการจัดการความเสี่ยงที่เกิดจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ยจากการลงทุน ความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากมูลค่าของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์หรือหนี้สินนั้นจะเปลี่ยนไปเมื่อดอกเบี้ยที่ใช้ในการคำนวณมูลค่านั้นๆ ถูกเปลี่ยน กล่าวคือ “มูลค่าจะลดลงไปเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และในทางกลับกัน มูลค่าจะสูงขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยถูกลดต่ำลงมา”



ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าของสินทรัพย์หรือหนี้สิน ต่างก็หนีไม่พ้นสัจธรรมของมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงไปจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย



เราลองนึกตัวอย่างจากการซื้อพันธบัตรเก็บเอาไว้ ต่อมาวันหนึ่งดอกเบี้ยในตลาดเกิดสูงขึ้นทำให้มีคนแห่ไปซื้อพันธบัตรที่ออกใหม่ซึ่งก็ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นด้วย ทีนี้พันธบัตรที่ซื้อเก็บเอาไว้ตอนแรกก็จะขายไม่ค่อยได้ราคา จนทำให้ต้องตัดราคาขายลงไปจึงจะทำให้ขายพันธบัตรตัวเก่าไปได้ นั่นก็หมายความว่า “มูลค่าของพันธบัตรที่เคยซื้อเก็บไว้ได้ลดลงเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น”





เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง


ทีนี้เมื่อเวลาที่อัตราดอกเบี้ยต่ำลงก็หมายความว่ามูลค่าของสินทรัพย์และหนี้สินต่างก็สูงขึ้น แต่จะสูงขึ้นเท่าไรนั้นต่างก็มีวิธีคำนวณที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแน่นอนว่ามูลค่าของทั้งสินทรัพย์และหนี้สินคงจะไม่ได้มีค่าสูงขึ้นมาเท่ากันแน่ๆ

1. ถ้ามูลค่าของทางฝั่งสินทรัพย์มีการแกว่งสูงขึ้นมามากกว่ามูลค่าที่แกว่งขึ้นมาของทางฝั่งหนี้สินก็ดีไป

2. แต่ถ้ามูลค่าของทางฝั่งหนี้สินมีการแกว่งสูงขึ้นมามากกว่ามูลค่าที่สูงขึ้นของทางฝั่งสินทรัพย์ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายกับผลประกอบการได้



เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

เมื่อเวลาที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นก็หมายความว่ามูลค่าของสินทรัพย์และหนี้สินต่างก็ต่ำลง ซึ่งแน่นอนว่ามูลค่าของทั้งทางฝั่งสินทรัพย์และหนี้สินคงจะไม่ได้มีค่าลดลงมาเท่ากันแน่ๆ

1. ถ้ามูลค่าของทางฝั่งสินทรัพย์มีการแกว่งลงมามากกว่ามูลค่าที่แกว่งลงมาของทางฝั่งหนี้สินก็จะทำให้เกิดความเสียหายกับผลประกอบการได้

2. แต่ถ้ามูลค่าของทางฝั่งหนี้สินมีการแกว่งลงมามากกว่ามูลค่าที่แกว่งลงมาของทางฝั่งสินทรัพย์ก็แปลว่าเกิดส้มหล่นทำให้เราได้กำไรไป



จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำ ALM ก็คือการจัดการความเสี่ยงที่เรียกว่า Interest rate risk หรือความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยให้ได้ ซึ่งการจะจัดการได้นั้นก็จำเป็นจะต้องอาศัยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทและปัจจัยแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างไร แนวทางในการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ควรจะสื่อสารไปถึงผู้บริหารให้รับทราบเพื่อรองรับสถานการณ์ในวันที่เลวร้ายได้



Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 10

โพสต์

บอกเป็นโครงสร้าง หรือ พวก model ธุรกิจ น่าจะเห็นภาพชัดกว่านะครับ

ถ้าบริษัทเป็นพวกเงินสดล้นบริษัท มีเงินฝากเยอะ (อาจจะเก็บไว้ รอการลงทุน) พวกนี้ได้ประโยชน์
แต่ถ้าเป็นบริษัทที่กู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัว พวกนี้เสียประโยชน์

ธุรกิจการเงิน ที่ต้นทุนเงินฝาก ที่ยังไม่ได้ล็อคไว้ เสียประโยชน์ แต่ถ้าออก product ล็อดดอกเบี้ยไว้ ก็ไม่เสียประโยชน์ เช่นออกหุ้นกู้ชนิดต่างๆไว้ (รวมถึงบริษัททั่วไปด้วย)
ส่วนธุรกิจที่ปล่อยกู้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือ มีโครงสร้างสินเชื่อดอกเบี้ยลอยตัวเยอะๆได้ประโยชน์ แต่ถ้าเป็นสินเชื่อ ที่ล็อคดอกเบี้ยก็ไม่ได้ประโยชน์ เช่นพวกกู้ซื้อรถ
eddyvor
Verified User
โพสต์: 16
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 11

โพสต์

TTW คับ อัตราการปรับค่าน้ำประจำปีใช้ อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวคูณคำนวณค่าน้ำปีถัดไป ถ้าสูงมากค่าน้ำสูงขึ้น :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 12

โพสต์

พวกค้าปลีกก็ได้นะครับ cpall hmpro bigc makro
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายมานะ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1167
ผู้ติดตาม: 1

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 13

โพสต์

PRO_BABY เขียน:พวกค้าปลีกก็ได้นะครับ cpall hmpro bigc makro
ได้ประโยชน์ยังไงบ้างเหรอครับคุณ PRO_BABY

เท่าที่พอนึกออกคือ เพราะลักษณะธุรกิจจะมี cash cycle ติดลบ + ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมักจะมาพร้อมเศรษฐกิจขาขึ้น ค้าปลีกเลยน่าจะดีหรือเปล่าครับ

แบบนี้หุ้นกลุ่มภัตราคาร ที่มี cash cycle ติดลบ และผันผวนตามเศรษฐกิจเล็กน้อย ก็น่าจะดีด้วยหรือเปล่าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
PRO_BABY
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1584
ผู้ติดตาม: 0

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 14

โพสต์

นายมานะ เขียน:
PRO_BABY เขียน:พวกค้าปลีกก็ได้นะครับ cpall hmpro bigc makro
ได้ประโยชน์ยังไงบ้างเหรอครับคุณ PRO_BABY

เท่าที่พอนึกออกคือ เพราะลักษณะธุรกิจจะมี cash cycle ติดลบ + ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมักจะมาพร้อมเศรษฐกิจขาขึ้น ค้าปลีกเลยน่าจะดีหรือเปล่าครับ

แบบนี้หุ้นกลุ่มภัตราคาร ที่มี cash cycle ติดลบ และผันผวนตามเศรษฐกิจเล็กน้อย ก็น่าจะดีด้วยหรือเปล่าครับ
รายได้ตรงดอกเบี้ยรับ.ที่เพิ่มขึ้นครับ ^^
อีกอันคือดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นสัญญานของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นการบริโภคจับจ่ายใช้สอยน่าจะดี. กลุ่มนี้เขาสามารถบวกต้นทุนเข้ากับราคาขายได้ทั้งหมด ไม่กระทบเลยก็ว่าได้

ไม่รู้มั่วหรือเปล่าฮ่าา
--ผลของอนาคตเกิดจาก<====ปัจจุบัน ผลของปัจจุบันเกิดจาก<===อดีต
--ทุกอย่างเชื่อมโยง มีเหตุ====> มีผ
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายมานะ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1167
ผู้ติดตาม: 1

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ขอบคุณคุณ PRO_BABY และทุกๆ ท่านที่มาร่วมแชร์ครับ ^^
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

Re: อุตสาหกรรมหรือบริษัทอะไรได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นบ้าง

โพสต์ที่ 16

โพสต์

คราวที่ดอกเบี้ยขึ้นรอบที่แล้วคือ ช่วงปี2010-2011 ดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.25% เป็น 3.5%
ช่วงที่ดอกเบี้ยคงที่รอบที่แล้วคือกลางปี 2009-กลางปี 2010 ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.25%
ณ เวลานี้ ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.% มาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2014 จนถึงปัจจุบัน(3 ส.ค. 2014) ระยะเวลาเกือบ 5 เดือน

ดังนั้นจงศึกษาดูอดีต ว่าช่วงเวลาที่ดังกล่าว เป็นเช่นไร
:)
:)
โพสต์โพสต์