AOT น่าสนใจมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 3
เป็นหุ้นตัวแรกที่ผมคิดจะซื้อติดพอร์ตไว้เมื่อเริ่มการลงทุนราวๆ 1 ปีที่แล้ว
แต่ตอนนั้นเกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ ทำให้ไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ ลองนึกย้อนกลับไป สิ่งที่ทำให้หยุดคือ
1 เป็นธุรกิจที่รัฐอุ้มชู จะไปฟันกำไรมากๆคงไม่ได้ เช่นค่าภาษีสนามบิน
2 เป็นธุรกิจที่ลงทุนสูงมากในแต่ละครั้ง หากต้องการเพิ่มกำไร
ประมาณนี้
.
.
.
.
.
.
แต่หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ ปีกว่าๆ ผมคิดว่า
1 สุวรรณภูมิ คงเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว อีกนานแสนนาน AOT จึงจะลงทุนใหญ่แบบนี้อีก
2 โลว์คอสต์แอร์ไลน์โผล่เป็นดอกเห็ด การใช้งานน่าจะมีมากขึ้น ค่าเช่ารันเวย์น่าจะสูงขึ้น
3 อีกไม่นานการท่องเที่ยวเมืองไทยจะฟื้นตัว และก้าวกระโดดต่อไป
อืม ชักน่าสนแล้วสิ
แต่ตอนนั้นเกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ ทำให้ไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ ลองนึกย้อนกลับไป สิ่งที่ทำให้หยุดคือ
1 เป็นธุรกิจที่รัฐอุ้มชู จะไปฟันกำไรมากๆคงไม่ได้ เช่นค่าภาษีสนามบิน
2 เป็นธุรกิจที่ลงทุนสูงมากในแต่ละครั้ง หากต้องการเพิ่มกำไร
ประมาณนี้
.
.
.
.
.
.
แต่หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ ปีกว่าๆ ผมคิดว่า
1 สุวรรณภูมิ คงเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว อีกนานแสนนาน AOT จึงจะลงทุนใหญ่แบบนี้อีก
2 โลว์คอสต์แอร์ไลน์โผล่เป็นดอกเห็ด การใช้งานน่าจะมีมากขึ้น ค่าเช่ารันเวย์น่าจะสูงขึ้น
3 อีกไม่นานการท่องเที่ยวเมืองไทยจะฟื้นตัว และก้าวกระโดดต่อไป
อืม ชักน่าสนแล้วสิ
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 4
Belffet เขียน:เป็นหุ้นตัวแรกที่ผมคิดจะซื้อติดพอร์ตไว้เมื่อเริ่มการลงทุนราวๆ 1 ปีที่แล้ว
แต่ตอนนั้นเกิดอะไรดลใจก็ไม่รู้ ทำให้ไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ ลองนึกย้อนกลับไป สิ่งที่ทำให้หยุดคือ
1 เป็นธุรกิจที่รัฐอุ้มชู จะไปฟันกำไรมากๆคงไม่ได้ เช่นค่าภาษีสนามบิน
2 เป็นธุรกิจที่ลงทุนสูงมากในแต่ละครั้ง หากต้องการเพิ่มกำไร
ประมาณนี้
.
.
.
.
.
.
แต่หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ ปีกว่าๆ ผมคิดว่า
1 สุวรรณภูมิ คงเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายแล้ว อีกนานแสนนาน AOT จึงจะลงทุนใหญ่แบบนี้อีก
2 โลว์คอสต์แอร์ไลน์โผล่เป็นดอกเห็ด การใช้งานน่าจะมีมากขึ้น ค่าเช่ารันเวย์น่าจะสูงขึ้น
3 อีกไม่นานการท่องเที่ยวเมืองไทยจะฟื้นตัว และก้าวกระโดดต่อไป
อืม ชักน่าสนแล้วสิ
ในการเกิดขึ้นของ สุวรรณภูมิ ทำให้ผมคิดว่างานนี้ BAFS จะกลายเป็นหุ้นที่โดดเด่นไม่แพ้กันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 6
นอกจากค่าเสื่อมแล้ว ผมเคยแสดงความเห็น ในกระทู้นึง เนื่องจากมีเพื่อนที่ทำงานในโครงการนี้ เกือบ สิบคน ทุกคนฟันธงว่า ค่าบำรุงรักษา อานแน่นอนโอ@ เขียน:แต่ผมว่าค่าเสื่อมของสุวรรณภูมิจะสร้างปัญหามหาศาล
ตัวนี้ผมว่าเป็นตัวที่จะทอน กำไร ไปเยอะเลย ดัน ทำเป็นกระจกทั้งหลัง โอกาศรั่ว สุงมากครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 7
ไม่เห็นด้วย
ค่าเสื่อมเป็นโอกาสในการรักษาเงินสด ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าไม่มีค่าเสื่อม ... มีปัญหาครับ ..ภาษีบานเลย
พี่มัฟว่าไงคับ เรื่องบำรุงรักษา
ค่าเสื่อมเป็นโอกาสในการรักษาเงินสด ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าไม่มีค่าเสื่อม ... มีปัญหาครับ ..ภาษีบานเลย
พี่มัฟว่าไงคับ เรื่องบำรุงรักษา
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 9
ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า Aot ใช้วิธีตัดค่าเสื่อมแบบไหน และกำหนดระยะเวลาไว้กี่ปี จริงๆตัวนี้ มันเป็นกระแสเงินสดแฝง ซะมากกว่าjaychou เขียน:ไม่เห็นด้วย
ค่าเสื่อมเป็นโอกาสในการรักษาเงินสด ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าไม่มีค่าเสื่อม ... มีปัญหาครับ ..ภาษีบานเลย
พี่มัฟว่าไงคับ เรื่องบำรุงรักษา
มา ดูเรื่องค่าบำรุงรักษาดีกว่าที่คาดว่าจะเยอะขึ้นทุกปีทุกปีผมมองว่า มันจะทำให้กำไรหายไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น เท่าที่เคยคุยกับเพื่อนครับเพื่อนบอกว่า
1. เรื่องหลังคา เนื่องจากเป็นกระจกทั้งหมด แม้จะมีกันสาดอยู่ข้างบน ซีลไว้ดีขนาดไหน ตอนปีที่แล้วฝนตกใหญ่ น้ำท่วมลงมา โดนคอมพิวเตอร์ข้างล่าง(ขนาดยังไม่เปิดนะครับ) ไม่รู้เป็นข่าวหรือเปล่า ไม่นับการลดสเปก กระจกอีก
2. สืบเนื่องจากข้อแรก ทำให้ระบบปรับอากาศทำงานหนัก แม้จะฝังน้ำเย็นในพื้น ทำให้เย็นจากพื้นประมาณ 2-3 เมตร แต่ว่า อากาศเมืองไทย รู้ๆกันอยู่ อาจจะมีการเพิ่มระบบปรับอากาศทีหลัง (ผมเดาเอาจากการไปมาเลเซียเห็นสนามบินเค้าต้องเพิ่มระบบปรับอากาศทีหลังอีก)
ยังไม่นับเรื่องผ้าใบที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา (ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับตัวนี้)
3. เรื่อง ลดสเปกโครงสร้างหลายอย่าง ที่เป็นข่าวลือกัน ผมถามเพื่อนในโครงการ เค้าก็ไม่ตอบอะไร คงรู้ๆกันอยู่ พูดไม่ออก มันไม่แสดงผลใน ระยะ ปีสองปี แต่สัก ห้าปี คงเห็นผลว่าเรื่องวัศดุไม่ได้มาตรฐานแต่แรก คงต้องเอาเงินไปถมส่วนนี้อีกเท่าไหร่อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ
นึกถึงสนามบิน ชา เดอ โกล ของฝรั่งเศภ ที่เคยถล่มลงมา ช่วง คองคอร์ด (เค้าบอกว่าก็ลดสเปก กับออกแบบผิดพลาด)ผมล่าเสียวว่า พี่ไทยของเรา มันจะหนักกว่านะ เพราะรูปทรงเหมือนกันเป๊ะเลย
คร่าวๆครับ ตอนนี้ ก็ไม่ได้เจอเพื่อน คงต้องนัดเลี้ยงกันอีกที อาจจะถามมาให้ได้อีกครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 10
ทุกวันนี้ AOT มีรายได้ปีละ 14000 กำไร 7000
การย้ายไปสนามบินใหม่ไม่ได้ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารมันเคยเพิ่มขึ้นทีละนิดยังไง มันก็จะเพิ่มขึ้นทีละนิดอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าสนามบินหรูขึ้นแล้วคนจะเดินทางมากขึ้นทันที การสร้างสนามบินต้องออกแบบสำหรับการเติบโตในอนาคตล่วงหน้าไว้ 30 ปีเป็นอย่างน้อย ดังนั้นลูกค้าจะยังไม่ได้เพิ่มตามแบบก้าวกระโดด ถ้า AOT แก้ปัญหาตรงจุดนี้ด้วยการขึ้นราคาทีเดียว 50% ไปเลย ก็คงมีกำไรเงินสดเพิ่มขึ้นได้เป็นปีละ 10000 ล้าน (ค่าเสื่อมดอนเมืองไม่ต้องคิดเพราะถือว่าน้อยแล้ว)
ลงทุน 120000 ล้าน ผลตอบแทนปีละ 10000 ล้าน คิดเป็น Payback Period เท่ากับ 12 ปี ด้วยสัญชาตญาณของพ่อค้าก็รู้ว่า ไม่ใช่การลงทุนที่น่าสนใจเลย ยังไม่ต้องดูบัญชีเลยด้วยซ้ำ
ต้นเหตุของปัญหาคือราคาค่าก่อสร้างที่สูงผิดปกติ
(ไม่รู้ทำไม เราอคติกับตัวนี้มากเป็นพิเศษ ไปดีกว่า แหะๆ)
การย้ายไปสนามบินใหม่ไม่ได้ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารมันเคยเพิ่มขึ้นทีละนิดยังไง มันก็จะเพิ่มขึ้นทีละนิดอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าสนามบินหรูขึ้นแล้วคนจะเดินทางมากขึ้นทันที การสร้างสนามบินต้องออกแบบสำหรับการเติบโตในอนาคตล่วงหน้าไว้ 30 ปีเป็นอย่างน้อย ดังนั้นลูกค้าจะยังไม่ได้เพิ่มตามแบบก้าวกระโดด ถ้า AOT แก้ปัญหาตรงจุดนี้ด้วยการขึ้นราคาทีเดียว 50% ไปเลย ก็คงมีกำไรเงินสดเพิ่มขึ้นได้เป็นปีละ 10000 ล้าน (ค่าเสื่อมดอนเมืองไม่ต้องคิดเพราะถือว่าน้อยแล้ว)
ลงทุน 120000 ล้าน ผลตอบแทนปีละ 10000 ล้าน คิดเป็น Payback Period เท่ากับ 12 ปี ด้วยสัญชาตญาณของพ่อค้าก็รู้ว่า ไม่ใช่การลงทุนที่น่าสนใจเลย ยังไม่ต้องดูบัญชีเลยด้วยซ้ำ
ต้นเหตุของปัญหาคือราคาค่าก่อสร้างที่สูงผิดปกติ
(ไม่รู้ทำไม เราอคติกับตัวนี้มากเป็นพิเศษ ไปดีกว่า แหะๆ)
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1063
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 11
ประเด็นที่สุวรรณภูมิเปิดแล้วจะทำให้บางธุรกิจได้ผลดีไป
ด้วยน่าสนใจกว่าตัวหุ้น aot ไหมครับ เหมือนตอนคนตื่น
ขุดทองแล้วทำให้ลีวายส์ขายดี คล้ายๆว่าเคยอ่านจาก
one up on wall street ว่าถ้าคิดถึงประโยชน์เชิงกระทบ
ได้โดยที่คนอื่นยังคิดไม่ถึงเราจะได้ประโยชน์ที่สูงกว่า
ครับ
ด้วยน่าสนใจกว่าตัวหุ้น aot ไหมครับ เหมือนตอนคนตื่น
ขุดทองแล้วทำให้ลีวายส์ขายดี คล้ายๆว่าเคยอ่านจาก
one up on wall street ว่าถ้าคิดถึงประโยชน์เชิงกระทบ
ได้โดยที่คนอื่นยังคิดไม่ถึงเราจะได้ประโยชน์ที่สูงกว่า
ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 12
มาเพิ่มประเด็นหน่อย
มีใครถามMDของAOTในที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือเปล่า
เมื่อสนามบินเสร็จแล้ว เครื่องบินที่ไปต่างประเทศนั้นต้องไปลงที่สนามบินไหน
แล้วถ้าไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือหนองงูเห่าแล้ว
ท่านจะต้องจัดการเรื่องคนอย่างไง
และท่านต้องจัดการเรื่องโครงสร้างขององค์กรหรือเปล่า
เป็นเรื่องที่น่าคิด
ไม่ใช่แต่เรื่องที่มีของใหม่อย่างเดียว
งานนี้ถ้าเกิดการreorganizeแล้ว ไม่ดีขึ้น งานนี้จะเป็นอย่างไงล่ะ
มาฝากให้คิดกัน
ปล เรื่องคนก็สำคัญว่า คนของเขานั้นพอใจที่จะย้ายกันหรือเปล่า
มีใครถามMDของAOTในที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือเปล่า
เมื่อสนามบินเสร็จแล้ว เครื่องบินที่ไปต่างประเทศนั้นต้องไปลงที่สนามบินไหน
แล้วถ้าไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือหนองงูเห่าแล้ว
ท่านจะต้องจัดการเรื่องคนอย่างไง
และท่านต้องจัดการเรื่องโครงสร้างขององค์กรหรือเปล่า
เป็นเรื่องที่น่าคิด
ไม่ใช่แต่เรื่องที่มีของใหม่อย่างเดียว
งานนี้ถ้าเกิดการreorganizeแล้ว ไม่ดีขึ้น งานนี้จะเป็นอย่างไงล่ะ
มาฝากให้คิดกัน
ปล เรื่องคนก็สำคัญว่า คนของเขานั้นพอใจที่จะย้ายกันหรือเปล่า
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 13
อิอิhansome เขียน:ประเด็นที่สุวรรณภูมิเปิดแล้วจะทำให้บางธุรกิจได้ผลดีไป
ด้วยน่าสนใจกว่าตัวหุ้น aot ไหมครับ เหมือนตอนคนตื่น
ขุดทองแล้วทำให้ลีวายส์ขายดี คล้ายๆว่าเคยอ่านจาก
one up on wall street ว่าถ้าคิดถึงประโยชน์เชิงกระทบ
ได้โดยที่คนอื่นยังคิดไม่ถึงเราจะได้ประโยชน์ที่สูงกว่า
ครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 18
ค่าเสื่อม Bafs เริ่มคิด มิ.ย.นี้ครับ แต่เมื่อเปิดสุวรรณภูมิได้ ค่าบริการเพิ่มจาก 2.58 เซนต์ เป็น 5 เซนต์ ต่อ แกลลอนกำลังจะมาบอกเหมือนกันให้ระวังเรื่องดอกเบี้ย
ปีนี้ต้องชำระ125ล้าน ลองเอา125ล้านลบกำไรดูก่อนว่าเหลือแล้ว
ยังพอใจอยู่รึเปล่า
นอกจากนี้ หลุมจอดเพิ่มจากดอนเมืองซึ่งมี 96 หลุม เป็น 125 หลุมจอด คำนวนความน่าลงทุนกันเองครับ ปีนี้อาจกังวล ปีหน้าดูดีแน่
-
- Verified User
- โพสต์: 140
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 19
มาจองipoคับCK เขียน:ถ้าสนใจ AOT ต้องซื้อ TAGS ครับ (ถ้าหาซื้อได้)
TAGS นี่สบายครับ AOT ลงทุนเป็นแสนล้าน สร้างสนามบิน
สร้างเสร็จ ต้องเสียเงินจ้าง TAGS บริหารผูกขาด 10 ปี
กำไรก็ต้องแบ่งให้ TAGS อีก
ไม่รู้คุณเยาวภาจะเอาเข้าตลาดไหมนะ
รอมันเปิดก่อนก้อยังทันหน่า ที่นั่นฝนตกน้ำยังรั่วอยู่เลย...
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 20
เห็นว่า King Power แพ้การประมูลให้กับ TAGS ไปสำหรับสุวรรณภูมิ คงต้องม้วนเสื่อแล้วคราวนี้ TAGS คงมีคุณสมบัติเหนือกว่าจริงๆless is more เขียน: มาจองipoคับ
รอมันเปิดก่อนก้อยังทันหน่า ที่นั่นฝนตกน้ำยังรั่วอยู่เลย...
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 21
เห็นว่า TAGS มีปัญหาเรื่องสัญญาเหมือนกันนีครับ อาจจะเกิดการฟ้องร้องว่า เล่นเส้น แต่ king Power ก็แบ็กอัพดีนะ เป็นเพื่อนกับ ห้อย ร้อย ยี่สิบ เห็นว่าตอน นั้น บังคับให้พนักงานเขียนโปสการ์ดส่งให้ทักษิณ เป็นการบ้านด้วย :lol:สุมาอี้ เขียน: เห็นว่า King Power แพ้การประมูลให้กับ TAGS ไปสำหรับสุวรรณภูมิ คงต้องม้วนเสื่อแล้วคราวนี้ TAGS คงมีคุณสมบัติเหนือกว่าจริงๆ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 25
แค่พี่ Jeng โพสต์เท่านั้น ทั้งตลาดก็รีบเข้าไปไล่เก็บทันที จนติด Top Volume เลย
พี่ Jeng เรานี่ไม่ธรรมดาจริงๆ :D
พี่ Jeng เรานี่ไม่ธรรมดาจริงๆ :D
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Doraemon
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 28
ที่พี่ว่ามามันก็ถูกนะครับ แต่ผมสงสัยว่าถ้ามีหุ้นสองตัว สมมติว่า A(captial intensive) กับ B(assets light) ทั้งสองตัวมีอัตราการเติบโตของ EPS เท่ากัน เอาเป็นว่าซัก 10% ต่อปี อย่างนี้แล้วถ้าผมซื้อหุ้นทั้งสองตัวนี้ถือเป็นเวลา 1 ปี ก็จะได้ผลตอบแทน 10% เท่ากันถูกต้องหรือไม่(ให้ P/E คงที่ตลอดตั้งแต่วันที่ซื้อ) เพราะต้นทุนของเราคือราคาหุ้นที่จ่ายไปสุมาอี้ เขียน:ลงทุน 120000 ล้าน ผลตอบแทนปีละ 10000 ล้าน คิดเป็น Payback Period เท่ากับ 12 ปี ด้วยสัญชาตญาณของพ่อค้าก็รู้ว่า ไม่ใช่การลงทุนที่น่าสนใจเลย ยังไม่ต้องดูบัญชีเลยด้วยซ้ำ
รู้สึกตะหงิดๆ เหมือนกันว่า assumption ของเรามัน realistic หรือเปล่า ยังไงช่วยชี้แนะด้วยครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 29
ไม่เท่าครับ เพราะ E เท่ากัน แต่ FCF จะไม่เท่ากัน หุ้นที่มี operating asset มากกว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าในการรักษาสภาพของ asset ให้คงอยู่ในสภาพดีเท่าเดิมในระยะยาว ตลอดจนใช้เงินทุนมากกว่าที่อัตราเติบโตเท่ากัน ดังนั้น E เท่ากัน แต่ CAPEX สูงกว่า จะทำให้ FCF ต่ำกว่า Value จะต่ำกว่าครับDoraemon เขียน: ที่พี่ว่ามามันก็ถูกนะครับ แต่ผมสงสัยว่าถ้ามีหุ้นสองตัว สมมติว่า A(captial intensive) กับ B(assets light) ทั้งสองตัวมีอัตราการเติบโตของ EPS เท่ากัน เอาเป็นว่าซัก 10% ต่อปี อย่างนี้แล้วถ้าผมซื้อหุ้นทั้งสองตัวนี้ถือเป็นเวลา 1 ปี ก็จะได้ผลตอบแทน 10% เท่ากันถูกต้องหรือไม่(ให้ P/E คงที่ตลอดตั้งแต่วันที่ซื้อ) เพราะต้นทุนของเราคือราคาหุ้นที่จ่ายไป
รู้สึกตะหงิดๆ เหมือนกันว่า assumption ของเรามัน realistic หรือเปล่า ยังไงช่วยชี้แนะด้วยครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Doraemon
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
AOT น่าสนใจมาก
โพสต์ที่ 30
เข้าใจแล้ว ขอบคุณครับสุมาอี้ เขียน:ไม่เท่าครับ เพราะ E เท่ากัน แต่ FCF จะไม่เท่ากัน หุ้นที่มี operating asset มากกว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าในการรักษาสภาพของ asset ให้คงอยู่ในสภาพดีเท่าเดิมในระยะยาว ตลอดจนใช้เงินทุนมากกว่าที่อัตราเติบโตเท่ากัน ดังนั้น E เท่ากัน แต่ CAPEX สูงกว่า จะทำให้ FCF ต่ำกว่า Value จะต่ำกว่าครับ
อีกนิดนึง นี่เป็นผลจาก Valuation จาก Model ที่แตกต่างกันรึเปล่าครับ ของผมคิดว่า Price จะ reflect จาก ratio (Relative Valuation) ส่วนของพี่คิดว่า Price ควรจะ reflect จาก FCF (DCF Valuation) ทั้งนี้ทั้งนั้นในความเป็นจริงเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตลาดจะเห็นว่าราคาควรเป็นเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าการใช้ DCF ดูจะเป็นวิธีที่เห็นคุณค่าจริงๆ ของบริษัทมากกว่า