เถ้าแก่น้อย

[B_BAT]

“เถ้าแก่น้อย” เตรียมขายไอพีโอ 80 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
27 เมษายน 2558 11:39 น. (แก้ไขล่าสุด 27 เมษายน 2558 13:19 น.)

“เถ้าแก่น้อย” ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายไอพีโอ 80 ล้านหุ้น เล็งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมี บล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ได้ยื่น Filing version แรก เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 เนื่องจากบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านหุ้น โดยเป็นหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ เสนอขาย 45 ล้านหุ้น และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเสนอขาย 35 ล้านหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เป็นปรึกษาทางการเงิน

โดยวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ (สวนอุตสาหกรรมโรจนะ) ลงทุนซื้อเครื่องจักรในสายการผลิตใหม่ และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. (SET)

บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูป ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ เอง โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ แบ่งตามกรรมวิธีการผลิตได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ สาหร่ายทอด สาหร่ายเทมปุระ สาหร่ายอบ และสาหร่ายย่าง

ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดปี 2557 มีสินทรัพย์รวม 1,276.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 924.12 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 352.58 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 2,726.30 ล้านบาท กำไรสุทธิ 198.58 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 300,000,000 บาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว จำนวน 255,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 255,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท ภายหลังจากการนำเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน จำนวน 80,000,000 หุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนเรียกชำระแล้วเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่ากับ 300,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 29 ธ.ค.2557 ประกอบด้วย นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ถือหุ้น 115.50 ล้านหุ้น (45.29%) หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดการถือหุ้นลงเหลือ 91 ล้านหุ้น (30.33%) บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 90 ล้านหุ้น (35.29%) หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 30% ถือหุ้น 90 ล้านหุ้น

บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษี และเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น (ถ้ามี)

http://www.manager.co.th/iBizChannel/Vi ... 0000047850

[jonny11]

ถ้าเซเว่นทำแข่งจะทำไงครับช่องทางการจำหน่ายอื่นๆแทบไม่มี

[nighthawks]

ถ้าเซเว่นทำแข่งจะทำไงครับช่องทางการจำหน่ายอื่นๆแทบไม่มี

จะมีคนจำนวนมากมั้ยครับที่จะหันไปกิน สาหร่ายทอดตรา 7-11 ?

[mykendo]

ถ้าเซเว่นทำแข่งจะทำไงครับช่องทางการจำหน่ายอื่นๆแทบไม่มี

จะมีคนจำนวนมากมั้ยครับที่จะหันไปกิน สาหร่ายทอดตรา 7-11 ?

น่าจะยากนะครับสำหรับจะทำสาหร่ายมาแข่ง ตอนนี้เถ้าแก่น้อย กลายเป็นชื่อแทนคำว่าสาหร่ายไปแล้ว เหมือนสมัยก่อนเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บ เรียกที่ขัดล้างจานว่า สก็อตไบท์ เจ้าอื่นจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดน่าจะยากหน่อยนะ เพียงแต่จะมี Growth เพิ่มขึ้นแค่ไหนในอนาคต

[untrataro25]

ปัญหานึงของสาหร่ายห่อ คือผมว่ามันแพงอ่ะครับ ห่อนึงหลายสิบบาทแต่ได้นิดเดียวเอง
คู่แข่งทางตรงและทางอ้อมน่าจะเยอะ npm ไม่สูง เข้าใจว่าน่าจะหมดไปกับค่าการตลาดเยอะ
ตัวสินค้าใหม่ที่ออกมาป้อปคอร์น ก็เหมือนไม่เปรี้ยง ขนมห่อในเซเว่นที่ขายดีน่าจะเป็นพวกมันฝรั่งทอดอ่ะครับ
แต่บริษัทคงมีโปรดักใหม่ๆออกมาเรื่อยๆมั้งครับ

[vim]

ถ้าเซเว่นทำแข่งจะทำไงครับช่องทางการจำหน่ายอื่นๆแทบไม่มี

จะมีคนจำนวนมากมั้ยครับที่จะหันไปกิน สาหร่ายทอดตรา 7-11 ?

น่าจะยากนะครับสำหรับจะทำสาหร่ายมาแข่ง ตอนนี้เถ้าแก่น้อย กลายเป็นชื่อแทนคำว่าสาหร่ายไปแล้ว เหมือนสมัยก่อนเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บ เรียกที่ขัดล้างจานว่า สก็อตไบท์ เจ้าอื่นจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดน่าจะยากหน่อยนะ เพียงแต่จะมี Growth เพิ่มขึ้นแค่ไหนในอนาคต

จริงๆเจ้าอื่นที่น่ากลัวก็มีนะครับ เช่นมาชิตะ รสชาติเหมือนเถ้าแก่น้อยเลย แต่ราคาถูกกว่ามาก ผมคิดว่ายิ่งนานไปสินค้าพวกนี้มันจะเป็น commodity มากขึ้นหรือเปล่า คือจากเดิมที่มาร์จินสูง คนเก่งๆเลยหันมาทำแข่งกันเยอะ ถึงจุดนึงผู้ซื้ออาจไม่สนยี่ห้อ มาร์จินอาจลดลงเรื่อยๆ

[thekiller]

ถ้าเซเว่นทำแข่งจะทำไงครับช่องทางการจำหน่ายอื่นๆแทบไม่มี

จะมีคนจำนวนมากมั้ยครับที่จะหันไปกิน สาหร่ายทอดตรา 7-11 ?

น่าจะยากนะครับสำหรับจะทำสาหร่ายมาแข่ง ตอนนี้เถ้าแก่น้อย กลายเป็นชื่อแทนคำว่าสาหร่ายไปแล้ว เหมือนสมัยก่อนเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บ เรียกที่ขัดล้างจานว่า สก็อตไบท์ เจ้าอื่นจะแย่งส่วนแบ่งการตลาดน่าจะยากหน่อยนะ เพียงแต่จะมี Growth เพิ่มขึ้นแค่ไหนในอนาคต

ผมว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีวันเสื่อมครับ หากไม่พัฒนา หรือพัฒนาสู้คนอื่นไม่ได้ พัฒนาช้า

ปัจจุบัน มีหลายคนยังพูดติดปากว่าไปซื้อแฟบ แต่หยิบ บรีส บอกว่าไปซีร็อค แต่เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อแคนน่อน บอกว่าซื้อสก็อตไบท์ แต่หยิบยี่ห้อมั่วๆจากร้านสิบบาท บอกว่ากินมาม่า แต่ซองเป็นไวไว อะไรแบบนี้อะครับ