ดำ เขียน:แปลว่าปัญหายอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่มีเงินแต่ใช้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินจะใช้ อย่างนั้นถูกต้องมั้ยครับ?
ยอดขายรถยนต์ในประเทศไม่ฟื้นเพราะ
1. ยอดขายรถยนต์ในปี 2555-2556 นั้น กวาดเอายอดของคนที่ต้องการรถยนต์มา 5 ปีเลย
เพราะ เงื่อนไขของโครงการคือถือครอง 5 ปี ไม่ขาย ไม่งั้นไม่ได้เงินภาษีสรรพามิตคืน
,เป็นบุคคลธรรมที่ไม่เคยซื้อรถยนต์เลย ,ราคารถุยนต์ไม่เกิน 1 ล้านบาท ,กระบอกสูบสำหรับเบนซินไม่เกิน 1,500 CC
,กระบอกสูบสำหรับกระบะ อันนี้จำไม่ได้ว่าเท่าไร
2. ตลาดรถยนต์ภายในประเทศนั้น ซื้อโดยใช้การเช่าซื้อ กับสถาบันการเงิน(ธนาคารพาณิชย์,สถานบันการเงินพวกลิสซิ่งต่างๆ) ดังนั้น ในปี 2555-2556 ยอดหนี้สินในเรื่องเช่าซื้อเพิ่มสูงขึ้น
3. ยอดหนี้สินครัวเรือนย้อนไปปี 2555-2556 ก็เพิ่มขึ้น จากนโยบายรถยนต์คันแรก ,บ้านหลังแรก ,กู้เพื่อซ่อมแซมบ้านจากมหาอุทกภัย
โดยทั่วไป การซื้อขายรถยนต์สำหรับผู้ที่มีรถยนต์อยู่แล้ว คือการขายรถยนต์คันที่มีอยู่ เป็นเงินดาว์นรถยนต์คันที่จะซื้อต่อไป เมื่อ ติดภาระในข้อ 1 มันก็ทำให้ไม่สามารถซื้อคันต่อไปได้ สำหรับการซื้อทดแทน นั้นเอง
ส่งที่ส่งออกมารถยนต์เพิ่มขึ้นในปี 2556-2557 นั้น สังเกตไหมว่าเป็นรถยนต์ประเภทกระบะ ,รถยนต์นั่ง
ซึ่งผมก็สงสัยว่า เป็นรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรกที่ประชาชนทิ้งใบจองหรือเปล่า เพราะช่วงนั้นมีข่าวว่า
ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไม่มีที่จอดรถสำหรับรอส่งมอบ
ถ้าหากใช่ตามที่ผมคิดคือ การระบายสต๊อกสินค้าที่ส่งไม่ได้ ไปยังประเทศอื่นๆ โดยบริษัทแม่เป็นตัวช่วยส่งผ่าน
เพื่อมิให้มีปัญหาเรื่อง Stock
เมื่อใดมีปัญหาเรื่อง Stock นั้นคือ เงินมันไปจมกับสินค้าคงเหลือ ซึ่งรถยนต์นั้นเป็นสินค้าคงเหลือที่เสื่อมสภาพในระยะ 2-3 ปี Model ที่ผลิตนั้นจะมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนให้ดีขึ้น (Minor Change หรือ major change) สิ่งที่ทำให้เกิด คือ ความต้องการของลูกค้า/การเปลี่ยนแปลงในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง เป็นหลัก