Tapakus เขียน:ยินดีครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจธุรกิจนี้
ความแตกต่างของโมเดลธุรกิจที่สำคัญระหว่าง AAV กับ NOK หลักๆ มีอยู่ 3 ข้อครับ
1) AAV เน้นซื้อเครื่องบิน NOK เน้นเช่าเครื่องบิน (ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม search google เกี่ยวกับ Operating/Financial Lease ได้รับ) ซึ่งทำให้เกิดข้อแตกต่างในผโมเดลการทำกำไรหลายอย่างครับ
- ใครเคยสังเกตุไม๊ครับว่า NOK ทำ productivity (ASK) ได้ถึง 50% ของ AAV ทั้งๆ ที่ equity น้อยกว่าตั้ง 5 เท่า .... ใช่ครับ ! เช่ามาบินใช้ทุนน้อยกว่า ทำให้โตได้ดีกว่า (ในช่วงที่ธุรกิจเติบผโตปกติ) ถ้าดูช่วง 2010-2013 NOK จะโตได้ไวกว่า AAV ครับ ... เอ้า ! งี้เช่าก็ดีดิ ... เปล่าครับข้อเสียเยอะเหมือนกัน ว่ากันต่อเลยนะครับ
- สำคัญเลยคือ เช่ามา cost per year จะแพงกว่าครับ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักเลยครับที่ cost per km ของ NOK สูงกว่าพอสมควร เพราะงั้น NOK ถึงต้องเลือกวาง position ตัวเองเป็น premium low cost ครับ ... ต้นทุนสูงกว่า ถ้าไปชนราคากันตรงๆ เท่ากับรอวันเจ๊งครับ !!! และด้วย cost ที่สูงกว่านี่เอง ทำให้ NOK เสียเปรียบมากในสถานการณ์ "price war" ... คงไม่ต้องถามนะครับว่าตอนนี้ในไทยเกิด price war อยู่รึเปล่า
-- เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจครับว่า NOK เจ็บหนักมากตั้งแต่ปี 2014Q2 ... Lion Air มาผโมเดลเดียวกับ AAV และกำลังซื้อ Market share
- อย่าๆ อย่ามองด้านลบมากไปครับ มามองด้านดีของ NOK model บ้าง .... เคยสงสัยไม๊ครับ AAV เข้าตลาดมาประกาศ "ไม่จ่ายปันผล 3 ปี" แต่ NOK เข้ามาประกาศ "จ่ายปันผลเยอะทุกปี" ... ใช่ครับ !!! เช่าเค้ามา cash flow ดีกว่า D/E น้อยกว่าครับ เลยมี cash มาจ่ายปันผล ยกเว้นตอนขาดทุนเละเทะแบบช่วงที่ผ่านมา
- สำคัญอีกข้อครับ ถ้าเกิดวิกฤตมา ใครมีโอกาสรอดมากกว่า??? คิดง่ายๆครับ เช่า มา ถ้าไม่มีคนบิน NOK เลิกเช่าได้ (แต่ชีวิตจริงไม่ได้เลิกได้ทันทีนะครับ มันมีความยาวของสัญญาระดับนึง อันนี้พยายามเขียนให้ง่าย) ทำให้มีช่องว่างเอาตัวรอดง่ายกว่า แต่แน่นอน ปัจจัยนี้ไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการเอาตัวรอดนะครับ
2) AAV เป็น Tranditional Low cost , NOK วางตัวเองเป็น Premium low cost สร้างความแตกต่างทางธุรกิจตามนี้ครับ
- AAV พึ่งพา Brand น้อยกว่า NOK มาก .... ทำไมคนถึงกลุ่มนึงถึงจะมาขึ้น NOK ได้หละ ทั้งๆ ที่ราคาสูงกว่า AAV กับ Lion ??? ลูกค้าทุกคนก็รู้ดีว่าราคาสูงกว่า ... Brand สำคัญมากครับสำหรับ NOK ชี้เป็นชี้ตายได้เลย
- ไม่ว่าจะ AAV หรือ NOK จะเสียค่าน้ำมันต่อกิโลไม่ต่างกัน // เพราะงั้นค่าใช้จ่ายส่วนน้ำมันเทียบเป็น % ของ AAV จะคิดเป็นประมาณ 45% ของ Total cost ในขณะที่ NOK ประมาณ 32% .... น้ำมันราคาลด ใครน่าจะได้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจมากกว่ากันหละ !!! แน่นอนครับ คำตอบคือ AAV
3) AAV มีสัดส่วนบินระหว่างประเทศสูงกว่ามาก สรา้งความแตกต่างหลายอย่างตามนี้ครับ
- ค่าเงินบาทอ่อนลง ... AAV ยิ้มกว้างครับ นักท่องเที่ยวเพิ่ม รายได้มีทั้งเป็นบาทและ USD ในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกัน เป็นการทำ Natural hedge ไปในตัว ... น้อง NOK หละ !? ซวยครับ !! ใช่ครับ อาจได้ประโยชน์บ้างจากนักท่องเที่ยวแต่ไม่มากเท่า AAV แต่ๆๆๆ รายได้เป็น THB รายจ่ายส่วนใหญ่เป็น USD เจ็บครับถ้าบาทอ่อน
- AAV utilize เครื่องได้ดีกว่าเพราะบินต่างประเทศบินตอนเช้าตรู่กับกลางคืนได้ ... ถ้า NOK ออก flight บินในประเทศเวลาแบบนั้นคงไม่มีใครบินครับ (เลยออกโปร early bird night own มาล่อ)
- ข้อดีของ NOK ในมุมนี้นัอยมากครับ ซึ่งเค้าก็รู้ตัว จัด Nokscoot ออกมา
เป็นไงกันบ้างครับ ข้อแตกต่างหลักๆ ... ไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่าทำไมตอนนี้ AAV ทำผลงานโดยรวมได้ดีกว่า NOK ปัจจัยค่อนข้างเทไปทาง AAV ครับ อุตสาหกรรมโตแบบหน่วงๆจนเกิด price war, บาทอ่อน, น้ำมันลดราคา ... ณ สถานการณ์ปัจจุบัน NOK เสียเปรียบมากครับ ยิ่งเจอ Lion ที่มาโมเดลเดียวกับ AAV อีก .... แต่ๆๆๆๆ อดีตมันสะท้อนไปในราคาหมดละครับ ราคา NOK ตกลงแรงกว่า AAV มากในช่วงที่ผ่านมา ... ในฐานะนักลงทุนเราต้องมองไปในอนาคต คำถามคืออีก 1-3 ปีสถานการณ์จะเป็นไงอะ ? ถ้า price war จบลง NOK จะกลับมา ? ราคาปัจจุบันมี MOS พอเพียงกับความเสี่ยง ? Price war in airline business จริงๆ จากสถิติมันจะจบภายใน 4-8 quarter ... แต่คำถามคือ price war รอบนี้จบจะมีรอบอื่นเกิดขึ้นมาซ้อนไม๊ !! ลองถามและตอบตัวเองกันดูนะครับ ... ^_____^