SUC Strike Back
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 32
ผมลองดูในหน้างบการเงิน ในหน้า"หมายเหตุประกอบงบการเงินระหว่างกาล"
จะเห็นว่าในQ1-49นั้นมีกำไร 451.9 ล้านบาท เทียบกับQ1-48 48.3 ล้านบาท ในข้อที่ 11.การเสนอข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน เมื่อดูตัวเลขต่างๆแล้ว จะเห็นว่าที่กำไรพุ่งขึ้นนั้นมาจากหมวดของ กลุ่มการลงทุนและอื่นๆ จากปี48 จาก 62 ล้านบาท มาเป็น 458 ล้านบาท(ก่อนหักดอกเบี้ยกับภาษี) ซึ่งระบุว่าเป็นกำไรจากการดำเนินงาน แต่ในหมวดอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก...ผมอ่านชื่อบริษัทฯย่อยไม่ไหวครับตัวเล็กมาก จึงไม่รู้ว่ากำไรมาจากบริษัทอะไร และผมอ่านดูยิ่งงงครับว่า ในช่องที่รวมรายได้จากช่องของการลงทุนและอื่นๆ มีอยู่ 105 ล้านบาท พอมาถึงช่อง กำไรจากการดำเนินการ กลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 458 ล้านบาท....ผมก็ไม่เข้าใจว่ามายังไงอีก เพราะช่องอื่นๆที่เป็นกำไรจากการดำเนินงานนั้น น้อยกว่ารายได้ทั้งนั้น......
...สรุปคือ ผมอ่านแล้วเข้าใจว่ากำไรที่พุ่งเพิ่มมาจากตรงนี้ ซึ่งผมไม่เข้าใจที่มาที่ไปของเงินก้อนนี้ และไม่รู้ว่าในไตรมาสต่อๆไปกำไรในตรงนี้จะยั่งยืนหรือเปล่า....ไม่ทราบว่าพี่ๆท่านอื่นดูหมายเหตุงบการเงินแล้วว่ายังไงครับ ช่วยอธิบายให้ผมได้เข้าใจด้วยครับ ผมอาจเข้าใจผิดก็ได้ครับ
จะเห็นว่าในQ1-49นั้นมีกำไร 451.9 ล้านบาท เทียบกับQ1-48 48.3 ล้านบาท ในข้อที่ 11.การเสนอข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน เมื่อดูตัวเลขต่างๆแล้ว จะเห็นว่าที่กำไรพุ่งขึ้นนั้นมาจากหมวดของ กลุ่มการลงทุนและอื่นๆ จากปี48 จาก 62 ล้านบาท มาเป็น 458 ล้านบาท(ก่อนหักดอกเบี้ยกับภาษี) ซึ่งระบุว่าเป็นกำไรจากการดำเนินงาน แต่ในหมวดอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก...ผมอ่านชื่อบริษัทฯย่อยไม่ไหวครับตัวเล็กมาก จึงไม่รู้ว่ากำไรมาจากบริษัทอะไร และผมอ่านดูยิ่งงงครับว่า ในช่องที่รวมรายได้จากช่องของการลงทุนและอื่นๆ มีอยู่ 105 ล้านบาท พอมาถึงช่อง กำไรจากการดำเนินการ กลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 458 ล้านบาท....ผมก็ไม่เข้าใจว่ามายังไงอีก เพราะช่องอื่นๆที่เป็นกำไรจากการดำเนินงานนั้น น้อยกว่ารายได้ทั้งนั้น......
...สรุปคือ ผมอ่านแล้วเข้าใจว่ากำไรที่พุ่งเพิ่มมาจากตรงนี้ ซึ่งผมไม่เข้าใจที่มาที่ไปของเงินก้อนนี้ และไม่รู้ว่าในไตรมาสต่อๆไปกำไรในตรงนี้จะยั่งยืนหรือเปล่า....ไม่ทราบว่าพี่ๆท่านอื่นดูหมายเหตุงบการเงินแล้วว่ายังไงครับ ช่วยอธิบายให้ผมได้เข้าใจด้วยครับ ผมอาจเข้าใจผิดก็ได้ครับ
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 33
ตัวนี้ถ้าจะถือยาวต้องท่องคำนี้ให้ขึ้นใจครับ
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
ปีนี้น่าจะ 1.50 ได้แล้วนะครับ ไอ้ 1.25 เมื่อ 7 ปีก่อนน่ะ
ถ้าเป็นค่าเงินตอนนี้มันต้องเท่าไรแล้ว
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
"หนึ่งจุดสองห้า"
ปีนี้น่าจะ 1.50 ได้แล้วนะครับ ไอ้ 1.25 เมื่อ 7 ปีก่อนน่ะ
ถ้าเป็นค่าเงินตอนนี้มันต้องเท่าไรแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 34
รายได้
รายได้จากการขาย 4,602,421 4,188,115 เพิ่มขึ้น
รายได้อื่น
ดอกเบี้ยรับ 15,708 5,973 เพิ่มขึ้น
ค่าเช่ารับ 756 1,305 ลดลง
เงินปันผลรับ 2,800 - เพิ่มขึ้น
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 79,082 12,646 เพิ่มขึ้น
อื่น ๆ 118,233 87,874 เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 216,137 33,342 เพิ่มขึ้น
รวมรายได้ 5,035,137 4,329,255
สรุปคือรายได้เพิ่ม ขึ้น แต่ไตรมาสหน้าจะเพิ่มอย่างนี้หรือไม่ ไม่รู้
รายได้จากการขาย 4,602,421 4,188,115 เพิ่มขึ้น
รายได้อื่น
ดอกเบี้ยรับ 15,708 5,973 เพิ่มขึ้น
ค่าเช่ารับ 756 1,305 ลดลง
เงินปันผลรับ 2,800 - เพิ่มขึ้น
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 79,082 12,646 เพิ่มขึ้น
อื่น ๆ 118,233 87,874 เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 216,137 33,342 เพิ่มขึ้น
รวมรายได้ 5,035,137 4,329,255
สรุปคือรายได้เพิ่ม ขึ้น แต่ไตรมาสหน้าจะเพิ่มอย่างนี้หรือไม่ ไม่รู้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 36
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย 216,137 33,342 เพิ่มขึ้น
และอีกที่ก็ตรงนี้ครับ
โค้ด: เลือกทั้งหมด
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 79,082 12,646 เพิ่มขึ้น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 37
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมก็งง ว่า ที่มาของกำไร มาจากธุรกิจ อันไหนกันแน่ ระหว่าง ไฟฟ้า กับ สิ่งทอในจีน งง อ่า แต่ดูรายได้รวม แล้วโตขึ้น 16 เปอเซน แต่กำไรโต ขึ้น เยอะ มากๆๆๆๆเพระอะไร
ใครแกะ ออกบ้างแนะนำที
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 38
ส่วนแบ่งเงินลงทุนแบบส่วนได้ส่วนเสีย
Q1 ปี 2548 33 ล้าน
Q2 ปี 2548 127 ล้าน
Q3 ปี 2548 107 ล้าน
Q4 ปี 2548 259 ล้าน
รวม 526 ล้านบาท
Q1 ปี 2549 216 ล้าน
เฉพาะส่วนแบ่งกำไรตรงนี้ ปีนี้ก็น่าจะ 216*4 เท่ากับ 864 ล้านแล้วนะ
........................................
กำไร Q2 ปี48 + Q3 ปี 48 + Q4 ปี + 48 Q1 + ปี 49 =
73 + 221 + 514 + 451 เท่ากับ 1259 ล้าน
ณ.ราคา 21.60 มูลค่าทั้งบริษัท 6480 pe 6480/1259 เท่ากับ 5.14 ตรงกับ ใน set.or.th
อย่างไรก็ตาม กำไร Q4 มีกำไรจากการขายเงินลงทุน 223 ล้าน บาท ซึ่งต้องนำ ไปเสียภาษี 22 % โดยประมาณ ตามงบการเงิน ทำให้กำไร ใน Q4 น่าจะนำการขายเงินลงทุนมาหักออก 223*.78 = 174 ล้าน ทำให้คงเหลือ 514-174 เท่ากับ 340 ล้าน
ถ้าจะให้ประมาณการ กำไรทั้งปีในปี 2549 แบบประมาณๆ
ก็ต้องเอา กำไร Q4 + Q1 คูณ สองละกัน
จะได้เท่ากับ 340+451 เท่ากับ 791 คูณสอง เท่ากับ 1582 ล้านบาท
ถ้า pe 6 ราคาก็เท่ากับ 9492 ล้าน หารด้วย 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 31.64 บาท
อืม อะไรกันนี่
Q1 ปี 2548 33 ล้าน
Q2 ปี 2548 127 ล้าน
Q3 ปี 2548 107 ล้าน
Q4 ปี 2548 259 ล้าน
รวม 526 ล้านบาท
Q1 ปี 2549 216 ล้าน
เฉพาะส่วนแบ่งกำไรตรงนี้ ปีนี้ก็น่าจะ 216*4 เท่ากับ 864 ล้านแล้วนะ
........................................
กำไร Q2 ปี48 + Q3 ปี 48 + Q4 ปี + 48 Q1 + ปี 49 =
73 + 221 + 514 + 451 เท่ากับ 1259 ล้าน
ณ.ราคา 21.60 มูลค่าทั้งบริษัท 6480 pe 6480/1259 เท่ากับ 5.14 ตรงกับ ใน set.or.th
อย่างไรก็ตาม กำไร Q4 มีกำไรจากการขายเงินลงทุน 223 ล้าน บาท ซึ่งต้องนำ ไปเสียภาษี 22 % โดยประมาณ ตามงบการเงิน ทำให้กำไร ใน Q4 น่าจะนำการขายเงินลงทุนมาหักออก 223*.78 = 174 ล้าน ทำให้คงเหลือ 514-174 เท่ากับ 340 ล้าน
ถ้าจะให้ประมาณการ กำไรทั้งปีในปี 2549 แบบประมาณๆ
ก็ต้องเอา กำไร Q4 + Q1 คูณ สองละกัน
จะได้เท่ากับ 340+451 เท่ากับ 791 คูณสอง เท่ากับ 1582 ล้านบาท
ถ้า pe 6 ราคาก็เท่ากับ 9492 ล้าน หารด้วย 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 31.64 บาท
อืม อะไรกันนี่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 39
คิดเล่นๆ ไม่ต้องคิดมาก แค่โรงไฟฟ้า ที่กำไร ไตรมาสละ 200 ล้าน ก็ 800 ล้านต่อปี หรือมีมูลค่าเท่ากับ 8000 ล้านแล้ว
เทียบกับ egcomp กำไร 4000 ล้าน มูลค่า 40000 ล้าน
ส่วนกิจการอื่นของ suc ที่ทำกำไรได้อีก 200 - 300 ล้านต่อไตรมาส
ก็ลองตีมูลค่าแล้วกัน
ราคาปัจจุบัน นี้ เท่ากับซื้อกิจการไฟฟ้า 23.80 คูณ 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 7200 ล้านบาท
ส่วนกิจการที่เหลือ แถมฟรี
เทียบกับ egcomp กำไร 4000 ล้าน มูลค่า 40000 ล้าน
ส่วนกิจการอื่นของ suc ที่ทำกำไรได้อีก 200 - 300 ล้านต่อไตรมาส
ก็ลองตีมูลค่าแล้วกัน
ราคาปัจจุบัน นี้ เท่ากับซื้อกิจการไฟฟ้า 23.80 คูณ 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 7200 ล้านบาท
ส่วนกิจการที่เหลือ แถมฟรี
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 40
บริษัท ยูเนี่ยนเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (UE) ได้ลงทุนในบริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด (RPCL) สัดส่วน 10 % ของโครงการ ซึ่งบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลมาตลอดนั้น โดยสรุปลักษณะโครงการ เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าอิสระ (IPP) ที่มีสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) กำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ เงินลงทุนประมาณ 890 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งอยู่ที่จังหวัดราชบุรี มีแผนการดำเนินงานคาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าระยะที่ 1 ให้กับ EGAT ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป ในปี 2548 บริษัท RPCL ได้ดำเนินการขอใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการครบถ้วนแล้ว และได้ลงนามในสัญญากู้เงินกับเจ้าหนี้โครงการแล้ว เมื่อเดือนธันวาคม 2548 เพื่อเตรียมการใช้เงินกู้ในต้นปี 2549 เป็นต้นไป ถ้าโครงการนี้สามารถดำเนินไปได้ตามแผนงาน บริษัทฯ จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล สำหรับผลประกอบการของปี 2551 เป็นต้นไป
หรือว่า เราคงต้องถือ SUC ยาวไปอย่างน้อยก็ปี 2551 ละมังครับ พี่เจ๋ง .....
หรือว่า เราคงต้องถือ SUC ยาวไปอย่างน้อยก็ปี 2551 ละมังครับ พี่เจ๋ง .....
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 41
กลุ่มบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นฝ่ายจีนกำลังจัดตั้งบริษัท Shanghai Saha-Union Soinning Mill โดยมีลักษณะการประกอบธุรกิจเป็นโรงงานปั่นด้าย โดยมีกำลังการผลิต 7,200 ตันต่อปี สัดส่วนการลงทุนฝ่ายละ 50 % บริษัทร่วมทุนดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน RMB 128 ล้าน โดยเป็นของฝ่ายไทยรวม RMB 64 ล้าน ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะส่งเงินลงทุนดังกล่าวให้บริษัทร่วมทุนภายในไตรมาสที่ 1 ของปี
นี่ก็มีลุ้นอีกตัวครับ พี่เจ๋ง .........................
นี่ก็มีลุ้นอีกตัวครับ พี่เจ๋ง .........................
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 43
เปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ชื่อ Shangyu Hangzhou Union Cogeneration Co., Ltd. ในปี 2548 นั้น โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตไอน้ำ 390 ตันต่อชั่วโมง มีผลการดำเนินงานได้ดีกว่าแผนที่คาดไว้ คือมีกำไรตั้งแต่ปีแรกที่ดำเนินงาน เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเคมีที่พัฒนาใหม่ ประกอบกับนิคมอุตสาหกรรมเคมีนี้มีการขยายตัว จึงมีอุปสงค์ด้านกระแสไฟฟ้าและไอน้ำ ที่ขยายตัวค่อนข้างแน่ชัด
**** โครงการนี้จึงมีแผนการในอนาคตว่าจะขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของระยะเวลาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการส่วนขยาย *****
นี่ก็เป็นอีกธุรกิจที่จะช่วยผลักดันกําไรให้มีการเติบโตได้อีก ...................
**** โครงการนี้จึงมีแผนการในอนาคตว่าจะขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของระยะเวลาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการส่วนขยาย *****
นี่ก็เป็นอีกธุรกิจที่จะช่วยผลักดันกําไรให้มีการเติบโตได้อีก ...................
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 44
พี่เจ๋งอธิบายซะจนเห็นภาพเลยนะนั่น ....................
" คิดเล่นๆ ไม่ต้องคิดมาก แค่โรงไฟฟ้า ที่กำไร ไตรมาสละ 200 ล้าน ก็ 800 ล้านต่อปี หรือมีมูลค่าเท่ากับ 8000 ล้านแล้ว
เทียบกับ egcomp กำไร 4000 ล้าน มูลค่า 40000 ล้าน
ส่วนกิจการอื่นของ suc ที่ทำกำไรได้อีก 200 - 300 ล้านต่อไตรมาส
ก็ลองตีมูลค่าแล้วกัน
ราคาปัจจุบัน นี้ เท่ากับซื้อกิจการไฟฟ้า 23.80 คูณ 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 7200 ล้านบาท
ส่วนกิจการที่เหลือ แถมฟรี "
" คิดเล่นๆ ไม่ต้องคิดมาก แค่โรงไฟฟ้า ที่กำไร ไตรมาสละ 200 ล้าน ก็ 800 ล้านต่อปี หรือมีมูลค่าเท่ากับ 8000 ล้านแล้ว
เทียบกับ egcomp กำไร 4000 ล้าน มูลค่า 40000 ล้าน
ส่วนกิจการอื่นของ suc ที่ทำกำไรได้อีก 200 - 300 ล้านต่อไตรมาส
ก็ลองตีมูลค่าแล้วกัน
ราคาปัจจุบัน นี้ เท่ากับซื้อกิจการไฟฟ้า 23.80 คูณ 300 ล้านหุ้น เท่ากับ 7200 ล้านบาท
ส่วนกิจการที่เหลือ แถมฟรี "
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 45
ธุรกิจการศึกษาของ SUC .....................
บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายหนึ่ง ในการให้บริการการศึกษาโรงเรียนนานาชาติ ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Dulwich College London โดยได้ดำเนินการไปแล้วที่นครเซี่ยงไฮ้นั้น โรงเรียนได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ปกครองจำนวนมาก จากจำนวนความต้องการที่สมัครเข้าเรียนมีมากกว่าจำนวนที่โรงเรียนจะรองรับได้ บริษัทฯ เห็นว่าบริการทางการศึกษาแบบโรงเรียนนานาชาติในเมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทางการอนุญาตแบบมีจำนวนจำกัด ยังมีศักยภาพอยู่ บริษัทฯ จึงขยายธุรกิจด้านนี้ออกไปที่กรุงปักกิ่ง ขณะนี้กำลังปรับปรุงก่อสร้าง ตกแต่งอาคารเรียนใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับนักเรียนที่จะเข้าเรียนตามหลักสูตรของ Dulwich College ให้เพียงพอ และให้ทันเปิดภาคเรียนของปีการศึกษาใหม่ ในเดือนกันยายน 2549 โดยมีลักษณะเป็นโรงเรียนนานาชาติเต็มรูปแบบ ซึ่งจะสามารถรองรับนักเรียนได้ประมาณ 1,000 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงเกรด 12 ทั้งนี้โครงการนี้มีเงินลงทุนทั้งสิ้น ประมาณ US$ 8 ล้าน และคาดว่าจะสามารถดำเนินงานตามแผนได้.
บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นอีกฝ่ายหนึ่ง ในการให้บริการการศึกษาโรงเรียนนานาชาติ ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Dulwich College London โดยได้ดำเนินการไปแล้วที่นครเซี่ยงไฮ้นั้น โรงเรียนได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ปกครองจำนวนมาก จากจำนวนความต้องการที่สมัครเข้าเรียนมีมากกว่าจำนวนที่โรงเรียนจะรองรับได้ บริษัทฯ เห็นว่าบริการทางการศึกษาแบบโรงเรียนนานาชาติในเมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทางการอนุญาตแบบมีจำนวนจำกัด ยังมีศักยภาพอยู่ บริษัทฯ จึงขยายธุรกิจด้านนี้ออกไปที่กรุงปักกิ่ง ขณะนี้กำลังปรับปรุงก่อสร้าง ตกแต่งอาคารเรียนใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับนักเรียนที่จะเข้าเรียนตามหลักสูตรของ Dulwich College ให้เพียงพอ และให้ทันเปิดภาคเรียนของปีการศึกษาใหม่ ในเดือนกันยายน 2549 โดยมีลักษณะเป็นโรงเรียนนานาชาติเต็มรูปแบบ ซึ่งจะสามารถรองรับนักเรียนได้ประมาณ 1,000 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงเกรด 12 ทั้งนี้โครงการนี้มีเงินลงทุนทั้งสิ้น ประมาณ US$ 8 ล้าน และคาดว่าจะสามารถดำเนินงานตามแผนได้.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 481
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 50
ข่าวเก่าตั้งแต่ปี 47 แต่เริ่มส่งผลให้เห็นในปัจจุบันแล้ว
ผู้จัดการรายวัน8 พฤศจิกายน 2547
สหยูเนี่ยนทุ่มบุกจีน2หมื่นล้าน
สหยูเนี่ยน, บมจ.
Energy
กลุ่มสหยูเนี่ยนอาศัยจังหวะเศรษฐกิจจีนบูม รุกคืบลงทุนทั้งขยายธุรกิจเดิมและบุกเบิกใหม่ เผยเงินลงทุนในเมืองจีนรวม 2.35 หมื่นล้านบาท แซงหน้าเงินลงทุนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ชี้มีโอกาสโตแบบก้าวกระโดด เน้นธุรกิจพลังงาน โดยการขยายกำลังการผลิตและเปิดโรงไฟฟ้าใหม่ เตรียมเทกโอเวอร์เหมืองถ่านหินลดต้นทุนวัตถุดิบที่ยังราคาแพง เล็งตั้งโรงงานผลิตด้ายคุณภาพสูง พร้อมจับมือดัลลิชคอลเลจเปิดโรงเรียนนานาชาติในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และซูโจว หวังกวาดรายได้ระยะยาว
นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) (SUC) เปิดเผยทิศทางการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยนว่าจะขยายการลงทุนทั้งธุรกิจเดิม และบุกเบิกธุรกิจใหม่ในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังขยายตัว โดยปี 2547 สินทรัพย์หรือเงินลงทุนรวมในจีนอยู่ที่ 4,700 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทย 23,500 ล้านบาท แซงหน้าสินทรัพย์ในประเทศไทยที่มีประมาณ 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธุรกิจที่สหยูเนี่ยนจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนคือการขยายกำลังการผลิตและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ขณะที่ธุรกิจที่บุกเบิกใหม่ ประกอบด้วยตั้งโรงงานผลิตด้าย เปิดโรงเรียนนานาชาติและทำธุรกิจส่งออกนำเข้า
"เราเข้ามาในจีนนานพอสมควร แต่วันนี้ในไทยโอกาสที่ธุรกิจจะโตแบบก้าวกระโดดมีน้อย ขณะที่จีนมีโอกาส เราจึงส่งคนมาดูลู่ทางจริงจังอีกครั้งก่อนมีมติมุ่งธุรกิจพลังงานที่เราถนัดและมีฐานที่แข็งแกร่งในเมืองจีน"
สำหรับธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ นายกมล คูสุวรรณ ที่ปรึกษาอาวุโส ในฐานะผู้รับผิดชอบเปิดเผยว่า สหยูเนี่ยนมีความถนัดในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ เพราะบุคลากรที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนจึงใช้จังหวะที่เห็นว่าแนวโน้มธุรกิจการศึกษาในเมืองจีนจะขยายตัวสูง เข้าขออนุญาตเปิดโรงเรียนนานาชาติ
"สหยูเนี่ยนตื่นตัวในการมองไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนสามารถเข้าไปลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องปิดกั้นว่าต้องทำธุรกิจเดิม เห็นได้จากสหยูเนี่ยนโตมาจากการขายซิปวีนัส แต่วันนี้ประสบความสำเร็จในการทำโรงไฟฟ้า เชื่อว่าอนาคตก็ต้องมีรายได้จากโรงเรียนอินเตอร์"
นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่านโยบายการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยน จะไม่จำกัดขอบเขตธุรกิจ ขอให้มีโอกาสและผลตอบแทน หากจะเสี่ยง ก็ประเมินแล้วว่ายอมรับได้ นอกจากไม่มีพรมแดนแล้ว จะยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น ขณะนี้สหยูเนี่ยนวางแผนตั้งโรงงานหรือย้ายฐานการผลิตมาจีนแล้วส่งสินค้าไปขายในไทย แต่ในอนาคตถ้าไทยเหมาะสมกว่าก็อาจย้ายกลับหรืออาจย้ายไปประเทศอื่นก็ได้
โดยระหว่างวันที่ 26 ต.ค.-4 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯนำคณะผู้บริหารบริษัทในเครือระดับกรรมการผู้จัดการขึ้นไปกว่า 20 คน เดินทางไปดูงานที่เมืองจีน นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่าเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ให้ผู้บริหารด้วยการไปเมืองจีน จะได้ประโยชน์มากกว่าการดูข้อมูลเอกสารและการรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เมืองจีน
"เราอยากให้ผู้บริหารได้สัมผัสโดยตรง ได้รู้ถึงความยากง่ายในการทำธุรกิจเมืองจีน เช่น มาเห็นด้วยตัวเองว่าถ้าจะตั้งโรงงานผลิตขายน่าจะดีกว่าผลิตในเมืองไทยแล้วส่งมาขาย"
สำหรับเมืองไทย นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่า ยังคงขยายธุรกิจที่ยังเติบโต ได้แก่ พลาสติกที่รองรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการผลิตและขายกระติกน้ำที่เพิ่งร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่น ขณะที่ธุรกิจในเครือที่จะไม่เน้นการขยายตัว ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เป็นต้น
เทกโอเวอร์เหมืองถ่านหิน
นายฐิติวัฒน์ สืบแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหยูเนี่ยน อินเวสเม้นท์ (ประเทศจีน) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของสหยูเนี่ยนในเมืองจีนในปัจจุบันแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่มพลังงาน ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม 2) กลุ่มการผลิต ผลิตกรดมะนาวและผลิตด้าย 3) กลุ่มการศึกษา ทำโรงเรียนนานาชาติ และ 4) กลุ่มการค้า ทำธุรกิจส่งออก ทั้งนี้ กลุ่มพลังงาน เป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2534 ถือเป็นกลุ่มธุรกิจเก่าที่บริษัทมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ส่วนอีก 3 กลุ่มหลังเพิ่งบุกเบิกใหม่ ขณะนี้มีพนักงานแล้ว 3,000 คน
สำหรับโรงไฟฟ้าของสหยูเนี่ยนถือเป็นโรงไฟฟ้าขนาดกลาง ส่วนใหญ่ป้อนไฟให้ย่านชุมชนเมืองเศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันมี 11 โรง ครอบคลุม 4 มณฑล 11 เมือง กำลังการผลิตรวม 869 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 4,340 ล้านหยวน (ดูตาราง หน้า 1 "โรงไฟฟ้าของสหยูเนี่ยนในจีน" ประกอบข่าว) โดยปีที่ผ่านมาได้ขยายกำลังการผลิตใน 4 โรง ได้แก่ Wuxi-Union Cogeneration,Yixing-Union Cogeneration,Zhejiang Jiashan-Union Cogeneration และ Zhangjiagang Shenzhou-Union Cogeneration และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 โรงที่เมืองเจียส้าง
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะสนับสนุนแต่ยังไม่ยอมให้ขึ้นค่าไฟ นายฐิติวัฒน์ยอมรับว่าโรงไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินในเมืองจีนยังคงราคาแพงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) เหมืองถ่านหิน เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบหลักที่เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟ้ฟ้าอีกทางหนึ่งแทนที่จะรอรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
"การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ผ่านมาทำให้ถ่านหินขาดตลาด ประกอบกับเกิดอุบัติเหตุคนงานตายในเหมืองถ่านหินบ่อย ทางการจึงสั่งปิด เราจึงต้องการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินไว้รองรับกรณีที่การขาดแคลนถ่านหินเป็นปัญหาระยะยาว"
ขณะที่นายจง เหว่ยกัง ผู้จัดการ Yixing-Union Cogeneration หรือ โรงไฟฟ้าอี้ซิงซึ่งร่วมทุนระหว่างสหยูเนี่ยนกับรัฐบาลจีนในสัดส่วน 50:50 เปิดเผยว่าปัญหาถ่านหินราคาแพงทำ ให้โรงไฟฟ้าในเมืองจีนปิดกิจการไปหลายแห่ง ส่วนแก้ปัญหาของอี้ซิง จะใช้วิธีผสมกันระหว่างถ่านหินคุณภาพสูงกับถ่านหินคุณภาพต่ำโดยการปรับแต่งอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อเฉลี่ยต้นทุนช่วยให้ประหยัด 200 หยวนต่อตัน นอกจากนี้ยังใช้สายสัมพันธ์ที่ดีกับเหมืองถ่านหินทำให้สามารถซื้อถ่านหินราคาถูกกว่าตลาด
"เราซื้อได้ราคาต่ำกว่าตลาดประมาณ 50 หยวนต่อตัน โดยปัจจุบันราคาถ่านหินราคา 500 หยวนต่อตัน ดังนั้นถ้าเราซื้อปีละ 8 แสนตัน ผมสามารถประหยัดได้ 40 ล้านหยวนต่อปี" นายจงคุยถึงสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับเหมืองถ่านหิน
ส่วนการผลิตด้ายและผ้าลูกไม้ สหยูเนี่ยนยังอยู่การก่อตั้งโรงงานปั่นแห่งแรกในจีนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เพราะที่ผ่านมาเป็นโรงงานที่อยู่ในไทย ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายย้ายฐานการผลิตตามสถานการณ์แวดล้อม
ร่วมดัลลิชลุยธุรกิจ ร.ร.อินเตอร์
นายกมลมองว่า จีนมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจการศึกษาในเอเชีย โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ สหยูเนี่ยนจึงศึกษาความเป็นไปได้ในการบุกเบิกเป็นธุรกิจใหม่มาระยะหนึ่งก่อนจะดำเนินการได้แล้ว 2 สาขา คือที่เมืองปักกิ่งซึ่งเป็นการเทกโอเวอร์ ส่วนอีกแห่งที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เปิดเทอมแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัลลิชคอลเลจเป็นโรงเรียนสำหรับเยาวชนในระดับ 1 ถึง 9 ตามมาตรฐานสากล บริษัทยังมีแผนเปิดอีก 1 สาขาที่เมืองซูโจว ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถดำเนินการได้
"เราเลือกที่จะร่วมมือกับดัลลิชคอลเลจ เพราะเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกของอังกฤษ เชื่อว่าสหยูเนี่ยนจะประสบความสำเร็จในธุรกิจการศึกษาในไม่ช้า เพราะปัจจุบันไม่เฉพาะชาวต่างชาติในเมืองจีนที่เพิ่มขึ้น แต่ลูกหลานคนจีนที่มีสัญชาติต่างประเทศได้ทยอยกลับภูมิลำเนามากขึ้น"
นายกมลกล่าวว่า เป้าหมายในปี 2007 จะมีนักเรียนเข้าเรียนในดัลลิชคอลเลจที่สาขาปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มากกว่า 1,200 คน และภายใน 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจโรงเรียนจะสร้างรายได้มหาศาลให้สหยูเนี่ยน สำหรับค่าเล่าเรียนของนักเรียนต่อปีขณะนี้คิดหัวละ 1 ล้านบาท หรือกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และในอนาคตคาดว่ารัฐบาลจีนจะแก้กฎหมายให้เด็กจีนมีสิทธิ์เรียนในโรงเรียนนานาชาติ โดยไม่จำกัดเฉพาะผู้มีสัญชาติต่างประเทศเหมือนปัจจุบัน ทั้งนี้ สหยูเนี่ยนได้ใบอนุญาตเปิดโรงเรียนนานาชาติในจีนเป็นรายสุดท้ายก่อนรัฐบาลจะปิดรับการขออนุญาต
นายกมลเปิดเผยว่า ความสำเร็จในการเจรจาธุรกิจกับดัลลิชคอลเลจ ส่วนหนึ่งอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตประธานกรรมการสหยูเนี่ยน เนื่องจากนายอานันท์เคยเป็นศิษย์เก่าดัลลิชคอลเลจ ทั้งนี้ สหยูเนี่ยนลงทุนธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในนาม Union Education Index Ltd., Union Education Management) ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง
ปัจจุบัน กลุ่มสหยูเนี่ยนมีนายอำนวย วีรวรรณ เป็นประธานกรรมการ ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วยบริษัท ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมด้าย จำนวน 9.65% บริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล 6.25% บริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ 6.22% บริษัท โรงงานรวมอุตสาหกรรม 5.96% และธนาคารกรุงเทพ 4.11%
สำหรับภาพรวมการทำธุรกิจในเมืองจีน ผู้บริหารสหยูเนี่ยนระบุว่าน่าลงทุนมากกว่าเมืองไทย โดยสายสัมพันธ์ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตามการที่จีนเซ็นสัญญาปกป้องนักลงทุนไทยเมื่อ ปี 1995 ทำให้ธุรกิจไทยได้รับการคุ้มครองอย่างดี นอกจากนี้คนไทยถือเป็นญาติพี่น้องของคนจีน ผู้บริหารสหยูเนี่ยนเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในระดับสูงต่อไป
ผู้จัดการรายวัน8 พฤศจิกายน 2547
สหยูเนี่ยนทุ่มบุกจีน2หมื่นล้าน
สหยูเนี่ยน, บมจ.
Energy
กลุ่มสหยูเนี่ยนอาศัยจังหวะเศรษฐกิจจีนบูม รุกคืบลงทุนทั้งขยายธุรกิจเดิมและบุกเบิกใหม่ เผยเงินลงทุนในเมืองจีนรวม 2.35 หมื่นล้านบาท แซงหน้าเงินลงทุนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ชี้มีโอกาสโตแบบก้าวกระโดด เน้นธุรกิจพลังงาน โดยการขยายกำลังการผลิตและเปิดโรงไฟฟ้าใหม่ เตรียมเทกโอเวอร์เหมืองถ่านหินลดต้นทุนวัตถุดิบที่ยังราคาแพง เล็งตั้งโรงงานผลิตด้ายคุณภาพสูง พร้อมจับมือดัลลิชคอลเลจเปิดโรงเรียนนานาชาติในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และซูโจว หวังกวาดรายได้ระยะยาว
นางสาวศรีวารินทร์ จิระพรรคคณา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) (SUC) เปิดเผยทิศทางการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยนว่าจะขยายการลงทุนทั้งธุรกิจเดิม และบุกเบิกธุรกิจใหม่ในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังขยายตัว โดยปี 2547 สินทรัพย์หรือเงินลงทุนรวมในจีนอยู่ที่ 4,700 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทย 23,500 ล้านบาท แซงหน้าสินทรัพย์ในประเทศไทยที่มีประมาณ 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธุรกิจที่สหยูเนี่ยนจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนคือการขยายกำลังการผลิตและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ขณะที่ธุรกิจที่บุกเบิกใหม่ ประกอบด้วยตั้งโรงงานผลิตด้าย เปิดโรงเรียนนานาชาติและทำธุรกิจส่งออกนำเข้า
"เราเข้ามาในจีนนานพอสมควร แต่วันนี้ในไทยโอกาสที่ธุรกิจจะโตแบบก้าวกระโดดมีน้อย ขณะที่จีนมีโอกาส เราจึงส่งคนมาดูลู่ทางจริงจังอีกครั้งก่อนมีมติมุ่งธุรกิจพลังงานที่เราถนัดและมีฐานที่แข็งแกร่งในเมืองจีน"
สำหรับธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ นายกมล คูสุวรรณ ที่ปรึกษาอาวุโส ในฐานะผู้รับผิดชอบเปิดเผยว่า สหยูเนี่ยนมีความถนัดในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ เพราะบุคลากรที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนจึงใช้จังหวะที่เห็นว่าแนวโน้มธุรกิจการศึกษาในเมืองจีนจะขยายตัวสูง เข้าขออนุญาตเปิดโรงเรียนนานาชาติ
"สหยูเนี่ยนตื่นตัวในการมองไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนสามารถเข้าไปลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องปิดกั้นว่าต้องทำธุรกิจเดิม เห็นได้จากสหยูเนี่ยนโตมาจากการขายซิปวีนัส แต่วันนี้ประสบความสำเร็จในการทำโรงไฟฟ้า เชื่อว่าอนาคตก็ต้องมีรายได้จากโรงเรียนอินเตอร์"
นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่านโยบายการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยน จะไม่จำกัดขอบเขตธุรกิจ ขอให้มีโอกาสและผลตอบแทน หากจะเสี่ยง ก็ประเมินแล้วว่ายอมรับได้ นอกจากไม่มีพรมแดนแล้ว จะยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น ขณะนี้สหยูเนี่ยนวางแผนตั้งโรงงานหรือย้ายฐานการผลิตมาจีนแล้วส่งสินค้าไปขายในไทย แต่ในอนาคตถ้าไทยเหมาะสมกว่าก็อาจย้ายกลับหรืออาจย้ายไปประเทศอื่นก็ได้
โดยระหว่างวันที่ 26 ต.ค.-4 พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯนำคณะผู้บริหารบริษัทในเครือระดับกรรมการผู้จัดการขึ้นไปกว่า 20 คน เดินทางไปดูงานที่เมืองจีน นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่าเป็นการเปิดวิสัยทัศน์ให้ผู้บริหารด้วยการไปเมืองจีน จะได้ประโยชน์มากกว่าการดูข้อมูลเอกสารและการรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เมืองจีน
"เราอยากให้ผู้บริหารได้สัมผัสโดยตรง ได้รู้ถึงความยากง่ายในการทำธุรกิจเมืองจีน เช่น มาเห็นด้วยตัวเองว่าถ้าจะตั้งโรงงานผลิตขายน่าจะดีกว่าผลิตในเมืองไทยแล้วส่งมาขาย"
สำหรับเมืองไทย นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่า ยังคงขยายธุรกิจที่ยังเติบโต ได้แก่ พลาสติกที่รองรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการผลิตและขายกระติกน้ำที่เพิ่งร่วมทุนกับบริษัทญี่ปุ่น ขณะที่ธุรกิจในเครือที่จะไม่เน้นการขยายตัว ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เป็นต้น
เทกโอเวอร์เหมืองถ่านหิน
นายฐิติวัฒน์ สืบแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสหยูเนี่ยน อินเวสเม้นท์ (ประเทศจีน) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของสหยูเนี่ยนในเมืองจีนในปัจจุบันแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1) กลุ่มพลังงาน ทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม 2) กลุ่มการผลิต ผลิตกรดมะนาวและผลิตด้าย 3) กลุ่มการศึกษา ทำโรงเรียนนานาชาติ และ 4) กลุ่มการค้า ทำธุรกิจส่งออก ทั้งนี้ กลุ่มพลังงาน เป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2534 ถือเป็นกลุ่มธุรกิจเก่าที่บริษัทมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ส่วนอีก 3 กลุ่มหลังเพิ่งบุกเบิกใหม่ ขณะนี้มีพนักงานแล้ว 3,000 คน
สำหรับโรงไฟฟ้าของสหยูเนี่ยนถือเป็นโรงไฟฟ้าขนาดกลาง ส่วนใหญ่ป้อนไฟให้ย่านชุมชนเมืองเศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันมี 11 โรง ครอบคลุม 4 มณฑล 11 เมือง กำลังการผลิตรวม 869 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน 4,340 ล้านหยวน (ดูตาราง หน้า 1 "โรงไฟฟ้าของสหยูเนี่ยนในจีน" ประกอบข่าว) โดยปีที่ผ่านมาได้ขยายกำลังการผลิตใน 4 โรง ได้แก่ Wuxi-Union Cogeneration,Yixing-Union Cogeneration,Zhejiang Jiashan-Union Cogeneration และ Zhangjiagang Shenzhou-Union Cogeneration และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 โรงที่เมืองเจียส้าง
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะสนับสนุนแต่ยังไม่ยอมให้ขึ้นค่าไฟ นายฐิติวัฒน์ยอมรับว่าโรงไฟฟ้าได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินในเมืองจีนยังคงราคาแพงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) เหมืองถ่านหิน เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบหลักที่เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟ้ฟ้าอีกทางหนึ่งแทนที่จะรอรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว
"การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ผ่านมาทำให้ถ่านหินขาดตลาด ประกอบกับเกิดอุบัติเหตุคนงานตายในเหมืองถ่านหินบ่อย ทางการจึงสั่งปิด เราจึงต้องการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินไว้รองรับกรณีที่การขาดแคลนถ่านหินเป็นปัญหาระยะยาว"
ขณะที่นายจง เหว่ยกัง ผู้จัดการ Yixing-Union Cogeneration หรือ โรงไฟฟ้าอี้ซิงซึ่งร่วมทุนระหว่างสหยูเนี่ยนกับรัฐบาลจีนในสัดส่วน 50:50 เปิดเผยว่าปัญหาถ่านหินราคาแพงทำ ให้โรงไฟฟ้าในเมืองจีนปิดกิจการไปหลายแห่ง ส่วนแก้ปัญหาของอี้ซิง จะใช้วิธีผสมกันระหว่างถ่านหินคุณภาพสูงกับถ่านหินคุณภาพต่ำโดยการปรับแต่งอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อเฉลี่ยต้นทุนช่วยให้ประหยัด 200 หยวนต่อตัน นอกจากนี้ยังใช้สายสัมพันธ์ที่ดีกับเหมืองถ่านหินทำให้สามารถซื้อถ่านหินราคาถูกกว่าตลาด
"เราซื้อได้ราคาต่ำกว่าตลาดประมาณ 50 หยวนต่อตัน โดยปัจจุบันราคาถ่านหินราคา 500 หยวนต่อตัน ดังนั้นถ้าเราซื้อปีละ 8 แสนตัน ผมสามารถประหยัดได้ 40 ล้านหยวนต่อปี" นายจงคุยถึงสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับเหมืองถ่านหิน
ส่วนการผลิตด้ายและผ้าลูกไม้ สหยูเนี่ยนยังอยู่การก่อตั้งโรงงานปั่นแห่งแรกในจีนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เพราะที่ผ่านมาเป็นโรงงานที่อยู่ในไทย ถือว่าสอดคล้องกับนโยบายย้ายฐานการผลิตตามสถานการณ์แวดล้อม
ร่วมดัลลิชลุยธุรกิจ ร.ร.อินเตอร์
นายกมลมองว่า จีนมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจการศึกษาในเอเชีย โดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติ สหยูเนี่ยนจึงศึกษาความเป็นไปได้ในการบุกเบิกเป็นธุรกิจใหม่มาระยะหนึ่งก่อนจะดำเนินการได้แล้ว 2 สาขา คือที่เมืองปักกิ่งซึ่งเป็นการเทกโอเวอร์ ส่วนอีกแห่งที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เปิดเทอมแรกเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัลลิชคอลเลจเป็นโรงเรียนสำหรับเยาวชนในระดับ 1 ถึง 9 ตามมาตรฐานสากล บริษัทยังมีแผนเปิดอีก 1 สาขาที่เมืองซูโจว ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถดำเนินการได้
"เราเลือกที่จะร่วมมือกับดัลลิชคอลเลจ เพราะเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับโลกของอังกฤษ เชื่อว่าสหยูเนี่ยนจะประสบความสำเร็จในธุรกิจการศึกษาในไม่ช้า เพราะปัจจุบันไม่เฉพาะชาวต่างชาติในเมืองจีนที่เพิ่มขึ้น แต่ลูกหลานคนจีนที่มีสัญชาติต่างประเทศได้ทยอยกลับภูมิลำเนามากขึ้น"
นายกมลกล่าวว่า เป้าหมายในปี 2007 จะมีนักเรียนเข้าเรียนในดัลลิชคอลเลจที่สาขาปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มากกว่า 1,200 คน และภายใน 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจโรงเรียนจะสร้างรายได้มหาศาลให้สหยูเนี่ยน สำหรับค่าเล่าเรียนของนักเรียนต่อปีขณะนี้คิดหัวละ 1 ล้านบาท หรือกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และในอนาคตคาดว่ารัฐบาลจีนจะแก้กฎหมายให้เด็กจีนมีสิทธิ์เรียนในโรงเรียนนานาชาติ โดยไม่จำกัดเฉพาะผู้มีสัญชาติต่างประเทศเหมือนปัจจุบัน ทั้งนี้ สหยูเนี่ยนได้ใบอนุญาตเปิดโรงเรียนนานาชาติในจีนเป็นรายสุดท้ายก่อนรัฐบาลจะปิดรับการขออนุญาต
นายกมลเปิดเผยว่า ความสำเร็จในการเจรจาธุรกิจกับดัลลิชคอลเลจ ส่วนหนึ่งอาศัยสายสัมพันธ์ส่วนตัวของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตประธานกรรมการสหยูเนี่ยน เนื่องจากนายอานันท์เคยเป็นศิษย์เก่าดัลลิชคอลเลจ ทั้งนี้ สหยูเนี่ยนลงทุนธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในนาม Union Education Index Ltd., Union Education Management) ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง
ปัจจุบัน กลุ่มสหยูเนี่ยนมีนายอำนวย วีรวรรณ เป็นประธานกรรมการ ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วยบริษัท ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมด้าย จำนวน 9.65% บริษัท ยูเนี่ยนแคปปิทอล 6.25% บริษัท ยูเนี่ยนบริหารธุรกิจ 6.22% บริษัท โรงงานรวมอุตสาหกรรม 5.96% และธนาคารกรุงเทพ 4.11%
สำหรับภาพรวมการทำธุรกิจในเมืองจีน ผู้บริหารสหยูเนี่ยนระบุว่าน่าลงทุนมากกว่าเมืองไทย โดยสายสัมพันธ์ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ อย่างไรก็ตามการที่จีนเซ็นสัญญาปกป้องนักลงทุนไทยเมื่อ ปี 1995 ทำให้ธุรกิจไทยได้รับการคุ้มครองอย่างดี นอกจากนี้คนไทยถือเป็นญาติพี่น้องของคนจีน ผู้บริหารสหยูเนี่ยนเชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในระดับสูงต่อไป
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 51
ขอบคุณมากๆครับ ท่านpk8 ..................
ข่าวนี้ชัดเจนมากๆในหลายประเด็น ........................
อย่างเช่นคํากล่าวนี้ครับ .................
"สหยูเนี่ยนตื่นตัวในการมองไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนสามารถเข้าไปลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องปิดกั้นว่าต้องทำธุรกิจเดิม เห็นได้จากสหยูเนี่ยนโตมาจากการขายซิปวีนัส แต่วันนี้ประสบความสำเร็จในการทำโรงไฟฟ้า เชื่อว่าอนาคตก็ต้องมีรายได้จากโรงเรียนอินเตอร์"
นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่านโยบายการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยน จะไม่จำกัดขอบเขตธุรกิจ ขอให้มีโอกาสและผลตอบแทน หากจะเสี่ยง ก็ประเมินแล้วว่ายอมรับได้ นอกจากไม่มีพรมแดนแล้ว จะยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น ขณะนี้สหยูเนี่ยนวางแผนตั้งโรงงานหรือย้ายฐานการผลิตมาจีนแล้วส่งสินค้าไปขายในไทย แต่ในอนาคตถ้าไทยเหมาะสมกว่าก็อาจย้ายกลับหรืออาจย้ายไปประเทศอื่นก็ได้
ข่าวนี้ชัดเจนมากๆในหลายประเด็น ........................
อย่างเช่นคํากล่าวนี้ครับ .................
"สหยูเนี่ยนตื่นตัวในการมองไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สหยูเนี่ยนสามารถเข้าไปลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องปิดกั้นว่าต้องทำธุรกิจเดิม เห็นได้จากสหยูเนี่ยนโตมาจากการขายซิปวีนัส แต่วันนี้ประสบความสำเร็จในการทำโรงไฟฟ้า เชื่อว่าอนาคตก็ต้องมีรายได้จากโรงเรียนอินเตอร์"
นางสาวศรีวารินทร์กล่าวว่านโยบายการทำธุรกิจของสหยูเนี่ยน จะไม่จำกัดขอบเขตธุรกิจ ขอให้มีโอกาสและผลตอบแทน หากจะเสี่ยง ก็ประเมินแล้วว่ายอมรับได้ นอกจากไม่มีพรมแดนแล้ว จะยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เช่น ขณะนี้สหยูเนี่ยนวางแผนตั้งโรงงานหรือย้ายฐานการผลิตมาจีนแล้วส่งสินค้าไปขายในไทย แต่ในอนาคตถ้าไทยเหมาะสมกว่าก็อาจย้ายกลับหรืออาจย้ายไปประเทศอื่นก็ได้
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 52
" เป้าหมายในปี 2007 จะมีนักเรียนเข้าเรียนในดัลลิชคอลเลจที่สาขาปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มากกว่า 1,200 คน และภายใน 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจโรงเรียนจะสร้างรายได้มหาศาลให้สหยูเนี่ยน สำหรับค่าเล่าเรียนของนักเรียนต่อปีขณะนี้คิดหัวละ 1 ล้านบาท หรือกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และในอนาคตคาดว่ารัฐบาลจีนจะแก้กฎหมายให้เด็กจีนมีสิทธิ์เรียนในโรงเรียนนานาชาติ โดยไม่จำกัดเฉพาะผู้มีสัญชาติต่างประเทศเหมือนปัจจุบัน ทั้งนี้ สหยูเนี่ยนได้ใบอนุญาตเปิดโรงเรียนนานาชาติในจีนเป็นรายสุดท้ายก่อนรัฐบาลจะปิดรับการขออนุญาต "
นี่มันเครื่องปั๊มเงินสดชัดๆเลยนะครับ ....................
กินยาวด้วย ....................
หัวละ 1 ล้านบาท/ปี กว่า 1200 คน ก้อปั๊มเงินเข้าบริษัทเฉพาะธุรกิจการศึกษาก้อกว่า 1200 ล้านแล้วนะเนี่ย ......................
แต่เอ๊ะ .......... โรงเรียนนานาชาตินี่มันมาร์จิ้นสูงมั้ย ................
นี่มันเครื่องปั๊มเงินสดชัดๆเลยนะครับ ....................
กินยาวด้วย ....................
หัวละ 1 ล้านบาท/ปี กว่า 1200 คน ก้อปั๊มเงินเข้าบริษัทเฉพาะธุรกิจการศึกษาก้อกว่า 1200 ล้านแล้วนะเนี่ย ......................
แต่เอ๊ะ .......... โรงเรียนนานาชาตินี่มันมาร์จิ้นสูงมั้ย ................
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 53
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2114 วันที่18 พ.ค. - 20 พ.ค. 2549 สดๆร้อนๆ ...................
'สหยูเนี่ยน'ฟุ้งลงทุนแดนมังกรไปโลด Dulwichให้แฟรนไซน์ตั้งร.ร.ทั่วจีน
สหยูเนี่ยนยิ้มร่า Dulwich College Londonพอใจความร่วมมือในกิจการโรงเรียนนานาชาติล่าสุดให้แฟรนไซน์ อะกรีเม้นท์ สหยูเนี่ยนลงทุนได้ทุกมณฑลในจีนแล้ว ขณะที่กิจการผลิตไฟฟ้าในยุคราคาถ่านหินพุ่งรัฐบาลท้องถิ่นหันมาหนุนมากขึ้นแล้ว
ดร.อำนวย วีรวรรณ ประธานกรรมการบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงความเคลื่อนไหวของการลงทุนหลักๆในกิจการผลิตไฟฟ้า และกิจการโรงเรียนนานาชาติในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ขณะนี้กิจการเปิดโรงเรียนนานาชาติที่จีน กำลังดำเนินไปได้ดี โดยเฉพาะที่เซียงไฮ้ที่ดำเนินการได้แล้ว โดยภายใน 1-2 เดือนนี้จะมีปริมาณนักเรียนเข้ามาเต็มที่กว่า 700 กว่าคน ตรงนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่นที่จะต้องขยายกิจการมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา Dulwich College Londonเจ้าของหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน พอใจในความร่วมมือที่ทำอยู่ในประเทศจีนมาก โดยจะให้แฟรนไซน์ อะกรีเม้นท์กับกิจการโรงเรียนนานานชาติกับสหยูเนี่ยนในประเทศจีน โดยจะไปเปิดที่มณฑลไหนก็ได้ที่ลงทุน ซึ่งเวลานี้ทางสหยูเนี่ยนกำลังดูอยู่ว่าจะเปิดที่ไหนได้อีก จากที่มีอยู่แล้วที่ซูโจว เซียงไฮ้และที่ปักกิ่ง
สำหรับธุรกิจการศึกษาที่รุกเข้าสู่กิจการโรงเรียนนานาชาตินั้น ได้ใบอนุญาติ(ไลเซนส์) ด้านหลักสูตร ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน และตารางการสอน จาก Dulwich College London ซึ่งมีมูลนิธิเป็นเจ้า โดยดึงสหยูเนี่ยน อินเวสเม้นท์ (ไซน่า) จำกัด บริษัทผู้ลงทุนของกลุ่มสหยูเนี่ยนในจีนแตกบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อมาบริหารจัดการธุรกิจ โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งขณะนี้มีการลงทุนอยู่แล้วทั้งหมด 3 แห่ง ที่ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ (ดำเนินการแล้ว) ปักกิ่ง(ดำเนินการแล้ว) และซูโจว (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) และพร้อมเปิดสอนได้ปี2006 โดยทั้ง3แห่ง มีระดับการศึกษาตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมปีที่9 ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย/หัว18,000-20,000เหรียญดอลล่าร์/ปีในอนาคตจะเปิดในระดับมัธยมปลาย ต่อไป
ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้น ตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้นโยบายเรื่องค่าไฟฟ้าก็ค่อนข้างจะลงตัวแล้วว่า ถ้าราคาถ่านหินยังสูงขึ้นไปอีกซึ่งขณะนี้ราคาเฉลี่ยนทั้งปีอยู่ที่ ประมาณ 33 เหรียญ/ตันนั้น รัฐบาลในแต่ละท้องถิ่นของจีนจะปรับราคาค่าไฟฟ้าให้ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับต้นทุนด้านถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้นมากในวลานี้ ทำให้กลไกการทำงานเริ่มเร็วขึ้น หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วราคาถ่านหินแพงขึ้น และมีผลกระทบต่อกิจการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มสหยูเนี่ยน เนื่องจากนโยบายในเรื่องราคาค่าไฟฟ้าในช่วงนั้นรัฐบาลจีนยังไม่มีการกำหนดราคาค่าไฟฟ้า ทัง้ที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นรัฐบาลจีนควรจะปรับราคากระแสไฟฟ้าตามต้นทุนด้านถ่านหินได้ทันที แต่รัฐบาลก็ใช้เวลาตัดสินใจนาน ในขณะที่บางมณฑลได้มีเงินชดเชยให้กับบริษัทที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาไปได้ เพราะเข้าใจถึงภาวะขาดทุน รัฐบาลท้องถิ่นจึงก็จ่ายชดเชยให้ ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า จีนชวนไทยมาลงทุนก็ต้องมีผลตอบแทนที่คุ้มกัน โดยส่วนใหญ่โรงไฟฟ้าที่จีนใช้ถ่านหินเป็นหลัก
แต่อย่างไรก็ตามในกิจการผลิตไฟฟ้ายังมีสิ่งที่ช่วยไว้ได้คือ ไอน้ำ เพราะไม่มีการควบคุมราคาอย่างค่าไฟฟ้า โดยไอน้ำสหยูเนี่ยนจะขายให้กับผู้ผลิตในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง
" การลงทุนที่จีนจะเพิ่มขึ้นอีกตามความเหมาะสม ล่าสุดรัฐบาลจีนก็เปิดให้เอกชนเข้าถือหุ้นมากขึ้น เรียกว่ายูนนานเพาเวอร์ ยูนนานเอ็นเนอร์ยี่ เหล่านี้จะเหมือนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรืออีแกตของไทย ซึ่งหนึ่งมณฑลของจีนก็เท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศ ก็มาขอถือหุ้นโรงไฟฟ้า 2 โรง โดยเข้ามาเทคโอเวอร์จากรัฐบาลท้องถิ่นไป เวลานี้ก็มาขอให้สหยูเนี่ยนไปลงทุนในโฮลดิ้งคัมพานีของเขา โดยถือหุ้น 25% ซึ่งใน 25%นั้นเขามีโฮโดรเพาเวอร์จำนวนมากในยูนนาน นั่นก็เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่อาจจะเข้าไปมีบทบาท หรือต่อไปจะทำอะไรเป็นโครงการไปก็ได้ ขณะเดียวกันการทำโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำอยู่แล้วก็ต้องปรับปรุงทางด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ไม่มีปัญหามลภาวะ หรือสิ่งแวดล้อม หากตรงนี้ไม่มีปัญหารัฐบาลจีนต้องสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินมากกว่า"
ส่วนการลงทุนของสหยูเนี่ยนในประเทศไทยเวลานี้การลงทุนจะไปเน้นที่การปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าการขยายกำลังผลิต เพราะการขยายกำลังผลิตปกติแล้วต้องดูหลายอย่างประกอบ บางทีเศรษฐกิจโตช้าก็ผลิตได้ไม่เต็มกำลังผลิต แต่ว่าจะก็ต้องลงทุนปรับปรุงลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพสินค้า ดังนั้นในขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงการขยายกำลังผลิต แต่เราจะใช้กำลังผลิตให้ได้เต็มที่ก่อน โดยรายได้ของสหยูเนี่ยนมีหลากหลาย หลักๆจะมาจากกลุ่มธุรกิจ โลหะ พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ ถัดมาจะเป็นกลุ่มพลังงานที่จะเป็นแหล่งรายได้ที่ดีในระยะยาว
'สหยูเนี่ยน'ฟุ้งลงทุนแดนมังกรไปโลด Dulwichให้แฟรนไซน์ตั้งร.ร.ทั่วจีน
สหยูเนี่ยนยิ้มร่า Dulwich College Londonพอใจความร่วมมือในกิจการโรงเรียนนานาชาติล่าสุดให้แฟรนไซน์ อะกรีเม้นท์ สหยูเนี่ยนลงทุนได้ทุกมณฑลในจีนแล้ว ขณะที่กิจการผลิตไฟฟ้าในยุคราคาถ่านหินพุ่งรัฐบาลท้องถิ่นหันมาหนุนมากขึ้นแล้ว
ดร.อำนวย วีรวรรณ ประธานกรรมการบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงความเคลื่อนไหวของการลงทุนหลักๆในกิจการผลิตไฟฟ้า และกิจการโรงเรียนนานาชาติในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ขณะนี้กิจการเปิดโรงเรียนนานาชาติที่จีน กำลังดำเนินไปได้ดี โดยเฉพาะที่เซียงไฮ้ที่ดำเนินการได้แล้ว โดยภายใน 1-2 เดือนนี้จะมีปริมาณนักเรียนเข้ามาเต็มที่กว่า 700 กว่าคน ตรงนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่นที่จะต้องขยายกิจการมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา Dulwich College Londonเจ้าของหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน พอใจในความร่วมมือที่ทำอยู่ในประเทศจีนมาก โดยจะให้แฟรนไซน์ อะกรีเม้นท์กับกิจการโรงเรียนนานานชาติกับสหยูเนี่ยนในประเทศจีน โดยจะไปเปิดที่มณฑลไหนก็ได้ที่ลงทุน ซึ่งเวลานี้ทางสหยูเนี่ยนกำลังดูอยู่ว่าจะเปิดที่ไหนได้อีก จากที่มีอยู่แล้วที่ซูโจว เซียงไฮ้และที่ปักกิ่ง
สำหรับธุรกิจการศึกษาที่รุกเข้าสู่กิจการโรงเรียนนานาชาตินั้น ได้ใบอนุญาติ(ไลเซนส์) ด้านหลักสูตร ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน และตารางการสอน จาก Dulwich College London ซึ่งมีมูลนิธิเป็นเจ้า โดยดึงสหยูเนี่ยน อินเวสเม้นท์ (ไซน่า) จำกัด บริษัทผู้ลงทุนของกลุ่มสหยูเนี่ยนในจีนแตกบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อมาบริหารจัดการธุรกิจ โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งขณะนี้มีการลงทุนอยู่แล้วทั้งหมด 3 แห่ง ที่ตั้งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ (ดำเนินการแล้ว) ปักกิ่ง(ดำเนินการแล้ว) และซูโจว (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) และพร้อมเปิดสอนได้ปี2006 โดยทั้ง3แห่ง มีระดับการศึกษาตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมปีที่9 ค่าเล่าเรียนเฉลี่ย/หัว18,000-20,000เหรียญดอลล่าร์/ปีในอนาคตจะเปิดในระดับมัธยมปลาย ต่อไป
ส่วนธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้น ตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้นโยบายเรื่องค่าไฟฟ้าก็ค่อนข้างจะลงตัวแล้วว่า ถ้าราคาถ่านหินยังสูงขึ้นไปอีกซึ่งขณะนี้ราคาเฉลี่ยนทั้งปีอยู่ที่ ประมาณ 33 เหรียญ/ตันนั้น รัฐบาลในแต่ละท้องถิ่นของจีนจะปรับราคาค่าไฟฟ้าให้ เพื่อให้เกิดความสมดุลกับต้นทุนด้านถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้นมากในวลานี้ ทำให้กลไกการทำงานเริ่มเร็วขึ้น หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วราคาถ่านหินแพงขึ้น และมีผลกระทบต่อกิจการผลิตไฟฟ้าของกลุ่มสหยูเนี่ยน เนื่องจากนโยบายในเรื่องราคาค่าไฟฟ้าในช่วงนั้นรัฐบาลจีนยังไม่มีการกำหนดราคาค่าไฟฟ้า ทัง้ที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นรัฐบาลจีนควรจะปรับราคากระแสไฟฟ้าตามต้นทุนด้านถ่านหินได้ทันที แต่รัฐบาลก็ใช้เวลาตัดสินใจนาน ในขณะที่บางมณฑลได้มีเงินชดเชยให้กับบริษัทที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาไปได้ เพราะเข้าใจถึงภาวะขาดทุน รัฐบาลท้องถิ่นจึงก็จ่ายชดเชยให้ ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า จีนชวนไทยมาลงทุนก็ต้องมีผลตอบแทนที่คุ้มกัน โดยส่วนใหญ่โรงไฟฟ้าที่จีนใช้ถ่านหินเป็นหลัก
แต่อย่างไรก็ตามในกิจการผลิตไฟฟ้ายังมีสิ่งที่ช่วยไว้ได้คือ ไอน้ำ เพราะไม่มีการควบคุมราคาอย่างค่าไฟฟ้า โดยไอน้ำสหยูเนี่ยนจะขายให้กับผู้ผลิตในนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง
" การลงทุนที่จีนจะเพิ่มขึ้นอีกตามความเหมาะสม ล่าสุดรัฐบาลจีนก็เปิดให้เอกชนเข้าถือหุ้นมากขึ้น เรียกว่ายูนนานเพาเวอร์ ยูนนานเอ็นเนอร์ยี่ เหล่านี้จะเหมือนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยหรืออีแกตของไทย ซึ่งหนึ่งมณฑลของจีนก็เท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศ ก็มาขอถือหุ้นโรงไฟฟ้า 2 โรง โดยเข้ามาเทคโอเวอร์จากรัฐบาลท้องถิ่นไป เวลานี้ก็มาขอให้สหยูเนี่ยนไปลงทุนในโฮลดิ้งคัมพานีของเขา โดยถือหุ้น 25% ซึ่งใน 25%นั้นเขามีโฮโดรเพาเวอร์จำนวนมากในยูนนาน นั่นก็เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่อาจจะเข้าไปมีบทบาท หรือต่อไปจะทำอะไรเป็นโครงการไปก็ได้ ขณะเดียวกันการทำโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทำอยู่แล้วก็ต้องปรับปรุงทางด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ไม่มีปัญหามลภาวะ หรือสิ่งแวดล้อม หากตรงนี้ไม่มีปัญหารัฐบาลจีนต้องสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินมากกว่า"
ส่วนการลงทุนของสหยูเนี่ยนในประเทศไทยเวลานี้การลงทุนจะไปเน้นที่การปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าการขยายกำลังผลิต เพราะการขยายกำลังผลิตปกติแล้วต้องดูหลายอย่างประกอบ บางทีเศรษฐกิจโตช้าก็ผลิตได้ไม่เต็มกำลังผลิต แต่ว่าจะก็ต้องลงทุนปรับปรุงลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพสินค้า ดังนั้นในขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงการขยายกำลังผลิต แต่เราจะใช้กำลังผลิตให้ได้เต็มที่ก่อน โดยรายได้ของสหยูเนี่ยนมีหลากหลาย หลักๆจะมาจากกลุ่มธุรกิจ โลหะ พลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ ถัดมาจะเป็นกลุ่มพลังงานที่จะเป็นแหล่งรายได้ที่ดีในระยะยาว
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 57
" ในช่วงที่ผ่านมา Dulwich College Londonเจ้าของหลักสูตร และตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน พอใจในความร่วมมือที่ทำอยู่ในประเทศจีนมาก โดยจะให้แฟรนไซน์ อะกรีเม้นท์กับกิจการโรงเรียนนานานชาติกับสหยูเนี่ยนในประเทศจีน โดยจะไปเปิดที่มณฑลไหนก็ได้ที่ลงทุน ซึ่งเวลานี้ทางสหยูเนี่ยนกำลังดูอยู่ว่าจะเปิดที่ไหนได้อีก จากที่มีอยู่แล้วที่ซูโจว เซียงไฮ้และที่ปักกิ่ง"
มีอยู่แล้ว 3 ที่ซูโจว เซียงไฮ้และที่ปักกิ่ง ........................
ยังอนุญาตให้เปิดที่มณฑลไหนก็ได้อีก !!!!!
ตัวคูณเครื่องปั๊มเงินสดคงจะทํางานหนักกว่านี้อีกในอนาคต !!!!
มีอยู่แล้ว 3 ที่ซูโจว เซียงไฮ้และที่ปักกิ่ง ........................
ยังอนุญาตให้เปิดที่มณฑลไหนก็ได้อีก !!!!!
ตัวคูณเครื่องปั๊มเงินสดคงจะทํางานหนักกว่านี้อีกในอนาคต !!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
SUC Strike Back
โพสต์ที่ 60
โค้ด: เลือกทั้งหมด
"เราซื้อได้ราคาต่ำกว่าตลาดประมาณ 50 หยวนต่อตัน โดยปัจจุบันราคาถ่านหินราคา 500 หยวนต่อตัน ดังนั้นถ้าเราซื้อปีละ 8 แสนตัน ผมสามารถประหยัดได้ 40 ล้านหยวนต่อปี" นายจงคุยถึงสายสัมพันธ์ส่วนตัวกับเหมืองถ่านหิน
คิดถึง ums นำเข้าถ่านหิน ปีละ 5 หมื่นตันนี่เด็กๆไปเลย
อืม การเล่นหุ้นพักหลังๆนี่ เน้นไม่ขาดทุน ผมคิดว่า SUC เป็นหุ้นที่ไม่ขาดทุนตัวหนึ่ง เพราะเทรดต่ำกว่า book มาก
ที่สำคัญคือซุ่มเงียบจริงๆ ทำไมพวกเราเพิ่งมาเห็น ยังดีนะที่เห็นแต่เนิ่นๆ
คิดูนะ ลงทุนเพิ่ม โดยไม่ต้องเพิ่มทุน หน้าเบื่อพวกบริษัทโครงการแจ่ม แต่เรียกเงินผู้ถือหุ้น ประจำ
แจกร์วอร์ ดันราคาหุ้น แล้วให้คนทำอาบิทาจ โดยการ ซื้อวอร์ไปแปลง แลกกับอนาคตที่อาจจะดี
แต่ SUC วันนี้พิสูจน์ตัวเอง แล้วว่าดี โดยไม่ต้อรบกวนผู้ถือหุ้น
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เนื่องจากมองเห็นโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังขยายตัว โดยปี 2547 สินทรัพย์หรือเงินลงทุนรวมในจีนอยู่ที่ 4,700 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทย 23,500 ล้านบาท แซงหน้าสินทรัพย์ในประเทศไทยที่มีประมาณ 20,000 ล้านบาท