พวกเราอยู่กลุ่มไหน
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 122
ขอบคุณครับ ผมพึ่งได้อ่านเรื่องนี้วันนี้เอง และ สรุปในใจความที่สำคัญคือ "บางส่วนงานอยู่ในขั้นตอนการเจรจาตกลงเพื่อหาข้อยุติ บางส่วนงานมีประเด็นปัญหาที่ต้องหาหนทางแก้ไขและประสานงานเพื่อรวบรวมข้อมูลแวดล้อมต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา"......นี่แหละที่ทำให้ต้องรอกันต่อไป จะรออีกนานไหมหนอ เรื่องสิ่งแวดล้อมไม่น่ามีปัญหา เพราะรัฐบาลบอกให้ดำเนินงานต่อไปได้แล้ว ไม่ต้องรออนุมัติจากสิ่งแวดล้อมแล้ว ก้าวต่อไปเถอะครับ ก้าวเร็วๆ หน่อย ไม่งั้นผู้ถือหุ้นก็ต้องรอต่อไปเรื่อย ๆ สงสารพวกที่ลงทุนด้วยเงินที่จำกัด อยากเห็นผลเร็ว ๆ จะอดทนรอไม่ได้ซิครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 124
เป็นคำถามที่ตอบยากมาก. เพราะหุ้นในกลุ่มนี้ได้ขึ้นมามากทีเดียว. แต่ผมเชื่อว่ากิจการทุกแห่งยังสามารถทำกำไรได้ดีอยู่. ปัญหาคือปันผลให้น้อยมากและPEก็อยู่ระดับสูงมาก. คนรุ่นผมพวก baby boomers. ถึงเวลาต้องใช้บริการแล้ว. ความต้องการมีมาก. และพวกกลุ่มนี้ทำงานมามากก็คงมีเงินพอที่จะจ่ายได้. ผมก็คิดว่าน่าจะโตได้อีกประกอบกับในภาคบริการประเทศเราเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ รัฐบาลก็หาทางช่วยในกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรมอยู่. ก็ยังคิดว่าน่าจะลงทุนดีอยู่. แต่ราคาหุ้นได้ขึ้นมาสูงพอควรเราจะยอมรับกันได้ไหมนี่คือปัญหาที่ต้องคิด. แต่ผมสู้นะครับ....ตอนนี้ผมลงทุนในหุ้นเกือบหมดแล้ว..รอเงินปันผลที่จะได้รับในอีก. 2. เดือนข้างหน้ามาสู้กันต่อไปเพราะผมคิดว่าฝากธนาคารหรือตราสารหนี้ยังให้ผลตอบแทนในระดับต่ำอยู่ครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 125
ขอบคุณมากครับลุงขวดลุงขวด เขียน:เป็นคำถามที่ตอบยากมาก. เพราะหุ้นในกลุ่มนี้ได้ขึ้นมามากทีเดียว. แต่ผมเชื่อว่ากิจการทุกแห่งยังสามารถทำกำไรได้ดีอยู่. ปัญหาคือปันผลให้น้อยมากและPEก็อยู่ระดับสูงมาก. คนรุ่นผมพวก baby boomers. ถึงเวลาต้องใช้บริการแล้ว. ความต้องการมีมาก. และพวกกลุ่มนี้ทำงานมามากก็คงมีเงินพอที่จะจ่ายได้. ผมก็คิดว่าน่าจะโตได้อีกประกอบกับในภาคบริการประเทศเราเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ รัฐบาลก็หาทางช่วยในกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรมอยู่. ก็ยังคิดว่าน่าจะลงทุนดีอยู่. แต่ราคาหุ้นได้ขึ้นมาสูงพอควรเราจะยอมรับกันได้ไหมนี่คือปัญหาที่ต้องคิด. แต่ผมสู้นะครับ....ตอนนี้ผมลงทุนในหุ้นเกือบหมดแล้ว..รอเงินปันผลที่จะได้รับในอีก. 2. เดือนข้างหน้ามาสู้กันต่อไปเพราะผมคิดว่าฝากธนาคารหรือตราสารหนี้ยังให้ผลตอบแทนในระดับต่ำอยู่ครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 126
เมื่อวาน 25/3/59 โชคดีได้มีโอกาสไปกิจการรของผู้ถือหุ้นของ AOT ได้ไปชมสนามบินเชียงใหม่และได้เข้าไปฟังคำอธิบายและถามตอบเกี่ยวกับกิจการบริษัท สิ่งที่ได้คือ
1. เขามีเป้าหมายรายได้ปี 59 น่าจะมีรายได้รวม 50369 ล้าบบาท ซึ่งก็เท่ากับอยากให้โตได้ 10.04% รายได้ปี 58 ได้รวม 45773 ล้านบาท และในปี 59 นี้ อัตราส่วน aero กับ non-aero คือ 56 ต่อ 41 และเป้าหมายรายได้ในปี 2560-2561-2562 จะโต 9.38% 3.57% และ 2.08% ทุกคนก็หวังความก้าวหน้าจะทำให้บรรลุเป้าหมายไปเรื่อย ๆ แต่จะสังเกตุว่า เขาวางเป้าหมายการเติบโต น้อย ลง เรื่อย ๆ เวลาบริษัทโตขึ้น ก็ลำบากที่จะพยายามรักษาระดับการเติบโตให้เหมือนเดิม ประจวบกับผมว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มถดถอย เราต้องเตรียมตัวกับอนาคตต่อไป
2.โดยรวมแล้วเขาเห็นการเติบโตจาก aero น่าจะอยู่ในระดับ 10% และ non-aero อยู่แถว 13% ทางด้าน aero ที่สนามบินเชียงใหม่ มีการเพิ่มขึ้นมากเพราะได้รับนักทางเที่ยวทางจีนที่เข้ามามากและมีหลายสายการบินจีนที่บินมาลงที่เชียงใหม่ ในปี 2555 มีนักท่องเที่ยนจีนแค่ 72,349 คนเอง แต่ในปี 2558 มีถึง 1.125 ล้านคน นับว่าทางจีนมามากที่สุด ซึ่งก็ตรงกับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศเรามากที่สุด ที่ทำรายได้ให้กํบประเทศในหลาย ๆ ด้าน แต่เศรษฐกิจของจีนก็เริ่มมีการเติบโตน้อยลง เขาจะมาเที่ยวประเทศเราเหมือนเดิมหรือเปล่า นี่คือปัญหาที่ต้องคิด และ พยายามทำอย่างไรให้กิจการท่องเทียวของเราเพิ่มมากขึ้น ผมเชื่อในประเทศที่มีกิจการบริการของเราดีมากและสู้เขาได้
3.ทางด้าน non-aero ของ AOT ก็อยู่ในระดับ กว่า 40% ผมชอบในส่วนนี้ มีรายได้จากค่าเช่าเป็นส่วนใหญ่ และรายได้จากส่วนแบ่งของยอดขาย ซึ่งส่วนนี้น่าจะมีความมั่นคงมากกว่า ผมชอบในส่วนนี้ หากินจากคนรวยง่ายกว่าหากินจากคนจนนะครับ ทุนนิยมก็แบบนี้แหละ
4.เกี่ยวกับ AOT ผมได้คุยกับเพื่อน ๆ เขาพูดถึงคณะกรรมการบริษัทที่บริหารอยู่ ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาล กระทรวงการคลังถือหุ้น 70% แต่ส่งคนมาบริหารทั้งทั้งหมด รายย่อยไม่สามารถที่จะขอเสนอให้ใครเป็นกรรมการได้ และในการประชุม AGM คราวที่แล้ว มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาคุยกับผม เขาอยากให้มีกรรมการจากรายย่อยบ้าง เขาไม่อยากให้เป็นของรัฐบาลทั้งหมด ดูแล้วก็ต้องติดตามและสนับสนุนความคิดนี้ต่อไป การจะได้คนดีทำงานในห AOT ต้องช่วย ๆ กันหน่อย คนดีคือคนที่ต้องการทำงานให้ประโยชน์แก่บริษัทมากที่สุด อย่าให้เกิดค่าใช้จ่ายมากเกินไป อย่างเช่นการบินไทยในอดีตที่รัฐ ส่งคนมาบริหารและคนบริหารก็ส่งครอบครัวและญาติมาทำด้วย จนควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ได้ ทำให้กิจการของบริษัทต้องแย่ลง ผมได้หุ้นจองของ THAI แค่ 200 หุ้นต้องจัดสรรกันมา และมีการเพิ่มทุนตอนหลังที่ 31 บาท จนกระทั้งราคาหุ้นเหลือแถว 8 บาท ผมหลุดได้เพราะไปซื้อที่ราคาต่ำแถว 8 บาท แต่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากมาเฉลี่ย ตอนนี้ก็กลับมาเหลือ 200 หุ้นในราคาถูกแล้ว ไว้ติดตามและสนุกกับการลงทุนต่อไป.....ส่วนราคาหุ้นของ AOT ที่ PE เกือบ 30 เท่า ก็นับว่ายังแพงอยู่ ใครอยากได้ก็ตัดสินใจกันเองนะครับ
โดยรวมแล้ว AOT เป็นหุ้นดีในระยะยาว ก็ขอให้ควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีงบการเงินที่ดีและมีการขยายไปเรื่อย ๆ เพื่ออนาคตของประเทศและหุ้น AOT กันต่อไป โชคดีในการลงทุนนะครับ
1. เขามีเป้าหมายรายได้ปี 59 น่าจะมีรายได้รวม 50369 ล้าบบาท ซึ่งก็เท่ากับอยากให้โตได้ 10.04% รายได้ปี 58 ได้รวม 45773 ล้านบาท และในปี 59 นี้ อัตราส่วน aero กับ non-aero คือ 56 ต่อ 41 และเป้าหมายรายได้ในปี 2560-2561-2562 จะโต 9.38% 3.57% และ 2.08% ทุกคนก็หวังความก้าวหน้าจะทำให้บรรลุเป้าหมายไปเรื่อย ๆ แต่จะสังเกตุว่า เขาวางเป้าหมายการเติบโต น้อย ลง เรื่อย ๆ เวลาบริษัทโตขึ้น ก็ลำบากที่จะพยายามรักษาระดับการเติบโตให้เหมือนเดิม ประจวบกับผมว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มถดถอย เราต้องเตรียมตัวกับอนาคตต่อไป
2.โดยรวมแล้วเขาเห็นการเติบโตจาก aero น่าจะอยู่ในระดับ 10% และ non-aero อยู่แถว 13% ทางด้าน aero ที่สนามบินเชียงใหม่ มีการเพิ่มขึ้นมากเพราะได้รับนักทางเที่ยวทางจีนที่เข้ามามากและมีหลายสายการบินจีนที่บินมาลงที่เชียงใหม่ ในปี 2555 มีนักท่องเที่ยนจีนแค่ 72,349 คนเอง แต่ในปี 2558 มีถึง 1.125 ล้านคน นับว่าทางจีนมามากที่สุด ซึ่งก็ตรงกับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศเรามากที่สุด ที่ทำรายได้ให้กํบประเทศในหลาย ๆ ด้าน แต่เศรษฐกิจของจีนก็เริ่มมีการเติบโตน้อยลง เขาจะมาเที่ยวประเทศเราเหมือนเดิมหรือเปล่า นี่คือปัญหาที่ต้องคิด และ พยายามทำอย่างไรให้กิจการท่องเทียวของเราเพิ่มมากขึ้น ผมเชื่อในประเทศที่มีกิจการบริการของเราดีมากและสู้เขาได้
3.ทางด้าน non-aero ของ AOT ก็อยู่ในระดับ กว่า 40% ผมชอบในส่วนนี้ มีรายได้จากค่าเช่าเป็นส่วนใหญ่ และรายได้จากส่วนแบ่งของยอดขาย ซึ่งส่วนนี้น่าจะมีความมั่นคงมากกว่า ผมชอบในส่วนนี้ หากินจากคนรวยง่ายกว่าหากินจากคนจนนะครับ ทุนนิยมก็แบบนี้แหละ
4.เกี่ยวกับ AOT ผมได้คุยกับเพื่อน ๆ เขาพูดถึงคณะกรรมการบริษัทที่บริหารอยู่ ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาล กระทรวงการคลังถือหุ้น 70% แต่ส่งคนมาบริหารทั้งทั้งหมด รายย่อยไม่สามารถที่จะขอเสนอให้ใครเป็นกรรมการได้ และในการประชุม AGM คราวที่แล้ว มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาคุยกับผม เขาอยากให้มีกรรมการจากรายย่อยบ้าง เขาไม่อยากให้เป็นของรัฐบาลทั้งหมด ดูแล้วก็ต้องติดตามและสนับสนุนความคิดนี้ต่อไป การจะได้คนดีทำงานในห AOT ต้องช่วย ๆ กันหน่อย คนดีคือคนที่ต้องการทำงานให้ประโยชน์แก่บริษัทมากที่สุด อย่าให้เกิดค่าใช้จ่ายมากเกินไป อย่างเช่นการบินไทยในอดีตที่รัฐ ส่งคนมาบริหารและคนบริหารก็ส่งครอบครัวและญาติมาทำด้วย จนควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ได้ ทำให้กิจการของบริษัทต้องแย่ลง ผมได้หุ้นจองของ THAI แค่ 200 หุ้นต้องจัดสรรกันมา และมีการเพิ่มทุนตอนหลังที่ 31 บาท จนกระทั้งราคาหุ้นเหลือแถว 8 บาท ผมหลุดได้เพราะไปซื้อที่ราคาต่ำแถว 8 บาท แต่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมากมาเฉลี่ย ตอนนี้ก็กลับมาเหลือ 200 หุ้นในราคาถูกแล้ว ไว้ติดตามและสนุกกับการลงทุนต่อไป.....ส่วนราคาหุ้นของ AOT ที่ PE เกือบ 30 เท่า ก็นับว่ายังแพงอยู่ ใครอยากได้ก็ตัดสินใจกันเองนะครับ
โดยรวมแล้ว AOT เป็นหุ้นดีในระยะยาว ก็ขอให้ควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีงบการเงินที่ดีและมีการขยายไปเรื่อย ๆ เพื่ออนาคตของประเทศและหุ้น AOT กันต่อไป โชคดีในการลงทุนนะครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 127
ไปหนึ่งวันได้ความรู้. 3. หุ้น. จากการไปเชียงใหม่. ผมได้ความรู้ของกิจการ IFEC ที่ไปซื้อโรงแรม ดาราเทวี. เพราะเขาพาไปทานอาหารที่ห้อง Le Grand Lanna ของโรงแรมแห่งนี้ และใช้ห้องประชุมของที่นี่ในการสรุปและบรรยายกิจการของเขา. นี่เป็นหุ้นตัวที่สองที่ผมพอเข้าใจ หลังทานอาหารและฟังคำบรรยาย ผมรีบตรงไปฝ่ายต้อนรับของโรงแรมแห่งนี้เลย และคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกมี 123 ห้อง เป็นแบบหลัง ๆ และที่ติดกัน เธอไม่ให้เข้าไปดูเพราะให้เฉพาะลูกค้า ผมทราบว่า โรงแรมนี้โดนประนอมหนี้ และทาง IFEC มาซื้อไป เขาบอกเจ้าของเดิมอยากให้อยู่ในมือคนไทย มีต่างชาติจ้องจะซื้ออยู่ ผมได้เห็นของเก่า ๆ ของภาคเหนืออยู่ที่นี่ เรือนเก่า ๆ และ การใช้ไม้ดั้งเดิมแผ่นใหญ่ ๆ เสาใหญ่ ๆ มาประกอบซึ่งไม่มีทางจะทำได้ในเวลานี้ ของเก่าของมีค่าของลานนา ไทย อยู่ที่นี่ จริงแล้วผมก็พึ่งซื้อหุ้น IFEC เองและเริ่มมีกำไรจากการลงทุนนิดหน่อย ซื้อไม่มาก เพราะกิจการพลังงานทดแทนของเขายังทำได้น้อยอยู่ แต่ก็มีความมั่นคง กิจการโรงแรมผมถามเขาว่ามีกำไรหรือยัง เจ้าหน้าที่ไม่ยอมตอบ ผมเลยถามใหม่ว่า ได้รับ bonus ไหม เธอบอกว่า ได้รับ แสดงว่า คงมีกำไร แต่ดูจากงบยังขาดทุนอยู่ ก็คงเลี้ยงพนักงานและรักษาความเป็นโรงแรมดั้งเดิมเก่าแก่ของเราให้อยู่ต่อไป เธอบอกห้องพักสำหรับต่างชาติอยู่ที่คืนละ 21000 บาท (พัก 2คน) ส่วนของคนไทยคิดคืนละ 11000 บาท น่าอยู่นะครับถ้าต้องการบรรยากาศดั่งเดิม การบริการดี อาหารก็อร่อยด้วย เขาว่ามีที่ดินรอบด้านว่างเปล่าอยู่ด้วย ไม่รู้จะเป็นของ IFEC รวมอยู่หรือเปล่า ถ้าได้ด้วยก็นับว่า เป็นการซื้อที่ราคาไม่แพงเลย ก็ติดตามหุ้น IFEC ต่อไปนะครับ (ผมมีแค่ระดับไม่กี่หมื่นหุ้นเอง สนุกกับการศึกษาและลงทุนครับ)
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 129
สวัสดีครับลุงขวด ผมมีข้อสงสัยว่าถ้าไทยนครินทร์สร้างตึกขึ้นมาใหม่ตรงที่ดินที่ชนะคดีมาจะทำให้รพโดนค่าเสื่อมไปเยอะมั้ยครับถึงแม้จะบริหารแบบconservativeมากๆแต่ยังไงก็ต้องซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่ม รับพน้กงานเพิ่มอยู่ดีใช่มั้ยครับแต่อาจจะbreak even เร็วหน่อย รบกวนช่วยชี้แน่ะด้วยครับ ขอบคุณครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 130
ผู้บริหารเก่งนะครับ เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงแรม Landmark การสร้างโรงพยาบาล ก็ เหมือนกับการสร้างโรงแรมนั่นแหละ มี ห้องสำหรับพักของคนป่วย ก็ เหมือนกับห้องพักของนักท่องเที่ยวกัน แต่ตรงกันข้าม คนพักมีสุข อีกฝ่ายคนพักมีทุกข์ โลกก็เป็นแบบนี้ มีสิ่งตรงข้ามกันเสมอ พระเลยสอนให้เดินสายกลางดีที่สุด ไม่ทุกข์ ไม่สุข เดินสายกลางไปเรื่อยๆ ..... สร้างโรงพยาบาลก็คงใช้เงินระดับสัก พันล้านบาท ที่แพงก็คงอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์นั่นแหละ เขาเคยบอกว่า ถ้าหากจะเพิ่มทุนก็ต้องให้ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นเต็มที่ เขามีเงินสดสะสมมากพอควร เอาไว้ทำสัญญาใหม่ที่จะจ่ายให้แก่สภากาชาดในปี 2561 ผมคิดว่าคงไม่มากเท่าไหร่ ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มเมื่อไรก็ต้องดูลูกค้าและบริการห้องว่าใกล้จะเต็มหรือยัง ดูแล้วตอนนี้ผมว่า ยังมีเหลืออยู่นะ ผมไม่ได้ตามเรื่องนี้ ผมเห็นการเติบโตดี เพราะ เขาเอาหมอเก่ง ๆ มาประจำ และให้ความรู้ทุกปีหลังการประชุมในโรคต่าง ๆ หลังสุดก็ โรคหัวใจ อุปกรณ์ทำ balloon ที่ซึ้อมารุ่นใหม่ที่สุด และบอกว่าในเขตแถวบางนาและบริเวณรอบข้าง ๆ ไม่มีคู่แข่งมากเท่าไหร่ และราคาที่ดินที่ซื้อไว้มีสัญญาซื้อขายที่ถูกมาก แล้วจะกลัวไปใย กับการลงทุนในหุ้นตัวนี้ เพราะเติบโตทุกปี แต่ปันผลน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ก็มีค่า ระดับผลตอบแทนปันผล ที่สูง และ ค่า P/E ที่ต่ำสุด ในกลุ่ม โรงพยาบาล ตอนนี้ผมลงทุนหุ้นตัวนี้มากเป็นอันดับที่ 4 ของผมแล้วครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ และ ต้องใช้ความคิดเองว่าจะลงทุนกับเขาไหมอย่าเชื่อผมนะครับ เพราะการลงทุนแต่ละคนมันแตกต่างกัน ผมลงทุนในหุ้นที่มั่นคงและยาว และต้องมีผู้บริหารที่ดีด้วย.....kur2519 เขียน:สวัสดีครับลุงขวด ผมมีข้อสงสัยว่าถ้าไทยนครินทร์สร้างตึกขึ้นมาใหม่ตรงที่ดินที่ชนะคดีมาจะทำให้รพโดนค่าเสื่อมไปเยอะมั้ยครับถึงแม้จะบริหารแบบconservativeมากๆแต่ยังไงก็ต้องซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่ม รับพน้กงานเพิ่มอยู่ดีใช่มั้ยครับแต่อาจจะbreak even เร็วหน่อย รบกวนช่วยชี้แน่ะด้วยครับ ขอบคุณครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 131
ขอบคุณครับลุงขวด เขียน:ผู้บริหารเก่งนะครับ เพราะเขาเป็นเจ้าของโรงแรม Landmark การสร้างโรงพยาบาล ก็ เหมือนกับการสร้างโรงแรมนั่นแหละ มี ห้องสำหรับพักของคนป่วย ก็ เหมือนกับห้องพักของนักท่องเที่ยวกัน แต่ตรงกันข้าม คนพักมีสุข อีกฝ่ายคนพักมีทุกข์ โลกก็เป็นแบบนี้ มีสิ่งตรงข้ามกันเสมอ พระเลยสอนให้เดินสายกลางดีที่สุด ไม่ทุกข์ ไม่สุข เดินสายกลางไปเรื่อยๆ ..... สร้างโรงพยาบาลก็คงใช้เงินระดับสัก พันล้านบาท ที่แพงก็คงอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์นั่นแหละ เขาเคยบอกว่า ถ้าหากจะเพิ่มทุนก็ต้องให้ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นเต็มที่ เขามีเงินสดสะสมมากพอควร เอาไว้ทำสัญญาใหม่ที่จะจ่ายให้แก่สภากาชาดในปี 2561 ผมคิดว่าคงไม่มากเท่าไหร่ ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มเมื่อไรก็ต้องดูลูกค้าและบริการห้องว่าใกล้จะเต็มหรือยัง ดูแล้วตอนนี้ผมว่า ยังมีเหลืออยู่นะ ผมไม่ได้ตามเรื่องนี้ ผมเห็นการเติบโตดี เพราะ เขาเอาหมอเก่ง ๆ มาประจำ และให้ความรู้ทุกปีหลังการประชุมในโรคต่าง ๆ หลังสุดก็ โรคหัวใจ อุปกรณ์ทำ balloon ที่ซึ้อมารุ่นใหม่ที่สุด และบอกว่าในเขตแถวบางนาและบริเวณรอบข้าง ๆ ไม่มีคู่แข่งมากเท่าไหร่ และราคาที่ดินที่ซื้อไว้มีสัญญาซื้อขายที่ถูกมาก แล้วจะกลัวไปใย กับการลงทุนในหุ้นตัวนี้ เพราะเติบโตทุกปี แต่ปันผลน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ก็มีค่า ระดับผลตอบแทนปันผล ที่สูง และ ค่า P/E ที่ต่ำสุด ในกลุ่ม โรงพยาบาล ตอนนี้ผมลงทุนหุ้นตัวนี้มากเป็นอันดับที่ 4 ของผมแล้วครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ และ ต้องใช้ความคิดเองว่าจะลงทุนกับเขาไหมอย่าเชื่อผมนะครับ เพราะการลงทุนแต่ละคนมันแตกต่างกัน ผมลงทุนในหุ้นที่มั่นคงและยาว และต้องมีผู้บริหารที่ดีด้วย.....kur2519 เขียน:สวัสดีครับลุงขวด ผมมีข้อสงสัยว่าถ้าไทยนครินทร์สร้างตึกขึ้นมาใหม่ตรงที่ดินที่ชนะคดีมาจะทำให้รพโดนค่าเสื่อมไปเยอะมั้ยครับถึงแม้จะบริหารแบบconservativeมากๆแต่ยังไงก็ต้องซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่ม รับพน้กงานเพิ่มอยู่ดีใช่มั้ยครับแต่อาจจะbreak even เร็วหน่อย รบกวนช่วยชี้แน่ะด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 132
สวัสดีปีใหม่ไทยสงกรานต์ครับ ลุงขวดสบายดีนะครับ เห็นคุยกันกลุ่มโรงพยาบาล ยินดีกับม้า TNH ด้วยนะครับ
วันก่อนได้อ่านบทความเรื่อง Majic Formula ของดร.นิเวศน์ เลยลองไปทำเปรียบเทียบจัดอันดับกลุ่มโรงพยาบาลมา ใช้ข้อมูลจากเวป Settrade และ เวป Set วันที่ 12/04 ปิดสงกรานต์ แต่อันนี้มันเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ แต่ละโรงพยาบาลก็มีโมเดลธุรกิจไม่เหมือนกัน ถ้าสนใจโรงพยาบาลไหนคงต้องไปตามดูข้อมูลเชิงคุณภาพกันต่อครับ
วันก่อนได้อ่านบทความเรื่อง Majic Formula ของดร.นิเวศน์ เลยลองไปทำเปรียบเทียบจัดอันดับกลุ่มโรงพยาบาลมา ใช้ข้อมูลจากเวป Settrade และ เวป Set วันที่ 12/04 ปิดสงกรานต์ แต่อันนี้มันเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ แต่ละโรงพยาบาลก็มีโมเดลธุรกิจไม่เหมือนกัน ถ้าสนใจโรงพยาบาลไหนคงต้องไปตามดูข้อมูลเชิงคุณภาพกันต่อครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 134
เมื่อวานได้มีโอกาสไปประชุมผู้ถือหุ้น wiik. ชึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นหุ้น turnaround. ได้หลังจากเปลี่ยนเจ้าของใหม่เมื่อต้นปี2558 บรรยากาศในการประชุมดีพอควร ดูผลการดำเนินงานปี2558 ก็ดีขึ้นแถมมีปันผลให้ด้วย สรุปได้ว่าถ้าราชการเพิ่มในส่วนของการบริหารจัดการน้ำให้ชุมชนมากขึ้นน่าจะเป็นประโยชน์แก่บริษัทมากขึ้น. ผู้ถือหุ้นใหญ่ส่งเพื่อนมาเป็นกรรมการใหม่ ถ้าทุกท่านมาเพื่อพัฒนาบริษัทก็น่าจะไปได้ด้วยดี. ในที่ประชุมถามถึงผู้ถือหุ้นใหญ่แต่ทางบริษัทไม่ตอบเรื่องที่มาที่ไป ให้คุยนอกรอบ. พอถึงเวลานอกรอบก็ไม่พบท่านเสียแล้ว ยังดีที่ท่านประธาน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง (นักบอลในยุคผม). หยุดคุยด้วยเลยได้ความรู้เพิ่มขึ้นบ้าง ท่านทำที่นี่ได้ 3ปีแล้ว พยายามพลักดันท่อให้ใช้ในการประปาภูมิภาคได้บ้าง แต่ประปาในกรุงเทพและปริมณฑลลำบากหน่อย ก็สู้กันต่อไป. ผมยังไม่มั่นใจกับการลงทุนหุ้นตัวรอ ต้องรอไปชมโรงงานและพบผู้บริหารมากกว่านี้จึงจะตอบได้ว่าจะดีหรือไม่
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 135
ใส่ชื่อหุ้นตัวไหนในกลุ่มก็ได้ครับ แล้วคลิ๊กแทปลำดับในอุตสาหกรรมครับCarpediem เขียน:คุณkaiser รบกวนแนะนําว่านำข้อมูลตารางข้างบนจากsettrade ได้ยังงัยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
http://www.settrade.com/C04_08_stock_se ... Symbol=NTV
เลือกจัดลำดับตาม P/E ผม copy มา แล้วข้อมูลส่วนเพิ่มก็ใส่เพิ่มเติมเอาเอง
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 136
วันที่ 25/4/59 ได้ไป AGM หุ้น arrow. คุณธานินทร์ มั่นใจว่า รักษา GM. และ NM. ระดับ เลข 2 หลัก. แต่ในที่ประชุม เค้นให้รักษาบรรทัดสุดท้าย NP เหมือนเดิมที่20% เขาบอกจะพยายามแต่รู้สึกจะเป็นงานหนักเพราะราคาเหล็กปีนี้ขึ้นมาแล้ว20%. อย่างไรก็ตามยอดขายก็พยายามให้เพิ่มตามที่บอกใน opp day น่าจะได้ 15%. ผมขอเขานอกรอบขอยอดขายเพิ่ม 20% และกำไรสุทธิที่ 20% งานหินจริงๆที่ขอให้เขาทำ. ติดตามกันต่อไป ปีนี้ยอดขายจะโตจากบริษัมย่อย และท่อร้อยสายไฟลงดิน
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 137
วันที่ 26/4/2559ได้มีโอกาสไปประชุมAGM. หุ้น SST. ที่ถือมาตั้งแต่สมัยทำคลังสินค้าและที่สุดรายได้หลังๆนี้จากร้านอาหาร กิจการโดยรวมยังขาดทุนอยู่ ปีนี้ขอให้กิจการอาหารเท่าทุนก็พอใจและสำเร็จแล้ว. แต่อาจจะมีกำไรในไตรมาส 4 เนื่องจากมีเป้าหมายจะเอาบริษัทมัดแมน ซึ่งทำร้านอาหารเข้าตลาด MAI. ถ้าเข้าได้ ก็จะเพิ่มกำไรให้ SST. แต่ต้องดูภาวะตลาดถ้าตลาดดีก็จะเข้าเลย. ผมชอบกิจการอาหารของ greyhound. ที่ไปทำต่างประเทศ ส่วนด้านเสื้อผ้ายังขาดทุนอยู่. กิจการอาหารโดย โอปองแปงที่เน้นทางโรงพยาบาลและสำนักงานก็พอไปได้. ผู้บริหารตั้งใจทำงานดีครับ พวกเขาก็ยังถือหุ้นบริษัทนี้เหมือนเดิมไม่ได้ขายหุ้นออก. มีการต่อว่าจากผู้ถือหุ้นว่าไม่ดูแลหุ้นเลยราคาหุ้นตกมามาก น่าเห็นใจนะ จะให้บริหารงานและให้บริหารหุ้นด้วยหรือนี่. กิจการยังขาดทุนอยู่ราคาหุ้นก็ขาดความสนใจ. ผู้บริหารบอกหุ้นเขาเป็นหุ้นลงทุนระยะยาว. ก็ถือกันต่อไป. เสียดายไม่มีบัตรส่วนลดให้ผู้ถือหุ้นเลยไม่ค่อยได้ไปทานอาหารของเขา. รายได้จากกิจการทุกอย่างโตขึ้น ผมว่าถ้าควบคุมด้านต้นทุนและปิดสาขาที่ขาดทุนและเปิดสาขาในห้างที่คนเดินมากๆก็น่าจะช่วยได้บ้าง สู้กันต่อไปนะครับ ผมคงถือหุ้นของเขาต่อไปเหมือนเดิม
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 138
บ่าย 26/4/2559ได้ไปประชุมหุ้น AYUD. รู้สึกลำบากใจกับกิจการประกันภัยที่มีการแข่งขันสูง และการลงทุนของเงินของเขาที่ได้ผลตอบแทนน้อยลงเรื่อยๆ ผมว่าช่วงนี้กิจการประกันชีวิตและประกันภัยอยู่ในภาวะลำบากทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ บริษัท AYUD เป็นholding company. มีกิจการประกัยภัยเป็นบริษัทย่อย และมีประกันชีวิตของ Allianz . เป็นบริษัทร่วมที่ถือ อยู่ 20.17% ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้. รู้สึกทางประกันชีวิตของเจ้านี้จะเก่งบริหารงานได้ดี. ปีที่แล้วผู้บริหารบอกอยากถือหุ้นเพิ่มในส่วนนี้ ผมคิดว่าฝรั่งคงไม่ขายให้ง่ายๆแน่. หุ้นตัวนี้ผมลงทุนไม่สำเร็จเพราะซื้อในราคาแพง ก็ทนถือต่อไป
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 139
วันที่ 27/4/59 ได้ประชุมหุ้นเก็งกำไรตัวหนึ่งคือ CMO การจัดประชุมพอใช้ได้ คุณเสริมคุณ พยายามทำงานโดยเน้นให้รายได้เฉลี่ยไปทุกไตรมาส แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ กิจการก็ยังโตสุดใน Q4 เท่านั้น ปี 2558 Q1-Q3 ขาดทุน พอ Q4 ก็สามารถทำกำไรให้ กลายเป็นกำไรในที่สุด ผมชอบกิจการของบริษัทย่อยที่ให้เช่าอุปกรณ์ เขาตั้งเป้าหมายรายได้ปี 59 ที่ 1423 ล้านบาท ปี 58 รายได้ 1369 ล้านบาท ...ก็คิดว่าน่าจะทำได้ แต่กำไรซิครับจะทำได้หรือเปล่า ตอนนี้มีงานในมือที่ 777 ล้านบาทแล้ว หาอีก 700 ล้านก็จะเข้าเป้ายอดขายได้ เมื่อต้นปีเดือน ก.พ. มีการเพิ่มทุนที่ 1.65 บาท (ให้สิทธิ 2 หุ้นเดิมได้หุ้นเพิ่มทุนที่ 1.65 บาท จำนวน 1 หุ้น) ราคาตอนเพิ่มทุนก็แถว นั้น เลยมีคนเพิ่มทุนน้อยประมาณ 60% เอง ส่วนเพิ่มทุนที่ได้ก็คงช่วยเรื่องดอกเบี้ยไปบ้างได้ อนาคตเขาจะมีการร่วมทุนกันเพื่อทำการแสดง "หิมพานต์ อวตาร" แถวถนนพระราม 9 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวแถวนั้น (โครงการ 250 ล้านบาท) ซึ่งจะเสร็จในปลายปี ก็เป็นการเกลี่ยรายได้ให้กระจายไป ในส่วนของกิจการ Imaginia Playland ที่เปิดในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ก็โดนต่อว่า ว่าราคาเข้าแพงไป เขาก็ได้เริ่มลดราคาให้บ้างแล้ว สรุปได้ว่า คุณเสริมคุณ สู้งาน และ ยังขยันหางานอยู่แต่จะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป ในภาวะเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำ จะมีการเติบโตกระตุ้นในด้านนี้หรือเปล่า ยังเป็นปัญหาอยู่
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 140
วันที่ 27/4/59 ผมใส่ความรู้สึก silly เพราะเกิดการผิดพลาดในการลงทุน สำหรับหุ้น ILINK ที่ผมไปประชุม มา กิจการดีมาก เคยลงทุนในตอนแรก ๆ ที่กิจการเขาเข้าตลาดใหม่ ๆ เจ้าของ คุณสมบัติ พาไปท่องเรือ ชมการ ลากสาย fiber จากฝั่งไปที่เกาะ จำเกาะไม่ได้แล้ว แต่ก็กว่า 10 ปีแล้ว ตอนนั้นราคาหุ้นแถว 3 บาทกว่าเอง จำได้ว่าขายไปนานแล้ว และก็ไม่ได้ดูอีกเลย กลับมาดูย้อนหลังเมื่อเร็ว ๆ นี้ เห็นมีการออก warrant และมีการจ่ายหุ้นปันผล เกิด dilution มากมาย ไม่ได้เข้าไปวิเคราห์ลึก ๆ ก็เลยซื้อในราคาค่อนข้างจะสูง เลยยังขาดทุนในการลงทุนอยู่ กิจการเขาดีครับยกเว้นงานวิศวกรรมโครงการซึ่งลดลงมากพอควร ส่วนการขายสายสัญญาณและงานโทรคมนาคม ดีพอควร ผมเจอคุณสมบัติในที่ประชุมและหยุดทักทายเขา พื้นความทรงจำที่เจอกันสมัยแรก ๆ และบอกชื่นชมเขาที่สามารถเอาลูกชายมาสานต่องานได้ดี ผมบอกเขาว่า ลูกเก่งกว่าพ่อนะ นี่แหละโลกควรจะเป็นแบบนี้ คนรุ่นใหม่ต้องเก่งกว่าคนรุ่นเก่า กิจการอนาคตเขาก็คงดีต่อไป เสียแต่ว่าราคาหุ้นลงมาตอนผมไม่มีเงินซื้อเฉลี่ยนี่ซิ เลยต้องทนต่อไปครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 141
เมื่อวัน 24/4/59 ช่วงเย็น ได้ไปประชุมหุ้น BH เขาจัดที่ รพ ของเขาทุกปีในเวลา 4 โมงเย็นเป็นประจำ กิจการดี สมัยก่อนลูกค้าเป็นกลุ่มแขกอาหรับ แต่ตอนนี้เป็น พม่าเป็นส่วนใหญ่ มีภาษาพม่าแทบทุกแห่งในโรงพยาบาลนี้แล้ว อนาคตที่สุดจะเป็น เจ้าพ่อแห่งสุขุมซอย 1 เพราะกำลังสร้างโรงพยาบาลหน้าปากทางเลย ช่วงนี้ครบรอบ 36 ปี มีจำนวนเตียงจดทะเบียน 580 เตียง มีอยู่่จริง ๆ ต่ำกว่านี้ ยอดใช้เตียงสูงสุดแถว 450 เตียง และต่ำสุดแถว 380 เตียง คนไข้ไทยและต่างชาติ 50:50 มีต่างชาติ 190 ชาติที่มาใช้บริการที่นี่ ปีที่แล้วบริการคนไข้ไป 1.1 ล้านคน กลุ่มโรงพยาบาลเป็นหุ้นลงทุนระยะยาว เพราะทุกแห่งกำไรดีมาตลอด การแทพย์ของที่เราบริการดีและราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว ดูแล้วแพทย์ส่วนใหญ่ที่นี่จบจากต่างประเทศ ผมชอบกลุ่มนี้ และลงทุนยาวแต่ผมเลือกตัวที่อยู่ในตลาด mai เพราะคิดว่า pe ถูกกว่าเมื่อเทียบกับตัวอื่น ๆ ใน set และเชื่อในการบริหารของ รพ นั้น
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 142
วันที่ 28/4/2559 ช่วงเช้าได้ไปประชุมหุ้น CK เป็นครั้งแรกที่ไปบริษัท จากบทเรียนในอดีตเคยถือหุ้น ITD คู่แข่งของ CK และเคยไปประชุม ITD นานหลายปีแล้ว ที่สุดก็ขายขาดทุนไป เลยเลิกคบกับพวกก่อสร้างเลย พึ่งจะซื้อ CK เร็ว ๆ นี้ เพราะดูหลายอย่างเป็นหุ้นที่งานมาก และการที่เป็นหุ้นแม่ของ BEM TTW และ CKP ซึ่งอยู่ในพวกงานโครงการพื้นฐานของประเทศ เลยเลือกซื้อ CK ดูการประชุมและฟังถึงสถานการณ์ของงานเขา ก็ ดูแล้วน่าจะดี เพราะช่วงนี้เขาเน้นรายได้จากโครงการใหญ่ในลาว พลังงานไฟฟ้าจากเขื่อน ไชยะบุรี โครงการใหญ่สุดตอนนี้ 40852 ล้าน ตอนนี้ทางลาวจะให้เพิ่มงานอีก 20000 ล้าน สร้างความแข็งแรงต้านแผ่นดินไหวเพิ่มอีก ดูคำอธิบายแล้วเขาบอกเป็นโครงการที่แข็งแรงมาก มีการเพิ่มให้มีทางปลาวิ่งสวนได้ด้วย ให้สิ่งแวดล้อมที่ดี จ่ายไฟในลาวและให้ทางไทยด้วย แต่สิ่งที่ผมสนใจคือการที่ประเทศเราจะขยายโครงเครือข่ายของรถไฟฟ้านิซิ จะทำให้มีงานอีกหลายปี และช่วยให้พวกเราได้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น มีสายสีต่าง ๆ อีกหลายสาย ในอนาคตรุ่นลูกและหลานคงใช้การเดินทางโดยวิธีนี้ ผมชอบนะครับ เพราะหลัง ๆ นี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น เห็นคนส่วนใหญ่ก็เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินกันทั้งนั้น ชีวิตเปลี่ยนไปครับ หุ้นตัวนี้คงมั่นคงอีกหลายปี และคงปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้อยู่ ใครสนใจก็ลองศึกษาดู ผู้บริหารสูงสุด เป็นลูกสาวคุณปลิว ตอบคำถามได้ดีและแจ่มแจ้ง คงรับงานต่อจากพ่อได้เป็นอย่างดี
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 143
บ่ายวันที่ 28/4/2559 ได้ไปประชุมหุ้น DEMCO ที่ลงทุนมากที่สุดในปีที่แล้วเป็นอันดับที่ 4 เป็นหุ้นที่ผมได้ยอมรับสภาพการขาดทุนอย่างถาวรไปแล้ว ที่ไปประชุมก็ไปในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากบัญชีของลูกที่ยังถืออยู่ไม่ยอมขายขาดทุน ตอนประกาศมีปัญหาเรื่องฐานของกังหันลมมีรอยร้าว ผมตัดขายไปครึ่งนึงแล้ว และ ทะยอยขายไปในที่สุด ในการประชุมโดนต่อว่าเรื่องความโปร่งใส ขาดธรรมาภิบาลในการบริหาร ทางประธานกล่าวขอโทษผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เพราะเลือกเอาคนเขียนแบบระดับมือหนึ่งของประเทศแล้ว ก็ยังเกิดการผิดพลาดในการคำนวณ จนได้ น่าเห็นใจครับ เขาเป็นคนเริ่มในด้านนี้ กว่าจะเห็นรอยร้าวของฐานกังหันก็ใช้เวลา 2-3 ปี ลำบากครับ ถึงแม้จะตั้งค่าใช้จ่ายในการซ่อมฐานไปหมดแล้ว ทำให้กิจการปี 2558 เกิดการขาดทุน และ งดจ่ายเงินปันผล ในปี 2559 ก็ยังมีส่วนของชดเชยที่เสียโอกาส เพราะต้องซ่อมในส่วนที่ 2 กว่าจะเสร็จก็เดือนตุลาคม ค่าชดเชยนี้เขาบอกยังประเมินไม่ได้ เพราะต้องดูแรงลมในช่วงที่หยุดซ่อมประกอบด้วย ผมว่าเขาประเมินได้ แต่ไม่ยอมบอกตัวเลข คงลำบากไปอีกปีเป็นแน่เลย
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 148
TNH ผมว่าเป็นหุ้น โรงพยาบาลที่มี PE ต่ำสุด ปีนี้ก้าวกระโดดพอควร สถานที่โรงพยาบาลอยู่ในระแวกที่คู่แข่งไม่มาก ศูนย์หัวใจเขาผมว่าเก่งที่สุดนะครับ จากที่ได้ฟังจากคุณหมอนรินทร์ ตอน AGM ที่ผ่านมา ..... ผมมาคิด forward PE ตัวนี้อยู่แถว 25 เท่าเองครับ ในขณะที่กลุ่มโรงพยาบาลซึ่งอยู่ในตลาดใหญ่ทั้งหมด อยู่ระดับ 40-50 เท่ากันส่วนใหญ่ ก็ลองพิจารณาดูนะครับ สิ่งที่ต้องลงทุนก็คือต้องต่อสัญญาในปีหน้า ซึ่งคงต่อแน่นอน แต่จะเสียเท่าไหร่นั้นไม่ทราบได้อยู่ที่ทางสภากาชาดเขาจะเอาเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่างวดนี้ทาง TNH คงทำสัญญาให้ยาวที่สุดเท่าที่จะขอได้ มาดูงบดุลพบว่าสามารถทำ cash cycle ติดลบ 4.38 วัน ผมเลยไม่เป็นห่วงเท่าไหร่ ส่วนการสร้างโรงพยาบาลใหม่ในที่ติดกันก็คงค่อย ๆ สร้างไปเรื่อย ๆ เงินกำไรกระแสเงินสด ไม่น่าจะมีปัญหาในระยะนี้ เพราะดูจากกำไรที่เติบโตก็คงช่วยให้รอดไปได้ ผมได้ลงทุนเพิ่มไปมากพอควร ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 4 ของการลงทุนของผมแล้วครับkur2519 เขียน:มาupกระทู้ครับ ลุงขวดครับตอนนี้เรายังสามารถซี้อ TNH ARROW ที่ราคาปัจจุบันได้มั้ยครับ ราคาวิ่งขึ้นมาเยอะแพงไปแล้วหรือเปล่าครับทั้ง2ตัวนี้ ขอบคุณครับ
เรื่อง arrow เขามา opp day ให้ข่าวอยู่ประจำ Q2 จะกำไรน้อยสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น ๆ ของปี ถึงแม้ Q1 ยอดขายไม่โต แต่ก็สามารถทำกำไรได้สูงสุด นับว่าเก่งครับ เป้าหมายปีนี้ ยอดขาย 1400 ล้านบาทคงทำได้ แต่ปีหน้าจะโตแบบโดดเด่นก็ต้องพึ่งสินค้าใหม่คือ ท่อร้อยสายไฟและสายสัญญาณลงดิน ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ได้รับการยอมรับจากการไฟฟ้า และ สมอ ... ส่วนการไฟฟ้าจะใช้หรือไม่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันต้องติดตามกันต่อไป เพราะท่อชนิดนี้เหมาะสมที่สุด แต่ราคาจะแพงกว่าท่อ HDPE ครับ ถ้าได้มีโอกาสใช้ ก็ต้องติดตามว่ากำลังผลิตส่วนนี้เขาจะทำได้ไหม เพราะมีคู่แข่งที่ผลิตก่อนหน้านี้อยู่รายหนึ่ง และผ่านมาตรฐานเช่นกัน ผมก็หวังว่าเขาคงสามารถทำงานได้สำเร็จเพราะเชื่อในความสามารถของคุณธานินทร์ ตันประวัติ ที่ผมลงทุนตัวนี้มากที่สุดเพราะดูงบดุลแล้วอัตราส่วนการเงินต่าง ๆ สุดยอดครับ ถึงแม้จะอยู่ในพวกธุรกิจก่อสร้าง เขาก็ขายให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นส่วนใหญ่ เครดิตซื้อขายก็เป็นไปตามตลาด ไม่ให้เกิน 90 วัน จุดนี้เป็นจุดด้อยอันเดียวที่ผมมองเห็น และยอมรับได้ครับ ส่วนเรื่องราคาหุ้นถ้าซื้อระดับราคาวันนี้ที่ 15.20 บาท ก็ให้ forward PE ที่ 13.82 เท่า และ DY แถว 3.68% ก็คิดกันเองนะครับ ว่าจะลงทุนหรือเปล่า การลงทุนมีความเสี่ยงนะครับ นี่คือความคิดส่วนตัว ค่าต่าง ๆ ผมคิดและคำนวณเอง ไม่เก่งเท่ากับนักวิเคราะห์ทั้งหลาย ลองหา บทวิเคราะห์ดูและตัดสินใจเองนะครับ
ขอบคุณคุณ Rakkiat ที่ชอบ หัวข้อนี้ ผมเพียงพยายามให้ความคิดกับผู้ที่สนใจสมาคมของเรา ช่วยกันรักษาสมาคม และตลาดทุน ให้พัฒนาไป อย่าเป็นตลาดเก็งกำไร เพราะถ้าเป็นตลาดเก็งกำไรที่สุดคนส่วนใหญ่จะว่าเป็นตลาดพนันไปครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 150
ผมเป็นสงสัยอยู่เรื่องเดียวครับลุงขวด ถ้าสถาบันจักรีนฤบดินทร์ที่บางพลีเปิดใช้ปี2560มันคงมีผลกระทบกับtnhใช่มั้ยครับเพราะคนสามารถขับรถจากบางนาไปบางพลีได้ไม่ไกลนักต่อไปเค้าอาจจะมีคลินิกพิเศษเหมือนๆกับของศิริราชหรือศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ครับ อาจจะมีการดึงลูกค้าจากโซนกรุงเทพตะวันออกไปได้ไม่มากก็น้อยมั้งครับลุงขวดแต่ผมไม่รู้ว่าทางไทยนครินทร์เค้าเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไปมากน้อยแค่ใหนครับ(https://youtu.be/93IA_Iy7psk อันนี้เป็นlinkที่ดร.นิเวศน์ได้พูดไว้ในbusiness modelที่ของCHGจุฬารัตน์ครับว่า ถ้าสถาบันจักรีเปิดคงกระทบCHGได้ครับ)...ขอบคุณครับ. ด้านล่างเป็นรูปภาพของสถาบันจักรีนฤบดินทร์ครับ
แนบไฟล์