พวกเราอยู่กลุ่มไหน
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 151
ช่วยออกความเห็นครับ ในฐานะอยู่ย่านนี้
ผมว่ายังไงก็เลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่ามีส่วนหนึ่ง ที่คนอยากไปสถาบันจักรีนฤบดินทร์ (ที่ใช้ชื่อย่อ CNMI) เพราะชื่อยี่ห้อของรามา
ถ้านึกถึงแบบนี้จริงๆ รพ. เอกชนย่านนั้น ก็เสียกันทั้งหมด TNH, SKR, รพ. บางนา, กล้วยน้ำไท, ... รวมถึงข้ามมาจากพระประแดง สุขสวัสดิ์ด้วย
แต่ว่าลูกค้าส่วนที่มาตรงนี้ TNH จำนวนมาก (รวมถึงผมด้วย ก็เป็นลูกค้า) มา TNH เพราะการเดินทางสะดวก ไม่ต้องขับรถมาก็ได้ มีทางเลือกในการเดินทางมากกว่า นั่งรถเมล์ รถตู้ ยังได้ง่ายเลย มีตลอดคืน (ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์เต็มๆ จาก location เป็นทางผ่านไปสุวรรณภูมิ อีกส่วนทางผ่านหลักไปภาคตะวันออก ที่ไปๆ กลับๆ วันเดียวได้ รถเลยชุกชุม) รวมถึงลูกค้า "ท้องถิ่น" คือลูกค้าที่มีบ้าน หรือที่ทำงานอยู่ตรงไหน ก็ไปหาบริการตรงนั้น แบบที่ CHG ที่มีหลายสาขา จุฬารัตน์ 1 กับ 3 อยู่ห่างกันไม่ไกล แค่ 6 กิโล แต่อยู่คนละถนน ดักลูกค้าประเภทใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น
ดูตำแหน่งจาก google map นะครับ ว่ารอบๆ แถวนั้นเป็นยังไง ทุ่งหนองหมาว้อชัดๆ เกือบจะไกลปืนเที่ยงละ ถ้าไม่บอกว่าตรงนั้นมีราชภัฎกับสนามกีฬาจังหวัด ดีสำหรับเผื่อขยายพื้นที่อนาคตจริงๆ
https://www.google.co.th/maps/place/%E0 ... 00.7610313
อย่างน้อยลูกค้าบางส่วนคนชั้นกลางถึงล่าง แต่หนีจากรพ.รัฐปกติแค่ไม่อยากต่อคิวประเภทมาแต่เช้ามืดสายๆ หรือเที่ยงๆ จะได้รับบริการ ยังอยากมาง่ายๆ ที่ถึงจะมีเงินบ้าง อยากใช้รถเมล์ รถปอ. รถตู้ ถ้า taxi ก็ไม่อยากไปไกล ดูแล้วคงไม่อยากเดินทางไป ถ้าไม่จำเป็น
CNMI อยู่ปลายๆ บางปลา แต่บอกแบบนี้คนอาจไม่คุ้น จะนึกออกง่าย ถ้าบอกว่าห่างกับตรงที่ชมนกนางนวลบางปู 15 กิโลกว่า แต่ต้องตรงไปแล้วถึงหักซ้าย
(แต่การเดินทางมาจริง มาบางปูไปอ้อมสุขุมวิทไกล ปกติใช้บางนา-ตราด การใช้เส้นทางรถติดน้อยสุด มาจากกทม.ด้านบางนา ที่ไปง่ายทางบางโฉลงสะดวกสุด ต้องไป U-turn สะพานหน้าช่องเก็บเงินทางด่วนไกลกว่าอีกหน่อย เส้นทางใกล้กว่าคือเทพารักษ์ หรือวัดหลวงพ่อโต แต่เป็นเส้นทางที่ต้องเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน)
สรุปความเห็นส่วนตัว: CNMI คงมีลูกค้ามาจากทุกด้านของย่านนี้ (ฝั่งตะวันออกของกทม.) ติด.oชื่อเชื่อถือมาตรฐานแบบศิริราชหรือรามาแล้วไม่อยากไปเข้าเมืองไปใช้เวลาบนถนนหลายชม. กว่าจะถึง แต่ส่วนที่เสียไปของรพ.เอกชน คลีนิกเอกชนย่านนี้ น่าจะเป็นลูกค้าที่ต้องการพิเศษมากกว่า
ลูกค้า case ทั่วไป แน่นอนว่าถูกกินส่วนแบ่งไปบ้าง แต่ degree ไม่น่ารุนแรง ถึงขั้น critical แบบ Ikea มา SB กับ Index (อยู่ห่างกันไม่กี่กิโล) แทบจะเงียบเป็นป่าช้าอะไรแบบนั้น
ปล. ที่รามาก็มีบริการพิเศษ แยกออกมา แบบเดียวรพ. ศิริราชปิยมหาราชการุณย์อยู่เหมือนกันครับ รูปแบบเดียวกันเลย มีรักษาทุกด้านเหมือนรามาปกติ แต่ชาร์จค่ารักษาสูงขึ้น (ผมกับพี่ เคยไปใช้บริการ lab วัดการนอนหลับ การหยุดหายใจระหว่างหลับ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนกรน)
รอความเห็นลุงขวด และท่านอื่นๆ ประกอบ อาจเห็นต่างกันไปบ้าง แต่อ่านกระทู้ลุงขวดได้ความรู้ดีครับ แอบอ่านอยู่เรื่อยๆ
ผมว่ายังไงก็เลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่ามีส่วนหนึ่ง ที่คนอยากไปสถาบันจักรีนฤบดินทร์ (ที่ใช้ชื่อย่อ CNMI) เพราะชื่อยี่ห้อของรามา
ถ้านึกถึงแบบนี้จริงๆ รพ. เอกชนย่านนั้น ก็เสียกันทั้งหมด TNH, SKR, รพ. บางนา, กล้วยน้ำไท, ... รวมถึงข้ามมาจากพระประแดง สุขสวัสดิ์ด้วย
แต่ว่าลูกค้าส่วนที่มาตรงนี้ TNH จำนวนมาก (รวมถึงผมด้วย ก็เป็นลูกค้า) มา TNH เพราะการเดินทางสะดวก ไม่ต้องขับรถมาก็ได้ มีทางเลือกในการเดินทางมากกว่า นั่งรถเมล์ รถตู้ ยังได้ง่ายเลย มีตลอดคืน (ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์เต็มๆ จาก location เป็นทางผ่านไปสุวรรณภูมิ อีกส่วนทางผ่านหลักไปภาคตะวันออก ที่ไปๆ กลับๆ วันเดียวได้ รถเลยชุกชุม) รวมถึงลูกค้า "ท้องถิ่น" คือลูกค้าที่มีบ้าน หรือที่ทำงานอยู่ตรงไหน ก็ไปหาบริการตรงนั้น แบบที่ CHG ที่มีหลายสาขา จุฬารัตน์ 1 กับ 3 อยู่ห่างกันไม่ไกล แค่ 6 กิโล แต่อยู่คนละถนน ดักลูกค้าประเภทใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น
ดูตำแหน่งจาก google map นะครับ ว่ารอบๆ แถวนั้นเป็นยังไง ทุ่งหนองหมาว้อชัดๆ เกือบจะไกลปืนเที่ยงละ ถ้าไม่บอกว่าตรงนั้นมีราชภัฎกับสนามกีฬาจังหวัด ดีสำหรับเผื่อขยายพื้นที่อนาคตจริงๆ
https://www.google.co.th/maps/place/%E0 ... 00.7610313
อย่างน้อยลูกค้าบางส่วนคนชั้นกลางถึงล่าง แต่หนีจากรพ.รัฐปกติแค่ไม่อยากต่อคิวประเภทมาแต่เช้ามืดสายๆ หรือเที่ยงๆ จะได้รับบริการ ยังอยากมาง่ายๆ ที่ถึงจะมีเงินบ้าง อยากใช้รถเมล์ รถปอ. รถตู้ ถ้า taxi ก็ไม่อยากไปไกล ดูแล้วคงไม่อยากเดินทางไป ถ้าไม่จำเป็น
CNMI อยู่ปลายๆ บางปลา แต่บอกแบบนี้คนอาจไม่คุ้น จะนึกออกง่าย ถ้าบอกว่าห่างกับตรงที่ชมนกนางนวลบางปู 15 กิโลกว่า แต่ต้องตรงไปแล้วถึงหักซ้าย
(แต่การเดินทางมาจริง มาบางปูไปอ้อมสุขุมวิทไกล ปกติใช้บางนา-ตราด การใช้เส้นทางรถติดน้อยสุด มาจากกทม.ด้านบางนา ที่ไปง่ายทางบางโฉลงสะดวกสุด ต้องไป U-turn สะพานหน้าช่องเก็บเงินทางด่วนไกลกว่าอีกหน่อย เส้นทางใกล้กว่าคือเทพารักษ์ หรือวัดหลวงพ่อโต แต่เป็นเส้นทางที่ต้องเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน)
สรุปความเห็นส่วนตัว: CNMI คงมีลูกค้ามาจากทุกด้านของย่านนี้ (ฝั่งตะวันออกของกทม.) ติด.oชื่อเชื่อถือมาตรฐานแบบศิริราชหรือรามาแล้วไม่อยากไปเข้าเมืองไปใช้เวลาบนถนนหลายชม. กว่าจะถึง แต่ส่วนที่เสียไปของรพ.เอกชน คลีนิกเอกชนย่านนี้ น่าจะเป็นลูกค้าที่ต้องการพิเศษมากกว่า
ลูกค้า case ทั่วไป แน่นอนว่าถูกกินส่วนแบ่งไปบ้าง แต่ degree ไม่น่ารุนแรง ถึงขั้น critical แบบ Ikea มา SB กับ Index (อยู่ห่างกันไม่กี่กิโล) แทบจะเงียบเป็นป่าช้าอะไรแบบนั้น
ปล. ที่รามาก็มีบริการพิเศษ แยกออกมา แบบเดียวรพ. ศิริราชปิยมหาราชการุณย์อยู่เหมือนกันครับ รูปแบบเดียวกันเลย มีรักษาทุกด้านเหมือนรามาปกติ แต่ชาร์จค่ารักษาสูงขึ้น (ผมกับพี่ เคยไปใช้บริการ lab วัดการนอนหลับ การหยุดหายใจระหว่างหลับ ที่เกี่ยวข้องกับการนอนกรน)
รอความเห็นลุงขวด และท่านอื่นๆ ประกอบ อาจเห็นต่างกันไปบ้าง แต่อ่านกระทู้ลุงขวดได้ความรู้ดีครับ แอบอ่านอยู่เรื่อยๆ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 152
ผมลืมขอบคุณ คุณ kur 2519 ที่ update หัวข้อนี้ขึ้นมา.....เรื่องที่คุยกันเกี่ยวกับสถานที่ ผมในฐานะที่สูงอายุและผ่านวิกฤตโรคหัวใจมาแล้ว สิ่งแรกเวลาป่วยหนัก ก็ ต้องหา หมอ หมอที่หาต้องเก่งทางด้านนี้ ผมได้รับการแนะนำจากหมอที่รู้จัก ว่า หมอวิรัช เคหสุขเจริญ แห่ง รพ ทรวงอกเก่งในด้านหัวใจ จึงไปพบท่าน และได้รับการตัดสินใจทำ balloon เมื่อปี 2553 ทำ 2 ครั้ง ใส่ stent รวม 3 ตัว นี่ผ่านไปแล้ว 5 ปีกว่า เรื่องหัวใจก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว แต่ก็ยังต้องทานยาพวกลดความดัน ลดไขมันและยาทำให้เลือดไม่เข้ม ดังนี้หมอเป็นอันดับแรก และอันดับต่อมาก็สถานที่ ผมไป รพ ทรวงอกอยู่ 2-3 ปี หลัง ๆ นี้ ก็ไป รพ ใกล้ บ้าน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า หมอ เป็นอันดับต้น สถานที่เป็นอันดับรอง......ความสะดวก สบาย ที่อยู่ใกล้บ้านทำให้คนไข้ที่ต้องรักษาต่อเนื่องใช้ประจำ จึงเป็นสิ่งสำคัญ....เมื่อคนเราอายุมาก สิ่งสำคัญคือ สุขภาพ อาหาร และ การออกกำลังกาย เป็นสิ่งสำคัญ ให้สนุกกับการใช้ชีวิต ห้ามเครียด คิดเสียว่า พอเพียงในสิ่งที่มีอยู่ ก็สบายแล้วครับ......ที่สนใจในหุ้นโรงพยาบาลก็เพราะว่าโลกนี้คนแก่มากขึ้น การรักษาพยาบาลเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต คู่แข่งของ โรงพยาบาลเอกชน ก็คือ โรงพยาบาลรัฐที่ปรับเป็น 2 เกรดแล้ว คือสำหรับชาวบ้าน และ เกรดพรีเมียร์สำหรับผู้มีเงินและต้องการพบอาจารย์หมอทั้งหลาย ก็ต้องยอมรับว่ามาถูกทางแล้ว.......ผมเชื่อใน TNH ว่าสามารถบริหารดีเลือกหมอและเครื่องมือที่ทันสมัย แข่งกับ รพ อื่น ๆ ได้ ถึงแม้จะเป็น รพ เล็ก แต่มีประสิทธิภาพมากครับ ดูผลงานที่โดดเด่นของปีนี้ซิครับ
ปี 59 (ปิดรอบบัญชีเดือนกรกฎาคมของทุกปี) Q1-Q3 80.26...58.40.....74.16......xx.xx
ปี 58 57.51...36.15.....54.19......59.11
ปี 57 53.92...35.01.....54.75......35.43 ล้านบาท
ก็ลองติดตามกันดูนะครับ ว่าผลประกอบการที่ดีจะทำให้ ราคาหุ้นขึ้นต่อไปหรือไม่ หรือหุ้นจะขึ้นอยู่ที่การปั่นหุ้นของเจ้ามือ
ปี 59 (ปิดรอบบัญชีเดือนกรกฎาคมของทุกปี) Q1-Q3 80.26...58.40.....74.16......xx.xx
ปี 58 57.51...36.15.....54.19......59.11
ปี 57 53.92...35.01.....54.75......35.43 ล้านบาท
ก็ลองติดตามกันดูนะครับ ว่าผลประกอบการที่ดีจะทำให้ ราคาหุ้นขึ้นต่อไปหรือไม่ หรือหุ้นจะขึ้นอยู่ที่การปั่นหุ้นของเจ้ามือ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 154
ลุงขวดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ threl ในช่วงนี้ยังไงมั่งครับ เห็นราคาหุ้นลงมาตลอดเลยทั้งๆที่threก็หยุดเทขายหุ้นthrelไปแล้วหรือว่ามันเกี่ยวกับดอกเบี้ยในตลาดที่ยังต่ำอยู่ก็เลยส่งผลกระทบกับธุรกิจประกันชีวิตไปด้วย ขอบคุณครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 155
หุ้นตัว THREL เข้าตลาด ด้วย ipo 9.50 บาท ผมสนใจตัวนี้เพราะในอดีตผมมาดูการลงทุนของผมส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มประกันภัย ผมชอบกลุ่มนี้เพราะมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และมีการเติบโตตามเศรษฐกิจไป 2 เท่าของ GDP โดยตลอด พอมี bla และ threl ผมก็ซื้อสะสมเพราะอยู่ในกลุ่มประกันเหมือนกันแต่เป็นประกันชีวิต ที่สุด ณ ขณะนี้ ทั้ง bla และ threl (ขาย blaไปแล้ว ยังถือ threl อยู่ และยังขาดทุนด้วย) ผมคิดว่ากลุุ่มประกันทั้งหมดรายได้คือเงินที่ได้รับก็เอาไปลงทุนให้ผลตอบแทนที่มากที่สุดและมาจ่ายต่อให้ผู้ประกัน ถ้ามีการเคลมมาก เช่นช่วงน้ำท่วม ทำให้ประกันภัยขาดทุนทุกบริษัท ประกันชีวิตเอาตัวรอดได้ แต่ที่ลงมาในช่วงหลัง ๆ นี้ ผมคิดว่าเกิดจากการลงทุนที่ได้ดอกเบี้ยต่ำ ในขณะนี้ แต่ที่ทำสัญญาไปแล้วบางก็ให้ผลตอบแทนผู้ถือกรมธรรม์ในอัตราสูงก็เกิดปัญหา ขาดทุน หรือกำไรไม่เท่าที่ควร ราคาถึงได้ลงมามากพอควรทั้ง bla และ threl แต่จริงๆ แล้ว อัตราการทำประกันชีวิตของประเทศเรายังน้อยอยู่มาก เมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วก็น่าจะมีการเติบโตขึ้นได้ ผมยังถืออยู่ และคิดว่าราคาของ THREL ลงมาใกล้ ipo และนิ่งแถว 10 บาทนานแล้ว เวลานิ่งก็คือเวลาสะสมลงทุน ก็ลองพิจารณาดูนะครับ ส่วนที่ THREL ขายไปให้ต่างชาติที่ 14.50 และ 12.50 บาท ทำไมเขากล้าลงทุนละครับ แล้วเราไม่กล้าหรือ พวกต่างชาติลงทุนยาว ส่วนนักลุงทุนพวกเราชอบเก็งกำไรกัน ราคาหุ้นตัวนี้ถึงไม่ไปไหน ต้องขอโทษกับ admin..ในเวปบอกไม่ให้พูดเรื่องราคาหุ้น ที่ผมพูดก็จะได้เห็นภาพชัดขึ้น หุ้นแบบนี้คงไม่มีใครมาปั่นเป็นแน่ การลงทุนมีความเสี่ยงครับเผื่อมีโรคร้ายเกิดขึ้นคนตายกันมากขึ้นธุรกิจนี้ก็ขาดทุนได้เหมือนกัน หลัง ๆ นี้ ผมหันไปลงทุนภาพคตสาหกรรมและส่วนใหญ่ก็อยู่ในตลาด MAI มากกว่า โดยสรุปช่วงนี้ผมว่า การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานก็ยังเป็นตัวที่จะขยายไปในช่วง2-3 ปีนี้เป็นแน่ แถมการท่องเที่ยว ที่เมืองไทยมีอาหารและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าชมหลายแห่งเสียแต่ความปลอดภัยยังน่าเป็นห่วงเท่านั้นเองkur2519 เขียน:ลุงขวดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ threl ในช่วงนี้ยังไงมั่งครับ เห็นราคาหุ้นลงมาตลอดเลยทั้งๆที่threก็หยุดเทขายหุ้นthrelไปแล้วหรือว่ามันเกี่ยวกับดอกเบี้ยในตลาดที่ยังต่ำอยู่ก็เลยส่งผลกระทบกับธุรกิจประกันชีวิตไปด้วย ขอบคุณครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 157
ขอบคุณครับลุงขวด เขียน:หุ้นตัว THREL เข้าตลาด ด้วย ipo 9.50 บาท ผมสนใจตัวนี้เพราะในอดีตผมมาดูการลงทุนของผมส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มประกันภัย ผมชอบกลุ่มนี้เพราะมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และมีการเติบโตตามเศรษฐกิจไป 2 เท่าของ GDP โดยตลอด พอมี bla และ threl ผมก็ซื้อสะสมเพราะอยู่ในกลุ่มประกันเหมือนกันแต่เป็นประกันชีวิต ที่สุด ณ ขณะนี้ ทั้ง bla และ threl (ขาย blaไปแล้ว ยังถือ threl อยู่ และยังขาดทุนด้วย) ผมคิดว่ากลุุ่มประกันทั้งหมดรายได้คือเงินที่ได้รับก็เอาไปลงทุนให้ผลตอบแทนที่มากที่สุดและมาจ่ายต่อให้ผู้ประกัน ถ้ามีการเคลมมาก เช่นช่วงน้ำท่วม ทำให้ประกันภัยขาดทุนทุกบริษัท ประกันชีวิตเอาตัวรอดได้ แต่ที่ลงมาในช่วงหลัง ๆ นี้ ผมคิดว่าเกิดจากการลงทุนที่ได้ดอกเบี้ยต่ำ ในขณะนี้ แต่ที่ทำสัญญาไปแล้วบางก็ให้ผลตอบแทนผู้ถือกรมธรรม์ในอัตราสูงก็เกิดปัญหา ขาดทุน หรือกำไรไม่เท่าที่ควร ราคาถึงได้ลงมามากพอควรทั้ง bla และ threl แต่จริงๆ แล้ว อัตราการทำประกันชีวิตของประเทศเรายังน้อยอยู่มาก เมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วก็น่าจะมีการเติบโตขึ้นได้ ผมยังถืออยู่ และคิดว่าราคาของ THREL ลงมาใกล้ ipo และนิ่งแถว 10 บาทนานแล้ว เวลานิ่งก็คือเวลาสะสมลงทุน ก็ลองพิจารณาดูนะครับ ส่วนที่ THREL ขายไปให้ต่างชาติที่ 14.50 และ 12.50 บาท ทำไมเขากล้าลงทุนละครับ แล้วเราไม่กล้าหรือ พวกต่างชาติลงทุนยาว ส่วนนักลุงทุนพวกเราชอบเก็งกำไรกัน ราคาหุ้นตัวนี้ถึงไม่ไปไหน ต้องขอโทษกับ admin..ในเวปบอกไม่ให้พูดเรื่องราคาหุ้น ที่ผมพูดก็จะได้เห็นภาพชัดขึ้น หุ้นแบบนี้คงไม่มีใครมาปั่นเป็นแน่ การลงทุนมีความเสี่ยงครับเผื่อมีโรคร้ายเกิดขึ้นคนตายกันมากขึ้นธุรกิจนี้ก็ขาดทุนได้เหมือนกัน หลัง ๆ นี้ ผมหันไปลงทุนภาพคตสาหกรรมและส่วนใหญ่ก็อยู่ในตลาด MAI มากกว่า โดยสรุปช่วงนี้ผมว่า การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานก็ยังเป็นตัวที่จะขยายไปในช่วง2-3 ปีนี้เป็นแน่ แถมการท่องเที่ยว ที่เมืองไทยมีอาหารและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าชมหลายแห่งเสียแต่ความปลอดภัยยังน่าเป็นห่วงเท่านั้นเองkur2519 เขียน:ลุงขวดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ threl ในช่วงนี้ยังไงมั่งครับ เห็นราคาหุ้นลงมาตลอดเลยทั้งๆที่threก็หยุดเทขายหุ้นthrelไปแล้วหรือว่ามันเกี่ยวกับดอกเบี้ยในตลาดที่ยังต่ำอยู่ก็เลยส่งผลกระทบกับธุรกิจประกันชีวิตไปด้วย ขอบคุณครับ
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 159
เมื่อวาน25-7-2559 มีชีวิตที่แตกต่างกันเลยตอนเช้าเข้าประชุมหุ้น EPG. หุ้นนวัตกรรมที่ชอบ ปีที่ผ่านมาเขาทำกำไรได้ดีมากเขาบอกเกิดจากการขายผลิตภัณท์ใหม่และความสามารถของการลดต้นทุน ไม่ยอมบอกว่าเกิดจากราคาน้ำมันลดลง. เป็นหุ้นดีมากเลยเพราะมีการกระจายธุรกิจไป3แบบ ในด้านรถยนต์ ในด้านก่อสร้างและในด้านอุปโภค. และมีรายได้ส่งออกพอพอกับขายในประเทศด้วย. ผ่านทุกอย่างในการเลือกหุ้นของผม ผมเลยลงทุนมากเป็นอับดับที่ 2 ของเงินลงทุน. ผมเชื่อในฝีมือการบริหารงานของ ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ที่ตามเรื่องราคาวัตถุดิบได้เก่งมาก แถมได้ นักพูดอาจารย์สอนการลงทุนเป็นน้องชาย ดร.เฉลียว . เป็นเสมือนโฆษกของบริษัท ผมได้มีโอกาสบ่นถึงจุดอ่อนของบริษัทคือปันผลระดับ 1.57% (ถ้าทุน12.70บาท). ซึ่งในตลาดให้ค่าเกินกว่า3%. อนาคตเขาดีมากในอีก2ปีที่ได้ไปซื้อกิจการของ TJM ที่ทำธุรกิจแต่งรถลุยป่าที่จะเป็นแหล่งขายสินค้าต่างๆที่เขาจะคิดค้นขึ้นมา. ผมคงอยู่กับเขาอีกนานหลายปีเป็นแน่.
ส่วนตอนบ่ายได้มีโอกาสไปประชุมหุ้น TR. หุ้นตะวันตกดินผลิตเส้นใยทอผ้าของพวก Aditya Birla. (หุ้นใหญ่ในหุ้นTRและหุ้น TCB.) ที่ไม่ผ่านเงื่อนไขการลงทุนของผม เป็นหุ้นที่ราคาถูกทั้งคู่ (TR. TCB). กิจการทั้งคู่มีกำไร แต่เรื่องงบการเงินมีปัญหาก็ลองไปคิดกันเองนะครับว่าข้อไหนที่น่าระวัง หุ้นแขกสองตัวนี้ถ้าให้เลือกผมก็ชอบตัว TR. มากกว่า อย่างไรก็ตามลงทุนกับกิจการที่มี GC. ที่ดีย่อมสบายใจมากกว่าครับ
ส่วนตอนบ่ายได้มีโอกาสไปประชุมหุ้น TR. หุ้นตะวันตกดินผลิตเส้นใยทอผ้าของพวก Aditya Birla. (หุ้นใหญ่ในหุ้นTRและหุ้น TCB.) ที่ไม่ผ่านเงื่อนไขการลงทุนของผม เป็นหุ้นที่ราคาถูกทั้งคู่ (TR. TCB). กิจการทั้งคู่มีกำไร แต่เรื่องงบการเงินมีปัญหาก็ลองไปคิดกันเองนะครับว่าข้อไหนที่น่าระวัง หุ้นแขกสองตัวนี้ถ้าให้เลือกผมก็ชอบตัว TR. มากกว่า อย่างไรก็ตามลงทุนกับกิจการที่มี GC. ที่ดีย่อมสบายใจมากกว่าครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 160
เมื่อวาน 29-7-59 ได้ประะชุมใหญ่ หุ้น TIW มา และวิเคราะห์ว่า ดร.ประสิทธิ์ สู้ต่อครับ คงไม่เอาออกจากตลาดแน่นอน เขาปรับปรุงการบริหารและประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม และหาแนวสั่งสินค้า Aluzinc และ ZAM (นิชชินสตีล) มาทดลองตลาด ก็ลองดูความสามารถของเขาต่อไปนะครับ บิรษัทนี้มีเงินสดและทรัพย์สินมาก อยู่ในมือ ดร ประสิทธิแล้ว แต่จะทำให้ก้าวหน้าและกำไรแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างไรก็รอดูกันต่อไป ใครลงทุนกับเขาก็ถือรอไปก่อน คงได้เห็นผลงานในอีกปีหรือสองปีว่าเขาจะเก่งเท่าไหร่ แต่เขาบอกในที่ประชุมเขาชอบธุรกิจที่แย่ ๆ เพราะคู่แข่งจะทะยอยออกไป ไม่ต้องแข่งขันกันมาก แต่ธุรกิจที่ดี เป็นที่นิยม การแข่งขันสูงต้องสู้กัน ก็ ได้แนวคิดอีกแบบหนึ่งของเท่านครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 161
วันนี้ 28-7-2559 ได้ไปประชุมหุ้น 2 รสชาด. หุ้นดีทั้งคู่. ตัวแรกตอนเช้าหุ้น LTX อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอหรือที่พูดว่าธุรกิจตะวันตกดิน ตัวนี้เป็นหุ้นสัญชาติญี่ปุ่นเพราะญี่ปุ่นรวมกันถือเกิน50%. เก่งที่ได้หนีจากผลิตผ้ามาผลิตถูงลมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมถือหุ้นนี้มามากกว่า 10 ปีรับปันผลสม่ำเสมอ. หุ้นมีทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ประเมินค่ามากทีเดียว นับว่าถ้าใครสามารถซื้อกิจการทั้งหมดจะได้กำไรมโหฬารเลย. ไม่แพ้หุ้นSVIที่เขายึดกิจการเลย. เพราะมีที่ดินโรงงานแห่งแรกบนถนนสุขสวัสดิ์ซึ่งประเมินค่าไม่ได้เลยจำนวนถึง105ไร่เลย. แต่ผู้ถือหุ้นทำอะไรไม่ได้ นอกจากรับปันผลปีละ 2.50 บาท. ผมขอเขาเพิ่มในส่วนนี้มาหลายปีแล้วแต่ไม่สำเร็จสักที. จึงจัดว่าปันผลไม่ประทับใจ. ส่วนตอยบ่ายมีโอกาสไปประชุมหุ้น LHK หุ้นเล็กกว่ามากแต่พยายามทำงาน ขยันประหยัดและใจปล้ำกว่ามากเพราะให้ปันผลเพิ่มทุกปี กำไรปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วแต่ก็ให้ปันผลมากกว่าปีที่แล้ว. จึงพบกับ 2 รสชาดในวันเดียวกัน
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 162
โลกนี้มีความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ขึ้น เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมของโลก ไม่ดีขึ้น อัตราผลตอบแทนในการฝากเงิน เหลือต่ำมาก แถมบางประเทศใช้อัตราติดลบ พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศกัน ประเทศไทยยังดีที่คิดว่าจะมีการโตของ GDP 3% และยังมีอัตราผลตอบแทนในการฝากเงินในตราสารหนี้ และเงินฝากอยู่บ้าง เงินก็ไหลเข้าประเทศ ทำให้ตลาดหุ้น จากต้นปี 1288 จุด เป็น 1538 จุด เพิ่มขึ้นถึง 19.47% นับว่าสูงพอควร ผมดูการลงทุนของผม มีอัตราเพิ่มแค่ 3.55% ยังแพ้ตลาดอยู่ถึง 15.91% ถึงแม้หลัง ๆ นี้ ผมได้ซื้อหุ้นตัวใหญ่ไปบ้างแต่เป็นส่วนน้อยของการลงทุนเท่านั้น.....ผมลงทุนหุ้นในระยะยาวไม่ได้เล่นสั้น หวังผลตอบแทนปีนี้เพียง 10% เอง (รวมปันผลที่รับแล้ว) ตอนนี้ทำได้ 8.8% แล้ว ผมไม่กังวลกับการลงทุนเพราะผมคิดว่า ผมพอเพียงแล้ว สนุกกับการลงทุนได้ใช้สมองและให้ความรู้กับเพื่อนนักลงทุนด้วยกัน สิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตคือ สุขภาพที่แข็งแรง จิตใจที่สงบ ซึ่งหาซื้อด้วยเงินไม่ได้ ....ผมเคยจัดกลุ่มนักลงทุนก่อนหน้านี้ ผมจัดตัวผมอยู่ในกลุ่มรายย่อยอยู่ ได้พัฒนาตนเองโดยศึกษาเทคนิค บางทีก็ทดสอบการเล่นโดยเทคนิคบ้าง ก็ พบความแตกต่างที่เห็นได้คือ นักเทคนิคจะคิดซื้อตามแนวโน้มของราคาและปริมาณ โดยไม่สนใจพื้นฐานของหุ้นเท่าไหร่ มักจะซื้อหุ้นที่ราคาสูงแต่จะขายที่สูงกว่า ส่วนนักลงทุนพยายามหาหุ้นที่ราคาถูกและซื้อเพิ่มลงทุนหวังให้ราคาจะขึ้นเมื่อกิจการดีขึ้น.....นักเทคนิคมักลงทุนหุ้นในระยะสั้น แต่นักลงทุนมักลงทุนหุ้นในระยะยาว...ผมแปลกใจในหลายปีที่ผ่านมา เวลาดัชนีขึ้น แต่หุ้นเราไม่ยักจะขึ้น แต่เมื่อไรดัชนีลงหุ้นเรามักจะขึ้น อย่างปีที่แล้วดัชนีต้นปี 1497 จุด ลดเหลือ 1288 จุด ผมได้กำไรจากหุ้นเป็นที่น่าพอใจมาก ....ฉะนั้นลงทุนหุ้นแล้วอย่ากังวลว่า ดัชนีหุ้นขึ้นแต่หุ้นเราไม่ขึ้น เขียนมาเพื่อปลอบใจนักลงทุนระยะยาวด้วยกันครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 163
VI ดูผลตอบแทนเป็นรายตัวน่าจะเหมาะสมกว่าครับ ดัชนีแทบไม่มีความสำคัญ แถมอาจเป็นโทษด้วยครับถ้าเราไปเปรียบเทียบบ่อยๆ
ผมเดาว่าที่พอร์ตของคุณลุงขวดปีนี้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด เป็นเพราะปีที่แล้วมัน outperform มากแล้วนั่นเอง คนที่สนใจอาจซื้อไปเยอะจนราคาสะท้อนพื้นฐานระยะสั้นไปมาก แต่ตราบที่ธุรกิจยังดีอยู่ ถึงจุดนึงที่กำไรไล่ตามจนแซงหน้าราคาได้เมื่อไหร่ ก็ถึงรอบที่ราคาหุ้นจะเริ่มวิ่งอีกครั้งครับ
ผมเดาว่าที่พอร์ตของคุณลุงขวดปีนี้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด เป็นเพราะปีที่แล้วมัน outperform มากแล้วนั่นเอง คนที่สนใจอาจซื้อไปเยอะจนราคาสะท้อนพื้นฐานระยะสั้นไปมาก แต่ตราบที่ธุรกิจยังดีอยู่ ถึงจุดนึงที่กำไรไล่ตามจนแซงหน้าราคาได้เมื่อไหร่ ก็ถึงรอบที่ราคาหุ้นจะเริ่มวิ่งอีกครั้งครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 352
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 164
ผมก็อยู่ในกลุ่มเดียวกับลุงขวด ปีที่แล้วชนะ Set พอสมควร มาปีนี้กลับต้องไล่ตามตลอด ทั้งๆที่จากอดีตหลายปีที่ผ่านมา มักจะทำผลตอบแทนได้ดี เมื่อ Set วิ่งได้ปานกลาง 10-30 %
สิ่งหนึ่งที่สังเกตุเห็นคือความสุดขั้วของหุ้นหลายๆเช่น กลุ่มสินเชื่อรายย่อย กลุ่ม modern trade กลุ่มอาหารบางตัวมีราคาพุ่งอย่างรวดเร็ว PE ที่ว่าสูง ก็สูงขึ้นไปอีก ในขณะที่หุ้นหลายๆตัวแม้ว่ากำไรก็ยังพอประคองได้ หรือเติบโตน้อย PE ก็จะต่ำอยู่อย่างนั้น และในขณะที่หุ้นอีกหลายตัว ก็พร้อมจะวิ่งไม่ว่างบจะออกมาดี หรือไม่ดี
สรุปก็คือรู้สึกว่าเป็นปีที่ลงทุนยาก และไม่ค่อยมีความสมเหตุ สมผล
สิ่งหนึ่งที่สังเกตุเห็นคือความสุดขั้วของหุ้นหลายๆเช่น กลุ่มสินเชื่อรายย่อย กลุ่ม modern trade กลุ่มอาหารบางตัวมีราคาพุ่งอย่างรวดเร็ว PE ที่ว่าสูง ก็สูงขึ้นไปอีก ในขณะที่หุ้นหลายๆตัวแม้ว่ากำไรก็ยังพอประคองได้ หรือเติบโตน้อย PE ก็จะต่ำอยู่อย่างนั้น และในขณะที่หุ้นอีกหลายตัว ก็พร้อมจะวิ่งไม่ว่างบจะออกมาดี หรือไม่ดี
สรุปก็คือรู้สึกว่าเป็นปีที่ลงทุนยาก และไม่ค่อยมีความสมเหตุ สมผล
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 166
ถ้าเป็นสมาชิกของเวปนี้ ก็ เข้าไปถามในร้อยคนร้อยหุ้นในหุ้น SSF ดีกว่านะครับ ในนั้นมีคนเก่งกว่าผมอีกหลายคน ผมเคยถือหุ้นตัวนี้นานแล้ว และตอนวิกฤต กุ้งตายก่อนวัย Early Mortality Syndrome (EMS) ผมได้ขายไปหมดแล้ว ผมรู้จักคุณสุรพล ท่านเป็นรุ่นพี่ที่เรียน ACC ก่อนผมไม่กี่ปีเท่านั้น และ เคยเรียนที่ คณะเศรษฐศาสตร์ มธ ในห้องเดียวกัน แต่ด้วยที่ภาระกิจที่มาก ท่านก็เลือกทำธุรกิจดีกว่า เก่งครับบริหารได้ดี ขยันและอยู่ในวงการนี้มานานก่อนที่จะตั้งธุรกิจตนเอง ผมไม่ชำนาญในการติดตามเรื่องนี้ก็เลยขอยุติการลงทุนในตัวนี้ไป และประจวบกับมีการเข้าใจการถือหุ้นว่าเป็นเจ้าของร่วมกับเขา เลย ปฏิเสธการถือหุ้นบางตัวไปTAKUYA เขียน:ขอสอบถามคุณลุงขวดมีความเห็นอย่างไรกับหุ้น SSF ครับ
ขอโทษที่ไม่สามารถจะตอบได้มากกว่านี้
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ckanjana
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 167
พอจะมีรายชื่อหุ้นที่กำลังจะตัดค่าเสื่อมหมดปีหน้าบ้างไหมครับ
█║▌│█│║▌║││█║▌│║▌║
https://www.facebook.com/ckivp
https://www.facebook.com/ckivp
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 168
ขอโทษ ด้วยครับ ผมไม่ได้ตามละเอียดถึงขนาดนั้น หุ้นมากทีเดียว ในส่วนค่าเสื่อมราคา เห็นพวกใช้เครื่องจักรก็ซื้อรุ่นใหม่ ๆ ทดแทนอยู่เหมือนกัน ผมดูภาพรวมส่วนใหญ่มากกว่าckanjana เขียน:พอจะมีรายชื่อหุ้นที่กำลังจะตัดค่าเสื่อมหมดปีหน้าบ้างไหมครับ
แต่ที่แน่ ๆ หุ้น TNH ที่ผมตามอยู่ มีเรื่องสัญญาเช่าที่ดินกับสภากาชาดจะหมด อายุ ปี หน้า (พศ 2560) ไม่รู้การต่อสัญญาจะโดนคิดสักเท่าไหร่ ต่อได้แน่นอนไม่มีปัญหา และระยะเวลายาวเท่าไหร่ อยากให้ต่อสัญญายาวเหมือนเดิม สัก 20-30 ปีเลย จะได้ไม่กังวลเรื่องนี้ และ ทาง TNH ก็ต้องพิจารณาจะสร้างโรงพยาบาลในที่ดินข้างเคียงของตนเองได้ว่าจะเอาอย่างไร งานนี้ใครมีหุ้นก็อย่าลืมไปประชุม ปลายเดือน พฤศจิกายน นี้นะครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 170
ผมจำปีผิดไปหนึ่งปี อย่างไรก็ตามประชุมปีนี้น่าจะรู้แนวทาง ในเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีการถามในที่ประชุมไว้บ้างแล้วsatit เขียน:4. ความเสี่ยงเรื่องการเช่าที่ดิน
โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ตั้งอยู่บนที่ดินที่โรงพยาบาลฯ ทำสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี กับสภากาชาดไทยซึ่งจะครบอายุสัญญาในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 171
อำนาจเงินต่ออิทธิพลโลก เมื่อวันศุกร์ 16/9/59 ตอนปิดตลาดเห็นอำนาจเงินจากกองทุนฝรั่งที่ปรับเพิ่มการลงทุน ตามดัชนี FTSE ผมยังไม่เข้าใจเรื่อง ฟุตตี้อินเด็กซ์ เท่าไหร่ ต้องตามไปศึกษาอีก จริง ๆ แล้ว (หาความรู้เพิ่มได้ใน set.or.th) .....ช่วงนี้เห็นเงินต่างชาติได้ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้นของไทยมากทีเดียว ผมตามข่าวจากฟังนักวิเคราะห์หลายท่านบอกว่า ก่อนหน้านี้ หลายปี ต่างชาติขายหุ้นออกมากมากทีเดียว มาช่วงปีนี้ก็ทะยอยซื้อกลับมา จึงเห็นว่า หุ้นใหญ่ ๆ ที่ต่างชาติลงทุนกัน ขยับขึ้นลงได้ดีพอควร ผมจึงไปลงทุนในหุ้นใหญ่กับเขาบ้างแต่ก็แค่สนุก ๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้หวังรวยในส่วนนี้
มาคิดถึงโลกเราเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ข่าวต่าง ๆ รวดเร็ว ทันใจ ประสิทธิภาพการทำงานใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลงานมาก ชีวิตเปลี่ยนไป รุ่น baby boomers เริ่มหมดแรง จึงดูเหมือนว่า โลกได้หยุดชะงักไปบ้าง คนรุ่นหลัง ๆ ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้ขยายครอบครัวกัน หาความสนุกหาความสุขกันส่วนใหญ่ ทำงานน้อยแต่ได้ผลงานมากด้วยเทคโนโลยี่ ที่ค้นพบกัน สมัยผมทำงานใหม่ ๆ ห้องเก็บข้อมูลของ IBM ใหญ่มาก มีพนักงานเจาะบัตรใส่ข้อมูล แต่ ณ วันนี้ ห้องทั้งห้องอยู่แค่มือถือเล็ก ๆ นี่เอง พัฒนาจนผมตามไม่ทัน ต้องถามคนรุ่นใหม่เป็นประจำ เป็นการดี และ สนุก ในการใช้ชีวิตหาความรู้ไปเรื่อย ๆ
มาบ่นเพื่อให้คนรุ่นเก่าอย่าหยุดเฉย พัฒนาตนเอง และ ดูการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากทีเดียว และสิ่งสำคัญต้องช่วยกันรักษาโลกด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ นี่ได้ข้อคิดจากไปฟัง opp day ด้วย 3 R และ 3 S ของหุ้น EPG.
มาคิดถึงโลกเราเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ข่าวต่าง ๆ รวดเร็ว ทันใจ ประสิทธิภาพการทำงานใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลงานมาก ชีวิตเปลี่ยนไป รุ่น baby boomers เริ่มหมดแรง จึงดูเหมือนว่า โลกได้หยุดชะงักไปบ้าง คนรุ่นหลัง ๆ ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้ขยายครอบครัวกัน หาความสนุกหาความสุขกันส่วนใหญ่ ทำงานน้อยแต่ได้ผลงานมากด้วยเทคโนโลยี่ ที่ค้นพบกัน สมัยผมทำงานใหม่ ๆ ห้องเก็บข้อมูลของ IBM ใหญ่มาก มีพนักงานเจาะบัตรใส่ข้อมูล แต่ ณ วันนี้ ห้องทั้งห้องอยู่แค่มือถือเล็ก ๆ นี่เอง พัฒนาจนผมตามไม่ทัน ต้องถามคนรุ่นใหม่เป็นประจำ เป็นการดี และ สนุก ในการใช้ชีวิตหาความรู้ไปเรื่อย ๆ
มาบ่นเพื่อให้คนรุ่นเก่าอย่าหยุดเฉย พัฒนาตนเอง และ ดูการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากทีเดียว และสิ่งสำคัญต้องช่วยกันรักษาโลกด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ นี่ได้ข้อคิดจากไปฟัง opp day ด้วย 3 R และ 3 S ของหุ้น EPG.
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 173
ศึกษาคือสิ่งที่ต้องติดตาม โลกเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ไม่สามารถจะหยุดนิ่งได้ โดนสอนว่าการหยุดนิ่งคือการถอยหลัง เลยต้องพัฒนาตนเอง ศึกษาไปเรื่อย ๆ อยู่ในตลาดหุ้นมาเกือบ 30 ปี ลงทุนแนว bottom up ศึกษาแต่บริษัท เล็ก ๆ และกลาง ๆ เพราะไม่สามารถจะวิเคราะห์หุ้นใหญ่ ๆ และ เจาะไม่ถึง top down ไม่สามารถจะทำได้ ถึงแม้จะจบทางเศรษฐศาสตร์ Macro Economics ก็พอจะทราบได้ แต่ไม่สามารถจะสู้กับกองทุน หรือ ต่างชาติได้ ก็ไปจบที่หุ้นบริษัทเล็กและกลาง ก็ พอเอาตัวรอดได้ในตลาดหุ้น ช่วงนี้มีเวลามากพอควร เพราะไม่ได้ทำกิจการอะไรแล้ว เป็น นักลงทุนเต็มตัว มีความสุขและสนุกกับการลงทุนที่มั่นคง มีปันผลและทำ trading ได้ เกินกว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ พอกับความพอเพียงที่มีอยู่ แบบที่เขาบอกว่า มีอิสระภาพทางการเงินแล้ว
แต่เนื่องจากอยากศึกษาคืบหน้าต่อ จึงเริ่มทดสอบหาความรู้ เมื่อวันที่ 7/9/2559 ได้เริ่มทดสอบลงทุนแบบเก็งกำไร โดยเปิดบัญชี TFEX เพราะทราบว่า ต่างชาติหรือระดับมืออาชีพใช้ TFEX เป็นตัวช่วยป้องกันความเสี่ยง แต่ผมยังไม่ถึงขั้นที่ต้องใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ เพราะอยากรู้และอยากศึกษา ก็ ทดสอบดู ลงทุนไปแล้ว ทอง คือ GF10 เพราะคิดว่า ทองน่าจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ในอดีตคิดกันว่า ทองเป็นสินค้ามีค่า เคยเห็นขึ้นไประดับสูงกว่าปัจจุบัน และคนส่วนใหญ่ที่รู้จัก ก็ ซื้อทองกันระดับบาทละ 24000 บาท เลยซื้อเป็น Long เอาไว้ แล้ว ก็คอยดูผลกันต่อไป ส่วน SET50 ก็คือ S50Z เลือกเอาที่หมดอายุปลายปี sery U จะหมดอายุ อีกไม่กี่วัน เลยไม่ได้ซื้อ แต่ดูการเล่น TFEX แล้ว ในส่วนของ SET 50 มีการแกว่งตัวสูงมาก คงไม่เหมาะกับผมแน่เลย แต่อยากจะเรียนรู้ก็ต้องทดสอบกัน ก็ สนุกกับการศึกษาและลงทุนด้านนี้ดู ไม่รู้จะเสียค่าเรียนรู้เท่าไหร่ โลกเปลี่ยนแปลงเลยต้องศึกษาให้ทันโลกให้ได้ สู้กันต่อไปนะครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ
แต่เนื่องจากอยากศึกษาคืบหน้าต่อ จึงเริ่มทดสอบหาความรู้ เมื่อวันที่ 7/9/2559 ได้เริ่มทดสอบลงทุนแบบเก็งกำไร โดยเปิดบัญชี TFEX เพราะทราบว่า ต่างชาติหรือระดับมืออาชีพใช้ TFEX เป็นตัวช่วยป้องกันความเสี่ยง แต่ผมยังไม่ถึงขั้นที่ต้องใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ เพราะอยากรู้และอยากศึกษา ก็ ทดสอบดู ลงทุนไปแล้ว ทอง คือ GF10 เพราะคิดว่า ทองน่าจะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ในอดีตคิดกันว่า ทองเป็นสินค้ามีค่า เคยเห็นขึ้นไประดับสูงกว่าปัจจุบัน และคนส่วนใหญ่ที่รู้จัก ก็ ซื้อทองกันระดับบาทละ 24000 บาท เลยซื้อเป็น Long เอาไว้ แล้ว ก็คอยดูผลกันต่อไป ส่วน SET50 ก็คือ S50Z เลือกเอาที่หมดอายุปลายปี sery U จะหมดอายุ อีกไม่กี่วัน เลยไม่ได้ซื้อ แต่ดูการเล่น TFEX แล้ว ในส่วนของ SET 50 มีการแกว่งตัวสูงมาก คงไม่เหมาะกับผมแน่เลย แต่อยากจะเรียนรู้ก็ต้องทดสอบกัน ก็ สนุกกับการศึกษาและลงทุนด้านนี้ดู ไม่รู้จะเสียค่าเรียนรู้เท่าไหร่ โลกเปลี่ยนแปลงเลยต้องศึกษาให้ทันโลกให้ได้ สู้กันต่อไปนะครับ โชคดีในการลงทุนนะครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 174
ที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ กับ tfex ไม่ใช่แนวทางลงทุนของผม ดูแล้ว ค่อนข้างจะเสี่ยงมากทีเดียว ผมบอกลูกไม่ให้ลงทุนใน tfex มันยากเกินกว่าที่จะเข้าใจ ผมเสียค่าเรียนรู้ตัวนี้ไปแล้ว คงไม่เอาอีกแล้ว ตอนนี้ค้างอยู่แค่ 2 สัญญาเท่านั้น เป็นสัญญาของ set50 ส่วนสัญญาของการซื้อขายทอง ยอมรับสภาพไปแล้วปิดสัญญาไปหมดแล้ว
ดูแล้วดอกเบี้ยลดลงแบบนี้ สงสารคนที่อยู่ได้ด้วยดอกเบี้ย และคนรุ่นใหม่ ที่ต้องทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแนวคิดหลายอย่าง ปีนี้ดูแล้ว ผมคงทำผลงานได้แค่ 10% เท่านั้นเอง จาก ปันผลรับ แถว 5% และจากการซื้อขายหุ้นแถว 5% เหมือนกัน .... ปีหน้า 2560 ถ้าได้ระดับนี้ ผมก็พอใจแล้ว แต่คิดว่าคงลำบาก ธุรกิจหลายด้านตกต่ำลง ก็ต้องหาธุรกิจที่ลงทุนแบบมีความมั่นคงและปันผลสูงระดับกว่า 5% ให้เจอ เจออยู่ตัวหนึ่งในผลิตไฟฟ้า คิดว่ามั่นคงและปันผลปีนี้และปีหน้าคงปันผลให้อย่างต่ำ 5% เป็นแน่ กิจการไม่ต้องลงทุนแล้ว มีแต่ปันผลให้เพิ่มทุกปี ก็ต้องจัดสรรเงินที่จะได้ ในหุ้นตัวนี้
เดือน กุมภา และ มีนาคม ปีหน้า ก็จะมีหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ 10 ปีของธนาคารกสิกรไทย และ ไทยพาณิชย์ที่ให้ ระดับ 4.65% ที่จ่ายทุกไตรมาส ปีหน้าพวกนี้ ก็คบ 5 ปี ซึ่งเขาต้องยกเลิกกองทุนเหล่านี้แน่นอน เพราะเขาสามารถยกเลิกเมื่อครบ 5 ปี ธนาคารทั้งสองยกเลิก และออก หุ้นกู้ให้ใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร คงได้ต่ำแน่นอน ไม่น่าจะถึง 3% ...เงินที่ได้ทุกไตรมาสก็จะหมดไป ชีวิตต้องสู้ ก็ สู้กันต่อไปนะครับ
ดูแล้วดอกเบี้ยลดลงแบบนี้ สงสารคนที่อยู่ได้ด้วยดอกเบี้ย และคนรุ่นใหม่ ที่ต้องทำงานหนักเพื่อความอยู่รอด ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแนวคิดหลายอย่าง ปีนี้ดูแล้ว ผมคงทำผลงานได้แค่ 10% เท่านั้นเอง จาก ปันผลรับ แถว 5% และจากการซื้อขายหุ้นแถว 5% เหมือนกัน .... ปีหน้า 2560 ถ้าได้ระดับนี้ ผมก็พอใจแล้ว แต่คิดว่าคงลำบาก ธุรกิจหลายด้านตกต่ำลง ก็ต้องหาธุรกิจที่ลงทุนแบบมีความมั่นคงและปันผลสูงระดับกว่า 5% ให้เจอ เจออยู่ตัวหนึ่งในผลิตไฟฟ้า คิดว่ามั่นคงและปันผลปีนี้และปีหน้าคงปันผลให้อย่างต่ำ 5% เป็นแน่ กิจการไม่ต้องลงทุนแล้ว มีแต่ปันผลให้เพิ่มทุกปี ก็ต้องจัดสรรเงินที่จะได้ ในหุ้นตัวนี้
เดือน กุมภา และ มีนาคม ปีหน้า ก็จะมีหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ 10 ปีของธนาคารกสิกรไทย และ ไทยพาณิชย์ที่ให้ ระดับ 4.65% ที่จ่ายทุกไตรมาส ปีหน้าพวกนี้ ก็คบ 5 ปี ซึ่งเขาต้องยกเลิกกองทุนเหล่านี้แน่นอน เพราะเขาสามารถยกเลิกเมื่อครบ 5 ปี ธนาคารทั้งสองยกเลิก และออก หุ้นกู้ให้ใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร คงได้ต่ำแน่นอน ไม่น่าจะถึง 3% ...เงินที่ได้ทุกไตรมาสก็จะหมดไป ชีวิตต้องสู้ ก็ สู้กันต่อไปนะครับ
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 897
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 176
สวัสดีครับ...จากการที่ลุงขวดได้ติดตามTNHมานานแล่ะรู้จักหุ้นตัวนี้เป็นอย่างดี ลุงขวดคิดว่าภายใน1-2ปีนี้TNHมีโอกาสหรือมีความจำเป็นหรือไม่ครับที่จะต้องสร้างตึกใหม่ขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นทุกปี (ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้TNHยังมีcapacityเหลืออีกเยอะหรือเปล่าครับ) ขอบคุณครับลุงขวด
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 177
สำหรับหุ้น TNH ซึ่งตามมาหลายปีแล้ว สิ่งที่เห็น คือ ที่ดินได้ปลอดล๊อค เรียบร้อย แล้วซึ่งซื้อได้ถูกมาก ส่วนกิจการก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อ่านงบที่เขาส่งมาให้แล้ว ก็ สบายใจและชอบมาก งบฉบับนี้ให้รายละเอียดมากกว่าเก่ามากทีเดียว ผมมาสนใจตรงที่อัตราครองเตียง โตจาก 52.73% 54.52% และปีที่ผ่านมานี้ 61.06% จุดนี้ ผมคิดว่า ยังพอมีเตียงว่างอยู่พอควร มีเพียง 190 เตียง .... เท่าที่คิด ถ้าอยู่ในระดับ 80% ก็ต้องมีการสร้างเตรียมไว้อย่างแน่นอน ก็จะไปฟังเขาว่า เขามีโครงการจะทำอะไรกับที่ดินของตนเองในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนสัญญากับกาชาดครบใน 8/11/2561 ก็คงไม่มีปัญหา การต่อสัญญา ซึ่งเขาคงเจรจาเช่าอีก 25-30 ปี แน่นอน เงินสดที่เหลือไว้ก็พอมีให้แล้วและมีเหลือเฟือที่จะพัฒนาที่ข้าง ๆ เขาเคยบอกว่าถ้ามีการเพิ่มทุนอะไรในส่วนนี้ก็จะให้ประโยชน์กับผู้ถือหุ้นมากที่สุด ในระยะ 1-2 ปีนี้ ไม่น่าจะมีการเพิ่มทุนอะไร สิ่งที่ผมอยากให้เขาทำในตอนนี้คือ ย้าย จาก mai ไป set เพราะถ้าเทียบ PE ในกลุ่ม set ให้ค่ามากกว่า พอควร ผมจึงได้ลงทุนเพิ่มและรอคอยต่อไป ทำเลแถบนั้น โรงพยาบาลดี ดี ก็ หายาก คู่แข่งนับว่าน้อย ก็ลงทุนกันไป ลองพิจารณาดูนะครับ ขอให้โชคดีในการลงทุน
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พวกเราอยู่กลุ่มไหน
โพสต์ที่ 179
มีครับการพิจารณาของการไฟฟ้าที่อนุมัติให้ใช้ท่อของเขาได้ในการเอาสายไฟฟ้าลงดิน ท่อเขาผ่าน สมอ. ไปแล้วเป็นรายแรก รายที่สองเป็นของคู่แข่งที่ผลิตสินค้าก่อน วันก่อนผมเดินทางไปปากน้ำ ก็ เห็นท่อสีส้ม ท่อร้อยสายใต้ดินของคู่แข่งขายให้ ช การช่าง อยู่ระหว่างใช้งาน สาย BTS ปากน้ำ ...ใน opp day Q3 คุณธานินทร์ก็บอกว่า ทางการไฟฟ้าได้ส่งจดหมายมาเมื่อวันที่ 8/11 จะมาขอตรวจสอบคุณภาพท่อใต้ดิน RTRC นี้ คุณธานินทร์ยังบอกว่า เขามั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี เพราะเขาลงทุนในโรงงานที่ 2 แล้ว และจะเสร็จในเดือน กพ ปีหน้า....ความล่าช้าของการไฟฟ้าคงต้องคิดหนักเพราะจะเอาสายไฟฟ้าลงดินก็ต้องเอาสายสื่อสารลงไปด้วย มันเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ถ้าตกลงกันได้และโครงการเริ่มเดิน ก็จะเป็นการปลดล๊อค สินค้าตัวนี้ได้ RTRC เป็นความหวังในอนาคตอีกหลายปี ท่านนายกประยุทธ ก็เคยพูดถึงเรื่องนี้และบอกจะเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อจัดวิสัยทัศน์ของเมืองที่เจริญแล้ว วันก่อนแถวบ้านผมเขาสร้างโครงการ Summer Hill (เจ้าของโครงการ Rain Hill ที่สุขุมวิท 47) ก็เกิดเครนตอกเสาเข็มล้มลง พาดเอาสายไฟฟ้า และสายสัญญาณ เสียหาย ใช้เวลาแก้ไขนานพอควร การไฟฟ้าก็เคยบอกเรื่องเสาไฟฟ้าล้ม มันก่อความเสียหายมาก ถ้าเอาลงดินปัญหาด้านนี้ก็จะหมดไป นี่แหละความจำเป็นที่ต้องเอาสายไฟฟ้าและสายสัญญาณลงดิน ถ้าปลดล๊อคเรื่องนี้ได้ และได้ส่วนแบ่งการขายสินค้านี้ ก็คงเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป.......ใน opp day คุณธานินทร์บอกเขาคาดหลังการขาย RTRC ยอด 38 ล้านพลาดไปจากเป้าในปีนี้ ก็ต้องรอดูผลงานในปีหน้าต่อไป....ซื้อหุ้นเหมือนซื้ออนาคต ถ้าอนาคตเป็นไปตามเป้า ราคาหุ้นก็จะขยับขึ้นเอง แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเป้า ก็คงจะยากลำบากหน่อย ส่วนผมก็คงถือยาว เพราะชอบในผลงานที่เขาทำได้ การลงทุนมีความเสี่ยง ช่วยกันวิเคราะห์คิดกันเพื่อการอยู่รอดในตลาดหุ้นต่อไป
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่