1 ล้านบาทแรกในชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 511
พอร์ตแตะ 1 ล้านบาทตอนช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ครับ
เริ่มต้นลงทุน ปี 50 ทุนเริ่มต้น 50,000บาท ปีต่อมาเจอวิกฤติ
ซับไพรม์ พอดี ใจแป้วเลยกว่าจะรอดมาได้ เป้าต่อไป 10ล้านบาท
ตอนนี้ขอเป้าหมายย่อย 5 ล้านบาทก่อนครับ ตอนนี้อยู่ช่วง 3 ล้าน
(ผลตอบแทนปันผลเอากลับเข้าพอร์ตทั้งหมด และใส่เงินตามแต่โอกาสเช่น เงินโบนัส)
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านและตัวเองครับ อีกไม่นาน
เริ่มต้นลงทุน ปี 50 ทุนเริ่มต้น 50,000บาท ปีต่อมาเจอวิกฤติ
ซับไพรม์ พอดี ใจแป้วเลยกว่าจะรอดมาได้ เป้าต่อไป 10ล้านบาท
ตอนนี้ขอเป้าหมายย่อย 5 ล้านบาทก่อนครับ ตอนนี้อยู่ช่วง 3 ล้าน
(ผลตอบแทนปันผลเอากลับเข้าพอร์ตทั้งหมด และใส่เงินตามแต่โอกาสเช่น เงินโบนัส)
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านและตัวเองครับ อีกไม่นาน
คุณค่า แข็งแกร่ง เติบโต ยั่งยืน
-
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 512
เงิน1ล้านบาทแรกของผมไม่ได้มาจากการลงทุนในตลาดหุ้นครับ มาจากการทำธุรกิจส่วนตัวซึ่งก่อนหน้าที่จะมาพบธุรกิจที่เป็นตัวเราจริงๆต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายอย่างมาก จากการเริ่มต้นเป็นเซลแมนขายรถเบนซ์ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำขายไม่ได้ซักคันเพราะเศรษฐกิจตอนนั้นแย่มาก ต่อมาผมก็ไปเป็นเซลขายวัสดุกันซึมหลังคา กันไฟตามโครงสร้างเหล็ก ตามโรงงานในนิคมต่างๆก็ขายยากเหมือนกันต้องวิ่งต่างจังหวัดอาทิตย์ละ3วัน อาจจะเพราะประสพการณ์การเป็นเซลเรายังน้อยเลยไม่ประสพความสำเร็จอีกเช่นเคยครับ ต่อมาผมก็ไปช่วยธุรกิจวิ่งรถ10ล้อของแม่ผมซึ่งก็ล้มรุกคลุกคลานเหมือนกันสมัยนั้นออกรถสิบล้อไม่ต้องดาวน์ ถ้าออก10คันแถมรถปิคอัพ1คัน ช่วงนั้นออกรถมาก็ไปวิ่งร่วมกับเค้าโดนกินหัวคิวสมัยนั้นวิ่งทรายเส้นพุทธมณฑลสาย1สาย2 ตอนช่วงขยายถนนใหม่ๆ ธุรกิจดูเหมือนจะดีแต่ก็เจ๊งเหมือนเคยเพราะค่าใช้จ่ายสูงภาษีสังคมเยอะ ลูกน้องกินยางกินน้ำมัน แถมหัวหน้าคุมรถก็กินบิลอีก สุดท้ายรถสิบล้อก็ถูกยึด จากประสพการณ์ธุรกิจรถสิบล้อคนที่จะทำได้ต้องเป็นนักเลงพอสมควรเพราะวงการนี้มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น หลังจากเจ๊งรถสิบล้อผมก็ไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำแถวบางเลนตอนนั้นสมัยคุณบรรหารเป็นนายกเค้าฮิตเลี้ยงกุ้งน้ำกร่อยกันมากผมก็ลองเลี้ยงบ้าง2คร๊อป ทุกวันต้องคอยเช็คค่าpeน้ำระวังกุ้งช๊อคแล้วก็ให้อาหารกุ้งคอยดูขนาดของกุ้งเช็คว่ากุ้งเป็นหัวเหลืองหรือป่าว ผมกินนอนอยู่ที่บ่อเลยแต่การเลี้ยงกุ้งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆมันต้องอาศัยประสพการณ์อย่างมากเพราะกุ้งมันอยู่ใต้น้ำเราจะไม่มีวันรู้เลยว่าตอนจับจะได้กี่ตันมีกุ้งตายมากหรือน้อยมันกินกันเองหรือป่าว ค่าอาหารเม็ดกุ้งก็แพงต้องใช้เงินสดไปซื้อทุกอาทิตย์ช่วงใกล้จับต้องอัดอาหารเพื่อให้กุ้งได้น้ำหนัก ทำรอบแรกก็รู้สึกว่ากุ้งไม่ได้ขนาดราคาก็จะไม่ดีจับก็จะไม่ได้กำไรแต่ก็ต้องจับเพราะถ้าไม่จับจะไม่เหลือเลย พอรอบสองยิ่งยากใหญ่เพราะถ้าปรับสภาพดินไม่ดีกุ้งจะเป็นโรคอันนี้ประสพการณ์ล้วนๆพอรอบสองเที่ยวนี้ขาดทุนเลย ที่เค้าเคยพูดๆกันว่ากุ้งมันกินโฉนดแต่ของผมกินบีเอ็มซีรี่5ไปคันนึงแถมกู้เงินเค้ามาทำบางส่วนสรุปว่าเจ๊งเหมือนเดิมครับ จากนั้นผมก็มืดแปดด้านเลยครับนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรกินดีพอดีพี่สาวผมเค้าไปเช่าที่เปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างเก่าทุกประเภทเริ่มตั้งไข่เหมือนกันครับ ผมก็ไปเช่าที่เล็กๆอยู่หลังร้านพี่สาวซื้อเครื่องปั๊มเหล็กมาตัวนึงแล้วก็ปั๊มตะเกียบนั่งร้านใหม่ไปส่งตามร้านขายนั่งร้านต่างๆ ผมจะมีปิคอัพอยู่คันนึงขับไปซื้อเหล็กแป๊ปจากปู่เจ้าข้ามมาแถวบางบัวทอง สมัยนั้นยังไม่มีสะพานนะครับต้องข้ามเรือมา บรรทุกมาทีละ2ตันแป๊ป6เมตรขับทีรถโยกหน้าโยกหลังเลยครับ ช่วงที่ทำตะเกียบนั่งร้านผมก็ไปเก็บของตามร้านของเก่ามาส่งพี่สาวบ้างจนผมมาเห็นที่ว่างให้เช่าเลยคิดจะเปิดร้านแบบพี่สาวบ้าง ผมเช่าที่เดือนละ12000บาทที่1ไร่กับ2งานทุกเช้าผมจะออกจากร้านตอนตี5ครึ่งเพื่อไปเก็บของตามร้านของเก่ามาวางขายหน้าร้าน ผมซื้อทุกอย่างที่ไม่แพงแล้วสามารถเอามาซ่อมขายได้ผมซื้อสากกะเบือยันเรือรบเลยครับตั้งแต่ เศษเหล็ก เครื่องมือช่าง นั่งร้านเก่า แบบเหล็กเก่า รถโฟคลิฟท์เก่า ไปจนถึงรถสิบล้อมือสอง ถ้าบางครั้งโชคดีมีประมูลงานผมก็ประมูลดูถ้าราคาไม่แพงทำมีกำไรผมก็ทำครับ ช่วงแรกผมจะไม่เห็นเงินเพราะผมคิดเสมอว่าเงินต่อเงินเราขายของได้เท่าไหร่เราต้องไปหาของมาขายเพิ่มเท่าที่เงินมีวันนึงเมื่อร้านเราไม่มีที่วางของวันนั้นเราจะเหลือเงินเก็บ เพราะงั้นผมจะเหลือแค่เงินสดหมุนเวียนในร้านบางส่วน ผมเป็นคนขยันและประหยัดมากบางวันผมทั้งเก็บของส่งของคนเดียวเช้ายันค่ำเพราะผมไม่มีปัญญาไปจ้างคนขับในช่วงแรกเราต้องวิ่งเองคนเดียวหมดกินข้าวผมก็กินกับคนงานไม่เคยถือตัว และของมือสองคนก็มีความต้องการสูงเพราะสมัยก่อนราคาไม่แพงแล้วคนก็ยังทำกันไม่เยอะ น้ำขึ้นต้องรีบตักผมทำอยู่2ปีผมก็เริ่มเห็นเงิน1ล้านบาทแรกมันเป็นความภูมิใจแบบที่อธิบายไม่ถูกเลยครับจากคนที่เคยล้มเหลวมาตลอดทำอะไรก็ไม่ประสพความสำเร็จ จากวันที่ผมเริ่มเปิดร้านของเก่าถึงวันนี้ก็15ปีแล้วครับ ถึงวันนี้ผมมีที่เป็นของตัวเองมีธุรกิจเล็กๆไว้ให้ลูกหลานสืบทอด มีเงินเก็บนิดหน่อยไว้ลงทุนในหุ้น(ผมเริ่มลงทุนในหุ้นตอนแฮมเบอร์เกอร์นะครับพูดอีกเดี๋ยวจะยาว)ที่สำคัญคือการไม่มีหนี้เป็นความสุขที่สุดครับ ทุกวันนี้ผมมีความสุขแบบเรียบง่ายไม่หวือหวาเหมือนสมัยก่อนแล้วครับปลูกพืชผักสวนครัวในบ้านกินเอง ใครที่ยังไม่เคยมีเงินล้านผมบอกได้เลยว่ามันยากมากบางครั้งโอกาสที่จะทำให้เราประสพความสำเร็จมีมาไม่บ่อยบางที10ปีอาจจะมาแค่ครั้งเดียวถึงตอนนั้นจงยึดมันไว้ให้มั่นแล้วทำให้ดีที่สุดแล้วคุณจะประสพความสำเร็จเองครับ
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 514
สำหรับผมผ่านมาได้หลายปีแล้ว จากเดิมตั้งแต่เริ่มลงทุนกำไรต่อปี ปีล่ะไม่กี่หมื่นบาท ขยับมาเป็นหลักแสน จนถึงปัจจุบันที่กำไรจากเงินลงทุนบวกปันผลขึ้นหลักล้านต่อปี
หากมองย้อนหลังกลับไปที่จุดเริ่มต้น จากเงินลงทุนตั้งต้นที่เก็บหอมรอมริบมาในช่วงของการทำงาน นำมาลงทุนเพื่อให้ได้ดอกผลที่คุ้มค่า ถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเลยทีเดียวครับ
เป้าหมายของการลงทุนผมตั้งเป้าไว้ที่ 15% ต่อปี ให้เงินลงทุนและปันผลทบต้นไปเรื่อยๆ เพราะยังทำงานประจำและมีรายได้ให้ใช้อยู่ จึงยังสามารถนำเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายไปลงทุนเพิ่มได้เรื่อยๆ
แต่ระยะหลังๆ รู้สึกว่าพอร์ตเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น จึงไม่ค่อยได้เพิ่มเงินลงทุนเข้าไปมากนัก แต่จะนำเงินเดือนไปใช้ในการทำบุญ การพักผ่อนและการท่องเที่ยวมากกว่า หากเหลือจริงๆก็จะนำไปซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี และบางส่วนซื้อกองทุนหุ้นปันผล เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้เข้ามาอีกทางครับ
ส่วนตัวตั้งเป้าอยากเกษียรอีก 2 ปีข้างหน้า ตอนนั้นคงอายุสัก 35 ปีกว่าๆ หวังรายได้จากเงินปันผล ให้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพก็พอครับ ถ้าเทียบปันผลที่ได้ในปัจจุบัน ยังคงต้องใช้เวลาอีกสัก 2 ปี จึงจะเพียงพอเพื่อการเลี้ยงชีพครับ
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหรือพอร์ตยังไม่ถึงหลักล้าน ก็ค่อยๆสะสมความรู้และไม่ละความเพียรในการลงทุนครับ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนก็เริ่มมาจากจุดเล็กๆเหมือนกัน เมื่อพอร์ตการลงทุนถูกสะสมจนมีความมั่งคั่งเพิ่มพูนขึ้น แม้จะได้กำไรไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่มูลค่าของเงินกำไรที่ได้ เมื่อเทียบกับตอนเริ่มต้นลงทุน ไม่สามารถเทียบกันได้เลยครับ
ทุกวันนี้ผมนั่งมองมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละวันและในแต่ละเดือน เคลื่อนไหวมากกว่าเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือนเสียอีก แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นถึงสัจธรรมที่ว่า ไม่มีอะไรที่แน่นอนครับ
ผมคิดว่าทุกคนต้องการที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน คือ มีรายได้จากงานที่ไม่ประจำพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ได้อย่างพอเพียงและมั่นคง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น หากเราต้องการลาขาดจากงานประจำ เราต้องมีความมั่นใจว่าเงินลงทุนในพอร์ตของเรามีความมั่นคงพอแล้ว จึงค่อยละจากงานประจำครับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้เราต้องกลับมาอยู่ในวัฎฎะ ไม่สามารถหลุดออกไปจากวัฎฎะได้ครับ
ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเฝ้ารอวันนั้น เหมือนๆเพื่อนๆพี่ๆ นักลงทุนทุกท่านครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ท่านและขอกำลังใจจากท่าน เช่นกันครับ
หากมองย้อนหลังกลับไปที่จุดเริ่มต้น จากเงินลงทุนตั้งต้นที่เก็บหอมรอมริบมาในช่วงของการทำงาน นำมาลงทุนเพื่อให้ได้ดอกผลที่คุ้มค่า ถือว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดเลยทีเดียวครับ
เป้าหมายของการลงทุนผมตั้งเป้าไว้ที่ 15% ต่อปี ให้เงินลงทุนและปันผลทบต้นไปเรื่อยๆ เพราะยังทำงานประจำและมีรายได้ให้ใช้อยู่ จึงยังสามารถนำเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายไปลงทุนเพิ่มได้เรื่อยๆ
แต่ระยะหลังๆ รู้สึกว่าพอร์ตเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น จึงไม่ค่อยได้เพิ่มเงินลงทุนเข้าไปมากนัก แต่จะนำเงินเดือนไปใช้ในการทำบุญ การพักผ่อนและการท่องเที่ยวมากกว่า หากเหลือจริงๆก็จะนำไปซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี และบางส่วนซื้อกองทุนหุ้นปันผล เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้เข้ามาอีกทางครับ
ส่วนตัวตั้งเป้าอยากเกษียรอีก 2 ปีข้างหน้า ตอนนั้นคงอายุสัก 35 ปีกว่าๆ หวังรายได้จากเงินปันผล ให้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพก็พอครับ ถ้าเทียบปันผลที่ได้ในปัจจุบัน ยังคงต้องใช้เวลาอีกสัก 2 ปี จึงจะเพียงพอเพื่อการเลี้ยงชีพครับ
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นหรือพอร์ตยังไม่ถึงหลักล้าน ก็ค่อยๆสะสมความรู้และไม่ละความเพียรในการลงทุนครับ เพราะส่วนใหญ่ทุกคนก็เริ่มมาจากจุดเล็กๆเหมือนกัน เมื่อพอร์ตการลงทุนถูกสะสมจนมีความมั่งคั่งเพิ่มพูนขึ้น แม้จะได้กำไรไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อปี แต่มูลค่าของเงินกำไรที่ได้ เมื่อเทียบกับตอนเริ่มต้นลงทุน ไม่สามารถเทียบกันได้เลยครับ
ทุกวันนี้ผมนั่งมองมูลค่าเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละวันและในแต่ละเดือน เคลื่อนไหวมากกว่าเงินเดือนที่เราได้รับในแต่ละเดือนเสียอีก แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นถึงสัจธรรมที่ว่า ไม่มีอะไรที่แน่นอนครับ
ผมคิดว่าทุกคนต้องการที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน คือ มีรายได้จากงานที่ไม่ประจำพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ได้อย่างพอเพียงและมั่นคง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น หากเราต้องการลาขาดจากงานประจำ เราต้องมีความมั่นใจว่าเงินลงทุนในพอร์ตของเรามีความมั่นคงพอแล้ว จึงค่อยละจากงานประจำครับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้เราต้องกลับมาอยู่ในวัฎฎะ ไม่สามารถหลุดออกไปจากวัฎฎะได้ครับ
ผมเองก็เป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเฝ้ารอวันนั้น เหมือนๆเพื่อนๆพี่ๆ นักลงทุนทุกท่านครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ท่านและขอกำลังใจจากท่าน เช่นกันครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 66
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 515
เพิ่งจะรู้อายุคุณ tum H. ตอนแรกนึกว่าวัยเกษียนคับ คนรุ่นนี้ยังไม่ค่อยสนบุญกันนะคับ
ผมจุดเริ่มต้น และอายุน่าจะใกล้เคียงกับคุณ tum h คับ แต่ปลายทางนี่ยังไม่ใกล้เคียง 555
นี้ต้องการจะให้กำลังใจคนที่ยังทำงานประจำนะคับ เดี๊ยวจะพารีบลาออกโดยไม่พร้อมเท่าคุณ tum h กันหมด
สำหรับผมงามประจำเป็นการลดทิฐินะคับ เรายังไม่มี เรายังไม่รู้ ส่วนหน้าที่ในงานที่มีอะไรขัดใจมากมายก็เป็นการฝึกจิตของเราไป. ตั้งใจรับผิดชอบต่อทุกหน้าที่ให้ดีที่สุดคับ หรือบางทีอาจจะยังไม่รู้จักพอก็ได้คับ
"เมืองมีมันไม่พอเมืองพอมันไม่มี" 555
สุดท้าย อิสรภาพทางการเงินอาจยังไม่ใช่สิ่งที่วัดความสำเร็จที่ดีเท่าไหร่ สิ่งที่ทำจากเวลาที่มีในแต่ละวัน คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างและมีคุณค่าคับ หน้าที่มีตลอดเวลาทั้งไม่ว่าจะทำงานหรือไม่ทำงานประจำ ทั้งกับตนเองและครอบครัวคับ
ยังไงแสดงความยินดีล่วงหน้า2ปีกะคุณ tumh. ด้วยคับ อืจฉาอยู่ 555
ผมจุดเริ่มต้น และอายุน่าจะใกล้เคียงกับคุณ tum h คับ แต่ปลายทางนี่ยังไม่ใกล้เคียง 555
นี้ต้องการจะให้กำลังใจคนที่ยังทำงานประจำนะคับ เดี๊ยวจะพารีบลาออกโดยไม่พร้อมเท่าคุณ tum h กันหมด
สำหรับผมงามประจำเป็นการลดทิฐินะคับ เรายังไม่มี เรายังไม่รู้ ส่วนหน้าที่ในงานที่มีอะไรขัดใจมากมายก็เป็นการฝึกจิตของเราไป. ตั้งใจรับผิดชอบต่อทุกหน้าที่ให้ดีที่สุดคับ หรือบางทีอาจจะยังไม่รู้จักพอก็ได้คับ
"เมืองมีมันไม่พอเมืองพอมันไม่มี" 555
สุดท้าย อิสรภาพทางการเงินอาจยังไม่ใช่สิ่งที่วัดความสำเร็จที่ดีเท่าไหร่ สิ่งที่ทำจากเวลาที่มีในแต่ละวัน คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างและมีคุณค่าคับ หน้าที่มีตลอดเวลาทั้งไม่ว่าจะทำงานหรือไม่ทำงานประจำ ทั้งกับตนเองและครอบครัวคับ
ยังไงแสดงความยินดีล่วงหน้า2ปีกะคุณ tumh. ด้วยคับ อืจฉาอยู่ 555
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 516
ขอบคุณมากเลยครับwanwaan เขียน:เพิ่งจะรู้อายุคุณ tum H. ตอนแรกนึกว่าวัยเกษียนคับ คนรุ่นนี้ยังไม่ค่อยสนบุญกันนะคับ
สำหรับผมทุกวันนี้ชีวิตในปัจจุบันมีความสุขเป็นปรกติ
กล่าวคือ รู้สึกว่าตัวเองพอใจในอัตภาพและความเป็นไปของตน
มูลค่าของพอร์ตที่มี ไม่ได้มากมายอะไร แต่ตอนนี้
ตั้งแต่สั่งสมประสบการณ์มาทั้งชีวิต ทำให้เราเข้าใจโลกได้กว้างขึ้น
และที่สำคัญยังทำให้เราเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตัวเองได้อย่างถ่องแท้อีกด้วย
เงินอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่มันก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็น
เพราะไม่เพียงแค่ตัวเราเท่านั้น ยังมีพ่อแม่ที่ต้องดูแล อีกทั้งยังพอเป็นหลักประกันได้ว่า
เมื่อเจ็บป่วยจะพอช่วยให้ไม่ลำบากหรือเบียดเบียนผู้อื่นมากนัก
สำหรับผม ชีวิตนี้มีความสุขมากมายโดยยึดหลักความพอเพียง
และก็เชื่อว่าหากเรายังดำรงตนเหมือนเช่นปัจจุบัน
หากมีชีวิตหน้าอีกครั้ง เชื่อว่าจะหาคำว่าไม่มีไม่เจอครับ
ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 518
ซื้อตอนเกิดเหตุการวิกฤตครับ (ราคาหุ้นลงไปมากกว่า 30 เปอร์เซนต์ ต้องอดใจรอครับ) และ ขายตอนราคาหุ้นเกินมูลค่ามากมากครับ หุ้นที่จะซื้อส่วนใหญ่ เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 1-3 ของอุตสหกรรมนั้น โอกาสที่คู่แข่งจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดยาก และ เป็นหุ้นที่คิดว่ามีอนาคต อันสุดท้าย จะไม่ซื้อหุ้นที่มี market cap ใหญ่ จะเน้น ขนาดกลาง กลับเล็ก เพราะว่า มันสามารถโตเป็นหลายเท่าตัวได้CARPENTER เขียน:ยินดีด้วยกับทุกๆท่าน ที่ประสพความสำเร็จตามที่หวัง
เห็นพอร์ต คุณ nuttagan ดูดีมาก อยากถาม คุณnuttagan
ถึง วันเวลา สถานะการณ์ อะไรที่เหมาะในการซื้อหุ้น หรือ ขายหุ้น หลังจากเลือกหุ้นได้แล้ว
อยากได้คำตอบแบบที่ปฎิบัติจริงๆครับ
ยินดีรับรับความรู้จากท่านอื่นๆด้วยครับ แต่ที่เน้น คุณnuttagan เพราะ เห็นอัตรากำไรแล้วน่าสนใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 519
ขอมาลงชื่อด้วยอีกหนึ่งคน อยากจะบอกว่า ขอบคุณพี่ๆหลายๆท่าน ที่เขียนข้อมูลดีๆ ให้ผมใช้ในการตัดสินใจลงทุน
ผมจะตั้งใจฝึกฝนตัวเองให้เดินไปถึงเป้าหมายของชีวิตครับ
ผมจะตั้งใจฝึกฝนตัวเองให้เดินไปถึงเป้าหมายของชีวิตครับ
แนบไฟล์
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
- เหรียญ
- Verified User
- โพสต์: 686
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 520
ในที่สุดก็ได้มาลงชื่อในกระทู้นี้
ตั้งเป้าว่าอายุ30จะมี1ล้าน แต่โชคดีทำได้เร็วกว่าที่หวัง2ปี 7เดือน
ลงทุนปีนี้ปีที่5 เริ่มด้วยเงิน50,000บาท เติมเงินจากเงินเก็บ6,000-7,000ทุกเดือน
จนเมื่อวานก็ได้เห็น1ล้านครั้งแรก ไม่เสียแรงที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาในตลาดหุ้น
เห็นหลายคนพูดกันว่า1ล้านแรกหายากที่สุด
ไม่รู้จริงไหม ผมคงต้องหาคำตอบด้วยการมีล้านที่สอง ^^
เป้าต่อไปขอตั้งไกลๆเลย ภายใน10ปีเปลี่ยนอีก1หลัก
หวังว่าจะสามารถทำได้ จะได้ไปลงชื่ออีกกระทู้
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังเดินเส้นทางนี้เพื่อเดินไปหาอิสรภาพทางการเงิน
ผมอยากบอกสั้นๆว่าการลงทุนแนวนี้มันได้ผลครับ อย่าพึ่งหมดกำลังใจจนเปลี่ยนแนวทางลงทุน
ต้องขอบคุณเว็บนี้มากๆที่ให้ความรู้ ข้อมูลอันมีประโยชน์ที่สามารถใช้ในการลงทุน
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่แชร์ข้อมูลดีๆมากมาย ขอบคุณครับ
ตั้งเป้าว่าอายุ30จะมี1ล้าน แต่โชคดีทำได้เร็วกว่าที่หวัง2ปี 7เดือน
ลงทุนปีนี้ปีที่5 เริ่มด้วยเงิน50,000บาท เติมเงินจากเงินเก็บ6,000-7,000ทุกเดือน
จนเมื่อวานก็ได้เห็น1ล้านครั้งแรก ไม่เสียแรงที่ตัดสินใจก้าวเข้ามาในตลาดหุ้น
เห็นหลายคนพูดกันว่า1ล้านแรกหายากที่สุด
ไม่รู้จริงไหม ผมคงต้องหาคำตอบด้วยการมีล้านที่สอง ^^
เป้าต่อไปขอตั้งไกลๆเลย ภายใน10ปีเปลี่ยนอีก1หลัก
หวังว่าจะสามารถทำได้ จะได้ไปลงชื่ออีกกระทู้
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังเดินเส้นทางนี้เพื่อเดินไปหาอิสรภาพทางการเงิน
ผมอยากบอกสั้นๆว่าการลงทุนแนวนี้มันได้ผลครับ อย่าพึ่งหมดกำลังใจจนเปลี่ยนแนวทางลงทุน
ต้องขอบคุณเว็บนี้มากๆที่ให้ความรู้ ข้อมูลอันมีประโยชน์ที่สามารถใช้ในการลงทุน
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่แชร์ข้อมูลดีๆมากมาย ขอบคุณครับ
''I didn't come this far to only come this far''
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 521
ดีใจด้วยครับ สู้ต่อไปครับ อดทน สักสิบปีขึ้นไป แล้วอนุภาพของการทบต้นจะเริ่มแสดงผลคร้บ
ของผมขออีกสองปีครับ อิอิ
ของผมขออีกสองปีครับ อิอิ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 522
ล้านแรกจากการเก็บออมจากการทำงานได้มาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ล้านแรกจาการลงทุนไม่ได้ซักที ทั้งที่ลงทุนมาเกือบ 7 ปีแล้ว พอร์ตมาโตช่วง 1-2 ปีหลังเมื่อพบทางสว่างจากคุณโจ้ ลูกอีสาน เจอแนวทางการลงทุนของตัวเองซักที แแล้วจะเอาแบบอย่างจากเจ้าของกระทู้นะครับ ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 523
เช้านี้ผมนั่งหากระทู้นี้นานมาก ผมจำได้ว่า ผมเคยผ่านตากระทู้นี้ช่วงปีสองปีที่ผ่านมา และตั้งใจว่าวันหนึ่งที่ผมเดินทางมาถึง ผมจะมาโพสในกระทู้นี้แน่นอน
ชีวิตผมเริ่มมาสนใจการออมและการลงทุนอย่างตั้งใจเมื่อปี 2013 เองครับ ขอเล่าย้อนกลับไปหน่อยผมจบปริญญาตรีเมื่อปี 2001 และย้ายไปอยู่อเมริกาเพื่อเรียนต่อโท ผมกลับมาเมืองไทยอีกครั้งในปี 2008 พร้อมกับเงินสดที่ติดตัวกลับมาประมาณ 2 แสนบาท และเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นทันที ในช่วงปีสองปีแรกผมเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรรายวัน ซึ่งบางวันได้กำไร 500 ถึง 1,000 บาทก็ดีใจแล้วครับ จนถึงจุดหนึ่งผมเริ่มรู้สึกว่าการเทรดหุ้นรายวันมันกินเวลาผมพอสมควร ผลตอบแทนก็ไม่ได้ดีกว่าตลาดเท่าไรนัก ดังนั้นผมก็ย้ายเงินกว่า 70% ที่มีไปลงที่กองทุน และไม่ได้ให้ความสนใจต่อตลาดอีกเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย
จนมาถึงประมาณกลางปี 2013 ผมได้พูดคุยกับรุ่นพี่ที่ทำงานท่านหนึ่งซึ่งช่วยเปิดโลกการลงทุนของผม สิ่งที่ผมค้นพบคือ ชีวิตนี้มันมีความหวัง ผมได้นำสิ่งที่ผมเรียนรู้มาพูดคุยกับภรรยา และน้อง ๆ ของผม จากจุดนั้นเมื่อปี 2013 ผมมีเงินเริ่มต้นแถว ๆ แสนกว่าบาท (เห็นได้ว่า เงินของผมไม่ได้เติบโตเลยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหลังจากกลับมาจากอเมริกา แถมยังลดลงด้วย เพราะมีค่าใช้จ่ายเช่น จัดงานแต่งงาน คลอดลูก) วันนี้ผมมาถึง 1 ล้านบาทแรกในชีวิตแล้ว โดยการออมทันทีหลังจากได้รับเงินเดือน การลงทุนแบบมีเหตุมีผล และนำเงินปันผลมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายอย่างพอเพียง ไม่ได้ใช้ชีวิตเกินกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็น สิ่งหนึ่งที่ผมยังคิดว่าผมไม่ได้ทำดีเท่าที่ควรคือ การหารายได้เพิ่มเติม หรือมีรายรับที่มากกว่า 1 ช่องทาง จึงทำให้ผมเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น ผมใช้เวลาเกือบ ๆ 3 ปีสำหรับ 1 ล้านบาทแรก
จนวันนี้ ผมได้มาถึงเป้าหมายแรกของผมแล้ว และเดินทางต่อเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายต่อไป ผมอยากจะขอขอบคุณ
พี่สุวิทย์ที่สอนแนวทางการลงทุนให้ผม
tactschool ที่สอนการอ่านงบการเงินและสอนการคัดบริษัทที่ดีอย่างง่าย ๆ
a-academy ที่ปลูกฝังการออม การลงทุนอย่างพอเพียง
รายการ Money Talk ที่ให้สาระความรู้ทางการเงิน และการใช้ชีวิตที่พอเพียง หากมีโอกาสผมอยากไปกราบขอบคุณอาจารย์ทุก ๆ ท่านครับ
และสุดท้ายผมขอขอบคุณภรรยาผม (ซึ่งขอบคุณกันต่อหน้าไปแล้ว) ที่คอยเป็นกำลังใจ เข้าใจในแนวทางที่ผมเลือกเดิน
ชีวิตผมเริ่มมาสนใจการออมและการลงทุนอย่างตั้งใจเมื่อปี 2013 เองครับ ขอเล่าย้อนกลับไปหน่อยผมจบปริญญาตรีเมื่อปี 2001 และย้ายไปอยู่อเมริกาเพื่อเรียนต่อโท ผมกลับมาเมืองไทยอีกครั้งในปี 2008 พร้อมกับเงินสดที่ติดตัวกลับมาประมาณ 2 แสนบาท และเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นทันที ในช่วงปีสองปีแรกผมเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรรายวัน ซึ่งบางวันได้กำไร 500 ถึง 1,000 บาทก็ดีใจแล้วครับ จนถึงจุดหนึ่งผมเริ่มรู้สึกว่าการเทรดหุ้นรายวันมันกินเวลาผมพอสมควร ผลตอบแทนก็ไม่ได้ดีกว่าตลาดเท่าไรนัก ดังนั้นผมก็ย้ายเงินกว่า 70% ที่มีไปลงที่กองทุน และไม่ได้ให้ความสนใจต่อตลาดอีกเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งเลย
จนมาถึงประมาณกลางปี 2013 ผมได้พูดคุยกับรุ่นพี่ที่ทำงานท่านหนึ่งซึ่งช่วยเปิดโลกการลงทุนของผม สิ่งที่ผมค้นพบคือ ชีวิตนี้มันมีความหวัง ผมได้นำสิ่งที่ผมเรียนรู้มาพูดคุยกับภรรยา และน้อง ๆ ของผม จากจุดนั้นเมื่อปี 2013 ผมมีเงินเริ่มต้นแถว ๆ แสนกว่าบาท (เห็นได้ว่า เงินของผมไม่ได้เติบโตเลยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหลังจากกลับมาจากอเมริกา แถมยังลดลงด้วย เพราะมีค่าใช้จ่ายเช่น จัดงานแต่งงาน คลอดลูก) วันนี้ผมมาถึง 1 ล้านบาทแรกในชีวิตแล้ว โดยการออมทันทีหลังจากได้รับเงินเดือน การลงทุนแบบมีเหตุมีผล และนำเงินปันผลมาลงทุนอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายอย่างพอเพียง ไม่ได้ใช้ชีวิตเกินกว่าหรือต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็น สิ่งหนึ่งที่ผมยังคิดว่าผมไม่ได้ทำดีเท่าที่ควรคือ การหารายได้เพิ่มเติม หรือมีรายรับที่มากกว่า 1 ช่องทาง จึงทำให้ผมเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น ผมใช้เวลาเกือบ ๆ 3 ปีสำหรับ 1 ล้านบาทแรก
จนวันนี้ ผมได้มาถึงเป้าหมายแรกของผมแล้ว และเดินทางต่อเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายต่อไป ผมอยากจะขอขอบคุณ
พี่สุวิทย์ที่สอนแนวทางการลงทุนให้ผม
tactschool ที่สอนการอ่านงบการเงินและสอนการคัดบริษัทที่ดีอย่างง่าย ๆ
a-academy ที่ปลูกฝังการออม การลงทุนอย่างพอเพียง
รายการ Money Talk ที่ให้สาระความรู้ทางการเงิน และการใช้ชีวิตที่พอเพียง หากมีโอกาสผมอยากไปกราบขอบคุณอาจารย์ทุก ๆ ท่านครับ
และสุดท้ายผมขอขอบคุณภรรยาผม (ซึ่งขอบคุณกันต่อหน้าไปแล้ว) ที่คอยเป็นกำลังใจ เข้าใจในแนวทางที่ผมเลือกเดิน
- begin again
- Verified User
- โพสต์: 337
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 525
เป้าหมาย 1 ล้านเลือนลางมาก สู้ต่อไปนะเรา TT
Someday
- laemwade
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 526
ผมยังเป็นมนุาย์เงินเดือนครับ ปีนี้อายุ 45ปี ผมไม่มีหุ้น มีแต่กองทุน LTF และ RMF สองกลุ่มกองทุนนี้ มีมูลค่ารวมกันแตะล้านบาทแรกเมื่อสิ้นเดือนมีนาที่ผ่านมาครับ ลงทุนในกองทุนรวมตั้งแต่ปี 2548 ครับ เป้าหมาย 10 ล้านเมื่อเกษียณที่อายุ 55ปีครับ ลงทุนแนว DCA ทุกเดือนครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 528
อย่าลืมเขียนเป้าหมายเเละกำหนดเวลาให้ชัดเจนนะครับ ผมว่าอันนี้เป็นอีกจุดปลดล๊อคสำคัญ
จากประสบการณ์คือพอเขียนเเล้วมีการระบุรายละเอียดชัดเจน เราจะFocus ความตั้งมั่นเเรงกล้า ตามมาด้วยความ"เชื่อ"อย่างสนิทใจ เชื่อว่าทำได้ชนิดที่ว่ามีเงิน1ล้านตั้งเเต่มีเงินเก็บเเค่เเสนเดียว ความเชื่อ(มั่น)มันอยู่ทุกรูขุมขนอะ...อธิบายยากเเต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยผ่านความรู้สึก"เชื่อ"เเบบนี้มาเเล้ว
จริงๆคนที่จะเชื่อเเบบนี้ได้ต้องมองเห็นทาง เห็นวิธี ว่าจะทำได้อย่างไรด้วย
สรุป อย่าลืมเขียนเป้าหมายลงใน"สมุดสมปารถนา"นะคั้บ พอคุณกลับมาย้อนดู ถ้าเรื่องที่เรามีเป้าชัดจริงๆ มันทำได้หมดอะ เหลือเชื่อมากๆ ผมเจอมาเเล้วครับ สู้ๆนะครับ
ไม่มีเป้าหมายใดที่เลือนลางหรอกครับ ถ้าเรามีความ"อยาก"ที่จะไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นมากพอ^^
จากประสบการณ์คือพอเขียนเเล้วมีการระบุรายละเอียดชัดเจน เราจะFocus ความตั้งมั่นเเรงกล้า ตามมาด้วยความ"เชื่อ"อย่างสนิทใจ เชื่อว่าทำได้ชนิดที่ว่ามีเงิน1ล้านตั้งเเต่มีเงินเก็บเเค่เเสนเดียว ความเชื่อ(มั่น)มันอยู่ทุกรูขุมขนอะ...อธิบายยากเเต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยผ่านความรู้สึก"เชื่อ"เเบบนี้มาเเล้ว
จริงๆคนที่จะเชื่อเเบบนี้ได้ต้องมองเห็นทาง เห็นวิธี ว่าจะทำได้อย่างไรด้วย
สรุป อย่าลืมเขียนเป้าหมายลงใน"สมุดสมปารถนา"นะคั้บ พอคุณกลับมาย้อนดู ถ้าเรื่องที่เรามีเป้าชัดจริงๆ มันทำได้หมดอะ เหลือเชื่อมากๆ ผมเจอมาเเล้วครับ สู้ๆนะครับ
ไม่มีเป้าหมายใดที่เลือนลางหรอกครับ ถ้าเรามีความ"อยาก"ที่จะไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นมากพอ^^
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 530
เพิ่งถึงล้านแรกวันนี้ครับ แค่5ปีกว่าๆเอง ไม่คิดว่าจะถึงเร็วขนาดนี้
ขอบคุณthaiviครับที่เป็นสื่อกลางให้ได้รับความรู้จากพี่ๆ
ขอบคุณพี่ๆที่แบ่งปันความรู้ คอยแชร์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ทำให้มีdirectionที่ถูกต้อง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณthaiviครับที่เป็นสื่อกลางให้ได้รับความรู้จากพี่ๆ
ขอบคุณพี่ๆที่แบ่งปันความรู้ คอยแชร์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ทำให้มีdirectionที่ถูกต้อง
ขอบคุณครับ
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 531
ยินดีด้วยครับ เห็นกระทู้นี้กลับมาหน้าหนึ่งอีกครั้งก็ทำให้หวนย้อนนึกถึงวันที่ได้ 1 ล้านบาทแรกของตัวเอง ถ้าพอจะสะดวก ช่วยเล่าเรื่องราวเส้นทางสู่ 1 ล้านบาทแรกให้คนอื่นที่กำลังพยายามอยู่ได้มีกำลังใจและความหวังมากขึ้นด้วย จะเยี่ยมมากเลยครับanubist เขียน:เพิ่งถึงล้านแรกวันนี้ครับ แค่5ปีกว่าๆเอง ไม่คิดว่าจะถึงเร็วขนาดนี้
ขอบคุณthaiviครับที่เป็นสื่อกลางให้ได้รับความรู้จากพี่ๆ
ขอบคุณพี่ๆที่แบ่งปันความรู้ คอยแชร์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้ทำให้มีdirectionที่ถูกต้อง
ขอบคุณครับ
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 532
ได้อ่านแล้วก็ย้อนนึกถึงวันที่มีเงินหลักหมื่น มีหนี้หลักแสน แต่พอได้รู้จักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รู้จักดอกเบี้ยทบต้น วันที่ลองคำนวณผลตอบแทนใน excel เปลี่ยนตัวเลขไปมา วันนั้นก็เกิดความหวังและมีความเชื่อว่าเราจะพ้นจากความยากจน เราจะมีเงิน 1 ล้านบาท 10 ล้านบาท 100 ล้านบาท หรือแม้กระทั่ง 1 พันล้านบาท ได้ในชีวิตนี้ นับแต่วันนั้นก็ได้เขียนแผนและเป้าหมายของตัวเองใส่กรอบรูปวางไว้ข้างฝาบ้านเพื่อให้ระลึกและซึมซับเข้าไปในเบื้องลึกของความคิดจิตใจของเรา และพอเดินมาในทางนี้เรื่อยๆ จากความหวัง ความเชื่อ ก็กลายเป็นความรู้แทน คือเรารู้แน่นอนแล้วว่าวันหนึ่งในอนาคตเราสามารถไปถึงจุดนั้นได้อย่างแน่นอนtorpongpak เขียน:อย่าลืมเขียนเป้าหมายเเละกำหนดเวลาให้ชัดเจนนะครับ ผมว่าอันนี้เป็นอีกจุดปลดล๊อคสำคัญ
จากประสบการณ์คือพอเขียนเเล้วมีการระบุรายละเอียดชัดเจน เราจะFocus ความตั้งมั่นเเรงกล้า ตามมาด้วยความ"เชื่อ"อย่างสนิทใจ เชื่อว่าทำได้ชนิดที่ว่ามีเงิน1ล้านตั้งเเต่มีเงินเก็บเเค่เเสนเดียว ความเชื่อ(มั่น)มันอยู่ทุกรูขุมขนอะ...อธิบายยากเเต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนเคยผ่านความรู้สึก"เชื่อ"เเบบนี้มาเเล้ว
จริงๆคนที่จะเชื่อเเบบนี้ได้ต้องมองเห็นทาง เห็นวิธี ว่าจะทำได้อย่างไรด้วย
สรุป อย่าลืมเขียนเป้าหมายลงใน"สมุดสมปารถนา"นะคั้บ พอคุณกลับมาย้อนดู ถ้าเรื่องที่เรามีเป้าชัดจริงๆ มันทำได้หมดอะ เหลือเชื่อมากๆ ผมเจอมาเเล้วครับ สู้ๆนะครับ
ไม่มีเป้าหมายใดที่เลือนลางหรอกครับ ถ้าเรามีความ"อยาก"ที่จะไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นมากพอ^^
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 533
หลังจากซิ่วมาหนึ่งรอบก็มาเรียนรามสาขาการเงิน
ปีสามก็เริ่มลงทุนด้านเทคนิค ดูกราฟ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสียมากกว่าได้ จึงเริ่มเปลี่ยนมาด้านพื้นฐานหลังจากลงทุนไปปีกว่า ตัวแรกก็ssiทำผมขาดทุนไป70% แต่ตลอดสองปีที่ถือssi มันสอนผมอย่างมาก
จนปลายปี56ก็เรียนจบ ได้งานใกล้บ้าน ช่วยให้มีเงินเติมพอร์ตอย่างต่ำเดือนละ6-7พัน พร้อมๆกับยอมแพ้ssi แต่ยังใช้ปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน
ปี58ก็กำไร100% จากหุ้นสามตัว เงินที่ขาดทุนก่อนหน้านี้ก็ตีคืนมาได้หมดมีกำไรแถมมานิดหน่อย มีเทรดดิ้งหุ้นตัวอื่นบ้างแต่กำไรขาดทุนพอๆกัน ถัวๆกันไป
ปี59 มาช่วยงานนอกสถานที่ ตั้งแต่มี.ค. บ.มีค่านอกสถานที่ให้ ทำให้มีเงินเติมพอร์ตมากขึ้น
ต้นปีกำไร40% แล้วก็ขาดทุนจากออฟชั่นจนพอร์ตติดลบปี58 20% แล้วก็มาได้กำไรจากอีกตัว จากนั้นก็ขาดทุน รวมๆกันแล้วติดลบ10% จนเดือนปลายส.ค. อ่านเจอหุ้นตัวหนึ่งพื้นฐานเปลี่ยน ประกอบกับหุ้นตัวนี้มีwให้เล่น ผมเลยลง100%กับwแทน(ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ถือหุ้นแค่ตัวเดียวในพอร์ตอยู่แล้ว) ตอนนี้หุ้นแม่ก็ขึ้นมา50%ในสามสัปดาห์ โดยที่ศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นแม่ไม่ขึ้นแต่wขึ้น จนwที่ผมถืออยู่กำไร100%
ไม่รู้ว่าเปิดวันอังคารจะกลับไปต่ำกว่าเดิมรึเปล่า
เหตุผลที่ผมถึงเร็ว
1.เก็บเงินเก่ง ตลอด3ปีที่ทำงานเก็บได้5แสน เพราะทำงานตจว.อยู่บ้านญาติไม่เสียค่าเช่าบ้าน ช่วยออกค่าน้ำไฟเนตเดือน1200 แล้วเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เที่ยวไม่ค่อยมี เงินเดือนจึงเหลือ6-10พันต่อเดือน ทั้งรับแค่14-15kเท่านั้น
2.ลงทุนตัวเดียว100% ถ้าแยกย่อยจะกลายเป็นเบี้ยหัวแตก
3.หุ้นที่กำไรส่วนมากจากพี่ๆในthaivi ยกเว้นwถือในตอนนี้เป็นการขุดหุ้นเอง
ปีสามก็เริ่มลงทุนด้านเทคนิค ดูกราฟ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสียมากกว่าได้ จึงเริ่มเปลี่ยนมาด้านพื้นฐานหลังจากลงทุนไปปีกว่า ตัวแรกก็ssiทำผมขาดทุนไป70% แต่ตลอดสองปีที่ถือssi มันสอนผมอย่างมาก
จนปลายปี56ก็เรียนจบ ได้งานใกล้บ้าน ช่วยให้มีเงินเติมพอร์ตอย่างต่ำเดือนละ6-7พัน พร้อมๆกับยอมแพ้ssi แต่ยังใช้ปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน
ปี58ก็กำไร100% จากหุ้นสามตัว เงินที่ขาดทุนก่อนหน้านี้ก็ตีคืนมาได้หมดมีกำไรแถมมานิดหน่อย มีเทรดดิ้งหุ้นตัวอื่นบ้างแต่กำไรขาดทุนพอๆกัน ถัวๆกันไป
ปี59 มาช่วยงานนอกสถานที่ ตั้งแต่มี.ค. บ.มีค่านอกสถานที่ให้ ทำให้มีเงินเติมพอร์ตมากขึ้น
ต้นปีกำไร40% แล้วก็ขาดทุนจากออฟชั่นจนพอร์ตติดลบปี58 20% แล้วก็มาได้กำไรจากอีกตัว จากนั้นก็ขาดทุน รวมๆกันแล้วติดลบ10% จนเดือนปลายส.ค. อ่านเจอหุ้นตัวหนึ่งพื้นฐานเปลี่ยน ประกอบกับหุ้นตัวนี้มีwให้เล่น ผมเลยลง100%กับwแทน(ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ถือหุ้นแค่ตัวเดียวในพอร์ตอยู่แล้ว) ตอนนี้หุ้นแม่ก็ขึ้นมา50%ในสามสัปดาห์ โดยที่ศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นแม่ไม่ขึ้นแต่wขึ้น จนwที่ผมถืออยู่กำไร100%
ไม่รู้ว่าเปิดวันอังคารจะกลับไปต่ำกว่าเดิมรึเปล่า
เหตุผลที่ผมถึงเร็ว
1.เก็บเงินเก่ง ตลอด3ปีที่ทำงานเก็บได้5แสน เพราะทำงานตจว.อยู่บ้านญาติไม่เสียค่าเช่าบ้าน ช่วยออกค่าน้ำไฟเนตเดือน1200 แล้วเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เที่ยวไม่ค่อยมี เงินเดือนจึงเหลือ6-10พันต่อเดือน ทั้งรับแค่14-15kเท่านั้น
2.ลงทุนตัวเดียว100% ถ้าแยกย่อยจะกลายเป็นเบี้ยหัวแตก
3.หุ้นที่กำไรส่วนมากจากพี่ๆในthaivi ยกเว้นwถือในตอนนี้เป็นการขุดหุ้นเอง
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 534
ผมเป็นคนกดลบให้คุณ anubist เองครับ สาเหตุคือ กดจากหน้าจอมือถือด้วยการถือมือเดียว เลยกดพลาดจาก + เป็น -
ต้องขออภัยจริงๆ ครับ
เก่งมากครับที่ปีก่อนทำได้ 100℅ ทั้งที่ตลาดรวมเป็นขาลงตลอดทั้งปี
ผมเองไม่ได้เก่งกาจอะไร ผลตอบแทนที่ผ่านมาก็แค่งั้นๆ แต่อาศัยว่าเคยทำผิดพลาดมาเยอะยิ่งกว่าเยอะ เอาเป็นว่าแทบไม่มีความผิดพลาดแบบไหนเลยที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์
ผมขออนุญาตเตือนด้วยความหวังดีจริงๆ นะครับ การลงทุนในหุ้นตัวเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น W ด้วยเงินทั้งพอร์ต เป็นวิธีการที่แฝงอันตรายอย่างมาก ต่อให้ผมไม่บอก ถ้ายังทำไปเรื่อยๆ สักวันนึงก็จะเข้าใจด้วยตนเอง
ผมคงบอกแค่นี้ ในเวลานี้ เพราะบางทีการไปเตือนมากเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งประสบความสำเร็จด้วยวิธีดังกล่าวก็อาจถูกตีความเจตนาผิดไปได้
ต้องขออภัยจริงๆ ครับ
เก่งมากครับที่ปีก่อนทำได้ 100℅ ทั้งที่ตลาดรวมเป็นขาลงตลอดทั้งปี
ผมเองไม่ได้เก่งกาจอะไร ผลตอบแทนที่ผ่านมาก็แค่งั้นๆ แต่อาศัยว่าเคยทำผิดพลาดมาเยอะยิ่งกว่าเยอะ เอาเป็นว่าแทบไม่มีความผิดพลาดแบบไหนเลยที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์
ผมขออนุญาตเตือนด้วยความหวังดีจริงๆ นะครับ การลงทุนในหุ้นตัวเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น W ด้วยเงินทั้งพอร์ต เป็นวิธีการที่แฝงอันตรายอย่างมาก ต่อให้ผมไม่บอก ถ้ายังทำไปเรื่อยๆ สักวันนึงก็จะเข้าใจด้วยตนเอง
ผมคงบอกแค่นี้ ในเวลานี้ เพราะบางทีการไปเตือนมากเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งประสบความสำเร็จด้วยวิธีดังกล่าวก็อาจถูกตีความเจตนาผิดไปได้
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 535
ขอบคุณที่เตือนครับพี่ดำ
ผมยังต้องปรับปรุงอีกมากครับ
พอร์ตผมเหวี่ยงสูงมากในแต่ละปี
ต้องหาทางลดβลงมา ไม่งั้นไม่น่าจะยืนระยะได้
หลักๆมาจากการลงทุนหุ้นตัวเดียว
ผมทราบครับว่าเสี่ยงมากแม้เราจะรู้จักหุ้นดีก็ตาม
แต่จะมีเรื่องoff-balance sheetที่บ.ไม่ได้บันทึกไว้ในรายงานงบการเงิน
ซึ่งเราประเมินตรงนี้ไม่ได้เลย
ในอนาคตผมจะนำเรื่องport folio management/money managementมาช่วยด้วย
อีกอย่างผมต้องลดความผิดพลาดลง
ต้องจำกัดการขาดทุนให้ได้ตามที่แกรมเฮมบอก
ส่วนwนั้นผมไม่ได้คิดตั้งแต่แรก แต่เห็นหุ้นแม่พื้นฐานน่าจะเปลี่ยนชัดเจนมากๆ เลยใช้wมาleverageครับ
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการกู้มาลงทุนหรือการเล่นออปชั่นที่กำไรมากก็ขาดทุนได้มาก จึงต้องระวังเป็นพิเศษ
ผมยังต้องปรับปรุงอีกมากครับ
พอร์ตผมเหวี่ยงสูงมากในแต่ละปี
ต้องหาทางลดβลงมา ไม่งั้นไม่น่าจะยืนระยะได้
หลักๆมาจากการลงทุนหุ้นตัวเดียว
ผมทราบครับว่าเสี่ยงมากแม้เราจะรู้จักหุ้นดีก็ตาม
แต่จะมีเรื่องoff-balance sheetที่บ.ไม่ได้บันทึกไว้ในรายงานงบการเงิน
ซึ่งเราประเมินตรงนี้ไม่ได้เลย
ในอนาคตผมจะนำเรื่องport folio management/money managementมาช่วยด้วย
อีกอย่างผมต้องลดความผิดพลาดลง
ต้องจำกัดการขาดทุนให้ได้ตามที่แกรมเฮมบอก
ส่วนwนั้นผมไม่ได้คิดตั้งแต่แรก แต่เห็นหุ้นแม่พื้นฐานน่าจะเปลี่ยนชัดเจนมากๆ เลยใช้wมาleverageครับ
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการกู้มาลงทุนหรือการเล่นออปชั่นที่กำไรมากก็ขาดทุนได้มาก จึงต้องระวังเป็นพิเศษ
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3419
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 537
ดีใจด้วยครับน้องรุ่ง แค่เก็บเงินเก่งและใช้เป็น อนาคตก็สดใสแล้วครับ การลงทุนบางครั้งถึงจุดๆหนึ่ง การบริหารความเสี่ยงของพอร์ทสำคัญที่สุดanubist เขียน:หลังจากซิ่วมาหนึ่งรอบก็มาเรียนรามสาขาการเงิน
ปีสามก็เริ่มลงทุนด้านเทคนิค ดูกราฟ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสียมากกว่าได้ จึงเริ่มเปลี่ยนมาด้านพื้นฐานหลังจากลงทุนไปปีกว่า ตัวแรกก็ssiทำผมขาดทุนไป70% แต่ตลอดสองปีที่ถือssi มันสอนผมอย่างมาก
จนปลายปี56ก็เรียนจบ ได้งานใกล้บ้าน ช่วยให้มีเงินเติมพอร์ตอย่างต่ำเดือนละ6-7พัน พร้อมๆกับยอมแพ้ssi แต่ยังใช้ปัจจัยพื้นฐานในการลงทุน
ปี58ก็กำไร100% จากหุ้นสามตัว เงินที่ขาดทุนก่อนหน้านี้ก็ตีคืนมาได้หมดมีกำไรแถมมานิดหน่อย มีเทรดดิ้งหุ้นตัวอื่นบ้างแต่กำไรขาดทุนพอๆกัน ถัวๆกันไป
ปี59 มาช่วยงานนอกสถานที่ ตั้งแต่มี.ค. บ.มีค่านอกสถานที่ให้ ทำให้มีเงินเติมพอร์ตมากขึ้น
ต้นปีกำไร40% แล้วก็ขาดทุนจากออฟชั่นจนพอร์ตติดลบปี58 20% แล้วก็มาได้กำไรจากอีกตัว จากนั้นก็ขาดทุน รวมๆกันแล้วติดลบ10% จนเดือนปลายส.ค. อ่านเจอหุ้นตัวหนึ่งพื้นฐานเปลี่ยน ประกอบกับหุ้นตัวนี้มีwให้เล่น ผมเลยลง100%กับwแทน(ซึ่งที่ผ่านมาผมก็ถือหุ้นแค่ตัวเดียวในพอร์ตอยู่แล้ว) ตอนนี้หุ้นแม่ก็ขึ้นมา50%ในสามสัปดาห์ โดยที่ศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นแม่ไม่ขึ้นแต่wขึ้น จนwที่ผมถืออยู่กำไร100%
ไม่รู้ว่าเปิดวันอังคารจะกลับไปต่ำกว่าเดิมรึเปล่า
เหตุผลที่ผมถึงเร็ว
1.เก็บเงินเก่ง ตลอด3ปีที่ทำงานเก็บได้5แสน เพราะทำงานตจว.อยู่บ้านญาติไม่เสียค่าเช่าบ้าน ช่วยออกค่าน้ำไฟเนตเดือน1200 แล้วเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่เที่ยวไม่ค่อยมี เงินเดือนจึงเหลือ6-10พันต่อเดือน ทั้งรับแค่14-15kเท่านั้น
2.ลงทุนตัวเดียว100% ถ้าแยกย่อยจะกลายเป็นเบี้ยหัวแตก
3.หุ้นที่กำไรส่วนมากจากพี่ๆในthaivi ยกเว้นwถือในตอนนี้เป็นการขุดหุ้นเอง
ในเกมการเงิน อะไรที่ไม่รู้ คือ ความเสี่ยง
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 538
ขอบคุณ คุณ anubist ที่มาแชร์นะครับ
เรื่องแนวคิดการลงทุนนี่บางทีก็พูดยากนะครับ ต่างคนก็มีวิธีคิดที่ต่างกัน บางทีผมก็เป็นนะครับ ถึงแม้จะได้ยินหลายคนบอกว่าควรจะถือไม่น้อยกว่า 3 ตัว เหมือนเก้าอี้ 3 ขา พลาดตัวนึงก็ยังไม่รุนแรงมาก แต่ผมก็ไม่ได้ทำตาม ก่อนหน้านี้ผมเคยมีหุ้นที่เล็งๆไว้ 3-4 ตัว แต่ความั่นใจในตัวแรกมากที่สุด และมากกว่าตัวที่ 2-4 ค่อนข้างมาก ผมเคยพยายามลงเงินกระจายไป 3-4 ตัว แต่ก็ไม่สบายใจ ตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าตัวแรกให้ผลตอบแทนสูงสุด ความเสี่ยงน้อยสุด ทำไมต้องไปกระจายตัวอื่นด้วย สุดท้ายก็ขายตัวอื่นมาเข้าตัวแรกหมดพอร์ต ถือแล้วสบายใจกว่ามาก และผลตอบแทนก็ค่อนข้างสูงว่ากระจายถือ ผมทำแบบนี้ คือถือ 1-2 ตัวมาหลายปี ถามว่ามีพลาดมีคิดผิดไหม คำตอบคือ มี แต่เมื่อพบว่าพื้นฐานเปลี่ยน หรือคิดผิด ผมก็ขายทันที บางทีกำไรอาจจะลดลงบ้าง บางทีก็มีขาดทุน แต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนสะสมที่ได้ แต่เมื่อพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้นก็เริ่มมีปัญหา ไม่สามารถขายออกได้เร็วพอ ทำให้บางทีเมื่อคิดผิด ผลตอบแทนลดลงจากที่ควรจะเป็นค่อนข้างมาก สภาพคล่องของหุ้นจึงมาบีบให้ปัจจุบันต้องถือหุ้นหลายๆตัว ไม่สามารถถือตัวเดียวได้
เรื่องวิธีการลงทุนของคุณ anubist ผมเชื่อว่า คุณ anubist ต้องเห็นอะไรดีๆกว่าที่ผมหรือคนอื่นมองเห็น ทำให้กล้าลงตัวเดียวเต็มพอร์ต และนี่ทำให้ผลตอบแทนของคุณโดดเด่นกว่าคนส่วนใหญ่ และต้องทำใจไว้เลยครับ เมื่อคุณแชร์แนวคิดคุณให้คนอื่นรับรู้ คุณจะพบว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการของคุณแน่นอน ไม่เช่นนั้นแล้วคนส่วนใหญ่ก็คงจะทำได้แบบคุณ และคุณก็จะไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ ซึ่งเวลาเท่านั้นจะพิสูจน์ทางที่คุณเลือก
เรื่องแนวคิดการลงทุนนี่บางทีก็พูดยากนะครับ ต่างคนก็มีวิธีคิดที่ต่างกัน บางทีผมก็เป็นนะครับ ถึงแม้จะได้ยินหลายคนบอกว่าควรจะถือไม่น้อยกว่า 3 ตัว เหมือนเก้าอี้ 3 ขา พลาดตัวนึงก็ยังไม่รุนแรงมาก แต่ผมก็ไม่ได้ทำตาม ก่อนหน้านี้ผมเคยมีหุ้นที่เล็งๆไว้ 3-4 ตัว แต่ความั่นใจในตัวแรกมากที่สุด และมากกว่าตัวที่ 2-4 ค่อนข้างมาก ผมเคยพยายามลงเงินกระจายไป 3-4 ตัว แต่ก็ไม่สบายใจ ตอบคำถามตัวเองไม่ได้ว่าในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าตัวแรกให้ผลตอบแทนสูงสุด ความเสี่ยงน้อยสุด ทำไมต้องไปกระจายตัวอื่นด้วย สุดท้ายก็ขายตัวอื่นมาเข้าตัวแรกหมดพอร์ต ถือแล้วสบายใจกว่ามาก และผลตอบแทนก็ค่อนข้างสูงว่ากระจายถือ ผมทำแบบนี้ คือถือ 1-2 ตัวมาหลายปี ถามว่ามีพลาดมีคิดผิดไหม คำตอบคือ มี แต่เมื่อพบว่าพื้นฐานเปลี่ยน หรือคิดผิด ผมก็ขายทันที บางทีกำไรอาจจะลดลงบ้าง บางทีก็มีขาดทุน แต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนสะสมที่ได้ แต่เมื่อพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้นก็เริ่มมีปัญหา ไม่สามารถขายออกได้เร็วพอ ทำให้บางทีเมื่อคิดผิด ผลตอบแทนลดลงจากที่ควรจะเป็นค่อนข้างมาก สภาพคล่องของหุ้นจึงมาบีบให้ปัจจุบันต้องถือหุ้นหลายๆตัว ไม่สามารถถือตัวเดียวได้
เรื่องวิธีการลงทุนของคุณ anubist ผมเชื่อว่า คุณ anubist ต้องเห็นอะไรดีๆกว่าที่ผมหรือคนอื่นมองเห็น ทำให้กล้าลงตัวเดียวเต็มพอร์ต และนี่ทำให้ผลตอบแทนของคุณโดดเด่นกว่าคนส่วนใหญ่ และต้องทำใจไว้เลยครับ เมื่อคุณแชร์แนวคิดคุณให้คนอื่นรับรู้ คุณจะพบว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการของคุณแน่นอน ไม่เช่นนั้นแล้วคนส่วนใหญ่ก็คงจะทำได้แบบคุณ และคุณก็จะไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ ซึ่งเวลาเท่านั้นจะพิสูจน์ทางที่คุณเลือก
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
-
- Verified User
- โพสต์: 248
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 1 ล้านบาทแรกในชีวิต
โพสต์ที่ 540
ผมค่อนข้างโชคดีที่มีอาชีพที่เรียกได้ว่าค่อนข้างมั่นคง1ล้านแรกจึงได้จากการประกอบอาชีพโดยตรง. แต่รายได้จากการลงทุนหุ้นกว่าจะได้อย่างเป็นเรื่องราวคือไม่เกิน10ปีที่ผ่านมา
....ในช่วงแรกของการลงทุนคือนตอนจบมาใหม่เมื่อปี2536. ช่วงแรกผมมีแต่ความมุ่งมั่นแต่อาจโชคร้ายที่ไม่รู้จักคำว่า vi และยังหาแนวทางของตนเองไม่ถูก. ช่วงนั้นการหาข้อมูลยังค่อนข้างยาก หนังสือส่วนใหญ่เน้นไปในทางเทคนิคอลและฉาบฉวยจำได้ว่า มีหยังสือหุ้นรายสัปดาห์อยู่ผมก็ซื้อมาอ่านมีสรุปให้เสร็จว่าเป้าเท่าไหร่9ล9... แต่ก็ได้ความคิดที่ออกแนวผู้จัดการกองทุนกระจายความเสี่ยงและลงทุนหลากหลายซึ่งก็ถือว่าโชคดีบางส่วน ช่วงนั้นได้ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารหนี้และการลงทุนในประกันเยอะเพราะเปนสมัยดอก10กว่า%และดอกเปนขาลง...แต่กับหุ้นยังเตาะแตะพอตลาดพังเลยไปเรียนต่อ...หันหลังให้ตลาดไป3-4ปี..
...10ปีหลังเริ่มรู้จักคำว่า vi และน่าจะตกผลึกช่วง7-8ปีนี้...ซึ่งผมสามรถทำreturnได้ประมาณเกือบ30%ทบต้นแต่คงต้องดูกันยาวๆว่าจะรักษาความคงเส้นคงวาได้หรือไม่ โดยเฉพาะภาวะตลาดขาลงรอบใหญ่ซี่งคงจะเกิดในอีกไม่นานตามวงจรของมัน...
ปัญหาที่ผมสัมผัสได้จากคนรอบข้างคือคนสนใจหุ้นแต่ทุ่มเทและใสใจไม่เพียงพอ..ยังไม่สามารถสร้างความคิดของตนเองได้...ยังคงมีความคิด"ลอกการบ้าน"และเชื่อมาร์อยู่มาก การทุ่มเทที่ถูกทางผมว่ายังไงก็สามารถทำผลตอบแทนที่ดีได้ ยิ่งมาอ่านในกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่าการทุ่มเทขยันและรู้จริงจะทำให้ประสบความสำเร็จ.....เป็นกำลังใจให้ทุกคนและคนที่เริ่มสนใจการลงทุนครับ
....ในช่วงแรกของการลงทุนคือนตอนจบมาใหม่เมื่อปี2536. ช่วงแรกผมมีแต่ความมุ่งมั่นแต่อาจโชคร้ายที่ไม่รู้จักคำว่า vi และยังหาแนวทางของตนเองไม่ถูก. ช่วงนั้นการหาข้อมูลยังค่อนข้างยาก หนังสือส่วนใหญ่เน้นไปในทางเทคนิคอลและฉาบฉวยจำได้ว่า มีหยังสือหุ้นรายสัปดาห์อยู่ผมก็ซื้อมาอ่านมีสรุปให้เสร็จว่าเป้าเท่าไหร่9ล9... แต่ก็ได้ความคิดที่ออกแนวผู้จัดการกองทุนกระจายความเสี่ยงและลงทุนหลากหลายซึ่งก็ถือว่าโชคดีบางส่วน ช่วงนั้นได้ผลตอบแทนจากกองทุนตราสารหนี้และการลงทุนในประกันเยอะเพราะเปนสมัยดอก10กว่า%และดอกเปนขาลง...แต่กับหุ้นยังเตาะแตะพอตลาดพังเลยไปเรียนต่อ...หันหลังให้ตลาดไป3-4ปี..
...10ปีหลังเริ่มรู้จักคำว่า vi และน่าจะตกผลึกช่วง7-8ปีนี้...ซึ่งผมสามรถทำreturnได้ประมาณเกือบ30%ทบต้นแต่คงต้องดูกันยาวๆว่าจะรักษาความคงเส้นคงวาได้หรือไม่ โดยเฉพาะภาวะตลาดขาลงรอบใหญ่ซี่งคงจะเกิดในอีกไม่นานตามวงจรของมัน...
ปัญหาที่ผมสัมผัสได้จากคนรอบข้างคือคนสนใจหุ้นแต่ทุ่มเทและใสใจไม่เพียงพอ..ยังไม่สามารถสร้างความคิดของตนเองได้...ยังคงมีความคิด"ลอกการบ้าน"และเชื่อมาร์อยู่มาก การทุ่มเทที่ถูกทางผมว่ายังไงก็สามารถทำผลตอบแทนที่ดีได้ ยิ่งมาอ่านในกระทู้นี้ยิ่งรู้สึกว่าการทุ่มเทขยันและรู้จริงจะทำให้ประสบความสำเร็จ.....เป็นกำลังใจให้ทุกคนและคนที่เริ่มสนใจการลงทุนครับ