#บันทึกชุ่ยๆงานสังสรรค์VI ปี2560 ครั้งที่ 1"VALUE vs GROWTH"

[nuthjira]

เป็นบันทึกชุ่ยๆ อ่านเล่นๆก่อนรอฉบับละเอียดๆจากพี่อมรแล้วกันนะครับ ^^"(แหะๆ)

#บันทึกชุ่ยๆตามสไตล์กึกกึกบันทึกการลงทุน
งานสังสรรค์VI ปี2560 ครั้งที่ 1
"VALUE vs GROWTH"
.
.
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าพี่กานต์เป็นตัวแทนของฝั่ง Value
ส่วนพี่ทศเป็นตัวแทนจากฝั่ง Growth นะครับ
.
.
►หุ้น Value คืออะไร
(พี่กานต์)
ต้องดูว่า Value จากอะไร อาจจะ Value จากสินทรัพย์ก็ได้
เช่น บริษัทมีสินทรัพย์ซ่อนอยู่ อย่างที่ดินที่เคยบันทึกไว้ในราคาทุน
เมื่อนานมาแล้ว หรือ Value จากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ส่วนมากหุ้น Value มักจะอยู่ใน อุตสาหกรรมที่น่าเบื่อตกต่ำมานาน
เช่นกลุ่มแบงค์ จากที่เคยเทรดกัน P/E 10 เท่า ก็ตกต่ำมาเหลือ P/E น้อยกว่า 10
P/B ต่ำกว่า 1
.
-หุ้นValue ส่วนมากมักน่าเบื่อ ราคาไม่ไปไหน คนมองข้าม
อาจจะมีการเติบโตในระยะ 20-25% ในระยะยาวแล้วน่าสนใจ
อาจจะไม่ถูกมาก สิ่งที่เราต้องดูคือ>> กำไรของบริษัทต้องมีการเปลี่ยนแปลง
สิ่งสำคัญคือ ให้หาหุ้นที่เปลี่ยนความคาดหวังของนักลงทุนได้
สิ่งที่จะเป็นตัวผลักดัน นอกจากกำไรที่เพิ่มขึ้นนั้น คือ P/E ที่นักลงทุนให้นั่นเอง
.
.
►หุ้น Growth คืออะไร
(พี่ทศ)
หุ้นGrowth คือหุ้นที่เติบโตได้ดี ผบห.มีแผนการขยายตัวตลอดเวลา
โดยGrowth ของพี่ทศนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Growth ในเชิงกำไรอย่างเดียว
อาจจะเป็นGrowth จากการขยายสาขา หรือขยายกลุ่มลูกค้าก็ได้
-ข้อเสียสำหรับหุ้นGrowth คือราคารวมอนาคตไปแล้ว ดังนั้นเราต้องซื้อในราคา
ที่ยังไม่แพง
จุดสังเกตุหุ้นGrowth ของพี่ทศ
1.เจ้าของมีแผนการเติบโตชัดเจน
-แต่เราต้องคอยตามดูว่า การเติบโตนั้นเป็นไปตามแผนมั้ย
.
2.Passion ของผู้บริหาร มุมมองในการเติบโตนั้น
ยังไม่อยากหยุดอยู่ที่ตรงนี้
.
.
►สรุปการลงทุนในหุ้น Growth ของพี่ทศ
1.ต้องมองให้ขาดว่าบริษัทต้องเติบโตจริงๆ
-ข้อนี้เราต้องพิสูจน์ให้ได้ เช่นด้วยการทำ scuttlebutt
หรือจุดสังเกตุที่น่าสนใจคือ ผบห. เปลี่ยนไปทำธุรกิจใหม่
ทั้งที่ตอนแรกว่าธุรกิจเดิมยังโตได้ดี
-ในจุดนี้ เราต้องพิจารณาด้วยว่า ผบห.ที่พรีเซ้นนั้นชอบพูดแบบไหน
aggressive หรือ conservative ตรงนี้อาจจะลองสอบถามจากคู่แข่ง
ว่าคู่แข่งมองอย่างไร มองเหมือนผบห.คนนั้นพูดมั้ย ว่าอุตสาหกรรมยังไปได้ดี
.
2.ซื้อตอนที่ยังไม่มีใครรู้
.
.
(พี่กานต์)
การสังเกตุและการลงทุนหุ้นGrowth
1.หุ้นที่มีความตั้งใจที่จะโต
2.งบกระแสเงินสดค่อยๆเติบโตขึ้น
3.ซื้อแบบมีส่วนลด
.
หุ้น Growth ความคาดหวังในราคาหุ้นจะสูง ถ้าพลาดก็จะลงมาแรง
เช่นหุ้น Gx กำไรยังไม่เปลี่ยน แต่ราคาลดกว่า 70%
.
การเลือกลงทุนในหุ้น Growth
-เราต้องมองในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า
-ดูว่าผบห. ยังมีไฟอยู่ ยังอยากทำให้บริษัทเติบโตมากกว่านี้
-สินค้าต้องดีกว่าคู่แข่ง และบริษัทมีความสามารถในการรักษาความแข็งแกร่งนั้นได้
ดังที่บัฟเฟตต์ว่า "ไม่ต้องการหุ้นที่เติบโตทุกปี แต่ต้องการหุ้นที่คูเมืองขยายกว้างขึ้นทุกปี"
.
หุ้น Growth คนจะมองในมุมของข่าวดี ซึ่งตรงข้ามกับหุ้น Value ที่คนจะมองแต่ข่าวร้าย
เช่น กลุ่มอสังหาฯ คนมองว่าอสังหาฯไม่ดี มีฟองสบู่
.
.
►การประเมินมูลค่า
(พี่กานต์)
กรณีศึกษาในอดีต "anan"
IPO เข้ามา 4 บาท แล้วราคาลงไปที่ 2 บาท นักลงทุนส่ายหน้าหนี
เพราะบริษัทโชว์ขาดทุนมาตลอด แต่เราต้องมาดูว่าทำไมถึงโชว์ขาดทุน
เพราะเป็นช่วงการลงทุนของบริษัท ยอดรับรู้จากการโอนยังไม่เข้ามา
แต่เรารู้ว่า ยอดโอนจะเข้ามาเร็วๆนี้ ในตอนนั้น mkt cap 6,000 ลบ. กำไรจะเข้ามา800-900 ลบ.
เทียบแล้ว P/E 6 เท่า แต่ธุรกิจแบบนี้ที่ต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุน
จึงไม่ควรซื้อบน P/B ที่สูง เราควรเทียบธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน
เช่น LPN ทำคอนโดเหมือนกัน P/B เป็นยังไง แล้ว ANAN เป็นอย่างไร LPN P/B 3 เท่า ANAN P/B 1 เท่า
แบบนี้ น่าสนใจ!!!
หุ้นที่ไม่อยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่ ต่อให้งบประกาศออกมาดี
ก็ยังสามารถซื้อลงทุนได้ แม้จะขึ้นมา 3% 5%
.
กรณีศึกษาในอดีต "synex"
มีการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ทำให้คนนิยม PC น้อยลง
กำไรลดลง นักลงทุนไม่ค่อยสนใจ แต่บริษัทพยายามเปลี่ยนแปลงโดย
1.เปลี่ยนจากสินค้าPC มาเป็น มือถือมากขึ้น
2.ผบห.เปลี่ยนจากรุ่นพ่อ มารุ่นลูก
พอมาดูงบ Q457-Q158 เริ่มมีการเติบโต เราก็ต้องมาพิจารณาต่อว่าโตจากอะไร
ตอนนั้น SYNEX อยู่ที่ราคาประมาณ 3 บาทกว่า มี P/E เพียง 7-8 เท่า P/B 1 เท่านิดๆ
เมื่อเวลาผ่านไปต่อมาในปี 60 ผบห.มีเป้าเติบโต 20% ทำให้ราคาหุ้นขึ้นมาที่ 10 บาทกว่า
trade ที่ P/E เกือบ 20 เพราะตลาดเปลี่ยนความคาดหวัง
.
.
(พี่ทศ)
ไม่ค่อยได้ซื้อ P/E หลักเดียว หุ้น Growth ส่วนใหญ่ P/E ค่อนข้างสูง
จุดที่พี่ทศรับได้คือ P/E 10-20 เท่า แล้วไม่ค่อยดู PEG
ถ้าบทวิเคราะห์ไหนใช้ PEG ให้ระวัง
.
•การประเมินมูลค่า
1.มองว่าเป้าสาขาเป็นเท่าไหร่
2.ยอดขาย/สาขา เท่าไหร่
3.กำไรเท่าไหร่
4.สุดท้าย มองเป็น 3 เคส
-worse case
-base case
-best case
.
•จุดขาย
-หุ้น Growth มักจะมีความคาดหวังสูง ผู้บริหารก็มักจะใส่ความคาดหวังไปเรื่อยๆ
เราต้องพิจารณาว่าตอนนี้อยู่ในจุดไหน กรณีไหน worse/base/best
-พิจารณาว่าราคานี้สูงไปรึเปล่า
.
.
(พี่กานต์)
อย่าโลภเกินความรู้ และให้ดูเชิงเปรียบเทียบ
1.เราสามารถทนความผันผวนของราคาหุ้นได้มั้ย
2.เราคาดหวังผลตอบแทนที่เท่าไหร่
3.ระยะเวลาที่เหลือจากการลงทุนอีกนานมั้ย
..
►►สรุป ใน สรุป◄◄
สิ่งที่พี่ทั้งสองมองเหมือนกัน ไม่ว่าจะ Growth หรือ Value
คือ margin of safety หุ้น Value ที่พี่กานต์ลงทุนก็จะมี mos โดยหุ้นนั้นักลงทุน
ส่วนใหญ่ไม่สนใจ ส่ายหน้าหนี แต่โดยตัวมันเองแล้วเป็นหุ้นที่แข็งแกร่ง
ยังสามารถเติบโตได้ ส่วนการลงทุนหุ้น Growth ของพี่ทศ คือ การเติบโตนั้น
ต้องได้รับการพิสูจน์มาแล้ว แต่มี mos ที่ คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ทันเห็น หรือสนใจเท่าไหร่
.
.
ขอขอบคุณพี่ๆทุกคนและทีมงานทุกท่านครับ
ดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานนี้ ผมสนุกมากเลย
ขอบคุณพี่ตู้ด้วยครับ

[the pupil]

ขอบคุณมากครับผม

[jupiterwin]

ขอบคุณครับ

[amornkowa]

น้องนัทสุดยอดมากครับ ขอบคุณครับ

[the pupil]

ขอบคุณครับ

[J.SIRIPHAN]

ขอบคุณครับ มุมมองน่าสนใจและเป็นประโยชน์มากครับ

[Michael]

ขอบคุณครับ

[donnyvi]

ยอดเยี่ยมครับนัท^^