โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ตอนจบ
-
- Verified User
- โพสต์: 152
- ผู้ติดตาม: 0
โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ตอนจบ
โพสต์ที่ 1
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
“บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ตอนจบ
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
http://www.CsiSociety.com
Add Line: @CsiSociety
วันก่อน... เราได้คุยกันไปแล้วเกี่ยวกับ “บิทคอยน์ อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลยดีกว่า” ในตอนที่ 1 ซึ่งผมได้คุยให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจกันไปแล้ว 3 ข้อด้วยกันคือ หนึ่ง การยอมรับ “บิทคอยน์” ของประเทศต่างๆ สอง นักลงทุนมองบิทคอยน์กันอย่างไร? และสาม การทำนายของ Tommy Lee และ ทฤษฎีของ Metcalfe วันนี้...จะขอคุยต่อเลยนะครับ ดังนี้ครับ
สี่ ประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจขั้นรุนแรง ไขว่คว้าหา...บิทคอยน์
ในช่วงที่ราคาน้ำมันดำดิ่งต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบาร์เรล ก็ได้ทำให้ประเทศเวเนซูเอลาที่พึ่งพาการส่งออกน้ำมันกว่า 90% ของมูลค่าการส่งสินค้าออกทั้งหมด ต้องประสบปัญหาทางเศรษฐกิจขั้นรุนแรงมาจนถึงทุกวันนี้ อัตราเงินเฟ้อของเวเนซูเอลาในปัจจุบันคาดว่าสูงกว่า 1,600% และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลก ราคาสินค้าต่างๆมีราคาเพิ่มขึ้นแทบจะทุกวัน ธนบัตร 100 โบลิวาร์ที่แต่ก่อนมีค่ามาก ทุกวันนี้จะมีค่าประมาณ 2 เซนต์เท่านั้น
ในขณะที่เงินสกุลโบลิวาร์กำลังจะกลายเป็นแค่แผ่นกระดาษธรรมดานั้น บิทคอยน์ก็ได้เข้ามามีส่วนทดแทนเงินโบลิวาร์ไปแล้ว ในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ในเวเนซูเอลาจะต้องซื้อของ หลายต่อหลายคนจึงเลือกที่จะใช้เงินบิทคอยน์แทน การส่งเงินบิทคอยน์เพียงแต่ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่ต้องมีบัญชีธนาคารใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นการซื้อขายสินค้าด้วยเงินบิทคอยน์จึงสะดวกสบายมาก และที่สำคัญที่สุด...รัฐบาลเวเนซูเอลาที่คอยสอดส่องจับผิดประชาชนที่ถอนเงินจำนวนมากๆ ก็ไม่สามารถจับผิดผู้คนที่ใช้บิทคอยน์ได้
ล่าสุด...ประเทศซิมบับเว กำลังประสบกับปัญหาทางการเมือง ประธานาธิบดี โรเบิร์ต มูกาเบ ถูกคณะทหารจับกุมตัวอยู่ ซิมบับเวจึงประสบปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรง และผู้คนก็เริ่มขายทุกอย่างและหันมาซื้อบิทคอยน์กันอย่างบ้าระห่ำ ราคาบิทคอยน์ปัจจุบันนี้ซื้อขายประมาณ 7,500 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์ แต่ราคาซื้อขายบิทคอยน์ในเว็บ Golix.com ซึ่งเป็นเว็บซื้อขายบิทคอยน์ของซิมบับเวนั้น ราคาบิทคอยน์ขึ้นไปสูงถึง 14,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์ แสดงถึงความต้องการที่สูงมหาศาล เนื่องจากผู้คนไว้วางใจในเงินบิทคอยน์มากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเสียอีก และ... “บิทคอยน์” ก็กลายเป็นที่พักของเงินที่ปลอดภัย (Safe Haven) ที่สุดแห่งหนึ่งไปแล้ว
ห้า “บิทคอยน์” กับ...ทองคำ
ผมเคยเขียนบทความที่พูดถึง ปรากฎการณ์ “Nixon Shock” ที่กล่าวถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2514 โดยประธานาธิบดีนิกสันประกาศให้ เงินดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกาไม่ต้องมีทองคำมาค้ำประกันค่าเงินดอลลาร์ จากวันนั้นราคาทองคำ 35 ดอลลาร์ต่อหนึ่งทรอยออนซ์ หลังจากนั้นมาอีก 40 ปี ราคาทองคำก็เคยขึ้นสูงไปกว่า 1,750 ดอลลาร์ต่อหนึ่งทรอยออนซ์ หรือพูดง่ายๆว่า มูลค่าของทองคำเพิ่มขึ้น 50 เท่า ภายในระยะเวลา 40 ปี ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นได้ก็เป็นเพราะ ทองคำในโลกใบนี้มีจำนวนจำกัด...จึงมีค่าสูงมาก ในขณะที่เงินดอลลาร์นั้น สหรัฐอเมริกาพิมพ์เงินดอลลาร์เข้าสู่ตลาดจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะช่วงเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เงินดอลลาร์ถูกพิมพ์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ และถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบ โดยไม่มีอะไรมาค้ำประกันเลย
ในแง่ของบิทคอยน์นั้น บิทคอยน์มีจำนวนจำกัดไม่เกิน 21 ล้านบิทคอยน์ บิทคอยน์เกิดมาในโลกใบนี้เกือบสิบปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่า ไม่มีใครโกงในระบบของบิทคอยน์ได้ บิทคอยน์เป็นสิ่งที่เป็นของแท้ แม้ว่ามันจะไม่มีตัวตนแต่มันก็สามารถแสดงผลออกมาได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่...ทองคำไม่สามารถทำได้ก็คือ บิทคอยน์สามารถโอนไปไหนมาไหนผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้ โดยไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเป็นทองคำ...ก็ต้องส่งมอบกันเป็นแท่งๆ บิทคอยน์จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็น “ทองคำดิจิตอล”
หก “บิทคอยน์” ยังไม่มีอะไร...สามารถมาทดแทนได้
จากข้อดี 3 ข้อที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่า บิทคอยน์เป็นของจริง...ไม่มีวันโกงได้ บิทคอย์มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านบิทคอยน์ และบิทคอยน์สามารถโอนได้โดยไม่มีใครรู้ อีกประการหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ในบรรดาเงินสกุลดิจิตอลด้วยกัน บิทคอยน์มีมูลค่าการตลาดสูงกว่า 50% ของมูลค่าการตลาดของเงินดิจิตอลที่มีมากกว่าพันสกุลทั้งตลาดรวมกัน และปริมาณการซื้อขายบิทคอยน์ต่อวันก็สูงมากกว่า 50% อีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า บิทคอยน์เป็นราชาแห่งเงินสกุลดิจิตอล ที่มีผู้เชื่อถือเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นทุกวัน
ความนิยมของบิทคอยน์ทุกวันนี้เป็นไปอย่างทวีคูณ ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาซื้อขายบิทคอยน์เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาลทุกวัน นำโดยชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลีใต้ ก่อนเดือนกันยายนยอดซื้อขายบิทคอยน์มากกว่า 50% มาจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จากนั้นก็ถูกรัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้ซื้อขายเลย ราคาบิทคอยน์ร่วงจาก 5,000 ดอลลาร์ลงมาต่ำกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์ แต่วันนี้ราคาของมันสูงกว่า 7,000 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์เสียอีก ทั้งๆที่ลูกค้ารายใหญ่...คนจีนยังไม่กลับมาเทรดเลย
หลายคนบอกว่า บิทคอยน์โอนช้ามาก ดังนั้นมันคงมาใช้ซื้อขายของหรือโอนเงินหรือใช้แทนเงินท้องถิ่นไม่ได้ ตรงจุดนี้...ผมเห็นด้วย และผมไม่คิดว่าบิทคอยน์จะมาแทนเงินบาทหรือเงินดอลลาร์ในการซื้อขายสินค้าได้ เพราะค่าของเงินบิทคอยน์มันผันผวนสูงมาก ถ้าจะใช้ซื้อของ...ก็คงต้องจ่ายแพง เพราะคนขายของคงต้องคิดราคาสินค้าเผื่อไว้สำหรับค่าบิทคอยน์ที่อาจจะมีราคาลดลงได้
ผมเองมองว่า อนาคตของบิทคอยน์จะยิ่งใหญ่มาก เพราะบิทคอยน์เป็นเงินสกุลดิจิตอลสกุลเดียวที่คนทั่วโลกรู้จักมากที่สุด และมันได้ให้อธิปไตยทางการเงินแก่ผู้เป็นเจ้าของมัน คุณผู้อ่านลองคิดดูซิครับว่า บรรดาคนร่ำรวยทั้งหลาย เวลาจะโอนเงินไปไหนต่อไหน พวกเขาคงจะไม่อยากให้ใครรู้เป็นแน่ ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ หรืออาจจะกลัวเรื่องภาษีหรือเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ผมจึงคิดว่า “บิทคอยน์” จะไม่มีวันตายแน่ และอนาคตของมันก็คงจะไม่ธรรมดาแน่ๆ เพราะมันได้พิสูจน์ตัวมันเองไปแล้วตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา
และนั่นคือ เหตุผลทั้ง 6 ข้อที่ผมขอแนะนำให้คุณผู้อ่านควรจะตัดสินใจเสียแต่วันนี้ว่า “บิทคอยน์” ควรจะอยู่ให้ห่าง หรือตัดสินใจซื้อมันไปเลย
ขอให้คุณผู้อ่าน...โชคดีในการลงทุนนะครับ
หาอ่านบทความ และความรู้ด้านการลงทุนของผู้เขียนได้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.doctorwe.com
บทความ… เงิน 1,000 บาท กับการลงทุนใน “บิทคอยน์” เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171215/6809
บทความ... “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ…ซื้อไปเลย ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180111/6860
บทความ...“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนที่ 1
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180125/6836
“บิทคอยน์” กับ “คนรุ่นใหม่” ตอนจบ
http://www.doctorwe.com/posttoday/20180126/6843
บทความ… “บิทคอยน์” สร้าง…ความร่ำรวย ได้หรือไม่? เชิญอ่านได้ที่ลิงก์นี้
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20170922/6815
บทความ...“บิทคอยน์” เรื่องราวของ…คนกลัวตกรถ…คนติดดอย
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20171117/6820
บทความ... “บิทคอยน์” ความเชื่อ vs. ความจริง
http://www.doctorwe.com/bangkokbiznews/20180112/6826
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ต
โพสต์ที่ 2
ผมมองว่า Bitcoin มี Crypto อื่นๆ หลายตัวที่แทนได้ และสามารถใช้งานได้ดีกว่าครับ
แต่ที่คนนิยม Bitcoin กันมากสุด เพราะมันเกิดก่อนตัวอื่น และเป็นที่รู้จักกันดีแล้วน่ะครับ
แต่ที่คนนิยม Bitcoin กันมากสุด เพราะมันเกิดก่อนตัวอื่น และเป็นที่รู้จักกันดีแล้วน่ะครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 103
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ต
โพสต์ที่ 3
"...... คุณผู้อ่านลองคิดดูซิครับว่า บรรดาคนร่ำรวยทั้งหลาย เวลาจะโอนเงินไปไหนต่อไหน พวกเขาคงจะไม่อยากให้ใครรู้เป็นแน่ ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ หรืออาจจะกลัวเรื่องภาษีหรือเหตุผลอื่นๆ ดังนั้น ผมจึงคิดว่า “บิทคอยน์” จะไม่มีวันตายแน่......" ---> ที่ถูกคือนี่เป็นเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่จะทำให้บิทคอยน์ต้องตายแน่ๆ เพราะมันเป็นช่องทางอาชญากรรมและ/หรือธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายซึ่งรัฐบาลติดตามไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ต
โพสต์ที่ 4
ขอเก็บเป็น ทองคำแท่ง จับต้องได้ดีกว่าระบบเงินที่สมมติขึ้นมาเอง โดยใครก็ไม่รู้ ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto ที่ไม่มีตัวตนจริง
ขนาดคนสร้าง ยังปิดบังตัวตน คนก็ยังกล้าไปเสี่ยง
ช่างโลภแท้ หวนให้นึกถึงปรากฏการณ์คลั่งทิวลิป
ขนาดคนสร้าง ยังปิดบังตัวตน คนก็ยังกล้าไปเสี่ยง
ช่างโลภแท้ หวนให้นึกถึงปรากฏการณ์คลั่งทิวลิป
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: โพสต์ทูเดย์: “บิทคอยน์” อยู่ให้ห่าง หรือ...ซื้อไปเลย ต
โพสต์ที่ 5
tigerroad197 เขียน:ขอเก็บเป็น ทองคำแท่ง จับต้องได้ดีกว่าระบบเงินที่สมมติขึ้นมาเอง โดยใครก็ไม่รู้ ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto ที่ไม่มีตัวตนจริง
ขนาดคนสร้าง ยังปิดบังตัวตน คนก็ยังกล้าไปเสี่ยง
ช่างโลภแท้ หวนให้นึกถึงปรากฏการณ์คลั่งทิวลิป
มีคน ให้เหตุผล เรื่องปิดบังตัวตน
อย่างน้อยกะเรื่อง ภาษีอะคับ
ยังไง เขาเป็นคนขุดแรก ต้องถือเหรียญในมือระดับนึง
ถ้าไม่ conspiracy ยังไงกะคงต้องปิดบังตัวตนแหละคับ
นึกว่าเป็นตัวเรา คิดจะ ขบถ ต่อระบบ ในสเกลใหญ่ขนาดนี้
แถมเป็นคนแรกที่จะมีเหรียญจำนวนมาก
show me money.