MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 1
Money Talk@mai FORUM 2019
วันเสาร์ที่ 13 ก.ค 62 เวลา 15:30 - 17:30 น.
ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22
โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์
หัวข้อเสวนา: "เฟ้นหุ้นเด่น 10 เด้ง mai"
...นำทัพ โดย...
1. คุณอนุรักษ์ บุญแสวง (โจลูอิสาน) / นักลงทุนวีไอ
2. คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ (เซียนมี่) / นักลงทุนวีไอ
3. ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล / กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้
4. คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม / ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
อ.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ผู้ดำเนินรายการ
MoneyTalk@SETครั้งหน้า จัดวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม ที่ตลาดหลักทรัพย์
ช่วงแรก มีหุ้น3บริษัทมาให้ข้อมูลในช่วงแรก
ส่วนช่วงที่สอง หัวข้อ
ลงทุนผ่านในต่างประเทศ ดียังไง
วิทยากร
อ นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ซึ่งลงทุนในหุ้นเวียดนาม
คุณ ชาย มโนภาส ลงทุนหุ้นในสหรัฐ
และยังมีวิทยากรอีกสองท่านมาร่วมรายการ
เริ่มรายการโดยกลอนของ อ เสน่ห์
“ รัฐบาลใหม่ พรรคใหญ่ รวมพรรคเล็ก
เอ็มเอไอ ใช่หุ้นเด็ก ซะที่ไหน
ตลาดรอง หุ้นของดี มีกำไร
หาให้ได้ หุ้นสิบเด้ง เจ๋งยังมี
โจลูกอีสาน เป็นวีไอ ถือหลายหุ้น
ใหญ่หรือเล็ก ก็ลงทุน หุ้นวิถี
รู้จักหุ้น ทุกสารพางค์ เป็นอย่างดี
จะช่วยชี้ หาหุ้นเด่น เฟ้นให้ฟัง
เซียนวีไอ ไม่เป็นสอง ต้องคนนี้
คือเซียนมี่ ขายหมูยอ ก็สุดขลัง
หลักคิดดี มีหลักการ อันสุดปัง
หุ้นฉมัง ต้องอย่างไร กำไรงาม
ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องฟันด์โฟล โกหรือกลับ
ดร.วิศิษฐ์ วิเคราะห์ฉับ รับคำถาม
เป็นเอ็มดี ทรินีตี้ ที่ได้ความ
หนึ่งสองสาม หุ้นเด่น เน้นมาแรง
คุณเทิดศักดิ์ นักวิเคราะห์ เจาะหุ้นเด่น
มีรางวัล ยอดเยี่ยมเป็น เน้นหุ้นแกร่ง
เอเซียพลัส สังกัดใหญ่ ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไหนแซง หุ้นไหนซบ คบใครดี
ลุงตู่สอง ล่องใต้เหนือ เป็นเรือเหล็ก
รวมพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ในวิถี
ตลาดหุ้น เอ็มเอไอ (MAI) เอสอีที(SET)
เฟ้นหุ้นที่ เด่นลิบ สิบเด้งเอย “
มีการโปรโมตช่องทางการหาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดMAI
ตลาดMAI มีQR code ให้สแกน เพื่อดูข้อมูล Snap shot ของบริษัทต่างๆในMAIได้
Shotยาว แต่ตัดส่วนสำคัญมาให้เราอ่านเพื่อทำความเข้าใจกับบริษัท
คำถามแรก บอกหุ้นไทยปีนี้อย่างไร ถาม นักวิเคราะห์ก่อน คือ ดร.วิศิษฐ์
ดร.วิศิษฐ์ ตอบว่า ปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดหุ้นไทย TIP ทองคำ รวมถึง
กอง REITs ให้ผลตอบแทนดี เกิน10%ขึ้นไป เนื่องจาก FED Uturn จากขึ้นดอกเบี้ย
มีโอกาสลดดบ 3 ครั้งใน12M ,4 ครั้งใน 18 M
การประชุมFEDสิ้นเดือนกค มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%
FED มองว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงถดถอย
ปีนี้การลดหรือเพิ่มดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลง
คาดว่า สินทรัพย์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทางธนาคารกลางยุโรป โอกาสดบอาจลบจาก-0.4%เพิ่มขึ้นเป็น -0.6%
ธนาคารกลางต่างๆมาช่วยทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ทองคำ REITs ดอกเบี้ยต่ำจะอยู่กับเราอีกนาน
ดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรปอาจเป็นบวกในอีกสี่ปีข้างหน้าคือปี2023
เหมือนกับธนาคารกลางญี่ปุ่นก็เป็นบวกในอีกสี่ปีข้างหน้า
เทรนดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาลง ดอกเบี้ยตลาดTIP
Indo ลดดอกเบี้ยไปแล้ว
ธนาคารของไทยอาจลดดอกเบี้ยในอีก12เดือนข้างหน้า คาดการณ์ว่า
ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
เงินยังไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
ตัวดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาลง ตลาดหุ้นจะเป็น Sideway up
คุณเทิดศักดิ์
มองว่าตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยFundflow
เงินเยอะ ดอกเบี้ยต่ำ
ถ้าเราวัดตั้งแต่ 28 พค เม็ดเงินไหลเข้ามา80,000ลบ
ข้อเสีย ทำให้หุ้นขยับขึ้น แต่Earningไม่เปลี่ยนแปลง
ส่งผลให้ระดับ PE ไต่สูงขึ้นมา ราคาIndex 1740 จุดเท่ากับ PE 17 เท่า
การขยับขึ้นของราคาหุ้นจะเริ่มยากขึ้น
แต่ถามFlow ยังดีต่อหรือไม่ ก็ตอบว่ายังดีต่อ แต่น้ำหนักที่ดันให้ทะลุ
ดัชนี1750จุด ยังยาก เพราะเม็ดเงินยังเข้ามาไม่มากพอ
ถ้ามองภาพสั้น เดือนนี้ 1750-1760 จุดจะblockการขึ้นต่อ
แต่การขยับขึ้นเนื่องจากการRotateหุ้น โดยใช้ระดับราคาของปีหน้า
ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสสามแล้ว
การใช้ ราคาของปีหน้า มีข้อดี คือ มันมีEPS Growth ที่ซ่อนอยู่
ประมาณ 12% จากปีนี้ที่โต 6%
กำไรปีนี้คาดการณ์ว่าประมาณ 103.32บาท แปลว่า กำไรจะวิ่งไป 115 บาท
ดังนั้น การใช้กำไรปีหน้า น่าจะเห็นแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง
17*115 เกิน 1800 เกือบ 1900 จุด
น่าจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ปีหน้าทำกำไรเท่าไหร่ flowจะไปแค่ไหน
อ ไพบูลย์บอกว่า
ตัวเลขผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทย ต่ำที่สุด มองย้อนไปสองสามปี
ผลตอบแทนของหุ้นMAIเฉลี่ยต่ำที่สุด
ผลตอบแทนที่สูงสุด อยู่ตัวที่หุ้นใหญ่ในSET แต่หุ้นที่ขึ้นมากอยู่ในMAI
คุณโจ ตอบว่า ผมลงหุ้นทั้งหมด 70ตัวเป็นหุ้นไทย55ตัว หุ้นต่างประเทศอีก20ตัว
ส่วนหุ้นต่างประเทศที่ลง ก็เป็นหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนามและตลาดหุ้นสหรัฐ
โดยซื้อกองทุนดัชนี
ผมลงหุ้นในMAIประมาณ 10 ตัว ส่วนใหญ่ขาดทุน ซึ่งมาในงานMAIด้วย
ขอขอบคุณผู้บริหารของตลาดMAI ทำให้เรามีกระทบไหล่ผู้บริหารของตลาดMAI
โอกาสที่ไปกระทบไหล่ผู้บริหารในSETยาก แต่ในตลาดMAIยังมีโอกาส
เช่นในงานนี้ วันนี้ผู้บริหารบริษัทมากันร่วมร้อยคน
อ ไพบูลย์ บอกว่าไม่มีตลาดหุ้นที่ไหนเอาใจนักลงทุนรายย่อยเหมือนตลาดMAI
อ โจพูดต่อว่า ส่วนผลประกอบการของนักลงทุนที่ผ่านมา ผมสังเกตดูนักลงทุนยิ้มแย้มกัน มางานMAIมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว บ่งบอกว่าปีนี้ฝนตกทั่วฟ้า
คุณโจถามว่ามีใครขาดทุนบ้าง มียกมือเล็กน้อย
ปีที่แล้ว ครึ่งปีหลัง หุ้นกลาง เล็ก ลงมา60-70% ปีนี้มีเด้งขึ้นมาก
คุณมี่บอกว่า ปีนี้ยังดีขึ้น ลงทุนหุ้น 10กว่าตัว ต่างจากเมื่อก่อนลงน้อยตัวแค่2-3 ตัว
ลงหุ้นMAI ทั้ง2ตัวซึ่งมาร่วมงาน และ มีกำไรแล้ว
ผมลงทุนไม่ได้ดูว่าอยู่SETหรือ MAI ดูที่ทรงน่าจะไปได้ สามารถแข่งขันได้ความสามารถของผู้บริหารที่ดี ผลประกอบการ เราฟังแล้วเราชอบ
และพึ่งมารู้ว่าอยู่ในSET,MAI
ผมชอบผู้บริหารที่เก่ง พูดและทำได้ เขามีความพยายามทำให้กิจการเติบโต
มีความโปร่งใส บางทีผู้บริหารที่เน้นปันผล พูดอะไรที่ทำได้ ทำอย่างไรให้เติบโตขึ้น
ชอบผู้บริหารที่หนุ่ม แต่บางทีผู้บริหารสูงวัยอาจมีไฟแรงกว่าคนหนุ่มก็ได้
ดูที่ผลงานที่ทำมากกว่า
ถามคุณมี่ว่าหุ้นในตลาดMAI ซื้อเมือไหร่
เซียนมี่ตอบว่า พึ่งซื้อหุ้นสองตัวนี้ในMAIเมื่อต้นปี
ตัวนึง เพื่อนนักลงทุนมาเล่าให้ฟัง แต่ราคาสูง PEสูงไปหน่อย
แต่หลังจากนั้น เพิ่มทุน ราคาลงมาเหลือ40% ก็เลยเข้าไปซื้อ
อีกตัวตามศึกษาธุรกิจมา รายได้
ประกอบด้วย รายได้ที่เป็นrecurring income
ค่อยๆทยอยซื้อ ธุรกิจเติบโตได้ท่ามกลางสภาวการณ์ปัจจุบัน
บางบริษัท อาจมีการใช้งานมากขึ้น แต่รายได้ไม่ได้โตตาม
ถามคุณโจว่า การเลือกซื้อหุ้นดูไหมว่าอยู่ในตลาดMAI หรือตลาดSET
คุณโจ บอกว่า ไม่รู้อยู่ตลาดไหน ขอให้หุ้นดีไว้ก่อน และถูก
ถามต่อว่าดีและถูกดูอย่างไร
คุณโจตอบว่า หุ้นดี ก็คือ คาดว่ากำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ไม่ถูกdisrupt เช่น ไม่ถูกกระทบจากเงินบาทแข็งค่า
มีความสามารถในการแข่งขัน ผู้บริหารเก่ง ทำEPSเพิ่มขึ้น
ตอนเข้าซื้อ ต้องดูราคาที่เข้าซื้อด้วย
ถามว่าหุ้นที่ซื้อมากสุดกี่เด้ง
คุณโจบอกว่าจำไม่ได้ อย่าไปโฟกัสมาก
ไม่เคยได้สิบเด้งในชีวิต แต่ได้หลายเด้งแต่รวมๆกันก็เยอะ
การทำได้สิบเด้ง ต้องทำผลตอบแทน 26%ต่อปี ทบต้นสิบปีถึงจะได้สิบเด้ง
มีหุ้นหลายตัวที่ได้สิบเด้ง
เงินลงทุน 1ล้าน สิบปีได้เงินส่งลูกเรียนคือ 10 ล้านบาท
ส่วนคุณมี่เคยได้มากสุด สิบกว่าเด้ง แต่ลงในWarrant แต่หุ้นแม่ขึ้น5เด้ง
ช่วงแรกที่เข้ามาลงทุน ต่างจากตอนนี้
เมี่อก่อน PE 4-5 เท่าเรียกว่าหุ้นถูก ถ้าPE 10กว่าเท่า เรียกว่าหุ้นแพง
หลังจากนั้นมีการปรับPEขึ้น PE 10กว่าเท่า เป็นหุ้นถูก
หุ้นPE 30-50กว่าเท่าถือเป็นหุ้นแพง โอกาสได้สิบเด้งยาก
การเลือกหุ้นไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญ แต่การถือหุ้นเป็นสิ่งสำคัญ
ว่าจะถืออย่างไรให้ได้สิบเด้ง แต่ส่วนใหญ่จะขายก่อนอันควร
ทำให้ไม่ได้สิบเด้ง
อ เสน่ห์ พูดถึง disruption มีTechnologyมาทดแทนเช่นธุรกิจธนาคาร
อ ไพบูลย์ ถามว่า เนื่องจากคนที่มาร่วมงานเป็นคนสูงอายุ ไม่ได้อ่าน 56-1
เป็นคนทั่วไป คุณโจมีวิธีเลือกหุ้นปลอดภัยอย่างไร บอกหลักการง่ายๆสามข้อ
คุณโจ บอกว่า ทำได้ ไม่ยาก
ซื้อหุ้นดี ราคาถูก ถือไว้นานหน่อย มั่นคง
บางครั้งเราทำถูกต้องแล้ว แต่เนื่องจากสภาวะตลาดปลายปีลงมา
ถ้าเราcutไป ก็น่าเสียดาย เราต้องมีจิตใจที่มั่นคง
แค่นี้ ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือจากนี้
คำว่าหุ้นดี สำหรับเรา ดีอย่างไร
ราคาถูก ระดับPEเท่าไหร่ถูก เป็นปัญหา
ความมั่นคง ทำได้ยากนะ
คุณมี่ ตอบว่า ถ้าสำหรับมือใหม่ หรือ ผู้ใหญ่อายุมากนิดนึง
แนะนำให้ถือหุ้นใหญ่
เราเคยอยู่ในธุรกิจอะไรที่คุ้นเคย ก็จะเข้าใจในธุรกิจนั้น
เข้าใจว่าดีกว่าคู่แข่งอย่างไร
อย่าซื้อตอนที่หุ้นนั้นทุกคนสนใจเยอะ
และอีกกรณี ถ้าเราซื้อหุ้นดี แต่มีการเชียร์หุ้น ราคาที่ซื้อคิดเป็น PE 50 เท่า
อาจทำให้ขาดทุน50% ก็ต้องหลีกเลี่ยง
สรุป
พยามยามเลือกหุ้นที่ดี
ฟังผู้บริหารด้วย
อ เสน่ห์ถาม หุ้นMAI นักวิเคราะห์ วิเคราะห์ไหม หรือ วิเคราะห์เฉพาะSET
คุณ เทิดศักดิ์ ตอบว่า นักวิเคราะห์ ศึกษาหุ้นในตลาดMAIน้อยมาก
เรามีกลไกการคัดกรองหุ้น เช่น วิเคราะห์เชิงปริมาณ หุ้นตัวไหน ที่น่าโฟกัสก็ไปทำการบ้านต่อ
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ Earning growth , PE ,PB
ถ้ามีการซ้ำของปัจจัยมากสุด ก็จะfocusตัวนั้น
นักวิเคราะห์ มีทั้งหมด 280 คน กระจายหลายโบรค
อาจมีการวิเคราะห์หุ้นซ้ำกัน ทำให้ไม่มีเหลือcapacityที่ไปหาหุ้นอื่นต่อ
นักวิเคราะห์ไม่มีเพิ่ม แต่จำนวนหุ้นในตลาดSET,MAI เพิ่มตลอดเวลา
ทำให้นักวิเคราะห์มาวิเคราะห์หุ้นในMAIน้อย
ทาง MAI ก็เลยมีการทำ Fact sheet ให้ดูง่ายขึ้น จาก QR code
ดูโครงสร้างรายได้ ,กำไร, PB ,PE ,Dividend Yiedl เป็นอย่างไร
ซึ่งพอช่วยนักลงทุนได้
อ เสนห์ ถามว่าในช่วงที่ผ่านมา เรามีเกณฑ์เลือกหุ้นอย่างไร ดูจากกระแสความสนใจหรือดูจากอะไร
ตอบ คุณเทิดศักดิ์ตอบว่ามีสองลักษณะ
หนึ่ง คือเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนมากน้อยแค่ไหน
ดูว่ามีหุ้นที่ถืออยู่สัก 100 อันดับแรก
หรือ หุ้นที่มีการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในช่วงเวลา1เดือน
อีกอัน คือเป็นstock pick ธุรกิจไหนดี มีโอกาส Turnaround
เป็นหุ้นเด่น ที่เอามาเสริม
ดร วิศิษฐ์ บอกว่า ผมดูBusiness model เป็นคำตอบ ว่าตัวไหน outperform
หลังจากนั้นมาดู valuationกลุ่มนี้น่าสนใจไหม
ดูจาก Top down ก่อน แล้วดู Bottom up
บางตัว 20 ปี ได้ผลตอบแทน 19 เท่า คือ
1.TNH รพ ไทยนครินทร์ ถ้าดูจากตอนเข้าตลาดMAI เปิดตั้งแต่ปี 2005 คิดเป็น 14ปี
ราคาปิดวันแรก 1.78 บาท
ราคาปัจจุบัน 36.5 บาท
อีกตัวนึงได้ 10 เท่า
แสดงว่า Business model ทำนายได้จริง
เป็น รพ แรก ที่อยู่ในถนน บางนา ตราด ซึ่งมีโรงงานเยอะ
2. บริษัทที่สองคือ SF หรือ สยามฟิวเจอร์
ถ้าซื้อวันแรก 0.58 บาท มีการแตกพาร์ ปัจจุบันราคา 6.5 บาท ไม่รวมปันผล
ถ้าเราเลือกหุ้นที่ใช่ valuationที่ใช่ ก็หาผลตอบแทนได้จากMAI
ทั้งสองบริษัทอยู่ใน MAI 10กว่า ปี
มีการวัดอีกอันนึงคือ จำนวนCapital gain / จำนวนปีที่อยู่
หมายถึงผลตอบแทนต่อปี หารด้วย จำนวนปีที่เขาอยู่
บางบริษัทพึ่งเข้ามา และมีBusiness model ใหม่ๆ
3.บริษัทที่สาม ไพล่อน (Pylon) ซึ่งทำเสาเข็ม
เข้าตลาดมาราคาปิดวันแรก 0.10 บาท หลังจากadjust par
ตอนนี้ราคา 6 บาทกว่า
ดูบริษัทว่ามีการจับลูกค้าเฉพาะกลุ่มไหม มีความสามารถในการทำกำไรไหม
ตอนนี้ MAI มี 180 บริษัทตั้งแต่เปิดมา20ปี
หลังจากการคัดหุ้นออกมามี 42 บริษัทที่ให้ผลตอบแทน 70%นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาด
มี 20 บริษัท ที่ผลตอบแทนติดลบ -99%
ดังนั้นจำเป็นต้องดูธุรกิจ ,ความสามารถในการทำกำไร, Valuation
และ บริษัทต้องมีธรรมาภิบาลด้วย
การเลือกหุ้นMAI นอกจากต้องเลือกให้ดี และ มี capital gainที่ดีด้วย
อ เสน่ห์ ถามว่า Disruption มีผลต่อธุรกิจและBusiness modelอย่างไร
ดร วิศิษฐ์ตอบว่า Disruption คือการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้ธุรกิจนั้นไม่สามารถอยู่ได้ ถ้าดูผลตอบแทนของหุ้นหารจำนวนปีที่เขาอยู่
อย่าง TNH , SF ที่อยู่มานาน ดังนั้นผลตอบแทนที่ดี
แต่ถ้าดูเฉพาะเอาตัวที่เข้ามาได้ผลตอบแทนสูงสุด เช่น
1. Netbay
ปี2016 price IPO = 4 บาท ปัจจุบันราคา 33.25 บาท
เราดูBusiness model , Growth , Valuation
บริษัทที่ชนะ จะมีPattern รูปแบบที่เป็นผู้ชนะ
NETBAY เป็นที่1ในเรื่องผลตอบแทนต่อปี 239% หรือ 2.4 เท่าต่อปี
2. SPA ราคาวันแรก 1.7 บาท ตอนนี้ 13.7 บาท ราคาขึ้นไปเยอะ
ผลตอบแทนต่อปี 151% หรือ 1.5 เท่า
สังเกตได้ว่าบริษัทผู้ชนะมี Business model ที่โดดเด่น
เช่น Netbay เป็นธุรกิจที่เป็น platform หมายถึงว่า เป็น
บริษัทที่ทำexportหรือการขนส่ง ต้องใช้platform ของ Netbay
รายได้สม่ำเสมอ เติบโตตามธุรกิจ
ดร ไพบูลย์เสริมว่า ที่ดร วิศิษฐ์พูด เป็นข้อมูลในอดีต
อ เสน่ห์ถามว่า ส่วนspa ไม่ใช่Digital
ดร วิศิษฐ์ตอบว่า สามารถทำสิ่งธรรมดาเป็นรูปแบบได้
สังเกตได้ว่าร้านนวดมีอยู่ตามหัวถนนต่างๆ แต่ที่ทำเป็นstandard
ต่างๆ บริษัทสามารถทำสิ่งธรรมดาเป็นรูปแบบได้
ตลาดMai จะหาบริษัทที่มีรูปแบบเฉพาะตัวได้มากกว่าบริษัทในSET
ดร วิศิษฐ์ บอกว่า บริษัทที่ให้ผลตอบแทนดี เช่น NETBAY,SKY,TNH ,ACG,SISB , AFTER You,XO,Jubilee, DOD ,AUCT,FSMart,Chaiyo.
ถ้าเราศึกษาบริษัทที่ชนะในอดีต หา Pattern เพื่อ
เป็นหุ้นตัวอย่างใน42ตัวที่ให้ผลตอบแทนดีหาหุ้นที่ชนะในอนาคตได้
อ เสน่ห์ พุดว่า การดูหุ้นต้องมีจินตนาการ เหมือนไอน์สไตล์
อ เสน่ห์ ยกตัวอย่างขำๆ ผ่อนคลายบรรยกาศว่า
งานศพของหมอใน รพ หมอคนนึงที่เป็นเพื่อนกับหมอที่เสียชีวิตมาร่วมงาน
หมอนั่งมองไปที่เมรุและหัวเราะ ปรากฏว่าสัปปะเร่อเดินผ่านพอดี
เลยถามว่าหัวเราะอะไร น่าหัวเราะตรงไหน
หมอตอบว่า หมอที่ตายเป็นโรคหัวใจ คนมาร่วมงานก็เอาพวงหรีด เป็นรูปหัวใจ
ผมเป็นหมอ สูตินารี ดังนั้นถ้าผมตายจะได้พวงหรีดรูปอะไร
คำตอบ ดร ไพบูลย์บอกว่า พวงหรีดน่าจะเป็นรูปเด็ก
ดร ไพบูลย์ บอกว่า ทางบ้านขอผ่านFB Liveมาที่คุณเทิดศักดิ์ว่า
ขอฟันธงหุ้นเด่นมา3หุ้น
คุณเทิดศักดิ์ ขออนุญาติTimingนิดนึง
ตลาดMAIถ้าเทียบกับ 2-3ปีก่อน จุดนี้น่าเข้ามากที่สุด
มองย้อนหลังเรามองactivity mai สองกลุ่มนี้ลงไปเรื่อยๆ
ปี59 MAI ถูกขับเคลือนด้วยนักลงทุนสถาบัน Net Buy 8,800 ลบ
ต่างชาติซื้อมาสัก 4ล้านบาท หลังจากนั้นมาสองกลุ่มนี้หลบไปเรื่อยๆ
ต้นปีนี้ ต่างชาติไม่ได้เข้าซื้อเลย จะบอกถึงความนิยมในการลงทุนMAI
Turnover คือ ปริมาณการซื้อขายเทียบกับ Market cap ช่วงปี59.60,61 trade
ประมาณ 1.2 เท่าของMarket cap
ปีนี้ Volume การซื้อขายน้อยมาก Trade ประมาณ 0.63 ของ Market capเท่านั้นเอง
แปลว่ามูลค่าการซื้อขายแผ่วไปเยอะเลย ไปดูmarket cap
จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 134ตัวในปี59 มา Market cap 425,000 ลบ
แต่หุ้นเพิ่มเป็น 180ตัว สวนทางกับMarket cap 240,000 ลบ ลดลงอย่างมากเทียบกับปีที่ผ่านมา
แปลว่าราคาลดลง
แต่มาดูที่กำไรสุทธิรวม
ปี59 เท่ากับ 7,500 ลบ
ปี 60 2,900 ลบ
ปี61 กลับมาที่ 5,200 ลบ
หลังจากbottomเริ่มดีดตัวกลับ ส่งผลทำให้PE move อย่างไร
PE 56 เท่า ในปี 59 พอกำไรลด ปี 60 ทำให้PE 114 เท่า
ตอนนี้ PE ลดลง 46 เท่า เป็นอะไรที่ลดลงมาค่อนข้างแรง
ผมเกลี่ยดู ช่วงของPE
เราเจอหุ้นPE ต่ำกว่า 10 เท่า อยู่ 14 บริษัท
PE 10-15 เท่า 25 บริษัท
PE 20-25 เท่า 11 บริษัท
PE > 25 เท่า 36 บริษัท
PE 30 กว่าเท่า ไม่น่าสนใจ
54 บริษัท ไม่มีกำไร ซึ่งตัดทิ้งไปก่อนไม่ต้องสนใจตอนนี้
ดังนั้น ยอมรับ PEไม่เกิน 15 เท่า scopeที่เลือก ก็ 39 ตัวเท่านั้น
มันจะให้ภาพที่ชัดเจนขึ้น
มาหุ้นกัน หาหุ้นซัก 3 ตัว
ผมดู PB,PE ต่ำ turnaround, timing ดูดี
ตัวแรก CHEWA ทำคอนโด และ แนวราบ Product ค่อนข้างครบ
แต่ที่สะดุดคือ PB 0.56 เท่า discountจากราคาบัญชี
ก็discount Bookvalue 44%
Div yield 10%
ธุรกิจทรงๆ ในราคานี้ได้ ควรน่าจะไปศึกษาต่อ ผมแค่กรองมาให้
ตัวที่สอง มุ่งพัฒนา MOONG
ขายผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อม อุปกรณ์แม่และเด็ก และ ขยายไปหลายproduct
เราเจอว่า Earning มีการดีดตัวกลับ และ Div yield 4.3-4.5%
Yieldระดับนี้สำหรับconsumer productดูน่าสนใจ
ตัวที่สาม TMW (Thaimisuwa)
ทำงานโครงสร้างหรืองานเหล็ก จุดสนใจคือ Div yield ค่อนข้างต่อเนื่อง
และ Earning growth 118%
แถม เชอร์วูด SWC ทำผลิตภัณฑ์เชลล์ไดร์ส เคมีภัณฑ์ กำจัดแมลง หรือการเกษตร
Earning ไม่เยอะ แต่ Div yield สูงเกิน5%
เวลาเลือกโดย เกณฑ์ PE < 15 เท่า และ กำไรเติบโตพอสมควร มีจ่ายเงินปันผล
TimingของตลาดMAI ผ่านจุดร้อนแรงไปแล้ว จาก 200 ไปที่ 800 และลงมา 300จุด
แปลว่าคนที่พลาดรถเมื่อ7-8 ปีที่แล้ว ถอยรถมารับแล้ว
ไม่สนใจหุ้นที่ไม่มีกำไร หรือไม่จ่ายปันผล
ดร วิศิษฐ์ ผมขออนุญาตเรื่องCriteriaในการเลือกหุ้น
ปกติผมคัดกรองจาก Business model
1.ต้องมีplatform
2.ต้องมีBrand name
3. มีNicheเฉพาะตัว จุดเด่นของเขาที่คนอื่นโค่นเขาไม่ได้
4. ดูผู้บริหารมีความclean เข้าใจธุรกิจดี
หุ้นที่ผมเลือก
1. SPA แข่งขันสมบูรณ์แบบ สิ่งที่โดดเด่น GP ดีมาก ลูกค้าHighend
processการเรียนรู้ การทำโรงเรียน มีการพัฒนา
ผูกกับการท่องเที่ยว ต่อไปจะเป็นสัดส่วน25%ของGDP
เป็นเพิ่มGDPของประเทศได้ ดังนั้นการท่องเที่ยวต้องเป็นเครื่องยนต์ใหญ่ในอีก4-5ปีข้างหน้า
2. Netbay รายได้ขึ้นอยู่กับธุรกรรมexport,ขึ้นกับการจดทะเบียน และnetbayตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ได้
3. Chayo บริหารหนี้เสีย ขนาดยังเล็กอยู่ การทำบัญชี ถ้าบริษัทจัดการทำให้ได้กำไรมากกว่าinvestment cost ก็สามารถturnมาเป็นกำไรได้ อยู่ในMega trendของการบริหารหนี้เสีย
4. XO เป็นบริษัทที่มีBrand อิงกับการส่งออกไปขายต่างประเทศ บาทแข็งก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทได้ แต่บริษัทมีBrand ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น IPO 2.2 ตอนนี้ 8.55 บาท
บริษัทที่ประสบความสำเร็จ คือ Platform, Brand name,Niche,ผู้บริหารที่ดีเด่น
ให้ผลตอบแทนที่ดีในตลาดหุ้นMAI
คุณโจ ตอบว่า
ผมชอบหุ้นรายได้แน่นอน เติบโตเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาdisrupt
มีปันผลดี ผู้บริหารดี
1.หุ้นในMAI ก็มี บริษัทที่ซื้อมีPE 10 เท่า และมีการขยายกำลังการผลิต1เท่า
มีคนรับซื้อของแน่นอนที่บริษัทขยายกำลังการผลิต โอกาสขาดทุนไม่มี
ไม่เข้าใจว่าบางช่วงบางเวลา ทำไมไม่มีคนซื้อ
เป็นหุ้นในตลาดMAI เป้นบริษัทที่ผลิตพลังงาน
เวลารวยไม่ใช่บังเอิญ ต้องเป็นการตั้งใจทำการบ้าน สวนกระแสคนอื่น
2.อีกบริษัท ผลิตวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากเมืองนอก
แต่ไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่นที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
ถ้าปรับปรุงได้ก็จะฟื้นตัวได้ PE แค่11 เท่า
3.อีกบริษัท ขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กำไรดี ปันผลดี
ที่คุณเทิดศักดิ์ พูด ก็คือต้องทำการบ้านก่อนการลงทุน
เราสามารถหาข้อมูลได้ ไม่ใช่แดนสนธยา
เซียนมี่ บอกว่าบริษัทที่ผมสนใจมีซ้ำกับอ โจ คือ
1.บริษัทที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ PEไม่แพง มีprojectตลอด
2.หุ้นค้าปลีก PEค่อนข้างต่ำ ถ้าบริษัทคล้ายๆกันอยู่ในSET PEก็30 เท่า
หุ้นนี้ Forward PE 10 เท่านิดๆ ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ลูกค้าเป็นผู้หญิง
3.บริษัทให้เช่าวงจรสื่อสาร บริษัทที่ให้เช่ากับ ศรีสวัสดิ์หรือMTC เพื่อใช้intranetภายใน เป็นวงจรที่เชื่อมต่อสาขาเข้าระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาโครงข่ายด้วย
เติบโต30-40%ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก3-4ปี แต่PEไม่ถูกมาก Forward PE ใกล้ๆ20เท่า
มองดูว่า Potentialมีการเติบโต
ถามว่า หุ้นIPO ต่อจากนี้ควรจองไหม
ดร วิศิษฐ์ ตอบว่า
ให้ดูจากBusiness model ,valuation และเรื่องผู้บริหาร
ถ้าสมเหตุผล บางบริษัทPE แพงมาก อย่าง โรงเรียนนานาชาติ
จะมาดูvaluation ดูผู้บริหารว่ามีความสนใจในธุรกิจจริงจังหรือไม่
เราต้องมองทุกมิติ รวม PB , PE ดูการเติบโต ROE
ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในธุรกิจ
คุณเทิดศักดิ์
การใส่เงินไปซื้อหุ้นIPOต้องมองเทียบกับบริษัทที่จดทะเบียน
มองเชิงValuationเทียบกับบริษัทในตลาด
ถ้าเหนือกว่า ค่าPEถูกกว่า หรือ แพงกว่า ปกติราคาจะสูงมากเกินไป
ปกติจะมีนักวิเคราะห์จะคำนวณราคาFair value
ปกติต้องขายในราคาdiscount เพื่อเปิดให้เกิดupsideไว้
ดูการกระจายว่ามากน้อยแค่ไหน
คุณโจ พูดถึงตอนปี42 ไม่มีหุ้นIPOเข้ามา
ตอนนั้นมีหุ้นราชบุรี เข้ามา
ส่วน PTT มาขาย35บาทคิดเป็น PE 4 เท่า และ ราคาหลังIPOลงมาเหลือ 29 บาท
ปี61 ต้นปี มีหุ้นipoมากสุด ตอนดัชนีหุ้นnew high
ดังนั้น ช่วงหุ้นแพง มีการขายipoเยอะ ได้ราคาแพง
คนที่ซวยคือพวกเรา
ผลประโยชน์ ของคนขาย ipo ต้องการขายราคาแพงสุด
นักลงทุนต้องการราคาถูก ซึ่งมันขัดแย้งกัน
FA เป็นคนกลางที่ทำให้ราคาขายเหมาะสม
ตอนนี้ตั้งราคาขายมีdiscountจากPEของตลาด MAI
ซึ่ง PE ธุรกิจคล้ายกันในSET แค่ 4 เท่าเอง
Netbay อ โจซื้อหุ้นหลังเข้าตลาด สูงกว่าIPOเยอะ แต่ราคาก็ขึ้นไปอีก
บริษัทจำนำทะเบียนรถ ขายIPOที่ถูก ตอนนี้ราคาขึ้นไป50กว่าบาท
เราต้องดูคุณภาพ และ ราคา
ผมแน่ใจ หุ้นipo ขายความสดใหม่ เขาเลยมีprojectมากมายมาแสดง
แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ สรุป ซื้อได้ แต่ค่อนข้างน้อย
เซียนมี่บอกว่า
ผมต้องคำนวณตามกระบวนปกติในการหาหุ้น เพื่อดูว่าหุ้นipoน่าจองไหม
บางตัว performanceดีหมด ดูน่าสนใจ
อ เสน่ห์ ปิดท้ายการสัมมนาด้วยกลอน
20ปี MAI ได้สรรค์สร้าง
เติบโตอย่าง ยั่งยืน ดาษดื่นผล
เป็นทางเลือก นักลงทุน หุ้นทุกคน
แหล่งรวมพล หุ้นไซซ์เล็ก เด็กเติบโต
เลือกเด็กดี มีอนาคต สดใสแน่
รวยไม่แพ้ หุ้นผู้ใหญ่ ได้อักโข
ผู้บริหาร มางานนี้ มีดีโชว์
หุ้นเด่นโก้ จัดเต็ม เอ็มเอไอ
การลงทุน มีความเสี่ยง เลี่ยงให้ดี
ศึกษาให้ ถ้วนถึ่ ดีเข้าไว้
เงินของท่าน คิดดี มีกำไร
รายการให้ ข้อมูล คุณคิดเอง
สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทุกท่าน อ ไพบูลย์ อ เสน่ห์
และ ทีมงาน MoneyTalkทุกท่าน พบกันใหม่ 24 สค ครับ
วันเสาร์ที่ 13 ก.ค 62 เวลา 15:30 - 17:30 น.
ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22
โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์
หัวข้อเสวนา: "เฟ้นหุ้นเด่น 10 เด้ง mai"
...นำทัพ โดย...
1. คุณอนุรักษ์ บุญแสวง (โจลูอิสาน) / นักลงทุนวีไอ
2. คุณทิวา ชินธาดาพงศ์ (เซียนมี่) / นักลงทุนวีไอ
3. ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล / กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนิตี้
4. คุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม / ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
อ.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ผู้ดำเนินรายการ
MoneyTalk@SETครั้งหน้า จัดวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม ที่ตลาดหลักทรัพย์
ช่วงแรก มีหุ้น3บริษัทมาให้ข้อมูลในช่วงแรก
ส่วนช่วงที่สอง หัวข้อ
ลงทุนผ่านในต่างประเทศ ดียังไง
วิทยากร
อ นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ซึ่งลงทุนในหุ้นเวียดนาม
คุณ ชาย มโนภาส ลงทุนหุ้นในสหรัฐ
และยังมีวิทยากรอีกสองท่านมาร่วมรายการ
เริ่มรายการโดยกลอนของ อ เสน่ห์
“ รัฐบาลใหม่ พรรคใหญ่ รวมพรรคเล็ก
เอ็มเอไอ ใช่หุ้นเด็ก ซะที่ไหน
ตลาดรอง หุ้นของดี มีกำไร
หาให้ได้ หุ้นสิบเด้ง เจ๋งยังมี
โจลูกอีสาน เป็นวีไอ ถือหลายหุ้น
ใหญ่หรือเล็ก ก็ลงทุน หุ้นวิถี
รู้จักหุ้น ทุกสารพางค์ เป็นอย่างดี
จะช่วยชี้ หาหุ้นเด่น เฟ้นให้ฟัง
เซียนวีไอ ไม่เป็นสอง ต้องคนนี้
คือเซียนมี่ ขายหมูยอ ก็สุดขลัง
หลักคิดดี มีหลักการ อันสุดปัง
หุ้นฉมัง ต้องอย่างไร กำไรงาม
ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องฟันด์โฟล โกหรือกลับ
ดร.วิศิษฐ์ วิเคราะห์ฉับ รับคำถาม
เป็นเอ็มดี ทรินีตี้ ที่ได้ความ
หนึ่งสองสาม หุ้นเด่น เน้นมาแรง
คุณเทิดศักดิ์ นักวิเคราะห์ เจาะหุ้นเด่น
มีรางวัล ยอดเยี่ยมเป็น เน้นหุ้นแกร่ง
เอเซียพลัส สังกัดใหญ่ ไม่เปลี่ยนแปลง
หุ้นไหนแซง หุ้นไหนซบ คบใครดี
ลุงตู่สอง ล่องใต้เหนือ เป็นเรือเหล็ก
รวมพรรคเล็ก พรรคใหญ่ ในวิถี
ตลาดหุ้น เอ็มเอไอ (MAI) เอสอีที(SET)
เฟ้นหุ้นที่ เด่นลิบ สิบเด้งเอย “
มีการโปรโมตช่องทางการหาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดMAI
ตลาดMAI มีQR code ให้สแกน เพื่อดูข้อมูล Snap shot ของบริษัทต่างๆในMAIได้
Shotยาว แต่ตัดส่วนสำคัญมาให้เราอ่านเพื่อทำความเข้าใจกับบริษัท
คำถามแรก บอกหุ้นไทยปีนี้อย่างไร ถาม นักวิเคราะห์ก่อน คือ ดร.วิศิษฐ์
ดร.วิศิษฐ์ ตอบว่า ปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดหุ้นไทย TIP ทองคำ รวมถึง
กอง REITs ให้ผลตอบแทนดี เกิน10%ขึ้นไป เนื่องจาก FED Uturn จากขึ้นดอกเบี้ย
มีโอกาสลดดบ 3 ครั้งใน12M ,4 ครั้งใน 18 M
การประชุมFEDสิ้นเดือนกค มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%
FED มองว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงถดถอย
ปีนี้การลดหรือเพิ่มดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลง
คาดว่า สินทรัพย์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทางธนาคารกลางยุโรป โอกาสดบอาจลบจาก-0.4%เพิ่มขึ้นเป็น -0.6%
ธนาคารกลางต่างๆมาช่วยทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น
ได้แก่ ทองคำ REITs ดอกเบี้ยต่ำจะอยู่กับเราอีกนาน
ดอกเบี้ยธนาคารกลางยุโรปอาจเป็นบวกในอีกสี่ปีข้างหน้าคือปี2023
เหมือนกับธนาคารกลางญี่ปุ่นก็เป็นบวกในอีกสี่ปีข้างหน้า
เทรนดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาลง ดอกเบี้ยตลาดTIP
Indo ลดดอกเบี้ยไปแล้ว
ธนาคารของไทยอาจลดดอกเบี้ยในอีก12เดือนข้างหน้า คาดการณ์ว่า
ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า
เงินยังไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
ตัวดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาลง ตลาดหุ้นจะเป็น Sideway up
คุณเทิดศักดิ์
มองว่าตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยFundflow
เงินเยอะ ดอกเบี้ยต่ำ
ถ้าเราวัดตั้งแต่ 28 พค เม็ดเงินไหลเข้ามา80,000ลบ
ข้อเสีย ทำให้หุ้นขยับขึ้น แต่Earningไม่เปลี่ยนแปลง
ส่งผลให้ระดับ PE ไต่สูงขึ้นมา ราคาIndex 1740 จุดเท่ากับ PE 17 เท่า
การขยับขึ้นของราคาหุ้นจะเริ่มยากขึ้น
แต่ถามFlow ยังดีต่อหรือไม่ ก็ตอบว่ายังดีต่อ แต่น้ำหนักที่ดันให้ทะลุ
ดัชนี1750จุด ยังยาก เพราะเม็ดเงินยังเข้ามาไม่มากพอ
ถ้ามองภาพสั้น เดือนนี้ 1750-1760 จุดจะblockการขึ้นต่อ
แต่การขยับขึ้นเนื่องจากการRotateหุ้น โดยใช้ระดับราคาของปีหน้า
ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสสามแล้ว
การใช้ ราคาของปีหน้า มีข้อดี คือ มันมีEPS Growth ที่ซ่อนอยู่
ประมาณ 12% จากปีนี้ที่โต 6%
กำไรปีนี้คาดการณ์ว่าประมาณ 103.32บาท แปลว่า กำไรจะวิ่งไป 115 บาท
ดังนั้น การใช้กำไรปีหน้า น่าจะเห็นแรงซื้อกลับมาอีกครั้ง
17*115 เกิน 1800 เกือบ 1900 จุด
น่าจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ หรือ ต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ปีหน้าทำกำไรเท่าไหร่ flowจะไปแค่ไหน
อ ไพบูลย์บอกว่า
ตัวเลขผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทย ต่ำที่สุด มองย้อนไปสองสามปี
ผลตอบแทนของหุ้นMAIเฉลี่ยต่ำที่สุด
ผลตอบแทนที่สูงสุด อยู่ตัวที่หุ้นใหญ่ในSET แต่หุ้นที่ขึ้นมากอยู่ในMAI
คุณโจ ตอบว่า ผมลงหุ้นทั้งหมด 70ตัวเป็นหุ้นไทย55ตัว หุ้นต่างประเทศอีก20ตัว
ส่วนหุ้นต่างประเทศที่ลง ก็เป็นหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนามและตลาดหุ้นสหรัฐ
โดยซื้อกองทุนดัชนี
ผมลงหุ้นในMAIประมาณ 10 ตัว ส่วนใหญ่ขาดทุน ซึ่งมาในงานMAIด้วย
ขอขอบคุณผู้บริหารของตลาดMAI ทำให้เรามีกระทบไหล่ผู้บริหารของตลาดMAI
โอกาสที่ไปกระทบไหล่ผู้บริหารในSETยาก แต่ในตลาดMAIยังมีโอกาส
เช่นในงานนี้ วันนี้ผู้บริหารบริษัทมากันร่วมร้อยคน
อ ไพบูลย์ บอกว่าไม่มีตลาดหุ้นที่ไหนเอาใจนักลงทุนรายย่อยเหมือนตลาดMAI
อ โจพูดต่อว่า ส่วนผลประกอบการของนักลงทุนที่ผ่านมา ผมสังเกตดูนักลงทุนยิ้มแย้มกัน มางานMAIมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว บ่งบอกว่าปีนี้ฝนตกทั่วฟ้า
คุณโจถามว่ามีใครขาดทุนบ้าง มียกมือเล็กน้อย
ปีที่แล้ว ครึ่งปีหลัง หุ้นกลาง เล็ก ลงมา60-70% ปีนี้มีเด้งขึ้นมาก
คุณมี่บอกว่า ปีนี้ยังดีขึ้น ลงทุนหุ้น 10กว่าตัว ต่างจากเมื่อก่อนลงน้อยตัวแค่2-3 ตัว
ลงหุ้นMAI ทั้ง2ตัวซึ่งมาร่วมงาน และ มีกำไรแล้ว
ผมลงทุนไม่ได้ดูว่าอยู่SETหรือ MAI ดูที่ทรงน่าจะไปได้ สามารถแข่งขันได้ความสามารถของผู้บริหารที่ดี ผลประกอบการ เราฟังแล้วเราชอบ
และพึ่งมารู้ว่าอยู่ในSET,MAI
ผมชอบผู้บริหารที่เก่ง พูดและทำได้ เขามีความพยายามทำให้กิจการเติบโต
มีความโปร่งใส บางทีผู้บริหารที่เน้นปันผล พูดอะไรที่ทำได้ ทำอย่างไรให้เติบโตขึ้น
ชอบผู้บริหารที่หนุ่ม แต่บางทีผู้บริหารสูงวัยอาจมีไฟแรงกว่าคนหนุ่มก็ได้
ดูที่ผลงานที่ทำมากกว่า
ถามคุณมี่ว่าหุ้นในตลาดMAI ซื้อเมือไหร่
เซียนมี่ตอบว่า พึ่งซื้อหุ้นสองตัวนี้ในMAIเมื่อต้นปี
ตัวนึง เพื่อนนักลงทุนมาเล่าให้ฟัง แต่ราคาสูง PEสูงไปหน่อย
แต่หลังจากนั้น เพิ่มทุน ราคาลงมาเหลือ40% ก็เลยเข้าไปซื้อ
อีกตัวตามศึกษาธุรกิจมา รายได้
ประกอบด้วย รายได้ที่เป็นrecurring income
ค่อยๆทยอยซื้อ ธุรกิจเติบโตได้ท่ามกลางสภาวการณ์ปัจจุบัน
บางบริษัท อาจมีการใช้งานมากขึ้น แต่รายได้ไม่ได้โตตาม
ถามคุณโจว่า การเลือกซื้อหุ้นดูไหมว่าอยู่ในตลาดMAI หรือตลาดSET
คุณโจ บอกว่า ไม่รู้อยู่ตลาดไหน ขอให้หุ้นดีไว้ก่อน และถูก
ถามต่อว่าดีและถูกดูอย่างไร
คุณโจตอบว่า หุ้นดี ก็คือ คาดว่ากำไรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ไม่ถูกdisrupt เช่น ไม่ถูกกระทบจากเงินบาทแข็งค่า
มีความสามารถในการแข่งขัน ผู้บริหารเก่ง ทำEPSเพิ่มขึ้น
ตอนเข้าซื้อ ต้องดูราคาที่เข้าซื้อด้วย
ถามว่าหุ้นที่ซื้อมากสุดกี่เด้ง
คุณโจบอกว่าจำไม่ได้ อย่าไปโฟกัสมาก
ไม่เคยได้สิบเด้งในชีวิต แต่ได้หลายเด้งแต่รวมๆกันก็เยอะ
การทำได้สิบเด้ง ต้องทำผลตอบแทน 26%ต่อปี ทบต้นสิบปีถึงจะได้สิบเด้ง
มีหุ้นหลายตัวที่ได้สิบเด้ง
เงินลงทุน 1ล้าน สิบปีได้เงินส่งลูกเรียนคือ 10 ล้านบาท
ส่วนคุณมี่เคยได้มากสุด สิบกว่าเด้ง แต่ลงในWarrant แต่หุ้นแม่ขึ้น5เด้ง
ช่วงแรกที่เข้ามาลงทุน ต่างจากตอนนี้
เมี่อก่อน PE 4-5 เท่าเรียกว่าหุ้นถูก ถ้าPE 10กว่าเท่า เรียกว่าหุ้นแพง
หลังจากนั้นมีการปรับPEขึ้น PE 10กว่าเท่า เป็นหุ้นถูก
หุ้นPE 30-50กว่าเท่าถือเป็นหุ้นแพง โอกาสได้สิบเด้งยาก
การเลือกหุ้นไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญ แต่การถือหุ้นเป็นสิ่งสำคัญ
ว่าจะถืออย่างไรให้ได้สิบเด้ง แต่ส่วนใหญ่จะขายก่อนอันควร
ทำให้ไม่ได้สิบเด้ง
อ เสน่ห์ พูดถึง disruption มีTechnologyมาทดแทนเช่นธุรกิจธนาคาร
อ ไพบูลย์ ถามว่า เนื่องจากคนที่มาร่วมงานเป็นคนสูงอายุ ไม่ได้อ่าน 56-1
เป็นคนทั่วไป คุณโจมีวิธีเลือกหุ้นปลอดภัยอย่างไร บอกหลักการง่ายๆสามข้อ
คุณโจ บอกว่า ทำได้ ไม่ยาก
ซื้อหุ้นดี ราคาถูก ถือไว้นานหน่อย มั่นคง
บางครั้งเราทำถูกต้องแล้ว แต่เนื่องจากสภาวะตลาดปลายปีลงมา
ถ้าเราcutไป ก็น่าเสียดาย เราต้องมีจิตใจที่มั่นคง
แค่นี้ ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือจากนี้
คำว่าหุ้นดี สำหรับเรา ดีอย่างไร
ราคาถูก ระดับPEเท่าไหร่ถูก เป็นปัญหา
ความมั่นคง ทำได้ยากนะ
คุณมี่ ตอบว่า ถ้าสำหรับมือใหม่ หรือ ผู้ใหญ่อายุมากนิดนึง
แนะนำให้ถือหุ้นใหญ่
เราเคยอยู่ในธุรกิจอะไรที่คุ้นเคย ก็จะเข้าใจในธุรกิจนั้น
เข้าใจว่าดีกว่าคู่แข่งอย่างไร
อย่าซื้อตอนที่หุ้นนั้นทุกคนสนใจเยอะ
และอีกกรณี ถ้าเราซื้อหุ้นดี แต่มีการเชียร์หุ้น ราคาที่ซื้อคิดเป็น PE 50 เท่า
อาจทำให้ขาดทุน50% ก็ต้องหลีกเลี่ยง
สรุป
พยามยามเลือกหุ้นที่ดี
ฟังผู้บริหารด้วย
อ เสน่ห์ถาม หุ้นMAI นักวิเคราะห์ วิเคราะห์ไหม หรือ วิเคราะห์เฉพาะSET
คุณ เทิดศักดิ์ ตอบว่า นักวิเคราะห์ ศึกษาหุ้นในตลาดMAIน้อยมาก
เรามีกลไกการคัดกรองหุ้น เช่น วิเคราะห์เชิงปริมาณ หุ้นตัวไหน ที่น่าโฟกัสก็ไปทำการบ้านต่อ
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ Earning growth , PE ,PB
ถ้ามีการซ้ำของปัจจัยมากสุด ก็จะfocusตัวนั้น
นักวิเคราะห์ มีทั้งหมด 280 คน กระจายหลายโบรค
อาจมีการวิเคราะห์หุ้นซ้ำกัน ทำให้ไม่มีเหลือcapacityที่ไปหาหุ้นอื่นต่อ
นักวิเคราะห์ไม่มีเพิ่ม แต่จำนวนหุ้นในตลาดSET,MAI เพิ่มตลอดเวลา
ทำให้นักวิเคราะห์มาวิเคราะห์หุ้นในMAIน้อย
ทาง MAI ก็เลยมีการทำ Fact sheet ให้ดูง่ายขึ้น จาก QR code
ดูโครงสร้างรายได้ ,กำไร, PB ,PE ,Dividend Yiedl เป็นอย่างไร
ซึ่งพอช่วยนักลงทุนได้
อ เสนห์ ถามว่าในช่วงที่ผ่านมา เรามีเกณฑ์เลือกหุ้นอย่างไร ดูจากกระแสความสนใจหรือดูจากอะไร
ตอบ คุณเทิดศักดิ์ตอบว่ามีสองลักษณะ
หนึ่ง คือเป็นหุ้นที่อยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนมากน้อยแค่ไหน
ดูว่ามีหุ้นที่ถืออยู่สัก 100 อันดับแรก
หรือ หุ้นที่มีการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในช่วงเวลา1เดือน
อีกอัน คือเป็นstock pick ธุรกิจไหนดี มีโอกาส Turnaround
เป็นหุ้นเด่น ที่เอามาเสริม
ดร วิศิษฐ์ บอกว่า ผมดูBusiness model เป็นคำตอบ ว่าตัวไหน outperform
หลังจากนั้นมาดู valuationกลุ่มนี้น่าสนใจไหม
ดูจาก Top down ก่อน แล้วดู Bottom up
บางตัว 20 ปี ได้ผลตอบแทน 19 เท่า คือ
1.TNH รพ ไทยนครินทร์ ถ้าดูจากตอนเข้าตลาดMAI เปิดตั้งแต่ปี 2005 คิดเป็น 14ปี
ราคาปิดวันแรก 1.78 บาท
ราคาปัจจุบัน 36.5 บาท
อีกตัวนึงได้ 10 เท่า
แสดงว่า Business model ทำนายได้จริง
เป็น รพ แรก ที่อยู่ในถนน บางนา ตราด ซึ่งมีโรงงานเยอะ
2. บริษัทที่สองคือ SF หรือ สยามฟิวเจอร์
ถ้าซื้อวันแรก 0.58 บาท มีการแตกพาร์ ปัจจุบันราคา 6.5 บาท ไม่รวมปันผล
ถ้าเราเลือกหุ้นที่ใช่ valuationที่ใช่ ก็หาผลตอบแทนได้จากMAI
ทั้งสองบริษัทอยู่ใน MAI 10กว่า ปี
มีการวัดอีกอันนึงคือ จำนวนCapital gain / จำนวนปีที่อยู่
หมายถึงผลตอบแทนต่อปี หารด้วย จำนวนปีที่เขาอยู่
บางบริษัทพึ่งเข้ามา และมีBusiness model ใหม่ๆ
3.บริษัทที่สาม ไพล่อน (Pylon) ซึ่งทำเสาเข็ม
เข้าตลาดมาราคาปิดวันแรก 0.10 บาท หลังจากadjust par
ตอนนี้ราคา 6 บาทกว่า
ดูบริษัทว่ามีการจับลูกค้าเฉพาะกลุ่มไหม มีความสามารถในการทำกำไรไหม
ตอนนี้ MAI มี 180 บริษัทตั้งแต่เปิดมา20ปี
หลังจากการคัดหุ้นออกมามี 42 บริษัทที่ให้ผลตอบแทน 70%นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาด
มี 20 บริษัท ที่ผลตอบแทนติดลบ -99%
ดังนั้นจำเป็นต้องดูธุรกิจ ,ความสามารถในการทำกำไร, Valuation
และ บริษัทต้องมีธรรมาภิบาลด้วย
การเลือกหุ้นMAI นอกจากต้องเลือกให้ดี และ มี capital gainที่ดีด้วย
อ เสน่ห์ ถามว่า Disruption มีผลต่อธุรกิจและBusiness modelอย่างไร
ดร วิศิษฐ์ตอบว่า Disruption คือการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้ธุรกิจนั้นไม่สามารถอยู่ได้ ถ้าดูผลตอบแทนของหุ้นหารจำนวนปีที่เขาอยู่
อย่าง TNH , SF ที่อยู่มานาน ดังนั้นผลตอบแทนที่ดี
แต่ถ้าดูเฉพาะเอาตัวที่เข้ามาได้ผลตอบแทนสูงสุด เช่น
1. Netbay
ปี2016 price IPO = 4 บาท ปัจจุบันราคา 33.25 บาท
เราดูBusiness model , Growth , Valuation
บริษัทที่ชนะ จะมีPattern รูปแบบที่เป็นผู้ชนะ
NETBAY เป็นที่1ในเรื่องผลตอบแทนต่อปี 239% หรือ 2.4 เท่าต่อปี
2. SPA ราคาวันแรก 1.7 บาท ตอนนี้ 13.7 บาท ราคาขึ้นไปเยอะ
ผลตอบแทนต่อปี 151% หรือ 1.5 เท่า
สังเกตได้ว่าบริษัทผู้ชนะมี Business model ที่โดดเด่น
เช่น Netbay เป็นธุรกิจที่เป็น platform หมายถึงว่า เป็น
บริษัทที่ทำexportหรือการขนส่ง ต้องใช้platform ของ Netbay
รายได้สม่ำเสมอ เติบโตตามธุรกิจ
ดร ไพบูลย์เสริมว่า ที่ดร วิศิษฐ์พูด เป็นข้อมูลในอดีต
อ เสน่ห์ถามว่า ส่วนspa ไม่ใช่Digital
ดร วิศิษฐ์ตอบว่า สามารถทำสิ่งธรรมดาเป็นรูปแบบได้
สังเกตได้ว่าร้านนวดมีอยู่ตามหัวถนนต่างๆ แต่ที่ทำเป็นstandard
ต่างๆ บริษัทสามารถทำสิ่งธรรมดาเป็นรูปแบบได้
ตลาดMai จะหาบริษัทที่มีรูปแบบเฉพาะตัวได้มากกว่าบริษัทในSET
ดร วิศิษฐ์ บอกว่า บริษัทที่ให้ผลตอบแทนดี เช่น NETBAY,SKY,TNH ,ACG,SISB , AFTER You,XO,Jubilee, DOD ,AUCT,FSMart,Chaiyo.
ถ้าเราศึกษาบริษัทที่ชนะในอดีต หา Pattern เพื่อ
เป็นหุ้นตัวอย่างใน42ตัวที่ให้ผลตอบแทนดีหาหุ้นที่ชนะในอนาคตได้
อ เสน่ห์ พุดว่า การดูหุ้นต้องมีจินตนาการ เหมือนไอน์สไตล์
อ เสน่ห์ ยกตัวอย่างขำๆ ผ่อนคลายบรรยกาศว่า
งานศพของหมอใน รพ หมอคนนึงที่เป็นเพื่อนกับหมอที่เสียชีวิตมาร่วมงาน
หมอนั่งมองไปที่เมรุและหัวเราะ ปรากฏว่าสัปปะเร่อเดินผ่านพอดี
เลยถามว่าหัวเราะอะไร น่าหัวเราะตรงไหน
หมอตอบว่า หมอที่ตายเป็นโรคหัวใจ คนมาร่วมงานก็เอาพวงหรีด เป็นรูปหัวใจ
ผมเป็นหมอ สูตินารี ดังนั้นถ้าผมตายจะได้พวงหรีดรูปอะไร
คำตอบ ดร ไพบูลย์บอกว่า พวงหรีดน่าจะเป็นรูปเด็ก
ดร ไพบูลย์ บอกว่า ทางบ้านขอผ่านFB Liveมาที่คุณเทิดศักดิ์ว่า
ขอฟันธงหุ้นเด่นมา3หุ้น
คุณเทิดศักดิ์ ขออนุญาติTimingนิดนึง
ตลาดMAIถ้าเทียบกับ 2-3ปีก่อน จุดนี้น่าเข้ามากที่สุด
มองย้อนหลังเรามองactivity mai สองกลุ่มนี้ลงไปเรื่อยๆ
ปี59 MAI ถูกขับเคลือนด้วยนักลงทุนสถาบัน Net Buy 8,800 ลบ
ต่างชาติซื้อมาสัก 4ล้านบาท หลังจากนั้นมาสองกลุ่มนี้หลบไปเรื่อยๆ
ต้นปีนี้ ต่างชาติไม่ได้เข้าซื้อเลย จะบอกถึงความนิยมในการลงทุนMAI
Turnover คือ ปริมาณการซื้อขายเทียบกับ Market cap ช่วงปี59.60,61 trade
ประมาณ 1.2 เท่าของMarket cap
ปีนี้ Volume การซื้อขายน้อยมาก Trade ประมาณ 0.63 ของ Market capเท่านั้นเอง
แปลว่ามูลค่าการซื้อขายแผ่วไปเยอะเลย ไปดูmarket cap
จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 134ตัวในปี59 มา Market cap 425,000 ลบ
แต่หุ้นเพิ่มเป็น 180ตัว สวนทางกับMarket cap 240,000 ลบ ลดลงอย่างมากเทียบกับปีที่ผ่านมา
แปลว่าราคาลดลง
แต่มาดูที่กำไรสุทธิรวม
ปี59 เท่ากับ 7,500 ลบ
ปี 60 2,900 ลบ
ปี61 กลับมาที่ 5,200 ลบ
หลังจากbottomเริ่มดีดตัวกลับ ส่งผลทำให้PE move อย่างไร
PE 56 เท่า ในปี 59 พอกำไรลด ปี 60 ทำให้PE 114 เท่า
ตอนนี้ PE ลดลง 46 เท่า เป็นอะไรที่ลดลงมาค่อนข้างแรง
ผมเกลี่ยดู ช่วงของPE
เราเจอหุ้นPE ต่ำกว่า 10 เท่า อยู่ 14 บริษัท
PE 10-15 เท่า 25 บริษัท
PE 20-25 เท่า 11 บริษัท
PE > 25 เท่า 36 บริษัท
PE 30 กว่าเท่า ไม่น่าสนใจ
54 บริษัท ไม่มีกำไร ซึ่งตัดทิ้งไปก่อนไม่ต้องสนใจตอนนี้
ดังนั้น ยอมรับ PEไม่เกิน 15 เท่า scopeที่เลือก ก็ 39 ตัวเท่านั้น
มันจะให้ภาพที่ชัดเจนขึ้น
มาหุ้นกัน หาหุ้นซัก 3 ตัว
ผมดู PB,PE ต่ำ turnaround, timing ดูดี
ตัวแรก CHEWA ทำคอนโด และ แนวราบ Product ค่อนข้างครบ
แต่ที่สะดุดคือ PB 0.56 เท่า discountจากราคาบัญชี
ก็discount Bookvalue 44%
Div yield 10%
ธุรกิจทรงๆ ในราคานี้ได้ ควรน่าจะไปศึกษาต่อ ผมแค่กรองมาให้
ตัวที่สอง มุ่งพัฒนา MOONG
ขายผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อม อุปกรณ์แม่และเด็ก และ ขยายไปหลายproduct
เราเจอว่า Earning มีการดีดตัวกลับ และ Div yield 4.3-4.5%
Yieldระดับนี้สำหรับconsumer productดูน่าสนใจ
ตัวที่สาม TMW (Thaimisuwa)
ทำงานโครงสร้างหรืองานเหล็ก จุดสนใจคือ Div yield ค่อนข้างต่อเนื่อง
และ Earning growth 118%
แถม เชอร์วูด SWC ทำผลิตภัณฑ์เชลล์ไดร์ส เคมีภัณฑ์ กำจัดแมลง หรือการเกษตร
Earning ไม่เยอะ แต่ Div yield สูงเกิน5%
เวลาเลือกโดย เกณฑ์ PE < 15 เท่า และ กำไรเติบโตพอสมควร มีจ่ายเงินปันผล
TimingของตลาดMAI ผ่านจุดร้อนแรงไปแล้ว จาก 200 ไปที่ 800 และลงมา 300จุด
แปลว่าคนที่พลาดรถเมื่อ7-8 ปีที่แล้ว ถอยรถมารับแล้ว
ไม่สนใจหุ้นที่ไม่มีกำไร หรือไม่จ่ายปันผล
ดร วิศิษฐ์ ผมขออนุญาตเรื่องCriteriaในการเลือกหุ้น
ปกติผมคัดกรองจาก Business model
1.ต้องมีplatform
2.ต้องมีBrand name
3. มีNicheเฉพาะตัว จุดเด่นของเขาที่คนอื่นโค่นเขาไม่ได้
4. ดูผู้บริหารมีความclean เข้าใจธุรกิจดี
หุ้นที่ผมเลือก
1. SPA แข่งขันสมบูรณ์แบบ สิ่งที่โดดเด่น GP ดีมาก ลูกค้าHighend
processการเรียนรู้ การทำโรงเรียน มีการพัฒนา
ผูกกับการท่องเที่ยว ต่อไปจะเป็นสัดส่วน25%ของGDP
เป็นเพิ่มGDPของประเทศได้ ดังนั้นการท่องเที่ยวต้องเป็นเครื่องยนต์ใหญ่ในอีก4-5ปีข้างหน้า
2. Netbay รายได้ขึ้นอยู่กับธุรกรรมexport,ขึ้นกับการจดทะเบียน และnetbayตอบโจทย์เรื่องเหล่านี้ได้
3. Chayo บริหารหนี้เสีย ขนาดยังเล็กอยู่ การทำบัญชี ถ้าบริษัทจัดการทำให้ได้กำไรมากกว่าinvestment cost ก็สามารถturnมาเป็นกำไรได้ อยู่ในMega trendของการบริหารหนี้เสีย
4. XO เป็นบริษัทที่มีBrand อิงกับการส่งออกไปขายต่างประเทศ บาทแข็งก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทได้ แต่บริษัทมีBrand ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น IPO 2.2 ตอนนี้ 8.55 บาท
บริษัทที่ประสบความสำเร็จ คือ Platform, Brand name,Niche,ผู้บริหารที่ดีเด่น
ให้ผลตอบแทนที่ดีในตลาดหุ้นMAI
คุณโจ ตอบว่า
ผมชอบหุ้นรายได้แน่นอน เติบโตเรื่อยๆ ไม่มีอะไรมาdisrupt
มีปันผลดี ผู้บริหารดี
1.หุ้นในMAI ก็มี บริษัทที่ซื้อมีPE 10 เท่า และมีการขยายกำลังการผลิต1เท่า
มีคนรับซื้อของแน่นอนที่บริษัทขยายกำลังการผลิต โอกาสขาดทุนไม่มี
ไม่เข้าใจว่าบางช่วงบางเวลา ทำไมไม่มีคนซื้อ
เป็นหุ้นในตลาดMAI เป้นบริษัทที่ผลิตพลังงาน
เวลารวยไม่ใช่บังเอิญ ต้องเป็นการตั้งใจทำการบ้าน สวนกระแสคนอื่น
2.อีกบริษัท ผลิตวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากเมืองนอก
แต่ไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่นที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
ถ้าปรับปรุงได้ก็จะฟื้นตัวได้ PE แค่11 เท่า
3.อีกบริษัท ขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กำไรดี ปันผลดี
ที่คุณเทิดศักดิ์ พูด ก็คือต้องทำการบ้านก่อนการลงทุน
เราสามารถหาข้อมูลได้ ไม่ใช่แดนสนธยา
เซียนมี่ บอกว่าบริษัทที่ผมสนใจมีซ้ำกับอ โจ คือ
1.บริษัทที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ PEไม่แพง มีprojectตลอด
2.หุ้นค้าปลีก PEค่อนข้างต่ำ ถ้าบริษัทคล้ายๆกันอยู่ในSET PEก็30 เท่า
หุ้นนี้ Forward PE 10 เท่านิดๆ ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ลูกค้าเป็นผู้หญิง
3.บริษัทให้เช่าวงจรสื่อสาร บริษัทที่ให้เช่ากับ ศรีสวัสดิ์หรือMTC เพื่อใช้intranetภายใน เป็นวงจรที่เชื่อมต่อสาขาเข้าระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาโครงข่ายด้วย
เติบโต30-40%ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก3-4ปี แต่PEไม่ถูกมาก Forward PE ใกล้ๆ20เท่า
มองดูว่า Potentialมีการเติบโต
ถามว่า หุ้นIPO ต่อจากนี้ควรจองไหม
ดร วิศิษฐ์ ตอบว่า
ให้ดูจากBusiness model ,valuation และเรื่องผู้บริหาร
ถ้าสมเหตุผล บางบริษัทPE แพงมาก อย่าง โรงเรียนนานาชาติ
จะมาดูvaluation ดูผู้บริหารว่ามีความสนใจในธุรกิจจริงจังหรือไม่
เราต้องมองทุกมิติ รวม PB , PE ดูการเติบโต ROE
ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในธุรกิจ
คุณเทิดศักดิ์
การใส่เงินไปซื้อหุ้นIPOต้องมองเทียบกับบริษัทที่จดทะเบียน
มองเชิงValuationเทียบกับบริษัทในตลาด
ถ้าเหนือกว่า ค่าPEถูกกว่า หรือ แพงกว่า ปกติราคาจะสูงมากเกินไป
ปกติจะมีนักวิเคราะห์จะคำนวณราคาFair value
ปกติต้องขายในราคาdiscount เพื่อเปิดให้เกิดupsideไว้
ดูการกระจายว่ามากน้อยแค่ไหน
คุณโจ พูดถึงตอนปี42 ไม่มีหุ้นIPOเข้ามา
ตอนนั้นมีหุ้นราชบุรี เข้ามา
ส่วน PTT มาขาย35บาทคิดเป็น PE 4 เท่า และ ราคาหลังIPOลงมาเหลือ 29 บาท
ปี61 ต้นปี มีหุ้นipoมากสุด ตอนดัชนีหุ้นnew high
ดังนั้น ช่วงหุ้นแพง มีการขายipoเยอะ ได้ราคาแพง
คนที่ซวยคือพวกเรา
ผลประโยชน์ ของคนขาย ipo ต้องการขายราคาแพงสุด
นักลงทุนต้องการราคาถูก ซึ่งมันขัดแย้งกัน
FA เป็นคนกลางที่ทำให้ราคาขายเหมาะสม
ตอนนี้ตั้งราคาขายมีdiscountจากPEของตลาด MAI
ซึ่ง PE ธุรกิจคล้ายกันในSET แค่ 4 เท่าเอง
Netbay อ โจซื้อหุ้นหลังเข้าตลาด สูงกว่าIPOเยอะ แต่ราคาก็ขึ้นไปอีก
บริษัทจำนำทะเบียนรถ ขายIPOที่ถูก ตอนนี้ราคาขึ้นไป50กว่าบาท
เราต้องดูคุณภาพ และ ราคา
ผมแน่ใจ หุ้นipo ขายความสดใหม่ เขาเลยมีprojectมากมายมาแสดง
แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ สรุป ซื้อได้ แต่ค่อนข้างน้อย
เซียนมี่บอกว่า
ผมต้องคำนวณตามกระบวนปกติในการหาหุ้น เพื่อดูว่าหุ้นipoน่าจองไหม
บางตัว performanceดีหมด ดูน่าสนใจ
อ เสน่ห์ ปิดท้ายการสัมมนาด้วยกลอน
20ปี MAI ได้สรรค์สร้าง
เติบโตอย่าง ยั่งยืน ดาษดื่นผล
เป็นทางเลือก นักลงทุน หุ้นทุกคน
แหล่งรวมพล หุ้นไซซ์เล็ก เด็กเติบโต
เลือกเด็กดี มีอนาคต สดใสแน่
รวยไม่แพ้ หุ้นผู้ใหญ่ ได้อักโข
ผู้บริหาร มางานนี้ มีดีโชว์
หุ้นเด่นโก้ จัดเต็ม เอ็มเอไอ
การลงทุน มีความเสี่ยง เลี่ยงให้ดี
ศึกษาให้ ถ้วนถึ่ ดีเข้าไว้
เงินของท่าน คิดดี มีกำไร
รายการให้ ข้อมูล คุณคิดเอง
สุดท้ายขอขอบคุณวิทยากรทุกท่าน อ ไพบูลย์ อ เสน่ห์
และ ทีมงาน MoneyTalkทุกท่าน พบกันใหม่ 24 สค ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5620
- ผู้ติดตาม: 1
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณมากครับ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
-
- Verified User
- โพสต์: 949
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 7
ใครทราบว่าตัวไหนนะครับ รบกวนชี้แนะ ตัวที่เหลือยังพอจะเดาได้1.หุ้นในMAI ก็มี บริษัทที่ซื้อมีPE 10 เท่า และมีการขยายกำลังการผลิต1เท่า
มีคนรับซื้อของแน่นอนที่บริษัทขยายกำลังการผลิต โอกาสขาดทุนไม่มี
ไม่เข้าใจว่าบางช่วงบางเวลา ทำไมไม่มีคนซื้อ
เป็นหุ้นในตลาดMAI เป้นบริษัทที่ผลิตพลังงาน
เวลารวยไม่ใช่บังเอิญ ต้องเป็นการตั้งใจทำการบ้าน สวนกระแสคนอื่น
- Pyrostrikes
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1000
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 8
TPCH
Nothing comes for free...
-
- Verified User
- โพสต์: 494
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 11
2.อีกบริษัท ผลิตวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากเมืองนอก
แต่ไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่นที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
ถ้าปรับปรุงได้ก็จะฟื้นตัวได้ PE แค่11 เท่า
3.อีกบริษัท ขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กำไรดี ปันผลดี
ที่คุณเทิดศักดิ์ พูด ก็คือต้องทำการบ้านก่อนการลงทุน
เราสามารถหาข้อมูลได้ ไม่ใช่แดนสนธยา
2 หุ้นคืออะไรครับ??
แต่ไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่นที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
ถ้าปรับปรุงได้ก็จะฟื้นตัวได้ PE แค่11 เท่า
3.อีกบริษัท ขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กำไรดี ปันผลดี
ที่คุณเทิดศักดิ์ พูด ก็คือต้องทำการบ้านก่อนการลงทุน
เราสามารถหาข้อมูลได้ ไม่ใช่แดนสนธยา
2 หุ้นคืออะไรครับ??
“Survival of the fittest”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
“รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม”
- Pyrostrikes
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1000
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 12
ผู้ชนะ...wk0966 เขียน:2.อีกบริษัท ผลิตวัตถุดิบอาหารนำเข้าจากเมืองนอก
แต่ไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่นที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
ถ้าปรับปรุงได้ก็จะฟื้นตัวได้ PE แค่11 เท่า
3.อีกบริษัท ขายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ กำไรดี ปันผลดี
ที่คุณเทิดศักดิ์ พูด ก็คือต้องทำการบ้านก่อนการลงทุน
เราสามารถหาข้อมูลได้ ไม่ใช่แดนสนธยา
2 หุ้นคืออะไรครับ??
Nothing comes for free...
- FUOON
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 24
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 13
เซียนมี่ บอกว่าบริษัทที่ผมสนใจมีซ้ำกับอ โจ คือ
1.บริษัทที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ PEไม่แพง มีprojectตลอด
2.หุ้นค้าปลีก PEค่อนข้างต่ำ ถ้าบริษัทคล้ายๆกันอยู่ในSET PEก็30 เท่า
หุ้นนี้ Forward PE 10 เท่านิดๆ ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ลูกค้าเป็นผู้หญิง
3.บริษัทให้เช่าวงจรสื่อสาร บริษัทที่ให้เช่ากับ ศรีสวัสดิ์หรือMTC เพื่อใช้intranetภายใน เป็นวงจรที่เชื่อมต่อสาขาเข้าระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาโครงข่ายด้วย
เติบโต30-40%ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก3-4ปี แต่PEไม่ถูกมาก Forward PE ใกล้ๆ20เท่า
มองดูว่า Potentialมีการเติบโต
ขอสอบถามหน่อยครับว่า หุ้นตัวที่2 และ 3 นี้คือตัวไหนหรอครับ ใช่ moong กับ itel ไหมหรอครับ???
1.บริษัทที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ PEไม่แพง มีprojectตลอด
2.หุ้นค้าปลีก PEค่อนข้างต่ำ ถ้าบริษัทคล้ายๆกันอยู่ในSET PEก็30 เท่า
หุ้นนี้ Forward PE 10 เท่านิดๆ ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ลูกค้าเป็นผู้หญิง
3.บริษัทให้เช่าวงจรสื่อสาร บริษัทที่ให้เช่ากับ ศรีสวัสดิ์หรือMTC เพื่อใช้intranetภายใน เป็นวงจรที่เชื่อมต่อสาขาเข้าระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาโครงข่ายด้วย
เติบโต30-40%ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก3-4ปี แต่PEไม่ถูกมาก Forward PE ใกล้ๆ20เท่า
มองดูว่า Potentialมีการเติบโต
ขอสอบถามหน่อยครับว่า หุ้นตัวที่2 และ 3 นี้คือตัวไหนหรอครับ ใช่ moong กับ itel ไหมหรอครับ???
- Ikigai
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 640
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MoneyTalk@MAI 13 กค 2562 เฟ้นหุ้นเด่น 10เด้ง MAI
โพสต์ที่ 14
ตามที่ผมคิดน่ะครับFUOON เขียน:เซียนมี่ บอกว่าบริษัทที่ผมสนใจมีซ้ำกับอ โจ คือ
1.บริษัทที่ขายเครื่องมือทางการแพทย์ PEไม่แพง มีprojectตลอด
2.หุ้นค้าปลีก PEค่อนข้างต่ำ ถ้าบริษัทคล้ายๆกันอยู่ในSET PEก็30 เท่า
หุ้นนี้ Forward PE 10 เท่านิดๆ ได้ประโยชน์จากบาทแข็ง ลูกค้าเป็นผู้หญิง
3.บริษัทให้เช่าวงจรสื่อสาร บริษัทที่ให้เช่ากับ ศรีสวัสดิ์หรือMTC เพื่อใช้intranetภายใน เป็นวงจรที่เชื่อมต่อสาขาเข้าระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาโครงข่ายด้วย
เติบโต30-40%ต่อปี ต่อเนื่องไปอีก3-4ปี แต่PEไม่ถูกมาก Forward PE ใกล้ๆ20เท่า
มองดูว่า Potentialมีการเติบโต
ขอสอบถามหน่อยครับว่า หุ้นตัวที่2 และ 3 นี้คือตัวไหนหรอครับ ใช่ moong กับ itel ไหมหรอครับ???
2. คือ jubilee
3. คือ itel
Scale & Speed