อยากมีความทุกข์ไหม

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
iambuffet
Verified User
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เข้าใจว่าใครถือหุ้นบางจากที่ราคา 14 บาทเท่าปตท
ตอนที่ปตทเพิ่มทุน
ราคาวันนี้เหลือประมาณ 10.6 บาท
น่าจะรู้สึกแย่มาก ๆ ทีเดียว

ถ้าคุณซื้อที่ราคา14 บาทคุณคิดว่ามันจะลงมาถึงขนาดนี้ไหม

แล้วถ้าคุณซื้อที่ราคานี้ แล้วมันลงไปที่ 7 บาท
คุณคิดว่ามันจะลงมาถึงขนาดนี้ไหม

จากนี้ไปผลประกอบการน่าจะแย่ลงเพราะ
หุ้นเพิ่มทุนที่เข้ามา

ราคาหุ้นน่าจะตกลงไปเรื่อย ๆ อีก

อยากลองถือหุ้นบางจาก
แล้วรับรู้ความเครียด
ความทุกข์ใจเหล่านี้บ้างไหมครับ

ใครคิดจะซื้อหุ้นตัวนี้
ลองดูเหตุการณ์สักระยะเดือนสองเดือนก่อนดีไหม
ไม่แน่นะ เราอาจจะได้เห็นราคาเจ็ดบาทก็ได้ครับ
แล้วถึงตอนนั้นคุณยังอยากได้มันอยู่รึเปล่า

อยากให้ใจเย็น ๆ ครับสำหรับใครที่คิดซื้อหุ้นตัวนี้
เพราะความใจร้อน จะนำความทุกข์มาให้ในภายหลัง
หยุดดูก่อนสักเดือน สองเดือนแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะซื้อหรือไม่
น่าจะดีกว่าครับ  เ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมว่าคุณ iambuffet น่าจะลองห่างๆ ตลาดหุ้นไปซักพักนะครับ เวลาที่เรารู้สึกแย่ๆ การตัดสินใจมักมีอารมณ์เกี่ยวข้อง รอให้รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาดูใหม่

เหลือแค่ 10 บาท แต่ก็ไม่ได้แปลว่ากำลังจะล้มละลายสักหน่อย เขาทำมาหากินของเขาสักพักมีกำไรสะสมก็กลับมาที่เดิมได้ ตัดสินใจพลาดไปก็เพียงแค่ต้องรอนานหน่อยเท่านั้น ฟ้าไม่ได้ถล่ม
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อย่าเครียดเลยครับ คุณ iambuffet
ผมเพิ่งเห็นคุณ Post น้ำมันคุณภาพของคนไทย บางจาก เพาเวอร์ดี ที่กระทู้นี้นี่เอง

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=19469

ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์กลับกลายเป็นทุกข์ใจเพราะถือบางจากแล้วคิดว่าจะได้เห็น 7 บาท
ผมว่าลองทบทวนหลักการลงทุนหน่อยดีมั้ยครับ
ซื้อบางจากเพราะเก็งกำไรการเพิ่มทุนโดย ปตท. ใช่หรือเปล่า
ถ้าใช่ ราคาไม่วิ่งอย่างที่คิดน่าจะมีการ cut loss นะครับ

ถ้าไม่ใช่การเก็งกำไร แต่คิดว่าจะถือลงทุน
คิดว่าจะลงทุนในบริษัทที่คิดว่าจะกำไรลดลงๆ เรื่อยๆเหรอครับ
ถือหุ้นแล้วทุกข์ใจ อย่าถือเลยครับ ถึงได้กำไรก็ไม่คุ้มกับการต้องมาเครียด
มีบริษัทอื่นอีกเยอะแยะ ศึกษาตัวที่เราเข้าใจธุรกิจ แล้วเปลี่ยนตัวดีกว่าครับ

อย่างที่มีผู้ที่หวังดีแนะนำให้คุณ iambuffet เปลี่ยนรูปแบบการ Post
(จำได้ว่าคือคุณหมอสามัญชน รวมทั้งผมด้วย)
แทนที่จะ Post เตื่อนคนอื่นว่าอย่าซื้อ อาจจะได้เห็น 7 บาท
ผมว่าเปลี่ยนเป็นการถามท่านที่มีความรู้ในธุรกิจโรงกลั่นและขอคำแนะนำดีมั้ยครับ

อนาคต BCP จะเป็นอย่างไร คิดว่าควรขาย Cut Loss ที่ราคานี้หรือไม่
หรือว่ารอดีดตัวแล้วค่อยขายออกไป ในนี้มีนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถเยอะแยะไปหมดครับ
ส่วนตัวผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจโรงกลั่นมากนัก แต่คิดว่าราคาขณะนี้มี Downside Risk ค่อนข้างต่ำมากๆ แล้วครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ดูทุกวัน ราคาลงทุกวัน เหนื่อยใจแทน

เอาตัวกำไรเยอะๆ มาเริ่มศึกษาใหม่แทนเถอะค่ะ

เงินไม่พอ ก็แบ่งมาจากของเดิมก็ได้มั้ง

ขายขาดทุนไปบ้างก่อน แลกกับสุขภาพนะ

พี่ในนี้เค้าก็เขียนโพสต์ไว้ตั้งหลายตัวนะคะ

:D
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 5

โพสต์

คุณ iambuffett อยากเลิกมีทุกข์ไหมครับ?

ผมว่าไม่ยาก อย่างแรกขายหุ้นบางจากซะ
แล้วเลิกมองราคามันอีกต่อไป เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
ไม่งั้นก็คงยังทุกข์ต่อไป  :x
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 6

โพสต์

โรงกลั่นของบางจากไม่ค่อยแจ๋วเพราะไม่มีแครกเกอร์ทำให้กลั่นได้น้ำมันราคาถูกเป็นส่วนใหญ่ (น้ำมันเตา) บริษัทจึงจำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อติดตั้งแครกเกอร์ เสร็จเมื่อไรก็จะขายผลผลิตได้ราคามากกว่าเดิม คาดว่าอีกประมาณ 4 ปีครับ

ส่วนในแง่ของปั้มน้ำมัน บริษัทกำลังเร่งเพิ่มสัดส่วนยอดขายร้านสะดวกซื้อเทียบกับยอดขายน้ำมันให้มากขึ้นเพื่อให้ margin ดีขึ้น คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปีเหมือนกัน ธุรกิจปั้มเป็นธุรกิจที่กำไรน้อยครับ

จะถือต่อก็ได้ครับแต่ต้องเข้าใจว่าจะต้องถือนานหลายปีกว่าบริษัทจะดูดีขึ้น (ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น)

หรือจะ cutloss ไปเลยก็ได้เพียงแต่ผมกลัวว่าถ้าไปซื้อตัวใหม่แล้วเกิดขาดทุนซ้ำสองจะขมขื่นมากกว่าเก่า

คนเล่นหุ้นได้ต้องเป็นคนค่อนข้าง "care-free" ครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ขอเสริมพี่สุมาอี้ครับ
ข่าวล่าสุดกำลังจะเพิ่มประสิทธิในการกลั่นครับ
หอกลั่นที่บางจากเป็นหอกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย
คุณภาพการกลั่นจะได้น้ำมันที่มีCน้อยหรือCมากๆๆไปเลย
Cน้อยคือพวกก๊าซ
Cมากๆๆคือพวกน้ำมันเตา ยางมะตอย
พวกที่Cกลางๆๆไม่ค่อยจะกลั่นได้คือ พวกน้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเบนซิล น้ำมันดีเซล อนุพันธุ์ที่มาทำ อะโรเมติก

ตอนนี้กำลังเริ่มปรับปรุงประสิทธิภาพครับ
ไม่รู้ว่าจะเริ่มติดตั้งเครื่องมือปีไหนครับ
ต้องโทรไปถามหรือประชุมถาม
เอาถึงลูกคถึงคนให้ ผู้บริหารอึ้งไปเลยครับ

เรื่องพวกนี้ถามไปก็เป็นความรู้ของเราและเป็นเรื่องที่เราคาดคะเนได้ว่าอะไรจะเกิดต่อไปในอนาคตครับ
:)
iambuffet
Verified User
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 8

โพสต์

สุมาอี้ เขียน:ผมว่าคุณ iambuffet น่าจะลองห่างๆ ตลาดหุ้นไปซักพักนะครับ เวลาที่เรารู้สึกแย่ๆ การตัดสินใจมักมีอารมณ์เกี่ยวข้อง รอให้รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาดูใหม่

เหลือแค่ 10 บาท แต่ก็ไม่ได้แปลว่ากำลังจะล้มละลายสักหน่อย เขาทำมาหากินของเขาสักพักมีกำไรสะสมก็กลับมาที่เดิมได้ ตัดสินใจพลาดไปก็เพียงแค่ต้องรอนานหน่อยเท่านั้น ฟ้าไม่ได้ถล่ม
คุณสุมาอี้ พูดเหมือน ๆ หมอดูที่ผมไปดูมาเลย
แนะนำว่าให้หยุดพักสิ่งต่าง ๆ ชั่วคราว
(ที่ผ่านมาผมก็ชอบฟังความเห็นคุณสุมาอี้นะ
ได้ความรู้มากมายทีเดียว)
แต่ด้วยความทีผมเป็นคนอยู่นิ่งไม่ค่อยได้
ได้รับคำแนะนำแบบนี้อึดอัดมาก
เหมือนบอกคนชอบวิ่งว่าห้ามวิ่ง
เหมือนที่เคยบอกว่าจะไม่โพสต์
แล้วยังกลับมาโพสต์อีก
ความที่เป็นคนอยู่นิ่งไม่ได้
มันก็อดไม่ได้ แต่ถ้าดวงให้หยุด คราวนี้อดได้แน่
เพราะไม่กล้าฝืนดวง กลัวซวย

คือส่วนตัวผมค่อนข้างเชื่อเรื่องดวงและโชครางพอสมควร
ถ้าดวงช่วงนี้ต้องพักไปก่อน ก็ต้องทำตามนั้นครับ
คนเราเดินหน้าต้องรู้ทาง
แต่คิดว่าถ้าทำตามคำแนะนำชีวิตน่าจะมีความสุขขึ้นจริง ๆ
ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับการเมือง คนรอบข้างจะพูดอย่างไร
ก็ต้องแสดงความเห็นขัดแย้งให้ขัดใจกันเปล่า ๆ
ไม่ต้องลงทุนอะไร ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
การหยุดพักชัวคราวน่าจะเป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับผม

ที่ post เป็นความรู้สึกล้วน ๆ ที่ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นทุกข์
เหมือนตัวเองที่เคยเจอมาเท่านั้นเองครับ
คือก่อนซื้อหุ้นตัวนี้ผมมีความสุขดี
แต่พอซื้อเท่านั้นความเครียดเริ่มสะสม
ยิ่งถือก็ยิ่งเครียด เลยไม่อยากให้ใครต้องมารู้สึกแย่ ๆ แบบนั้น
เท่านั้นเองครับ

ผมช่วงนี้คงไม่มีความเห็นและไม่มีอะไรจะพูด
ต้องทำตามคำแนะนำหมอดูครับ
ช่วงนี้ต้องทำบุญเยอะ ๆ

ฟังทุกความเห็นนะครับ รับเอาไปปรับปรุงตัว

ขอบคุณครับ
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 9

โพสต์

อย่าว่าแต่หุ้นลงแล้วเครียดเลย

หุ้นขึ้นแล้วเครียด ก็มีบ่อยไป

เล่นหุ้น ถ้าทำใจไม่ได้ซะอย่าง อะไรๆ ก็เครียด

พักไปแล้วกลับมาใหม่ก็เหมือนเดิม

ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมว่าถ้ายังชอบบางจากอยู่ ลองศึกษาธุรกิจให้รู้ทุกขุมขนครับว่าทำอะไร อย่างไรบ้าง ซื้ออะไร มาขายให้ใคร อย่างไร เป้นต้น

ถ้าศึกษาแล้วพบว่าไม่ดี ก็ขายไปเลยครับ ขาดทุนก้ยอม

แต่ถ้ามองออกว่ามีแววดีได้ จะซื้อเพิ่มก็ตามสะดวกเลยครับ

ถ้าเอาแต่ดูราคาแบบนี้ ผมว่าจะเป็น ซื้อบางจาก เครียด กินเหล้า เหอะ  :lol:  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
2 dogs
Verified User
โพสต์: 726
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ตอนผมเริ่มเล่นเมื่อ4ปีก่อน อาการก็คล้ายคุณนะแต่หนักกว่าหน่อย  :lol:
หุ้นที่ถือไม่ได้ลงแบบธรรมดาแบบ BCP แต่ลงแบบพินาศเลยครับ
เงินทุนก้อนเล็กๆที่ขอพ่อแม่มาเล่นตั้งแต่ก่อนเรียนจบ
หดไปเกือบครึ่ง  นั่งหน้ามุยอยู่5เดือนจนขายทิ้งไปความสุขจึงบังเกิดครับ

ถ้าให้แนะนำจากประสบการณ์ผม ผมคงแนะนำให้ขายทิ้งเพื่อสุขภาพจิตครับ
กำไรได้มาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเจ้าของเงินยังอมทุกข์ครับ

และจะแนะนำต่างจากคนอื่นด้วยครับที่ให้ทบทวนหลักการลงทุนก่อน
ผมว่าคุณต้องลองเก็งกำไรก่อนครับ เหมือนจะไม่ใช่คำแนะนำที่ดี
แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ นักลงทุนทั่วไปรายย่อยควรจะมีประสบการณ์
ในการรับมือกับมันครับ ถึงหุ้นคุณจะเป็นหุ้นลงทุนแต่ไม่ได้มีแต่นักลงทุน
ที่ซื้อหุ้นนั้น นักเก็งกำไรและผู้คุม ก็เป็นส่วนนึงที่ร่วมวงอยู่ในหุ้นนั้นด้วย
การที่เราได้สัมผัสประสบการณ์เก็งกำไร จะทำให้เราเข้าถึงและเข้าใจ
สภาพจิตใจของผู้ถือหุ้นท่านอื่นโดยรวมว่า สถานการณ์ที่มากระทบ
ทำไมทำให้หุ้นขึ้นลง
ทำให้หุ้นเราไม่ขึ้นกะเขาบ้าง
ทำไมหุ้นลงเอาๆ ไม่มีขึ้น   ทำไมหุ้นอื่นงบขาดทุนเขายังขึ้น ของเราไม่ขึ้น
ทำไมวันเดียวceiling   ทำไมลากแต่ลูกไม่ลากแม่  
อะไรหลายๆอย่างเหล่านี้เรียนไว้เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงมุมมองของคนที่มาซื้อขาย
หุ้นตัวนั้น  แต่ไม่ได้เรียนเพื่อที่จะเอาไว้หาหุ้นนะครับ
สุดท้ายแล้วถ้าเราเริ่มที่จะชินและไม่หวั่นไหวจนเกินไปต่อการขึ้นลงของหุ้น
ที่บางทีก็หนักหน่วงเกินไปสำหรับคนที่พึ่งได้มาสัมผัส

สภาพจิตเราพร้อมแล้วเหลือแต่ขาดความรู้เพื่อที่จะหาหุ้น
ถึงขั้นนี้ก็ศึกษาจากหนังสือหลายๆเล่ม หลายๆcase study
จังหวะที่หุ้นหลายๆตัวในอดีตเริ่มขึ้นครั้งใหญ่ มันมาจากอะไร
มีข่าวอะไรที่มากระทบวันที่เริ่มขึ้น
ข้อมูลพื้นฐานบางทีก็ซ่อนตัวอยู่หลังข่าวเหล่านั้นแหละครับ
เพียงแต่เราเปิดใจรับรู้ได้ว่า เบื้องหลังและพื้นฐานที่ซ่อนอยู่หลังข่าวดี
ข่าวร้ายเหล่านั้นคืออะไรบ้าง
 
สรุปคือฝึกจิตก่อนครับ  ไม่งั้นความรู้ที่มีก็ไร้ค่ากับการหาเงินจากหุ้น
ถึงได้เงินมาก็อาจจะไม่ได้อยู่ใช้นาน ถ้า24ชั่วโมงในแต่ละวัน
ความเครียดคืบคลานไปซะเกิน12ชั่วโมง
ภาพประจำตัวสมาชิก
2 dogs
Verified User
โพสต์: 726
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 12

โพสต์

และอีกอย่างคือ ถ้ามั่นใจว่าระหว่างการปรับปรุงระบบหรือขยายกิจการใดๆ
จะมีบางไตรมาสที่งบจะโชว์ผลเกือบขาดทุนไม่ก็ขาดทุน
ขายก่อนได้เลยครับ  จะมีการกดดันจากผู้ที่ต้องการสะสมหุ้น อยู่บ่อยๆ
โดยใช้ข่าวร้ายชั่วคราวรายไตรมาส ทำstoryเอาหุ้นลงแบบน่ากลัว
ถ้าเรายังถือหุ้นตัวนั้นเยอะๆ มันก็ยากจะทำใจที่จะเจอการถล่มแบบรุนแรงครับ
และเราเองจะยิ่งเครียดหนัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
วัวแดง
Verified User
โพสต์: 1429
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ใจเย็นครับ ใช้อารมณ์ให้น้อยที่สุดครับ
นิ่ง คิด ไตร่ตรอง และตัดสินใจ ทำเลยครับ :D
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
อองตวน
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ถ้าให้เลือกหุ้นที่ซื้อแล้วต้องถือนาน น่าจะมีหุ้นที่น่าถือกว่าบางจากนะ
หาพวกที่ผูกขาด หรือพวกกำไรเรื่อยๆสม่ำเสมอราคาค่อยๆขึ้นตามผลงาน
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 15

โพสต์

บทเรียนที่แพงที่สุด คือบทเรียนที่เราไม่ได้เรียนรู้ครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ผมแนะนำให้คุณ iambuffet ศึกษาหนังสือธรรมะของ ท่านพุทธทาส  ท่านพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)  หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี  ก่อนดีกว่าครับ

แล้วก็กลับมาทบทวนหลักการลงทุนแนว VI ใหม่

ถ้าเข้าใจท่องแท้แล้ว  ค่อยกลับมาลงทุน

เพราะการลงทุนแนว VI นั้น  ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี  และหลับสบายครับ

ถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่างก็น่าจะผิดหลักการนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 17

โพสต์

iambuffet wrote
มันก็อดไม่ได้ แต่ถ้าดวงให้หยุด คราวนี้อดได้แน่
เพราะไม่กล้าฝืนดวง กลัวซวย
ง่า........
คุณ iambuffet เล่นเชื่อแต่แพทย์แผนอนาคต  (ก็หมอดู...ดูอนาคตไง..)
แพทย์แผนปัจจุบันเศร้าครับ :cry:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
nowkung
Verified User
โพสต์: 208
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ถือ HT ไว้ก็เป็นทุกข์เหมือนกัน
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 19

โพสต์

อ้อ.....

ผมสงสัยจังเลยครับว่าทำไมคุณ iambuffet ถึงให้ ราคา กับหมอดูมากขนาดนั้น

ถ้าเกิดหมอดูบอกว่าคุณ iambuffet จะล้มเหลวในชีวิตตลอดไป คุณ iambuffet ก็จะยอมจำนนแต่โดยดีหรือครับ

ลองตอบคำถามนี้ดูให้แน่ๆก่อน

ใจผมว่าอย่าไปยอมครับ  

คุณ iambuffet ไม่คิดจะลุกขึ้นสู้หรือครับ  ไม่คิดจะสร้างชีวิตด้วยมือของเราเองหรือครับ  จะปล่อยชีวิตของเราให้อยู่ในมือหมอดูตลอดไปหรือครับ  หมอดูเองหลายคนก็เอาตัวไม่รอดนะครับ  แต่ก็ยอมรับว่าหมอดูส่วนใหญ่จะมีจิตวิทยาสูง   แต่เขาไม่ใช่พระเจ้านะครับ จะมากำหนดชีวิตเราได้ยังไง

แต่ผมไม่ทำนายแบบหมอดูอย่างนั้นหรอกครับ ผมว่าคุณ iambuffet จะสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยปัญญาซึ่งเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าครับ และก็จะรุ่งเรืองด้วย

ลองใช้ปัญญาที่คุณ iambuffet มีอยู่แล้วสิครับ ใช้แต่ความเชื่อเป็นหลักนั้นพุทธศาสนาเรียกว่า เชื่อแบบงมงาย

แต่ว่าการจะหักดิบตรงๆเลยนั้นเป็นเรื่องยาก  ผมแน่ใจว่าคุณ iambuffet ซึ่งเชื่อแบบนี้มานานแล้วคงจะมีเหตุการณ์ที่หมอดูทำนายแล้วถูกอยู่บ่อยๆ เลยเกิดความเชื่อขึ้นมาอย่างแน่นแฟ้น

ต้องใช้วิธีค่อยๆแก้ครับ  ง่ายๆคือ  ถ้าเขาว่าดีก็ลองเชื่อดูก่อน  ถ้าว่าไม่ดีก็ไม่เชื่อ แต่ก็ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น

ลองดูสิครับ.......
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
Accidental Hero
Verified User
โพสต์: 1601
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ผมไม่เคยซื้อหุ้นบางจาก
ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวหุ้นบางจาก
ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่น
ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องงบการเงิน

สรุปว่า ความเห็นของผม อาจจะผิดก็ได้ ใครอ่านแล้วเชื่อผมไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย

ในความเห็นของผม
หุ้นทุกตัวมีมูลค่าที่เหมาะสมของมันอยู่
มูลค่าที่เหมาะสม อ้างอิงจากธุรกิจของบริษัท

มองที่ปัจจุบัน ตราบใดที่บริษัทยังทำธุรกิจได้ ยังมีกำไร
หุ้นก็ยังมีราคา
ยกเว้นบริษัทที่ขาดทุนต่อเนื่อง จนมูลค่าของบริษัทลดลงเรื่อยๆ อย่างนี้ต้องหนีให้ไกล

มูลค่าที่เหมาะสม อยู่ที่ใครมอง
เรามองว่าดี p/e ไม่ถึง10 p/b แค่ 0.5 น่าซื้อ ทำไมใครๆขายกันจนราคาหุ้นลดลงเรื่อยๆ
ขณะที่หุ้นตัวอื่น p/e 20 p/b 3 ทำไมราคาขึ้นเอาขึ้นเอา
เขาคงมองอนาคตกัน
ถ้าคุณคาดการณ์อนาคตของธุรกิจได้ นั่นดีที่สุด
แต่ถ้าคาดการณ์ไม่ได้ แล้วเครียดกับราคาหุ้นที่ลดลงเรื่อยๆ
คงต้องหาวิธีคิดใหม่แล้วครับ

ถ้ายังไม่ซื้อ ผมเห็นด้วยว่า มีหุ้นอีกหลายตัวที่น่าซื้อกว่า
แต่ถ้ามีอยู่ คงมี 3 ทางเลือกครับ
1.กอดไว้ รอเด้ง
2.ขายทิ้ง แล้วถอย
3.ทำกำไร ขาลง หรือเพิ่มหุ้น อาจจะใช้ dsm หรือ short against port
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เข้ามาให้กำลังใจครับ :D

ถ้าหมดกำลังใจ ก็ให้ดู พี่มน คุณลูกอิสาน คนเล่นหุ้นผมว่าน่าจะเกินครึ่งหรือแม้กระทั่ง ดร. ก็ยังเคยผ่านการขาดทุน50% มาแล้วในช่วงเริ่มต้นการลงทุน :cry:

แม้กระทั่งเซียนที่พูดถึงเขายังเคยเจ็บ ถ้าเรายอมแพ้ก็จบ ถ้าเราหาจุดที่เราพลาดเจอ โอกาสที่จะเป็นเซียนอาจแค่เอื้อมก็ได้นะครับ :evil: สู้ๆ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
007-s
Verified User
โพสต์: 2496
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 22

โพสต์

เอาใจช่วยค่ะ
ค่อยๆเริ่มจากตั้งสติก่อนนะคะถึงจะดีและเดินหน้าต่อไปได้

สลัดอารมณ์โศกเศร้าเหงาอะไรต่างๆออกไปเสียก่อน
แต่ไม่ใช่แนะนำให้ปิดหูปิดตา ไม่พิจารณาถึงเหตุมาถึงผลที่เกิดอยู่
เพียงแต่คิดว่า น่าจะพิจารณาด้วยวิธีการที่ แยกแยะ เอาอารมณ์ออกไปกองไว้ห่างๆ ก่อนอื่นน่ะค่ะ

โดยส่วนตัวดิฉันเอง ถ้าหุ้นตัวไหน ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ก็ตาม
หากมองว่าไม่ใช่หุ้นที่เราต้องการให้มีอยู่ในพอร์ทอีกต่อไปแล้ว

ฟันฉับเลยค่ะ ไม่มีการเลี้ยง

ที่บอกว่า"ไม่ว่าจะกำไรขาดทุนเท่าไหร่ก็ตาม" นั้น คือ อย่ายึดตัวเลข(หรือข้อมูลอื่น)อันจะก่อให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจในทางใด มาเป็นหลักในการตัดสินใจ

รักโลภโกรธหลงนี่ มันทำให้เราขาดสติไปได้จริงๆนะคะ ดิฉันว่านะ

ดิฉันไม่ได้วิจารณ์เรื่องหุ้นบางจาก ว่าราคานี้ควรถือ หรือขาย หรือซื้อเพิ่ม แต่ประการใด ค่ะ
เพราะดิฉันไม่เคยติดตามเท่าไหร่ ไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไหร่ ไม่มีทัศนะใดใดว่าควรทำอะไรกับมัน

จริงๆคุณ iambuffet เอง น่าจะพอทราบดีกว่า ว่าควรทำอย่างไร เพราะน่าจะเข้าใจในหุ้นที่ถือพอสมควรแล้ว จึงได้เข้าไปถือ
หากเมื่อกาลเปลี่ยน เหตุผันแปรใดผ่าน มีผลทำให้เกิดผิดคาด
ไม่แปลกเลยค่ะ ผิดคาด หรือคาดผิด ก็เกิดได้เสมอกับทุกๆคน,พอหลังจากนั้น เมื่อได้ทราบดีจริงแล้ว ว่าไม่ใช่นะ ....ก็เปลี่ยนใจได้ค่ะ

อย่าถึงขนาดที่ว่า คาดผิดไป เข้าใจผิดไป รู้ไม่จริง คิดไม่ถึง ...แล้วทำให้เกิดทุกข์ใจเลยค่ะ มันไม่ได้เป็นผลดีต่อใจเราเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ใจ" นั้น เป็นองค์ประกอบสำคัญของการดำเนินชีวิตด้วย

ปกป้องและรักษาจิตใจไว้ให้แข็งแรงเสมอดีกว่าค่ะ
ทำไม่ได้ทั้งหมดทุกกรณี ก็จริง แต่ควรทำให้มากที่สุดค่ะ


:cheers:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 23

โพสต์

สามัญชน เขียน: แต่เขาไม่ใช่พระเจ้านะครับ จะมากำหนดชีวิตเราได้ยังไง
ผมขอขัดคุณหมอหน่อยนะครับ

ถึงแม้จะเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถมากำหนดชีวิตเราได้เลยครับ

ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว  สอนให้เราพยายามครับ  ไม่ใช่ยอมจำนนต่อโชคชะตา

สมัยก่อน  ผมเคยขายขาดทุนในหุ้น  ขาดทุนไม่พอ  แต่ที่เจ็บใจมากก็คือ  รุ่งขึ้นราคาหุ้นพุ่งขึ้น 10% ต่อเนื่อง 3 วันซ้อนเลยครับ
keng56
Verified User
โพสต์: 431
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ถ้าถือแล้วทุกข์ก็ขายทิ้งเถอะครับ....แต่ถึงขายทิ้งผมว่าคุณก็ยังทุกข์อยู่ดี..ทุกข์ที่ขายขาดทุน......ลองรวบรวมสติวิเคราะห์ดูดีๆว่ามีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาไหมและต้องใช้เวลานานเท่าไหร่....ถ้าต้องใช้เวลานานมาก2-3ปีขึ้นไปก็โยกเงินไปลงทุนตัวอื่นน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า......เรื่องขาดทุนหนักๆเนี่ยผมว่านักลงทุนส่วนใหญ่ล้วนเคยประสบมาทั้งนั้น..อยู่ที่ว่าเราจะผ่านมันไปได้อย่างไรแล้วก็เรียนรู้จากมันให้มากที่สุด....ถ้าคุณผ่านมันไปได้และเรียนรู้จากมันได้คุณจะแกร่งขึ้น..เอาใจช่วยครับ :wink:
อินทรีทอง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 174
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 25

โพสต์

คุณ iambuffet ลองใจเย็นๆ นะครับนั่งนึกดูว่าตอนที่ซื้อตอนแรกซื้อด้วยเหตุผลอะไร และอะไรที่ทำให้มั่นใจที่จะนำเงินมาลงทุน ส่วนตัวผมเองก็เข้าใจความรู้สึกนี้ดีครับ ผมเริ่มต้นด้วยการขาดทุนเกินครึ่งของเงินลงทุนโดยใช้เวลาแค่ครึ่งปี

ลองคิดดูเล่นๆนะครับว่าถ้ามีเพื่อนมาเสนอไอเดียเปิดบริษัทแล้วมาถามคุณว่าจะสนใจร่วมลงทุนหรือเปล่า สิ่งที่คุณจะต้องคิดก่อนที่จะนำเงินของคุณไปให้เพื่อนของคุณบริหารมีอะไรบ้าง ย้ำนะครับว่าเอาเงินของคุณไปให้เพื่อนของคุณบริหาร

ลองสมมุติเล่นๆนะครับว่าบางจากไม่ได้อยู่ในตลาด
ถ้ามีผู้บริหารมาถามคุณว่าสนใจที่จะลงทุนกับเขาหรือเปล่าโดยที่คุณมีตัวช่วยก็คือคุณสามารถซื้อขายหุ้นได้ในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งคุณยังสามารถหาข้อมูลของบริษัทได้จากบทวิเคราะห์ที่โบรกเกอร์ นอกนั้นคุณยังจะต้องพิจารณาอะไรบ้าง

พอจะนึกออกถึงสิ่งที่คุณคิด ณ. วันที่ตัดสินใจซื้อหุ้นได้หรือยังครับ แล้วก็ใน
อนาคตถ้าจะตัดสินใจลงทุนก็อย่าลืมประสบการณ์ตรงนี้นะครับผมขอเป็น
กำลังใจให้นะครับ อย่าพึ่งท้อแท้

นึกในทางกลับกัน ถือว่าเป็นโชคดีมากนะครับที่สิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงแรกๆของการลงทุน ตั้งสติให้ดี วิเคราะห์ถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น แล้วเก็บไปเป็นประสบการณ์นะครับ



โชคดีครับ

จากคนเคยขาดทุน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1522
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมก็เซ็ง ๆ กับหุ้นบางตัว และอึดอัดกับสภาวะการลงทุนช่วงนี้เหมือนกันครับ

เลยกลับไปนั่งอ่านหนังสือที่เคยอ่าน ๆ ตอนลงทุนใหม่ ๆ

ผมกลับรู้สึกใจเย็นและมีความสุขขึ้นเยอะเลยครับ

อยากแนะนำให้ลองทำดูครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tanate
Verified User
โพสต์: 307
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 27

โพสต์

อย่าเครียด มากครับ ผมเองก็ถือบางจากอยู่ ครับ ราคาก็สูงพอประมาณ
พอราคาตกลงมาเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก มายครับ เพราะรู้สาเหตุ และ
รู้แนวทางที่ บางจากกำลังปรับปรุงอยู่
ไม่นานหรอกครับ ใจเย็นๆ หุ้นมีขึ้น ก็มีลง ลงหนักๆ ก็ซื้อเฉลี่ยเลยครับ
อย่างไรเสีย บางจากก็ไม่มีวันล้มละลายครับ
ผมเองยังเติมนำมัน ด้วยแก๊สโซฮอล์ 91 เพราะเป็นบริษัทของเรา
หุ้นขึ้นสักแต่รู้ว่าหุ้นขึ้น หุ้นตกสักแต่รู้ว่าหุ้นตก
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 28

โพสต์



ผมขอขัดคุณหมอหน่อยนะครับ

ถึงแม้จะเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังไม่สามารถมากำหนดชีวิตเราได้เลยครับ
อาจจะไม่ได้ขัดครับ

เพราะแม้แต่พระเจ้า(ซึ่งผมไม่เชื่อว่ามีจริงในรูปแบบที่เป็นตัวตน มีปีก บินได้ มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ ส่วนจะมีจริงในรูปแบบอื่นหรือไม่ ผมไม่ทราบ) หรือพระพรหมก็ยังกำหนดชีวิตผมไม่ได้เลยเช่นเดียวกัน

ผมเชื่อในพระธรรม(ชาติเจ้า) เชื่อในเรื่องกรรม ทำอะไรก็ได้(ทำ)อันนั้น  ผมปลูกมะม่วง  ผมก็ย่อมได้ปลูกมะม่วง  

ส่วนมะม่วงที่ผมปลูกจะเติบโตเป็นมะม่วงแล้วออกลูกออกผลเป็นมะม่วงหรือไม่  ก็ขึ้นกับว่ามะม่วงนั้นรอดตายไหม  มะม่วงจะรอดหรือไม่รอด ก็ขึ้นอยู่กับมันได้น้ำได้ปุ๋ยพอดีหรือไม่ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมหรือไม่ ไม่ใช่ไปอยู่ที่ขั้วโลกเหนือมันก็ไม่รอด  หรืออยู่ที่ทะเลทรายก็ไม่รอด  ดังนั้นถ้าผมแค่ปลูกมะม่วงเฉยๆ ผมอาจจะไม่ได้กินลูกมะม่วงก็ได้ เพราะมันอาจจะตายเสียก่อน

แต่ถ้าผมดูแลรดน้ำมันด้วย  คือผมมอบสังขาร(สิ่งปรุงแต่ง)ที่เหมาะสม คือน้ำและปุ๋ยและสิ่งแวดล้อมทีเหมาะสมให้มันด้วย  มันก็มีโอกาสที่จะรอดและเติบโต และมีโอกาสที่จะออกลูกออกผลออกมา  มีโอกาสสูงเฉยๆนะครับ ไม่ได้แปลว่าแน่นอนร้อยเปอร์เซนต์

แต่กระนั้นผมก็ยังไม่แน่ว่าจะได้กินมะม่วง  เพราะอาจจะมีมดแมลงมากินก่อนก็ได้  อาจจะมีโรคมากินก่อน  อาจจะมีลิงมาขโมยไปก่อน  อาจจะมีคนมาแย่งมาขโมยก็เป็นไปได้ทั้งนั้น  ผมต้องทำกรรมดีๆอีกเยอะถึงจะได้กินมะม่วง

ผมจึงสงสัยอยู่บ่อยๆว่า บางคนบอกว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป  แล้วก็เลยเลิกทำดี  ผมงงตรงที่ว่า แค่เขาเคยโยนเม็ดมะม่วงลงดิน  แล้วก็ฝันหวานว่าจะมีผลมะม่วงมากมายตอบแทน เขาก็มีโอกาสสูงที่จะผิดหวัง เพราะพระธรรม(ชาติเจ้า) ไม่ได้เป็นอย่างนั้นสักหน่อย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
jojosati
Verified User
โพสต์: 190
ผู้ติดตาม: 0

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 29

โพสต์

อยากมีความทุกข์ไหม

ฮะ ฮะ ฮา... ไม่อยากแล้วครับ
เพราะเคยมาแล้ว...
ผมคิดว่าแทบทุกคนต่างก็เคยผ่านวันเวลาเช่นนี้มาแล้ว

เอาเป็นว่า มาแบ่งปันประสบการณ์กันดีกว่า

เรื่องของผม เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว

ตอนนั้นเป็นปลายขาขึ้น และต้นขาลงของกลุ่มเรือ

หัดลงทุนใหม่ๆ พอดูงบเป็น
เห็นงบของกลุ่มเรือ ตัวเลขผลกำไรของปีก่อน
แล้วชอบใจเหลือเกิน
PE ต่ำมากๆ ผลประกอบการไตรมาศก่อนก็ดี
เพื่อความมั่นใจ เข้าไปค้นกระทู้เก่าๆ ใน Thai VI อีกที
ก็เห็นมุมมองเป็นบวก กันเยอะแยะ
(ได้บทเรียน ด้วยตนเอง อ่านความเห็นแล้ว อย่าลืมดูวันที่ ที่เขาออกความเห็นด้วย)

ตอนนั้น คำว่า Short ก็ไม่รู้จัก
ได้แต่ปลอบใจตนเองว่า เราลงทุนระยะยาววววว
ราคาก็ดิ่งๆๆๆ ลงไป เรื่อยๆ

ความอึดอัดของเราอยู่ที่
เสียดายโอกาส
เมื่อเห็นหุ้นตัวอื่น ขึ้นๆ ลงๆ ไปหลายรอบ

แต่เราต้องกอดหุ้นที่ ติดลบ โดยทำอะไรไม่ได้

ในที่สุดก็ ตัดใจขายไป ในราคาที่ขาดทุน 50%
แต่ไม่ได้ขายทีเดียวหมดยกล็อตนะครับ

หลังจากตัดใจแล้ว
ก็ดูว่า วันนี้เราจะเล็งซื้อหุ้นตัวไหนดี
พอซื้อหุ้นตัวใหม่ได้
ก็ตัดขายหุ้นเรือ ซังกะบ๊วย ของเราไป

บทเรียน ที่ได้มา (และไม่ค่อยเห็นใครพูดถึง)
Value อีกอย่างหนึ่งของหุ้นก็คือ เวลา
ที่ควรเอามาร่วมพิจารณา

อาจจะใช้คำไม่ถูกนัก
แต่กับ BCP-DR1 เองก็เคยถือไว้
นานนนน นาน มาก รอจนได้ปันผลปีแรก แถม วอร์ อีกหน่อยพอคุ้ม
ดีใจมาก เพราะตอนซื้อ ก็คำนวณไว้แล้วว่า BCP น่าจะมีปันผล
รู้สึกภูมิใจ ว่าเราอ่านงบได้ไม่เลว
ข่าวดีของ BCP คือ PQI ผมอ่านแล้ว อ่านอีก
มันอีก 5 ปีนี่หว่า กว่าจะเสร็จ

กลับมาถามตัวเองว่า เราจะอดทนถือรอถึง 5 ปีมั๊ย
แล้วถ้า น้ำมัน Turn around ก่อน 5 ปี
สร้างโรงกลั่นเสร็จ ตอนที่ราคาน้ำมันตกต่ำ
เทคโนโลยี่ไปใช้ พลังงานทดแทนอย่างอื่น
จะเกิดอะไรขึ้น

บทเรียนจาก เจ๊ง กลุ่มเรือ ทำให้ผมรีบขายทิ้งไปหมด
ตอนข่าวดี อนุมัติโครงการ PQI ได้กำไรมาแค่นิดหน่อย บวกปันผล
แค่นี้ก็ไม่คุ้มกับความอึดอัด กับราคาที่ติดลบตลอดช่วงเวลาที่ถือ

ทำใจขายทิ้ง แลกกับอิสรภาพกลับมาเถอะครับ
แต่ไม่ต้องขายทิ้งหมดรวดเดียว จริงๆ นะครับ

ทำใจให้ได้ก่อน แล้วมองว่ามันเป็นเงินสดของเรา
อิสรภาพของเราก็กลับมา
วันไหนเจอหุ้นใหม่ ที่เราเลือกแล้วว่าดีกว่าแน่
ก็ขายไป เท่าจำนวนเงินที่เราใช้ ซื้อหุ้นใหม่
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

อยากมีความทุกข์ไหม

โพสต์ที่ 30

โพสต์

(ได้บทเรียน ด้วยตนเอง อ่านความเห็นแล้ว อย่าลืมดูวันที่ ที่เขาออกความเห็นด้วย)
ชอบใจประโยคนี้มากครับ   :cool:  :cool:  :cool:

อ้อ....วันที่ก็คู่กับราคา  เปลี่ยวันราคาก็เปลี่ยน  ราคาเปลี่ยนคุณค่าก็เปลี่ยน  คุณค่าเปลี่ยนการตัดสินใจก็เปลี่ยน  บางทีต้องตัดสินใจตรงกันข้ามกันเลยครับ.....
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
โพสต์โพสต์