ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
- Introverted investor
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 2
ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าควรเริ่มจากการอ่านเยอะๆ ฟังเยอะๆ ดูเยอะๆ ศึกษาเยอะๆ มีช่องทางให้ศึกษามากมายครับทั้งจากหนังสือ Youtube, Facebook page, คอร์สสัมมนา รวมถึงในบอร์ด Thai VI แห่งนี้ครับ (ศึกษาให้จริงจัง) การเริ่มจากเงินน้อยๆ ไม่ควรนำมาเป็นอุปสรรคหรือจุดด้อย เพราะการลงทุนเราควรลงมือทำและแข่งขันกับเป้าหมายส่วนตัวของตนเองเป็นหลัก ใครจะรวยหรือจนก็ไม่เป็นไร เริ่มจากการตั้งเป้าหมาย (ที่พิสูจน์ได้จริงทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ) มีวินัยเดินตามเป้าหมายและแผนการลงทุน สำหรับผมเท่านี้เท้าเราก็เหยียบสู่ความสำเร็จไปข้างหนึ่งแล้วครับ
เริ่มจากเงินน้อยก็ ศึกษาเยอะๆ กลั่นกรองจนมาเป็นแนวทางเฉพาะตัว ลงมือปฏิบัติจริง ทำงานหารายได้จากทางอื่น แล้วหมั่นโยกย้ายรายได้จากการทำงานส่วนหนึ่ง นำมาเก็บออมในหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีให้ได้ตามเป้าหมายส่วนตัว การศึกษาจากเซียน ก็ศึกษาที่หลักคิดหรือแนวทางแล้วนำมาปรับใช้ ไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบ (แต่ถ้าลอกแล้วดีก็ทำต่อไปครับ) พอถึงจุดหนึ่งเราจะมีความมั่นคงทางจิตใจมากขึ้น จนคำถามเช่นนี้จะเริ่มจากหายไป รู้ให้จริง ทำให้จริง ทุ่มเทให้จริง แล้วจะสำเร็จในเป้าหมายของตนเอง ผมเชื่อแบบนั้นครับ
เริ่มจากเงินน้อยก็ ศึกษาเยอะๆ กลั่นกรองจนมาเป็นแนวทางเฉพาะตัว ลงมือปฏิบัติจริง ทำงานหารายได้จากทางอื่น แล้วหมั่นโยกย้ายรายได้จากการทำงานส่วนหนึ่ง นำมาเก็บออมในหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีให้ได้ตามเป้าหมายส่วนตัว การศึกษาจากเซียน ก็ศึกษาที่หลักคิดหรือแนวทางแล้วนำมาปรับใช้ ไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบ (แต่ถ้าลอกแล้วดีก็ทำต่อไปครับ) พอถึงจุดหนึ่งเราจะมีความมั่นคงทางจิตใจมากขึ้น จนคำถามเช่นนี้จะเริ่มจากหายไป รู้ให้จริง ทำให้จริง ทุ่มเทให้จริง แล้วจะสำเร็จในเป้าหมายของตนเอง ผมเชื่อแบบนั้นครับ
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 3
คนลงทุนหุ้น80%ขาดทุน
อีก20%เท่าทุนหรือกำไรมากน้อย
มีแค่5%เท่านั้นที่รวยร้อยพันหมื่นล้าน
ความรวยของคนกลุ่มนี้ก็มาจาการขาดทุนของคนหมู่มาก
คน5%กลุ่มนี้เป็นคนเก่งฉลาด จิตใจหนักแน่น
ที่สำคัญคือแทบทุกคนทุ่มเทชีวิตให้กับหุ้น
อ่านหนังสือหุ้น ธุรกิจ การลงทุน ฯลฯ หลายสิบเล่มทั้งไทยอังกฤษ บางคนเป็นร้อย
ดูoppday เป็นร้อยชั่วโมง ศึกษาหุ้รป็นร้อยตัว
พํฒนาทักษะวิเคราะห์หุ้นจนเหนือกว่าคนอื่น
พูดตามตรงว่าคนส่วนมากทำแบบนี้ไม่ได้
คุณลงทุนมา5ปียังขาดทุน
แสดงว่าคุณเอาชนะตลาดไม่ได้
ถ้าเอาชนะตลาดไม่ได้ ก็จงเป็นตลาดเสียเอง
ถ้าให้ผมแนะนำ ผมว่าคุณลงทุนแบบDCAดีกว่า
ซื้อกองทุนดัชนีเช่นbset100ทุกเดือนด้วยจำนวนเงินเท่าๆกัน
ซื้อต่อเนื่องไปอย่างน้อย5-10ปีโดยไม่ขายเลย ยกเว้นจำเป็นสุดๆ
ผมเชื่อว่าโอกาสขาดทุนน้อยมาก
ไม่ต้องเสียเวลามาตามหุ้นรายตัว
ไม่ต้องดูตลาดหุ้นทุกวัน
เอาเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองถนัดและมีความสุขดีกว่า
โดยเฉพาะที่ทำเงินได้ เอามาเติมเงินซื้อกองทุนมากขึ้น
ด้วยความปรารถนาดีครับ
อีก20%เท่าทุนหรือกำไรมากน้อย
มีแค่5%เท่านั้นที่รวยร้อยพันหมื่นล้าน
ความรวยของคนกลุ่มนี้ก็มาจาการขาดทุนของคนหมู่มาก
คน5%กลุ่มนี้เป็นคนเก่งฉลาด จิตใจหนักแน่น
ที่สำคัญคือแทบทุกคนทุ่มเทชีวิตให้กับหุ้น
อ่านหนังสือหุ้น ธุรกิจ การลงทุน ฯลฯ หลายสิบเล่มทั้งไทยอังกฤษ บางคนเป็นร้อย
ดูoppday เป็นร้อยชั่วโมง ศึกษาหุ้รป็นร้อยตัว
พํฒนาทักษะวิเคราะห์หุ้นจนเหนือกว่าคนอื่น
พูดตามตรงว่าคนส่วนมากทำแบบนี้ไม่ได้
คุณลงทุนมา5ปียังขาดทุน
แสดงว่าคุณเอาชนะตลาดไม่ได้
ถ้าเอาชนะตลาดไม่ได้ ก็จงเป็นตลาดเสียเอง
ถ้าให้ผมแนะนำ ผมว่าคุณลงทุนแบบDCAดีกว่า
ซื้อกองทุนดัชนีเช่นbset100ทุกเดือนด้วยจำนวนเงินเท่าๆกัน
ซื้อต่อเนื่องไปอย่างน้อย5-10ปีโดยไม่ขายเลย ยกเว้นจำเป็นสุดๆ
ผมเชื่อว่าโอกาสขาดทุนน้อยมาก
ไม่ต้องเสียเวลามาตามหุ้นรายตัว
ไม่ต้องดูตลาดหุ้นทุกวัน
เอาเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองถนัดและมีความสุขดีกว่า
โดยเฉพาะที่ทำเงินได้ เอามาเติมเงินซื้อกองทุนมากขึ้น
ด้วยความปรารถนาดีครับ
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 4
สมัยก่อน...
ผมเคยพาตัวเองไปนั่งฟังนักลงทุนเก่งๆ
ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์
รายการมันนี่ทอล์คของอาจารย์ไพบูลย์
เป็นอะไรที่เบิกเนตรมาก
สมัยนี้...
ผมว่าหาฟังนักลงทุนเก่งๆ ได้ง่ายมาก
ไม่ยากเลย
วิธีคิด และวิธีการของคนที่ลงมือปฏิบัติจริง
และได้รับการพิสูจน์มาแล้ว
ไม่ใช่เป็นความลับอะไร
สมัยก่อน...
ตอนที่ผมได้อ่าน "ตีแตก" ครั้งแรก
ผมดีใจมาก บอกตัวเองเลย
ไอเดียเรื่องนี้มัน "ใช่" มาก
ครับ ถ้าจะเปรียบเป็นหนังกำลังภายใน
ผมมี อ.นิเวศน์ เป็นผู้ทะลวงจุดครับ
และนักลงทุนหลายๆ ท่านในยุคเดียวกับผม
ก็จะมี ตีแตก เป็นเสมือนกุญแจไขประตู
สู่หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
สมัยนี้...
ความรู้ ไอเดีย ด้านการลงทุนดีๆ
มีเยอะแยะตะแป๊ะเต็มไปหมดครับ
ไม่ใช่เรื่องยากเลย
คำแนะนำของผมในฐานะเพื่อนร่วมทาง
คือถ้าอยากพิสูจน์ตัวเองว่าจะไปต่อได้ไหม
ให้ทิ้งเรื่องปอดแดงปอดเขียวไว้ข้างหลัง
เพราะสี...
จะกระทบต่อ "อารมณ์" แฮ่ม...
ไม่แน่ใจ... เป็นหรือเปล่า ?
ความอยากเอาคืน ? จึงต้องการความสำเร็จ
สำหรับผม
ปอดจะเล็ก หรือปอดจะใหญ่
หลักการลงทุนผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน
เพราะหลักการยังคงเป็นหลักการเสมอ...
แม้ตัวผมเองวิธีคิดวิธีการ จะมีปรับรูปแบบไปบ้าง
เป็นเพราะเราเติบโตขึ้น ความรู้มากขึ้น คัดกรองข้อมูลได้ดีขึ้น
มีประสบการณ์มากขึ้น หนังหน้าเหี่ยวลง
มาย้อนทบทวนดู
ิคิดว่าการเดินทางที่พาตัวเองมาถึงทุกวันนี้
เป็นเพราะอะไร ?
คำตอบคือ ผมแค่อยากรู้...
อยากรู้เรื่องไหน ก็พา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปอยู่ที่นั่นแหละครับ
ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเฉพาะเรื่องของการลงทุน
เพราะมันใช้ได้กับทุกเรื่องเลยครับสำหรับชีวิต
และถ้าเป็นที่ๆ เดียวกับที่ๆ ความมั่งคั่งมันชอบไป
เดี๋ยวมันก็เดินมาเจอเราเองครับ
แม้เราจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
แล้วมันจะเดินไปกับเราตลอดมั๊ย?
อืม...
อยากรู้ขึ้นมาอีกและ
ผมเคยพาตัวเองไปนั่งฟังนักลงทุนเก่งๆ
ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์
รายการมันนี่ทอล์คของอาจารย์ไพบูลย์
เป็นอะไรที่เบิกเนตรมาก
สมัยนี้...
ผมว่าหาฟังนักลงทุนเก่งๆ ได้ง่ายมาก
ไม่ยากเลย
วิธีคิด และวิธีการของคนที่ลงมือปฏิบัติจริง
และได้รับการพิสูจน์มาแล้ว
ไม่ใช่เป็นความลับอะไร
สมัยก่อน...
ตอนที่ผมได้อ่าน "ตีแตก" ครั้งแรก
ผมดีใจมาก บอกตัวเองเลย
ไอเดียเรื่องนี้มัน "ใช่" มาก
ครับ ถ้าจะเปรียบเป็นหนังกำลังภายใน
ผมมี อ.นิเวศน์ เป็นผู้ทะลวงจุดครับ
และนักลงทุนหลายๆ ท่านในยุคเดียวกับผม
ก็จะมี ตีแตก เป็นเสมือนกุญแจไขประตู
สู่หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
สมัยนี้...
ความรู้ ไอเดีย ด้านการลงทุนดีๆ
มีเยอะแยะตะแป๊ะเต็มไปหมดครับ
ไม่ใช่เรื่องยากเลย
คำแนะนำของผมในฐานะเพื่อนร่วมทาง
คือถ้าอยากพิสูจน์ตัวเองว่าจะไปต่อได้ไหม
ให้ทิ้งเรื่องปอดแดงปอดเขียวไว้ข้างหลัง
เพราะสี...
จะกระทบต่อ "อารมณ์" แฮ่ม...
ไม่แน่ใจ... เป็นหรือเปล่า ?
ความอยากเอาคืน ? จึงต้องการความสำเร็จ
สำหรับผม
ปอดจะเล็ก หรือปอดจะใหญ่
หลักการลงทุนผมคิดว่าไม่ควรเปลี่ยน
เพราะหลักการยังคงเป็นหลักการเสมอ...
แม้ตัวผมเองวิธีคิดวิธีการ จะมีปรับรูปแบบไปบ้าง
เป็นเพราะเราเติบโตขึ้น ความรู้มากขึ้น คัดกรองข้อมูลได้ดีขึ้น
มีประสบการณ์มากขึ้น หนังหน้าเหี่ยวลง
มาย้อนทบทวนดู
ิคิดว่าการเดินทางที่พาตัวเองมาถึงทุกวันนี้
เป็นเพราะอะไร ?
คำตอบคือ ผมแค่อยากรู้...
อยากรู้เรื่องไหน ก็พา ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปอยู่ที่นั่นแหละครับ
ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเฉพาะเรื่องของการลงทุน
เพราะมันใช้ได้กับทุกเรื่องเลยครับสำหรับชีวิต
และถ้าเป็นที่ๆ เดียวกับที่ๆ ความมั่งคั่งมันชอบไป
เดี๋ยวมันก็เดินมาเจอเราเองครับ
แม้เราจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน
แล้วมันจะเดินไปกับเราตลอดมั๊ย?
อืม...
อยากรู้ขึ้นมาอีกและ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 818
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 5
นักลงทุนแต่ละคนมีจริตในการลงทุนไม่เหมือนกันครับ บางคนชอบเล่นสั้น บางคนชอบลงทุนแล้วมองยาวหน่อย ไม่มีใครถูกผิด แต่เราต้องรู้ตัวเองครับ ว่าอย่างไหนจะทำให้เราสำเร็จ
ต้องเริ่มจากอดีต ว่าทำแบบไหนแล้วล้มแหลว ลองทำแบบใหม่ดูครับ
ลองคำนวนดูก็ได้ ว่าเราซื้อขายหุ้นบ่อยขนาดไหน ใน 1ไตรมาศ ถ้าซื้อขายวนหลายรอบ แสดงว่าเป็นคนมือคันแล้ว คงต้องไปหาอาจารย์ที่เน้นเล่นเร็ว มองงบรายไตรมาศเก่งๆ
แต่ถ้าเมื่อก่อนถือยาว แต่ไม่มีเวลาดู จนบริษัทพื้นฐานเปลี่ยน อาจจะไม่เหมาะลงหุ้นรายตัว ไป dca index ในประเทศที่ตลาดหุ้นโตได้ในระยะยาวก็ได้ครับ
ต้องเริ่มจากอดีต ว่าทำแบบไหนแล้วล้มแหลว ลองทำแบบใหม่ดูครับ
ลองคำนวนดูก็ได้ ว่าเราซื้อขายหุ้นบ่อยขนาดไหน ใน 1ไตรมาศ ถ้าซื้อขายวนหลายรอบ แสดงว่าเป็นคนมือคันแล้ว คงต้องไปหาอาจารย์ที่เน้นเล่นเร็ว มองงบรายไตรมาศเก่งๆ
แต่ถ้าเมื่อก่อนถือยาว แต่ไม่มีเวลาดู จนบริษัทพื้นฐานเปลี่ยน อาจจะไม่เหมาะลงหุ้นรายตัว ไป dca index ในประเทศที่ตลาดหุ้นโตได้ในระยะยาวก็ได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 6
ผมอยากจะแชร์ในมุมมองของผมนะครับ
ผมเองก็เริ่มจากเงินไม่มาก โดยส่วนตัวแล้วเกิดมาจน มีภาระต้องดูแลครอบครัว ดังนั้นเงินเดือนที่เหลือต้องใช้อย่างประหยัดและนำมาลงทุนซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย
** เงินน้อยก็ค่อยๆเพิ่ม มีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากยังดีกว่า ดังนั้นลงทุนในหุ้นไม่ทำให้รวยเร็ว แต่ทำให้มั่นคงเพิ่มขึ้นในอนาคต ผมเองก็ได้สิ่งที่คนอื่นเรียกและผมก็เคยเรียกคือ "อิสระภาพทางการเงิน" มาหลายปีแล้วครับ แต่ยังทำงานอยู่และคาดว่าอีกไม่กี่เดือนคงเป็นนักลงทุนเต็มเวลา **
- ตอนที่ผมเริ่มลงทุน ผมได้ลองมาหลายวิธี รวมถึงการเขียน indicator ขึ้นมาเองที่เป็นด้าน technical analysis ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันดีเพราะมีความแม่นยำมากกว่าที่ผมเห็นในท้องตลาด แต่ตอนที่ต้องซื้อหุ้นมักจะอยู่ในภาวะกลัวสุดขีดมันไม่มีหลักยึด ผมก็เลิกไป
- ผมซื้อตามโบรกเกอร์ที่บอกว่าตัวไหนมี upside สูงๆ ผมก็ดูมาหลายโบรก ก็พบว่า tpipl มี upside สูงมาก สุดท้ายผมก็ดอย และขาดทุนเยอะมาก
- ผมกลับไปดูงบการเงิน และพบว่า งบบริษัทไหนดีราคาหุ้นก็จะขึ้น ผมก็จะรีบซื้อในราคาเปิด และผมก็โดนไปหลายตัว เช่น ผมยังจำได้ว่า BCP ให้ข่าวจะเพิ่มกำลังการผลิต และงบก็ออกมาดีมาก งบออกซื้อราคาเปิดเลย แต่ผมไม่ได้รู้เลยว่ามันคือหุ้นวัฎจักร ผมก็ขาดทุน การเพิ่มกำลังการผลิตไม่ได้หมายความว่าจะขายได้ราคาดีเพราะใครมีเงินก็เพิ่มกำลังการผลิตได้
- แล้วราคาหุ้นเพิ่มเพราะอะไร มี 2 อย่างใหญ่ๆ คือ 1.ขึ้นเพราะความคาดหวังในอนาคต จะสะท้อนไปยังการขึ้นลงของหุ้นภายหลังจากได้รับข่าวหรืองบออกมา จะมีการเก็งกำไรเพราะเห็นว่าอนาคตจะดี(หรือแย่) ซึ่งจะเป็นเชิงจิตวิทยา 2.เพราะผลงานที่ผ่านมา ฐานะการเงิน การเติบโตตามที่คาด และผลกำไรดี เช่น P/e ต่ำ
- เราต้องซื้อดักก่อนหุ้นจะขึ้น นั้นแปลว่าเราจะต้องหาว่าหุ้นตัวไหนจะดีในอนาคต(แต่ราคายังไม่ได้ขึ้นหากมันดีอย่างที่คิด) ดังนั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมือ และต้องมีความรู้ เราต้องศึกษาและศึกษา การจะรู้อนาคตได้ต้องเจาะงบการเงิน การจะอ่านงบและวิเคราะห์กิจการได้ต้องเข้าใจธุรกิจ การเข้าใจพวกนี้ต้องอ่าน annual report, f56-1
อ่านหนังสือด้านการลงทุนมากมาย อ่านความเห็นของเพื่อนในthaivi ที่สำคัญแยกให้ออกว่าความเห็นไหนใช่ความเห็นไหนไม่ใช่ เราต้องทุ่มเท ไม่ใช่แค่อ่านวันละ 1-2 ชม. แต่การเริ่มต้นจำเป็นต้องอ่านแบบ warrenทำ สำหรับผมแล้วแนะนำว่ามีเวลาก็ต้องอ่าน นี่คือช่วงที่ต้องเริ่มต้นของชีวิตการเป็นนักลงทุน พอลงทุนเป็นแล้วอ่านวันละนิดหน่อยก็พอได้เพราะหลักการมันก็เป็นของที่ตรงไปตรงมาเหมือนๆเดิม และติดตามผลประกอบการหุ้นที่เราถือหรือสนใจซึ่งจะเหลือไม่มากนัก แต่สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราต้องศึกษาไปตลอดชีวิตการลงทุน
- สำหรับผมอ่านหนังสือ warren และ peter Lynch เป็นหลัก และมีเล่มอื่นๆที่ดีหลายเล่ม และผมก็จะดูผลประกอบการย้อนหลังที่เป็นกราฟ รายได้ กำไร npm หลายปี(15 - 20 ปียิ่งดี) เพื่อดูว่าในอุตสหกรรมเดืยวกันใครดีกว่ากัน และแต่ละอุตสาหรรมมี npm ต่างกันอย่างไร พวกวัฎจักรมันขึ้นลงแบบไหน หรือหุ้นบางตัวทำไมเติบโตได้นาน อะไรพวกนี้กราฟผลประกอบการบอกได้ดีเลย การดูกราฟผมจึงได้ตัดหุ้นรับเหมาออกจากการติดตามเพราะเสียเวลากับการลงทุนหุ้นพวกนี้ รวมถึงหุ้นบางกลุ่มเราก็จเห็นว่าเดียวดีเดียวร้ายอย่างไปเล่นกับมันเลย
- ผมมีทักษะด้านคอมพิวเตอร์ดี(ก็ศึกษาเองนะครับไม่ได้จบด้านนี้มา) ทำให้ผมทำอะไรกับข้อมูลได้เอง ดังนั้นเรียนรู้พวก excel หรือ programming ไว้ก็ดีหากทำได้ หรือทำไม่ได้ก็ต้องไปหามาครับ หรือจะใช้อุปกรณ์อื่นที่ตัวเองคิดว่าดีก็ได้
- การซื้อดักก่อนหุ้นจะขึ้น เป็นเรื่องที่ใครก็อยากได้นะครับ แต่มันต้องอาศัยความชำนาญ ใช้เวลาในการเข้าใจมัน
- การซื้อหุ้นด้วยมูลค่าที่เหมาะสม อันนี้ต้องประเมินให้ได้ว่าหุ้นที่เราซื้อมีผลตอบแทนเหมาะสมกับที่เราจ่ายไปหรือไม่ เพราะแต่ละคนไม่ได้มีความคาดหวังผลตอบแทนเท่ากัน เช่น ถ้าผมต้องการผลตอบแทน 4-5% ต่อปีและคิดว่าผมเองไม่ต้องการศึกษามากและตอนนี้ผมอาจจะเลือก NTV แต่ถ้าผมต้องการมากกว่านี้ 10% ผมอาจจะต้องเหนื่อยมากเพราะ SET ของเราก็มีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนที่ต่ำกลยุทธที่ใช้อาจจะเป็นการ รอเพื่อหาจังหวะซื้อครับ บางทีอ่านจนเหนื่อยก็หาหุ้นที่ปลอยภัยให้ผลตอบแทน 10% ในระยะยาวไม่ได้เพราะเศรฐกิจประเทศไม่ได้เป็นใจ
- ไม่จำเป็นนะครับที่จะกำไรทุกครั้งไป หุ้น 10 ตัวมีกำไร 7 ก็เยอะแล้วครับ
- คาดหวังผลตอบแทนที่เหมาะสมกับประเทศที่เราลงทุน อย่างไทยผมก็คาดหวัง 7-8% ต่อปีครับ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อน10ปีที่แล้วก็ 18% ต่อปีโดยเฉลี่ยส่วนจะทำได้จริงเท่าไหร่ก็อีกเรื่อง
- ถ้าไม่มีจังหวะซื้ออยู่เฉยๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้น 100% ตลอดเวลา ผมถือเงินสด 30% ตลอดเวลาพอร์ตก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนหนึ่งคือมองบ่อยๆว่าหุ้นแพง อีกส่วนคือไม่อยากพลาดแล้วกลับไปจนจึงถือเงินสดไว้นาน และผมไม่เคยใช้ margin ทำให้พอร์ตโตแบบธรรมดาช้าๆ
- อย่าคาดหวังที่จะเพิ่งพาการวิเคราะห์หุ้นจากคนอื่นไม่ว่าจากที่ไหน เพราะเราเองไม่รู้เลยว่าเขาผิดหรือถูก ข้อมูลที่ได้มาต้องคิดเองทั้งหมดก่อนลงทุน เสียดายดีกว่าเสียใจ
- หาโอกาสในต่างประเทศ เวียดนามผมก็ไปลงทุนแต่ซื้อกองทุนเช่น E1V... ในกระดานไทย และ VOF ที่่มีส่วนลด 20% ในตลาดลอนดอน และก็ลงใน HK ซึ่งมีราคาหุ้น value อยู่ที่นั้นและมี growth เช่นกัน แต่ในต่างประเทศมันยากกว่าไทยมาก ดังนั้นถ้าไม่มั่นใจว่าเอาตัวรอดได้ซื้อกองทุน
- มันคงมีแง่มุมอีกมากครับ และอย่าเน้นว่าทุกคนที่สำเร็จมักจะเจ็บเป็นพักๆ ไม่ได้ราบลื่นตลอดเวลา เราต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเสมอ ต้องมีสติว่าเรากำลังหลงกับผลกำไรงามๆจนจุดตรงนี้เป็นกับดักให้เราเริ่มหาหุ้นที่มันนอกกรอบความรู้ของเราเพราะเราคิดว่าเราเก่ง ต้องหยุดตัวเองที่จุดที่เรามั่นใจสุดขีดให้ได้ เราจะมีกำไรตรงที่เราและตลาดขาดความมั่นใจแต่เหตุผลที่จะลงทุนมันชัดเจน
เอาเท่านี้ครับ เขียนแบบสดๆ ขาดตกตรงไหนก็ขออภัยด้วยครับ
ผมเองก็เริ่มจากเงินไม่มาก โดยส่วนตัวแล้วเกิดมาจน มีภาระต้องดูแลครอบครัว ดังนั้นเงินเดือนที่เหลือต้องใช้อย่างประหยัดและนำมาลงทุนซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย
** เงินน้อยก็ค่อยๆเพิ่ม มีผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากยังดีกว่า ดังนั้นลงทุนในหุ้นไม่ทำให้รวยเร็ว แต่ทำให้มั่นคงเพิ่มขึ้นในอนาคต ผมเองก็ได้สิ่งที่คนอื่นเรียกและผมก็เคยเรียกคือ "อิสระภาพทางการเงิน" มาหลายปีแล้วครับ แต่ยังทำงานอยู่และคาดว่าอีกไม่กี่เดือนคงเป็นนักลงทุนเต็มเวลา **
- ตอนที่ผมเริ่มลงทุน ผมได้ลองมาหลายวิธี รวมถึงการเขียน indicator ขึ้นมาเองที่เป็นด้าน technical analysis ซึ่งผมก็เชื่อว่ามันดีเพราะมีความแม่นยำมากกว่าที่ผมเห็นในท้องตลาด แต่ตอนที่ต้องซื้อหุ้นมักจะอยู่ในภาวะกลัวสุดขีดมันไม่มีหลักยึด ผมก็เลิกไป
- ผมซื้อตามโบรกเกอร์ที่บอกว่าตัวไหนมี upside สูงๆ ผมก็ดูมาหลายโบรก ก็พบว่า tpipl มี upside สูงมาก สุดท้ายผมก็ดอย และขาดทุนเยอะมาก
- ผมกลับไปดูงบการเงิน และพบว่า งบบริษัทไหนดีราคาหุ้นก็จะขึ้น ผมก็จะรีบซื้อในราคาเปิด และผมก็โดนไปหลายตัว เช่น ผมยังจำได้ว่า BCP ให้ข่าวจะเพิ่มกำลังการผลิต และงบก็ออกมาดีมาก งบออกซื้อราคาเปิดเลย แต่ผมไม่ได้รู้เลยว่ามันคือหุ้นวัฎจักร ผมก็ขาดทุน การเพิ่มกำลังการผลิตไม่ได้หมายความว่าจะขายได้ราคาดีเพราะใครมีเงินก็เพิ่มกำลังการผลิตได้
- แล้วราคาหุ้นเพิ่มเพราะอะไร มี 2 อย่างใหญ่ๆ คือ 1.ขึ้นเพราะความคาดหวังในอนาคต จะสะท้อนไปยังการขึ้นลงของหุ้นภายหลังจากได้รับข่าวหรืองบออกมา จะมีการเก็งกำไรเพราะเห็นว่าอนาคตจะดี(หรือแย่) ซึ่งจะเป็นเชิงจิตวิทยา 2.เพราะผลงานที่ผ่านมา ฐานะการเงิน การเติบโตตามที่คาด และผลกำไรดี เช่น P/e ต่ำ
- เราต้องซื้อดักก่อนหุ้นจะขึ้น นั้นแปลว่าเราจะต้องหาว่าหุ้นตัวไหนจะดีในอนาคต(แต่ราคายังไม่ได้ขึ้นหากมันดีอย่างที่คิด) ดังนั้นจำเป็นต้องมีเครื่องมือ และต้องมีความรู้ เราต้องศึกษาและศึกษา การจะรู้อนาคตได้ต้องเจาะงบการเงิน การจะอ่านงบและวิเคราะห์กิจการได้ต้องเข้าใจธุรกิจ การเข้าใจพวกนี้ต้องอ่าน annual report, f56-1
อ่านหนังสือด้านการลงทุนมากมาย อ่านความเห็นของเพื่อนในthaivi ที่สำคัญแยกให้ออกว่าความเห็นไหนใช่ความเห็นไหนไม่ใช่ เราต้องทุ่มเท ไม่ใช่แค่อ่านวันละ 1-2 ชม. แต่การเริ่มต้นจำเป็นต้องอ่านแบบ warrenทำ สำหรับผมแล้วแนะนำว่ามีเวลาก็ต้องอ่าน นี่คือช่วงที่ต้องเริ่มต้นของชีวิตการเป็นนักลงทุน พอลงทุนเป็นแล้วอ่านวันละนิดหน่อยก็พอได้เพราะหลักการมันก็เป็นของที่ตรงไปตรงมาเหมือนๆเดิม และติดตามผลประกอบการหุ้นที่เราถือหรือสนใจซึ่งจะเหลือไม่มากนัก แต่สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงตรงนี้เราต้องศึกษาไปตลอดชีวิตการลงทุน
- สำหรับผมอ่านหนังสือ warren และ peter Lynch เป็นหลัก และมีเล่มอื่นๆที่ดีหลายเล่ม และผมก็จะดูผลประกอบการย้อนหลังที่เป็นกราฟ รายได้ กำไร npm หลายปี(15 - 20 ปียิ่งดี) เพื่อดูว่าในอุตสหกรรมเดืยวกันใครดีกว่ากัน และแต่ละอุตสาหรรมมี npm ต่างกันอย่างไร พวกวัฎจักรมันขึ้นลงแบบไหน หรือหุ้นบางตัวทำไมเติบโตได้นาน อะไรพวกนี้กราฟผลประกอบการบอกได้ดีเลย การดูกราฟผมจึงได้ตัดหุ้นรับเหมาออกจากการติดตามเพราะเสียเวลากับการลงทุนหุ้นพวกนี้ รวมถึงหุ้นบางกลุ่มเราก็จเห็นว่าเดียวดีเดียวร้ายอย่างไปเล่นกับมันเลย
- ผมมีทักษะด้านคอมพิวเตอร์ดี(ก็ศึกษาเองนะครับไม่ได้จบด้านนี้มา) ทำให้ผมทำอะไรกับข้อมูลได้เอง ดังนั้นเรียนรู้พวก excel หรือ programming ไว้ก็ดีหากทำได้ หรือทำไม่ได้ก็ต้องไปหามาครับ หรือจะใช้อุปกรณ์อื่นที่ตัวเองคิดว่าดีก็ได้
- การซื้อดักก่อนหุ้นจะขึ้น เป็นเรื่องที่ใครก็อยากได้นะครับ แต่มันต้องอาศัยความชำนาญ ใช้เวลาในการเข้าใจมัน
- การซื้อหุ้นด้วยมูลค่าที่เหมาะสม อันนี้ต้องประเมินให้ได้ว่าหุ้นที่เราซื้อมีผลตอบแทนเหมาะสมกับที่เราจ่ายไปหรือไม่ เพราะแต่ละคนไม่ได้มีความคาดหวังผลตอบแทนเท่ากัน เช่น ถ้าผมต้องการผลตอบแทน 4-5% ต่อปีและคิดว่าผมเองไม่ต้องการศึกษามากและตอนนี้ผมอาจจะเลือก NTV แต่ถ้าผมต้องการมากกว่านี้ 10% ผมอาจจะต้องเหนื่อยมากเพราะ SET ของเราก็มีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนที่ต่ำกลยุทธที่ใช้อาจจะเป็นการ รอเพื่อหาจังหวะซื้อครับ บางทีอ่านจนเหนื่อยก็หาหุ้นที่ปลอยภัยให้ผลตอบแทน 10% ในระยะยาวไม่ได้เพราะเศรฐกิจประเทศไม่ได้เป็นใจ
- ไม่จำเป็นนะครับที่จะกำไรทุกครั้งไป หุ้น 10 ตัวมีกำไร 7 ก็เยอะแล้วครับ
- คาดหวังผลตอบแทนที่เหมาะสมกับประเทศที่เราลงทุน อย่างไทยผมก็คาดหวัง 7-8% ต่อปีครับ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อน10ปีที่แล้วก็ 18% ต่อปีโดยเฉลี่ยส่วนจะทำได้จริงเท่าไหร่ก็อีกเรื่อง
- ถ้าไม่มีจังหวะซื้ออยู่เฉยๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้น 100% ตลอดเวลา ผมถือเงินสด 30% ตลอดเวลาพอร์ตก็ยังให้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนหนึ่งคือมองบ่อยๆว่าหุ้นแพง อีกส่วนคือไม่อยากพลาดแล้วกลับไปจนจึงถือเงินสดไว้นาน และผมไม่เคยใช้ margin ทำให้พอร์ตโตแบบธรรมดาช้าๆ
- อย่าคาดหวังที่จะเพิ่งพาการวิเคราะห์หุ้นจากคนอื่นไม่ว่าจากที่ไหน เพราะเราเองไม่รู้เลยว่าเขาผิดหรือถูก ข้อมูลที่ได้มาต้องคิดเองทั้งหมดก่อนลงทุน เสียดายดีกว่าเสียใจ
- หาโอกาสในต่างประเทศ เวียดนามผมก็ไปลงทุนแต่ซื้อกองทุนเช่น E1V... ในกระดานไทย และ VOF ที่่มีส่วนลด 20% ในตลาดลอนดอน และก็ลงใน HK ซึ่งมีราคาหุ้น value อยู่ที่นั้นและมี growth เช่นกัน แต่ในต่างประเทศมันยากกว่าไทยมาก ดังนั้นถ้าไม่มั่นใจว่าเอาตัวรอดได้ซื้อกองทุน
- มันคงมีแง่มุมอีกมากครับ และอย่าเน้นว่าทุกคนที่สำเร็จมักจะเจ็บเป็นพักๆ ไม่ได้ราบลื่นตลอดเวลา เราต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเสมอ ต้องมีสติว่าเรากำลังหลงกับผลกำไรงามๆจนจุดตรงนี้เป็นกับดักให้เราเริ่มหาหุ้นที่มันนอกกรอบความรู้ของเราเพราะเราคิดว่าเราเก่ง ต้องหยุดตัวเองที่จุดที่เรามั่นใจสุดขีดให้ได้ เราจะมีกำไรตรงที่เราและตลาดขาดความมั่นใจแต่เหตุผลที่จะลงทุนมันชัดเจน
เอาเท่านี้ครับ เขียนแบบสดๆ ขาดตกตรงไหนก็ขออภัยด้วยครับ
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
- ช่างลงทุน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณนะครับเป็นบทความอันทรงคุณค่ามากครับ.....(ตอนนี่ผมถือเงินสดใว้อ่ะครับพรอตว่าง รอวิกิตคร้งใหญ่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกไมก็ไม่รู้เลยเตรียมตัวอ่านหนังสือรอไปก่อนครับ) ขอบคุณพี่ๆมากนะครับที่มาเขียนแชร์ประสบการการลงทุน (ใน หัวข้อ ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน) ^^
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 8
เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2542
ผมได้งานประจำในต่างจังหวัด
พื้นที่ที่กำลังใกล้จะเจริญ
ความเป็นอยู่ก็ไหลไปตามสถาพ
คือเช่าห้องลักษณะแคมป์คนงาน
ถีบจักรยานตลุยถนนลูกรังไปทำงาน
วันละหลายกิโลฯ
ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่เกือบสิบปี
พี่ที่ทำงานมาเห็นสภาพผม
เคยบอกว่า ถ้าเป็นเขา เขาคงอยู่ไม่ได้
มาวันนี้ผมพบว่าช่วงเวลาที่ยากลำบาก
กลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวเอง
และสะสมความรู้
ในทุกวันผมจะติดหนังสือใส่เป้ติดตัวไปตลอด
ได้รู้จัก...
อ.นิเวศน์, เบน เกรแฮม, วอร์เรน บัฟเฟต, ฟิลลิป ฟิชเชอร์, ปีเตอร์ ลินช์, จอร์น เนฟ, แอนโทนี โบลตัน ผ่านตัวหนังสือก็ช่วงเวลานี้นี่แหละ
แม้เงินต้นผมจะเคยริบหรี่
แต่ชีวิตการลงทุนของผมได้ไปต่อ เพราะมีความรู้เป็นเชื้อไฟครับ
ผมได้งานประจำในต่างจังหวัด
พื้นที่ที่กำลังใกล้จะเจริญ
ความเป็นอยู่ก็ไหลไปตามสถาพ
คือเช่าห้องลักษณะแคมป์คนงาน
ถีบจักรยานตลุยถนนลูกรังไปทำงาน
วันละหลายกิโลฯ
ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่เกือบสิบปี
พี่ที่ทำงานมาเห็นสภาพผม
เคยบอกว่า ถ้าเป็นเขา เขาคงอยู่ไม่ได้
มาวันนี้ผมพบว่าช่วงเวลาที่ยากลำบาก
กลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวเอง
และสะสมความรู้
ในทุกวันผมจะติดหนังสือใส่เป้ติดตัวไปตลอด
ได้รู้จัก...
อ.นิเวศน์, เบน เกรแฮม, วอร์เรน บัฟเฟต, ฟิลลิป ฟิชเชอร์, ปีเตอร์ ลินช์, จอร์น เนฟ, แอนโทนี โบลตัน ผ่านตัวหนังสือก็ช่วงเวลานี้นี่แหละ
แม้เงินต้นผมจะเคยริบหรี่
แต่ชีวิตการลงทุนของผมได้ไปต่อ เพราะมีความรู้เป็นเชื้อไฟครับ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 10
ท่านถามเรื่องประสบ"ความสำเร็จในการลงทุน"
แต่ละคนนิยามความสำเร็จไม่เหมือนกันนะฮะ
ของผมคือ"มีเงินจากปันผลใช้เป็นบำนาญ"(ลาออกจากราชการมานาน)
แผนผมคือ มีหุ้น12ตัว(มากกว่า น้อยกว่าแล้วแต่ช่วง)ไว้กินปันผลตัวละเดือน
เลือกหุ้นมา12ตัว เอาที่ถือยาวเป็นสิบๆปีใด้โดยไม่โดนดิสรัปหรือแพ้ภัยตัวเองเจ๊งไปก่อน
ลอกแนวคิดอ.นิเวศน์มาเลยฮะ เอาแบบซุปเปอร์สตอคในแต่ละsection
เช่น รพ.ก็เอาเครือใหญ่สุด ค้าปลีกก็เอาโชห่วยใหญ่สุด โรงแรมก็เลือกตัวใหญ่สุด เลือกตัวที่ทิ้งห่างเบอร์สองไปเยอะๆ ชนะขาดไปเลย
แล้วก็ซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ทีละร้อยหุ้น พันหุ้นแบบสไตลฺรายย่อย เงินเดือนออกก็สะสมไป
ตัวไหนขาดทุนก็ถัวไป ถือว่าdcaแล้วใด้หุ้นถูกกว่าเดิมละกัน
ทำแบบนี้มาสิบกว่าปี ช่วงแรกเป็นแบบอ.ลูกอิสานว่าเลย เหมือนไม่ใด้อะไร
ป้อแป้ ปริ๊ดปรี้ปริ๊ดเหมือนซอยเท้าอยู่กับที่
จนตอนหลังถึงขึ้นs curve จนใด้200เท่าของ"บำนาญต่อเดือนที่ต้องการ"ล่ะฮะ
ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ
ทีนี้ ถ้าจะคิดแบบinvert คือลงทุนอย่างไรไม่ประสบความสำเร็จ (จะใด้ไม่ไปตายที่นั่น)
1. ให้เพือ่นลงทุนให้ ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เพื่อนเค้าใส่FIN1หมดแม็กให้ผมเลย
(ผมเลยหมดตูดไปสิบกว่าปี กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งตอนสับพราม)
2. ซื้อกองทุน ผมมีLTF RMF เพื่อหักภาษี
แต่ดูเหมือนจะไม่ไปไหนเลย อาจเป็นเพราะค่าบริหารค่าธรรมเนียม กินหมด
ถ้ามีindex fund ค่าบริหารสัก0.0X%แบบแวนการ์ดอาจจะลองดูฮะ
3. รอtiming โดยยังไม่ใด้ออกเดินทาง ผมเคยพลาดที่ยังไม่ลงทุน
ครั้งแรกคือช่วงต้มยำกุ้ง ไปinvestor day ฟังอ.นิเวศน์พูดตั้งแต่ยังไม่ออกหนังสือตีแตก ตามอ่านหนังสืออ.ทุกเล่มจนผอร์ทอ.ไปหลายพันล้าน
จนเริ่มมาใด้เริ่มก้าวแรกกับอ.ลูกอิสานสมัยอ.ยังไม่เป็นนายกสมาคมโน่นล่ะฮะ
ครั้งสองคือ รอหุ้นตกตั้งแต่วิกฤติกรีซ ปฎิวัติ ดอกเบี้ยขึ้น ฯลฯ บางทีก็ไม่ตกซะที
ครั้งนี้วิกฤติที่กำลังจะมา(ถ้ามี) ก็คงจะไม่พลาดอะไรอีกแล้วฮะ
แต่ละคนนิยามความสำเร็จไม่เหมือนกันนะฮะ
ของผมคือ"มีเงินจากปันผลใช้เป็นบำนาญ"(ลาออกจากราชการมานาน)
แผนผมคือ มีหุ้น12ตัว(มากกว่า น้อยกว่าแล้วแต่ช่วง)ไว้กินปันผลตัวละเดือน
เลือกหุ้นมา12ตัว เอาที่ถือยาวเป็นสิบๆปีใด้โดยไม่โดนดิสรัปหรือแพ้ภัยตัวเองเจ๊งไปก่อน
ลอกแนวคิดอ.นิเวศน์มาเลยฮะ เอาแบบซุปเปอร์สตอคในแต่ละsection
เช่น รพ.ก็เอาเครือใหญ่สุด ค้าปลีกก็เอาโชห่วยใหญ่สุด โรงแรมก็เลือกตัวใหญ่สุด เลือกตัวที่ทิ้งห่างเบอร์สองไปเยอะๆ ชนะขาดไปเลย
แล้วก็ซื้อสะสมไปเรื่อยๆ ทีละร้อยหุ้น พันหุ้นแบบสไตลฺรายย่อย เงินเดือนออกก็สะสมไป
ตัวไหนขาดทุนก็ถัวไป ถือว่าdcaแล้วใด้หุ้นถูกกว่าเดิมละกัน
ทำแบบนี้มาสิบกว่าปี ช่วงแรกเป็นแบบอ.ลูกอิสานว่าเลย เหมือนไม่ใด้อะไร
ป้อแป้ ปริ๊ดปรี้ปริ๊ดเหมือนซอยเท้าอยู่กับที่
จนตอนหลังถึงขึ้นs curve จนใด้200เท่าของ"บำนาญต่อเดือนที่ต้องการ"ล่ะฮะ
ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ
ทีนี้ ถ้าจะคิดแบบinvert คือลงทุนอย่างไรไม่ประสบความสำเร็จ (จะใด้ไม่ไปตายที่นั่น)
1. ให้เพือ่นลงทุนให้ ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เพื่อนเค้าใส่FIN1หมดแม็กให้ผมเลย
(ผมเลยหมดตูดไปสิบกว่าปี กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งตอนสับพราม)
2. ซื้อกองทุน ผมมีLTF RMF เพื่อหักภาษี
แต่ดูเหมือนจะไม่ไปไหนเลย อาจเป็นเพราะค่าบริหารค่าธรรมเนียม กินหมด
ถ้ามีindex fund ค่าบริหารสัก0.0X%แบบแวนการ์ดอาจจะลองดูฮะ
3. รอtiming โดยยังไม่ใด้ออกเดินทาง ผมเคยพลาดที่ยังไม่ลงทุน
ครั้งแรกคือช่วงต้มยำกุ้ง ไปinvestor day ฟังอ.นิเวศน์พูดตั้งแต่ยังไม่ออกหนังสือตีแตก ตามอ่านหนังสืออ.ทุกเล่มจนผอร์ทอ.ไปหลายพันล้าน
จนเริ่มมาใด้เริ่มก้าวแรกกับอ.ลูกอิสานสมัยอ.ยังไม่เป็นนายกสมาคมโน่นล่ะฮะ
ครั้งสองคือ รอหุ้นตกตั้งแต่วิกฤติกรีซ ปฎิวัติ ดอกเบี้ยขึ้น ฯลฯ บางทีก็ไม่ตกซะที
ครั้งนี้วิกฤติที่กำลังจะมา(ถ้ามี) ก็คงจะไม่พลาดอะไรอีกแล้วฮะ
samatah
- XO
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 11
มีคนโพสงามๆ ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีมากไว้ให้แล้ว ซึ่งน่าจะดีกว่าถ้าผมจะเขียนเอามากๆ
ผมขออณุญาตย่อยให้ในแบบของผมแล้วกันนะคับ
แนะนำว่า อันดับแรก ลองจริงจังดูก่อน ก่อนจะตัดสินว่า เราไม่ได้เป็นคนพิเศษส่วนน้อยที่อยู่รอดในตลอดนี้ได้ด้วยตัวเอง
ซึ่งตรงนี้ โพสต์ที่ 6 ของคุณ WJ เป็นอะไรที่ละเอียดดีครับ
ถ้าลองจริงจังกะมันมาสักระยะแล้ว คิดว่าเราไม่ใช่คนเหล่านั้นจริงๆ แผนสำรองคือโพสต์ที่ 3 ของคุณ DRSP ครับ การ DCA แบบออมหุ้นระยะยาว เป็นอะไรที่ง่าย และได้ผลดีพอสมควร ถ้าระยะเวลานานมากพอ แต่ที่สำคัญคือ อายุเริ่มต้น เราต้องไม่แก่จนเกินไป และมีวินัยระดับนึง ครับ
https://www.youtube.com/clip/Ugkx4Rtl8Q ... Rsb0asayKk
ผมขออณุญาตย่อยให้ในแบบของผมแล้วกันนะคับ
แนะนำว่า อันดับแรก ลองจริงจังดูก่อน ก่อนจะตัดสินว่า เราไม่ได้เป็นคนพิเศษส่วนน้อยที่อยู่รอดในตลอดนี้ได้ด้วยตัวเอง
ซึ่งตรงนี้ โพสต์ที่ 6 ของคุณ WJ เป็นอะไรที่ละเอียดดีครับ
ถ้าลองจริงจังกะมันมาสักระยะแล้ว คิดว่าเราไม่ใช่คนเหล่านั้นจริงๆ แผนสำรองคือโพสต์ที่ 3 ของคุณ DRSP ครับ การ DCA แบบออมหุ้นระยะยาว เป็นอะไรที่ง่าย และได้ผลดีพอสมควร ถ้าระยะเวลานานมากพอ แต่ที่สำคัญคือ อายุเริ่มต้น เราต้องไม่แก่จนเกินไป และมีวินัยระดับนึง ครับ
https://www.youtube.com/clip/Ugkx4Rtl8Q ... Rsb0asayKk
อย่าพยายามเข้าใจ จงใช้ความรู้สึก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 710
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 12
ผมพอจะเข้าใจคุณนะ
เกมทุกเกมมีวิธีเล่นของมัน
หุ้นก็เป็นเกม และเกมนี้มันก็มีวิธีเล่นของมัน คนที่เข้าใจพลวัตของมันจะรู้
คนที่จะทำกำไรได้มันก็มีหลายปัจจัย
แต่ถ้าพูดถึงสิ่งนึงที่ทำให้ไม่กำไรคือ การมองกระจกหลัง
คนที่เข้าใจเกม จะมองกระจกหน้า
เกมทุกเกมมีวิธีเล่นของมัน
หุ้นก็เป็นเกม และเกมนี้มันก็มีวิธีเล่นของมัน คนที่เข้าใจพลวัตของมันจะรู้
คนที่จะทำกำไรได้มันก็มีหลายปัจจัย
แต่ถ้าพูดถึงสิ่งนึงที่ทำให้ไม่กำไรคือ การมองกระจกหลัง
คนที่เข้าใจเกม จะมองกระจกหน้า
"Failure is the only way to start again intelligently"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 13
ลองจดบันทึกการลงทุนของตัวเองมั้ยครับ
เช่น
เราเริ่มต้นเลือกหุ้นที่สนใจอย่างไร
ประเด็นที่มองเห็นในหุ้นตัวนั้นแล้วตลาดยังไม่รับรู้คืออะไร
ตอนซื้อเราหวังว่าจะโตเท่าไหร่ นานต่อเนื่องแค่ไหน
ราคาที่เหมาะสมในอนาคตจากการเติบโตที่ว่า น่าจะเป็นเท่าไหร่ มีmosแค่ไหน
ความแน่นอนของสิ่งที่จะเกิดมากน้อยแค่ไหน (บริษัทดีกว่าคู่แข่งอย่างไร)
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามคาด
ก่อนซื้อ ลองจด หัวข้อหลักๆ ประมาณนี้ไว้ก่อน
พองบออก เราเทียบ สิ่งที่เราคาด vs สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ว่าเป็นอย่างไร
เรา มองอะไรถูก และ มองอะไรผิดตรงไหนไป สังเกตดู ครับ
ส่วนไหนที่ผิด เป็นเพราะอะไร เราจะปิดจุดอ่อนตรงนั้น เราต้องหาความรู้เสริมเรื่องอะไร ค่อยๆ ไล่ๆ เรียนรู้เรื่องนั้นๆไป
จากนั้นๆ ค่อยๆ จับแนวทางของตัวเองที่ทำแล้ว work
เขียนออกมาเป็นขั้นเป็นตอน การเลือกหุ้นลงทุนของเราดูครับ
เสร็จแล้ว ก็ทำวนไปเรื่อยๆ ทุกๆตัว ทุกๆครั้ง ที่ซื้อหุ้นในแต่ละตัว
นานๆไป เดี๋ยวเก่งเองครับ
เป็นกำลังใจให้ฮะ
เช่น
เราเริ่มต้นเลือกหุ้นที่สนใจอย่างไร
ประเด็นที่มองเห็นในหุ้นตัวนั้นแล้วตลาดยังไม่รับรู้คืออะไร
ตอนซื้อเราหวังว่าจะโตเท่าไหร่ นานต่อเนื่องแค่ไหน
ราคาที่เหมาะสมในอนาคตจากการเติบโตที่ว่า น่าจะเป็นเท่าไหร่ มีmosแค่ไหน
ความแน่นอนของสิ่งที่จะเกิดมากน้อยแค่ไหน (บริษัทดีกว่าคู่แข่งอย่างไร)
อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามคาด
ก่อนซื้อ ลองจด หัวข้อหลักๆ ประมาณนี้ไว้ก่อน
พองบออก เราเทียบ สิ่งที่เราคาด vs สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ว่าเป็นอย่างไร
เรา มองอะไรถูก และ มองอะไรผิดตรงไหนไป สังเกตดู ครับ
ส่วนไหนที่ผิด เป็นเพราะอะไร เราจะปิดจุดอ่อนตรงนั้น เราต้องหาความรู้เสริมเรื่องอะไร ค่อยๆ ไล่ๆ เรียนรู้เรื่องนั้นๆไป
จากนั้นๆ ค่อยๆ จับแนวทางของตัวเองที่ทำแล้ว work
เขียนออกมาเป็นขั้นเป็นตอน การเลือกหุ้นลงทุนของเราดูครับ
เสร็จแล้ว ก็ทำวนไปเรื่อยๆ ทุกๆตัว ทุกๆครั้ง ที่ซื้อหุ้นในแต่ละตัว
นานๆไป เดี๋ยวเก่งเองครับ
เป็นกำลังใจให้ฮะ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 14
ไม่มีอะไรมากครับ ผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน 1 แสนบาทใน gold future เหลือ 4,000 บาท ใน 3 เดือน นอนไม่หลับ 2 วันติด กลับมานั่งคิดเราต้องการมาเก็บออมให้เงินงอกเงยไม่ใช่มาเล่นการพนันเพราะฉะนั้นเลิก หาข้อมูลในเน็ตเจอเวป tvi ช่วงปี 2011 ใครแนะนำหนังสืออะไรดีหาซื้อมาหมดอ่านแหลกครับมีหนังสือติดตัวในกระเป๋าตลอดเวลา 2 ปี อ่านมันทุกวัน ขี้ก็อ่าน ก่อนนอนก็อ่าน ทุกเล่มอ่านมาไม่น้อยกว่า 3 รอบ มาฟัง money talk 2012-2013 ตลอด 2 ปี จดลูกเดียว ทำอะไรโง่ๆ หรือไม่รู้ PM ไปถามพี่ๆ รุ่นใหญ่ที่เขาสำเร็จแล้วเขาก็สอนเราขอบคุณมากเลย ใจต้องสู้ครับ คนอื่นเขาทำมากกว่าผมอีก เริ่มเปิดพอร์ท 40,000 บาท ลงทุนไม่เก่งก็ออมเงินมาเติมเข้าไป ความรู้เรายังน้อยตามประสบการณ์ วันหนึ่งเราทำไปเรื่อยๆ มันจะมาเอง ลุย
- ช่างลงทุน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 20
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 15
ขอบคุณพี่ๆมากนะครับตอนนี้ผมได้สมัครห้องสมุดมารวยแบบออนไลน์
สมัครสมาชิกด้วยแบบรายปี
ซึ่งทำให้ผมให้อ่านอีบุ๊คการลงทุนและบุคคลสำคัญระดับโลกและหนังซื้อเป็นจำนวนมากและสามารถอ่านได้ทุกที่ไม่ว่าจะที่ทำงานไปเที่ยวทุกทีบนโลกนี้ อ่านได้หมดขอบคุณนะครับที่มาแนะนำการลงทุนของแต่ละท่านเป็นประโยชน์กับผมและนักลงทุนอื่นๆอีกมากเลยครับหนังสือที่ผมซื้อเกี่ยวกับการลงทุนเกือบ 50 เล่มผมจะเก็บรักษาไว้อย่างดี
ขอบคุณมากครับ
ช่างไฟฟ้าลงทุน
สมัครสมาชิกด้วยแบบรายปี
ซึ่งทำให้ผมให้อ่านอีบุ๊คการลงทุนและบุคคลสำคัญระดับโลกและหนังซื้อเป็นจำนวนมากและสามารถอ่านได้ทุกที่ไม่ว่าจะที่ทำงานไปเที่ยวทุกทีบนโลกนี้ อ่านได้หมดขอบคุณนะครับที่มาแนะนำการลงทุนของแต่ละท่านเป็นประโยชน์กับผมและนักลงทุนอื่นๆอีกมากเลยครับหนังสือที่ผมซื้อเกี่ยวกับการลงทุนเกือบ 50 เล่มผมจะเก็บรักษาไว้อย่างดี
ขอบคุณมากครับ
ช่างไฟฟ้าลงทุน
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 422
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 20
คุณผ่านการศึกษาหมื่นชั่วโมง (อ่าน, ดู, ฟัง) หรือยังครับ ผมหมายถึงด้านพื้นฐานนะครับ technical ไม่เกี่ยว ถ้าผ่านแล้วและคุณยังลงทุนอยู่หมายถึงคุณมีความสามารถอยู่ในตลาดได้ และถ้าคุณศึกษาไปเรื่อยๆอย่างมีวินัย วันที่จะประสบความสำเร็จของคุณก็ใกล้เข้ามาแล้วครับ ความรู้และประสบการณ์จะหล่อหลอมเป็นสไตล์การลงทุนของคุณเอง
5 ปี = 1825 วัน ถ้าคุณให้เวลากับมันวันละ 5-6 ชั่วโมง ผมว่าเวลาของคุณก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เป็นกำลังใจให้นะครับ
5 ปี = 1825 วัน ถ้าคุณให้เวลากับมันวันละ 5-6 ชั่วโมง ผมว่าเวลาของคุณก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เป็นกำลังใจให้นะครับ
Being an intelligent investor is more a matter of "character" than "brain"....Benjamin Graham
-
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 21
12 เดือนที่ผ่านมา ผมน่าจะขาดทุนราว 20-30% ก็เฉยๆ จ่ายค่าประสบการณ์
มันอยู่ที่ว่าเราแพ้เราได้อะไร สำคัญกว่าตอนเราชนะโดยไม่รู้ทำไมซะด้วยซ้ำ
ออกตัวเอี้ยดๆเลยนะว่าผมอายุไม่น้อย เกิดมาไม่มีอะไรเลย(แม่บอกตอนคลอดตัวปล่าวจริงๆไม่มีทองติดมาซักเส้น)
ทำงานประจำ กับ ลงทุนผ่านกองทุนเกษียน ซึ่งขาดทุนสนุกสนานเลยมาลงทุนเองบางส่วน
ผ่านมา 10กว่าปี ยังไม่เป็นอิสระด้านการเงิน คือถ้าเลิกงานประจำ ยังไม่เพียงพอที่จะอยู่อย่าสมถะ
ดังนั้นสู้ต่อไป อย่าคิดมาก ชีวิตต้องล้มสองร้อยครั้ง เป็นวิญญานเมื่อไหร่ค่อยท้อครับผม
มันอยู่ที่ว่าเราแพ้เราได้อะไร สำคัญกว่าตอนเราชนะโดยไม่รู้ทำไมซะด้วยซ้ำ
ออกตัวเอี้ยดๆเลยนะว่าผมอายุไม่น้อย เกิดมาไม่มีอะไรเลย(แม่บอกตอนคลอดตัวปล่าวจริงๆไม่มีทองติดมาซักเส้น)
ทำงานประจำ กับ ลงทุนผ่านกองทุนเกษียน ซึ่งขาดทุนสนุกสนานเลยมาลงทุนเองบางส่วน
ผ่านมา 10กว่าปี ยังไม่เป็นอิสระด้านการเงิน คือถ้าเลิกงานประจำ ยังไม่เพียงพอที่จะอยู่อย่าสมถะ
ดังนั้นสู้ต่อไป อย่าคิดมาก ชีวิตต้องล้มสองร้อยครั้ง เป็นวิญญานเมื่อไหร่ค่อยท้อครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 22
รับทราบ
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 23
รับทราบ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1852
- ผู้ติดตาม: 8
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 28
รับทราบครับ
ขอแสดงความนับถือ
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1852
- ผู้ติดตาม: 8
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 29
รับทราบ2
ขอแสดงความนับถือ
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1852
- ผู้ติดตาม: 8
Re: ลงทุนมา 5 ปี แต่พรอตขาดทุน
โพสต์ที่ 30
รับทราบ3
ขอแสดงความนับถือ
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)