โพสต์
เหตุใดคุณจึงประสบความสำเร็จ? มีวิธีการและกระบวนการอย่างไร? ชีวิตประจำวันคุณทำอะไรบ้าง? คุณผ่านอะไรมาบ้าง? คุณมีความคิดเห็นต่อเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร?
เราทุกคนต่างอยากรู้เพื่อที่จะได้ลอกเลียนแบบ ปฏิบัติตาม และคาดหวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะประสบความสำเร็จในเส้นทางเดียวกันนี้ เฝ้ารอวันที่แสงไฟบางดวงจะสาดส่องอาบไล้มายังตัวคุณ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆเขาก็ทำกัน และตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในคนทั่วไปเหล่านั้น
..........................
เมื่อนักลงทุนผู้มั่งคั่งจำเป็นต้องตอบคำถามเหล่านี้ คำตอบของพวกเขามักเรียบง่าย สั้นกระชับ และชัดเจน นั่นอาจเป็นเพราะการตกผลึกทางความคิด ทัศนคติ หลักการ และการบ่มเพาะวิถีชีวิตผ่านประสบการณ์อันยาวนานในเส้นทางดังกล่าว มันทำให้คุณเข้าใจแก่นสารสาระสำคัญได้อย่างง่ายดาย และช่วยย่นย่อกระบวนการเรียนรู้ของคุณให้จดจ่อไปยังสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อกระบวนการเดินทางไปสู่ความสำเร็จ
“คุณเข้าใจ แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ” แน่นอนว่ามันคงต้องใช้เวลา และอะไรบางอย่างที่นักลงทุนผู้มั่งคั่งเหล่านั้นไม่สามารถมอบให้คุณได้ผ่านคำพูดเพียงไม่กี่ประโยค
ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนเคยผ่านประสบการณ์ที่เรียกว่า “Flow State หรือสภาวะลื่นไหล” ซึ่งแน่นอนว่าสภาวะเช่นนี้เราต้องพยายามผลักดันและสร้างองค์ประกอบของสภาพแวดล้อมต่างๆขึ้นมาด้วยตนเอง คงไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างกระจ่างชัดนัก สภาวะลื่นไหลอาจเป็นส่วนผสมสำคัญประการหนึ่งในความสำเร็จของนักลงทุนผู้มั่งคั่ง ไม่ว่าพวกเขาหรือคุณจะเรียกสภาวการณ์เช่นนี้ว่าอะไรก็ตาม มันคงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถถ่ายทอดระหว่างกันได้ และอาจเป็นขั้นตอนสำคัญแห่งการตกผลึกทางความคิดบางอย่าง
“Flow State : สภาวะลื่นไหล” ถูกนำเสนอครั้งแรกในแวดวงวิชาการโดย “มิฮาลี ชิคเซนมิฮาย (Mihály Csíkszentmihályi)” นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน-ฮังกาเรียน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 ชิคเซนมิฮายสรุปเอาไว้ว่า “สภาวะลื่นไหลระหว่างการจดจ่ออยู่กับบางสิ่ง” มักเกิดขึ้นเมื่อเรามีเป้าหมายและกระบวนการลงมือทำสิ่งๆนั้นที่ชัดเจน ยึดมั่นอยู่กับหลักการบางอย่างที่ช่วยให้มีความมั่นคงทางความคิด และสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป หากนำมาเปรียบเทียบกับการเป็นนักลงทุนในหุ้น เราอาจสร้างสภาวะลื่นไหลดังกล่าวขึ้นมาได้ก็ต่อเมื่อ “เรายึดมั่นในหลักการลงทุนแขนงใดแขนงหนึ่งมากพอ มีความรู้ความเข้าใจอย่างทะลุปุโปร่ง จนสามารถกำหนดเป้าหมายและวิธีการเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างชัดเจนด้วยตนเอง”
.........................
ทฤษฎี “Flow State : สภาวะลื่นไหล” ถูกรื้อและจัดระเบียบใหม่อีกครั้งโดย “โอเว่น ชาฟเฟอร์ (Owen Schaffer)” ในปี ค.ศ.2013 เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ กลั่นกรองออกมาเป็นเงื่อนไข 7 ข้อที่จำเป็นต้องมี ซึ่งควบคุมหรือออกแบบสถานการณ์ได้ หากคุณต้องการนำตนเองเข้าสู่สภาวะลื่นไหลในการทำงาน หรือการจดจ่ออยู่กับบางสิ่งให้มากพอเสียจนสามารถสร้างความแตกต่างของผลลัพธ์อันเหนือค่าเฉลี่ย
Knowing what to do : “คุณต้องรู้ว่ากำลังทำอะไร”Knowing how to do it : “คุณต้องรู้ว่าจะทำอย่างไร”Knowing how well you are doing : “ต้องมีการวัดผลได้ว่า แบบไหนถึงเรียกว่าคุณทำมันได้ดี”Knowing where to go : “คุณต้องรู้ว่ากำลังเดินทางไปที่ไหน เป้าหมายของคุณคืออะไร”High perceived challenges : “สิ่งที่ทำอยู่ต้องมีความท้าทายมากพอที่จะทำให้คุณมีอารมณ์ร่วม”High perceived skills : “ความยากง่ายของสิ่งที่ทำ กับทักษะที่คุณมีต้องสมดุลกัน ทักษะต้องสูงเพียงพอ”Freedom from distractions : “ปราศจากสิ่งรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก”...............................
จะว่าไปแล้ว หากเป็นนักลงทุนในหุ้นที่ยึดมั่นแนวทางแบบเน้นคุณค่าคนหนึ่ง (Value investor) และสามารถกำหนดวิถีชีวิตของตนเองให้ก้าวผ่านเงื่อนไข 7 ประการ ไปสู่ “สภาวะลื่นไหลโดยสมบูรณ์” คุณอาจต้องพบเจอกับเหตุการณ์บางอย่าง
คุณอาจมีสมาธิจดจ่ออยู่กับกระบวนการลงทุน การพัฒนาความรู้ การทำการบ้านหุ้น การค้นหา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทที่คุณสนใจ จนละเลยสิ่งรอบตัวคุณอาจรู้สึกอิ่มเอมใจในกระบวนการเหล่านั้น โดยเฉพาะเมื่อมันนำพาให้คุณค้นพบการลงทุนดีๆ สักครั้งหนึ่งคุณอาจรู้สึกถึงความแจ่มชัดในเส้นทางการลงทุน หมายถึงคุณรู้อย่างกระจ่างชัดว่าคุณจะต้องทำอะไรต่อไป จากขั้นตอนหนึ่ง ไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่ง และต่อไปเรื่อยๆคุณอาจได้รับผลสะท้อนกลับทันที นั่นคือการค้นพบหุ้นที่ดี คุณชอบมัน แถมยังราคาถูก เข้าสมการการลงทุนซึ่งคุณยึดมั่นถือมั่น คุณรู้ว่าเมื่อค้นพบจนเจอและมั่นใจแล้ว คุณต้องทำอะไรเป็นขั้นตอนต่อไปคุณอาจรู้สึกถึงชัยชนะ ซึ่งเกิดจากความมุ่งมั่นเดินตามกระบวนการลงทุนต่างๆที่ดูยากและซับซ้อน แต่คุณก็ผ่านมันไปได้คุณอาจรู้สึกว่าวันเวลาได้มลายสลายหายไป คุณลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งตัวตนของคุณเองคุณอาจรู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ (อาจหมายถึงเป้าหมายการลงทุนของคุณ ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง) ทุกกระบวนการที่คุณมุ่งมั่นลงมือกระทำกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวมันเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใดๆมารองรับ............................
นักลงทุนผู้มั่งคั่งและประสบความสำเร็จมากมายซึ่งเรียกได้ว่าเป็นชนกลุ่มน้อย ผมเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนนำพาตนเองเข้าสู่ “Flow State : สภาวะลื่นไหล” อย่างสุดโต่ง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในเส้นทางการลงทุน สิ่งที่เราได้ฟังหรือได้อ่านความคิดเห็น แนวคิด หรือหลักการลงทุนบางอย่าง มันอาจเป็นเพียงปลายทางของความสำเร็จ “เป็นปากปล่องทางออกของสภาวะลื่นไหล ที่คุณเข้าใจได้ มันง่ายดาย แต่ไม่สามารถทำตามได้จริง” เหตุเพราะคุณจำเป็นต้องขวนขวายหาทางออกด้วยขาของตนเอง ซึ่งมีตัวแปรอีกมากมายระหว่างเส้นทางนั้น
.......
เมื่อคุณมีความสุขกับการทำบางสิ่ง กาลเวลามักก้าวเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ ความหลงใหลถึงขั้นหมกมุ่น มีสมาธิจดจ่ออยู่กับกระบวนการลงทุน เสมือนวิญญาณหลุดลอยไปยังโลกอีกใบหนึ่ง คุณรักและมีความสุขอยู่ในโลกแห่งการลงทุน ความเพลิดเพลิน ความท้าทาย จนหลงลืมวันเวลาและทุกสรรพสิ่งรอบกายเป็นระยะเวลายาวนาน มันแตกต่างจากการทำงานหนักตรงที่ความรู้สึก งานหนักแต่ง่ายดายนั้นอาจทำให้คุณเบื่อหน่าย เพราะมันทำให้คุณรู้สึกว่าควบคุมทุกอย่างได้ แต่ “Flow State” จะทำให้คุณดำดิ่งลึกลงไป ไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยยาก ความอ่อนล้า หรือแม้กระทั่งความหิวโหย
.............
สิ่งที่เรามักได้ยินหรือได้อ่านถ้อยความเห็นของนักลงทุนผู้มั่งคั่งมากมายอีกประเด็นหนึ่งก็คือ “การลงทุนไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่ควรทำให้การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” ชีวิตไม่ได้มีเพียงด้านเดียว อย่าหมกมุ่นเสียจนหลงลืมสิ่งสำคัญระหว่างทางที่อยู่รายล้อมรอบกายคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ครอบครัว และการแบ่งปัน เป้าหมายของชีวิตในด้านอื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะความร่ำรวยไม่ใช่จุดสูงสุดของชีวิต ผมคิดว่าความเห็นดังกล่าวนี้คือปลายทางของสภาวะลื่นไหลเช่นกัน คุณจะเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงก็ต่อเมื่อคุณได้ก้าวผ่านสภาวการณ์ลื่นไหลข้างต้นเช่นนั้นมาแล้ว
...................
สุดท้ายแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับตัวคุณที่จะออกแบบและสร้างสมดุลให้เกิดแก่ชีวิตด้วยตนเอง มนุษย์ล้วนแตกต่างหลากหลาย พื้นฐานคือการยอมรับและทำความเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายเหล่านั้น นี่อาจเป็นหนทางค้นพบความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน “ความหมายของการมีชีวิตอยู่? ความงดงามของชีวิตคืออะไร?” อาจเป็นคำถามที่มนุษย์ทั้งหลายไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนอย่างเราๆ พยายามตั้งคำถามและค้นหาคำตอบ ซึ่งอาจจะใช้เวลาค้นหาอย่างยาวนาน หรือจำเป็นต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในการตกผลึกเรื่องราวเหล่านี้ แต่ก็นั่นแหล่ะ สุดท้ายแล้ว คุณจำเป็นต้องนิยามความสุขและความงดงามของชีวิตด้วยตัวคุณเอง แต่เพียงผู้เดียว
.....................................................................................
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ
บันทึกไม่สำเร็จ