โพสต์
ครั้งนี้เป็นการจัดครบรอบ14ปี ถ้าคิดเป็นจำนวนครั้งในการจัดเป็นครั้งที่ 56แล้ว ถือว่าจัดมาต่อเนื่องยาวนาน
Adminก็มาร่วมงานมาประมาณ7ปีแล้ว ก็จะเจอนักลงทุนที่มีประสบการณ์มาร่วมแชร์ให้กับนักลงทุนหน้าใหม่
ซึ่งจะเห็นเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงหลังโควิด ถือว่ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ช่วงที่ผ่านมาก็เจอนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่มาเข้าร่วมตั้งแต่ปีแรกๆหลายคน ทุกคนน่ารักมากๆ ต้อนรับนักลงทุนจากกรุงเทพเป็นอย่างดี
ปีนี้ก็เห็นนักลงทุนหลายคนมาจากตะวันออก อีสาน เหนือ เรียกว่าครบทุกภาคเลย ส่วนจังหวัดอื่นในภาคใต้
อาจมากันน้อย เดาว่าปีนี้เจอตลาดปรับฐานก็เลยหายไปบ้าง อาจารย์โจปลอบใจพวกเรา เลยไม่เก็บค่าสัมมนาเลย
มาหาความรู้ฟรี แถมเลี้ยงข้าวกลางวันให้ด้วย นี่แหละ นักลงทุนวีไอจริง ไม่หวังผลประโยชน์จากงานสัมมนา
ปกติแต่ละครั้งที่จัดก็เก็บหลักร้อย แถมนำเงินที่เหลือ และสมทบอีกส่วนไปบริจาคการกุศลอีกครับ
นักลงทุนที่มาสัมมนาก็มีหลากหลายอาชีพ เหมือนกับสังคมไทยก็มีความหลากหลายเช่นกัน
สรุป ประเทศชาติต้องปกครองด้วยเสียงของคนส่วนใหญ่ หวังว่าจะได้รัฐบาลโดยเร็ววัน
ตอนนี้พรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับหนึ่งสนับสนุนSME ทำให้กระทบกับบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงต่างชาติขายมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้หุ้นตัวเล็กลงมาด้วย
ซึ่งส่วนใหญ่ถือโดยนักลงทุนรายย่อย
ถามว่านักลงทุนต้องทำอย่างไร อาจารย์ให้คำตอบว่า มีทางเลือให้เลือกดังนี้
1.ถ้าเราทนดูไม่ได้ ก็ปิดหน้าจอไป ใครทำงานประจำก็ทำต่อไป
2.แต่ถ้าใครที่มีเงินเหลือ ก็ซื้อหุ้นที่อยู่ในwatch list ที่ราคาลงมาถึงเป้าหมายแล้ว
3.Switchหุ้น จากหุ้นที่ลงน้อยไปหาหุ้นที่ลงเยอะและมีโอกาสขึ้นมาสูง(Upside gainสูง)
อาจารย์ให้ความเห็นว่าราคาหลายบริษัทเริ่มน่าสนใจแล้ว และปลอดภัย ถูกกว่าคนที่ซื้อก่อนหน้า
อาจารย์พูดเสมอว่า กำไรคือเจ้ามือตัวจริง
ตลาดลงมา9%กว่าๆ แต่หุ้นบางตัว ทำATH เพราะกำไรก็ATHเหมือนกัน
เคล็ดลับในการลงทุน
1.เลือกลงทุนในบริษัทที่มีกำไรโตเยอะๆ
2.ราคาตลาดไม่แพง อันนี้สำคัญมาก ซึ่งตอนนี้หลายตัวราคาลงมาเยอะ
3.ต้องใช้ฝีมือในการลงทุน ซึ่งเราต้องสะสมความรู้เพิ่มเติม จะได้เอามาใช้เลือกหุ้นด้วย
4.ถ้าเราประสบการณ์ลงทุนน้อย ก็หาบริษัทที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานได้ง่าย
คราวหน้าจะมาเขียนถึง การที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
บันทึกไม่สำเร็จ