ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ผมว่าแปลกดี  การเน้นขยายสาขา  ผมว่าก็ดี  
แต่ยังไม่ครบวงจร  การขายสินค้าบนเวป  และจัดส่ง
ให้ลูกค้าเพราะมีสาขาทั่วถึงอยู่แล้ว  จ่ายผ่านบัตรเครดิต
หรือบัตรเติมเงิน  อะไรสักอย่าง
แปลกนะคับ ทำไมเขาไม่ทำกัน

อย่างit  น่าทำที่สุดนะผมว่า
conan_kung
Verified User
โพสต์: 35
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 2

โพสต์

Se-ed ทำอยู่แล้วนิครับ ใช้ชื่อ eShop se-ed.com (www.se-ed.com/eshop/)
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ของ se-ed ผมซื้อผ่านเน็ตแล้วครับตอนนี้ ได้ลด 10% โดยไม่ต้องเป็นสมาชิก

แต่ว่าผมเลือกไปรับที่สาขา เพราะไม่เสียค่าส่ง

บางทีส่วนลดนี่ เอามาเป็นค่าส่งได้เลย บางคนก็มองว่าเป็นบริการส่งฟรีได้เหมือนกัน
tong78
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 161
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมก็ลองสั่ง se-ed e-shop แล้วครับ สะดวกรวดเร็วดีมาก จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ได้ ได้ส่วนลดอีก ยิ่งถ้าอยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีเล่มไหนวางจำหน่ายก็สั่งผ่าน e-shop ได้ แถมไปรับที่สาขาของ se-ed ก็ไม่เสียค่าขนส่ง (เพราะยังไงรถ se-ed ก็ต้องเข้าทุกวันอยู่แล้ว) ผมว่า se-ed ใช้ประโยชน์จากการมีสาขาจำนวนมากได้ดีทีเดียวครับ
New Analyst
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เท่าที่ผู้บริหารของ SE-ED เคยเล่าให้นักลงทุนฟังที่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ว่า ทิศทางของ SE-ED ที่ลงทุนไปทั้งหมดนี้ คือ  "ทำอย่างไรให้ทุกครั้งที่คนคิดอยากได้หนังสือเล่มใดก็ตาม   ให้นึกถึง SE-ED  แล้วจะได้ภายใน 1 วัน  ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนของประเทศก็ตาม"   เห็นยกตัวอย่างถึงขั้นว่าแม้แต่อยู่ในระดับตำบล หรือหมู่บ้าน   เพราะ SE-ED อาจจะไม่สามารถเปิดร้านหนังสือลงไปในระดับเล็กกว่าอำเภอได้  จึงต้องหาทางใหม่

ผมเข้าใจว่า SE-ED ได้เริ่มลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดให้รองรับทิศทางนี้  อย่างที่เคยให้ข่าวมาโดยตลอดเรื่องการปรับปรุงให้ทุกสาขา online กับสำนักงานใหญ่  การปรับปรุงระบบสารสนเทศ  การปรับปรุงศูนย์กระจายสินค้า  และการปรับปรุง se-ed.com  

อย่างที่หลายท่านได้ลองใช้ eShop ที่ www.se-ed.com  และรู้สึกว่าน่าพอใจ  เข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้  และน่าจะอยู่ในแค่โครงการทดลอง  เพราะถ้าพร้อมกว่านี้  คงจะมีการประชาสัมพันธ์ในวงกว้างกว่านี้ไปแล้ว  

ผู้บริหารของ SE-ED เคยให้ข้อมูลว่า ระบบของ SE-ED จะพัฒนาเสร็จหมดในสิ้นปีนี้ (หลังจากเลื่อนมา 2-3 ปี)  ดังนั้นในต้นปี 2550 ระบบของ SE-ED น่าจะลงตัว  และคงให้บริการที่หลากหลายได้เต็มที่ขึ้น  และแน่นอนคงใช้ประโยชน์จากการมีสาขาทั่วประเทศด้วย

ผมคิดว่าถ้าถึงตอนนั้น SE-ED คงมีอะไรน่าสนใจกว่าแค่เป็นร้านหนังสือธรรมดา

คงต้องคอยตามดูกันเอาเองว่า SE-ED จะทำได้ตามที่ประกาศทิศทางนี้ได้จริงหรือเปล่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่าการทำ website เพื่อรองรับ E-commerce ไม่ใช่เรื่องใหญ่

แต่ผมว่าการบริหารจัดการด้าน Logistics เป็นเรื่องสำคัญมาก

ผมว่าการส่งของ และ การกระจายสินค้าอย่างมืออาชีพ ในเมืองไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ระบบการส่งพัสดุต้องมีความน่าเชื่อถือสูง ตรวจสอบได้ บริษัทแบบ FEDEX

DHL UPS ยังไม่มีใครคิดทำจริงจัง การส่งของยังใช้ รสพ และ ไปรษณีย์ไทย

เป็นหลัก หนังสือผมว่าพอทำได้ แต่พวกของที่ "ขนาดไม่มาตรฐาน"

ค่อนข้างลำบากในการจัดส่ง

เรื่องกฏหมายการทำธุรกรรมอีเล็กโทรนิก ก็ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว

แต่ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอนาคตสำหรับพวกค้าปลีกทั้งหลาย
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
ภาพประจำตัวสมาชิก
pong
Verified User
โพสต์: 361
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 7

โพสต์

hompro เคยทำครับในเว็บ  homedd.com ตั้งแต่ 5-6 ปีทีแล้ว แต่หลังจากในหมวด home shopping แต่ไม่มียอดสั่งซื้อเกิดขึ้นเลยหรือน้อยมากๆ
สาเหตุหลักน่าจะมาจาก
1. ราคาทีขายอยู่เป็นราคาเดียวกับที่ขายในห้าง แถมอาจจะมีค่าขนส่งเพิ่มมาอีก (ในเมืองนอกเวลาซื้อออนไลน์มักได้ราคาถูกกว่าซื้อจากร้านค้า เพราะไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องมีภาษี ถึงบวกค่าขนส่งก็ยังถูกกว่า)
2  ความไม่มั่นใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ แถมต้องกรอกบัตรเครดิตเข้าไป คนซื้อก็กลัว คนขายก็กลัวครับ
3  ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ คือ คนไทยยังอยากได้ไปจับต้อง เห็นของจริงจะได้ชัวร์ว่า มันใหม่ มันคืออันทีเราเลือก ประมาณนั้นครับ

โฮมโปร กลับไปทำในเว็บ homepro.co.th พักนึง ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก
เลยยังไม่มีการพัฒนาระบบ E-commerce จนทุกวันนี้ครับ
Capo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 8

โพสต์

คนขายของ เขียน:ผมว่าการทำ website เพื่อรองรับ E-commerce ไม่ใช่เรื่องใหญ่

แต่ผมว่าการบริหารจัดการด้าน Logistics เป็นเรื่องสำคัญมาก

ผมว่าการส่งของ และ การกระจายสินค้าอย่างมืออาชีพ ในเมืองไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

ระบบการส่งพัสดุต้องมีความน่าเชื่อถือสูง ตรวจสอบได้ บริษัทแบบ FEDEX

DHL UPS ยังไม่มีใครคิดทำจริงจัง การส่งของยังใช้ รสพ และ ไปรษณีย์ไทย

เป็นหลัก หนังสือผมว่าพอทำได้ แต่พวกของที่ "ขนาดไม่มาตรฐาน"

ค่อนข้างลำบากในการจัดส่ง

เรื่องกฏหมายการทำธุรกรรมอีเล็กโทรนิก ก็ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว

แต่ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอนาคตสำหรับพวกค้าปลีกทั้งหลาย
เรื่องของ Logistics ผมก็เห็นความสำคัญเหมือนกันครับพี่
เลยอยากจะขอความเห็นพี่ด้วยครับว่า
Logistics มีโอกาสจะกลายมาเป็น Core Business ของ Se-ed หรือไม่ครับ
หรือว่าปัจจุบันมันเป็นอยู่แล้วครับ ???
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
New Analyst
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 9

โพสต์

พอดีเห็นคุณ Capo ยกประเด็นเรื่อง Logistics ขึ้นมาว่าจะเป็น core business ของ SE-ED หรือเปล่า

ประเด็นนี้น่าสนใจนะครับ

ที่รู้แน่ๆ คือ  เป็น critical sucess factor ตัวหนึ่งของ SE-ED อยู่ตอนนี้  และจะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต   ลองนึกดูว่าถ้า SE-ED บอกว่าผลลัพธ์สุดท้ายของระบบ Logistics ของ SE-ED ที่กำลังพัฒนาอยู่ คือ  "ไม่ว่าคนนั้นจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย  จะได้รับภายใน 1 วัน"  ตรงนี้ คงเห็นภาพชัดว่า SE-ED กำลังจะใช้ตรงนี้เป็นจุดแข็งในอนาคตของการบริการ

ผมเคยทราบมาว่าอย่างของ 7-11  ซึ่งมีบริการรับสั่งของจาก 7 Catalog  ยังต้องใช้เวลาหลายวัน  ระบบการสั่งหนังสือของหลายค่ายตอนนี้ ที่อ่านดูจากตามเวบบอร์ด  ยังได้รับการบ่นอยู่มาก  และใช้เวลาหลายวัน   ดังนั้น  ถ้า SE-ED สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็น ภายใน 1 วันได้จริง  ก็น่าจะถือว่าเป็นจุดแข็ง  และคุยได้

ที่ SE-ED ทำได้  เพราะผู้บริหารเคยเล่าให้นักลงทุนฟังว่า  SE-ED ส่งของทุกวันไปยังทุกสาขา   โดยมีรถวิ่งไปต่างจังหวัดโดยเฉพาะในตอนกลางคืน  และรับของบางอย่างกลับมาในตอนกลางวัน  แสดงว่า SE-ED คงพัฒนาให้ระบบการรับการสั่งซื้อ  และระบบการจัดสินค้าที่มีร่วมอย่างน้อยเป็นแสนรายการ เสร็จได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง  เพื่อให้พร้อมส่งตอนก่อนขบวนรถจะออกเดินทาง

ถ้า SE-ED ทำได้อย่างนี้จริง  ก็คงพร้อมจะขายสินค้าที่ไม่ใช่หนังสืออีกมหาศาลได้  โดยใช้สาขาที่กระจายทั่วประเทศเป็นจุดรับสินค้า !!

ที่ยังเป็นปริศนา  และผู้บริหารของ SE-ED ยังไมได้แย้มพราย คือ  SE-ED จะทำให้คนที่อยู่ในระดับหมู่บ้าน  และตำบล  ได้รับหนังสือที่สั่งได้อย่างไรภายใน 1 วัน ??
Kao
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1257
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="New Analyst"]ที่ยังเป็นปริศนา
"Price is what you pay. Value is what you get."
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เมืองไทยยอดขายส่วนใหญ่มาจาก กทม. ซึ่งคนที่อยู่ใน กทม. ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อหนังสือผ่านเวบแล้วรอให้เขาส่งไปรษณีย์มาให้เพื่ออะไร ทำไมไม่ซื้อที่ร้านหนังสือเลย ต้องไปห้างฯ บ่อยๆ อยู่แล้ว

ในสหรัฐ ขายของออนไลน์ไปได้ดีเพราะประชากรอยู่อย่างกระจัดกระจาย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ ไม่มี Barnes&Noble ให้เดินหรอกครับ อยากไปร้านหนังสือที่ใหญ่ๆ ก็ต้องขับรถเข้าไปในเมืองใหญ่หลายชั่วโมงอยู่ ซื้ออเมซอนเอาจะดีกว่า
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
New Analyst
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 12

โพสต์

คุณสุมาอี้ ให้ข้อมูลได้ดีว่าทำไมระบบการสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์ของสหรัฐจึงได้รับความนิยม  และทำไมในเมืองไทยถึงไม่ได้รับความนิยม

ถ้าผมจำไม่ผิด  ผู้บริหารของ SE-ED เคยชี้แจงกับนักลงทุนเรื่องผลกระทบของการสั่งซื้อพวกออนไลน์ว่า ในเมืองไทยนั้นยอดขายหนังสือออนไลน์รายใหญ่ที่สุด  ยอดขายน้อยเพียงแค่พอๆ กับยอดขายของร้านหนังสือขนาดเล็กร้านหนึ่งเท่านั้นเอง  ไม่ได้มากมายอะไรให้น่าวิตกว่าจะมาทำให้คนไม่ไปเดินร้านหนังสือ  ยิ่งถ้าร้านหนังสืออย่าง SE-ED กระจายตัวมากขึ้น  ความจำเป็นที่จะต้องสั่งซื้ออนไลน์ก็ลดลง   เห็นของจริงได้เปิดดู  คงอุ่นใจกว่าจะซื้อแบบมองไม่เห็นเลย

ทีนี้ถ้าถามแล้วว่า ในเมือ่ข้อมูลป็นแบบนี้  ทำไม SE-ED จึงยังลงทุนระบบ Logistics และโครงสร้างพื้นฐานรองรับการสั่งซื้อจากทุกจุดในเมืองไทย ??

ผู้บริหารของ SE-ED ชี้แจงว่า  เพราะแนวโน้มการเปิดร้านหนังสือในอนาคตจะมีขนาดเล็กลงตามแนวโน้มขนาดของของพวกโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ที่มีขนาดเล็กลง  เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายผังเมืองที่บีบการเติบโตของรายใหญ่  และประกอบกับนโยบายการรุกในระดับอำเภอขนาดใหญ่ของ SE-ED  จึงทำให้ร้านหนังสือของ SE-ED บรรจุหนังสือได้น้อยลง  โจทย์ของ SE-ED คือ  ทำอย่างไรให้ร้านหนังสือขนาดเล็กของ SE-ED (รวมถึง kiosk ตามที่ผู้บริหารได้ยกตัวอย่าง)  สามารถให้บริการได้เท่ากับร้านใหญ่  เพื่อให้ทุกคนที่แวะมาร้าน SE-ED แล้วจะได้หนังสือที่ต้องการแน่นอน  พูดง่ายๆ คือ  ในร้านไม่มี  ก็สั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ของร้านเองได้  และได้ในเวลาอันรวดเร็วจนไม่ต้องดิ้นรนไปหาซื้อที่ร้านอื่น

อีกส่วนหนึ่ง  คงรองรับคนที่ไม่ได้มาร้านหนังสือบ่อย  แต่พอจะแวะมาได้ถ้ารู้ว่ามี  ก็สั่งซื้อจากที่บ้านได้เลย  คือ  มีอารมณ์อยากอ่านเล่มไหนที่รู้ชัดเจนแล้ว  ก็สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วค่อยแวะมารับที่ร้าน  ที่ไม่ให้มาส่งถึงบ้านเพื่อลดค่าขนส่งลง  ตรงนี้ผู้บริหารเล่าว่าจะช่วยทำให้ลูกค้าต้องแวะมาที่ร้าน  และอาจจะเห็นหนังสือที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น  และซื้อหนังสือมากกว่าที่ต้งใจมารับได้

ส่วนการสั่งซื้อออนไลน์จากนอกร้านและไม่ได้แวมารับที่ร้าน  คงรองรับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ห่างไกลร้านหนังสือ  หรืออยู่ห่างไกลปืนเที่ยงจนไม่สะดวกจะแวะร้านหนังสือได้บ่อย  อย่างอำเภอขนาดเล็ก  หรือตำบล  หรือหมู่บ้าน  ซึ่งคนเหล่านี้อาจต้องการหนังสือที่ชัดเจนจนรู้จักชื่อหนังสือแล้ว  การสั่งซื้อจะง่าย  ยอดขายจากคนเหล่านี้น่าจะมีไม่เยอะนัก   แต่คงเสริมภาพพจน์ของ SE-ED อย่างที่ผู้บริหารใช้คำว่า  ต้องการทำให้ "ทุกคนที่มีอารมณ์อยากได้หนังสือ คิดถึง SE-ED"

อีกส่วนหนึ่ง ที่ SE-ED ลงทุนระบบ Logistics อย่างเอาเป็นเอาตาย (เพราะเป็นประเด็นที่เน้นมาโดบตลอดในการแถลงข่าว  หรือชี้แจงนักลงทุน) คือ  ผมคิดว่า SE-ED คงรองรับการขายสินค้าที่ไม่ใช่เพียงหนังสืออย่างเดียว  หรือที่ใช้คำว่า nonbooks

ผู้บริหารของ SE-ED เล่าว่า  ได้ทดลองการขาย nonbooks มาพอสมควร  อย่างเช่น  การขายคอมพิวเตอร์  การขายโน้ตบุ๊ค  การขายโปรแกรมป้องกันไวรัส  การขายเครื่อง UPS  การรับจองอะไรที่ร้าน  ซึ่งประสบความสำเร็จมากพอสมควร  ทั้งที่หลายอย่างไม่มีของจริงให้ดูที่ร้านเลย  มีแต่เอกสารใบเดียวให้ดู  และยังต้องไปรับของเองอีกที่หนึ่ง  ก็ยังขายคอมและโน้ตบุ๊คได้เกินหมื่นเครื่อง   ขณะที่ 7-11 ก็ขายเช่นเดียวกันในระยะเวลาเดียวกัน  โดยมีสาขามากกว่ากันอย่างเทียบไม่ติด  แต่ได้เพียงพันเครื่อง   แสดงว่ากลุ่มลูกค้าของ SE-ED พร้อมที่จะสนใจสินค้าพิเศษมากกว่า (อีกส่วนหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้  คือ  การรับจองเสื้อยืดเฉลิมฉลองการครองราชย์ 60 ปี   ที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ ว่ารับจองไปแสนกว่าตัว  ทั้งที่ราคาแพงกว่าเสื้อยืดปกติ  และกว่าจะได้ต้องคอยการผลิตเป็นเดือน  แต่ลูกค้าก็คอย  โดยไม่ขอคืนเงินคาจอง)

การมีระบบ Logistics และระบบการรับสั่งซื้อออนไลน์ที่ดี  จะช่วยให้ SE-ED รองรับการขายสินค้า nonbooks  ได้   เพระไม่ต้องสต็อคที่สาขาซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจจะขายไม่ได้ในหลายสาขา

ผมคิดว่า SE-ED คงประเมินแล้วว่านี้จะเป็นแนวทางการเติบโตที่จะเพิ่มยอดขาย  และกำไรได้มากขึ้นคุ้มค่าการลงทุน  และเป็นการสร้างจุดต่างอะไรบางอย่างให้กับ SE-ED ได้ในอนาคต

ส่วนใหญ่ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้  ผมเก็บความมาจากการที่ผู้บริหาร SE-ED เล่าให้ฟังในงานพบนักลงทุนที่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อหลายเดือนก่อน  ซึ่งชี้แจงแบบละเอียด  แต่ผู้บริหารได้ออกตัวก่อนว่าอะไรที่เป็นความลับในทางธุรกิจจริงๆ  ที่ยังไม่พร้อมจะเปิดเผย จะขอเล่าแต่ทิศทาง  แต่ยังจะขอไม่เล่าวิธีการ  ถ้าจำไม่ผิด  ใช้เวลาชี้แจงนานถึงร่วม 3 ชั่วโมง จนไม่มีใครถามอีกนั่นแหละถึงได้เลิก ขณะที่บริษัทอื่นจะชี้แจงเพียงครึ่งชั่วโมงถึง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น

ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจ SE-ED  จึงมาเล่าให้ฟังต่อ

ส่วน HomePro ผมไม่ได้ตามครับ  จึงไม่มีข้อมูล  เชิญท่านที่รู้เรื่องมาเสริมต่ออีกทีก็แล้วกัน
miracle
Verified User
โพสต์: 18364
ผู้ติดตาม: 1

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ผมมองว่าเป็นการดีครับ
เพิ่งเริ่มทำก็ถือว่าเริ่มก้าว
เพราะก้าวแรกเป็นก้าวที่สำคัญ

เรื่องพวกนี้คือ
ถ้าหากอยู่ที่ไกลๆ ในชนบทจะมาเข้ากรุงที่จะลำบาก
onlineเป็นเรื่องจำเป็นแก่พวกเขาครับ

ถ้าดูภาพนี้แสดงว่าผู้บริหารมั่นใจว่าต่อไปในประเทศไทย
internetจะไปยังทุกคน คนมีรายได้ดีขึ้นสามารถซื้อหนังสือได้เอง สิ่งที่จะตามมาคือ ผู้บริหารต้องคิดถึง ขั้นตอนการจัดส่งและคลังสินค้า ว่าจะบริหารอย่างไง
ในต่างประเทศมีตัวอย่างของอะเมซอน ซึ่งลงทุนทางด้านนี้มากมาย เพราะเขาเป็นร้านหนังสือonlineไม่มีร้านเป็นของตัวเอง ตอนนี้ก็พัฒนาการขายไปมาก การส่งสินค้ามีหลายแบบอีกอย่าง

เนี่ยคือสิ่งที่พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
ปล.สิ่งพวกนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย
เพราะ ระยะหลังๆ ข่าวทางด้านนี้ออกมาถี่ขึ้น
ปีหนึ่งๆๆ มีความเสียหายจากเรื่องนี้มากขึ้น
ผู้บริหารต้องมองสิ่งนี้ควบคู่ไปด้วย
กันได้ดีกว่าแก้ไขครับ
เพราะตอนนี้ใครมีข้อมูลที่มากกว่าได้เปรียบ
:)
Kao
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1257
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมit hmpro se-ed ถึงไม่พัฒนา การขายสินค้าออนไลน์

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ขออนุญาตินำข้อมูลของSE-EDไปโพสท์ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ
"Price is what you pay. Value is what you get."
โพสต์โพสต์