ดัชนี TVI

[Jeng]

ผมว่าดัชนีที่ขึ้นมามาก สูงถึง 772.15 จากต้นปี 350 กว่า ทำให้หลายๆคนกังวลเรื่องฟองสบู่

ผมว่า ถ้าผมทำดัชนีเป็น อย่างคุณดัชนีไทย

ผมจะเอาหุ้น ที่พวกเรา ที่พวกเราคิดว่าเป็นหุ้น VI เป็นหุ้นพื้นฐาน มาทำดัชนี

สมมุติเราได้มา สัก 40 ตัว จาก 400 ตัว ไม่เอาหุ้นที่เพิ่งเข้าตลาด เอาเฉพาะหุ้น ที่มีการซ์อขายตั้งแต่ต้นปี ไม่เอาหุ้น rehap และไม่เอาหุ้นที่มีการปั่นราคา หรือมีปัญหามาก และเราเอาราคาปลายปี ลองคำนวณดัชนีดูว่า มันโตเท่าไร

เราอาจจะเห็นภาพอะไรบางอย่างก็ได้

สมมุติ ว่าหุ้น 40 ตัวที่เลือกขึ้น มา แล้วเอาราคาต้นปี กับปลายปี มาทำดัชนี

เราก็ดู PE เฉลี่ยของเจ้า 40 ตัวนี้ แล้วเราก็ดูว่า ตอนนี้ PE เฉลี่ยของเจ้า 40 ตัวนี้มันไปเท่าไร และ โดยรวม มันโตขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ ผมหมายถึงราคานะครับ

เดี๋ยวผมจะลองคำนวณ ราคา ที่เปลี่ยนแปลงไปใน 1 ปี ของหุ้น ในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น จะดีมั๊ย

ซึ่งมีอยู่ ประมาณ 50 ตัว

ใครรู้เรื่องวิธีการทำดัชนี ช่วยบอกผมหน่อยครับ

ผมไม่ค่อยเข้าใจวิธีการทำดัชนี ซึ่งผมว่า เป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้อยู่เหมือนกัน

เช่น ถ้าหุ้นตัวนั้นมีการเพิ่มทุน มีการแตกพาร์ มีการแจกวอ เวลาเขาไปคำนวณดัชนี เขาคิดอย่างไร

[Manit]

พี่เจ๋ง จะเลียนแบบ Set 50 เลยหรือครับ ผมเห็นด้วยกับไอเดียนี้ขอสนับสนุนด้วยคนครับ ส่วนวิธีการคำนวณ
ดัชนีคิดว่า น่าจะนำ Market Cap ของหุ้นทั้งหมดที่จะนำมาคำนวณในตอนต้นปี เป็นฐาน= 100 และคำนวณ Market Cap ตอนปลายปีว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากต้นปีเท่าไหร่ ถูกหรือเปล่าครับ.

[Jeng]

ก่อนจะเข้าใจหลักเกนณ์ ในการตั้งดัชนี

ผมขอมั๊วก่อน เพราะเข้าใจว่า ช่วงนี้จะไม่ค่อยมีคนเข้ามาอ่าน เนื่องจากกำลังไป เค๊าดาวน์ อิอิ

แต่ผมไม่ค่อยชอบไปไหน ที่มีคนเยอะๆ

ก็เคย เค๊า ที่หน้าคอม เหมือนเดิม

อืม ผมขอมั๊ว นิ่มก่อน

โดยการตั้งดัชนี โดยใช้หุ้น ที่ ชาว tvi ถืออยู่ แบบไม่ขาย ถือแบบเป็นเจ้าของบริษัท

เช่น

FE MAKRO BIGC METCO EGCOMP WG TR TCB PSL MBK S&P F&D SPI TPCORP WACOAL TF SSC SUC STANLEY GYT BAT-3K

ถ้ามีตัวไหน ที่ใครถืออยู่แบบยาวๆเลย ก็เสนอมานะครับ เพราะถ้าติดปัญหาในหุ้นตัวนั้น จะได้ถามได้ถูกคน

หรือตัวไหนควรตัดออก ด้วยเหตุผลอะไรก็บอกด้วยนะครับ

ทำไมต้องทำดัชนี เพราะเรื่องแรกคืออยากรู้ว่าเขาทำกันยังไง

ทำแล้วได้อะไร จะได้มีตัวเปรียบเทียบกับ SET ที่ขึ้นเอา ขึ้นเอา แต่หุ้นของเราแดง

อิอิ

[Jeng]

สวัสดีปีใหม่ครับ น้อง Manit

อืม ถ้าใช้ Market Cap ต้นปี กับปลายปี แล้วอยากทราบว่า เวลาเพิ่มทุน นี่ เราต้องคิดอย่างไรครับ

เพราะเพิ่มทุน Market Cap ก็โต นะ แต่ไม่ได้โตจากผลประกอบการ

เช่นหุ้น A 100 ล้านหุ้น ต้นปี พาร์ 1 บาท ราคา 10 บาท Market cap 1000 ล้านบาท

กลางปี เพิ่มทุน อีก 30 ล้านหุ้น ราคา 7 บาท บริษัทได้เงินไป 210 ล้านบาท

แต่ในตลาดมีหุ้นเพิ่มมาเป็น 130 ล้านหุ้น สมมุตราคาปลายปี เป็น 10 บาทเท่าเดิม

Market cap ก็จะเป็น 1300 ล้านบาท

ถ้าดูหุ้นตัวนี้ตัวเดียว ดูเหมือน Market cap โต 30 เปอร์เซ็นต์ แต่มันไม่ได้โตจากผลประกอบการ อย่างเดียว มันมีเงินจากผู้ถือหุ้นเข้าไปตั้ง 210 ล้านบาท

แสดงว่า โตจริงเพียง 90 ล้านบาทเอง แถมที่โต 90 ล้านบาท ยังต้องกระจายการโตเข้าไปที่จำนวนหุ้นที่มากขึ้นด้วย เป็น 130 ล้านหุ้น

[Manit]

สวัสดีปีใหม่ครับ พี่เจ๋ง
เป็นคำถามที่ตอบยากน่ะครับต้องขอคิดดูก่อน แต่เดาว่า ผลจากการเพิ่มทุนน่าจะเกิด Dilution Effect ทำให้ราคาในตลาดปรับตัวลงมาเทียบเท่าก่อนการเพิ่มทุน ก็จะทำให้ Market Cap ใกล้เคียงกับตอนก่อนเพิ่มทุนเพราะถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะใช้สูตรอะไรมาคำนวณ. จริงมั๊ยครับพี่เจ๋ง

[Jeng]

อืม งั้นคุยกันแบบคนไม่รู้ละกัน

วิธีคำนวณ dilution effect พอจะคำนวณเป็น

สมมุติ ลูกหุ้นเพิ่มทุนเข้าตลาด 30 ล้านหุ้น ที่ราคา 7 บาท แต่ หุ้นเดิม 100 ล้านหุ้น ราคา 10 บาท ก็ ถ่วงน้ำหนักเลยครับ ( 210 + 1000 ) / 130 = 9.3 บาท

ซึ่งเมื่อคูณกับ จำนวนหุ้น 130 ล้านหุ้น ได้ Market Cap ที่ 1209 ล้านบาท

แสดงว่าตอนเพิ่มทุน ราคา ณ. วันที่ลูกหุ้นเข้าเทรด Martket Cap ใหญ่ขึ้นเท่ากับเงินที่เพิ่มครับ

[คนเรือ VI]

ผมคิดว่า ราคาdilution น่าจะตั้งจาก market capที่เท่าเดิมนะครับ อย่างโจทย์พี่เจ๋ง ราคาหลังdilute แล้วน่าจะอยู่ที่ 7.69 นะครับ market cap จะเท่าเดิมที่ 1000ล้านบาท EPS ลดลง P/E น่าจะเท่าเดิม โอเค ถ้าให้ EPS เดิม = 2.5 บาท/หุ้น
P/E เดิม = 4
หลังลูกหุ้นเข้า
EPS ใหม่ = 1.92
P/E ใหม่ = 4 เท่าเดิมเป๊ะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าให้ mr market เค้าตัดสินใจดีกว่าครับ ว่าจะdiluteเท่าไหร่

[CEO]

ความคิดสร้างสรรค์ดีครับ
ขอสนัสนุนครับ

แต่ว่าเกณฑ์ของหุ้นที่เอามาคิดว่าเป็นหุ้นไหนบ้างนี่คงต้องมีกฎกฎิกาที่เป็นมาตรฐานนะครับ
อาจเป็นตัวเลขง่ายๆที่ทุกคนเข้าใจ เช่น p/e p/b d/e roa div yield roe grownth ก็น่าจะดีครับ

[Young-VI]

ช่วยพี่ jeng ครับ
STOCK..VOLUME@30/12/2003...MCAP...VOLUME@27/12/2002..MCAP
FE 7.5 89 668 2.5 192 480
MAKRO 240 46 11,040 240 32 7,680
BIGC 800.5 18.4 14,729 800.5 16.5 13,208
METCO 22 304 6,688 22 141 3,102
EGCOMP 526.5 84.5 44,489 526.5 37.25 19,612
WG 17.85 29 518 17.85 17.7 316
TR 20.16 398 8,024 20.16 200 4,032
TCB 300 29.5 8,850 30 98 2,940
PSL 520 33 17,160 52 20 1,040
MBK 200 49.75 9,950 200 34 6,800
S&P 71 25 1,775 71 23.8 1,690
F&D 12.5 38 475 12.5 29 363
SPI 494 15.5 7,657 49.4 82.5 4,076
TPCORP 108 21.4 2,311 10.8 111 1,199
WACOAL 120 32 3,840 12 182 2,184
TF 18 290 5,220 18 240 4,320
SSC 262.8 31.25 8,213 26.28 214 5,624
SUC 25.5 300 7,650 17.7 300 5,310
STANLY 38.3 400 15,320 38.3 137 5,247
GYT 7.4 508 3,759 7.4 220 1,628
BAT3K 20 62.5 1,250 20 38.75
Summary...........179,585............91,625
เทียบต้นปี = 100.00

TVI Index = 179,585 / 91,625 *100
TVI Index = 196.00

[Young-VI]

SET index ต้นปี = 356.48
พิจารณาแทน ฐาน 100 ต้นปี
ได้ TVI index ปลายปี
TVI index = 179,585 / 91,625 * 356.48
TVI index = 698.70
เปรียบเทียบ SET index จริง ปลายปี = 772.15
ก็แตกต่างกันพอสมควรครับ

หมายเหตุ
1. หุ้นที่เป็น VI จะใช้ตัวไหนแทนบ้างอีก คงต้องให้พวกพี่สรุปมาครับ
2. จำนวนที่แทนก็น่าจะซัก 50 ตัว น่าจะให้ความเชื่อถือได้ดี
3. หุ้นที่มี MCAP สูงเกินไปน่าจะไม่เอามารวมครับ เพราะน้ำหนักเยอะเหลือเกิน
4. เรื่องตัวเลขแบบนี้ น่าจะปรึกษาพี่ครรชิตดีที่สุดครับ

[Jeng]

น้อง Young - VI นี่สุดยอดเลยนะครับ

เอ เห็น TVI Index แล้วก็ชื่นใจ แสดงว่า หุ้น VI ก็โต เหมือนกัน ไม่ต่างจาก Set เท่าไร

แต่คงเป็นเพราะ ว่า TVI Index ขึ้นมาก่อน แล้ว SET ค่อยขึ้นตามในช่วง ไตรมาส 4 ก็เลยทำให้หลายๆคนอึดอัด และเห็นว่าพอร์ท ตัวแดงเหมือนกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าดู TVI Index ที่ขึ้นมาแล้ว และถ้าได้ทำ PE เฉลี่ย

พี่เชื่อว่า PE เฉลี่ย ของหุ้นใน TVI Index จะต่ำกว่า PE เฉลี่ยของ SET อย่างมากทีเดียว