เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 2
ได้เรียนรู้ว่า หุ้นมีขึ้น มีลง เป็นวัฏจักรของมันอยู่อย่างนั้น
จะบังคับให้ขึ้น มันอาจไม่ยอมขึ้นตาม แม้จะเชียร์สุดใจขาดดิ้นเท่าไรก็ตาม
หรือจะบังคับให้ลง มันอาจไม่ลงตาม จะสาบแช่งให้หุ้นมันลง มันก็ไม่ยอมจะลงซะที
ก็เป็นอนิจจังของมันอยู่อย่างนั้นครับ
แต่เวลาจะขึ้นจะลง ก็จะมีเหตุปัจจัยใหม่ ๆ ทำให้เป็นมูลเหตุให้ขึ้นหรือลง
เช่น KTC จากตอนที่ตก เพราะคุณภาพหนี้มีแนวโน้มแย่ลง แต่พอจะขึ้น อยู่ ๆ ธปท. ก็บอกว่าอาจจะยอมให้ปรับดอกเบี้ยขึ้นได้บ้างเป็นต้น หรือ TTA ตอนลง BDI INDEX ก็ปรับลงตลอด แต่พอหุ้นขึ้น ก็เพราะ BDI INDEX มันปรับตัวสูงขึ้นไปใหม่
หุ้นขึ้น หรือหุ้นลง จึงเป็นของธรรมดาครับ :lol:
จะบังคับให้ขึ้น มันอาจไม่ยอมขึ้นตาม แม้จะเชียร์สุดใจขาดดิ้นเท่าไรก็ตาม
หรือจะบังคับให้ลง มันอาจไม่ลงตาม จะสาบแช่งให้หุ้นมันลง มันก็ไม่ยอมจะลงซะที
ก็เป็นอนิจจังของมันอยู่อย่างนั้นครับ
แต่เวลาจะขึ้นจะลง ก็จะมีเหตุปัจจัยใหม่ ๆ ทำให้เป็นมูลเหตุให้ขึ้นหรือลง
เช่น KTC จากตอนที่ตก เพราะคุณภาพหนี้มีแนวโน้มแย่ลง แต่พอจะขึ้น อยู่ ๆ ธปท. ก็บอกว่าอาจจะยอมให้ปรับดอกเบี้ยขึ้นได้บ้างเป็นต้น หรือ TTA ตอนลง BDI INDEX ก็ปรับลงตลอด แต่พอหุ้นขึ้น ก็เพราะ BDI INDEX มันปรับตัวสูงขึ้นไปใหม่
หุ้นขึ้น หรือหุ้นลง จึงเป็นของธรรมดาครับ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 98
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 4
ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า เวลาหุ้นลงนักวิเคราะห์ส่วนมากจะบอกให้ซื้อ
แต่เวลาหุ้นกำลังขึ้น ส่วนมากจะบอกให้ยิ่งซื้อพร้อมปรับประมาณการ
อย่างตอน AH ลงจากประมาณ 20 กว่า นักวิเคราะห์บอกว่าซื้อลงทุน พอลงมาถึง 14 บาท กลับบอกว่าขายทำกำไร (เน้นขายทำกำไร) และบอกว่า Fair อยู่ที่ 13-14 บาท
พอราคากลับมาที่ 16 บาท ก็กลับคำวิเคราะห์ บอกว่าซื้อลงทุนอีก กำลังปรับประมาณการขึ้น
เฮ้อ ชีวิต
ปกติก็ไม่ค่อยได้เชื่อบทวิเคราะห์หรอก อาศัยแอบอ่านบทความที่ท่านๆๆๆๆๆ post เอกไว้นั่นแหละ จึงรอดตัวมาได้ทุกวันนี้
แต่เวลาหุ้นกำลังขึ้น ส่วนมากจะบอกให้ยิ่งซื้อพร้อมปรับประมาณการ
อย่างตอน AH ลงจากประมาณ 20 กว่า นักวิเคราะห์บอกว่าซื้อลงทุน พอลงมาถึง 14 บาท กลับบอกว่าขายทำกำไร (เน้นขายทำกำไร) และบอกว่า Fair อยู่ที่ 13-14 บาท
พอราคากลับมาที่ 16 บาท ก็กลับคำวิเคราะห์ บอกว่าซื้อลงทุนอีก กำลังปรับประมาณการขึ้น
เฮ้อ ชีวิต
ปกติก็ไม่ค่อยได้เชื่อบทวิเคราะห์หรอก อาศัยแอบอ่านบทความที่ท่านๆๆๆๆๆ post เอกไว้นั่นแหละ จึงรอดตัวมาได้ทุกวันนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 5
ก็คิดเหมือนๆกันแหละครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีความเห็นต่างก็คือ เวลาที่เซ็ตอินเด็กซ์ตกมากๆ มีข่าวร้ายกับตลาดมากๆ แล้วดันมีหุ้นบางตัวมันไม่ยอมลง ก็พอจะเป็นตัวบอกอะไรเราได้อย่างหนึ่งนะ อย่างที่เค้าว่าไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม มันเหมือนว่า หนึ่ง หุ้นตัวนั้นพื้นฐานแข็งแกร่งมากๆ จนข่าวร้ายก็ไม่ทำให้สะเทือน หรือ สอง หุ้นตัวนั้นมันลงไปถึงจุดต่ำสุดของมัน ประมาณว่าติดดินแล้ว ข่าวร้ายจึงเหยียบให้มันลงต่ำไปกว่านั้นไม่ได้อีก
จึงสรุปได้ว่าอุปสรรคหรือเรื่องร้ายๆ สามารถใช้เป็นตัวทดสอบคนได้ฉันท์ใด ก็สามารถใช้เป็นตัวทดสอบหุ้นได้เหมือนกัน จริงไหมครับ
จึงสรุปได้ว่าอุปสรรคหรือเรื่องร้ายๆ สามารถใช้เป็นตัวทดสอบคนได้ฉันท์ใด ก็สามารถใช้เป็นตัวทดสอบหุ้นได้เหมือนกัน จริงไหมครับ
รู้สึกดีๆ
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 6
ทำให้ผมนึกถึง ความรู้สึกของผมที่มีมานานแล้วว่า สัญลักษณ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นกราฟ Sine หนึ่งคาบ ซึ่งเป็นบวกก่อนแล้วเป็นลบ สุดท้ายกลับมาอยู่ที่เดิม ถึงว่าตลาดหุ้นไทยเลยไม่ไปไหนthawattt เขียน:ได้เรียนรู้ว่า หุ้นมีขึ้น มีลง เป็นวัฏจักรของมันอยู่อย่างนั้น
น่าจะจับแกนของกราฟเอียงขึ้นสักหน่อยนะครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 7
ผมเจอที่แปลกกว่านั้น นักวิเคราะห์เขียน เชียร์ให้ขายหุ้น เพราะหมดอนาคตตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า เวลาหุ้นลงนักวิเคราะห์ส่วนมากจะบอกให้ซื้อ
แต่เวลาหุ้นกำลังขึ้น ส่วนมากจะบอกให้ยิ่งซื้อพร้อมปรับประมาณการ
แต่มองไปที่ Volumn การซื้อขาย เดี๋ยวก็มี Big lot มาทะยอยเก็บสะสมเป็นเดือนแล้ว เดี๋ยวก็มี Volumn ซื้อ จาก NVDR ของต่างชาติ มาทะยอยเก็บเป็นเดือนแล้วเช่นกัน
พอเก็บได้ที่ และราคาเริ่มขยับ
บทวิเคราะห์คงออกใหม่ว่า พื้นฐานตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว ให้ทะยอยซื้อลงทุนตรงดอยได้ครับ เดี๋ยวจะมีคนขายให้ครับ อิ อิ
ผมเคยเห็นงานวิจัยฉบับหนึ่งเขาบอกว่า หุ้นที่นักวิเคราะห์เชียร์ให้ขาย มักจะตกระยะสั้นสักพักหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ แต่อีกไม่นานนัก ก็จะกลับมาใหม่ได้ ถ้าไม่ใช่เป็นหุ้นเน่าจริง ๆ ครับ
ดังนั้น อ่านบทวิเคราะห์ ก็ต้องอ่านมุมมองเท่านั้น การตัดสินใจอยู่ที่เราครับ ต้องรู้จักประเมินหุ้นด้วยตนเอง เพราะนักวิเคราะห์บางครั้งเขาก็ใช้ข้อมูลการเงินซึ่งเป็นข้อมุลLagging Indicator จากผลงานในอดีตมากำหนดราคาหุ้น แต่เราเล่นหุ้นต้องดูปัจจุบันและอนาคต
เหมือนปีเตอร์ลินซ์ เคยเขียนเรื่องธุรกิจตัวหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีนักวิเคราะห์เชียร์ซื้อ แต่ธุรกิจขายดีมาก ๆ จนกระทั้งผลงานเริ่มออกมาเรื่อย ๆ กำไรเพิ่มสูงมาก ๆ จนนักวิเคราะห์ต้องหันมาเชียร์ให้ซื้อ ก็พอดีช่วงนั้นธุรกิจเริ่มมีคู่แข่งขันเข้ามามาก ทำการตัดราคา ซึ่งทำให้กำไรในช่วงหลังก็เริ่มลดลง สุดท้ายก็ได้เวลาธุรกิจขาลง ตรงนั้นก็อยู่บนดอยพอดีครับ
บทวิเคราะห์จึงควรนำมาอ่านเป็นแนวทางครับ แต่เราต้องมากรองอีกชั้นหนึ่งครับ ดูเหตุการณ์ปัจจุบัน และมองอนาคตด้วย หลัง ๆ บทวิเคราะห์หลายบริษัทก็เริ่มมีมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น เขียนสวนทางกันมากขึ้นก็มี ดังนั้นอยู่ที่เราต้องเลือกและทำการวิเคราะห์ด้วยตนเองด้วย บทวิเคระห์บางเรื่องเขาต้องอาศัยหลักฐานข้อมุลที่อ้างอิงได้ ทำให้การวิเคราะห์นั้นอาจไม่ทันเหตุการณ์เท่าที่ควรครับ เพราะการอ้างหลักฐานที่ยังไม่เห็น บางครั้งก็เป็นความเสี่ยงในการวิเคระห์ ดังนั้นนักวิเคระห์ส่วนใหญ่เพื่อความปลอดภัย จึงต้องอ้างอิงข้อมูลหลักฐานทางการเงินที่ได้รับจากบริษัท หรือการให้สัมภาษณ์ครับ
ต่อไปน่าจะจัดอันดับบทวิเคราะห์ของ Broker กันบ้างก็ดีครับ เพือ่ให้เป็นแนวทางในการพัฒนาบทวิเคราะห์ให้ดียิ่งขึ้นครับ แบบนี้ใครเขียนบทวิเคราะห์ที่ได้อันดับต่ำ ๆ จะได้พัฒนาการวิเคราะห์ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นครับ
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 8
อันนี้เข้าท่าดีครับ เห็นด้วยๆๆต่อไปน่าจะจัดอันดับบทวิเคราะห์ของ Broker กันบ้างก็ดีครับ เพือ่ให้เป็นแนวทางในการพัฒนาบทวิเคราะห์ให้ดียิ่งขึ้นครับ แบบนี้ใครเขียนบทวิเคราะห์ที่ได้อันดับต่ำ ๆ จะได้พัฒนาการวิเคราะห์ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นครับ
ว่าแต่บางทีมันขึ้นกับระยะเวลาในการพิสูจน์ด้วยสิครับ บางครั้งไปเห็นผลเอาในระยะยาว....สงสัยต้องแบ่งเป็นประเภทความน่าเชื่อถือในระยะ สั้น กลาง และยาว ว่าของใครเหมาะหรือไม่เหมาะกับแต่ละระยะเท่าไหร่
- khun_parinya
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก หุ้นลงแล้วก็ขึ้น
โพสต์ที่ 9
ผมเสียดาย KTC ที่สุด ตอนที่ลงไปถึง 16 บาท ตอนนั้นผมรวบรวมเงินไม่ทัน
เสียดายจริง ๆ
เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า การที่เขาอัดฉีดเงินให้กับเกมส์อัจฉริยะ มันไม่น่าจะทำให้หุ้นตกไร้สาระแบบนั้น
มันเป็นโอกาส แต่ตังค์ไม่พอ :(
เสียดายจริง ๆ
เพราะผมรู้อยู่แล้วว่า การที่เขาอัดฉีดเงินให้กับเกมส์อัจฉริยะ มันไม่น่าจะทำให้หุ้นตกไร้สาระแบบนั้น
มันเป็นโอกาส แต่ตังค์ไม่พอ :(