ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 2
เดาว่าเหล็กเส้น ครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 4
โครงการดำเนินงานในอนาคต
1. โครงการขยายพื้นที่โรงงาน
บริษัทวางแผนการขยายพื้นที่โรงงานเพิ่มเติมประมาณ 720 ตารางเมตรบนที่ดินของบริษัทที่ปัจจุบันยังเป็น
พื้นที่ว่าง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างประมาณปลายปี 2548 ถึงต้นปี 2549 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 9 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่การก่อสร้างแล้วเสร็จโรงงานจะมีเนื้อที่จัดเก็บสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มเป็น 3,600,000 ตารางเมตรต่อปี
ซึ่งสามารถรองรับการขยายตัวของยอดขายของบริษัทในอนาคตได้เป็นอย่างดี
2. โครงการซื้อเครื่องจักรผลิตแผ่นหลังคาเหล็กเคลือบขึ้นลอนรูปแบบใหม่
บริษัทมีแผนจัดซื้อเครื่องจักรเพื่อผลิตแผ่นหลังคาเหล็กเคลือบขึ้นลอนรูปแบบลอนสูง (High-rib) ซึ่งเป็น
รูปลอนที่เป็นที่นิยมในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น คาดว่าจะดำเนินการสั่งซื้อเครื่องจักรประมาณปลายปี 2548
ถึงต้นปี 2549 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตแผ่นหลังคาเหล็กเคลือบขึ้นลอนของ
บริษัทเพิ่มขึ้นอีก 3,400 ตันต่อปี หรือประมาณ 600,000 ตารางเมตรต่อปี คิดเป็นกำลังผลิตรวม 13,400 ตันต่อปี
หรือประมาณ 3,000,000 ตารางเมตรต่อปี ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นจากกลุ่มลูกค้า
ญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจอยู่ประเทศไทย
3. โครงการซื้อเครื่องจักรผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูง
บริษัทมีแผนลงทุนซื้อเครื่องรีดแปเหล็กกล้ากำลังสูง รูปตัว C และ Z กำลังการผลิตประมาณ 1,000 ตันต่อปี
คาดว่าจะดำเนินการสั่งซื้อเครื่องจักรประมาณปลายปี 2548 ถึงต้นปี 2549 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 6 ล้านบาท
การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถตอบสนองลูกค้าด้วยความรวดเร็ว เพิ่มโอกาสทางการค้าและสอดคล้อง
กับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท ประกอบกับเป็นสินค้าเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 5
ไม่ใช่เหล็กเส้นครับ
และไม่ใช่หลังคาเหล็ก แต่ใกล้เคียงครับ
ที่ต้องพูดทุกครั้ง ไม่ใช่กระทู้ชี้ชวนให้ซื้อหุ้นนะครับ แต่เป็นวิธีการการหาหุ้นของผมหรือจะเรียกว่า บอกวิธีจับปลา นอกจากนั้นยังบอกได้ด้วยว่าปลาอยู่ที่ไหน แต่ไม่รับประกันว่าจะผิดหรือถูก เป็นเพียงความคิดเห็น-มุมมองส่วนตัวของผม ใครใคร่ซื้อ ซื้อ ใครใคร่ขาย ขาย เงินในกระเป๋าท่านต้องรับผิดชอบเอง
หุ้นตัวที่ว่าคือ drt ครับ อย่าสับสนกับ Drt. เพื่อนเรานะ... :lol:
จะโพสต์ 4 หัวข้อนะครับ ใครสนใจก็แจมได้เลย..
-ตัวเลขที่น่าสนใจ
-คุณภาพกิจการ
-ปัจจัยบวกในอนาคต
-ความเสี่ยง
และไม่ใช่หลังคาเหล็ก แต่ใกล้เคียงครับ
ที่ต้องพูดทุกครั้ง ไม่ใช่กระทู้ชี้ชวนให้ซื้อหุ้นนะครับ แต่เป็นวิธีการการหาหุ้นของผมหรือจะเรียกว่า บอกวิธีจับปลา นอกจากนั้นยังบอกได้ด้วยว่าปลาอยู่ที่ไหน แต่ไม่รับประกันว่าจะผิดหรือถูก เป็นเพียงความคิดเห็น-มุมมองส่วนตัวของผม ใครใคร่ซื้อ ซื้อ ใครใคร่ขาย ขาย เงินในกระเป๋าท่านต้องรับผิดชอบเอง
หุ้นตัวที่ว่าคือ drt ครับ อย่าสับสนกับ Drt. เพื่อนเรานะ... :lol:
จะโพสต์ 4 หัวข้อนะครับ ใครสนใจก็แจมได้เลย..
-ตัวเลขที่น่าสนใจ
-คุณภาพกิจการ
-ปัจจัยบวกในอนาคต
-ความเสี่ยง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 6
ตัวเลขที่น่าสนใจ
1.p/e ปีนี้ประมาณ 5.3 เท่า
2.ผลตอบแทนเงินปันผลอย่างต่ำ 11% อย่างสูง 12% หากรวมเครดิตภาษีเงินปันผลจะได้ผลตอบแทน 14-16% (ราคาหุ้นในตลาด 8.45 บ./หุ้น)
3. 5 ปีย้อนหลัง (45-49งวด9เดือน)
ยอดขาย-1630---1820---2020---2085---1840
กำไร-----370---300---235---208---267
กำไรตกลงเพราะต้องเสียภาษีเงินได้ ปีล่าสุด 2546 กำไร 9 เดือนมากกว่าปีที่แล้ว
4.กระแสเงินสดค่อนข้างดี แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนค่อนข้างมาก ต้องการเงินทุนหมุนเวียนปานกลาง
5.หนี้สินทั้งหมด 480 ล้าน เป็นเงินกู้ 200 ล. ส่วนทุน 1330 ล. กำไรไม่รวมค่าเสื่อมปีเดียวก็มากกว่าเงินกู้แล้ว
1.p/e ปีนี้ประมาณ 5.3 เท่า
2.ผลตอบแทนเงินปันผลอย่างต่ำ 11% อย่างสูง 12% หากรวมเครดิตภาษีเงินปันผลจะได้ผลตอบแทน 14-16% (ราคาหุ้นในตลาด 8.45 บ./หุ้น)
3. 5 ปีย้อนหลัง (45-49งวด9เดือน)
ยอดขาย-1630---1820---2020---2085---1840
กำไร-----370---300---235---208---267
กำไรตกลงเพราะต้องเสียภาษีเงินได้ ปีล่าสุด 2546 กำไร 9 เดือนมากกว่าปีที่แล้ว
4.กระแสเงินสดค่อนข้างดี แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนค่อนข้างมาก ต้องการเงินทุนหมุนเวียนปานกลาง
5.หนี้สินทั้งหมด 480 ล้าน เป็นเงินกู้ 200 ล. ส่วนทุน 1330 ล. กำไรไม่รวมค่าเสื่อมปีเดียวก็มากกว่าเงินกู้แล้ว
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 8
ธุรกิจของ drt นะครับสำหรับคนที่ยังไม่ทราบ ชื่อหลังคาตราเพชร แกร่งทน สมชื่อ.. เคยเป็นบริษัทลูกของปูนซิเมนต์นครหลวง บริษัทแม่โฮลซิมต้องการขายนอนคอร์ทิ้ง กลุ่มศรีวิกรณ์และประทีปะเสน เข้าถือหุ้นแทน..
-กระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนต์ สีเทา ยอดขาย 67%
-กระเบื้องคอนกรีต ที่มีสีสันใช้ตามหมู่บ้านจัดสรร 16%
-ไม้ฝา (ปูน+เส้นใย) ที่เริ่มนิยมใช้มากขึ้น 15%
ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทคือ 14% 16% และ 24% ตามลำดับ คู่แข่งของบริษัทคือกลุ่มปูนซิเมนไทย กระเบื้องห้าห่วง กระเบื้องโอฬาร โดย drt มีส่วนแบ่งรวมอันดับ 3 ถ้าแยกเป็นไม้ฝามีส่วนแบ่ง 2 สูงกว่าปูนซิเมนไทย
ดูอย่างนี้แล้วน่าเป็นห่วงนะครับ คู่แข่งน่ากลัวทั้งนั้น แต่ drt ก็มีความได้เปรียบหลายประเด็น ไม่อย่างนั้น บรรทัดสุดท้ายคงไม่ทำกำไรเกิน 10% ของยอดขายทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ทำได้ถึง 14.5% :shock:
-กระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนต์ สีเทา ยอดขาย 67%
-กระเบื้องคอนกรีต ที่มีสีสันใช้ตามหมู่บ้านจัดสรร 16%
-ไม้ฝา (ปูน+เส้นใย) ที่เริ่มนิยมใช้มากขึ้น 15%
ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทคือ 14% 16% และ 24% ตามลำดับ คู่แข่งของบริษัทคือกลุ่มปูนซิเมนไทย กระเบื้องห้าห่วง กระเบื้องโอฬาร โดย drt มีส่วนแบ่งรวมอันดับ 3 ถ้าแยกเป็นไม้ฝามีส่วนแบ่ง 2 สูงกว่าปูนซิเมนไทย
ดูอย่างนี้แล้วน่าเป็นห่วงนะครับ คู่แข่งน่ากลัวทั้งนั้น แต่ drt ก็มีความได้เปรียบหลายประเด็น ไม่อย่างนั้น บรรทัดสุดท้ายคงไม่ทำกำไรเกิน 10% ของยอดขายทุกปี โดยเฉพาะปีนี้ทำได้ถึง 14.5% :shock:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 10
8) drt หรือครับน่าสนใจ
ฮ่า..ผมเคยอยู่ปูนใหญ่
สินค้าตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่
ใช้กันมาชาตินึงได้แล้ว
อยากทราบว่ามีประเด็นอะไรใหม่ๆ
ผมจะรออ่านที่พี่ลูกอิสานโพส
เพื่อนผมเป็นผู้บริหารอยู่ทั้งที่นี่ ทั้งห้าห่วง
ตอนกินแชร์ผมถามมันว่า หุ้นบริษัทเองน่าซื้อไหม
เห็นทั้ง2คนทำหน้าปูเลี่ยนๆ
ผมมีอินไชเดอร์ทีเดียวนะครับ ยังไม่เคยสนใจเลย
ฮ่า...พี่ลูกอิสานถือว่าผมเป็นอินไซเดอร์ของพี่ลูกอิสานอีกทอดก็ได้นะครับ
ฮ่า..ผมเคยอยู่ปูนใหญ่
สินค้าตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่
ใช้กันมาชาตินึงได้แล้ว
อยากทราบว่ามีประเด็นอะไรใหม่ๆ
ผมจะรออ่านที่พี่ลูกอิสานโพส
เพื่อนผมเป็นผู้บริหารอยู่ทั้งที่นี่ ทั้งห้าห่วง
ตอนกินแชร์ผมถามมันว่า หุ้นบริษัทเองน่าซื้อไหม
เห็นทั้ง2คนทำหน้าปูเลี่ยนๆ
ผมมีอินไชเดอร์ทีเดียวนะครับ ยังไม่เคยสนใจเลย
ฮ่า...พี่ลูกอิสานถือว่าผมเป็นอินไซเดอร์ของพี่ลูกอิสานอีกทอดก็ได้นะครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- apichai214
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 207
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 11
por_jai wrote
เพื่อนผมเป็นผู้บริหารอยู่ทั้งที่นี่ ทั้งห้าห่วง
ตอนกินแชร์ผมถามมันว่า หุ้นบริษัทเองน่าซื้อไหม
เห็นทั้ง2คนทำหน้าปูเลี่ยนๆ
พี่พอใจ คุยกับเพื่อนพี่ปีไหนหรอครับ เผื่อเป็นข้อมูลให้ผมบ้าง
เพื่อนผมเป็นผู้บริหารอยู่ทั้งที่นี่ ทั้งห้าห่วง
ตอนกินแชร์ผมถามมันว่า หุ้นบริษัทเองน่าซื้อไหม
เห็นทั้ง2คนทำหน้าปูเลี่ยนๆ
พี่พอใจ คุยกับเพื่อนพี่ปีไหนหรอครับ เผื่อเป็นข้อมูลให้ผมบ้าง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 12
พี่ hot คงหมายถึงข่าวนี้hot เขียน:อยู่อยู่ไม้ฝาก็ถูกกดราคาลง
อืมธรรมดาจะไม่ไช่แบบนี้
หรือเป็นเหตุผลทางการตลาด
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ :
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 30 ฉบับที่ 3849 (3049)
ตลาด"ไม้ฝาซีเมนต์"หมื่นล.แข่งเดือด "ตราช้าง"ดัมพ์แหลกปิดทาง"เฌอร่า"
จับตาตลาดหมื่นล้านวัสดุทดแทนแข่งเดือด "ตราช้าง"
เครือซิเมนต์ไทยเปิดศึกดัมพ์ราคาไม้ฝาซีเมนต์ 20% ถล่มคู่แข่ง
"เฌอร่า-คอนวูด-ตราเพชร" ขอโตพอตัว
พร้อมเพิ่มไลน์ผลิตสินค้านวัตกรรมทั้งเชิงชาย บัวร้อยสายไฟ
ระแนงและบังตา เจาะตลาดอินเทรนด์คอนโดมิเนียม เอาใจคนรุ่นใหม่
ชี้ปีหน้าการแข่งขันยิ่งรุนแรงแบบใครดีใครอยู่ หวั่นปิดเกมขายพ่วง
แหล่งข่าวจากวงการวัสดุก่อสร้างเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า
ขณะนี้สินค้าวัสดุทดแทนประเภทไม้ฝาซีเมนต์ เชิงชาย ระแนง
บัวและพื้นซีเมนต์ที่เลียนแบบลายไม้ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวม 10,000
ล้านบาท กำลังสู้รบกันดุเดือดในกลุ่มผู้ผลิต เพราะสินค้าเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมากจากผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ เห็นได้จากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ของแต่ละค่ายและการใช้กลยุทธ์ราคา รวมถึงการทำโปรโมชั่นตรงถึงผู้บริโภคเพื่อเร่งยอดขายในปลายปี คาดว่าปีหน้าตลาดการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้นเป็นทวีคูณ
แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ล่าสุด แบรนด์ "ตราช้าง" ในเครือซิเมนต์ไทย ในฐานะเจ้าตลาดวัสดุ ทั้งระบบได้งัดกลยุทธ์ "ราคา" เป็นตัวทุ่มตลาด โดยขายถูกกว่าคู่แข่งในตลาด 20% เริ่มจากปีนี้ได้ตีตลาดไม้ฝาซีเมนต์แข่งกับแบรนด์ "เฌอร่า" ของกลุ่มมหพันธ์ที่เป็นผู้คิดค้นวัสดุทดแทนประเภทนี้เป็นเจ้าแรกและเป็นผู้ถือครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 50%
ทั้งนี้คาดหมายว่าในปี 2550 "ตราช้าง" จะดำเนินกลยุทธ์แชร์ส่วนแบ่งตลาดวัสดุเชิงชาย บัว พื้น
และบอร์ดสำหรับงานผนังเต็มตัว หากเป็นจริง แบรนด์ "คอนวูด"
ของเครือปูนซีเมนต์ นครหลวง ผู้ผลิตระแนง เชิงชาย เป็นรายแรก
และปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดเชิงชายสูงสุด 40% อาจได้รับผลกระทบ
"ตอนนี้ตราช้างทำการตลาดแปลกมาก ทั้งๆ ที่แบรนด์แข็งอยู่แล้ว
แต่กลับเปิดเกมเล่นราคาตั้งแต่แรก ส่วนผู้ผลิตในตลาดคาดเดายาก
ว่าช้างจะมาแบบไหน หรืออาจใช้กลยุทธ์แบบป่าล้อมเมืองก็เป็นได้"
แหล่งข่าวกล่าวและว่า
ตราช้างเป็นแบรนด์ระดับองค์กรที่แข็งแรงและอยู่มานานแล้ว
ใช้การสื่อสารเพียงเล็กน้อยก็สามารถขายของได้ ทั้งๆ
ที่เพิ่งเริ่มทดลองเข้าตลาด แต่ปรากฏว่าแบรนด์โพซิชันนิ่งพุ่งขึ้นมาใกล้เคียงกับเฌอร่าและคอนวูด
ทั้งยังได้เปรียบในเรื่องโซลูชั่น คือมีสินค้าครบวงจร
ดังนั้นถ้าขายหลังคาพ่วงระแนง เชิงชาย และบริการเหมามุงหลังคาด้วย
ทุกค่ายอาจจะไม่มีที่ยืนในตลาดธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ
ปัจจุบันตลาดไม้ฝาซีเมนต์และวัสดุใกล้เคียงมี ผู้ผลิตรายใหญ่ประมาณ 5
ราย โดยแบรนด์ "เฌอร่า" ถือเป็นต้นกำเนิด ถัดมาคือ "คอนวูด" "ตราช้าง"
"ตราเพชร" และ "ตราลูกโลก" ของกลุ่มกระเบื้องโอฬาร
ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดมีอัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปีและวัสดุทดแทนไม้ 3
กลุ่มหลัก ได้แก่
1) ไม้ฝา 2) เชิงชาย ระแนง บัว ไม้พื้น และ 3) แผ่นบอร์ดสำหรับงานผนัง
มีมูลค่าตลาดรวม 10,000 ล้านบาท โดยตลาดไม้ฝาและแผ่นบอร์ดมีมูลค่าเกือบ
7,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดเชิงชาย ระแนง บัว ไม้พื้น มีมูลค่า 3,000
ล้านบาท
ถ้ามองในแง่มาร์เก็ตแชร์เฉพาะตลาดไม้ฝา ปัจจุบันเฌอร่ามีส่วนแบ่งตลาด
50% ตราช้าง 20% ตราเพชรและคอนวูด 20% ที่เหลือเป็นของตราลูกโลก
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามเรื่องกลยุทธ์ราคาจากบริษัท
กระเบื้องกระดาษไทย จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย ผู้ผลิตไม้ฝา "ตราช้าง"
ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า
ไม่อยากให้มองว่าตราช้างได้ใช้กลยุทธ์ดัมพ์ราคาสู้กับคู่แข่ง
เพราะบริษัทตั้งราคาขายผ่านร้านเอเย่นต์ใกล้เคียงกับแบรนด์อื่นๆ เช่น
เฌอร่า ฯลฯ ยกเว้นขายเข้าโครงการที่อาจมีส่วนลดพิเศษตามข้อตกลง
และปลายปีจะโหมแคมเปญเพิ่มยอดอีก หลังจากเฌอร่าอัดแคมเปญชิงโชครถ
"คิดว่าปีหน้าการแข่งขันคงรุนแรงมากขึ้น
เพราะผู้ผลิตแต่ละรายมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ มากขึ้น
ตลาดยังเติบโตได้อีกเพราะถือเป็นของใหม่
ปีหน้าเราได้วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 1 รุ่น
และเน้นโฆษณาผ่านสื่อทีวี ช่วง 11
เดือนที่ผ่านมาเราทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้"
แหล่งข่าวกล่าวและว่า
จากปีนี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ไปแล้ว 2 ตัวคือ 1) เชิงชาย และ 2)
สมาร์ตบอร์ดสำหรับงานผนัง เพื่อขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมตลาด
โดยเฉพาะสมาร์ตบอร์ดที่จะมาทดแทนกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ที่มีส่วนผสมใยหินซึ่งบริษัทได้เลิกผลิตแล้ว
นางสาวมาดี ศรีวัฒนะ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท
โอลิมปิคกระเบื้องไทย จำกัด ผู้ผลิตไม้ฝาและวัสดุทดแทนไม้ "เฌอร่า"
เปิดเผยว่า
ไม้ฝายังเป็นสินค้าที่มีอนาคต โดยรวมมีอัตราการเติบโต 10-15%
จากมูลค่าตลาดรวม คาดว่าปีนี้จะทำยอดขายสินค้าแบรนด์เฌอร่าได้ 1,600
ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท
เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและมีปัญหาน้ำท่วม
"แต่ปีหน้าเราจะเน้นโปรโมต "เฌอร่า เฟล็กซี่บอร์ด"
สำหรับงานผนังมากขึ้น ผ่านหนังโฆษณา ปัจจุบันมีสินค้า 2 รุ่น
คือความหนา 4 และ 6 มิลลิเมตร สำหรับงานฝ้าเพดาน และความหนา 8 และ 12
มิลลิเมตร สำหรับงานผนัง ราคาขายเฉลี่ยแผ่นละ 180 บาท
ขณะเดียวกันจะเน้นการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากขึ้น
ผ่านการจัดแคมเปญให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าประเภทไม้ฝา ระแนง เชิงชาย บัว
ทุก 1 แพ็ก รับคูปองส่งลุ้นชิงโชคของรางวัลรวมกว่า 400 ชิ้น
เพื่อชดเชยตลาดงานโครงการที่คาดว่าจะชะลอตัวในปีหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด "เฌอร่า" อัดแคมเปญตรงถึงผู้ซื้อรายย่อย
ตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาต่อเนื่องเป็นเวลา 9 เดือน
ดังนั้นทิศทางปีหน้าจะแข่งขันกันหนักขึ้น
นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด
ผู้ผลิตแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์และไม้ฝา "คอนวูด" เปิดเผยว่า
แนวโน้มภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตและไม่แย่ไปกว่าปีนี้
ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมจะถูกพัฒนามากขึ้นตามกระแสนิยม
เช่นเดียวกับเทรนด์วัสดุแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์และไม้ฝาที่ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่
เริ่มหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมใยหินเพิ่มขึ้นตามกระแสรักสุขภาพ
กลยุทธ์ของคอนวูดในปีหน้าจะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้หลากหลายมากขึ้น
เน้นการคิดค้นสิ่งที่เป็นอินโนเวชั่น (นวัตกรรม) เหมือนที่เคยผลิตระแนง
เชิงชาย ได้เป็นรายแรก
"หนึ่งในสินค้าใหม่ที่คอนวูดจะเปิดตัวในปีหน้าก็คือ "บังตา"
ที่พัฒนาใช้กับคอนโดฯโดยเฉพาะ" ในปี 2550 คอนวูดตั้งเป้ายอดขายโต 10%
ลดจากปีนี้ที่มีอัตราเติบโต 30% โดยคาดว่าจะปิดยอดขายที่ 730 ล้านบาท
หัวใจหลักยังเป็นลูกค้าโครงการ ส่วนสาเหตุที่ปีหน้าตั้งเป้าเติบโตลดลง
เพราะเดิมทีตลาดระแนง เชิงชาย บัว พื้น มีคอนวูดผลิตเพียงรายเดียว
แต่ปัจจุบันมีหลายแบรนด์เข้ามาขายแข่ง
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร
จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากตราช้างใช้กลยุทธ์ราคาเข้ามาเล่น
ในตลาดระแนง เชิงชาย ถือเป็นเรื่องค่อนข้างเซอร์ไพรส์
เพราะตราช้างเป็นแบรนด์ที่แข็งอยู่แล้วและไม่มีความจำเป็นต้องใช้ราคาเป็นตัวนำ
ในปีหน้าตราเพชรคงเจาะตลาดอาคารสูงมากขึ้นและตั้งเป้ายอดขาย 10% ช่วง 9
เดือนแรกทำยอดขายได้ 1,900 ล้านบาท หรือเติบโต 15% ล่าสุดกำลังพัฒนา
"เจียระไนบอร์ด" ให้เหมาะกับการก่อสร้างคอนโดฯ
ที่จริงผมได้รับข้อมูลที่ต่างจากนี้ แต่ถ้าถามรายละเอียดต้องวานพี่นริศมาบอกครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 13
พี่พอใจอินไซเดอร์ตัวจริงเลยครับ มีอะไรก็กระซิบบอกน้องๆบ้างนะครับ
ส่วนอินไซเดอร์ของ drt มีแต่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตครับ สามารถไปดูได้ที่ sec.or.th แต่วันนี้เข้าไม่ได้ แถมซื้อหนักแบบมีนัยสำคัญด้วยนะครับ
ส่วนอินไซเดอร์ของ drt มีแต่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตครับ สามารถไปดูได้ที่ sec.or.th แต่วันนี้เข้าไม่ได้ แถมซื้อหนักแบบมีนัยสำคัญด้วยนะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 481
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 14
นั่นซิครับ ทำไมช่วงนี้ซื้อกันถี่ขึ้นครับลูกอิสาน เขียน:พี่พอใจอินไซเดอร์ตัวจริงเลยครับ มีอะไรก็กระซิบบอกน้องๆบ้างนะครับ
ส่วนอินไซเดอร์ของ drt มีแต่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตครับ สามารถไปดูได้ที่ sec.or.th แต่วันนี้เข้าไม่ได้ แถมซื้อหนักแบบมีนัยสำคัญด้วยนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 15
คุณภาพของกิจการ
แม้บริษัทไม่ใช่ผู้นำตลาด แต่สามารถทำกำไรได้ค่อนข้างสูง แสดงว่าต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่น่าสนใจ ในที่นี้คือการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำ และการเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม
การเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำ
- การย้ายออฟฟิศจากในกรุงเทพซึ่งเสียค่าเช่าแพง ไปยังโรงงานผลิตซึ่งไม่ต้องเช่า
- การผลิตสินค้าเต็มกำลังการผลิต เพื่อประหยัดจากขนาด ปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตเต็มทุกผลิตภัณฑ์ โดนเฉพาะกระเบื้องคอนกรีต มีการผลิต 125% ของเครื่องจักรติดตั้ง เนื่องจากยอดขายค่อนข้างมีฤดูกาล เพื่อให้ใช้กำลังการผลิตเต็มที่ บริษัทเริ่มโครงการ diamond warehouse โดยให้เครดิต ส่วนลด เพื่อให้ตัวแทนขายสต็อคสินค้ามากกว่าปกติ โดยคัดเลือกตัวแทนที่มีประวัติการเงินดี ทำให้บริษัทสามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่
-การมีโรงงานผลิตใกล้กับแหล่งปูน วัตถุดิบหลัก นอกจากนั้นยังซื้อสินค้าเงินสด ทำให้ได้ส่วนลดจากผู้ผลิตปูน บริษัทมีเงินกู้น้อยมาก ไม่ต้องเสียต้นทุนทางการเงินซึ่งก็คือดอกเบี้ย
- การปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานจากน้ำมันเตาเป็นแก็สธรรมชาติ เริ่มต้นไตรมาสนี้
กลยุทธ์การตลาดที่ใช้
แทนที่บริษัทจะทุ่มงบโฆษณาไปกับตราสินค้าเพื่อแข่งขันกับรายอื่น ซึ่งมีประโยชน์น้อยมากเพราะคู่แข่งมีความแข็งแกร่งของแบรนด์มากกว่า
drt เลือกที่จะนำงบส่วนนั้นไปเป็นส่วนลดให้กับตัวแทนจำนหน่าย 600 รายแทน ซึ่งย่อมทำให้ตัวแทนพอใจ และมีแรงจูงใจที่จะแนะนำขายสินค้าของ drt ก่อนคู่แข่ง
กลยุทธ์นี้ผมคิดว่ามาถูกทางแล้วครับ
นอกจากนั้นปี 2550 เมื่อมีกำลังการผลิตมากขึ้น drt ได้พยายามหาตลาดของสินค้าเพิ่ม โดยรุกขายให้กับลูกค้าโครงการหมู่บ้านจัดสรร เช่น ศุภลัย ปริญสิริ propery perfect รอยัล เฮ้าร์ รวมถึงผู้รับเหมาใหญ่ๆ เช่น itd ple เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นลูกค้า ple ได้งานในดูใบ ยังเป็นการสร้างตลาดส่งออกด้วย
แม้บริษัทไม่ใช่ผู้นำตลาด แต่สามารถทำกำไรได้ค่อนข้างสูง แสดงว่าต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่น่าสนใจ ในที่นี้คือการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำ และการเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม
การเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำ
- การย้ายออฟฟิศจากในกรุงเทพซึ่งเสียค่าเช่าแพง ไปยังโรงงานผลิตซึ่งไม่ต้องเช่า
- การผลิตสินค้าเต็มกำลังการผลิต เพื่อประหยัดจากขนาด ปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตเต็มทุกผลิตภัณฑ์ โดนเฉพาะกระเบื้องคอนกรีต มีการผลิต 125% ของเครื่องจักรติดตั้ง เนื่องจากยอดขายค่อนข้างมีฤดูกาล เพื่อให้ใช้กำลังการผลิตเต็มที่ บริษัทเริ่มโครงการ diamond warehouse โดยให้เครดิต ส่วนลด เพื่อให้ตัวแทนขายสต็อคสินค้ามากกว่าปกติ โดยคัดเลือกตัวแทนที่มีประวัติการเงินดี ทำให้บริษัทสามารถใช้กำลังการผลิตได้เต็มที่
-การมีโรงงานผลิตใกล้กับแหล่งปูน วัตถุดิบหลัก นอกจากนั้นยังซื้อสินค้าเงินสด ทำให้ได้ส่วนลดจากผู้ผลิตปูน บริษัทมีเงินกู้น้อยมาก ไม่ต้องเสียต้นทุนทางการเงินซึ่งก็คือดอกเบี้ย
- การปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานจากน้ำมันเตาเป็นแก็สธรรมชาติ เริ่มต้นไตรมาสนี้
กลยุทธ์การตลาดที่ใช้
แทนที่บริษัทจะทุ่มงบโฆษณาไปกับตราสินค้าเพื่อแข่งขันกับรายอื่น ซึ่งมีประโยชน์น้อยมากเพราะคู่แข่งมีความแข็งแกร่งของแบรนด์มากกว่า
drt เลือกที่จะนำงบส่วนนั้นไปเป็นส่วนลดให้กับตัวแทนจำนหน่าย 600 รายแทน ซึ่งย่อมทำให้ตัวแทนพอใจ และมีแรงจูงใจที่จะแนะนำขายสินค้าของ drt ก่อนคู่แข่ง
กลยุทธ์นี้ผมคิดว่ามาถูกทางแล้วครับ
นอกจากนั้นปี 2550 เมื่อมีกำลังการผลิตมากขึ้น drt ได้พยายามหาตลาดของสินค้าเพิ่ม โดยรุกขายให้กับลูกค้าโครงการหมู่บ้านจัดสรร เช่น ศุภลัย ปริญสิริ propery perfect รอยัล เฮ้าร์ รวมถึงผู้รับเหมาใหญ่ๆ เช่น itd ple เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นลูกค้า ple ได้งานในดูใบ ยังเป็นการสร้างตลาดส่งออกด้วย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 16
กลุ่มผู้ถือหุ้นและผู้บริหารมี 2 กลุ่ม..
- ตระกูลศรีวิกรณ์เป็นตระกูลเจ้าสัวของเมืองไทย ถือหุ้นมากที่สุด
- กลุ่มคุณประกิต ประทีปะเสน เป็นผู้ถือหุ้นรองลงมา สังเกตุได้ว่าคุณประกิตมีรายชื่อเป็นประธานตรวจสอบ กรรมการ บริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก เช่น tcb minor susco bts amarin tste supalai htc bata ltx thl mpt asimar thaisugar โดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ถือหุ้น แต่สำหรับ drt เป็นบริษัทที่ท่านถือหุ้นใหญ่ครับ
และดูจากรายชื่อและประวัติผู้บริหารแล้ว ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า กิจการบริหารอย่างมืออาชีพและมีธรรมภิบาลพอสมควรครับ..
- ตระกูลศรีวิกรณ์เป็นตระกูลเจ้าสัวของเมืองไทย ถือหุ้นมากที่สุด
- กลุ่มคุณประกิต ประทีปะเสน เป็นผู้ถือหุ้นรองลงมา สังเกตุได้ว่าคุณประกิตมีรายชื่อเป็นประธานตรวจสอบ กรรมการ บริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก เช่น tcb minor susco bts amarin tste supalai htc bata ltx thl mpt asimar thaisugar โดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ถือหุ้น แต่สำหรับ drt เป็นบริษัทที่ท่านถือหุ้นใหญ่ครับ
และดูจากรายชื่อและประวัติผู้บริหารแล้ว ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า กิจการบริหารอย่างมืออาชีพและมีธรรมภิบาลพอสมควรครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2126
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 18
กระทู้แบบนี้ที่รอคอย คุยกันเรื่องหุ้นเรื่องฟื้นฐานกันแบบนี้ล่ะ
ผมเกือบจะเลิกเข้า value investing ชั่วคราว แล้วเข้าแต่ ร้อยคนร้อยหุ้นซะแล้ว ดีที่มาเจอกระทู้ดีๆแบบนี้ และหวังว่าจะมีกระทู้แบบนี้เยอะขึ้นกว่าในเร็ววัน
ผมเกือบจะเลิกเข้า value investing ชั่วคราว แล้วเข้าแต่ ร้อยคนร้อยหุ้นซะแล้ว ดีที่มาเจอกระทู้ดีๆแบบนี้ และหวังว่าจะมีกระทู้แบบนี้เยอะขึ้นกว่าในเร็ววัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 20
ความยากง่ายในการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่
ธุรกิจของ drt เป็นธุรกิจ low tech แต่ capital intensive ครับ หากดูงบการลงทุนใหม่เปรียบเทียบกับของเก่า กำลังการผลิตขนาดนี้ต้องลงทุนประมาณ 2,100 ล. ครับ ไม่รวมเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ต้องอาศัยเวลาในการสร้างอย่างยาวนาน
แค่คิดว่าต้องมาแข่งตลาดสินค้าเดียวกันปูนซิเมนต์ไทย ผู้ประกอบการใหม่ๆก็คงหมดแรงจูงใจแล้วครับ นอกจากนั้นยังเป็นสินค้าไม่กี่ประเภทที่ไม่ต้องกลัวการแข่งขันจากประเทศจีน เพราะธรรมชาติของสินค้ามีน้ำหนักมาก มูลค่าน้อย ทำให้ไม่คุ้มที่จะขนส่งไกลๆ ค่าขนส่งกินหมด ยกเว้นไม้ฝาที่ดูเหมือนจะพอส่งออกได้บ้าง แต่ต้นทุนสินค้าหลักคือปูนซิเมนต์ ซึ่งประเทศไทยน่าจะมีราคาขายปูนที่ต่ำที่สุดในโลก..
ธุรกิจของ drt เป็นธุรกิจ low tech แต่ capital intensive ครับ หากดูงบการลงทุนใหม่เปรียบเทียบกับของเก่า กำลังการผลิตขนาดนี้ต้องลงทุนประมาณ 2,100 ล. ครับ ไม่รวมเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ต้องอาศัยเวลาในการสร้างอย่างยาวนาน
แค่คิดว่าต้องมาแข่งตลาดสินค้าเดียวกันปูนซิเมนต์ไทย ผู้ประกอบการใหม่ๆก็คงหมดแรงจูงใจแล้วครับ นอกจากนั้นยังเป็นสินค้าไม่กี่ประเภทที่ไม่ต้องกลัวการแข่งขันจากประเทศจีน เพราะธรรมชาติของสินค้ามีน้ำหนักมาก มูลค่าน้อย ทำให้ไม่คุ้มที่จะขนส่งไกลๆ ค่าขนส่งกินหมด ยกเว้นไม้ฝาที่ดูเหมือนจะพอส่งออกได้บ้าง แต่ต้นทุนสินค้าหลักคือปูนซิเมนต์ ซึ่งประเทศไทยน่าจะมีราคาขายปูนที่ต่ำที่สุดในโลก..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 21
ตามมาเชียร์ครับ
ถามมันว่าหุ้นเองน่าซื้อเปล่าวะ มันก็ทำหน้าปูเลี่ยนๆ
ผมก็เลยไม่ซื้อ ตอนนั้น 20 บาทกว่า ตอนนี้น่าจะ 30 กว่าบาท
:x
เหมือนผมเลย พี่พอใจ เพื่อนผมเป็น CEO อยู่ AApor_jai เขียน:แชร์ที่กินกันอยู่นี่ มีชื่อวงว่าแชร์ปูนแตก
กินกันมานานมากกว่า10ปีแล้วครับ
ทุกเดือนเจอกันครับ
เพื่อนที่ drt นี่อยู่ฝ่ายขาย เป็นรุ่นน้อง
สนิทกันคุยกันได้ตลอด
ส่วนที่ห้าห่วง นี่เป็นถึงเอ็มดี เลย
รุ่นเดียวกัน สนิทน้อยกว่าคนแรกหน่อยนึง
ความจริงผมเหมือนใกล้เกลือกินด่าง
ในพอร์ตผมไม่มีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวงการก่อสร้างหรือวัสดุน้อยมาก
ถามมันว่าหุ้นเองน่าซื้อเปล่าวะ มันก็ทำหน้าปูเลี่ยนๆ
ผมก็เลยไม่ซื้อ ตอนนั้น 20 บาทกว่า ตอนนี้น่าจะ 30 กว่าบาท
:x
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 22
ปัจจัยบวกในอนาคต
1.การลดต้นทุนพลังงาน โดยเปลี่ยนจากน้ำมันเตา มาเป็นแก็สธรรมชาติ โชคดีที่โรงงานมีแนวท่อแก็สของ ปตท.ผ่านครับ โดย drt ลงทุนประมาณ 7 ล.บ. ลดต้นทุนได้ประมาณปีละ 10-12 ล. หรือเพิ่มกำไรนั่นเอง
(ที่จริงน่าจะใช้ถ่านหินไปเลยนะครับ อาจเป็นเพราะไม่มีคนขายถ่านแถวนั้นหรือเปล่า)
2.การขยายกำลังการผลิต
2.1 ผลิตหลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์แบบไม่มีใยหิน (ใช้เส้นใยกระดาษแทน) เสร็จสิ้นตั้งแต่กลางปี 48 ลงทุนไป 200 ล. 25,000 ตัน แต่ยังมีการใช้กำลังการผลิตน้อยมาก น่าจะมีช่องให้เพิ่มกำลังการผลิตได้อีก
2.2 ผลิตไม้ฝาไม่มีใยหิน กำลังการผลิต 42,000 ตัน จาก 35,000 ตัน ที่ผลิตเต็มที่แล้ว ใช้งบลงทุน 200 ล. เริ่มผลิตไตรมาส 4 ปีนี้ ปีนี้หน้าจะผลิตได้เต็มที่
2.3 ผลิตกระเบื้องคอนกรีต 45,000 ตัน จาก 148,500 ตัน ซึ่งใช้กำลังการผลิต 122% แล้ว ใช้งบลงทุน 140 ล. เริ่มผลิตไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่า 1-2 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนค่อนข้างมาก ประมาณ 550 ล. โดยเป็นเงินกู้ประมาณ 200 ล. และเงินจากการขายหุ้น ipo 300 ล. ปัจจุบันกิจการมีเงินกู้ประมาณ 200 ล. เท่านั้น และในอนาคตใกล้ๆ คงไม่มีการลงทุนใหญ่ๆอีกแล้ว
ดังนั้นปีหน้าจะเป็นปีที่มีกำลังการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นมามาก ซึ่งหมายถึงผลิตมาแล้วต้องหาตลาดขายให้ได้ด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า drt มีการเน้นการขายในช่องทางใหม่ๆดังนี้..
-ตลาดส่งออก โดนรุกส่งออกในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มีระยะทางขนส่งไม่ไกลนัก สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 น่าจะมีประโยชน์บ้าง การจับมือกับ ple ในการส่งวัสดุก่อสร้างให้กับโครงการรับเหมาในต่างประเทศเช่น ดูไบ
-ตลาดโครงการ ขายตรงให้กับผู้ประกอบการบ้านจัดสรร รายใหญ่ๆหลายราย รวมถึงโครงการบ้านเอื้ออาทร หลายหมื่นยูนิต ที่ขายให้กับ ple และ itd
-ตลาดอนาคต คือโครงการรีสอร์ทที่มีการก่อสร้างจำนวนมากในภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมถึงตลาดคอนโดมีเนียมที่ผุดขึ้นมากมาย กลุ่มนี้จะเน้นการขายไม้ฝา
สรุปว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ผู้บริหารมีการหาตลาดรองรับระดับนึงแล้ว..
1.การลดต้นทุนพลังงาน โดยเปลี่ยนจากน้ำมันเตา มาเป็นแก็สธรรมชาติ โชคดีที่โรงงานมีแนวท่อแก็สของ ปตท.ผ่านครับ โดย drt ลงทุนประมาณ 7 ล.บ. ลดต้นทุนได้ประมาณปีละ 10-12 ล. หรือเพิ่มกำไรนั่นเอง
(ที่จริงน่าจะใช้ถ่านหินไปเลยนะครับ อาจเป็นเพราะไม่มีคนขายถ่านแถวนั้นหรือเปล่า)
2.การขยายกำลังการผลิต
2.1 ผลิตหลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์แบบไม่มีใยหิน (ใช้เส้นใยกระดาษแทน) เสร็จสิ้นตั้งแต่กลางปี 48 ลงทุนไป 200 ล. 25,000 ตัน แต่ยังมีการใช้กำลังการผลิตน้อยมาก น่าจะมีช่องให้เพิ่มกำลังการผลิตได้อีก
2.2 ผลิตไม้ฝาไม่มีใยหิน กำลังการผลิต 42,000 ตัน จาก 35,000 ตัน ที่ผลิตเต็มที่แล้ว ใช้งบลงทุน 200 ล. เริ่มผลิตไตรมาส 4 ปีนี้ ปีนี้หน้าจะผลิตได้เต็มที่
2.3 ผลิตกระเบื้องคอนกรีต 45,000 ตัน จาก 148,500 ตัน ซึ่งใช้กำลังการผลิต 122% แล้ว ใช้งบลงทุน 140 ล. เริ่มผลิตไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่า 1-2 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนค่อนข้างมาก ประมาณ 550 ล. โดยเป็นเงินกู้ประมาณ 200 ล. และเงินจากการขายหุ้น ipo 300 ล. ปัจจุบันกิจการมีเงินกู้ประมาณ 200 ล. เท่านั้น และในอนาคตใกล้ๆ คงไม่มีการลงทุนใหญ่ๆอีกแล้ว
ดังนั้นปีหน้าจะเป็นปีที่มีกำลังการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นมามาก ซึ่งหมายถึงผลิตมาแล้วต้องหาตลาดขายให้ได้ด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า drt มีการเน้นการขายในช่องทางใหม่ๆดังนี้..
-ตลาดส่งออก โดนรุกส่งออกในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มีระยะทางขนส่งไม่ไกลนัก สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 น่าจะมีประโยชน์บ้าง การจับมือกับ ple ในการส่งวัสดุก่อสร้างให้กับโครงการรับเหมาในต่างประเทศเช่น ดูไบ
-ตลาดโครงการ ขายตรงให้กับผู้ประกอบการบ้านจัดสรร รายใหญ่ๆหลายราย รวมถึงโครงการบ้านเอื้ออาทร หลายหมื่นยูนิต ที่ขายให้กับ ple และ itd
-ตลาดอนาคต คือโครงการรีสอร์ทที่มีการก่อสร้างจำนวนมากในภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมถึงตลาดคอนโดมีเนียมที่ผุดขึ้นมากมาย กลุ่มนี้จะเน้นการขายไม้ฝา
สรุปว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ผู้บริหารมีการหาตลาดรองรับระดับนึงแล้ว..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 23
ผมมีคำถามคาใจนิดหน่อยดังนี้ครับ
1. เคยอ่านเจอแว๊ปๆว่าปูนใหญ่จะยกเลิกไลน์การผลิตสินค้าประเภทที่ drt ทำอยู่ อันนี้เหตุผลคืออะไรหรือครับ มีอะไรที่เค้ามองระยะยาวกว่าที่ drt มองหรือเปล่า
2. การตลาดที่ไม่เน้นโฆษณาแต่จะเอางบไปให้ตัวแทนจำหน่ายแทนนั้น คู่แข่งสามารถเลียนแบบได้ไม่ยากนี่ครับ แล้วจะถือว่าเป็นจุดแข็งได้หรือไม่ ?
3. เรื่องการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำนั้นผมไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ตามละเอียด แต่การที่มียอดขายน้อยกว่าไม่น่าจะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งยักษ์ใหญ่เรื่องต้นทุน
โดยเฉพาะถ้ามองในเรื่อง economy of scale
1. เคยอ่านเจอแว๊ปๆว่าปูนใหญ่จะยกเลิกไลน์การผลิตสินค้าประเภทที่ drt ทำอยู่ อันนี้เหตุผลคืออะไรหรือครับ มีอะไรที่เค้ามองระยะยาวกว่าที่ drt มองหรือเปล่า
2. การตลาดที่ไม่เน้นโฆษณาแต่จะเอางบไปให้ตัวแทนจำหน่ายแทนนั้น คู่แข่งสามารถเลียนแบบได้ไม่ยากนี่ครับ แล้วจะถือว่าเป็นจุดแข็งได้หรือไม่ ?
3. เรื่องการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำนั้นผมไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ตามละเอียด แต่การที่มียอดขายน้อยกว่าไม่น่าจะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งยักษ์ใหญ่เรื่องต้นทุน
โดยเฉพาะถ้ามองในเรื่อง economy of scale
It's earnings that count
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 24
3.การยกเลิกผลิตหลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์ที่มีใยหินของปูนซิเมนต์ไทย
ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% ในไตรมาส 1/2550 น่าจะทำให้ผู้เล่นรายที่เหลือได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะ supply หายไปส่วนนึง แต่ความต้องการเท่าเดิม สินค้าใหม่ที่ไม่มีใยหินมีราคาสูงกว่ามาก ทำให้ไม่สามารถทดแทนสินค้าเดิมได้ทั้งหมด
drt มียอดขายสินค้าหลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์ที่มีใยหิน 9 เดือนปี 2549 ประมาณ 68%
อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้ drt ปรับสายการผลิตที่ 1 ที่เดิมผลิตไม้ฝาแบบมีใยหิน เปลี่ยนเป็นผลิตกระเบื้องลอนคู่(ที่มีใยหิน) เหมือนเดิม เพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ส่วนไม้ฝาที่หายไป จะทดแทนด้วยสายการผลิตใหม่ 42,000 ตัน ซึ่งจะไม่มีใยหิน
ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% ในไตรมาส 1/2550 น่าจะทำให้ผู้เล่นรายที่เหลือได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะ supply หายไปส่วนนึง แต่ความต้องการเท่าเดิม สินค้าใหม่ที่ไม่มีใยหินมีราคาสูงกว่ามาก ทำให้ไม่สามารถทดแทนสินค้าเดิมได้ทั้งหมด
drt มียอดขายสินค้าหลังคาไฟเบอร์ซิเมนต์ที่มีใยหิน 9 เดือนปี 2549 ประมาณ 68%
อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้ drt ปรับสายการผลิตที่ 1 ที่เดิมผลิตไม้ฝาแบบมีใยหิน เปลี่ยนเป็นผลิตกระเบื้องลอนคู่(ที่มีใยหิน) เหมือนเดิม เพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ส่วนไม้ฝาที่หายไป จะทดแทนด้วยสายการผลิตใหม่ 42,000 ตัน ซึ่งจะไม่มีใยหิน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 25
อ่านคำถามแล้วอึ้งเลยครับ ตอบยากจังBlueblood เขียน:ผมมีคำถามคาใจนิดหน่อยดังนี้ครับ
1. เคยอ่านเจอแว๊ปๆว่าปูนใหญ่จะยกเลิกไลน์การผลิตสินค้าประเภทที่ drt ทำอยู่ อันนี้เหตุผลคืออะไรหรือครับ มีอะไรที่เค้ามองระยะยาวกว่าที่ drt มองหรือเปล่า
อาจจะเป็นเพราะผมรู้ไม่จริงนี่ซิครับ แต่จะลองให้ความเห็นเท่าที่เข้าใจ ท่านอื่นๆก็รู้จริงก็ช่วยเสริมด้วยนะครับ
1.ไม่ทราบเหมือนกันครับ scc คงเน้นด้านธรรมภิบาล ผลิตสินค้าที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพมั้งครับ ไม่ทราบว่าเป็นนโยบายคุณกาณต์หรือเปล่า เห็นรายงานประจำปีก็มีหนังสือแยกเป็นการพัฒนาแบบยังยืน รักษาสิ่งแวดล้อมประมาณนั้น
โดยเป็นการยกเลิกการผลิตแบบสมัครใจครับ รัฐยังไม่ได้ออกกฎให้เปลี่ยน และหากรัฐต้องการให้ยกเลิกการผลิต ต้องบอกล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 ปี ครับ เพื่อให้ผู้ผลิตมีเวลาปรับเครื่องจักรบางส่วน เหมือนการยกเลิกการผลิตมอร์เตอร์ไซด์ 2 จังหวะ ให้เป็น 4 จังหวะ ออกนโยบายล่วงหน้าหลายปีครับ
หากรัฐให้ยกเลิกการผลิตจริงๆ ก็คงมีผลกระทบต่อ drt ไม่มาก เพราะอย่างไรก็เป็นวัสดุมุงหลังคาที่ถูกเกือบที่สุด ผู้ผลิตทั้งหมดก็จะแข่งขันอย่างเท่าเทียมกันเหมือนเดิม เพียงแต่ช่วงนี้คงได้รับประโยชน์จากการยกเลิกการผลิตของ scc
เลียนแบบไม่ยากแน่นอนครับ เพียงแต่ตอนนี้ผู้ผลิตรายอื่นอาจจะยังไม่ทำอย่างนี้ เพราะเราก็ยังเห็นกระเบื้องตราช้าง ตราห้าห่วง โฆษณา มากกว่ากระเบื้องตราเพชร2. การตลาดที่ไม่เน้นโฆษณาแต่จะเอางบไปให้ตัวแทนจำหน่ายแทนนั้น คู่แข่งสามารถเลียนแบบได้ไม่ยากนี่ครับ แล้วจะถือว่าเป็นจุดแข็งได้หรือไม่ ?
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายการสร้างแบรนด์ของผู้บริหารครับ
ถ้ารายอื่นยังไม่เลียนแบบ ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นนโยบายทางการตลาดที่ถูกต้อง ของ drt ครับ ถ้ารายอื่นเลียนแบบ ก็ต้องหาทางอื่น
ถ้าเปรียบเทียบกับผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น scc ต้องยอมรับเป็นไปได้น้อยเหลือเกินที่จะผลิตแล้วมีต้นทุนต่ำกว่า แต่หากเปรียบเทียบที่ระดับใกล้เคียงกัน ผมเดาว่า drt น่าจะมีต้นทุนต่ำ จากข้อมูลที่อยู่ใน 56-1 นะครับ อาจจะเข้าข้างตัวเองนะครับประเด็นนี้ เพราะไม่ทราบรายละเอียดของคู่แข่งระดับเดียวกันเลย..3. เรื่องการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำนั้นผมไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ตามละเอียด แต่การที่มียอดขายน้อยกว่าไม่น่าจะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งยักษ์ใหญ่เรื่องต้นทุน โดยเฉพาะถ้ามองในเรื่อง economy of scale
ต้นทุนคงที่ของการผลิตของ drt ต่ำเพียงประมาณ 6.4% เท่านั้น รายอื่นๆก็คงเช่นกัน นอกจากนี้ก็เป็นต้นทุนผันแปร ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบพวกปูนซิเมนต์ปอตแลน ใยหิน สี ทราย... ดังนั้นการประหยัดจากขนาดอาจจะไม่สูงอย่างที่คาด
แต่หากการประหยัดจากขนาดมีความสำคัญ
อัตราการใช้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมปี 2547 เท่าที่มีข้อมูลครับ
ไฟเบอร์ซิเมนต์ อุตสาหกรรมรวม-- 52% ----------drt --99%
หลังคาคอนกรีน อุตสาหกรรมรวม --37%-----------drt --125%
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้นำตลาด ไม่ได้เป็นผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ผมก็คิดว่าไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะหากมีจุดเด่นด้านอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น แม้ scc มีต้นทุนการผลิตสินค้าปูนซิเมนต์ที่ต่ำที่สุดในโลก แต่ผู้ผลิตรายอื่นๆเช่น sccc tpipl ปูนซิเมนต์เอเชีย ชลประทานซิเมนต์ ก็ยังอยู่ได้ และมีกำไรที่สมเหตุสมผล
น่าจะสรุปว่าต้นทุนต่ำเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถในการแข่งขัน แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่จะเป็นตัวกำหนด เช่น การมีตลาดเฉพาะกลุ่ม การเน้นช่องทางการจำหน่ายสินค้า และอื่นๆอีกที่ผมไม่ทราบ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 26
4.สินทรัพย์ซ่อนเร้น
drt มีที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ประมาณ 258 ไร่ ในพื้นที่ชลบุรี สุราษ พิษณุโลก (นี่เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ drt มี ROA ต่ำ) โดยซื้อไว้เพื่อขยายกิจการในอดีต แต่ไม่เคยได้ใช้ ที่ดินเหล่านี้มีมูลค่าทางบัญชี 95 ล้าน แต่ราคาตลาดน่าจะสูงกว่านี้พอสมควร เพราะเป็นที่ดินติดถนนใหญ่ทั้งสิ้น ทำเลดี
บริษัทยังไม่มีโครงการที่จะขาย เก็บไว้เผื่อขยายการผลิตเพราะโรงงานเดิมก็เต็มแล้ว หากต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ ที่ดินเหล่านี้ก็เป็นเงินดีๆนี่เอง
drt มีที่ดินว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ประมาณ 258 ไร่ ในพื้นที่ชลบุรี สุราษ พิษณุโลก (นี่เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ drt มี ROA ต่ำ) โดยซื้อไว้เพื่อขยายกิจการในอดีต แต่ไม่เคยได้ใช้ ที่ดินเหล่านี้มีมูลค่าทางบัญชี 95 ล้าน แต่ราคาตลาดน่าจะสูงกว่านี้พอสมควร เพราะเป็นที่ดินติดถนนใหญ่ทั้งสิ้น ทำเลดี
บริษัทยังไม่มีโครงการที่จะขาย เก็บไว้เผื่อขยายการผลิตเพราะโรงงานเดิมก็เต็มแล้ว หากต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ ที่ดินเหล่านี้ก็เป็นเงินดีๆนี่เอง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 27
เคยซื้อตามตั้งแต่ พี่เจ๋ง แนะนำแล้วครับ ตอน หกกว่าๆ รับปันผลมาครั้งนึงแล้ว
พี่ลูกอิสานมาแนะนำอีกสงสัยต้อง เก็บเข้าพอร์ทเพิ่มขึ้นแล้ว
พี่ลูกอิสานมาแนะนำอีกสงสัยต้อง เก็บเข้าพอร์ทเพิ่มขึ้นแล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณคุณลูกอีสานสำหรับข้อมูลครับ ถ้าผมมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะมาแชร์ด้วยครับ
คุณลูกอีสานนี่ขยันดีนะครับ นับถือๆ ผมนะรู้ทั้งรู้ว่ายิ่งขยันยิ่งเพิ่มโอกาส แต่ไม่รู้ทำไมเผลอๆทีไรเจอตัวเองมัวไปเที่ยวเล่นอยู่เรื่อย :lol:
คุณลูกอีสานนี่ขยันดีนะครับ นับถือๆ ผมนะรู้ทั้งรู้ว่ายิ่งขยันยิ่งเพิ่มโอกาส แต่ไม่รู้ทำไมเผลอๆทีไรเจอตัวเองมัวไปเที่ยวเล่นอยู่เรื่อย :lol:
It's earnings that count
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ลืมชายอุ๋ยไปได้แล้ว หุ้นตัวนี้น่าสนใจกว่า
โพสต์ที่ 30
[quote="Blueblood"]ขอบคุณคุณลูกอีสานสำหรับข้อมูลครับ ถ้าผมมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมจะมาแชร์ด้วยครับ
คุณลูกอีสานนี่ขยันดีนะครับ นับถือๆ ผมนะรู้ทั้งรู้ว่ายิ่งขยันยิ่งเพิ่มโอกาส แต่ไม่รู้ทำไมเผลอๆทีไรเจอตัวเองมัวไปเที่ยวเล่นอยู่เรื่อย
คุณลูกอีสานนี่ขยันดีนะครับ นับถือๆ ผมนะรู้ทั้งรู้ว่ายิ่งขยันยิ่งเพิ่มโอกาส แต่ไม่รู้ทำไมเผลอๆทีไรเจอตัวเองมัวไปเที่ยวเล่นอยู่เรื่อย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว