เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 1
หรือเปล่าครับ.... ดูเหมือนกำลังเดินตามๆกันมา
ข่าวจาก manager.co.th ครับ
เวียดนาม ประกาศแผนแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ "เวียดนาม แอร์ไลน์" รัฐวิสาหกิจทำกำไรสูงสุด ประเดิมเจ้าแรกปี 2551 เฉือนขายหุ้นให้นักลงทุนทั่วไป ก่อนนำเข้าตลาดหุ้นโฮจิมินห์
รัฐบาลเวียดนามออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ วันนี้(2 ม.ค.) ระบุว่าจะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 53 แห่ง ด้วยการขายหุ้นบางส่วนให้แก่นักลงทุนในกรอบเวลาตั้งแต่ปี 25502553
แถลงการณ์ระบุว่าสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ รัฐวิสาหกิจที่ทำกำไรให้แก่รัฐมากที่สุด เป็น 1 ใน 53 รัฐวิสาหกิจดังกล่าว โดยมีกำหนดการแปรรูปในปี 2551 เช่นเดียวกันกับองค์การสิ่งทอและเสื้อผ้า ขณะที่องค์การกระดาษ องค์การเหล็ก และองค์การอาหาร จะแปรรูปในปี 2552 ส่วนองค์การความร่วมมือซีเมนต์และเคมีจะแปรรูปในปี 2553
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามในนครโฮจิมินห์มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์เพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมีอัตราการเติบโตสูงมากในรอบปี 2549 ที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนมกราคม 2549 ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมีวอลุ่มประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันมีวอลุ่มประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวจาก manager.co.th ครับ
เวียดนาม ประกาศแผนแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ "เวียดนาม แอร์ไลน์" รัฐวิสาหกิจทำกำไรสูงสุด ประเดิมเจ้าแรกปี 2551 เฉือนขายหุ้นให้นักลงทุนทั่วไป ก่อนนำเข้าตลาดหุ้นโฮจิมินห์
รัฐบาลเวียดนามออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ วันนี้(2 ม.ค.) ระบุว่าจะปฏิรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 53 แห่ง ด้วยการขายหุ้นบางส่วนให้แก่นักลงทุนในกรอบเวลาตั้งแต่ปี 25502553
แถลงการณ์ระบุว่าสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ รัฐวิสาหกิจที่ทำกำไรให้แก่รัฐมากที่สุด เป็น 1 ใน 53 รัฐวิสาหกิจดังกล่าว โดยมีกำหนดการแปรรูปในปี 2551 เช่นเดียวกันกับองค์การสิ่งทอและเสื้อผ้า ขณะที่องค์การกระดาษ องค์การเหล็ก และองค์การอาหาร จะแปรรูปในปี 2552 ส่วนองค์การความร่วมมือซีเมนต์และเคมีจะแปรรูปในปี 2553
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามในนครโฮจิมินห์มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับมาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์เพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมีอัตราการเติบโตสูงมากในรอบปี 2549 ที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนมกราคม 2549 ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามมีวอลุ่มประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท แต่ในปัจจุบันมีวอลุ่มประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 2
จริงๆแล้ว ธุรกิจเกือบหมดในเวียตนามแต่เดิม เป็นของรัฐอยู่แล้วครับ ซึ่งในช่วง10ปีหลังมานี้ เวียตนามพยายามปรับปรุงโครงสร้าง และได้ขายกิจการที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อเวียตนามในอนาคตออกไป (ทำต่อไปก็สู่เค้าไม่ได้ถ้าเปิดประเทศอย่างเต็มตัว ขายตอนนี้ได้ราคาดีกว่า) เพื่อนำเงินที่ได้ไปพัฒนาระบบ ในประเทศให้ดีขึ้น
สำหรับ เวียตนามแอร์ไลน์ ที่ได้พูดมา คงเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐน่าจะขายได้เงินพอสมควรเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ อีกประการที่เวียตนามจำเป็นต้องทำคงเป็นเพราะเรื่อง wto เหมือนกันกับประเทศจีน ที่ต้องกระจายหุ้น petrochina แล้วก็ sinopec ออกให้ต่างชาติได้มีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของ
ถ้าดูจากรายชื่อที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นหมวดอุตสาหกรรม ซึ่งยังไงก็ต้องแข่งขันในอนาคต รัฐขายออกไปส่วนหนึ่งได้เงินกลับมาพัฒนาประเทศ(อันนี้สำคัญ เพราะเงินที่ได้ตรงนี้ต้องบริสุทธิ์จริงๆ) ซึ่งต่างจากบ้านเรา PTT เป็นลักษณะ การเพิ่มทุน โดยที่รัฐไม่จ่ายเงินเพิ่มทุนลงไป และรัฐก็ไม่ได้เงินจากการระดมทุน PTT ด้วย เพียงแต่ลดสัดส่วนถือหุ้นให้เอกชนมาเป็นเจ้าของเท่านั้น
มาพูดเวียตนามแอร์ไลน์ อีกทีครับ เวียตนามแอร์ไลน์คาดว่าจะมีแผน ระดมทุนในกลางปีนี้ โดยจะเข้าเทรด3 ตลาดด้วยกัน คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง และที่เวียตนามคงเป็นที่สุดท้ายหลังจากที่ 2 ที่ผ่านไปแล้ว และเวียตนามก็ทำคล้ายกับประเทศจีนครับ หุ้น domestic นี่สำหรับ นักลงทุนในประเทศเท่านั้น สำหรับคนเวียตนามที่รวยและมีเงินอยู่นอกประเทศสามารถกลับเข้าไปซื้อหุ้นได้ครับ (ข้อมูลจะเข้าเทรดตลาดที่สิงคโปร์ กับ ฮ่องกง มีใน bloomberg ครับ)
และเพื่อเป็นการลดความกังวล ในเรื่องต้นทุนพลังงานที่ต้องสูงขึ้น จากการขยายธุรกรรมการบิน รวมไปถึงการสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่ที่จะเข้ามาอีก 10 ลำ ซึ่งสามารถจะสร้างผลกำไรได้ในอนาคต โดยการขายหุ้น ได้มีการจ้างทีมเศรษฐกิจ และ investment banker เข้าไปดูแลการขายหุ้น ให้รัฐบาลเวียตนามได้ประโยชน์สูงสุด และคิดว่าคงจะ ล่อตาล่อใจ ถึงการพัฒนาในอนาคตของประเทศเวียตนามให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นได้ครับ
และอย่างที่ได้เอ่ยไปแต่ต้น เวียตนาม ขายกิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมออกมา แต่เวียตนามไม่ได้ขายกิจการที่เกี่ยวกับ ทรัพยกร ของประเทศออกมาเลย ซึ่งก็คงคล้ายกับประเทศจีน ที่แปรรูปและกระจายหุ้นในส่วน ภาคผลิต หรือภาคจัดการ แต่ภาคที่เกี่ยวข้องกับ ยุทธิศาสตร์ประเทศแล้วแปรรูปแต่ไม่กระจายหุ้นครับ (มาเลเซียก็เช่นกัน petronas ไม่ได้อยู่ในตลาด แต่ที่อยู่ในตลาดคือ petronas gas Berhadและ Petronas Dagangan Berhad ซึ่งเป็นบริษัทลูก)
ซึ่งลักษณะการแปรรูป และ การกระจายหุ้นต่างกัน
สำหรับ เวียตนามแอร์ไลน์ ที่ได้พูดมา คงเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐน่าจะขายได้เงินพอสมควรเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ อีกประการที่เวียตนามจำเป็นต้องทำคงเป็นเพราะเรื่อง wto เหมือนกันกับประเทศจีน ที่ต้องกระจายหุ้น petrochina แล้วก็ sinopec ออกให้ต่างชาติได้มีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของ
ถ้าดูจากรายชื่อที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นหมวดอุตสาหกรรม ซึ่งยังไงก็ต้องแข่งขันในอนาคต รัฐขายออกไปส่วนหนึ่งได้เงินกลับมาพัฒนาประเทศ(อันนี้สำคัญ เพราะเงินที่ได้ตรงนี้ต้องบริสุทธิ์จริงๆ) ซึ่งต่างจากบ้านเรา PTT เป็นลักษณะ การเพิ่มทุน โดยที่รัฐไม่จ่ายเงินเพิ่มทุนลงไป และรัฐก็ไม่ได้เงินจากการระดมทุน PTT ด้วย เพียงแต่ลดสัดส่วนถือหุ้นให้เอกชนมาเป็นเจ้าของเท่านั้น
มาพูดเวียตนามแอร์ไลน์ อีกทีครับ เวียตนามแอร์ไลน์คาดว่าจะมีแผน ระดมทุนในกลางปีนี้ โดยจะเข้าเทรด3 ตลาดด้วยกัน คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง และที่เวียตนามคงเป็นที่สุดท้ายหลังจากที่ 2 ที่ผ่านไปแล้ว และเวียตนามก็ทำคล้ายกับประเทศจีนครับ หุ้น domestic นี่สำหรับ นักลงทุนในประเทศเท่านั้น สำหรับคนเวียตนามที่รวยและมีเงินอยู่นอกประเทศสามารถกลับเข้าไปซื้อหุ้นได้ครับ (ข้อมูลจะเข้าเทรดตลาดที่สิงคโปร์ กับ ฮ่องกง มีใน bloomberg ครับ)
และเพื่อเป็นการลดความกังวล ในเรื่องต้นทุนพลังงานที่ต้องสูงขึ้น จากการขยายธุรกรรมการบิน รวมไปถึงการสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่ที่จะเข้ามาอีก 10 ลำ ซึ่งสามารถจะสร้างผลกำไรได้ในอนาคต โดยการขายหุ้น ได้มีการจ้างทีมเศรษฐกิจ และ investment banker เข้าไปดูแลการขายหุ้น ให้รัฐบาลเวียตนามได้ประโยชน์สูงสุด และคิดว่าคงจะ ล่อตาล่อใจ ถึงการพัฒนาในอนาคตของประเทศเวียตนามให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นได้ครับ
และอย่างที่ได้เอ่ยไปแต่ต้น เวียตนาม ขายกิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมออกมา แต่เวียตนามไม่ได้ขายกิจการที่เกี่ยวกับ ทรัพยกร ของประเทศออกมาเลย ซึ่งก็คงคล้ายกับประเทศจีน ที่แปรรูปและกระจายหุ้นในส่วน ภาคผลิต หรือภาคจัดการ แต่ภาคที่เกี่ยวข้องกับ ยุทธิศาสตร์ประเทศแล้วแปรรูปแต่ไม่กระจายหุ้นครับ (มาเลเซียก็เช่นกัน petronas ไม่ได้อยู่ในตลาด แต่ที่อยู่ในตลาดคือ petronas gas Berhadและ Petronas Dagangan Berhad ซึ่งเป็นบริษัทลูก)
ซึ่งลักษณะการแปรรูป และ การกระจายหุ้นต่างกัน
- boonprak
- Verified User
- โพสต์: 153
- ผู้ติดตาม: 0
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 3
เกียวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เวียดนามรู้สึกว่าจะเดินตามจีนครับ เพราะว่ามีลักษณะการปกครองเหมือนกัน
และจีน ก็อาศัยโมเดลรัฐวิสาหกิจของสิงคโปร์ รัฐวิสาหกิจหลักๆ สำคัญๆ รัฐยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่ปล่อยให้มึความเป็นอิสระในการบริหารอย่างคล่องตัวแบบเอกชน
แว่วๆ มาจีนจะตั้งบริษัทลงทุนแบบเทมาเส็ค ที่ไปลงทุนที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว เพราะว่าเงินทุนสำรองจากเงินตราต่างประเทศล้นเหลือเกิน
และจีน ก็อาศัยโมเดลรัฐวิสาหกิจของสิงคโปร์ รัฐวิสาหกิจหลักๆ สำคัญๆ รัฐยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่ปล่อยให้มึความเป็นอิสระในการบริหารอย่างคล่องตัวแบบเอกชน
แว่วๆ มาจีนจะตั้งบริษัทลงทุนแบบเทมาเส็ค ที่ไปลงทุนที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว เพราะว่าเงินทุนสำรองจากเงินตราต่างประเทศล้นเหลือเกิน
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 4
China plans 'Temasek model' to manage huge forex reserves
2006-12-28
CHINA is considering managing its huge foreign exchange reserves according to the "Temasek model" of Singapore, said Wu Xiaoling, vice governor of the People's Bank of China.
"China is likely to set up a special investment company with the government holding the majority stake," Wu told the Beijing Morning Post.
Temasek Holdings is wholly-owned by Singapore's Ministry of Finance and the company's global investment reaps an average annual return of 18 percent.
The newspaper reported that a delegation headed by Li Rongrong, chairman of the State-owned Assets Supervision and Administration Commission, has visited Temasek headquarters. Li himself spoke highly of the Temasek model at a press conference held by the State Council in mid-December.
The Singapore government does not interfere with the operations of Temasek and the sole responsibility for decision-making rests with Temasek's top management and the board. But Temasek is required to submit regular financial reports and distribute dividends to the ministry.
China's foreign currency reserves have surged to a record high of US$1 trillion, magnifying the challenge facing the State Administration of Foreign Exchange of how to make the best use out of the resource.
SAFE plans to expand its Reserves Management Department staff from about 160 now to nearly 200.
Some experts argue, however, that employing more people is not the answer. The real solution, they contend, is to introduce an independent investment outfit.
Since the foreign currency reserves stand as an asset on the balance sheet of the central bank, the massive stockpile can't be used to purchase foreign technology. Nor can it be used to supplement pension funds or support public services such as education, the health service and conservation.
The latest suggestion involves setting up a wholly-owned investment firm, which can purchase foreign exchange from SAFE with capital it raised through bond issuances, and then, as Temasek does, invest it globally.
Temasek's presence in China is mainly focused on banks and the real estate sector.
2006-12-28
CHINA is considering managing its huge foreign exchange reserves according to the "Temasek model" of Singapore, said Wu Xiaoling, vice governor of the People's Bank of China.
"China is likely to set up a special investment company with the government holding the majority stake," Wu told the Beijing Morning Post.
Temasek Holdings is wholly-owned by Singapore's Ministry of Finance and the company's global investment reaps an average annual return of 18 percent.
The newspaper reported that a delegation headed by Li Rongrong, chairman of the State-owned Assets Supervision and Administration Commission, has visited Temasek headquarters. Li himself spoke highly of the Temasek model at a press conference held by the State Council in mid-December.
The Singapore government does not interfere with the operations of Temasek and the sole responsibility for decision-making rests with Temasek's top management and the board. But Temasek is required to submit regular financial reports and distribute dividends to the ministry.
China's foreign currency reserves have surged to a record high of US$1 trillion, magnifying the challenge facing the State Administration of Foreign Exchange of how to make the best use out of the resource.
SAFE plans to expand its Reserves Management Department staff from about 160 now to nearly 200.
Some experts argue, however, that employing more people is not the answer. The real solution, they contend, is to introduce an independent investment outfit.
Since the foreign currency reserves stand as an asset on the balance sheet of the central bank, the massive stockpile can't be used to purchase foreign technology. Nor can it be used to supplement pension funds or support public services such as education, the health service and conservation.
The latest suggestion involves setting up a wholly-owned investment firm, which can purchase foreign exchange from SAFE with capital it raised through bond issuances, and then, as Temasek does, invest it globally.
Temasek's presence in China is mainly focused on banks and the real estate sector.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 6
เฮ้อ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 7
เทียบกันได้ที่ไหน ประเทศเค้าเคยเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน...ดังนั้นทุกๆองค์กรก็เป็นของรัฐหมดมาก่อน... :shock: :shock:
อีกอย่างคนประเทศเค้า...ผมว่าค่อนข้างจะมีทัศนคติที่ดีต่อเรื่องแปลกใหม่...เปรียบไปก็คงเหมือนรักแรกแย้ม<first love หรือ puppy love อะไรทำนองนั้น>... :shock: :shock:
อีกอย่างคนประเทศเค้า...ผมว่าค่อนข้างจะมีทัศนคติที่ดีต่อเรื่องแปลกใหม่...เปรียบไปก็คงเหมือนรักแรกแย้ม<first love หรือ puppy love อะไรทำนองนั้น>... :shock: :shock:
-
- Verified User
- โพสต์: 455
- ผู้ติดตาม: 0
เวียดนามแปรรูป 53 รัฐวิสาหกิจ ต่อไปจะมีปัญหาเหมือนไทย
โพสต์ที่ 8
ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ
การแปรรูปแล้วค่าโดยสารแพงขึ้น
ไม่กระทบสวัสดิการสังคม
การบินไม่ใช่ปัจจัย4ที่คนจนก็ต้องการ
แปรรูปได้
ที่ต้องระวังคือ น้ำ ไฟ การศึกษา สาธารณสุขภาครัฐ
เพราะพวกนี้ คนจนต้องใช้
รัฐควร subsidize เพราะมันเป็นสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า
การแปรรูปแล้วค่าโดยสารแพงขึ้น
ไม่กระทบสวัสดิการสังคม
การบินไม่ใช่ปัจจัย4ที่คนจนก็ต้องการ
แปรรูปได้
ที่ต้องระวังคือ น้ำ ไฟ การศึกษา สาธารณสุขภาครัฐ
เพราะพวกนี้ คนจนต้องใช้
รัฐควร subsidize เพราะมันเป็นสวัสดิการสังคมถ้วนหน้า