มหาอำนาจต้านก.ม.นอมินี
หอการค้าต่างประเทศในไทย ผนึกพลัง ร่วมต้าน แนวทางแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่จะเสนอเข้า ครม. 9 มกราคม เผยไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งปิดกั้นการทำธุรกิจ สวนทางกับนโยบายเปิดเสรีการค้าของ องค์การการค้าโลก
สืบเนื่องจากที่กระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์หลายฉบับ ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2549 ซึ่งรวมถึง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 60 วัน โดยความคืบหน้าในขณะนี้ นายเกริกไกร จิระแพทย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำเสนอผลสรุป การแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในการประชุมวันที่ 9 มกราคมนี้ หลังจากคณะกรรมการศึกษาพิจารณายกร่างแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เสนอเข้ามา
นายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเร็น ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย(Joint Foreign Chambers of Commerce : JFCCT) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในวันที่ 8 มกราคม 2549 ตนในฐานะประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย จะร่วมกับสมาชิก ซึ่งเป็นประธานจากหอการค้าต่างชาติที่เป็นสมาชิก อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป(อียู) สหรัฐอเมริกา ฯลฯ รวมทั้งผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอียู จะร่วมกันเปิดแถลงข่าว ที่หอการค้าญี่ปุ่น เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและจุดยืน การแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (Foreign Business Act) และผลกระทบต่อธุรกิจและการลงทุนของต่างชาติในไทย
โดยเผยว่า แนวทางที่จะนำเสนอให้ครม. พิจารณานั้น เป็นการปิดกั้น และส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมาก และยังสวนทางกับข้อกำหนดเปิดเสรีการค้าขององค์การการค้าโลก(ดับบลิวทีโอ พร้อมกันเสนอแนะให้ยึดตามแนวทางใหม่ คือ หนึ่ง ให้ยกเลิกบัญชีแนบท้ายบัญชี 3 เนื่องจากมองว่า ภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ ธุรกิจไทยมีการพัฒนามากขึ้น และมีขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างชาติได้แล้ว และสอง ให้คงสัดส่วนการถือหุ้นไทย 51% และต่างชาติ 49% ไว้เหมือนเดิม รวมทั้งสิทธิ์ในการออกเสียง โดยอ้างเหตุผลว่า ต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทเพื่อลงทุนและดำเนินธุรกิจ ซึ่งลงทั้งด้านเงินทุน โนว์ฮาว ชื่อเสียง และการบริหารงาน ก็จำเป็นต้องเข้ามาดูแลควบคุมการบริหารด้วย ซึ่งก็ทำการขออนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ถูกต้อง แล้วมาเปลี่ยนนโยบายใหม่ เหมือนเป็นการบังคับให้ต่างชาติต้องขายหุ้นให้กับคนไทย และบังคับให้ต้องปรับโครงสร้าง
สำหรับ JFCCT ปัจจุบันมีสมาชิกเป็นหอการค้าต่างชาติ รวม 28 หอ ซึ่งสมาชิกมีทั้งบริษัทต่างชาติ และบริษัทไทยที่ร่วมทุนกับต่างชาติ เป็นสมาชิกรวมกันกว่า 10,000 ราย และก่อนหน้านี้ JFCCT เคยยื่นจดหมาย เสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.ดังกล่าวถึง พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อ 22 ธันวาคม 2549
ส่วนข้อสรุปเบื้องต้นของการแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2543 ให้มีการแก้ไขคำนิยามคนต่างด้าว โดยได้เพิ่มสิทธิในการออกเสียงควบคู่กับสัดส่วนการถือหุ้น หากเกิน 50% จะถือเป็นธุรกิจต่างด้าว จากเดิมดูเพียงสัดส่วนการถือหุ้นอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเมื่อนำหลักเกณฑ์นี้มาใช้ จะทำให้บริษัทในไทยหลายบริษัทที่ทำธุรกิจกับคนต่างด้าวจะมีฐานะเป็นบริษัทต่างด้าวทันที
โดยแบ่งเป 3 แนวทาง คือ 1. ธุรกิจที่ไม่ผิดกฎหมายเดิม แต่เมื่อเปลี่ยนแปลงคำนิยามแล้วผิด ให้ธุรกิจเหล่านั้น มาลงทะเบียนเป็นบริษัทต่างชาติภายใน 1-2 ปี เพื่อดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งจะครอบคลุมทั้ง 3 บัญชี 2.ให้ระยะเวลาบริษัททั้งหมดปรับตัว หลังการแก้ไขคำนิยามใหม่ เพื่อให้มีโครงสร้างเป็นบริษัทไทยที่ถูกต้อง ซึ่งจะมีการเสนอระยะเวลาปรับตัวตั้งแต่ 1-3 ปี และ 3.ให้เฉพาะธุรกิจในบัญชี 3 ที่มาลงทะเบียนปรับตัว เพื่อดำเนินกิจการต่อไปได้เท่านั้น
นอกจากนี้ได้ปรับปรุงบัญชีแนบท้ายบัญชี 3 ซึ่งปรับปรุงเป็นธุรกิจบริการที่มีกฎหมายเฉพาะควบคุมดูแลอยู่ เช่น ธุรกิจการเงิน ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจประกัน ธุรกิจหลักทรัพย์ ให้ยกเว้นออกจากบัญชี 3 หากคนต่างด้าวจะเข้ามาทำธุรกิจไม่ต้องมาขออนุญาต รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เช่น ธุรกิจก่อสร้างวางท่อประปา และธุรกิจที่รับทำธุรกิจของบริษัทตัวเอง เช่น การรับทำบัญชีให้บริษัทแม่ ก็ให้ยกเว้นไม่ต้องมาขออนุญาต เพราะการเข้ามาประกอบการธุรกิจ ต้องขออนุญาตตามกฎหมายเฉพาะที่มีอยู่แล้ว ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม ที่มี พ.ร.บ.โทรคมนาคมดูแลอยู่ ไม่เข้าข่ายการได้รับยกเว้นเพราะกิจการโทรคมนาคมอยู่ในบัญชี 1 ห้ามคนต่างชาติเข้ามาประกอบกิจการ
ขณะที่นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาพิจารณายกร่างแก้ไข ปรับปรุง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กล่าวว่า ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขที่ได้นำเสนอต่อนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ไหแล้ว ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด และมองว่ามีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยคณะกรรมการฯมีเป้าหมายทำกฎกติกาให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น หากต่างชาติมองว่ามีความเข้มงวดมากเกินไป และอาจมีผลให้มีการย้ายฐานลงทุนไปต่างประเทศก็สามารถคัดค้านได้ ส่วนจะมีการแก้ไข พ.ร.บ. เพิ่มเติมอีกหรือไม่ขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้พิจารณาและสั่งการ
ด้านอดีตคณะทำงานแก้ไข พ..ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ของหอการค้าต่างประเทศในไทย และการแก้ไขกฎหมาย 11 ฉบับก่อนหน้านี้ กล่าวว่า พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ ที่มีอยู่ขณะนี้ดีอยู่แล้ว และควรดูความเหมาะสมในการบังคับใช้ต่อไปอีกระยะหนึ่งได้ เพียงแต่ปัญหานอมินีที่เกิดขึ้นมาจากกรณีของ กองทุนเทมาเสก ทำให้มีแนวคิดแก้ไขปรับปรุงใหม่
ขณะที่อดีตกรรมการหอการค้าต่างชาติแห่งหนึ่ง เผยว่า ที่ผ่านมา แต่ละหอการค้าต่างชาติ ได้พยายาม ล็อบบี้ ซึ่งมีทั้งยื่นข้อมูลแนวทางปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ ผ่านทางหอการค้าต่างประเทศในไทยเข้าไปยังสภาหอการค้าไทย และยื่นโดยตรงเข้าไปยังกระทรวงพาณิชย์ และถึงนายกรัฐมนตรี "จริงๆแล้ว กฎหมายที่มี ดีอยู่แล้ว แต่นำไปปฏิบัติกันไม่ถูก และขัดกับเจตนารมย์ของกฎหมาย ยอมรับความเสี่ยงกันเอง จนกลายเป็นประเด็นทางการเมืองและความมั่นคง ที่กระทบถึงผลประโยชน์ของประเทศ การแก้ไขปรับปรุงจึงเป็นการอุดช่องโหว่ ที่จะช่วยให้ดีขึ้นมากกว่า"
ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกร ได้วิเคราะห์ผลกระทบการแก้ไขพรบ.การดำเนินธุรกิจของคนต่างด้าว ว่ามีข้อดีคือจะทำให้เกิดความชัดเจน เกี่ยวกับหลักเกณฑ์คำนิยามบริษัทที่มีคุณสมบัติเป็นบริษัทต่างชาติ จะมีผลกระทบต่อการใช้กฎหมายอื่นๆตามมา เพื่อมิให้มีช่องโหว่เลี่ยงกฎหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทต่างชาติจำนวนหนึ่งอาจได้รับผลกระทบ มีการประเมินว่ามีจำนวน14,000บริษัท จะต้องไขโครงสร้างให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจนอกภาคอุตสาหกรรมหรือบริการที่บรรจุไว้ในบัญชีแนบท้ายพรบ.
อย่างไรก็ดี การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้ แม้จะมีการเพิ่มข้อบังคับสำหรับธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง แต่ก็จะมีการยกธุรกิจหลายประเภทออกจากบัญชี3 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเข้าข่ายนอมินีส่วนหนึ่งไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่อยู่ในบัญชีท้ายพรบ. และไม่มีกฎหมายอื่นใดที่จำกัดสัดส่วนการถือหุ้นโดยชาวต่างชาติ สามารถดำเนินธุรกิจได้เช่นกับนิติบุคคลไทย
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 1
http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2181
-
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 5
ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ
ที่โหดร้ายและเกรี้ยวกราด
ที่โหดร้ายและเกรี้ยวกราด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 6
ทีดีอาร์ไอแนะแก้กม.คนต่างด้าวต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
'สมเกียรติ'นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ ระบุการแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
ต้อง ชัดเจน นำไปปฏิบัติจริงได้ รวมทั้งต้องเปิดกว้างหากธุรกิจใดไม่กระทบต่อความมั่นคง
เกษตรกร รายย่อย ด้าน 'เกริกไกร' รมว.พาณิชย์ ไม่สนเสียงค้าน เดินหน้าชงเรื่องเข้าครม. 9
มกราคมนี้
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐกิจยุคสารสนเทศ สถาบันวิจัย
เพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่หอการค้าต่างประเทศแสดงความเห็นว่า
การแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว โดยกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี
(ครม.)ในวันที่ 9 มกราคม นี้ว่าไม่เปิดกว้างสำหรับเงินทุนจากต่างชาติเท่าที่ควรซึ่งความจริงใน
บทเฉพาะกาลได้มีการผ่อนปรนให้เวลาในการปรับตัวพอสมควร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้ไขกฎหมายของข้าราชการมีความรักชาติสูง จึงรัดกุมในทุก
ด้าน เพื่อป้องกันต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศ แต่เห็นว่าการเขียนกฎหมายของไทย
ส่วนใหญ่ จะกำหนดไว้แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ จึงอยากให้มองกันที่ความเป็น
จริงมากกว่า เพราะที่บอกว่าจะติดตามตรวจสอบ แต่เมื่อดูกำลังเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจ
การค้า ในส่วนทำหน้าที่ตรวจสอบมีไม่ถึง 10 คน ขณะที่ธุรกิจมีนับแสนราย คงตรวจสอบได้ไม่
หมด และอยากให้มองตัวเองเพื่อเปิดกว้าง เพราะหากธุรกิจใดต่างชาติมีความเชี่ยวชาญ หรือเข้า
มาดำเนินการได้ โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงกระทบต่อรายย่อย เกษตรกร หรือกลุ่มที่ต้องคุ้ม
ครอง ก็ควรเปิดให้เข้ามาดำเนินการได้
'อยากให้แก้ไขกฎหมายให้มีความชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่สีเทาตีความ
ลำบาก เพราะระบบของไทยควรจะเปิดกว้าง ควรจะเอื้ออำนวยในทางปฏิบัติมากกว่าไม่ใช่กำหนด
ไว้แล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่เช่นนั้นอีก 10 ปี ก็จะเกิดวิกฤติปัญหาเรียกร้องให้
มีการแก้ไขกันใหม่ เหมือนกับเมื่อมีปัญหานอมินี แล้วเรียกร้องให้แก้ไข ปว.281 โดยจะแก้ไขกัน
ทุกครั้งมีปัญหาเกิดขึ้น' นายสมเกียรติ กล่าว
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ และทูต
บางประเทศ จะยื่นคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงพาณิชย์ มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การ
ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ว่าถือเป็นสิทธิของหอการค้าต่างประเทศ ที่จะสามารถแสดงความเห็น
ใดๆออกมาได้ แต่ในแง่กฎหมายคงไม่สามารถนำมาเปิดเผย หรือนำไปให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูก่อน
จะต้องเสนอครม.พิจารณา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
'สมเกียรติ'นักวิชาการ ทีดีอาร์ไอ ระบุการแก้ไขกฎหมายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว
ต้อง ชัดเจน นำไปปฏิบัติจริงได้ รวมทั้งต้องเปิดกว้างหากธุรกิจใดไม่กระทบต่อความมั่นคง
เกษตรกร รายย่อย ด้าน 'เกริกไกร' รมว.พาณิชย์ ไม่สนเสียงค้าน เดินหน้าชงเรื่องเข้าครม. 9
มกราคมนี้
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐกิจยุคสารสนเทศ สถาบันวิจัย
เพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกรณีที่หอการค้าต่างประเทศแสดงความเห็นว่า
การแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว โดยกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี
(ครม.)ในวันที่ 9 มกราคม นี้ว่าไม่เปิดกว้างสำหรับเงินทุนจากต่างชาติเท่าที่ควรซึ่งความจริงใน
บทเฉพาะกาลได้มีการผ่อนปรนให้เวลาในการปรับตัวพอสมควร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้ไขกฎหมายของข้าราชการมีความรักชาติสูง จึงรัดกุมในทุก
ด้าน เพื่อป้องกันต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศ แต่เห็นว่าการเขียนกฎหมายของไทย
ส่วนใหญ่ จะกำหนดไว้แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ จึงอยากให้มองกันที่ความเป็น
จริงมากกว่า เพราะที่บอกว่าจะติดตามตรวจสอบ แต่เมื่อดูกำลังเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจ
การค้า ในส่วนทำหน้าที่ตรวจสอบมีไม่ถึง 10 คน ขณะที่ธุรกิจมีนับแสนราย คงตรวจสอบได้ไม่
หมด และอยากให้มองตัวเองเพื่อเปิดกว้าง เพราะหากธุรกิจใดต่างชาติมีความเชี่ยวชาญ หรือเข้า
มาดำเนินการได้ โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงกระทบต่อรายย่อย เกษตรกร หรือกลุ่มที่ต้องคุ้ม
ครอง ก็ควรเปิดให้เข้ามาดำเนินการได้
'อยากให้แก้ไขกฎหมายให้มีความชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่สีเทาตีความ
ลำบาก เพราะระบบของไทยควรจะเปิดกว้าง ควรจะเอื้ออำนวยในทางปฏิบัติมากกว่าไม่ใช่กำหนด
ไว้แล้วไม่สามารถปฏิบัติได้ ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่เช่นนั้นอีก 10 ปี ก็จะเกิดวิกฤติปัญหาเรียกร้องให้
มีการแก้ไขกันใหม่ เหมือนกับเมื่อมีปัญหานอมินี แล้วเรียกร้องให้แก้ไข ปว.281 โดยจะแก้ไขกัน
ทุกครั้งมีปัญหาเกิดขึ้น' นายสมเกียรติ กล่าว
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ และทูต
บางประเทศ จะยื่นคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการที่กระทรวงพาณิชย์ มีการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การ
ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ว่าถือเป็นสิทธิของหอการค้าต่างประเทศ ที่จะสามารถแสดงความเห็น
ใดๆออกมาได้ แต่ในแง่กฎหมายคงไม่สามารถนำมาเปิดเผย หรือนำไปให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดูก่อน
จะต้องเสนอครม.พิจารณา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
:shock: :shock:แต่เมื่อดูกำลังเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจ
การค้า ในส่วนทำหน้าที่ตรวจสอบมีไม่ถึง 10 คน ขณะที่ธุรกิจมีนับแสนราย คงตรวจสอบได้ไม่
หมด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 7
'หม่อมอุ๋ย' เตรียมชี้แจงการแก้ไข พ.ร.บ.ต่างด้าว ให้นลท.ต่างชาติวันพรุ่งนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด
เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค. 2550) จะชี้แจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้เข้าใจถึงการแก้ไขพ.
ร.บ.การประกอบธุรกิจต่างด้าว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ทั้งหมด เพราะยัง
ไม่ได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
'พรุ่งนี้ก็จะคุยกับเขาให้เข้าใจทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมายังคุยไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านครม.
แต่รายละเอียดว่าจะประชุมที่ไหน กับใครบ้าง ยังบอกไม่ได้ ขอดูอีกทีก่อน' ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ทีมา.. Efinance
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด
เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค. 2550) จะชี้แจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้เข้าใจถึงการแก้ไขพ.
ร.บ.การประกอบธุรกิจต่างด้าว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ทั้งหมด เพราะยัง
ไม่ได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
'พรุ่งนี้ก็จะคุยกับเขาให้เข้าใจทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมายังคุยไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านครม.
แต่รายละเอียดว่าจะประชุมที่ไหน กับใครบ้าง ยังบอกไม่ได้ ขอดูอีกทีก่อน' ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ทีมา.. Efinance
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 214
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 8
'หม่อมอุ๋ย' ยันรัฐบาลต้อนรับการลงทุนของต่างชาติอยู่แล้ว
ไม่คิดเป็นศัตรู ย้ำพร้อมดูแลให้ดีที่สุด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด
เผยว่า การแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจต่างด้าวนั้นที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบความรู้สึกของนัก
ลงทุนไปบ้างแล้ว โดยเคยเข้าไปหารือกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีหุ้นเกิน 51% ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้
บอกว่ารับได้
' ขอให้ทุกคนเข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับนักลงทุนต่างชาติ ประเทศ
ไทยต้อนรับนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ได้มี
การหารือกับนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ' รองนายกฯ และรมว.
คลัง กล่าว
ที่มา. Efinance
ไม่คิดเป็นศัตรู ย้ำพร้อมดูแลให้ดีที่สุด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิด
เผยว่า การแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจต่างด้าวนั้นที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบความรู้สึกของนัก
ลงทุนไปบ้างแล้ว โดยเคยเข้าไปหารือกับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีหุ้นเกิน 51% ซึ่งนักลงทุนเหล่านี้
บอกว่ารับได้
' ขอให้ทุกคนเข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่คิดที่จะเป็นศัตรูกับนักลงทุนต่างชาติ ประเทศ
ไทยต้อนรับนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เนื่องจากที่ผ่านมาก็ได้มี
การหารือกับนายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ' รองนายกฯ และรมว.
คลัง กล่าว
ที่มา. Efinance
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 9
รู้สึกปีนี้มีทั้ง Real Bomb และ Bomb-equivalences เยอะจัง -_-'
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 12
หวั่นทุนนอกหนีไทยหม่อมอุ๋ยนัดหอการค้าต่างชาติแจงพ.ร.บ.ธุรกิจต่างด้าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีหอการค้าต่างประเทศ หรือ เจเอฟซีซีที ออกมาคัดค้านรัฐบาล กรณีการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศไทย และหาก ครม.อนุมัติให้มีการผ่านกฏหมายฉบับดังกล่าว อาจทำให้ต่างชาติหลายรายถอนการลงทุนในประเทศไทย ว่า เหตุที่หอการค้าออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน เพราะยังไม่ได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนของกฏหมายฉบับนี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม) จะนัดหารือกับบรรดาหอการค้าต่างประเทศ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในรายละเอียด พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ปฎิเสธการลงทุนจากต่างชาติ และยึดแนวทางนี้มาโดยตลอด.
-
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 15
% การถือหุ้นของต่างชาตินั้นกระทบทุกอุตสาหกรรมหรือเปล่า
ธนาคาร 2 แห่ง ที่ต่างชาติเข้ามา Take Over
บริษัทท่อน้ำพลาสติกสีดำ ที่เพิ่งฟื้นตัว
บริษัทรถยนต์ที่ชื่อก็บอกว่าใหญ่ แต่ชื่อรถเล็กนิดเดียว
บริษัทสุขภัณฑ์แห่งหนึ่งที่ชื่อบอกสัญชาติ
พวกนี้มีบริษัทต่างชาติถือหุ้นเกินกว่า 50% ทั้งสิ้น
ธนาคาร 2 แห่ง ที่ต่างชาติเข้ามา Take Over
บริษัทท่อน้ำพลาสติกสีดำ ที่เพิ่งฟื้นตัว
บริษัทรถยนต์ที่ชื่อก็บอกว่าใหญ่ แต่ชื่อรถเล็กนิดเดียว
บริษัทสุขภัณฑ์แห่งหนึ่งที่ชื่อบอกสัญชาติ
พวกนี้มีบริษัทต่างชาติถือหุ้นเกินกว่า 50% ทั้งสิ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 16
14000 บริษัท ไม่น้อยเลยอย่างไรก็ตามบริษัทต่างชาติจำนวนหนึ่งอาจได้รับผลกระทบ มีการประเมินว่ามีจำนวน14,000บริษัท จะต้องไขโครงสร้างให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจนอกภาคอุตสาหกรรมหรือบริการที่บรรจุไว้ในบัญชีแนบท้ายพรบ.
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 17
รัฐบาลนี้ทำอะไรน่าจะรอบคอบกว่านี้นะครับ
ควรศึกษาผลกระทบในด้านดี และไม่ดีก่อนที่จะประกาศอะไรออกมา
สิ่งที่เสียหายไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะสามารถเรียกกลับคืนมาได้
ควรศึกษาผลกระทบในด้านดี และไม่ดีก่อนที่จะประกาศอะไรออกมา
สิ่งที่เสียหายไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะสามารถเรียกกลับคืนมาได้
- jody4003
- Verified User
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 18
ถ้าเห็นแก่ส่วนตัว ผมค้านครับเพราะผมก็เสียประโยชน์
แต่เห็นแก่ส่วนรวม ผมสนับสนุนให้ดำเนินการตามกฎหมายครับ shin โดนยังไง ทุกคนต้องโดนเหมือนกันครับ ต้องเสมอภาคห้ามหย่อน เรื่องอลุ่มอล่วยนี่เป็นจุดอ่อนประเทศไทยมานานแล้วครับ ถ้าแก้จุดนี้ได้......เราจะไปข้างหน้าได้อีกไกล
แต่เห็นแก่ส่วนรวม ผมสนับสนุนให้ดำเนินการตามกฎหมายครับ shin โดนยังไง ทุกคนต้องโดนเหมือนกันครับ ต้องเสมอภาคห้ามหย่อน เรื่องอลุ่มอล่วยนี่เป็นจุดอ่อนประเทศไทยมานานแล้วครับ ถ้าแก้จุดนี้ได้......เราจะไปข้างหน้าได้อีกไกล
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 19
jaychou เขียน:% การถือหุ้นของต่างชาตินั้นกระทบทุกอุตสาหกรรมหรือเปล่า
ธนาคาร 2 แห่ง ที่ต่างชาติเข้ามา Take Over
บริษัทท่อน้ำพลาสติกสีดำ ที่เพิ่งฟื้นตัว
บริษัทรถยนต์ที่ชื่อก็บอกว่าใหญ่ แต่ชื่อรถเล็กนิดเดียว
บริษัทสุขภัณฑ์แห่งหนึ่งที่ชื่อบอกสัญชาติ
พวกนี้มีบริษัทต่างชาติถือหุ้นเกินกว่า 50% ทั้งสิ้น
ธุรกิจการเงิน ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจประกัน ธุรกิจหลักทรัพย์ ให้ยกเว้นออกจากบัญชี 3 หากคนต่างด้าวจะเข้ามาทำธุรกิจไม่ต้องมาขออนุญาต รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เช่น ธุรกิจก่อสร้างวางท่อประปา และธุรกิจที่รับทำธุรกิจของบริษัทตัวเอง เช่น การรับทำบัญชีให้บริษัทแม่ ก็ให้ยกเว้นไม่ต้องมาขออนุญาต เพราะการเข้ามาประกอบการธุรกิจ ต้องขออนุญาตตามกฎหมายเฉพาะที่มีอยู่แล้ว ส่วนธุรกิจโทรคมนาคม ที่มี พ.ร.บ.โทรคมนาคมดูแลอยู่ ไม่เข้าข่ายการได้รับยกเว้นเพราะกิจการโทรคมนาคมอยู่ในบัญชี 1 ห้ามคนต่างชาติเข้ามาประกอบกิจการ
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 20
รวมยางมะตอยด้วยป่าวครับพี่% การถือหุ้นของต่างชาตินั้นกระทบทุกอุตสาหกรรมหรือเปล่า
ธนาคาร 2 แห่ง ที่ต่างชาติเข้ามา Take Over
บริษัทท่อน้ำพลาสติกสีดำ ที่เพิ่งฟื้นตัว
บริษัทรถยนต์ที่ชื่อก็บอกว่าใหญ่ แต่ชื่อรถเล็กนิดเดียว
บริษัทสุขภัณฑ์แห่งหนึ่งที่ชื่อบอกสัญชาติ
พวกนี้มีบริษัทต่างชาติถือหุ้นเกินกว่า 50% ทั้งสิ้น
- ISUZU
- Verified User
- โพสต์: 179
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 21
สมมติ ครม. ประกาศตูม บังคับใช้ทันที วันพุธ เราจะได้เห็น Black wednesday อีกไหมครับ เป็นการทุบฝรั่งครั้งใหญ่ และไทยจะได้โลดแล่นใน ซีเอ็นเอ็น รอยเตอร์ อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง (55.. ล้อเล่นเฉยๆครับ) :lol:หอการค้าต่างประเทศในไทย ผนึกพลัง ร่วมต้าน แนวทางแก้ไข พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่จะเสนอเข้า ครม. 9 มกราคม
นี่นับเป็นครั้งแรก ที่ผมเริ่มสงสารฝรั่งที่เขาขนเงินมาลงทุนนอกบ้านเขา หรือว่าผมทำงานกับ บ.ฝรั่ง หว่าเนี่ย (จะได้ยึดคืนมาเป็นไทเสียที)
-
- Verified User
- โพสต์: 341
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 23
โดนเต็มๆ ครับ :lol:b37skp เขียน: รวมยางมะตอยด้วยป่าวครับพี่
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 24
เอ แต่เราเซ็น FTA กับหลายประเทศ แถมเป็นสมาชิก WTO อีก ปิดประเทศแบบนี้ ไม่ผิดหรือ
อีกอย่าง เรื่องสำคัญขนาดนี้ น่าจะเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือเปล่า
แต่ในมุมดี ถ้าหุ้นตกหนักๆ เราอาจได้ของดีราคาถูก อีกห้าปีรวย:p
อีกอย่าง เรื่องสำคัญขนาดนี้ น่าจะเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือเปล่า
แต่ในมุมดี ถ้าหุ้นตกหนักๆ เราอาจได้ของดีราคาถูก อีกห้าปีรวย:p
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 35
- ผู้ติดตาม: 0
ผมว่าผลกระทบไม่น่ารุนแรงมากเหมือนข่าว
โพสต์ที่ 28
ผมได้ลองไปค้นข้อมูลแล้วเกิดข้อสงสัยครับ
ผมตั้งสมมติฐาน(เพราะไม่มีข้อมูลว่าฉบับใหม่เขาแก้ไขเป็นอย่างไร) ว่า สาระสำคัญ คือการเปลี่ยนนิยามของคนต่างด้าวโดยมีเรื่องการออกเสียงเข้ามาด้วย และอาจมีการปรับปรุงรายการตามบัญชีแนบท้าย
กม เดิมบอกเพียงว่า บัญชี หนึ่ง ห้ามคนต่างด้าวทำ
ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ
(1) การทำกิจการหนังสือพิมพ์ การทำกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงหรือสถานี
วิทยุโทรทัศน์
(2) การทำนา ทำไร่ หรือทำสวน
(3) การเลี้ยงสัตว์
(4) การทำป่าไม้และการแปรรูปไม้จากป่าธรรมชาติ
(5) การทำการประมงเฉพาะการจับสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยและในเขตเศรษฐกิจ
จำเพาะของประเทศไทย
(6) การสกัดสมุนไพรไทย
(7) การค้าและการขายทอดตลาดโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทาง
ประวัติศาสตร์ของประเทศ
(8) การทำหรือหล่อพระพุทธรูป และการทำบาตร
(9) การค้าที่ดิน
บัญชีสอง ต้องขออนุญาต คณะรัฐมนตรี
ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศหรือมีผลกระทบ
ต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หมวด 1 ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศ
(1) การผลิต การจำหน่าย และการซ่อมบำรุง
(ก) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดินปืน วัตถุระเบิด
(ข) ส่วนประกอบของอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด
(ค) อาวุธยุทโธปกรณ์ เรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะทางการทหาร
(ง) อุปกรณ์หรือส่วนประกอบของอุปกรณ์สงครามทุกประเภท
(2) การขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศในประเทศ รวมถึงกิจการการบิน
ในประเทศ
หมวด 2 ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และหัตถกรรมพื้นบ้าน
(1) การค้าของเก่า หรือศิลปวัตถุ ซึ่งเป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรมของไทย
(2) การผลิตเครื่องไม้แกะสลัก
(3) การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย หรือการพิมพ์ลวดลาย
ผ้าไหมไทย
(4) การผลิตเครื่องดนตรีไทย
(5) การผลิตเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องถม เครื่องทองลงหิน หรือเครื่องเขิน
(6) การผลิตถ้วยชามหรือเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมไทย
หมวด 3 ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม
(1) การผลิตน้ำตาลจากอ้อย
(2) การทำนาเกลือ รวมทั้งการทำเกลือสินเธาว์
(3) การทำเกลือหิน
(4) การทำเหมือง รวมทั้งการระเบิดหรือย่อยหิน
(5) การแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
บัญชีสามต้องขออนุญาตอธิบดี
ธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคน
ต่างด้าว
(1) การสีข้าว และการผลิตแป้งจากข้าวและพืชไร่
(2) การทำการประมง เฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
(3) การทำป่าไม้จากป่าปลูก
(4) การผลิตไม้อัด แผ่นไม้วีเนียร์ ชิปบอร์ด หรือฮาร์ดบอร์ด
(5) การผลิตปูนขาว
(6) การทำกิจการบริการทางบัญชี
(7) การทำกิจการบริการทางกฎหมาย
(8) การทำกิจการบริการทางสถาปัตยกรรม
(9) การทำกิจการบริการทางวิศวกรรม
(10) การก่อสร้าง ยกเว้น
(ก) การก่อสร้างสิ่งซึ่งเป็นการให้บริการพื้นฐานแก่ประชาชนด้านการ
สาธารณูปโภคหรือการคมนาคมที่ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องจักร เทคโนโลยี
หรือความชำนาญในการก่อสร้างเป็นพิเศษ โดยมีทุนขั้นต่ำของคน
ต่างด้าวตั้งแต่ห้าร้อยล้านบาทขึ้นไป
(ข) การก่อสร้างประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(11) การทำกิจการนายหน้าหรือตัวแทน ยกเว้น
(ก) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์หรือการบริการที่เกี่ยวกับ
การซื้อขายล่วงหน้าซึ่งสินค้าเกษตรหรือตราสารทางการเงินหรือ
หลักทรัพย์
(ข) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหรือจัดหาสินค้าหรือบริการที่จำเป็น
ต่อการผลิตหรือการให้บริการของวิสาหกิจในเครือเดียวกัน
(ค) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขาย จัดซื้อหรือจัดจำหน่ายหรือจัดหา
ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อการจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ผลิต
ในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศอันมีลักษณะ เป็นการประกอบ
ธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมีทุนขั้นต่ำของคนต่างด้าวตั้งแต่หนึ่งร้อยล้าน
บาทขึ้นไป
(ง) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(12) การขายทอดตลาด ยกเว้น
(ก) การขายทอดตลาดที่มีลักษณะเป็นการประมูลซื้อขายระหว่างประเทศ
ที่มิใช่การประมูลซื้อขายของเก่า วัตถุโบราณ หรือศิลปวัตถุซึ่งเป็นงาน
ศิลปกรรม หัตถกรรม หรือโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทาง
ประวัติศาสตร์ของประเทศ
(ข) การขายทอดตลาดประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(13) การค้าภายในเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือผลิตผลทางการเกษตรพื้นเมืองที่ยังไม่มี
กฎหมายห้ามไว้
(14) การค้าปลีกสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำรวมทั้งสิ้นน้อยกว่าหนึ่งร้อย
ล้านบาท หรือที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่ายี่สิบล้านบาท
(15) การค้าส่งสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่าหนึ่งร้อย
ล้านบาท
(16) การทำกิจการโฆษณา
(17) การทำกิจการโรงแรม เว้นแต่บริการจัดการโรมแรม
(18) การนำเที่ยว
(19) การขายอาหารหรือเครื่องดื่ม
(20) การทำกิจการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช
(21) การทำธุรกิจบริการอื่น ยกเว้นธุรกิจบริการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เพราะฉะนั้น หลายๆบริษัท แม้จะต้องจดทะเบียนใหม่เป็นนิติบุคคลต่างด้าว แต่ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ไม่ใช่หรือครับ
-และยิ่งไม่มีรายชื่ออยู่ใน บัญชี สาม ย่อมทำได้โดยเสรีอยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก
แต่บริษัทกลุ่มโทรคมนาคมและการบินอยู่ในบัญชีหนึ่ง ต้องห้ามแน่นอนครับ
ผมตั้งสมมติฐาน(เพราะไม่มีข้อมูลว่าฉบับใหม่เขาแก้ไขเป็นอย่างไร) ว่า สาระสำคัญ คือการเปลี่ยนนิยามของคนต่างด้าวโดยมีเรื่องการออกเสียงเข้ามาด้วย และอาจมีการปรับปรุงรายการตามบัญชีแนบท้าย
กม เดิมบอกเพียงว่า บัญชี หนึ่ง ห้ามคนต่างด้าวทำ
ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ
(1) การทำกิจการหนังสือพิมพ์ การทำกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงหรือสถานี
วิทยุโทรทัศน์
(2) การทำนา ทำไร่ หรือทำสวน
(3) การเลี้ยงสัตว์
(4) การทำป่าไม้และการแปรรูปไม้จากป่าธรรมชาติ
(5) การทำการประมงเฉพาะการจับสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยและในเขตเศรษฐกิจ
จำเพาะของประเทศไทย
(6) การสกัดสมุนไพรไทย
(7) การค้าและการขายทอดตลาดโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทาง
ประวัติศาสตร์ของประเทศ
(8) การทำหรือหล่อพระพุทธรูป และการทำบาตร
(9) การค้าที่ดิน
บัญชีสอง ต้องขออนุญาต คณะรัฐมนตรี
ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศหรือมีผลกระทบ
ต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หมวด 1 ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศ
(1) การผลิต การจำหน่าย และการซ่อมบำรุง
(ก) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดินปืน วัตถุระเบิด
(ข) ส่วนประกอบของอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด
(ค) อาวุธยุทโธปกรณ์ เรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะทางการทหาร
(ง) อุปกรณ์หรือส่วนประกอบของอุปกรณ์สงครามทุกประเภท
(2) การขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศในประเทศ รวมถึงกิจการการบิน
ในประเทศ
หมวด 2 ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี และหัตถกรรมพื้นบ้าน
(1) การค้าของเก่า หรือศิลปวัตถุ ซึ่งเป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรมของไทย
(2) การผลิตเครื่องไม้แกะสลัก
(3) การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย หรือการพิมพ์ลวดลาย
ผ้าไหมไทย
(4) การผลิตเครื่องดนตรีไทย
(5) การผลิตเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องถม เครื่องทองลงหิน หรือเครื่องเขิน
(6) การผลิตถ้วยชามหรือเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมไทย
หมวด 3 ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม
(1) การผลิตน้ำตาลจากอ้อย
(2) การทำนาเกลือ รวมทั้งการทำเกลือสินเธาว์
(3) การทำเกลือหิน
(4) การทำเหมือง รวมทั้งการระเบิดหรือย่อยหิน
(5) การแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
บัญชีสามต้องขออนุญาตอธิบดี
ธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคน
ต่างด้าว
(1) การสีข้าว และการผลิตแป้งจากข้าวและพืชไร่
(2) การทำการประมง เฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
(3) การทำป่าไม้จากป่าปลูก
(4) การผลิตไม้อัด แผ่นไม้วีเนียร์ ชิปบอร์ด หรือฮาร์ดบอร์ด
(5) การผลิตปูนขาว
(6) การทำกิจการบริการทางบัญชี
(7) การทำกิจการบริการทางกฎหมาย
(8) การทำกิจการบริการทางสถาปัตยกรรม
(9) การทำกิจการบริการทางวิศวกรรม
(10) การก่อสร้าง ยกเว้น
(ก) การก่อสร้างสิ่งซึ่งเป็นการให้บริการพื้นฐานแก่ประชาชนด้านการ
สาธารณูปโภคหรือการคมนาคมที่ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องจักร เทคโนโลยี
หรือความชำนาญในการก่อสร้างเป็นพิเศษ โดยมีทุนขั้นต่ำของคน
ต่างด้าวตั้งแต่ห้าร้อยล้านบาทขึ้นไป
(ข) การก่อสร้างประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(11) การทำกิจการนายหน้าหรือตัวแทน ยกเว้น
(ก) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์หรือการบริการที่เกี่ยวกับ
การซื้อขายล่วงหน้าซึ่งสินค้าเกษตรหรือตราสารทางการเงินหรือ
หลักทรัพย์
(ข) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขายหรือจัดหาสินค้าหรือบริการที่จำเป็น
ต่อการผลิตหรือการให้บริการของวิสาหกิจในเครือเดียวกัน
(ค) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อขาย จัดซื้อหรือจัดจำหน่ายหรือจัดหา
ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อการจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ผลิต
ในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศอันมีลักษณะ เป็นการประกอบ
ธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมีทุนขั้นต่ำของคนต่างด้าวตั้งแต่หนึ่งร้อยล้าน
บาทขึ้นไป
(ง) การเป็นนายหน้าหรือตัวแทนประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(12) การขายทอดตลาด ยกเว้น
(ก) การขายทอดตลาดที่มีลักษณะเป็นการประมูลซื้อขายระหว่างประเทศ
ที่มิใช่การประมูลซื้อขายของเก่า วัตถุโบราณ หรือศิลปวัตถุซึ่งเป็นงาน
ศิลปกรรม หัตถกรรม หรือโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทาง
ประวัติศาสตร์ของประเทศ
(ข) การขายทอดตลาดประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(13) การค้าภายในเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือผลิตผลทางการเกษตรพื้นเมืองที่ยังไม่มี
กฎหมายห้ามไว้
(14) การค้าปลีกสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำรวมทั้งสิ้นน้อยกว่าหนึ่งร้อย
ล้านบาท หรือที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่ายี่สิบล้านบาท
(15) การค้าส่งสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่าหนึ่งร้อย
ล้านบาท
(16) การทำกิจการโฆษณา
(17) การทำกิจการโรงแรม เว้นแต่บริการจัดการโรมแรม
(18) การนำเที่ยว
(19) การขายอาหารหรือเครื่องดื่ม
(20) การทำกิจการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช
(21) การทำธุรกิจบริการอื่น ยกเว้นธุรกิจบริการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เพราะฉะนั้น หลายๆบริษัท แม้จะต้องจดทะเบียนใหม่เป็นนิติบุคคลต่างด้าว แต่ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ไม่ใช่หรือครับ
-และยิ่งไม่มีรายชื่ออยู่ใน บัญชี สาม ย่อมทำได้โดยเสรีอยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทส่วนใหญ่ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก
แต่บริษัทกลุ่มโทรคมนาคมและการบินอยู่ในบัญชีหนึ่ง ต้องห้ามแน่นอนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
ระเบิดเวลา"กฏหมายNominee"
โพสต์ที่ 29
อ่านข่าวตอนบ่ายสอง ครม อนุมัติร่างแก้ไขนี้แล้ว รอดูว่าบ่ายนี้จะมีผลอะไรในตลาดบ้าง
กิจการส่วนใหญ่ของคนต่างชาติที่มา joint venture กับคนไทย อาจโดนหางเลข โดยเฉพาะบริษัทในนิคมอุตสาหรรมต่างๆ บริษัทพวกนี้ อาจไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็จ้างคน และส่งสินค้าออก ถ้าการย้ายฐานมีจริง น่าคิดนะ โดยเฉพาะค่าแรงเราสูงกว่าเวียดนาม แถมคนเวียดนามขยันกว่า
กิจการส่วนใหญ่ของคนต่างชาติที่มา joint venture กับคนไทย อาจโดนหางเลข โดยเฉพาะบริษัทในนิคมอุตสาหรรมต่างๆ บริษัทพวกนี้ อาจไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก็จ้างคน และส่งสินค้าออก ถ้าการย้ายฐานมีจริง น่าคิดนะ โดยเฉพาะค่าแรงเราสูงกว่าเวียดนาม แถมคนเวียดนามขยันกว่า
just one life, use it!