ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 1
Net Sale 320,000
Cost of Good Sales 224,000
Labor 36,000
Gross Profit 60,000
SG&A 18,000
Depreciation 9,000
Technical Fee 4,000
Operating Profit 29,000
Extraordinary Items
-Non recurrent loss 2,000
EBIT 27,000
Net Interest expense 3,000
EBT 24,000
Income Tax 9,600
Earning After Tax 14,400
Dividend 9,360
Ratained Earning 5,040
ผมไม่เข้าใจว่า Net Interest Expense นี่คือ ดอกเบี้ยของ เงินกู้ ระยะสั้น และ ระยะยาวใช่มั้ยครับ ถ้าใช่ ผมสงสัยว่า การทำธุรกิจนี่เค้าไม่จ่าย เงินต้น ของหนี้ที่กู้มาเหรอครับแล้วยังงี้เมื่อไหร่ หนี้จะหมดครับ
หรือว่า เค้าบันทึกการจ่าย ต้น ของหนี้ ไว้ที่ SG&A ครับ
อีกคำถามนึงก็คือ อะไรเป็นเกณฑ์บันทึกค่าใช่จ่ายใน income statement ครับ
สมมุติ ว่า ในปี 2006 บริษัทซื้อตึกใหม่ 30 ล้าน รายจ่ายส่วนนี้ ต้องบันทึกใน income statement มั้ยครับ
Cost of Good Sales 224,000
Labor 36,000
Gross Profit 60,000
SG&A 18,000
Depreciation 9,000
Technical Fee 4,000
Operating Profit 29,000
Extraordinary Items
-Non recurrent loss 2,000
EBIT 27,000
Net Interest expense 3,000
EBT 24,000
Income Tax 9,600
Earning After Tax 14,400
Dividend 9,360
Ratained Earning 5,040
ผมไม่เข้าใจว่า Net Interest Expense นี่คือ ดอกเบี้ยของ เงินกู้ ระยะสั้น และ ระยะยาวใช่มั้ยครับ ถ้าใช่ ผมสงสัยว่า การทำธุรกิจนี่เค้าไม่จ่าย เงินต้น ของหนี้ที่กู้มาเหรอครับแล้วยังงี้เมื่อไหร่ หนี้จะหมดครับ
หรือว่า เค้าบันทึกการจ่าย ต้น ของหนี้ ไว้ที่ SG&A ครับ
อีกคำถามนึงก็คือ อะไรเป็นเกณฑ์บันทึกค่าใช่จ่ายใน income statement ครับ
สมมุติ ว่า ในปี 2006 บริษัทซื้อตึกใหม่ 30 ล้าน รายจ่ายส่วนนี้ ต้องบันทึกใน income statement มั้ยครับ
- pongo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1075
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement
โพสต์ที่ 4
[quote="อีกคำถามนึงก็คือ อะไรเป็นเกณฑ์บันทึกค่าใช่จ่ายใน income statement ครับ
สมมุติ ว่า ในปี 2006 บริษัทซื้อตึกใหม่ 30 ล้าน รายจ่ายส่วนนี้ ต้องบันทึกใน income statement มั้ยครับ [/quote]
เรื่องเกณฑ์นี่ ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะเรียนมาทางการเงิน พอเรียนไปนานๆ มันเลยจำได้เองว่ารายการไหนอยู่ในงบอะไร รอท่านอื่นมาตอบดีก่าครับ
ขอตอบส่วนที่ซื้อตึก 30 ล้านล่ะกัน คือ ถ้าสินทรัพย์ใดที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกิจการได้เป็นเวลาหลายๆ ปี เราจะตัดต้นทุนที่เราได้สินทรัพย์นั้นๆ เป็นค่าใช้จ่ายตามอายุของสินทรัพย์ เรียกว่า ตัดค่าเสื่อมราคา โดยทางบัญชีจะมีหลักอยู่ว่าสินทรัพย์ประเภทใดจะตัดค่าเสิ่อมราคากี่ปี
ซึ่งค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี จะเป็นค่าใช้จ่ายที่บันทึกในงบกำไรขาดทุนครับ
เช่น ตึกราคา 30 ล้าน อายุการใช้งานทางบัญชี 20 ปี ก็จะตัดค่าเสื่อมราคาปีละ 30/20 = 1.5 ล้านต่อปี (กรณีคิดค่าเสื่อมแบบเส้นตรงนะครับ ซึ่งจริงๆ ยังมีวิธีคิดแบบอื่นอีก) พอขึ้นปีถัดไป มูลค่าทางบัญชีสุทธิ ของตึกที่ซื้อมา 30 ล้านนั้น ก็จะเหลือเท่ากับ 28.5 ล้าน
เหตุผล ที่ต้องทยอยตัดค่าเสื่อม เพราะสินทรัพย์นั้นไม่ได้สร้างรายได้ได้แค่ปีเดียว ดังนั้นค่าใช้จ่ายก็ไม่ควรจะเกิด ตูมเดียว ปีเดียว เช่นกัน
แต่ในงบกระแสเงินสดจะปรากฎรายการ ซื้อตึก 30 ล้าน ทั้งจำนวนในปีที่ซื้อเลย อยู่ในส่วนของการกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
เอาคร่าวๆ เท่านี้ล่ะกันนะครับ สงสัยตรงไหน จะตอบเพิ่มเติมเท่าที่ตอบได้ครับ
สมมุติ ว่า ในปี 2006 บริษัทซื้อตึกใหม่ 30 ล้าน รายจ่ายส่วนนี้ ต้องบันทึกใน income statement มั้ยครับ [/quote]
เรื่องเกณฑ์นี่ ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะเรียนมาทางการเงิน พอเรียนไปนานๆ มันเลยจำได้เองว่ารายการไหนอยู่ในงบอะไร รอท่านอื่นมาตอบดีก่าครับ
ขอตอบส่วนที่ซื้อตึก 30 ล้านล่ะกัน คือ ถ้าสินทรัพย์ใดที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกิจการได้เป็นเวลาหลายๆ ปี เราจะตัดต้นทุนที่เราได้สินทรัพย์นั้นๆ เป็นค่าใช้จ่ายตามอายุของสินทรัพย์ เรียกว่า ตัดค่าเสื่อมราคา โดยทางบัญชีจะมีหลักอยู่ว่าสินทรัพย์ประเภทใดจะตัดค่าเสิ่อมราคากี่ปี
ซึ่งค่าเสื่อมราคาในแต่ละปี จะเป็นค่าใช้จ่ายที่บันทึกในงบกำไรขาดทุนครับ
เช่น ตึกราคา 30 ล้าน อายุการใช้งานทางบัญชี 20 ปี ก็จะตัดค่าเสื่อมราคาปีละ 30/20 = 1.5 ล้านต่อปี (กรณีคิดค่าเสื่อมแบบเส้นตรงนะครับ ซึ่งจริงๆ ยังมีวิธีคิดแบบอื่นอีก) พอขึ้นปีถัดไป มูลค่าทางบัญชีสุทธิ ของตึกที่ซื้อมา 30 ล้านนั้น ก็จะเหลือเท่ากับ 28.5 ล้าน
เหตุผล ที่ต้องทยอยตัดค่าเสื่อม เพราะสินทรัพย์นั้นไม่ได้สร้างรายได้ได้แค่ปีเดียว ดังนั้นค่าใช้จ่ายก็ไม่ควรจะเกิด ตูมเดียว ปีเดียว เช่นกัน
แต่ในงบกระแสเงินสดจะปรากฎรายการ ซื้อตึก 30 ล้าน ทั้งจำนวนในปีที่ซื้อเลย อยู่ในส่วนของการกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
เอาคร่าวๆ เท่านี้ล่ะกันนะครับ สงสัยตรงไหน จะตอบเพิ่มเติมเท่าที่ตอบได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 5
ยังไม่เข้าใจครับ ช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยได้มั้ยครับ ผมไม่เคยเรียนบัญชีครับจ่ายต้น
Cr.เงินสด Dr.หนี้สิน
ก็จะอยู่ในแค่ B/S ครับ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ปีนี้บริษัทจ่ายต้นไปเท่าไหร่ อ่านเอาจากหมายเหตุ เหรอครับ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 6
ที่ผมถามเพื่อนที่เป็น audit มานะครับ ก็คือมันไม่เกี่ยวกับ income statement เลยครับ จะเกี่ยวกับ ช่อง balance sheet เท่านั้น เวลาจ่ายคืน ก็ ทำ balance Cash กับ ตัวหนี้สินเท่านั้น ก็ลดลงทั้ง 2 อย่าง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ตัว Income Statement นะครับ
PS. ใครช่วยยืนยันให้ด้วยนะครับว่าผมเข้าใจถูกไหม :oops: :oops:
PS. ใครช่วยยืนยันให้ด้วยนะครับว่าผมเข้าใจถูกไหม :oops: :oops:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 7
งบดุล เป็นงบที่แสดงฐานะทางการเงินของบริษัท กล่าวคือ แสดงว่าบริษัทมีสินทรัพย์อะไรบ้างมูลค่าเท่าไร อีกส่วนหนึ่งก็จะบ่งบอกว่าเงินทุนที่นำมาซื้อสินทรัพย์นั้นมาจาก หนี้สิน และส่วนของเจ้าของเท่าไร
งบกำไรขาดทุน เป็นงบที่แสดงผลการดำเนินงานในรอบบัญชีนั้น กล่าวคือ จะแสดงรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรอบบัญชีนั้นๆ
ทีนี้มาถึงเรื่องการกู้ยืมเงิน
เวลาเราเบิกยืมเงินมาซื้อเครื่องจักร แสดงว่าเราเป็นหนี้เพิ่ม และมีสินทรัพย์เป็นเครื่องจักรเพิ่ม ซึ่งจะกระทบในงบดุลเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน เพราะเงินกู้ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
ระหว่างปี เราต้องชำระดอกเบี้ยและเงินกู้ ในส่วนดอกเบี้ยนั้นเป็ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงิน ดังนั้นจำนวนดอกเบี้ยก็จะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน
ส่วนการคืนเงินกู้นั้น เราก็จะมีเงินสดลดลงเพราะชำระดอกเบี้ย ในขณะที่จำนวนหนี้สินก็จะลดลง ซึ่งจะกระทบในงบดุล
พอไหวไหมครับ
งบกำไรขาดทุน เป็นงบที่แสดงผลการดำเนินงานในรอบบัญชีนั้น กล่าวคือ จะแสดงรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรอบบัญชีนั้นๆ
ทีนี้มาถึงเรื่องการกู้ยืมเงิน
เวลาเราเบิกยืมเงินมาซื้อเครื่องจักร แสดงว่าเราเป็นหนี้เพิ่ม และมีสินทรัพย์เป็นเครื่องจักรเพิ่ม ซึ่งจะกระทบในงบดุลเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน เพราะเงินกู้ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย
ระหว่างปี เราต้องชำระดอกเบี้ยและเงินกู้ ในส่วนดอกเบี้ยนั้นเป็ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกู้ยืมเงิน ดังนั้นจำนวนดอกเบี้ยก็จะถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน
ส่วนการคืนเงินกู้นั้น เราก็จะมีเงินสดลดลงเพราะชำระดอกเบี้ย ในขณะที่จำนวนหนี้สินก็จะลดลง ซึ่งจะกระทบในงบดุล
พอไหวไหมครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 8
แอบมาเสริมคะ
ในส่วนของงบดุล นอกจากดูว่าบริษัทมีหนี้สินเท่าไหร่แล้ว ควรดูด้วยว่าเป็นหนี้ทางการค้า (account payable, trade payable) เป็นหนี้ระยะสั่นพวกเงินทุนหมุนเวียน (note payable, short term liabilities) และเป็นหนี้ระยะยาวเท่าไหร่
ถ้าบริษัทมีหนี้ระยะสั้นในสัดส่วนที่มาก หมายความว่าถ้าเศรษฐกิจ หรือธุรกิจมีปัญหา เจ้าหนี้จะสามารถเรียกชำระหนี้คืนได้เร็ว หรือทันที ทำให้บริษัทอาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องได้ แต่ทั้งนี้ ต้องดูเทียบกับทรัพย์สินอื่นๆด้วยคะ
ในส่วนของงบดุล นอกจากดูว่าบริษัทมีหนี้สินเท่าไหร่แล้ว ควรดูด้วยว่าเป็นหนี้ทางการค้า (account payable, trade payable) เป็นหนี้ระยะสั่นพวกเงินทุนหมุนเวียน (note payable, short term liabilities) และเป็นหนี้ระยะยาวเท่าไหร่
ถ้าบริษัทมีหนี้ระยะสั้นในสัดส่วนที่มาก หมายความว่าถ้าเศรษฐกิจ หรือธุรกิจมีปัญหา เจ้าหนี้จะสามารถเรียกชำระหนี้คืนได้เร็ว หรือทันที ทำให้บริษัทอาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องได้ แต่ทั้งนี้ ต้องดูเทียบกับทรัพย์สินอื่นๆด้วยคะ
just one life, use it!
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำชี้แนะเกี่ยวกับ interest expense ใน income statement หน่
โพสต์ที่ 10
พอจะเริ่มเข้าใจแล้วครับ
แล้วพวก deferred tax กับ deferred tax asset ล่ะครับ มันคืออะไร ผมอ่านในหนังสือ เหมือนกับว่ามันเกิดเนื่องจาก ช่องว่างการคำนวนค่า tax บริษัทกับ
เจ้าหน้าที่ แล้ว ผมนึกภาพไม่ออก ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
อีกอย่าง สมมุติ ว่า เราหักค่าเสื่อมจนหมดแล้ว (มูลค่าทางบัญชีเป็น 0) แต่ของมันยังใช้ได้อยู่ แถมถ้าขายก็ยังพอได้ราคา ในกรณี ยังงี้ ใน balance sheet กับ income statement จะเป็นอย่างไรครับ
แล้วพวก deferred tax กับ deferred tax asset ล่ะครับ มันคืออะไร ผมอ่านในหนังสือ เหมือนกับว่ามันเกิดเนื่องจาก ช่องว่างการคำนวนค่า tax บริษัทกับ
เจ้าหน้าที่ แล้ว ผมนึกภาพไม่ออก ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
อีกอย่าง สมมุติ ว่า เราหักค่าเสื่อมจนหมดแล้ว (มูลค่าทางบัญชีเป็น 0) แต่ของมันยังใช้ได้อยู่ แถมถ้าขายก็ยังพอได้ราคา ในกรณี ยังงี้ ใน balance sheet กับ income statement จะเป็นอย่างไรครับ