หุ้นดีแต่ละแบบ สำหรับมือใหม่ หัดดูงบการเงิน

[Jeng]

AAA ขยายงานได้ไม่ต้องเพิ่มทุน ไมมีหนี้หรือมีเล็กน้อย มีปันผล

AA ขยายงานได้ไม่ต้องเพิ่มทุน มีหนี้พอควร มีหรือไม่มีปันผล

A ขยายงานได้ต้องเพิ่มทุน มีหนี้พอควร มีหรือไม่มีปันผล

B ขยายงานไม่ได้ ไม่มีหนี้ มีปันผลมาก

C ขยายงานไม่ได้ มีหนี้พอควรถึงมาก มีหรือไม่มีปันผล

F ขาดทุนต่อเนื่องยาวนาน ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ หนี้มาก ไม่มีปันผล

ใครคิดว่าควรปรับแต่งหุ้น เหล่านี้ อย่างไร หรือเพิ่มเติมอย่างไร ช่วยกันคิดหน่อยละกัน ว่าในตลาด มีหุ้นใหญ่ๆ ประมาณกี่แบบ

และเราควรเกียวข้องกับหุ้นแบบไหน

[Jeng]

ยกตัวอย่าง bigc

รายได้รวม  65,700.13  59,578.09  52,749.68  47,016.87  42,072.48  

ขยายงานได้ไม่ต้องเพิ่มทุน

ไม่มีหนี้หรือมีหนี้เล็กน้อย คือมีหนี้ คือ 745 ล้าน

อย่างไรก็ตาม พักหลัง bigc มีเจ้าหนี้การค้าสูงถึง 10461 แต่มีสินค้าไว้ขายเพียง 4822

มีปันผล

โค้ด: เลือกทั้งหมด

BIGC : Dividend Payment 
Payment Date Dividend (Baht) Board Date Remark 
26/05/2006  1.56  07/04/2006    
27/05/2005  1.14  12/04/2005    
26/05/2004  0.84  05/04/2004    
23/05/2003  0.45  30/04/2003 

หมายเหตุ ผมยังคงคิดว่า bigc ที่ราคาปัจจุบัน 45.75 pe 17.27 ( 36663/2123 )

ยังเป็นราคาที่สูงอยู่ เพราะ bigc ยังขยายงานอยู่

คือ bigc ตัดค่าเสื่อม 1957 ล้านแต่ขยายสาขา ไปอีก 3751 ล้าน

ผมเดาว่า bigc คิดว่า ถ้าตัวเองไม่ขยายงาน อาจจะ แพ้ โลตัสได้ ต้องรีบขยาย เพื่อ ให้ต้นทุนต่ำสุดๆๆ

[Jeng]

ถ้า bigc หยุดขยาย อะไรจะเกิดขึ้น ( ในความเป็นจริง หยุดไม่ได้นะครับ ตอนนี้ )

bigc ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน เช่าล้วนๆ มี สาขาต่างๆ มูลค่า 21915 สมมุติว่าตัดค่าเสื่อมหมดใน 10 ปี

เงินก้อนนี้ก็ต้องกลับมาเป็นเงินสดในกระเป่า 21915 หรือตัดปีละประมาณ 2191.5 ต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกะที่ตัดไว้ ปีที่แล้ว 1957 ล้าน

แต่ละปี มีกำไร สมมุติว่าไม่ได้โตขึ้น ( ซึ่งจริงๆต้องโตขึ้น )

คือกำไรปีละ 2123 ล้าน

นั่นหมายถึง 10 ปี ได้มา 21230 ล้าน รวมเงินสดจากการตัดค่าเสื่อมอีก 21915 ล้าน

เท่ากับ 43145 ล้าน ในขณะที่ market cap 36663 ล้าน

ถ้ามองแบบนี้ bigc ก็ไม่แพงอะไรมาก ซื้อแล้วทิ้งไว้ 10 ปี คืนทุนหมด ไม่ใช่ pe 17

เพราะ bigc ขยายงานมาก ก็เลยกลายเป็นบริษัทที่เอากำไร ไปซ่อนอยู่ในรายจ่าย ก็คือการสร้างสาขาใหม่

แต่สำหรับผมแล้ว แพงอยู่ดีที่ราคานี้

[bandi]

งงๆครับ  อธิบายว่าไม่แพง

แต่สรุปว่าแพง

[Jeng]

ที่ว่าไม่แพงเพราะว่า bigc ยังโตต่อได้ครับ

10 ปีคืนทุน เมื่อ bigc โตต่อได้ ก็ต้องน้อกว่า 10 ปีคืนทุน

ก็เลยว่าไม่แพง

ที่ผมว่า แพง เพราะในส่วนตัวของผม หาหุ้นที่ ราคาตลาด ได้ผลตอบแทน ดีกว่า bigc น่าจะยังพอมี

ผมก็เลยว่าแพงครับ

แพงในมุมส่วนตัว

แต่ในมุมกว้างๆ แล้ว ไม่แพง

อืม

[ปรัชญา]

งงๆครับ  อธิบายว่าไม่แพง

แต่สรุปว่าแพง

แปลไทยแบบงง  งง

ถูกสำหรับคนถือ10ปีมั่ง  ที่คุณเจ๋งคิด

แพงเพราะถ้าอยากขายในปีนี้
ไม่รู้ว่าถูกเปล่า


เจ้าหนี้มากมาย  ก็ไปเซ็นต์สินค้าเขามาวางขาย

เอ๋  งงเหมือนกัน

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เจ้าหนี้มากมาย  ก็ไปเซ็นต์สินค้าเขามาวางขาย 

เอ๋  งงเหมือนกัน

ปกติ bigc ไปเซ็นต์สินค้า เขามาวางขาย และ เอาค่าเสื่อม เป็นเงินสดไปสร้างสาขา

แต่งบครั้งนี้กลายเป็น เอาสินค้าที่วางขาย ติดไว้ก่อน แล้วเอาเงินไปสร้างสาขา

อิอิ

แต่ไม่หนักหนาอะไร เพราะเค๊าใหญ่ขึ้นมามากเลยครับ ติดนิดติดหน่อย คงไม่เป็นไร

[007-s]

คือ bigc ตัดค่าเสื่อม 1957 ล้านแต่ขยายสาขา ไปอีก 3751 ล้าน

bigc มีเจ้าหนี้การค้าสูงถึง 10461 แต่มีสินค้าไว้ขายเพียง 4822

อ๋อ คือตังค์ค่าเสื่อมไม่พอค่าขยายสาขา ดึงตังค์ค่าของต๊ะยืดตึ๋งหนืดไว้ก่อน เอามาช่วยค่าขยายสาขา

เพราะ bigc ขยายงานมาก ก็เลยกลายเป็นบริษัทที่เอากำไร ไปซ่อนอยู่ในรายจ่าย ก็คือการสร้างสาขาใหม่

ตังค์สดไม่ค่อยเห็นกองเป็นพูนๆ แต่เห็นเป็นอณาจักรที่ขอบรั้วกว้างขวางขึ้น


งี้ป่าวค่ะ

[kevinbig]

ธุรกิจน่าสนใจมาก แนวโน้มดี เติบโตดี มั่งคง ผลประกอบการผลการดำเนินงานก็ดี แต่ราคาหุ้นยังถือว่าแพงอยู่ อย่างที่คุณ Jeng บอก ยังมีหุ้นตัวอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า

[chatchai]

บริษัทเติบโต  โดยต้องเพิ่มทุนหรือไม่  คงต้องพิจารณาด้วยว่าอัตราการเติบโตเท่าไร

ถ้าบริษัทที่เติบโตน้อย  ก็อาจจะใช้ลงทุนขยายงานน้อย เช่น MAKRO  BIGC

ถ้าบริษัทที่เติบโตมาก  ก็อาจจะใช้เงินลงทุนขยายงานมาก  จนเงินสดไม่พอ  จึงต้องเพิ่มทุน เช่น IT  HMPRO CAWOW

การขยายการลงทุนอย่างรวดเร็ว  ถ้าสำเร็จก็พูดได้ว่าเป็นเบอร์ 1  แต่ถ้าผิดพลาดก็อาจถึงสาหัสได้  ในอดีตก็มีหลายบริษัทให้เห็น

ส่วนตัว  ผมชอบประเภท  เติบโตปานกลาง  โดยใช้เงินลงทุนน้อยถึงน้อยมาก  ยิ่งไม่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยิ่งดี  กลับตัวง่าย

[bandi]

แล้วพี่เจ๋งให้ BIGC จัดอยู่ที่กลุ่มไหนครับ

ส่วนตัว  ผมชอบประเภท  เติบโตปานกลาง  โดยใช้เงินลงทุนน้อยถึงน้อยมาก  ยิ่งไม่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ถาวรยิ่งดี  กลับตัวง่าย

เพื่อให้เห็นภาพพี่ฉัตรชัยช่วยยกตัวอย่างสัก 2 - 3 ตัว ได้ไหมครับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แล้วพี่เจ๋งให้ BIGC จัดอยู่ที่กลุ่มไหนครับ 

BigC เป็น หุ้น D forerver

รอราคาอย่างเดียว

[คนเรือ VI]

พี่เจ๋งกำลังเสนออัตราส่วน P/FCF หรือเปล่าครับ

ในความเป็นจริงอัตราส่วนนี้บอกอะไรเราได้มั่งครับพี่เจ๋ง อธิบายทีครับ

[Jeng]

P/FCF คงต้องคุณฉัตรชัยมั๊งครับ พี่ไม่ค่อยถนัดครับ

คนเรือ VI

[คนเรือ VI]

เพราะ bigc ขยายงานมาก ก็เลยกลายเป็นบริษัทที่เอากำไร ไปซ่อนอยู่ในรายจ่าย ก็คือการสร้างสาขาใหม่  


ตังค์สดไม่ค่อยเห็นกองเป็นพูนๆ แต่เห็นเป็นอณาจักรที่ขอบรั้วกว้างขวางขึ้น

ก็ที่พี่เจ๋งว่ามันไม่แพงไงครับ ได้เงินสดกลับมาใน 10 ปีทั้งๆที่ PE 17เท่า
เมื่อหยุดขยายจะมีเงินสดท่วมบริษัทและจะกลายเป็น cash cow จ่ายเงินปันผลเยอะๆ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ก็ที่พี่เจ๋งว่ามันไม่แพงไงครับ ได้เงินสดกลับมาใน 10 ปีทั้งๆที่ PE 17เท่า 
เมื่อหยุดขยายจะมีเงินสดท่วมบริษัทและจะกลายเป็น cash cow จ่ายเงินปันผลเยอะๆ

ครับๆ จริงๆ แล้ว bigc ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ

กิจการอะไร กำไรสะสมเพียง 3900 ล้าน

แต่มีสาขามูลค่าหลายหมื่นล้าน ที่ยังเหลือเป็นค่าเสื่อมให้ตัดสูงถึง 2 หมื่นกว่าล้าน

แปลกดีไหมหละ

[Jeng]

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของคุณฉัตรชัยเรื่องกระแสเงินสด คือมีเงินสดกลับมาเท่าราคาหุ้นใน 3 ปีนะครับ

และถ้ามองเงินสด tmw ไปดูซิคนเรือ vi เงินสดจะกลับมาเท่าราคาหุ้นในกี่ปี

ดีกว่า bigc เยอะครับ

[miracle]

ในตลาดมีตั้งสามตัว ทำไมเจาะจงกับBIGCอย่างเดียว
แล้วตัวอื่นทำไมไม่มาเปรียบเทียบด้วยล่ะ

การเรียนรู้ของคนเราเกิดจากการเปรียบเทียบไม่ใช่เจาะลึกลงตัวเดียว ถ้าเจาะตัวเดียวนั้นคือขั้นตอนถัดไปหลังจากเปรียบเทียบเสร็จแล้ว บ้างที่อาจจะได้จากตอนเปรียบเทียบเลยก็ได้

ชีวิตจริง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเปรียบเทียบกับความรู้เดิม เมื่อเกิดความรู้ใหม่เข้ามา จะได้ไม่ต้องเสียเวลา

[Jeng]

เห็นด้วยครับ ว่าควรเปรียบเทียบหลายๆตัว พอดีนึกถึง bigc ออก ก็เลยยกขึ้นมาไม่มีอะไรครับ

[Jeng]

ว่าแต่น้อง miracle มีตัวไหนอีกสองตัวครับ

และหวังว่า จะมีคนมาบอกอีกว่า ทำไมต้องเปรียบเทียบ 3 ตัว

555 ทำไมไม่เปรียบเทียบ 5 ตัว

อิอิ

[miracle]

สามตัวนี้เป็นสามตัวใหญ่สุดในพวกค้าปลีก
สองตัวแรกหนึ่งในนั้นพี่เจ๋งก็บอกไปแล้ว
อีกตัวไม่น่าจะบอกก็รู้กันอยู่ว่าค้าปลีกขนาดใหญ่ในตลาดเหลือตัวไหน ที่นอกจากBIGC

อีกตัวเป็นตัวร้านสะดวกซื้อ ขนาด 1 -3 คูหา คนไทยรู้จักดีอีกต่างหาก

ในตลาดมีแค่นี้ก็เปรียบเทียบแค่นี้

ตามผู้ที่เชียวชาญในทางด้านการลงทุนVI ไม่เอาเบอร์อื่นนอกจากเบอร์ 1 เท่านั้น แต่เมืองไทยตัวเลือกมันน้อย
แต่หลักทางการตลาดตัวที่น่าดูในการทำตลาดคือเบอร์สองเพราะเบอร์ 2 จะไล่ตามเบอร์1อย่างไง และเบอร์2 จะป้องกันเบอร์ 3 อย่างไงไม่ให้แซงหน้า

[miracle]

เอาเฉพาะค้าปลีกน่าครับ
และไม่เอาพวกที่เกี่ยวกับค้าปลีกพวกITก็ไม่ได้
พวกสินค้าที่เกี่ยวกับค้าปลีกตกแต่งบ้านก็ไม่เอาน่า
เพราะเจ้าของกระทู้ยกตัวอย่างBIGC
มันจะเปรียบเทียบในเชิงการแข่งขันที่สะท้อนกำไรให้แก่ผู้ลงทุนไม่ได้

สิ่งที่ควรจะหาคือมูลค่าที่ซ่อนจากปากต่อปาก
จากคำนินทาของคู่แข่งธุรกิจเดียวกันจะดีที่สุด
เพราะข้อมูลจะได้เปรียบเทียบไปในตัว

[path2544]

ไม่ได้มาป่วนนะครับ แต่ผมว่าจริงๆๆ ผมว่ามันอยู่มีหลายปัจจัยมากครับ

และสิ่งสำคัญคือบรัษัทนั้นอยู่ในอตุสาหกรรมอะไร วัฎจักรธุรกิจอยู่ในช่วงไหน
ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันมากน้อยแค่ไหน และตำแหน่งของบริษัทอยู่ในตำแหน่งไหน

หลายปัจจัยมากจริงๆๆ ครับ

[metro]

ชอบกระทุ้นี้ครับพี่เจ๋ง ...

ชอบเรื่องเอาค่าเสื่อมไปตัดกำไร แต่จิงๆแล้วมีเงินสดเข้ามือ

สงสัยต้องหัดอ่านงบแบบพี่เจ๋งบ้างครับ

[contrarian]

AAA ขยายงานได้ไม่ต้องเพิ่มทุน ไมมีหนี้หรือมีเล็กน้อย มีปันผล

ที่ผมถืออยู่ ปันผลสูงใช้ได้เลยครับ
ไม่มีหนี้หรือมีเล็กน้อย ใช่เลยครับ

ขยายงานนี่ ใช่หมายถึงรายได้หรือเปล่าครับ แล้วจะต้อง ขยายตัวติดต่อกันกี่ปี หรือกี่ไตรมาสครับ

แต่ผมชอบ AA+ ขยายงานได้ไม่ต้องเพิ่มทุน ไมมีหนี้หรือมีเล็กน้อย มีหรือไม่มีปันผล   เพราะรู้สึกพวกนี้จะให้ GAIN มากกว่า ถ้าขยายตัวได้ดี

[pegaxus]

หลังจากที่ ดร. พูดถึงหุ้นค้าปลีกเมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลังจากนั้นหุ้นกลุ่มนี้ PE ก็สูงตลอด

[Kuruni]

พูดถึงเงินสดแล้วอย่างบางบริษัท งบรวมเงินสดเยอะ แต่งบเฉพาะเงินสดลดไปมาก ควรดูอันไหนดีครับพี่ (ที่ผมพูดถึงไม่ใช่ค้าปลีกนะครับ) ขอบคุณครับ